ตอนที่ 898
เราเป็นกลาง
หุบเขาเพลิงดำ
เมื่อนานมานี้เย่ว์หยางเคยตรวจสอบแหล่งแร่หยดเพลิงอย่างระมัดระวัง
ตามข่าวที่ได้มา
ที่นั่นเป็นหุบเขาลึกมีเพลิงลุกไหม้ชั่วนาตาปี
และเปลวไฟที่นั่นมีความรุนแรงกว่าที่อื่น เมื่อมองจากระยะไกลจะมีสีดำ
นั่นเป็นที่มาของชื่อหุบเขาเพลิงดำ
มีทหารรับจ้างสองสามคนที่ไม่กลัวตายเข้าออกหุบเขาเพลิงดำเป็นครั้งคราว
ถ้าไม่โชคร้ายตายเสียก่อน อย่างนั้นพวกเขามักจะขุดพบอะดาแมนเทียมที่คุณภาพไม่แย่นัก
ปกติจะหาพบได้ยากในที่อื่นเว้นที่ปากปล่องภูเขาไฟ ที่มีไฟพ่นตลอดเวลา
แน่นอนว่าทหารรับจ้างบ้างคนสามารถขุดแร่หยดเพลิงในหุบเขาเพลิงดำได้
แร่หยดเพลิงหลังจากหลอมแล้ว
จะกลายเป็นโลหะเหลว
ด้านหลังเป็นโลหะเหลวมีอุณหภูมิสูง
สามารถใช้ร่วมกับแร่ธาตุบางชนิดที่มีชื่อต่างๆ
ในแดนสวรรค์ นับว่าเป็นแร่ที่มีค่ามาก
โลหะเหลวจากแร่หยดเพลิงมีคุณภาพสูงเยี่ยม
เมื่อผ่านการกลั่นหลายครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าจะกลายเป็นผลึกทองหยดเพลิงซึ่งมีอุณหภูมิปกติเหมือนกับผลึกคุณสมบัติโลหะซึ่งแข็งจนไฟแทบจะกัดกร่อนไม่ได้ ถ้าผลึกทองหยดเพลิงนี้ถูกนำเข้าโรงประมูล แค่ขนาดหนึ่งนิ้วก็มีมูลค่าสูงเกินหมื่นล้าน
นั่นคือหนึ่งในสินค้าที่แดนสวรรค์บนต้องการซื้อจากแดนสวรรค์ล่างตลอดไป
ปัง ปัง ปัง!
ในขณะที่เย่ว์หยางพาจุ้ยมาวอี้บินเข้าไปในหุบเขาเพลิงดำห้าสิบกิโลเมตร เขาได้ยินเสียงต่อสู้ที่ดุเดือดอย่างชัดเจน
มีบางคนกำลังต่อสู้อยู่นอกหุบเขาเพลิงดำหรือ?
พวกเขามาเพื่อแร่หยดเพลิงหรือเปล่า?
ถ้าเป็นอย่างนี้
อย่างนั้นเย่ว์หยางคงไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อย
“มีคนต่อสู้กันข้างหน้าหรือ? ดูเหมือนว่าจะใกล้เข้ามา!” จุ้ยมาวอี้เพิ่งตื่นจากฝันร้าย
นางเลื่อนลงจากหลังเย่ว์หยางทันที
นางกำหมัดเกร็งกำลังเตรียมพร้อมเผื่อพบเจอศัตรูกะทันหัน
“กลั้นหายใจไว้
และรอดูเหตุเปลี่ยนแปลงเงียบๆ”
เย่ว์หยางโบกมือบอกนางไม่ให้กังวล
“อืม..”
จุ้ยมาวอี้มองดูเย่ว์หยางและค่อยๆ ผ่อนคลาย ยังมีเขาอยู่นั่น นางเชื่อฟังเขา
ต่อให้มีเหตุเปลี่ยนแปลงเขาก็จัดการทุกอย่างได้
บึ้ม บึ้ม บึ้ม.... ไม่ทราบว่าท้องฟ้าฉายประกายสีแดงตั้งแต่เมื่อใด
อุกกาบาตเพลิงนับไม่ถ้วนตกลงมาใส่พื้นในรัศมีสามสิบกิโลเมตร แม้ว่าจะมีระยะโจมตีนั้น แต่ระยะห่างของเย่ว์หยางกับจุ้ยมาวอี้ห่างกันเล็กน้อย แต่แรงระเบิดจากการโจมตีนี้
ยังคงทำให้ทั้งสองคนปลิวได้
แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะมองเห็น
แต่เย่ว์หยางคาดว่าคนผู้โจมตีนี้จะต้องมีพลังอย่างน้อย ปราณฟ้าระดับสี่
ถ้าเป็นแค่พลังปราณฟ้าระดับสี่
นั่นก็แค่นั้น
ที่นี่อยู่ใกล้หุบเขาเพลิงดำมากเกินไป ธาตุไฟที่นี่ดูผิวเผินจะเงียบสงบ แต่ความจริงมันมีพลังระเบิดที่น่ากลัว
อุกกาบาตสวรรค์เหล่านั้นร่วงลงกระแทกพื้นมีพลังระเบิดไม่ด้อยไปกว่านักสู้ปราณฟ้าระดับห้า
คลื่นความร้อนพุ่งสูง
ในเขตชายขอบของหุบเขาพลังคลื่นความร้อนยังรุนแรงมากขนาดนี้
ถ้าเข้าไปภายในหุบเขาเพลิงดำ ยังจะมีอะไรเพิ่มขึ้นอีก?
ด้านนอกหุบเขาเพลิงดำบางทียังเทียบกับโลกอัคคีของจ้าวอัคคีปีศาจไม่ได้ แต่ถ้าเข้าไปในหุบเขาเพลิงดำจริง
เกรงว่าพลังความร้อนคงจะมากยิ่งกว่าเป็นแน่
ทะเลเพลิงสามารถใช้พลังน้ำจากโลกนาฬิกาทรายมาสร้างสมดุลได้
แต่เขาจะไปหาน้ำมากมายจากที่ไหนมาตัดไฟออกไปเล่า?
ถ้าเขามาคนเดียวไม่ได้พาจุ้ยมาวอี้มาด้วย ก็คงดี แต่ตอนนี้ศัตรูยังไม่ชัดเจน ต้องรอคอยดูกันต่อ
“ชู่วว!”
เย่ว์หยางส่งสัญญาณให้หมอบซุ่ม
เข้าใจแล้ว ....จุ้ยมาวอี้เห็นเย่ว์หยางเปลี่ยนไปจากปกติ
นางเชื่อฟังคำแนะนำของเย่ว์หยาง กลั้นหายใจและซุ่มอยู่ใกล้ๆ เย่ว์หยางอย่างสงบ
หลังจากเห็นพลังโจมตีของอุกกาบาตไฟข้างหน้า
มีเงาร่างหลายร่างหลบหนีออกมาจากเปลวเพลิง
สองคนในนั้นเย่ว์หยางรู้จักดี
คนหนึ่งมนุษย์กระดูกราเชลหัวหน้าก๊กโจรในแดนสวรรค์ใต้
อีกคนหนึ่งเป็นคนที่เคยทะเลาะกับทอเรนลิมาที่เมืองไถ่ถอนและถูกลิมาขู่ขวัญจนหนีไป
เย่ว์หยางไม่รู้จักชื่อของเจ้านักสู้ที่คล้ายผีดูดเลือดนี้ แต่เขามีพลังปราณฟ้าระดับสาม แค่เพียงอ่อนแอกว่ามนุษย์กระดูกราเชลเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามทั้งราเชลกับเจ้าผีดูดเลือดต่างอับอายขายหน้ากันมาก
ราเชลและมนุษย์แวมไพร์แต่ละคนมีพลังระดับปราณฟ้าถึงกับเผ่นหนีอย่างทุลักทุเลนับเป็นเรื่องน่าขายหน้า
เย่ว์หยางเห็นว่าถ้าทั้งสองไม่ป้องกันตัวเองอย่างแน่นหนาแล้ว
อุกกาบาตฟ้าก็เพียงพอจะฆ่าทั้งมนุษย์กระดูกและมนุษย์แวมไพร์ได้ทั้งคู่
ทั้งสองคนเป็นนักสู้ปราณฟ้าที่มีความหยิ่งผยองทั้งคู่
แต่ก็ต้องปกป้องชีวิตตนเองและบริวารอีกสี่คนที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับหนึ่งให้พ้นไปจากฝนอุกกาบาตเพลิง
ศัตรูเรียกฝนอุกกาบาตเพลิงใส่
แต่พวกเขาไม่ได้ไล่ตาม
เขากลับจะยอมหยุดไว้เท่านั้น
และกลับเข้าไปในหุบเขาเพลิงดำ
มองจากระยะไกล
แม้เย่ว์หยางจะใช้ตาทิพย์มองก็มองไม่เห็นว่าเจ้าผู้นี้เป็นตัวอะไร เขาเห็นว่ามันมาแล้วก็ไป
และมีความสูงถึงร้อยเมตร
มันเป็นหัวหน้าปีศาจอสูรที่เฝ้าคุ้มครองหุบเขาเพลิงดำหรือเปล่า? อย่างไรก็ตาม
เขาไม่เคยได้ยินว่ามีปีศาจอสูรอยู่ในหุบเขาเพลิงดำมาก่อน
ทหารรับจ้างส่วนใหญ่ที่ตายไปเนื่องมาจากพลังระเบิดจากภายในหุบเขาเพลิงดำเป็นหลัก
เปลวไฟพุ่งออกมาเหมือนกับน้ำพุอย่างไม่แน่นอนอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์หรืออสูรธาตุไฟก็ตาม
เมื่อถูกเปลวไฟนี้ปะทุใส่จะจะเหลืออยู่แต่ควันทันที
นี่เป็นเหตุผลหลักให้หุบเขาเพลิงดำกลายเป็นสถานที่แม้แต่ทหารรับจ้างแดนสวรรค์ก็ไม่กล้าเข้ามาได้ง่ายๆ ขณะที่อสูรปีศาจ
เขาไม่เคยได้ยินใครพูดถึงมันมาก่อน
“บัดซบ!
เซี่ยหยา เป็นเพราะเจ้าได้ข้อมูลมาผิดเพี้ยน
ก๊กโจรกระโหลกดำที่ข้าเพียรสร้างขึ้นมาหลายปีถึงได้ล่มสลาย จบสิ้นกัน!”
มนุษย์กระดูกราเชลไม่เห็นเย่ว์หยางอยู่ก่อน เขากับสบถด่าสหายของเขา
“ข้ายอมรับว่าข้าเองก็เข้าใจผิดกับข้อมูลเช่นกัน
แต่เจ้าก็ควรรู้ว่าข้าเองก็ไม่ต้องการให้เป็นแบบนี้ กลุ่มโจรกะโหลกดำของเจ้าล่มสลาย
และกลุ่มโจรค้างคาวของข้าก็ไม่มีใครเหลือเช่นกัน
ถ้าไม่ใช่เพราะข้าใช้สมบัติวิเศษคุ้มกัน
คนของเจ้าสองคนยังจะเหลือรอดได้ยังไง? ราเชล ข้าได้ข้อมูลมาผิด
แต่ไม่ได้หมายความว่าข้าแต่งเรื่องขึ้นมาเอง
เจ้าก็เห็นว่าข้าใช้โล่แสงป้องกันที่ล้ำค่าออกไป
เจ้ารู้ไหมว่าข้าต้องทุ่มเทคุณค่าไปมากเท่าไหร่กับการร่วมมือครั้งนี้!” แวมไพร์เซี่ยหยาพูดถึงการต่อสู้เขาขมวดคิ้วทันที
เห็นได้ชัดว่าเขาเจ็บปวดใจมากกับการใช้โล่แสงคุ้มกันออกไป
“หัวหน้า!
ตอนนี้เราควรจะทำอย่างไรดี?”
บริวารคนหนึ่งของราเชลเห็นว่าหัวหน้าทั้งสองเอาแต่เถียงกันหน้าดำหน้าแดงต่อหน้าพวกเขา
เขาจึงถามขึ้น
“แล้วจะทำอะไรได้เล่า
ไม่มีอะไรที่พวกเจ้าจะทำได้!
ด้วยพลังอย่างพวกเจ้าจะทำอะไรกับหุบเขาเพลิงดำได้เล่า จะกลับเข้าไปในนั้นอีกก็เป็นไปไม่ได้
ดังนั้นเราได้แต่นิ่ง ลองค้นหาวิธีก่อน พวกเจ้าทั้งสี่กลับไปยังเมืองใบไม้เงิน
รอพวกเรากลับไปแล้วค่อยคุยกัน ระวังด้วย,
อย่าก่อเรื่องให้กับข้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าไม่ต้องการตอแยเจ้าแคว้นคนใหม่,
นักสู้มังกรทะยาน,
พวกมารฟ้าและสำนักทงเทียนและพวกนักสู้ที่มาจากแดนสวรรค์ตะวันตก แม้แต่ราชาใจสิงห์ก็ยังเข้าพวกเป็นพันธมิตรกับพวกเขา”
“ข้าน้อย เข้าใจแล้ว”
แม้ว่าจะไม่มีคำสั่งกำชับจากราเชล
แต่ทั้งสี่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับกองกำลังแคว้นมรกตอยู่ดี
พึงทราบว่าไม่มีใครที่จะมีกำลังพอก่อสงครามข้ามดินแดนและแน่นอนว่านักสู้จากมังกรทะยานพาสำนักแดนสวรรค์ตะวันตกเอาชนะอิทธิพลมืดกลายเป็นกองกำลังสนับสนุนแคว้นมรกตต่อไป
รอจนสมาชิกเดนตายทั้งสี่คนจากไป
ราเชลโมโหใช้ดาบฟันพื้นเป็นรอยทางยาวถึงร้อยเมตร
“บัดซบ, เจ้ามารเพลิงดำ เจ้าลูกสุนัขนี่ดีแต่ซ่อนตัวอยู่ใต้ดินเหมือนหนู
หลายพันปีที่ผ่านมา
มันเอาแต่สงบเงียบแต่สะสมความแข็งแกร่งเอาไว้อย่างคาดไม่ถึง ถ้าไม่ใช่เพราะเราร่วมมือกันสำรวจ
และยังคงปล่อยให้หุบเขาเพลิงดำเงียบสงบต่อไป
กลับกลายเป็นว่าเขามาซ่อนตัวอยู่ที่หุบเขาเพลิงดำแอบดูดซับพลังไฟที่นี่ โชคดีที่เราพบมันได้เร็ว มิฉะนั้นเมื่อมันออกมากลุ่มที่เคยเป็นศัตรูก่อนหน้านั้นคงตายโดยไร้ที่กลบฝัง
มนุษย์แวมไพร์โบกมือบอกให้ราเชลคลายความโกรธ “ราเชล, ตอนนี้ยังทันเวลา เราได้พบร่องรอยของมารเพลิงดำแล้ว
ถ้ายังปล่อยให้เขาดูดซับพลังหินหยดเพลิงต่อไปนั่นจะเป็นเรื่องยากลำบากจริงๆ”
ราเชลโจรสลัดกะโหลกดำกล่าว “เซี่ยหยา! ปัญหาอยู่ตรงนั้นแหละ
เราทั้งสองรู้ว่ามารเพลิงดำยังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเลื่อนระดับเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับหก แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดเขาไว้ได้ ไม่มีใครช่วยเราตอนนี้
เราไม่สามารถเอาชนะศัตรูได้เราได้แต่มองมารเพลิงดำ
ดูเจ้านั่นดูดซับเพลังเพลิงเลื่อนระดับ นี่เป็นเรื่องจนใจจริงๆ”
“ไม่ว่ายังไงก็ตาม
เจ้าจะปล่อยให้เขาเลื่อนระดับง่ายๆไม่ได้”
มนุษย์แวมไพร์เซี่ยหยาสวมกรงเล็บเงินจากนั้นโบกมือ “ไม่มีใครช่วย
เราก็ต้องก่อกวนมารเพลิงดำให้ถึงที่สุด
ถึงมีแนวโน้มว่าเราจะถูกฆ่า แต่เพื่อความสงบสุข เราหลีกเลี่ยงไม่ได้”
“ถ้าเสี่ยวโฉ่วอยู่ด้วยก็คงจะดี” ราเชลถอนหายใจ
“เฮอะ ถ้าเขาอยู่ที่นี่ด้วย
ข้ายังกังวลใจมากกว่า เพราะยากจะป้องกันไม่ให้เสี่ยวโฉ่วใช้เราเป็นกองหน้ากล้าตายและเขากลายเป็นชาวประมงผู้ได้ประโยชน์..”
มนุษย์แวมไพร์หัวเราะเสียงแห้ง
“แม้ว่าจะอันตรายขนาดนั้น แต่ที่สำคัญเขามีความคิดที่ดีกว่า
เขาคงจะหาหนทางง่ายๆ และฉวยโอกาสประสบความสำเร็จอย่างสูง แค่มีเราสองคน ข้าไม่มีความมั่นใจเลยจริงๆ!” มนุษย์กระดูกราเชลถอนหายใจ
“.....” จุ้ยมาวอี้ได้ยินเช่นนี้นางเอื้อมมือสะกิดเย่ว์หยาง
ดูเหมือนจะถามว่าทำไมเขาไม่ออกไปร่วมมือกับฝ่ายตรงข้าม
เย่ว์หยางส่ายศีรษะ
รอยยิ้มลึกลับปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา
ตอนนี้ถ้าออกไปช่วย แม้ว่าจะได้ชัยชนะ
แต่สมบัติจะต้องแบ่งให้ราเชลและเซี่ยหยา
เขามีความแข็งแกร่งเพียงพอและซ่อนตัวรออยู่ในที่มืดคอยโอกาสโจมตี
แล้วจะต้องร่วมมือกับมนุษย์กระดูกราเชลและเซี่ยหยาทำไม? นอกจากนี้ทั้งสองก็ไม่ใช่ตัวดี
การร่วมมือกับพวกเขายากจะป้องกันไม่ให้ความลับรั่วไหล
ถ้ามารเพลิงดำเป็นสุดยอดนักสู้ไร้เทียมทาน
เมื่อได้ฟังราเชลกับเซี่ยหยาพูดคุยกันแล้ว
กลับกลายเป็นว่ามารผู้นี้ซ่อนตัวดูดซับพลังงานเพลิง ไม่ว่าจะถึงพลังปราณฟ้าระดับห้า
หรือแม้แต่ระดับหก เย่ว์หยางก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา จ้าวอัคคีปีศาจยังทรงพลังมากกว่า
ก็ยังถูกฆ่าได้
และนี่มีแค่มารเพลิงดำผู้เดียวเท่านั้นถือเป็นสินค้าชั้นดี
เป็นตัวการร้ายกาจระดับหัวหน้า
มีสิ่งเดียวที่เย่ว์หยางต้องระมัดระวังก็คือ
ภูมิประเทศอันตรายของหุบเขาเพลิงดำ
เมื่อได้เวลาที่เหมาะเจาะ
ภูมิประเทศที่เลวร้ายจะน่ากลัวสำหรับศัตรู
เพราะนี่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้ความจริงที่ซ่อนอยู่
“เราทำอย่างนี้เรื่อยๆ...” เย่ว์หยางส่งสัญญาณให้จุ้ยมาวอี้ทราบว่าพวกเขาจะเล่นบทอยู่ฝ่ายกลาง
แผนการน่าละอายนี้จุ้ยมาวอี้มักจะดูถูกเสมอ
แต่ตอนนี้ความรู้สึกยุติธรรมของนางไม่ครอบคลุมมาถึงแดนสวรรค์ใต้
ในใจนางแม้ว่าจะไม่มองอีกฝ่ายเป็นคู่ต่อสู้เหมือนเย่ว์หยาง แต่นางยังรู้สึกว่าทุกอย่างที่นี่เป็นศัตรู ไม่มีอะไรที่นางจะทำได้!
8 ความคิดเห็น:
1 ^^
ขอบคุณครับ
โห..แผนยอดเยี่ยม...แต่ว่าอีกกี่ตอนถึงจะได้แร่หยดเพลิง
ขอบคุณหลายๆ
ใจจ้า
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
แสดงความคิดเห็น