วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 898 เราเป็นกลาง


ตอนที่  898  เราเป็นกลาง
หุบเขาเพลิงดำ

เมื่อนานมานี้เย่ว์หยางเคยตรวจสอบแหล่งแร่หยดเพลิงอย่างระมัดระวัง
ตามข่าวที่ได้มา ที่นั่นเป็นหุบเขาลึกมีเพลิงลุกไหม้ชั่วนาตาปี และเปลวไฟที่นั่นมีความรุนแรงกว่าที่อื่น เมื่อมองจากระยะไกลจะมีสีดำ นั่นเป็นที่มาของชื่อหุบเขาเพลิงดำ
มีทหารรับจ้างสองสามคนที่ไม่กลัวตายเข้าออกหุบเขาเพลิงดำเป็นครั้งคราว
ถ้าไม่โชคร้ายตายเสียก่อน  อย่างนั้นพวกเขามักจะขุดพบอะดาแมนเทียมที่คุณภาพไม่แย่นัก ปกติจะหาพบได้ยากในที่อื่นเว้นที่ปากปล่องภูเขาไฟ ที่มีไฟพ่นตลอดเวลา
แน่นอนว่าทหารรับจ้างบ้างคนสามารถขุดแร่หยดเพลิงในหุบเขาเพลิงดำได้
แร่หยดเพลิงหลังจากหลอมแล้ว จะกลายเป็นโลหะเหลว
ด้านหลังเป็นโลหะเหลวมีอุณหภูมิสูง
สามารถใช้ร่วมกับแร่ธาตุบางชนิดที่มีชื่อต่างๆ ในแดนสวรรค์ นับว่าเป็นแร่ที่มีค่ามาก
โลหะเหลวจากแร่หยดเพลิงมีคุณภาพสูงเยี่ยม  เมื่อผ่านการกลั่นหลายครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าจะกลายเป็นผลึกทองหยดเพลิงซึ่งมีอุณหภูมิปกติเหมือนกับผลึกคุณสมบัติโลหะซึ่งแข็งจนไฟแทบจะกัดกร่อนไม่ได้  ถ้าผลึกทองหยดเพลิงนี้ถูกนำเข้าโรงประมูล  แค่ขนาดหนึ่งนิ้วก็มีมูลค่าสูงเกินหมื่นล้าน นั่นคือหนึ่งในสินค้าที่แดนสวรรค์บนต้องการซื้อจากแดนสวรรค์ล่างตลอดไป
ปัง ปัง ปัง!
ในขณะที่เย่ว์หยางพาจุ้ยมาวอี้บินเข้าไปในหุบเขาเพลิงดำห้าสิบกิโลเมตร  เขาได้ยินเสียงต่อสู้ที่ดุเดือดอย่างชัดเจน
มีบางคนกำลังต่อสู้อยู่นอกหุบเขาเพลิงดำหรือ?
พวกเขามาเพื่อแร่หยดเพลิงหรือเปล่า?
ถ้าเป็นอย่างนี้ อย่างนั้นเย่ว์หยางคงไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อย
 “มีคนต่อสู้กันข้างหน้าหรือ?  ดูเหมือนว่าจะใกล้เข้ามา!  จุ้ยมาวอี้เพิ่งตื่นจากฝันร้าย นางเลื่อนลงจากหลังเย่ว์หยางทันที นางกำหมัดเกร็งกำลังเตรียมพร้อมเผื่อพบเจอศัตรูกะทันหัน
 “กลั้นหายใจไว้ และรอดูเหตุเปลี่ยนแปลงเงียบๆ”  เย่ว์หยางโบกมือบอกนางไม่ให้กังวล
 “อืม..”  จุ้ยมาวอี้มองดูเย่ว์หยางและค่อยๆ ผ่อนคลาย ยังมีเขาอยู่นั่น นางเชื่อฟังเขา ต่อให้มีเหตุเปลี่ยนแปลงเขาก็จัดการทุกอย่างได้
บึ้ม บึ้ม บึ้ม.... ไม่ทราบว่าท้องฟ้าฉายประกายสีแดงตั้งแต่เมื่อใด
อุกกาบาตเพลิงนับไม่ถ้วนตกลงมาใส่พื้นในรัศมีสามสิบกิโลเมตร  แม้ว่าจะมีระยะโจมตีนั้น แต่ระยะห่างของเย่ว์หยางกับจุ้ยมาวอี้ห่างกันเล็กน้อย  แต่แรงระเบิดจากการโจมตีนี้ ยังคงทำให้ทั้งสองคนปลิวได้  แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะมองเห็น  แต่เย่ว์หยางคาดว่าคนผู้โจมตีนี้จะต้องมีพลังอย่างน้อย ปราณฟ้าระดับสี่
ถ้าเป็นแค่พลังปราณฟ้าระดับสี่ นั่นก็แค่นั้น
ที่นี่อยู่ใกล้หุบเขาเพลิงดำมากเกินไป  ธาตุไฟที่นี่ดูผิวเผินจะเงียบสงบ  แต่ความจริงมันมีพลังระเบิดที่น่ากลัว
อุกกาบาตสวรรค์เหล่านั้นร่วงลงกระแทกพื้นมีพลังระเบิดไม่ด้อยไปกว่านักสู้ปราณฟ้าระดับห้า
คลื่นความร้อนพุ่งสูง
ในเขตชายขอบของหุบเขาพลังคลื่นความร้อนยังรุนแรงมากขนาดนี้ ถ้าเข้าไปภายในหุบเขาเพลิงดำ ยังจะมีอะไรเพิ่มขึ้นอีก?
ด้านนอกหุบเขาเพลิงดำบางทียังเทียบกับโลกอัคคีของจ้าวอัคคีปีศาจไม่ได้  แต่ถ้าเข้าไปในหุบเขาเพลิงดำจริง เกรงว่าพลังความร้อนคงจะมากยิ่งกว่าเป็นแน่  ทะเลเพลิงสามารถใช้พลังน้ำจากโลกนาฬิกาทรายมาสร้างสมดุลได้ แต่เขาจะไปหาน้ำมากมายจากที่ไหนมาตัดไฟออกไปเล่า?  ถ้าเขามาคนเดียวไม่ได้พาจุ้ยมาวอี้มาด้วย ก็คงดี  แต่ตอนนี้ศัตรูยังไม่ชัดเจน ต้องรอคอยดูกันต่อ
 “ชู่วว!  เย่ว์หยางส่งสัญญาณให้หมอบซุ่ม
เข้าใจแล้ว ....จุ้ยมาวอี้เห็นเย่ว์หยางเปลี่ยนไปจากปกติ นางเชื่อฟังคำแนะนำของเย่ว์หยาง กลั้นหายใจและซุ่มอยู่ใกล้ๆ เย่ว์หยางอย่างสงบ
หลังจากเห็นพลังโจมตีของอุกกาบาตไฟข้างหน้า มีเงาร่างหลายร่างหลบหนีออกมาจากเปลวเพลิง
สองคนในนั้นเย่ว์หยางรู้จักดี
คนหนึ่งมนุษย์กระดูกราเชลหัวหน้าก๊กโจรในแดนสวรรค์ใต้
อีกคนหนึ่งเป็นคนที่เคยทะเลาะกับทอเรนลิมาที่เมืองไถ่ถอนและถูกลิมาขู่ขวัญจนหนีไป  เย่ว์หยางไม่รู้จักชื่อของเจ้านักสู้ที่คล้ายผีดูดเลือดนี้  แต่เขามีพลังปราณฟ้าระดับสาม แค่เพียงอ่อนแอกว่ามนุษย์กระดูกราเชลเพียงเล็กน้อย  อย่างไรก็ตามทั้งราเชลกับเจ้าผีดูดเลือดต่างอับอายขายหน้ากันมาก
ราเชลและมนุษย์แวมไพร์แต่ละคนมีพลังระดับปราณฟ้าถึงกับเผ่นหนีอย่างทุลักทุเลนับเป็นเรื่องน่าขายหน้า
เย่ว์หยางเห็นว่าถ้าทั้งสองไม่ป้องกันตัวเองอย่างแน่นหนาแล้ว อุกกาบาตฟ้าก็เพียงพอจะฆ่าทั้งมนุษย์กระดูกและมนุษย์แวมไพร์ได้ทั้งคู่ ทั้งสองคนเป็นนักสู้ปราณฟ้าที่มีความหยิ่งผยองทั้งคู่ แต่ก็ต้องปกป้องชีวิตตนเองและบริวารอีกสี่คนที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับหนึ่งให้พ้นไปจากฝนอุกกาบาตเพลิง
ศัตรูเรียกฝนอุกกาบาตเพลิงใส่ แต่พวกเขาไม่ได้ไล่ตาม
เขากลับจะยอมหยุดไว้เท่านั้น
และกลับเข้าไปในหุบเขาเพลิงดำ
มองจากระยะไกล แม้เย่ว์หยางจะใช้ตาทิพย์มองก็มองไม่เห็นว่าเจ้าผู้นี้เป็นตัวอะไร  เขาเห็นว่ามันมาแล้วก็ไป และมีความสูงถึงร้อยเมตร
มันเป็นหัวหน้าปีศาจอสูรที่เฝ้าคุ้มครองหุบเขาเพลิงดำหรือเปล่า?  อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยได้ยินว่ามีปีศาจอสูรอยู่ในหุบเขาเพลิงดำมาก่อน  ทหารรับจ้างส่วนใหญ่ที่ตายไปเนื่องมาจากพลังระเบิดจากภายในหุบเขาเพลิงดำเป็นหลัก เปลวไฟพุ่งออกมาเหมือนกับน้ำพุอย่างไม่แน่นอนอยู่บ่อยครั้ง  ไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์หรืออสูรธาตุไฟก็ตาม เมื่อถูกเปลวไฟนี้ปะทุใส่จะจะเหลืออยู่แต่ควันทันที  นี่เป็นเหตุผลหลักให้หุบเขาเพลิงดำกลายเป็นสถานที่แม้แต่ทหารรับจ้างแดนสวรรค์ก็ไม่กล้าเข้ามาได้ง่ายๆ  ขณะที่อสูรปีศาจ เขาไม่เคยได้ยินใครพูดถึงมันมาก่อน
 “บัดซบ!  เซี่ยหยา เป็นเพราะเจ้าได้ข้อมูลมาผิดเพี้ยน ก๊กโจรกระโหลกดำที่ข้าเพียรสร้างขึ้นมาหลายปีถึงได้ล่มสลาย  จบสิ้นกัน!  มนุษย์กระดูกราเชลไม่เห็นเย่ว์หยางอยู่ก่อน เขากับสบถด่าสหายของเขา
 “ข้ายอมรับว่าข้าเองก็เข้าใจผิดกับข้อมูลเช่นกัน  แต่เจ้าก็ควรรู้ว่าข้าเองก็ไม่ต้องการให้เป็นแบบนี้  กลุ่มโจรกะโหลกดำของเจ้าล่มสลาย และกลุ่มโจรค้างคาวของข้าก็ไม่มีใครเหลือเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะข้าใช้สมบัติวิเศษคุ้มกัน  คนของเจ้าสองคนยังจะเหลือรอดได้ยังไง? ราเชล ข้าได้ข้อมูลมาผิด แต่ไม่ได้หมายความว่าข้าแต่งเรื่องขึ้นมาเอง เจ้าก็เห็นว่าข้าใช้โล่แสงป้องกันที่ล้ำค่าออกไป เจ้ารู้ไหมว่าข้าต้องทุ่มเทคุณค่าไปมากเท่าไหร่กับการร่วมมือครั้งนี้!  แวมไพร์เซี่ยหยาพูดถึงการต่อสู้เขาขมวดคิ้วทันที เห็นได้ชัดว่าเขาเจ็บปวดใจมากกับการใช้โล่แสงคุ้มกันออกไป
 “หัวหน้า!  ตอนนี้เราควรจะทำอย่างไรดี?”  บริวารคนหนึ่งของราเชลเห็นว่าหัวหน้าทั้งสองเอาแต่เถียงกันหน้าดำหน้าแดงต่อหน้าพวกเขา เขาจึงถามขึ้น
 “แล้วจะทำอะไรได้เล่า ไม่มีอะไรที่พวกเจ้าจะทำได้!  ด้วยพลังอย่างพวกเจ้าจะทำอะไรกับหุบเขาเพลิงดำได้เล่า  จะกลับเข้าไปในนั้นอีกก็เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเราได้แต่นิ่ง ลองค้นหาวิธีก่อน พวกเจ้าทั้งสี่กลับไปยังเมืองใบไม้เงิน รอพวกเรากลับไปแล้วค่อยคุยกัน  ระวังด้วย, อย่าก่อเรื่องให้กับข้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าไม่ต้องการตอแยเจ้าแคว้นคนใหม่, นักสู้มังกรทะยาน, พวกมารฟ้าและสำนักทงเทียนและพวกนักสู้ที่มาจากแดนสวรรค์ตะวันตก  แม้แต่ราชาใจสิงห์ก็ยังเข้าพวกเป็นพันธมิตรกับพวกเขา”
 “ข้าน้อย เข้าใจแล้ว”
แม้ว่าจะไม่มีคำสั่งกำชับจากราเชล แต่ทั้งสี่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับกองกำลังแคว้นมรกตอยู่ดี
พึงทราบว่าไม่มีใครที่จะมีกำลังพอก่อสงครามข้ามดินแดนและแน่นอนว่านักสู้จากมังกรทะยานพาสำนักแดนสวรรค์ตะวันตกเอาชนะอิทธิพลมืดกลายเป็นกองกำลังสนับสนุนแคว้นมรกตต่อไป
รอจนสมาชิกเดนตายทั้งสี่คนจากไป ราเชลโมโหใช้ดาบฟันพื้นเป็นรอยทางยาวถึงร้อยเมตร  “บัดซบ, เจ้ามารเพลิงดำ เจ้าลูกสุนัขนี่ดีแต่ซ่อนตัวอยู่ใต้ดินเหมือนหนู หลายพันปีที่ผ่านมา มันเอาแต่สงบเงียบแต่สะสมความแข็งแกร่งเอาไว้อย่างคาดไม่ถึง  ถ้าไม่ใช่เพราะเราร่วมมือกันสำรวจ และยังคงปล่อยให้หุบเขาเพลิงดำเงียบสงบต่อไป  กลับกลายเป็นว่าเขามาซ่อนตัวอยู่ที่หุบเขาเพลิงดำแอบดูดซับพลังไฟที่นี่  โชคดีที่เราพบมันได้เร็ว  มิฉะนั้นเมื่อมันออกมากลุ่มที่เคยเป็นศัตรูก่อนหน้านั้นคงตายโดยไร้ที่กลบฝัง
มนุษย์แวมไพร์โบกมือบอกให้ราเชลคลายความโกรธ  “ราเชล, ตอนนี้ยังทันเวลา  เราได้พบร่องรอยของมารเพลิงดำแล้ว  ถ้ายังปล่อยให้เขาดูดซับพลังหินหยดเพลิงต่อไปนั่นจะเป็นเรื่องยากลำบากจริงๆ”
ราเชลโจรสลัดกะโหลกดำกล่าว  “เซี่ยหยา! ปัญหาอยู่ตรงนั้นแหละ เราทั้งสองรู้ว่ามารเพลิงดำยังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเลื่อนระดับเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับหก  แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดเขาไว้ได้  ไม่มีใครช่วยเราตอนนี้ เราไม่สามารถเอาชนะศัตรูได้เราได้แต่มองมารเพลิงดำ ดูเจ้านั่นดูดซับเพลังเพลิงเลื่อนระดับ นี่เป็นเรื่องจนใจจริงๆ”
 “ไม่ว่ายังไงก็ตาม เจ้าจะปล่อยให้เขาเลื่อนระดับง่ายๆไม่ได้”  มนุษย์แวมไพร์เซี่ยหยาสวมกรงเล็บเงินจากนั้นโบกมือ  “ไม่มีใครช่วย เราก็ต้องก่อกวนมารเพลิงดำให้ถึงที่สุด  ถึงมีแนวโน้มว่าเราจะถูกฆ่า แต่เพื่อความสงบสุข เราหลีกเลี่ยงไม่ได้”
 “ถ้าเสี่ยวโฉ่วอยู่ด้วยก็คงจะดี”  ราเชลถอนหายใจ
 “เฮอะ ถ้าเขาอยู่ที่นี่ด้วย ข้ายังกังวลใจมากกว่า เพราะยากจะป้องกันไม่ให้เสี่ยวโฉ่วใช้เราเป็นกองหน้ากล้าตายและเขากลายเป็นชาวประมงผู้ได้ประโยชน์..” มนุษย์แวมไพร์หัวเราะเสียงแห้ง
 “แม้ว่าจะอันตรายขนาดนั้น แต่ที่สำคัญเขามีความคิดที่ดีกว่า เขาคงจะหาหนทางง่ายๆ และฉวยโอกาสประสบความสำเร็จอย่างสูง  แค่มีเราสองคน ข้าไม่มีความมั่นใจเลยจริงๆ!  มนุษย์กระดูกราเชลถอนหายใจ
 “.....” จุ้ยมาวอี้ได้ยินเช่นนี้นางเอื้อมมือสะกิดเย่ว์หยาง  ดูเหมือนจะถามว่าทำไมเขาไม่ออกไปร่วมมือกับฝ่ายตรงข้าม
เย่ว์หยางส่ายศีรษะ
รอยยิ้มลึกลับปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา
ตอนนี้ถ้าออกไปช่วย แม้ว่าจะได้ชัยชนะ แต่สมบัติจะต้องแบ่งให้ราเชลและเซี่ยหยา
เขามีความแข็งแกร่งเพียงพอและซ่อนตัวรออยู่ในที่มืดคอยโอกาสโจมตี แล้วจะต้องร่วมมือกับมนุษย์กระดูกราเชลและเซี่ยหยาทำไม?  นอกจากนี้ทั้งสองก็ไม่ใช่ตัวดี การร่วมมือกับพวกเขายากจะป้องกันไม่ให้ความลับรั่วไหล
ถ้ามารเพลิงดำเป็นสุดยอดนักสู้ไร้เทียมทาน เมื่อได้ฟังราเชลกับเซี่ยหยาพูดคุยกันแล้ว กลับกลายเป็นว่ามารผู้นี้ซ่อนตัวดูดซับพลังงานเพลิง  ไม่ว่าจะถึงพลังปราณฟ้าระดับห้า หรือแม้แต่ระดับหก เย่ว์หยางก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา จ้าวอัคคีปีศาจยังทรงพลังมากกว่า ก็ยังถูกฆ่าได้  และนี่มีแค่มารเพลิงดำผู้เดียวเท่านั้นถือเป็นสินค้าชั้นดี เป็นตัวการร้ายกาจระดับหัวหน้า
มีสิ่งเดียวที่เย่ว์หยางต้องระมัดระวังก็คือ ภูมิประเทศอันตรายของหุบเขาเพลิงดำ
เมื่อได้เวลาที่เหมาะเจาะ ภูมิประเทศที่เลวร้ายจะน่ากลัวสำหรับศัตรู  เพราะนี่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้ความจริงที่ซ่อนอยู่
 “เราทำอย่างนี้เรื่อยๆ...”  เย่ว์หยางส่งสัญญาณให้จุ้ยมาวอี้ทราบว่าพวกเขาจะเล่นบทอยู่ฝ่ายกลาง แผนการน่าละอายนี้จุ้ยมาวอี้มักจะดูถูกเสมอ  แต่ตอนนี้ความรู้สึกยุติธรรมของนางไม่ครอบคลุมมาถึงแดนสวรรค์ใต้ ในใจนางแม้ว่าจะไม่มองอีกฝ่ายเป็นคู่ต่อสู้เหมือนเย่ว์หยาง  แต่นางยังรู้สึกว่าทุกอย่างที่นี่เป็นศัตรู  ไม่มีอะไรที่นางจะทำได้!

8 ความคิดเห็น:

mr_ake_oou กล่าวว่า...

1 ^^

mr_ake_oou กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ulomzx กล่าวว่า...

โห..แผนยอดเยี่ยม...แต่ว่าอีกกี่ตอนถึงจะได้แร่หยดเพลิง

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณหลายๆ

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น