ตอนที่ 991
สวยแต่ไม่มีประโยชน์?
ป้อมประตูทิศตะวันตก
อู่หลานแห่งเผ่ากาทองสามขาไม่สามารถรักษาท่าทีสง่างามเหมือนก่อนหน้านี้ได้อีกต่อไป นางเปลี่ยนร่างเป็นเผ่าพันธุ์เดิมกลายเป็นกาทองปีกกว้างถึงสิบเมตรต่อสู้กับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน ในการต่อสู้ครั้งนี้ นางประเมินองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไว้สูงมาก อย่างไรก็ตามนางยังมีฝีมือต่ำกว่า องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเองคาดไม่ถึงว่าอู่หลานจะสามารถต้านทานดาบเทพได้ อิคคาอยู่ในสภาพคลุ้มคลั่งควบคุมพลังไม่ได้
และสาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงผู้มีพลังเทพมังกรต่างประสานงานได้กลมกลืนเป็นอย่างดี
ถ้าไม่ใช่เพราะมีนางพญาดอกหนามมงกุฏทองตั่วตั่วผู้แข็งแกร่งที่สุดคอยเป็นกำลังสนับสนุนอยู่ด้านข้าง
พวกนางคงไม่กล้าพูดว่าสามารถเอาชนะได้เลยจริงๆ
ในทางกลับกัน
อู่หลานแห่งเผ่ากาทองตกอยู่ในสภาพยากลำบาก
นางไม่เคยคาดคิดเลยว่าภรรยาทั้งสองของเย่ว์ไตตันและอสูรพิทักษ์ของเขาจะแข็งแกร่งทรงพลังมากนัก
ด้วยพลังของนางยังต้องต้านรับพลังโจมตีของคู่ต่อสู้อย่างลำบากและตกเป็นรอง
ขนทองและกรงเล็บดำของนางได้รับความเสียหาย
อู่หลานยังไม่มีโอกาสฟื้นฟูร่างในสภาพที่พร้อมเต็มที่
ก็ถูกศัตรูจู่โจมอย่างหนัก
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือฝ่ายตรงข้ามยังไม่ได้ส่งกองกำลังทั้งหมดเข้าร่วมสู้ ยังมีสตรีอีกคนหนึ่งที่แข็งแกร่งที่สุด
และไม่รู้ว่านางมีความสามารถพิเศษขนาดไหน
ถ้านางพญาดอกหนามผู้แข็งแกร่งที่สุดลงมือ
เกรงว่านางคงไม่สามารถต้านรับได้ถึงสิบกระบวนท่าต่อไป นางคงจะพ่ายแพ้ทันที!
นี่ไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไร
อีกด้านหนึ่งราชินีเผ่าคางคกทองก็ยังไม่มาเสริมอีกหรือ?
หรือว่านางพบเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ เย่ว์ไตตันมีอสูรพิทักษ์อยู่เท่าใดกันแน่ เฉพาะที่นี่ก็มีถึงสามตน เขาเป็นมนุษย์จากหอทงเทียนอย่างเห็นได้ชัด
เป็นไปได้อย่างไรที่เขาโดดเด่นยิ่งกว่าอัจฉริยะชั้นสูงจากแดนสวรรค์บน?
ยิ่งสู้มากเท่าใด อู่หลานก็ยิ่งกังวลมากเท่านั้น
นางเริ่มถูกสตรีทั้งสามต้อน
นางถอยร่น
เสียงระเบิดสั่นสะเทือนจากการต่อสู้ทางด้านตำหนักม่วงทองดังสะท้านฟ้าสะเทือนดิน
และอู่หลานได้ยินเสียงร้องโหยหวนเลือนลางของจ้าวสุริยามากกว่าครั้งหนึ่ง
จ้าวสุริยาตกอยู่ในสภาพต่อสู้อย่างยากลำบาก
ไม่อย่างนั้นนางคงไม่อยู่ตลอดเป็นแน่
เดิมทีอู่หลานต้องการถอนตัวไปจากตำหนักม่วงทอง แต่ตอนนี้นางขจัดความคิดกังวลในใจออกไปแล้ว
“อู่หลาน!
นี่เจ้าใช้ไม่ได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
แค่นังผู้หญิงไม่กี่คน เจ้าก็รับมือไม่ได้!” ขณะที่อู่หลานกำลังถูกไล่ต้อน
ทันใดนั้นมีลำแสงพุ่งออกมาจากภายในส่วนลึกของตำหนัก กลายเป็นสตรีสูงศักดิ์หน้าตางดงามและมีเขางอกจากหน้าผากปรากฏที่ด้านหลังของอู่หลาน
ด้านหลังสตรีผู้นี้เป็นวานรทองแขนเหล็กหน้าตาน่าเกลียดสี่ตัว
พวกมันหามโลงทองคำขนาดใหญ่ไว้บนบ่า
“เร็ว, รีบมาช่วยข้าด้วย!”
อู่หลานปกติจะอยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับสตรีผู้นี้
แต่ตอนนี้นางไม่มีทางเลือกได้แต่ขอความช่วยเหลือ
“โอ๋ว... ปกติแล้วเจ้ามักอดทนไม่ใช่หรือ?” สตรีสูงศักดิ์พูดเย้ยหยัน ยืนดูอยู่เฉยๆ
ปฏิเสธที่จะช่วยในทันที
“น้องชี่เยี่ยน โอ๊ะไม่ พี่ชี่เยี่ยนรีบมาช่วยผู้น้องด้วย
กำลังของข้าจะหมดอยู่แล้ว
ตอนนี้ทรงตัวอย่างยากลำบาก คราวนี้ผู้น้องขอหลีกทางให้กับท่านพี่
ยินดีนั่งอยู่ในลำดับที่สาม”
อู่หลานพยายามกระพือปีกใช้พลังลมขับไล่อิคคาและเจี้ยงอิงให้กระเด็นออกไป
สำหรับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทันทีที่ศัตรูใหม่ปรากฏตัว
นางกลับไปหาจุ้ยมาวอี้และตั่วตั่วทันที
จุ้ยมาวอี้เห็นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยังมีสติ ไม่ปล่อยให้ความโกรธครอบงำ นึกชื่นชมนางในใจ
มีการแข่งขันและแสวงหาความสำเร็จอย่างดุเดือด
ต้องยอมรับว่าแม่เสือสาวฉลาดยอดเยี่ยม
ยกเว้นสาวหิมะ ใครจะเอาชนะนางได้?
อิคคาต้องการโจมตีต่อเนื่อง
แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนขวางดาบห้ามนางไว้
สาวมังกรไร้เขารีบกลับมาสมทบหลังจากองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทำท่าตั้งรับ เมื่อเห็นศัตรูตั้งท่าเตรียมพร้อม
สตรีงามสูงศักดิ์แค่นเสียงหยิ่งยโส
“แต่เดิมเจ้าก็เป็นลำดับที่สาม
ถ้าไม่ใช่เพราะความเจ้าเล่ห์เย้ายวนใจเจ้าจะกลายเป็นสนมรองได้อย่างไร ความจริงถ้าไม่ใช่เพราะนังแม่มดทองนั่นครอบงำฝ่าบาท
ข้าชี่เยี่ยนคงเป็นราชินีไปแล้ว!
อู่หลาน จำเอาไว้นะว่าวันนี้เจ้าพูดอะไรไว้...”
อู่หลานเคารพด้วยท่าทียอมแพ้
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนใช้ทักษะหกรับรู้เห็นว่าดวงตาของอู่หลานมีประกายสดใสอย่างคาดไม่ถึง
“พี่ชี่เยี่ยน! ผู้น้องเหน็ดเหนื่อยอยู่นานแล้ว
และในใจมีความวิตกกังวล
ข้าอยากขอร้องให้ท่านพี่ไปดูที่ตำหนักม่วงทองด้วย ผู้น้องสัญญาว่า
จะไม่ชิงดีชิงเด่นกับท่านพี่อีก!”
อู่หลานขอร้องด้วยอาการถ่อมตัว
“ต่อให้สู้แข่งขัน เจ้าก็สู้ข้าไม่ได้ ข้าเอาโลงทองมาเพื่อให้ฝ่าบาทมีทั้งกระดูกเทพ
และคัมภีร์เทพ
เมื่อรวมกับคัมภีร์เทพแล้วฝ่าบาทก็จะพิชิตคัมภีร์เทพได้ แล้วเจ้าจะทำอะไรได้? อย่าวุ่นวายอีกต่อไปเลย
กลับไปฟื้นฟูอาการบาดเจ็บเสียเถอะ
เกรงว่าเจ้าจะกลายเป็นแมวย้อมสีที่น่าเกลียด สร้างความอับอายให้กับฝ่าบาท!”
หญิงสาวสูงศักดิ์เชิดหน้าเหมือนหงส์ด้วยความหยิ่ง
“ก็ได้
อย่างนั้นผู้น้องขอเข้าไปพักในอุทยานสักครู่หนึ่ง รอให้อาการบาดเจ็บหายไป
แล้วค่อยกลับมาหาท่านพี่”
อู่หลานกระพือปีกบินสูงขึ้นตั้งใจจะหลีกออกไป
อิคคาเล็งปืนใหญ่ใส่นาง
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนลอบแตะนางบอกให้นางเพ่งความสนใจไปที่ชี่เยี่ยนผู้หยิ่งยโสข้างหน้านี้ ปล่อยอู่หลานที่ต่อสู้มานานไว้ชั่วคราวก่อน
และแทบจะในเวลาเดียวกัน
เจี้ยงอิงกับตั่วตั่วยกมือห้ามอิคคาและจุ้ยมาวอี้ให้รักษาตำแหน่งศูนย์กลางไว้
นางยิ้มและพยักหน้าเล็กน้อย
ไม่ต้องพูดอะไรอื่นแค่ลงมือร่วมกันทั่วไป แต่ฝ่ายตรงข้ามอยู่ในที่แจ้งมีแต่ต้องต่อสู้ดิ้นรน ถ้าอู่หลานยังอยู่ร่วมสู้พร้อมกับชี่เยี่ยนผู้หยิ่งยโส
บางทีอาจสู้ได้เสมอ
อย่างไรก็ตามศัตรูไม่เพียงแต่ไม่ทำเช่นนั้น แต่ยังเป็นเหมือนน้ำกับไฟที่เข้ากันไม่ได้
จุ้ยมาวอี้ยังคงมีความรู้สึกว่าการแยกตัวไปของอู่หลาน
เหมือนมีวัตถุประสงค์ซ่อนเร้นต่อฝ่ายตรงข้าม
อู่หลานรู้ความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามแน่นอน แต่นางไม่อาจใช้พลังลับเพื่อเอาชนะได้
นางต้องการใช้พลังฟื้นฟูร่างกาย ชี่เยี่ยนจะเป็นอย่างไร?
อู่หลานไม่ได้พูดให้ชัดเจนว่าจะต้องโจมตีศัตรูอย่างไร
บางครั้งศัตรูความรักก็น่ากลัวกว่าศัตรูนอกเสียอีก!
จุ้ยมาวอี้แทบตะโกน หวาดเสียวนัก โชคดีที่ไม่มีน้องๆ
ของนางคนใดที่ริษยานางอย่างอู่หลานกับชี่เยี่ยน มิฉะนั้นคงจะจบน่าอนาถ!
แน่นอนว่าตัวร้ายเย่ว์หยางวางตัวได้ดี ทุกคนสามารถสมานสามัคคีอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้
ฝึกฝนและก้าวหน้าไปด้วยกัน ความรักและมิตรภาพเกิดจากสิ่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเชื่อใจกันทำให้พวกนางยากจะแบ่งแยกกันได้ จุ้ยมาวอี้คาดว่าอู่หลานและชี่เยี่ยนที่อยู่ข้างหน้านาง
และราชินีที่นางไม่ได้พบเห็นมาก่อนพวกนางคงจะมีความริษยากัน
ควับ...
อู่หลานกระพือปีกสองสามคราก็หายไปไม่เห็นร่องรอย
เหลืออยู่แต่เพียงหญิงสูงศักดิ์นามชี่เยี่ยนยืนนิ่งหยิ่งผยองมองดูองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอย่างเย็นชาราวกับมองดูกลุ่มบ่าวไพร่
“......”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่พูดอะไร นางเหยียดมือออกและแผ่พลังเชื่อมใจกับเจี้ยงอิง
อิคคา ตั่วตั่วและจุ้ยมาวอี้
ทันใดนั้นนางแบ่งข้อมูลที่นางได้จากทักษะหกรับรู้ของนางและแผนปฏิบัติการในแง่มุมต่างๆ
กับทุกคน เจี้ยงอิงพยักหน้าและในเวลาเดียวกันก็เสนอความคิดเห็นกลับไปที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
ตั้งแต่เมื่ออยู่ในโลกพฤกษาบันไดสวรรค์ ขณะอยู่กับเย่ว์หยางที่บรรลุสำนึกพลังในขอบเขตพลังเทพ พวกนางได้รับสายแพรเชื่อมวิญญาณในลักษณะต่างๆ
กันซึ่งกลายเป็นปมเชื่อมใจ
ตราบเท่าที่พวกเขาเชื่อมโยงใจถึงกันและกัน ความคิดของพวกเขาจะถ่ายทอดถึงกันโดยไม่ต้องพูดโดยตรง
ในวันนี้เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นเรื่องลับและได้ความร่วมมือที่ดี องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจึงใช้ปมเชื่อมใจนี้
ชี่เยี่ยนผู้หยิ่งยโสไม่สนใจ
นางได้แต่แค่นเสียงดูถูกเหยียดหยาม
ทักษะธรรมดาเหลือเกิน
เรื่องแบบนี้สามารถตรวจสอบการส่งข้อความได้ง่ายๆ
น่าขันที่พวกเจ้ายังกล้าอวดอ้างความสามารถนี้หรือ? พวกเจ้าสองคนนี่โง่จริงๆ ข้าจะฉีกพวกที่อ่อนแอที่สุดก่อน มีคนโง่อยู่สาม
โอว..สี่ เจ้าเดินเหยียบย่ำอยู่บนดอกไม้
อสูรสายพฤกษา
ต่อให้แปลงร่างเป็นมนุษย์ได้
จะมีพลังต่อสู้แค่ไหนกันเชียว?
ความจริงใบหน้าเจ้าก็สวยดี
แต่พลังเล่า?”
อิคคาโกรธ
นางพญาดอกหนามมงกุฎทองตั่วตั่วยิ้มและส่ายหน้า “ใบหน้างดงาม นั่นของแน่อยู่แล้ว แต่ไม่มีผลอะไรต่อการต่อสู้ แต่สัตว์ประหลาดอัปลักษณ์อย่างเจ้า
เห็นแล้วทำให้คนอื่นอาเจียนได้ง่าย นั่นแหละที่ส่งผลต่อพลังต่อสู้ของคนอื่น!”
“นังแพศยา! ตายเสียเถอะ” ชี่เยี่ยนผู้หยิ่งยโสเมื่อได้ยินเช่นนั้น
นางมีสีหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียดทันที
ไม่ต้องรอให้สั่ง
วานรทองแขนเหล็กก็เหินบินออกมาข้างหน้า
มือทั้งสองของวานรแต่ละตัวถือลูกไฟตั้งใจจะสังหารตั่วตั่วในคราวเดียว
ตั่วตั่วหัวเราะเสียงเหมือนระฆัง
ไม่เพียงแต่ไม่ถอย แต่กลับเดินเข้าหา
นางกระโดดขึ้นไปในอากาศ
และโบกมือขณะที่ลูกไฟของฝ่ายตรงข้ามระเบิดอยู่ที่ด้านหน้า
นางวาดมือเหมือนการต่อสู้ของสตรีธรรมดา ชี่เยี่ยนเห็นเช่นนี้นางหัวเราะจนเห็นเขี้ยว
นางกระโดดกลับหลังเตะลูกไฟให้พุ่งไปที่หน้าผากของตั่วตั่วอย่างสวยงาม
นี่เกรงว่าถ้าเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับราชาถูกลูกไฟนี้เตะใส่ก็คงจะตายในทันที
ตั่วตั่วยิ้มเหมือนกับยินดีจะเผชิญพลังนี้
และถ้าลูกไฟระเบิดใส่หน้าของนางจะทำให้นางตาบอด
ชี่เหยียนฝึกซ้อมท่าเตะนี้มาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
ดูเหมือนว่านังเด็กผู้หญิงงี่เง่านี่จะไม่รู้ว่านี่อันตรายเพียงไหน เห็นได้ชัดว่าพลังเตะของชี่เยี่ยนกำลังจะเข้าปะทะที่ศีรษะของตั่วตั่ว แต่ทันใดนั้นร่างของตั่วตั่วมีดอกไม้บานสะพรั่งนับไม่ถ้วน
เป็นท่วงท่างดงามที่สุดในโลก และสร้างพลังยับยั้งขัดขวางพลังรุนแรงนี้
เย่ว์หยางสร้างพลังกฎสวรรค์น้อยเพื่อลดพลังงานระเบิดรุนแรงในร่างของนาง
ตอนนี้ไม่มีใครสามารถหยุดการเบ่งบานของดอกไม้นี้ได้
ไม่มีใครหยุดพลังกฎธรรมชาตินี้ได้
ศีรษะของนางพญาดอกหนามมงกุฎทองย่อลงเล็กน้อยรับแรงเตะของชี่เหยียน
ลูกไฟทั้งสองปะทะกันเองและระเบิดทำให้ตั่วตั่วจมอยู่ในกองดอกไม้สด
และพลังระเบิดสลายไปในทะเลดอกไม้
ชี่เยี่ยนมีสีหน้าตกตะลึง
นางไม่เคยคิดว่าจะเป็นเช่นนี้
นางต้องการถอย
แต่ก็พบว่าขาของนางถูกศัตรูยึดจับไว้ได้ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใด
หลังจากมึนงงอยู่ชั่วขณะ
ชี่เหยียนพบว่าร่างของนางถูกฉุดดึงลงอย่างแรงด้วยพลังมหาศาลแล้วฟาดนางกับพื้น
ปัง!
ชี่เยี่ยนรู้สึกว่ากระดูกทั่วร่างนางเหมือนกับแตกหัก
ก่อนความเจ็บจะแล่นไปทั่วตัว และนางไม่ทันจะได้ร้อง
ขณะที่ร่างร่วงลงพื้นมีเท้าอีกข้างหนึ่งย่ำบนหลังนางทำให้กระดูกสันหลังของนางแตกหัก ชี่เยี่ยนไม่สามารถยืนได้อีกต่อไป
นางได้แต่ส่งเสียงกรีดร้อง
นางร้องโหยหวนดังมากขึ้น
ตั่วตั่วชักดาบศึกทงเทียนออกมาฟันใส่ลำคอของชี่เหยียน
บาดแผลที่ลำคอเปิดออกและโลหิตฉีดพุ่งเหมือนน้ำพุ ชี่เยี่ยนเอามือกุมลำคอเจ็บปวดแสนสาหัส
และใช้มือข้างหนึ่งกระเสือกกระสนหนีอันตราย
ตั่วตั่วตามมาด้านหลังไม่ยอมปล่อยให้นางหนีไปได้ง่ายๆ นางเงื้อดาบทงเทียนขึ้นและแทงจนทะลุอกนาง
ชี่เยี่ยนผู้ถือดีกรีดร้องเพราะถูกเล่นงานจนบาดเจ็บหนัก
ร่างของนางเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กลายเป็นมังกรยักษ์สีแดง
ดาบทงเทียนแทงหลังนางไว้ลึก
การเปลี่ยนร่างเป็นมังกรไม่ได้ทำให้อันตรายเบาบางลงเลย มังกรแดงกระพือปีกอย่างบ้าคลั่ง
นางตั้งใจว่าจะบินหนีไปจากที่นี่เหมือนอย่างที่อู่หลานทำก่อนหน้านี้ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าสาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงรออยู่นานแล้ว
ตอนแรกเจี้ยงอิงเหวี่ยงตาข่ายใยแมงมุมเงินจากนั้นกลั่นสร้างมังกรวารีตัวใหญ่และนางตวาดลั่น
ดูซิว่ามังกรของเจ้าดุร้ายหรือมังกรของข้าร้ายกาจกว่า!”
มังกรวารีมีพลังกลืนโลก
มันฟาดร่างมังกรแดงซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสร่วงลงกับพื้นโดยตรง
ที่บนพื้นอิคคาเงื้อดาบนางฟ้ารออยู่แล้ว
แล้วฟันใส่เต็มกำลัง
ปีกซ้ายของมังกรแดงถูกตัดขาดโดยไม่รู้ตัว
มันบินหนีปล่อยให้เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ
มังกรแดงอ้าปากเตรียมพ่นไฟมังกร แต่ก่อนที่นางจะได้พ่นไฟ
ก็พบว่าอิคคายิงปืนใหญ่พลังงานออกมาก่อน และสะท้อนพลังไฟมังกรกลับมาเข้าไปในปากมังกร
ปัง!
แรงระเบิดจนพื้นสั่นสะเทือนกวาดกระจายออกไปด้านข้างพื้นที่ซึ่งวานรทองแขนเหล็กกำลังสู้กับจุ้ยมาวอี้จนกระเด็นออกไปหลายร้อยเมตร
วานรแขนเหล็กกลิ้งไปบนพื้นทีละตน
“กรี๊ดดดดดด”
มังกรแดงมีรูขนาดใหญ่ที่หน้าผาก
ชี่เหยียนเพิ่งตระหนักถึงพลังของศัตรูว่ามีพลังยิ่งใหญ่ เพียงแต่ยังไม่มีชื่อเสียง
ปรากฏว่าศัตรูเหล่านั้นพลังฝีมือร้ายกาจ
นางพยายามดิ้นรนบินหนี แต่ก็ทำไม่ได้
“ตอนนี้ใบหน้าของเจ้ายังสวยงดงามอยู่หรือเปล่า?” ตั่วตั่วบินลงมาจากท้องฟ้า นางใช้มือน้อยๆ
คว้าหางมังกรและดึงร่างขนาดใหญ่ของชี่เหยียนตวัดไปมาก่อนถาม “เจ้าบอกข้าว่าสวยแต่รูป แต่ไม่มีอะไรไม่ใช่หรือ?”
“อภัยให้ข้าเถิด” มังกรแดงกระอักโลหิต คราวนี้นางคิดขอความเมตตา
“มันสายเกินไป”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรวบรวมพลังอยู่ครึ่งค่อนวัน
ภายใต้การหนุนเสริมของพลังอสูรศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในตำนานคือมังกรฟ้า พยัคฆ์ขาว
หงส์เพลิงและพญาเต่าดำ และพลังของดาบเทพจักรพรรดิอวี้
ดาบของนางฟันใส่ศีรษะมังกรแดงชี่เหยียนขาด
ขณะเดียวกัน
ร่างโชกเลือดของบุรุษคนหนึ่งบินออกมาจากตำหนักม่วงทอง
นั่นคือเย่ว์หยาง
เขาทุ่มร่างจ้าวสุริยากระแทกกับประตูตำหนักและกระแทกพื้นทองจนสั่นสะเทือนอีกครั้ง
แต่จ้าวสุริยาไม่ได้รู้สึกดีแต่อย่างใด
ตอนแรกเขาปล่อยให้เสี่ยวเหวินหลีใช้ทักษะพันธนาการมัดร่างไว้หนึ่งวินาที
ทำให้อาหมันที่ตามมาเป็นกำลังเสริมใช้พลังหมัดเทพห้าธาตุต่อยเขาหนักยิ่งกว่าเย่ว์หยางถึงสิบเท่า... ถ้าไม่ใช่เป็นจ้าวสุริยา
เปลี่ยนเป็นคนอื่น
ถูกหมัดอาหมันหนักขนาดนี้แล้ว ร่างคงระเบิดตายในทันที
อาหงกัดฟันใช้มือโจมตีร่างกึ่งเทพสีทองของจ้าวสุริยา
ป้องกันไม่ให้เข้าไปช่วยร่างหลัก
เย่ว์หยางและจ้าวสุริยาร่วงไปที่เชิงบันไดทั้งคู่ บุรุษทั้งสองตาแดงไม่สนใจอาการบาดเจ็บ
สภาพแวดล้อมและพลังโจมตีของคนอื่น
พวกเขาเป็นเหมือนคนบ้าคลั่งต่างระดมหมัดใส่กันโดยไม่มีการป้องกันตัว
ร่างกึ่งเทพของจ้าวสุริยารีบเข้ามาช่วยเหลือร่างหลักทันที
ส่วนเย่ว์หยางมีเสี่ยวเหวินหลี
อาหงและอาหมันคอยช่วยเหลือ การต่อสู้ระยะประชิดยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีการหยุด
จนกว่าจะล้มกันไปข้างหนึ่ง
8 ความคิดเห็น:
อาหยางสู้ๆ.....✌️✌️✌️✌️✌️
มันส์
สุดยอด. ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ตัวปลากอบ อยู่นานเกิน
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
แสดงความคิดเห็น