วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 897 เปิดใจจะพบความสุข


ตอนที่  897  เปิดใจจะพบความสุข
ตายเป็นตาย จะเร็วจะช้าก็ต้องลองดู นางจะต้องทุ่มเททุกอย่างในคืนนี้

เจ็บปวดยาวนาน แย่ยิ่งกว่าเจ็บปวดระยะสั้น!
จุ้ยมาวอี้หลับตาและตัดสินใจร่วมมือกับเย่ว์หยางเป็นคนแรก
หลังจากการตัดสินใจของนางครั้งนี้ นางรู้สึกผ่อนคลาย  นางไม่ได้นึกต่อต้านหรือนึกถึงความเศร้า   อารมณ์หงุดหงิดแต่เดิม ที่มีความคิดที่น่ากลัว จิตใจของนางฟื้นฟูกลับคืนสภาพปกติ  นางเพ่งสมาธิอยู่กับแผนงาน  ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตนเองดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นชีวิตคนอื่น
เมื่อใจนางมีสมาธิ นางนางรู้สึกได้ทันทีว่าเข้าสู่อาณาจักรลึกลับและประสาทหูตามีความไวขึ้น
นางเข้าถึงความรู้สึกมหัศจรรย์อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ราวกับว่านางเข้าใจหลายเรื่องในฉับพลันทันที
ขอบเขตสมองขยายออกไปอย่างไม่จำกัด
เหมือนกับว่าไม่ได้รับอะไร  แต่นางอดตะลึงมิได้
 “นี่เจ้าจะใช้กับโลหะดาวตก โลหะในตำนานและทองแดง?”  จุ้ยมาวอี้อดโพล่งออกมาไม่ได้  นางพูดไม่ออกชั่วขณะ แต่ก็ยังรู้สึกผิด
 “มีปัญหาอะไรหรือ?”  เย่ว์หยางหันกลับมามองตาจุ้ยมาวอี้  “ข้าคิดแบบนั้น  ถ้านักรบทำสัญญากับอสูรระดับปราณฟ้าขึ้นไป  อย่างนั้นก็ใช้กำไลอสูรโลหะดาวตก  ต่ำกว่าอสูรปราณฟ้าลงมาก็ใช้โลหะในตำนาน ถ้าเป็นอสูรหุ่นที่ไม่อาจยกระดับได้หรืออสูรชั้นพิเศษที่ไม่มีพลังรบ มีแต่ทักษะบางอย่างล้วนๆ  ก็จะใช้กำไลอสูรทองแดง”
 “อืม..ดีเหมือนกัน”  จุ้ยมาวอี้ฟังและคิดว่าคำพูดนี้มีเหตุผล  เป็นเย่ว์หยาง เย่ว์หวี่ อู๋เหิน อู๋เสีย โล่วฮัวและเชี่ยนเชี่ยน  พวกนางคงไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย  อย่างไรก็ตามนางมักจะรู้สึกว่านางมีบางอย่างที่ผิดปกติ
หากนางต้องการพูด แต่ไม่สามารถพูดได้
เย่ว์หยางยิ่งแปลกใจมากกว่าเดิม
จุ้ยมาวอี้นางนี้ ต้องการจะบอกอะไร?
แม้ว่านางเคยมีส่วนร่วมในการทดลองวงเวทรูน ว่ากันตามตรงในแง่นี้นางยังธรรมดาอยู่ อย่างน้อยก็ยังห่างจากเย่ว์หวี่มาก
อย่างไรก็ตามไม่ว่าแรงบันดาลใจจะมาจากใครก็ตาม  เย่ว์หยางก็ต้องการได้ยิน  บางครั้งแรงบันดาลใจที่เพิ่งผุดขึ้นมาอาจจะแรงกว่าการพยายามทำงานอย่างหนักมาถึงสองสามปี!  เย่ว์หยางไม่เคยปฏิเสธว่าคนทั่วไปจะไม่สามารถแสดงแรงบันดาลใจและเปล่งประกายความคิดที่ดีได้  เหมือนอย่างสาวน้อยเป่าเอ๋อ ปกตินางไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน หรือทำออกมาก็ไม่ได้ผลที่ดี  อย่างไรก็ตามถ้าเขาต้องการทำบางอย่างที่สำคัญมาก และให้นางทำโดยไม่รู้ตัว เย่ว์หยางกล้าพูดได้ว่านางสามารถทำอย่างจริงจังมากกว่าคนอื่นได้ถึงร้อยเท่า!
เรื่องโชคดี โชคร้าย แรงบันดาลใจ ความเข้าใจเหล่านี้ไม่อาจใช้เครื่องมือบังคับได้  ทั้งไม่ได้มาจากการทุ่มเททำงานอย่างหนัก
 “ข้าคิดว่าเหมือนกับจะเข้าใจ แต่ไม่รู้วิธีพูดออกมา  มันเป็นความรู้สึก!  จุ้ยมาวอี้ยังคงเป็นปกติ ไม่แสดงออกว่าเห็นด้วย ปล่อยให้เย่ว์หยางรู้สึกถึงสภาพใจนางเอง
ตั้งแต่อยู่ในโลกพฤกษาหญิงสาวอยู่ในเขตพลังเทพ พวกนางได้รับความสามารถอย่างเดียวกัน นั่นคือการเชื่อมโยงพลังจิตเป็นรูปเหมือนสายแพร  ทุกคนต่างกัน และมีพลังที่แตกต่าง แต่ลักษณะการทำงานทางใจเหมือนกัน  จึงทำให้ง่ายกับการใช้วิธีติดต่อทางจิต  เย่ว์หวี่และอู๋เหินหลังจากพูดคุยปรึกษาต่างเรียกความสามารถนี้ว่า ปมเชื่อมใจ
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม สามารถใช้ปมเชื่อมใจเพื่อติดต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลทางใจ
ปกติทุกคนจะคุ้นเคยกับการสื่อสารด้วยคำพูดมากกว่า
ที่สำคัญ ความลับเล็กน้อยในใจพวกนางต้องการจะรักษาเอาไว้
ตอนนี้นางมีความรู้สึกชัดเจนในใจเป็นพิเศษ แต่ไม่สามารถพูดออกมาจากปากเท่านั้น  จุ้ยมาวอี้เลือกใช้ ปมเชื่อมใจ นี้แก้ปัญหา ปล่อยให้เย่ว์หยางเข้าใจความรู้สึกในใจของนางเอง  แน่นอนว่าถ้าไม่ใช่เพราะตัดสินใจไว้ก่อนว่านางจะร่วมมือกับการค้นคว้าวิจัยและยอมทดลองร่วมกับเขา  เป็นไปไม่ได้ที่นางจะทำเช่นนั้น
รัศมีสว่างวาบ
ต่างจากเสวี่ยอู๋เสีย สายปมเชื่อมใจของจุ้ยมาวอี้มีอักษรรูนโบราณ ปมเชื่อมใจของจุ้ยมาวอี้มีลักษณะพิเศษเฉพาะตน
สายแพรพลังจิตของนางไม่ชัดเจนเหมือนกับคนอื่น  แต่เป็นประกายรัศมีระยิบระยับอย่างต่อเนื่อง ลักษณะแตกต่างจากโล่วฮัว มีลักษณะฟุ้งกระจายเรืองแสง
จุ้ยมาวอี้รู้สึกเหมือนมีรัศมีเปลวไฟอยู่เหนือตน นั่นช่วยให้นางเข้าใจวิทยายุทธการต่อสู้ได้ง่าย
สายแพรพลังจิตพันรอบนิ้วมือเย่ว์หยางอย่างเงียบงัน
และนางรู้สึกได้ทันทีว่านางเป็นคนหยิ่งทระนงและใจเด็ด  ความลับทั้งหมดดูเหมือนจะทำให้เขาดูดี  นางรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเหมือนกับยืนเปลือยกายอยู่ต่อหน้าเขา  จุ้ยมาวอี้รู้สึกอายและนางถูกมัดโยงกับปมเชื่อมใจ   หัวใจของนางเต้นแรงจนยากจะข่มใจให้สงบได้...โชคดีที่เย่ว์หยางไม่ได้สับสนกับความลับในใจนางเหมือนขโมยผู้ตัดช่องย่องเบา ไม่ได้เปิดเผยความลับในใจนาง  แต่ด้วยความรู้สึกลึกๆ แล้ว นางไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มที่
ใบหน้าของเย่ว์หยางผุดผ่องเป็นประกาย
ด้วยความรู้ที่ได้รับตกทอดและการชี้นำจากคนรุ่นก่อนผ่านโลกพฤกษา เขามีความสามารถในการรับแรงบันดาลใจและรับรู้
ใช้เวลาไม่ถึงวินาที เขาสามารถสะท้อนความรู้สึกของจุ้ยมาวอี้ได้หมดสิ้นเชิง
ยิ่งเขาสัมผัสทางใจกับนางมากขึ้น  เขาก็ยิ่งรู้มากขึ้น
ไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด
เย่ว์หยางค่อยๆ ลืมตา...จุ้ยมาวอี้เห็นแววตาของเขามีประกายศักดิ์สิทธิ์ และดูเหมือนว่ามีภูมิปัญญากระจ่างพิสุทธิ์ในใจ แค่มองจากดวงตาก็สัมผัสได้ถึงหัวใจ
 “ข้าเข้าใจแล้ว  เจ้าคิดได้ดีเลยทีเดียว!  เย่ว์หยางหัวเราะลั่นและโอบไหล่จุ้ยมาวอี้อย่างมีความสุข  ในที่สุดเขาสงบใจลงได้  “อู๋เสียเคยบอกไว้ก่อนว่า ดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดพลาดไป และนางบอกว่าเขาควรจะกลับไปทบทวนก่อน  ข้าไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยว่าเจ้าจะเป็นคนที่คาดไม่ถึงอย่างนี้  เราคิดเรื่องอสูรปราณฟ้าก่อนอสูรที่ระดับต่ำกว่าปราณฟ้า  แต่เราลืมสิ่งที่สำคัญมากไปอย่างหนึ่ง  นั่นก็คืออสูรที่มีศักยภาพ  ความจริงในวันก่อนๆ นี้เราก็คิดไว้เหมือนกัน  เพียงแต่ตอนนั้นยุ่งมาก และกำลังกังวลมากเกินไป  จริงๆ มิได้สนใจต่างหาก  ในความเป็นจริงแล้วกำไลอสูร ไม่จำเป็นต้องใช้กับเฉพาะผู้ไม่มีคัมภีร์อัญเชิญเท่านั้น  แม้แต่ผู้ครอบครองคัมภีร์อัญเชิญก็ยังสามารถใช้ได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กๆ ที่พลังป้องกันตัวยังอ่อนแอ ถ้ามีอสูรที่มีศักยภาพเติบโตไปพร้อมกัน หรือว่าได้พลังป้องกันจากอสูรที่เติบโตแล้ว อย่างนั้นจะมีพัฒนาการได้อย่างปลอดภัยมากกว่าผู้ที่ไม่มีกำไลอสูรมากนัก  หอทงเทียนของเราไม่ใช่ทวีปใหญ่โต ทวีปมังกรทะยานยิ่งมีขนาดเล็กยิ่งกว่า คนผู้มีพรสวรรค์ในแต่ละรุ่นมีไม่กี่คน  ถ้าเป็นแบบนี้ก็คงไม่มีพลังแข่งขันกับแดนสวรรค์ได้แน่  ตอนนี้เมื่อเพิ่มกำไลอสูรเข้าไป ข้าเชื่อว่าจะต้องดีแน่  ความคิดของเจ้าก็คือความเจริญเติบโตของผู้คนในอนาคต”
 “ไม่, ข้า, ข้าคิดเรื่องนั้นไว้จริงๆหรือ?”  จุ้ยมาวอี้พอถูกเขาจับมือถือแขน นางรู้สึกเขินอายเมื่อเขาชมนาง
 “นั่นคือแรงบันดาลใจของเจ้า  เจ้าคิดอย่างนั้นจริงๆ เพียงแต่เจ้าพูดถ่ายทอดออกมาไม่ได้”  เย่ว์หยางหัวเราะและเขย่าไหล่นาง  “ปกติเจ้าไม่พูดมาก ก็เลยเป็นอย่างนี้”
 “ตรงไหน ตรงไหนกัน ปกติข้าก็พูดมากอยู่แล้ว...”  จุ้ยมาวอี้รีบเถียง แต่นางได้ยินเสียงนางเบายิ่งกว่ามด และนางกลับสงสัยความอ่อนโยนของนางเอง ฯลฯ นางเป็นคนแบบนั้นหรือ?  เกิดอะไรขึ้น เป็นไปไม่ได้ที่นางจะโกรธต่อหน้าเขาหรือ? นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงมากเกินไปหรือเปล่า?
รอจนกระทั่งปมเชื่อมใจของนางเอง เชื่อมกับนิ้วของเขา
นางอดรู้สึกละอายมิได้
นางหันควับกลับไปมองเขาอย่างกังวล  เพราะกลัวว่าเขาจะหัวเราะเยาะอาการแกล้งสุภาพของนาง
คิดไม่ถึงเลยว่าเย่ว์หยางไม่เพียงแต่ไม่หัวเราะเยาะนาง แต่กลับยกย่องนางอย่างจริงจริงจัง  “เหมียวเหมียว!  ทำอย่างนี้ถูกแล้ว  เจ้าต้องเปิดใจสื่อสารกับทุกคน  ถ้าเจ้าทำตัวว่างเปล่า เจ้าจะสามารถคุยกับอู๋เหิน พี่หวี่และเชี่ยนเชี่ยนได้  พวกเขาจะพูดกับเจ้า ทุกคนใส่ใจความรู้สึกของเจ้า!
ตอนนี้จุ้ยมาวอี้ค่อยรู้ตัวว่าเขายังคงเรียกนางว่าเหมียวเหมียว นางรู้สึกเก้อเขินในใจ  “ข้า ข้าไม่ได้ชื่อเหมียวเหมียว อย่าเรียกอย่างนั้น!
 “ไม่มีใครอื่นเรียก มีแต่ข้าเรียกเจ้าว่าเหมียวเหมียวเท่านั้น  นี่คือการรับรู้ของเราแค่สองคนเท่านั้น” เย่ว์หยางโน้มตัวลงมาจูบนาง ทำให้จุ้ยมาวอี้ยืนแข็งทื่ออยู่กับที่
นี่จะปล่อยให้เจ้าเด็กนี่จูบหรือ?
และที่ริมฝีปากนี่คืออะไร... นี่คือจูบแรกหรือ?
มันเร็ว เร็วเกินไปแล้ว ยังไม่ทันแนะนำตัว ยังไม่ทันตั้งตัวเลย จูบแรกมาเร็วขนาดนี้เชียวหรือ?
เย่ว์หยางกลับหลังหันและเขาไม่เคลิบเคลิ้มไปกับจูบแรกที่งดงามนี้  ขณะที่จุ้ยมาวอี้ยืนนิ่งอึ้งอยู่เป็นเวลานาน พยายามจะดื่มด่ำกับความรู้สึกที่เพิ่งเกิดขึ้น   นางพยายามขยับลิ้นเลียริมฝีปากเพื่อตรวจสอบว่าเขายังอยู่หรือไม่ นางกลัวว่าเขาจะหันหลังกลับมาดูและทำให้หัวใจนางเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง
 “มาเถอะ”  เย่ว์หยางหันหลังกลับมาและเอื้อมมือจับไหล่ของจุ้ยมาวอี้
 “ไวเกินไปหรือเปล่า?”  จุ้ยมาวอี้สะท้านขึ้นจากความทรงจำจูบแรก  จากจูบแรกก็จะเริ่มฝึกพลังคู่รักเลยหรือ?  จะต้องเตรียมตัวก่อนหรือเปล่า ต้องทำอะไรอีก? จากนั้นเขาถอดชุดนอนด้วยหรือ? นางต้องให้ความร่วมมือกับเขาหรือไม่? ถ้าเขาจูบนางอีกเล่า? นางจะกัดเขาให้หนักเมื่อเขากลับมาหรือไม่?
ถ้านางแค่คิดว่านางจะต่อสู้เพื่อเข้าเขตแดนสวรรค์ นางควรจะให้ความร่วมมือหรือไม่
ตอนนี้นางรู้สึกว่าอยู่ในโลกภายในใจ นางกำลังคิดหาวิธีให้ความร่วมมือ
หากทำได้ไม่ดี
ถ้าให้อู๋เหินรู้ พวกเขาก็คงขายหน้ามากขึ้น  ถอดชุดนอนหลับตาและฝึกพลังคู่รักกับเย่ว์หยาง  ทันใดนั้นเย่ว์หยางสวมชุดบนร่างของนาง และดึงเข็มทิศสามพิภพออกมา  “เราต้องรีบ ข้ามีความคิดดีๆ อย่างหนึ่ง หากเราปรับได้อีกครั้ง เราจะสร้างกำไลอสูรที่มีศักยภาพและคุณภาพมากที่สุดได้  ใช้กับมณีสุริยันต์ มณีจันทรา มณีดารา  แม้ว่ามณีทั้งสามนี้จะอยู่ในระดับแรกก็ตาม แต่ก็สามารถใช้เข้ากับหยดอัคคี น้ำแข็งสุบิน บุปผาสายฟ้า และรอให้ฟ้าร้อง ฯลฯ  และยังมีแร่หายากของแดนสวรรค์ใช้เป็นส่วนประกอบร่วม สุดท้ายใช้กับอะดาเมนเทียม โลหะมิทธริล และบรอนซ์แดง  ถ้าได้สิ่งเหล่านั้นมาไว้ในมือเราจะดีที่สุด  และคนที่มีเจตนาไม่ดีไม่มีทางจะเลียนแบบได้  ยังไม่ต้องพูดถึงวงเวทรูน พวกเขาไม่สามารถทำได้ เราจะต้องรีบเพื่อให้ไม่ให้คนอื่นฉวยโอกาสทำลาย!
กลับกลายเป็นว่าเขาจะพาไปแดนสวรรค์เก็บแร่หายาก  โชคดีที่ไม่ได้ฝึกคู่รักต่อทันที
จุ้ยมาวอี้ลอบทอดถอนหายใจ
นางพยายามข่มใจไม่ให้ขำขณะที่หัวใจนางร้อนรุ่ม.. รอจนกลับไปที่เมืองลมดำ จุ้ยมาวอี้ไม่ได้ถูกพาตัวตรงไปที่คฤหาสน์เจ้าเมือง ไม่ได้ไปที่ปราสาทมรกตใหม่  แต่พานางไปที่หุบเขาเพลิงดำ
หลังจากบินเป็นเวลานานก็ยังไม่ถึงจุดหมายปลายทอง จุ้ยมาวอี้อยู่กับเขาสองต่อสองในโลกนี้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น  ตั้งแต่แรกนางบินเคียงข้างกับเขา เมื่อความเร็วตกลงนางปล่อยให้เขาฉุดดึงมือนางให้ขึ้นมาอยู่บนหลังของเขาปล่อยให้เขาพานางไปเหนือท้องฟ้าแดนสวรรค์ แม้ว่าหน้าอกนางจะกดทับแผ่นหลังแข็งของเขาแต่นางกลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก นางไม่รู้สึกอาย หากจะมีบ้างก็เพียงเล็กน้อย
เมื่อนางเช็ดเหงื่อให้เขา นางพบว่าตอนนี้นางไม่เคยพูดกับเขาอ่อนโยนนัก  “เหนื่อยไหม? เจ้าอยากจะพักบ้างหรือเปล่า?”
 “ตัวเจ้าเบากว่าแมวเสียอีก!  เย่ว์หยางหันมาพูด
 “ผู้อื่นไม่ใช่แมวสักหน่อย...”  จุ้ยมาวอี้ตอนนี้แสดงอารมณ์แง่งอนแล้ว  เมื่อพูดไปอย่างนี้นางถึงกับหลั่งเหงื่อโชก แย่แล้วอยู่กับเจ้าเด็กนี่นานวันเข้า  นางกลายเป็นอะไรไปแล้ว นางรีบปรับน้ำเสียงจริงจังทันที  ความจริงข้าก็บินได้ เพียงแต่ช้ากว่าเท่านั้น!
 “ไม่มีอะไร, เจ้าหลับได้เลย ไปถึงปลายทางแล้วข้าค่อยเรียกเจ้าอีกครั้ง  ครั้งล่าสุดข้าได้ยินว่าหุบเขาเพลิงดำมีแร่หยดเพลิง  เพียงแต่ยังไม่มีเวลาตรวจสอบเพียงพอ ข้ามีน้ำแข็งสุบิน บุปผาสายฟ้า และแร่อัสนี  ถ้าสามารถหาแร่หยดเพลิงได้ กำไลอสูรจะมีทางผลิตออกมาได้” เย่ว์หยางหันกลับมาลูบสะโพกจุ้ยมาวอี้ บั้นท้ายนางเหมือนกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
ครั้งนี้จุ้ยมาวอี้ยอมใจอ่อนแล้ว
แม้ว่านางจะรู้ว่าเหมือนกับเขาไม่ได้ตั้งใจ  แต่ก็ยังมีความรู้สึกเสียดายอยู่
ดูเหมือนนางคิดไปไกลถึงการฝึกฝนพลังคู่รักข้างหน้า... แปลกทั้งที่เมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว นางยังคิดต่อต้านปฏิเสธ แต่บัดนี้..นางไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น... ยิ่งนางคิด ร่างกายก็ยิ่งร้อนผ่าว
นางไม่สามารถคุกเข่าบนหลังของเขาได้  ขณะที่นางดมกลิ่นอายบุรุษและสัมผัสถึงกล้ามเนื้อที่แข็งแรง นางเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว
แม้จะอยู่ในห้วงฝันร้าย แต่มุมปากของนางก็ยังยิ้มเปี่ยมสุขได้
นางยิ้มเล็กน้อย
แต่เปี่ยมไปด้วยสุข....

9 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ใกล้แล้วๆใกล้จะเสร็จพี่เยว์แรว..สาวขี้เมาเหมอนวด..อิอิ

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ulomzx กล่าวว่า...

คำโบราณบอกว่าตีเหล้กตอนร้อน..ตอนนี้แมวขี้มเมาร้อนแล้ว..เย่าว์หยางจะทำตามคำโบราณหรือเปล่านะ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

พี่เย่วยังไม่ได้ทำไรเลย เจ้เหมียวๆ ถึงกับเสร็จ 555

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น