ตอนที่
989 อาวุธเทพร่างมนุษย์!
เย่ว์หยางเรียกเพลิงบัวแดงด้วยมือข้างซ้ายและเพลิงเมฆาด้วยมือข้างขวา
ในท้องฟ้ามีเพลิงแดงสวรรค์เทลงมาเหมือนน้ำตก และไม่ทราบว่าบนพื้นมีกุ่ยหยินไฟตั้งแต่เมื่อไหร่
มันค่อยๆ คลุมเท้าของจ้าวสุริยาอย่างเงียบๆ
ตราบใดที่เย่ว์หยางกระตุ้นการโจมตี ทั้งสองจะทำให้เกิดการระเบิดรุนแรง จ้าวสุริยาเคลื่อนไหวไม่ได้ แต่เขาไม่กลัว
ไม่ว่าไฟจะทรงพลังแค่ไหนก็ตาม
เป็นไปไม่ได้ที่จะทำร้ายตัวเขา
ต่อให้ทำร้ายร่างกายของเขาได้จริงๆ
แต่เขาสามารถใช้นาฬิกาสุริยะย้อนเวลา และกำจัดพลังทำลายล้างทั้งหมด เว้นแต่พลังเทพ
เย่ว์หยางไม่สามารถจะทำร้ายเขาแม้แต่ผมเส้นเดียว!
จ้าวสุริยามีความมั่นใจมากพอ
เขามีร่างระดับเทียมเทพ ไม่กลัวไฟใดๆ ในโลกทั้งนั้น
แม้แต่เพลิงแดงสวรรค์ที่ทรงพลังที่สุด
หรือแม้แต่พลังของกุ่ยหยินไฟ ก็อาจระเบิดได้ แต่ไม่สามารถทำร้ายเขาได้
“เสนอดาบ..!”
เย่ว์หยางไม่ใช้ไฟโจมตี
เขาเหยียดมือออก
และถามเหมือนกับขอดาบจากบริวารราวกับอัศวินแก่
ดาบแบบไหนกันที่เย่ว์หยางไม่สะดวกแก่การพกพา?
จ้าวสุริยาสับสนเล็กน้อย เจ้าเด็กเย่ว์หยางนี่ครอบครองคัมภีร์อัญเชิญ
และมีแหวนเก็บสมบัติ
เขายังจะต้องพกพาดาบอีกหรือ?
ตอนแรกจ้าวสุริยาพบว่าเขาเองมองเย่ว์หยางไม่ออก
ในท่ามกลางความประหลาดใจ
เขาเห็นที่ทางเข้าตำหนักม่วงทอง มีสตรีอยู่สามคน คนหนึ่งเป็นปีศาจอสรพิษ
และยังมีอีกสองคน แม้แต่ในข้อมูลข่าวกรองของเสี่ยวโฉ่ว
ก็ไม่พบชื่อของพี่น้องสองสาวมังกรในเผ่าพันธุ์ภูตบูรพา สองพี่น้องเผ่ามังกรคู่นี้แตกต่างจากเผ่าภูตบูรพาทั่วไป
สายเลือดของพวกนางดูเหมือนจะบริสุทธิ์มากกว่าอย่างชัดเจน
ความรู้สึกแบบนี้....
ทันใดนั้นจ้าวสุริยาเข้าใจทันที
แดนสวรรค์บนมีเผ่าพันธุ์พิเศษอยู่เผ่าพันธุ์หนึ่ง
บุรุษและสตรีมีความคล้ายกับพี่น้องสองสาวมังกรมาก พวกนางเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่?
อาเหยาหนึ่งในสองพี่น้องบินมายืนข้างหน้า
ร่างของนางเปล่งรัศมีเจิดจ้าและแปลงเป็นดาบมีปีกเล่มหนึ่ง
ดาบมีปีกลอยลงมาอยู่ในมือของเย่ว์หยางโดยธรรมชาติ
ขณะที่เขาถือดาบในมือทั้งเลือดและเนื้อจะเชื่อมประสานกันทันที เย่ว์หยางไม่จำเป็นต้องการโชค
ตราบที่ใจของเขาเป็นหนึ่ง พลังงานที่ไม่จำกัดในร่างของสาวมังกรจะเปลี่ยนร่างนางเป็นดาบแล้วเชื่อมต่อกัน เมื่อเย่ว์หยางเร่งเร้าพลังเต็มที่ พลังจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า
เทพสงคราม!
อาวุธเทพร่างมนุษย์!
ตอนนี้จ้าวสุริยาเข้าใจแล้วว่า เจ้าเด็กไตตันนี้ไม่เพียงแต่มีอาวุธเทพร่างอสูร แต่ยังมีอาวุธเทพร่างมนุษย์
แม้ว่าจะมีคนมากมายในตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์
แต่น้อยคนนักที่จะรู้ความลับการฝึกฝนอาวุธเทพร่างมนุษย์ ต่อให้เขาสามารถจับอาวุธเทพร่างมนุษย์มาได้
แต่เขาจะเป็นเหมือนกับเจ้าเด็กเย่ว์ไตตันได้อย่างไร
ความจริงนางคือเผ่าพันธุ์อสูรอมตะสำหรับอาวุธเทพร่างมนุษย์ แย่แล้ว..เขาติดอยู่ในวงจักรนิรันดร
ไม่สามารถหลบหนีออกไปได้
จ้าวสุริยาไม่คิดว่านาฬิกาสุริยะและทักษะแฝงเร้นย้อนเวลาจะสามารถคืนสภาพทุกอย่างที่ถูกอาวุธเทพร่างมนุษย์ทำร้าย
ก็เหมือนกับพลังกฎสวรรค์!
เย่ว์หยางควงดาบและฟันอากาศข้างหน้า
เขาไม่ได้ใช้ท่าดาบท่าแรกผ่าปฐพี ไม่ได้ใช้พลังโจมตีเต็มกำลัง
เป็นการฟันออกไปอย่างธรรมดา
อย่างไรก็ตามหลังคาของตำหนักม่วงทองถูกดาบผ่าเป็นสองส่วน
ปราณกระบี่ยิงแสงผ่านหลังคาทะลุขึ้นไปในอากาศ
มิติภายในวงจักรนิรันดรฉีกขาดยาวหลายสิบเมตร
เป็นครั้งแรกนับแต่สู้กับเย่ว์หยาง
บนไหล่ของจ้าวสุริยา ได้รับบาดแผลลึก
ถึงแม้ว่าไม่ทันได้หลั่งเลือดเนื่องจากผลจากวงจักรนิรันดรก็ตาม
แต่จ้าวสุริยารู้ว่าดาบนี้ทำร้ายเขาจนได้รับบาดเจ็บ!
แต่เดิมทีด้วยพลังของเย่ว์ไตตัน
ไม่ว่าจะโจมตีทำร้ายเพียงใด ตัวเขาเองจะไม่ได้รับบาดเจ็บ
อาการบาดเจ็บเล็กน้อยผิวเผินเขาสามารถใช้นาฬิกาสุริยะและทักษะย้อนเวลาได้
นั่นเป็นความห่างชั้นของระดับฝีมือที่เย่ว์ไตตันมิอาจข้ามผ่านได้ แต่ตอนนี้เขามีอาวุธเทพร่างมนุษย์ เขามีคุณสมบัติต่อสู้กับเขาได้อย่างทัดเทียม
ตอนนี้ไม่เพียงแต่เขาที่สามารถฆ่าเย่ว์ไตตันได้ แม้แต่เย่ว์ไตตันก็สามารถฆ่าเขาได้เช่นกัน!
สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้นก็คือ
จ้าวสุริยาพบว่าพลังไฟของเย่ว์หยางไม่ว่าจะเป็นเพลิงบัวแดง เพลิงเมฆา
เพลิงแดงสวรรค์ และกุ่ยหยินไฟไม่ระเบิดขึ้น
แต่กลับเป็นเหมือนน้ำไหลภายใต้คำสั่งของเย่ว์หยาง
เปลวไฟเหล่านั้นชอนไชเข้าบาดแผลที่ไหล่ของเขาอย่างบ้าคลั่ง
ภายในเวลาไม่กี่วินาที
จ้าวสุริยารู้สึกเจ็บปวดจากเพลิงผลาญวิญญาณของเขา
ร้อน มันร้อนมาก!
เด็กเจ้าเล่ห์นี่รู้ได้อย่างไรว่านาฬิกาสุริยะและทักษะย้อนเวลาของเขาไม่สามารถกำจัดพลังงานออกจากร่างกายของเขาได้? จ้าวสุริยาไม่มีเวลาคิดมากเกินไป หลังจากเย่ว์หยางใช้พลังไปแล้ว
เขาดิ้นสู้อย่างหนัก วงจักรนิรันดรจึงแตกสลายหายไป
เปลวไฟทั้งสี่โหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งสร้างบาดแผลบนร่างของเขาได้
ทำให้เจ้าสุริยาต้องพลังปิดปากแผลตนเอง
“ลูกไม้เล็กน้อยเท่านี้คิดว่าจะทำร้ายข้าได้หรือ!”
จ้าวสุริยาตวาดลั่นพร้อมกับขับเพลิงทั้งสี่ชนิดที่อยู่ในตัวเขาออกมาทางคอและปาก
“เสนอธนู!”
เย่ว์หยางจะให้โอกาสจ้าวสุริยาปรับตัว
ขณะที่อาเหยาคืนสภาพเป็นร่างมนุษย์
เขาเหยียดมือออกอีกครั้ง
อาหยูหนึ่งในสองพี่น้องบินเข้ามาหาเขาแล้ว
อาหยูแผ่รัศมีเจิดจ้าและกลายร่างเป็นคันธนูที่งดงามไม่มีที่ใดเปรียบลอยเข้าไปอยู่ในมือของเย่ว์หยาง ทันทีที่เย่ว์หยางเริ่มใช้งาน
ปราณก่อกำเนิดทั้งหมดมารวมตัวอีกครั้งช่วยเป็นพลังเสริมให้อาหยู เย่ว์หยางเตรียมใช้พลังปราณตามปรารถนาของตน
ตอนนี้จ้าวสุริยาเริ่มตอบโต้ เขามองดูเย่ว์หยางซึ่งมีอาวุธเทพร่างมนุษย์อยู่ในมือ
เขาถอยหลังทันทีแล้วเรียกคัมภีร์อัญเชิญออกมาสร้างม่านพลังงานคุ้มกัน
เขาไม่ยอมให้ร่างของเขาเป็นอันตราย
นอกจากม่านพลังจากคัมภีร์อัญเชิญแล้ว จ้าวสุริยายังใช้โล่วิเศษเพลิงเทพอสูร
โล่วิเศษที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นสมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์ แต่พลังป้องกันของมันเทียบได้กับสมบัติเทพ
แม้ว่าสมบัติวิเศษบางอย่างอาจไม่จำเป็นต้องทรงพลัง!
แต่สมบัติวิเศษนี้ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีระยะประชิดหรือระยะหมื่นเมตร
โล่เพลิงปีศาจก็ยังต้านรับไว้ได้ มันสลายพลังครึ่งหนึ่ง
และสะท้อนพลังครึ่งหนึ่งกลับไปยังผู้โจมตีได้
ดาบและธนูธรรมดาไม่มีทางทำลายการป้องกันของสมบัติวิเศษชั้นศักดิ์สิทธิ์ได้เลย ใครก็ตามต้องการโจมตีคนที่ถือโล่วิเศษนี้
จะถูกพลังสะท้อนใส่ถึงตายได้
ถ้าไม่ใช่เพราะเย่ว์หยางมีอาวุธเทพร่างมนุษย์ พลังของโล่นี้นับว่าน่ากลัวเกินไป ทั้งจ้าวสุริยาก็ไม่ต้องการเอาโล่นี้ออกมาใช้ตั้งแต่แรกด้วย
นี่คือสมบัติช่วยรักษาชีวิต
ที่เขาไม่ยอมเอาออกมาใช้อย่างง่ายๆ
“ลองเจอนี่เป็นไง” เย่ว์หยางเหนี่ยวธนูจนโค้งดูเป็นรูปพระจันทร์เต็มดวง
ทั้งควบแน่นพลังสายฟ้าสีม่วง
นี่คือธนูน้ำแข็งเป็นสีม่วงและมีกฎสวรรค์เพลิงศักดิ์สิทธิ์แฝงไว้
เขาเล็งที่หัวใจของจ้าวสุริยา
เย่ว์หยางตวาดเสียงดังลั่นยิ่งกว่ากองทัพทั้งกองทัพเหนี่ยวสายธนูเต็มที่และยิงธนูที่แฝงพลังทำลายล้างออกไปทันที!
“เฟี้ยวววว”
สายธนูสะบัดเสียงดังราวกับอัสนีบาต
เร็วกว่าเสียง
ภายใต้การจับตามองของจ้าวสุริยา เขาเห็นแต่เพียงประกายสายฟ้าสีม่วงหายวับทันที
รอจนมันปรากฏอีกครั้ง
ธนูพุ่งผ่านทะลุม่านพลังของคัมภีร์ และจากนั้นทะลุโล่เพลิงเทพและทะลุผ่านปราณคุ้มกันร่างของจ้าวสุริยา
ทะลุหัวใจออกไปที่ด้านหลัง
เสียงสายฟ้าและประกายสายฟ้าดังขึ้นที่อีกด้านหนึ่งของโล่
เสียงธนูยังดังต่อเนื่องทะลุเสาค้ำภายในท้องพระโรงผ่านออกไปข้างนอก
นอกจากทิ้งร่องรอยเป็นรูที่ถูกยิงแล้ว ทั่วทั้งตำหนักม่วงทองไม่มีร่องรอยสายฟ้าสีม่วง
เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
จ้าวสุริยามีสีหน้าเหลือเชื่อ
เขาใช้โล่เพลิงเทพอสูรแล้ว
แต่ยังปล่อยให้เย่ว์หยางยิงเข้าหัวใจได้อย่างไร?
ม่านพลังป้องกันของคัมภีร์อัญเชิญไม่ส่งผลอะไรเลย
โล่เพลิงเทพอสูรก็ไม่สะท้อนพลังกลับไป ธนูนี่ไวมากขนาดนั้นเชียวหรือ? อย่าบอกนะว่าต่อให้เป็นเทพ
ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อพบกับธนูนี่
น่ากลัวเกินไป
ไม่น่าแปลกใจที่เย่ว์ไตตันรู้ว่าเขาคือจ้าวสุริยาแห่งตำหนักเทพสุริยะ
เขายังกล้าต่อกรกับตัวเขาเอง
เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญอาวุธเทพร่างมนุษย์ที่น่ากลัวนี่เอง!
โล่เพลิงเทพอสูรส่งเสียงร้องหึ่งๆ
เหมือนสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บแล้วร้องโหยหวน
“ฆ่า ต้องฆ่าเจ้าให้ตาย” จ้าวสุริยาไม่สามารถตรวจสอบและไม่คำนึงถึงโล่เพลิงเทพอสูรของเขา
เขาระเบิดปลดปล่อยพลังของตนเองเต็มที่
เขาคิดว่าเย่ว์หยางยังเหน็ดเหนื่อยกับการใช้พลังจากอาวุธเทพร่างมนุษย์เพื่อเร่งเผด็จศึก!
เขาจะไม่ยอมให้เด็กคนนี้ได้ใช้อาวุธเทพร่างมนุษย์อีกต่อไป นั่นเป็นเรื่องอันตรายเกินไปกับการเข้าไปใกล้เขา
เขาจะต้องใช้พลังทั้งหมดในตัวบดขยี้เจ้าเด็กนี่ในตำหนักม่วงทองนี้อย่างไม่หยุดยั้ง
พลังงานและระดับความแข็งแกร่งของเขาเหนือกว่าเจ้าเด็กนี่
ตราบใดที่เขาไม่มีโอกาสใช้อาวุธเทพร่างมนุษย์ ชัยชนะสุดท้ายจะต้องตกเป็นของเขา!
“ฮ่าาาาห์”
เสี่ยวเหวินหลีตวาด และใช้ทักษะแฝงเร้นพันธนาการของเธออย่างเต็มที่ ดวงตาของเธอมีเลือดหยาดหยด
“นี่คือสิ่งที่เจ้าสนใจไงเล่า!”
เย่ว์หยางไม่สนใจพลังหมัดหนักหน่วงของจ้าวสุริยาที่ต่อยใส่หน้าอกเขา
เมื่อทักษะแฝงเร้นพันธนาการของเสี่ยวเหวินหลีส่งผล เขายิงวงจักรล้างโลกออกไปทันที
วงจักรตัดผ่านทะลุอกของเขา ทำให้จ้าวสุริยาบาดเจ็บสาหัส
ทันใดนั้นจ้าวสุริยารู้สึกได้ถึงเงาแห่งความตายครอบงำก้นบึ้งหัวใจเขาทันที
ความกลัวตายที่เขาไม่พบเจอมานานแล้ว
ตอนนี้ความกลัวตายปรากฏชัดเจนสั่นสะท้านวิญญาณของเขา
เย่ว์ไตตันผู้นี้มีแม้กระทั่งวงจักรล้างโลก
กลยุทธ์ที่น่ากลัวเช่นนี้รอลงมือทำร้ายเขา
ผู้เยาว์อย่างเขามีทักษะไร้เทียมทานตั้งมากมายได้อย่างไร? นอกจากจะมีอาวุธวิเศษ สมบัติวิเศษระดับเทพ
และอาวุธเทพร่างอสูรแล้ว
เจ้าเด็กนี่ยังมีอาวุธเทพร่างมนุษย์
นั่นก็คือสองสาวพี่น้องมังกรจากเผ่าอสูรอมตะ
มีกระทั่งวงจักรนิรันดรและวงจักรล้างโลก
ทั้งยังเกิดมาเป็นที่รักของชาวสวรรค์
นี่นับว่าสวรรค์อยุติธรรมเกินไป!
เขาคิดว่าจีอู๋ลี่มีความภูมิใจในทักษะที่ไม่เหมือนใครในโลก
คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าเด็กนี่จะได้รับความรักเมตตาจากโลกและสวรรค์ขนาดนี้
วงจักรนิรันดร วงจักรล้างโลก
ทั้งหมดรวมอยู่ในที่เดียวกัน
หญิงสาวเผ่าพันธุ์มังกรก็ยอมรับใช้เป็นอาวุธเทพให้ เจ้าเด็กนี่เป็นใครกัน
จ้าวสุริยาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดิ้นให้หลุดจากทักษะแฝงเร้นพันธนาการของเสี่ยวเหวินหลี เมื่อวงจักรทะลุผ่านร่างเขาไป
เขากระโดดถอยหลังหลบหนีพลังทำลายล้างรุนแรงของวงจักรล้างโลก
และไปอยู่ที่ตำหนักม่วงทอง มองดูนิ้วตนเอง
เขาสูญเสียนิ้วไปสามนิ้ว
นั่นพิสูจน์ให้เห็นถึงความน่ากลัวของศัตรู
ตัวเขาเองมีพลังอำนาจในฐานะจ้าวสุริยา
ถ้าพ่ายแพ้ในการต่อสู้อย่างนี้
เปลี่ยนเป็นคนอื่น จะมิกลายเป็นเหยื่อโอชะของเย่ว์ไตตันหรอกหรือ?
8 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ยังไม่จบ...ตอนหน้าจะรอดูว่าเย่าว์หยางจะได้อะไรเป็นสินสงครามบ้าง
กลัวยืดไปอีก 2 - 3 ตอนอะดิ!!! หมดหน้าที่เเล้ว รีบตายไปเเล้วให้เฮียหยางไปเอาคัมภีร์เทพได้เเล้ว!!!
ขอบคุณครับ
ใจจ้า
นี่ขนาดกิเลนน้อยยังไม่ออกมานะ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
แสดงความคิดเห็น