วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 893 ความลับของหน้ากากคนคู่


ตอนที่  893  ความลับของหน้ากากคนคู่
ในที่สุดขุนพลเทพธิดาวายุได้รับความช่วยเหลือจากเย่ว์หยาง เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยังคงช่วยระเบิดพลังโจมตีวาฬภูเขาไฟที่ได้รับบาดแผลบาดเจ็บหนัก

วาฬภูเขาไฟยอมตายดีกว่ายอมแพ้
อย่างไรก็ตาม ยังเป็นเรื่องลำบากกับการโจมตีมันให้ตายในรวดเดียว  ขุนพลเทพธิดาวายุต้องใช้พลังน้ำแข็งไปมากมายเพื่อจัดการกับเจ้าปลาเค็มตัวเดียว  และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือกฎสวรรค์น้อยและกล่องแพนดอราที่บรรจุพลังเทพวิบัติไว้ซึ่งเป็นพลังโจมตีทวีคูณ  วาฬภูเขาไฟไม่สามารถเอาตัวรอดได้ ไม่สามารถตายได้ มันถูกใช้เป็นเครื่องทดลองวิธีการทรมานต่างๆ ของเย่ว์หยาง ในที่สุดหลังจากพบเห็นว่าฮุยไท่หลางกลืนกินอสูรเลเวียธานลงท้องไปทั้งตัว  ดูเหมือนว่ามันอาจจะต้องโดนกินเป็นลำดับถัดไป  มันรีบก้มหัวยอมรับความพ่ายแพ้ต่อขุนพลเทพธิดาวายุ
เสี่ยวเหวินหลีไล่ติดตามเหยี่ยวเพลิง มันไวกว่าขุนพลเทพธิดาวายุมาก
ด้วยพลังปัญญาระดับสูงของเหยี่ยวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ มันรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนีได้พ้น
ภายใต้ทักษะแฝงเร้นพันธนาการของเสี่ยวเหวินหลี มักถูกโจมตีหลายครั้งและไม่มีทางตอบโต้กลับ
ภูตฟ้าปั่นป่วนกระตือรือร้นจะสูบพลังงานไฟ  กาเพลิงทั้งสองเต็มใจยอมแพ้ แต่นางไม่สนใจมัน นางฆ่าเกรมลินภูเขาไฟตามรายทางทั้งหมด และไล่ล่าพวกมันลงทะเลเพลิงเตรียมฆ่าอีกาอัคคีปีศาจ   กาอัคคีปีศาจเหมือนกับปลาที่ได้น้ำ เพราะภูตฟ้าปั่นป่วนมัวแต่จับเกรมลินภูเขาไฟฆ่าทำให้เสียเวลา กาทั้งสองตัวกลัว พวกมันไม่ได้รับประกันว่าจะรอดชีวิต
กาไฟทั้งสองบินวนแต่ไกล พวกมันหนีไปทางเย่ว์หยางเพื่อหาความปลอดภัย
เมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้อย่างภูตฟ้าปั่นป่วน  ถ้าพวกมันไม่ยอมสยบ
ผลมีเพียงประการเดียว
นั่นคือถูกกินทั้งเป็น
 “น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้รับข่าวสารมากนัก”  สิ่งที่เย่ว์หยางต้องการที่สุดไม่ใช่อสูรปราณฟ้า แต่เป็นความลับเกี่ยวกับสมบัติศักดิ์สิทธิ์ทั้งหก และอักขระรูนโบราณที่ดียิ่งกว่า
 “ใจเย็นเถอะ บางทีหลังจากเข้าแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ เราอาจเปิดประตูความลับยุคโบราณก็ได้”  เสวี่ยอู๋เสียปลอบโยนเย่ว์หยางอย่างอ่อนโยน
 “จะจัดการกับอสูรเหล่านี้ยังไง?”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยกปัญหานี้ขึ้นถาม เหมือนกับว่าปล่อยเสือขึ้นภูเขา เย่ว์หยางคงไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน ปัญหาก็คือวาฬภูเขาไฟ ปลาไหลมังกร เหยี่ยวเพลิงและกาอัคคีปีศาจ ไม่เพียงแต่เป็นอสูรที่มีระดับสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นอสูรเต็มวัย มีคุณค่ากับการฝึกแค่เพียงเล็กน้อย ที่สำคัญ ไม่ใช่ว่าอสูรทุกตัวที่มีปัญญา ในหุบเขาอสูร การได้ผ่านประตูหวนกำเนิดนับว่าเป็นเรื่องโชคดี
สำหรับเย่ว์หยางอสูรเหล่านี้ยังถือว่าไม่เลว และพวกมันคุ้นกับการอยู่ด้วยกัน  หลังจากเทียบดูแล้วศักยภาพของพวกมันยังด้อยกว่าฮุยไท่หลางและภูตฟ้าปั่นป่วน
เย่ว์หยางไม่ชอบอสูรที่มีข้อดีและข้อเสียปรากฎชัดเจนเกินไป
มันมีแต่เพียงขนาดร่างกายที่มหึมาซึ่งทำให้เขาไม่สนใจจะฝึกมัน
อสูรที่ยอมแพ้เหล่านี้อย่างเช่นวาฬภูเขาไฟและและปลาไหลมังกรไฟเป็นอสูรที่มีขนาดร่างกายใหญ่โตมหึมาทั้งหมด
เรื่องฝึกพวกมันยังไม่ต้องพูดถึง ถ้าเขานำพวกมันออกไปด้วยและปล่อยพวกมันไว้ในทวีปมังกรทะยาน  นั่นจะเป็นปัญหาที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้า  อสูรเหล่านี้ทั้งทรงพลังและมีขนาดมหึมา  ถ้าเขาปล่อยให้มันเที่ยวไปมาในทวีปมังกรทะยาน ผลก็คือจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นในหลายที่
ดังนั้นแม้ว่าเขาจะพาพวกมันออกไปด้วย เขาคงไม่ปล่อยพวกมันไว้ในทวีปมังกรทะยาน
ถ้าเขาเอาพวกมันไปปล่อยในแดนสวรรค์  คงมีสักวันที่พวกมันอาจจะหนีหาย
นั่นก็คงไม่ดีนัก
หลังจากไตร่ตรองแล้ว เย่ว์หยางจัดเจ้าพวกนี้ไว้ในฐานะเป็นอสูรที่เป็นผลเก็บเกี่ยวโดยบังเอิญ ในหอทงเทียนชั้นที่หก ป้อมสายฟ้าเป็นสถานที่มีทะเลสาบลาวา ถือว่าเป็นสวรรค์ให้พวกมันได้ใช้ชีวิต
 “เจ้าตัวนี้มันใหญ่โตน่ากลัวจริงๆ!  อย่างไรก็ตามมันมีศักดิ์ศรีเป็นอสูรปราณฟ้าระดับหก และมีขนาดใหญ่โตมหึมา  พอถูกนำออกมาสู่สาธารณชน มันเป็นอสูรชั้นหนึ่ง”  สำหรับเรื่องน่าทึ่งประหลาดใจของเย่ว์หยาง ผู้แก่ผู้เฒ่าอย่างอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าและจุนอู๋โหย่วถึงกับเดินทางไปยังป้อมสายฟ้าหลังได้ทราบข่าว  ถ้าไม่ใช่เพราะเย่ว์หยาง พวกเขายังต้องการเอาวาฬภูเขาไฟซึ่งสามารถพ่นลาวาได้เป็นกิโลเมตร เอากลับไปยังทวีปมังกรทะยาน... “นายท่านช่างยิ่งใหญ่จริงๆ”  เจ้ากบจั๊ดด์ตื่นเต้นจนตัวสั่น
ในฐานะผู้รับใช้คนสนิทของเย่ว์หยาง สถานะของเขาพลอยมากขึ้นตามไปด้วย
ไม่เพียงแต่พ่อค้าที่ถามหาเท่านั้น  แม้แต่นักสู้ปราณก่อกำเนิดเมื่อเห็นเจ้ากบจั๊ดด์ก็ยังพยักให้เกียรติ
เพราะครั้งนี้เย่ว์หยางได้ผลเกี่ยวที่ดี ผู้เฒ่าหนานกง มารสัมฤทธิ์ฟ้า, จักรพรรดิมังกร, จักรพรรดิใต้พิภพและนักสู้อื่นๆ ล้วนตามมาชมดู  เมื่อพวกเขาเห็นเย่ว์หยางพิชิตวาฬภูเขาไฟขนาดตัวสองสามกิโลเมตร ทั้งยังจับเหยี่ยวเพลิงและปลาไหลมังกรไฟ มีกระทั่งกาอัคคีปีศาจที่มีพลังปราณฟ้าระดับสอง ทว่าจิตใจของมันขลาดเขลา
ในที่สุดมารสัมฤทธิ์ฟ้าใช้มุกมารฟ้าสมบัติจากคลังสมบัติวังมารฟ้า เพื่อให้มารแค้นฟ้าใช้แลกกับกาอัคคีปีศาจสองตัว
จักรพรรดิใต้พิภพมองดูน้ำลายแทบหก  เขาก็ต้องการแลกเปลี่ยนด้วยเหมือนกัน
แต่สมบัติของเขา ดวงตาใต้พิภพเป็นสมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์เพียงชิ้นเดียว และไม่มีทางด้อยกว่าสมบัติวิเศษอย่างมุกมารฟ้า  ดังนั้นเขาได้แต่มองดูมารแค้นฟ้าทำสัญญากับกาอัคคีปีศาจ  ขณะที่ปลาไหลมังกรไฟและเหยี่ยวเพลิง ไม่ใช่ว่ามันไม่มีสมอง แต่พลังของทั้งสองแข็งแกร่งเกินไป  และพวกมันยังมีสติปัญญา  เขาไม่แน่ใจว่าเขาจะพลั้งพลาดด้วยหรือเปล่า  บางทีมันอาจหักหลังและหลบหนีไป  เมื่อเขาอยากจะพูด แต่ก็พูดไม่ออก  เย่ว์หยางก็ให้ความสนใจดวงตาใต้พิภพเช่นกัน  เขาตบอกให้คำรับรองกับจักรพรรดิใต้พิภพว่าเขาจะต้องหาอสูรที่แข็งแกร่งเหมาะกับการฝึกฝนมาให้เขาแลก
จอมปีศาจและราชาปีศาจมาถึงสายกว่าคนอื่น เขาต้องการแลกเปลี่ยนกับเย่ว์หยางด้วยเช่นกัน
แต่เขาไม่ต้องการอสูรอื่น นอกจากมังกรดำ
นอกจากนี้เขายังกล่าวเสริมอีกว่าการขับขี่มังกรดำเป็นประเพณีโบราณตกทอดสืบกันมาของจอมปีศาจ  มังกรดำควบคุมได้ดีนักหรือ? เย่ว์หยางที่ได้รับขวดวิเศษแทบจะอาเจียนออกมา
 “เหตุผลเป็นเพราะการฝึกฝน ข้ายังไม่ได้ไปยังมิติพื้นที่ฝึกฝนในทันที ข้าจะเดินทางไปแดนสวรรค์อีกสองสามวันข้างหน้า  ถ้าข้าได้พบกับอสูรที่เหมาะสม ข้าจะเพิ่มความสนใจให้มากไว้ เชื่อสายตาข้าเถอะ ข้ามองไม่ผิดแน่นอน!  เย่ว์หยางคิดว่าสหายอาวุโสเหล่านี้ยังมีสมบัติวิเศษอีกมาก  เขาคงจะรีดสมบัติเหล่านี้ออกมาได้อีก
 “ยังคงต้องให้ความสำคัญกับการฝึกฝน  เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งธรรมดาที่จะพบเจอ!  ผู้เฒ่าหนานกงให้ความสำคัญตามคำแนะนำของเย่ว์หยางมากที่สุด และแนะนำเขาไม่ให้ไขว้เขว
 “นี่เป็นเรื่องปกติ  ข้าคงจะมีเวลาค้นหาดูอีกครั้ง  แต่ข้าเชื่อว่าในอีกไม่ช้าข้าคงจับอสูรที่เหมาะสมได้!  จักรพรรดิใต้พิภพมั่นใจในตัวเย่ว์หยางมาก  ถ้าเย่ว์หยางบอกเรื่องจริงกับเขา จ้าวอัคคีปีศาจนักสู้ปราณราชันย์ระดับแปดอยู่ในทะเลเพลิงที่ได้เปรียบที่มิอาจเปลี่ยนแปลงได้ ยังทำให้เขากลัวแทบตาย
 “ไม่มีใครต้องการปลาไหลมังกรไฟและเหยี่ยวเพลิงแล้วใช่ไหม?”  เย่ว์หยางเตรียมปิดการขาย
 “แข็งแกร่งมันก็ดีอยู่เหมือนกัน แต่ต้องบอกว่าสติปัญญาของมันสูงเกินไป และมันเป็นอสูรโตเต็มวัย ยากจะฝึกให้เชื่องได้จริงๆ”  จักรพรรดิมังกรบอกเย่ว์หยางว่า ถ้าไม่ต้องการทำสัญญากับมันก็ให้ฆ่าพวกมันหลีกเลี่ยงความยุ่งยาก
ปลาไหลมังกรไฟและเหยี่ยวเพลิง แม้ว่าพวกมันจะมีสติปัญญาแน่นอน  แต่ไม่มีทางเหมือนอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้ 
แน่นอนว่ามีคุณค่าในการฝึกฝนเล็กน้อย
ภูตฟ้าปั่นป่วนต้องการจะกินและสูบกินพลังของพวกมันอยู่เสมอ  แต่เย่ว์หยางไม่ให้โอกาสนาง กลับให้โอกาสสาวน้อยตั๊กแตนมัจจุราชรับพวกมันไว้ด้วยกัน  สาวน้อยตั๊กแตนมัจจุราชได้อสูรยักษ์เพิ่ม และถ้าวิวัฒนาการเป็นอสูรเทพอีก ทั้งสามร่วมมือด้วยกัน ก็คงจะมองเห็นอนาคตได้  นี่เป็นวิธีคลี่คลายที่ดีที่สุดสำหรับเย่ว์หยาง อสูรน้อยหนึ่งกับอสูรใหญ่สองตน ถ้าไม่เข้ากัน ศัตรูคงปวดหัวเป็นแน่
ฮุยไท่หลางท้องป่อง ไม่มีใครรู้ว่ามันกินอสูรเลเวียธานยักษ์ลงไปทั้งตัว
จนถึงบัดนี้มันยังคงย่อยไม่หมด
คนอื่นๆ ที่มาเยี่ยมชมอสูรที่ถูกจับได้ไม่เคยให้ความสนใจมัน
ไม่มีใครให้ความสนใจมันจนกระทั่งกลับไปยังเทียนหลัว  หนูน้อยซวงเอ๋อพบเห็นความผิดปกตินี้ก่อน
 “พี่สาม, เจ้าหมาตัวนี้กินอะไรผิดสำแดงหรือ?  ทำไมปากของมันไม่หุบเลย?”  ซวงเอ๋อใช้ปลายเท้าเขี่ยหน้าผากฮุยไท่หลาง
 “ผลของความตะกละก็เป็นอย่างนี้แหละ!  เย่ว์หยางพูด ถึงกับขู่ขวัญจนซวงเอ๋อหน้าซีด
ในบางแง่มุมเด็กหญิงน้อยก็สู้กับฮุยไท่หลางในแง่ความตะกละได้
เมื่อได้ยินว่าความตะกละทำให้เป็นอย่างนี้ จึงขู่ขวัญนางจนเม้มปากกลัวว่าปากนางจะเป็นเหมือนกับฮุยไท่หลาง  เพราะคางยาวบิดผิดรูปทำให้บางครั้งปากของมันหุบไม่สนิท
ฮุยไท่หลางเกิดอาการกรามค้าง แต่มันก็มีความภูมิใจมาก และเลเวียธานอสูรปราณฟ้าระดับสี่ ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็กินได้
ถ้ามันสามารถย่อยเลเวียธานนี้ได้หมด พลังของมันจะต้องก้าวหน้า
ปากเบี้ยวไปสองสามวันก็คงไม่เป็นไร!
 “อะไรกัน? เจ้าไม่ต้องการขนมหรือ?”  ปกติเย่ว์หยางมักจะเอาลูกอมออกมาล่อเด็กหญิงอยู่เป็นประจำ  แต่หนูน้อยกลัวเรื่องการกินมากเกินไป เธอกลัวจะไม่สามารถหุบปากได้เหมือนกับฮุยไท่หลาง จึงจำใจปฏิเสธและเกือบจะร้องไห้  ในที่สุดเสวี่ยอู๋เสียพาเธอไปหาแม่สี่และองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่รบกวนการฝึกของเย่ว์หยาง นางถือร่มชี่หลัวไปตามหาเย่ว์หวี่
 “ท่านค่อยๆ ค้นคว้าดู  ถ้าได้ผลค้นคว้า หรือความลับอะไร เราค่อยคุยกัน”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเดินออกไปอย่างแผ่วเบา นั่นทำให้นางดูดี
 “มุกมารฟ้า นั่นก็ของดี!  ดวงตาใต้พิภพก็ไม่เลวเช่นกัน ขวดที่บารุธนำมาด้วยก็มีพลังแปลกประหลาด ดูเหมือนจะเป็นของวิเศษยุคโบราณ ข้าเพิ่งลองค้นคว้าดู”  เดิมทีเย่ว์หยางต้องการค้นคว้าอักขระรูนเพลิงโบราณที่จ้าวอัคคีปีศาจวาดขึ้น แต่รอจนพวกเขากลับ และมุกมารฟ้าซึ่งใช้แลกกับกาอัคคีปีศาจ  เย่ว์หยางไม่เห็นความลับอยู่ชั่วขณะหนึ่ง  แต่พบว่าของวิเศษดวงตาใต้พิภพ สามารถติดเข้าตรงเบ้ากลางหน้าผากของหน้ากากเจมิไนหรือ?
เบ้ากลวงระหว่างหน้าผากของหน้ากากเจมิไนมีดวงตาอยู่ตรงกลางอย่างนั้นหรือ?
เพราะหน้ากากเจมิไนถูกผนึกไว้ เดิมทีเป็นแค่สมบัติวิเศษชั้นทอง
หลังจากเย่ว์หยางใช้เพลิงอมฤตชำระแล้วจึงปรากฏลักษณะใหม่ มีพัฒนาการก้าวหน้า และหน้ากากนี้ฟื้นฟูพลังได้เกือบทั้งหมด มันมีพลังด้อยกว่าสมบัติชั้นเทพเท่านั้น
การณ์กลับปรากฏว่าเย่ว์หยางคิดว่าเกิดการแตกเสียหายที่ระหว่างคิ้วที่เป็นเบ้ากลมกลวง เย่ว์หยางพยายามลองทุกอย่างแต่ไม่พบว่าจะใช้วัตถุอะไรใส่เข้าไปได้ เขาคิดว่ามีบางส่วนตรงกลางสูญหายไป มันเกิดขึ้นหลังจากจักรพรรดิใต้พิภพเอาดวงตาใต้พิภพของวิเศษเผ่าใต้พิภพออกมา เย่ว์หยางจึงพบว่าดูเหมือนจะเข้ากันได้ดี
หน้ากากเจมิไนและผนึกสุดท้ายนี้ไม่สามารถคลี่คลายได้  ดังนั้นนี่จะมีความลับชนิดใดคงอยู่?
ความจริงเป็นเช่นไรกันแน่ !-!
**************
*** เรียกหน้าเจมินี่ตามที่เคยเห็นแปลในการ์ตูนญี่ปุ่นอยู่นาน  ตอนนี้ขอเรียกเป็น “เจมิไน” ครับ

6 ความคิดเห็น:

sittichok กล่าวว่า...

ขอบคุณมากเลยนะครับ สนุกมากเลย

ulomzx กล่าวว่า...

หลอกสาวๆมาหลายตอน..ตอนนี้เย่ว์หยางเริ่มหลอกเด็กอีกแล้ว

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

zen zen กล่าวว่า...

ที่แรกก้งงกับชื่อหน้ากากเหมือนกันแต่อ่านไปอ่านมาเข่ากันเฉย

Unknown กล่าวว่า...

พี่เยว์หลอกเอาสมบัตจากคนแก่เก่งจริงๆ

Krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น