ตอนที่ 1020
นี่จะเป็นการเดินทางที่สนุก!
วันต่อมายังไม่ทันสว่างดี
ชิงผิงมาเคาะประตู
สิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจก็คือคนที่เปิดประตูไม่ใช่หลิวเย่
แต่เป็นบุรุษคนหนึ่งสวมแว่นตาดำ
ถ้ามองดูแต่หน้าที่สวมแว่นตาดำปกปิดตา
ก็ดูค่อนข้างลึกลับ
แต่พอมองดูทั่วตัวกลับทำให้ชิงผิงกลัว
เพราะบุรุษประหลาดไม่ได้สวมเสื้อ และร่างกายท่อนล่างสวมใส่กางเกงชายหาดเท้าเปล่าเดินอยู่บนพรมขาว นางเห็นเขาหลั่งเหงื่อโชกเต็มตัว ชิงผิงตกใจคิดว่ามาผิดห้อง
นางย้อนกลับไปเล็กน้อยเพื่อดูหมายเลขห้องและพบว่านางไม่ได้มาผิดที่ นางถึงกล้าถาม “ท่านคือ....”
“อา..
เจ้าคือแม่นางชิงผิงที่เราเจอเมื่อตอนนั้นไม่ใช่หรือ? ยินดีต้อนรับ สองสามวันก่อนข้างานยุ่ง
ไม่มีโอกาสได้พบกับแม่นางชิงผิงเลย ไม่นึกเลยว่าจะมีโอกาส” ทันทีที่บุรุษคนนี้พูด ชิงผิงจำเขาได้ทันที
กลับเป็นเจ้าหนุ่มหน้าขาวที่ทำให้นางไม่สบายใจจนนอนไม่หลับเมื่อคืน
ถอดหน้ากากเงิน
สวมแว่นตาดำ ทำให้นางแทบจำเขาไม่ได้
ตอนนี้เมื่อเห็นเจ้าคนลามกนี่
นางเกลียดเขาจริงๆ
นี่นางนอนไม่หลับเพราะคนแบบนี้หรือนี่?
ในใจชิงผิงนางต้องการจะหันหลังกลับและนึกถึงว่าการเปรียบเทียบองค์ชายเทียนหลัวกับเจ้าผู้หยาบคายนี้เป็นการไม่สมควร
“น้องหลิวเย่อยู่ไหน?” ชิงผิงระงับความรู้สึกอยากต่อยเขาแล้วถามขึ้น
“นางยังฝึกอยู่ อย่าไปห่วงนางเลย เรามาคุยกันสองคนก็ได้”
เย่ว์หยางรู้สึกเหมือนเป็นสุนัขป่าที่พบกับลูกแกะ
“ข้ามีนัดกับพวกองค์ชาย
รอจะไปเที่ยวทะเลหมอกด้วยกัน
คงจะดีมากถ้าเจ้ามาเที่ยวด้วยกัน คนยิ่งมากก็ยิ่งสนุก!”
ชิงผิงคิดว่าคนผู้นี้หน้าหล่อขาว
ถ้าสามารถลอกหน้าคนผู้นี้มาสลับเปลี่ยนหน้ากับเย่คงนั่นจะดีเพียงไหน เพื่อให้ภารกิจสำเร็จ นางไม่ต้องการจะยิ้มหวานต่อเจ้าผู้นี้เลย ทั้งอยากด่าว่า ‘เจ้าลามกผู้น่าตาย’ แต่นางก็ยังยิ้มหวาน
เป็นเรื่องยากนักที่จะเช่าเรือท่องเที่ยวเลิศหรู ทุกวันนี้เป็นช่วงที่มีคลื่นหมอกควันมากและกระแสน้ำอุ่น ถ้าไม่ไปเที่ยวคงน่าเสียดาย นี่ไม่สุภาพเลยนะ จะให้ข้ารออยู่อย่างนี้หรือ น้องหลิวเย่จะฝึกเสร็จเมื่อใด?”
“ดูเหมือนนางจะเข้าถึงสนามพลัง...
คาดว่าคงไม่มีเวลาไปเที่ยวที่ไหนในช่วงวันสองวันนี้ ไม่ต้องห่วงนาง มีหลายอย่างที่เราไม่ควรรบกวนนาง” เย่ว์หยางบอกว่าหลิวเย่ไม่ว่าง
และชิงผิงลอบดูถูกเขาในใจ
ระแวงว่าเขาไม่ยอมปล่อยไปนางไปมากกว่า?
“เหรอ?
นางช่างขยันจริงๆ!”
ชิงผิงยิ้มหวานยิ่งกว่าน้ำตาล
แต่ในใจนางโกรธจนอยากจะฆ่าเจ้าคนลามกข้างหน้านี้
มีนางจะไม่รู้สึกสะดวกหรือเปล่า?
เมื่อได้ยินก็เข้าใจความคิดเขาผิดๆ พระเจ้า!
นางรู้ว่าหลิวเย่เป็นสาวน้อยที่บริสุทธิ์ ขยันทำไมนางต้องมาฟังเจ้าลามกนี่พูดด้วย!
คนอย่างนี้เป็นครูบาอาจารย์คนได้อย่างไร? ถ้าขืนมีคนลามกอย่างเจ้าผู้นี้เป็นอาจารย์
นับเป็นความโชคร้ายของนักเรียน... แน่นอนว่าชิงผิงแค่คิดในใจ แต่ไม่พูดออกมา ได้แต่ยิ้มเหมือนบุปผาแรกแย้ม อย่างไรก็ตามมีรอยเหยียดหยามอยู่ในสายตาที่เหมือนคมมีดนั้นเล็กน้อย
คาดว่าต่อให้เย่ว์หยางมีสิบชีวิตก็ต้องถึงจุดจบ
เย่ว์หยางบอกว่าหลิวเย่ไม่ว่าง
และชิงผิงจะไปแทนนางก็ได้เลย
เขาไม่รอให้ชิงผิงเปลี่ยนใจ รีบเอาชุดสวยงามเต็มไปด้วยลวดลายต่างๆ ชุดที่มีมีลวดลายสวยงามนั้นเป็นชุดแนบเนื้อทำให้เกิดเสน่ห์ดึงดูดในทุกท่วงท่าอิริยาบถ
เดิมทีเมืองไป๋เหอไม่อนุญาตให้สวมใส่เสื้อผ้าที่เผยจุดสำคัญของสตรีสามจุด
แต่ชุดนี้ออกแบบไว้อย่างฉลาดส่วนที่สำคัญของสตรีสามจุดถูกปิดคลุมไว้มิดชิด
เนื้อผ้าไม่ได้ผิดกฎ แต่เสน่ห์เย้ายวนใจไม่ได้ลดลง แม้ส่วนสงวนของสตรีก็ถูกปิดบังไว้เป็นอย่างดี
แต่กลับทำให้คนรู้สึกว่าผู้สวมใส่มีเสน่ห์
ชิงผิงรับมาดู
ความสามารถออกแบบนับว่าไม่ธรรมดา
สมกับเป็นตัวลามกอันดับหนึ่งของจักรวาล
“ชุดนี้งดงามมาก ท่านออกแบบเองหรือ?” ชิงผิงถาม
“มันแน่อยู่แล้ว นอกจากนักออกแบบผู้มีพรสวรรค์อย่างข้า ใครจะออกแบบชุดงดงามอย่างนี้ได้!
ต่อไปข้าจะออกแบบให้เจ้าก็ได้
ถ้าได้สังเกตรายละเอียดและวัดขนาดเจ้าก่อน” เย่ว์หยางภูมิใจจนไม่ได้สังเกตสีหน้าแปลกของชิงผิง
“อา..ขอบคุณ รอจนกว่าเจ้าว่างค่อยคุยกันอีกครั้ง!” ชิงผิงรีบปฏิเสธ ถ้าเขาให้นางสวมชุดที่ให้ความรู้สึกอย่างนั้น
บางทีองค์ชายอาจสูญเสียความประทับใจที่มีต่อนาง
ขณะที่บุรุษน้ำแข็ง และเย่คงคนหน้าซื่ออาจไม่พูดกับนางอีกต่อไป
“ข้ามีเวลาว่างตลอด เจ้ามาหาข้าเมื่อใดก็ได้ กลางคืนก็ได้ ข้าไม่ค่อยกีดกันสาวงามอยู่แล้ว” เย่ว์หยางพูดบางอย่างที่เป็นนัย
“ดูเจ้ากระตือรือร้นจริงๆ!”
ชิงผิงไม่เพียงแต่ฟังเขาพูดผ่านๆ
แต่ในใจยังคงเย้ยหยัน
คิดว่าเสื้อผ้าแค่นี้จะทำให้นางประทับใจได้หรือ? ยังไม่ต้องคิดถึงว่านางจะชอบองค์ชายเทียนหลัวหรือไม่
แม้แต่หนุ่มน้ำแข็งก็ยังดูดีมากกว่าเด็กหน้าขาวอย่างนี้ คนมากตัณหาอย่างเขาไม่มีใครสนใจแน่! นอกจากเจ้าอ้วนโง่!
ตอนนี้นางเสียใจเล็กน้อยที่มาที่นี่
ถ้านางไม่มาโรงแรมกางเขนเหล็กเพื่อชวนหลิวเย่ไปเที่ยว นางจะไม่มาวุ่นวายกับเจ้าหนุ่มหน้าขาว นางคงมีเวลาที่สนุกสนานกับองค์ชาย,
หนุ่มน้ำแข็ง และเจ้าผอมหน้าโง่แล้ว
ที่โชคร้ายที่สุดก็คือไม่ทันได้เชิญชวนหลิวเย่ แต่ปล่อยให้เจ้าเด็กนี่ติดตามมา
ไม่รู้ว่าองค์ชายจะยอมรับเจ้าหนุ่มหน้าขาวนี่หรือไม่
เมื่อวานนี้นางไม่พบเจอเขา เห็นแต่หลิวเย่ที่รีบปิดประตูส่งนาง นางรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เมื่อมาพบนางวันนี้ กลับเป็นเช่นนี้
ความรู้สึกที่น่าอึดอัดใจเมื่อคืนนี้เป็นแค่ภาพลวงตา
นางรู้สึกเศร้าขนาดไหนที่ต้องสูญเสียคนแบบนี้ไป?
ถ้าน้องหลิวเย่หนีออกไปตอนนี้
และฉุดดึงเจ้าหนุ่มหน้าขาวนี่กลับไป ก็คงโชคร้าย
นางต้องการฝึกฝนอย่างหนัก...
เจ้าเด็กหน้าขาวนี่ไม่ได้ฝึกอะไรเลยหรือ? บ้าบอจริงๆ คนอะไรออกแบบชุดราตรีแบบนั้นได้
ชิงผิงคิดว่าวันนี้นางอารมณ์ดีที่สุด นางจะพาเย่ว์หยางไปด้วย
และนางไม่ต้องลำบากกับการจัดการทีละคน
ในที่สุดนางมาถึงท่าเทียบเรือตะวันออก
เฒ่าเถี่ยเหมา เจ้ากอริลลา
มนุษย์กุ้งและกะลาสีอื่นกำลังตะโกนบอกต่อเรือสำราญท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่ทอดสมอหันหน้ารับแสงทองยามเช้างดงามรอนักท่องเที่ยวซึ่งกำลังโดยสารรถเข้ามา
นักท่องเที่ยวเหล่านี้มาจากเมื่อไป๋เหอเพื่อเยี่ยมชมทะเลหมอกในช่วงเวลานี้ มีแต่ช่วงเวลานี้ของปีทะเลหมอกจะงดงามที่สุดมีสีรุ้งที่ยากจะพบเห็น
“ทางนี้, อรุณสวัสดิ์องค์ชาย คุณชายทันหลาง คุณชายเย่!”
ชิงผิงใช้เวลากับเย่ว์หยางไม่กี่นาทีก็มาถึงท่าเรือตะวันออก เมื่อเห็นเจ้าอ้วนไห่
เย่คงลงรถไฟที่สถานีท่าเรือตะวันออก
นางปล่อยเย่ว์หยางฝ่ากระแสผู้คนไปพบใครบางคนด้วยความตื่นเต้น
“อรุณสวัสดิ์ ชิงผิง!” เจ้าอ้วนไห่ส่งเสียงดังยิ้มกว้าง
ขณะกินซาลาเปาเนื้อไปด้วย
“เฮ้, เจ้าอ้วน
เจ้าก็มาด้วยเหรอ”
ชิงผิงแสร้งทำเป็นพบเจ้าอ้วนไห่ แต่สาปแช่งอยู่ในใจ!
“เจ้าผู้นี้ใครกัน?
น่าเกลียดอย่างนี้ยังกล้าออกไปข้างนอกด้วยหรือ?” เมื่อเจ้าอ้วนไห่เห็นเย่ว์หยาง
เขาหงุดหงิดทันที ชูกำปั้นรี่เข้าหาเหมือนต้องการหาเรื่อง
“เจ้าไม่รู้จักกันหรือ?” ชิงผิงประหลาดใจเล็กน้อย
“ใครจะรู้จักเจ้างี่เง่านี่!”
เย่ว์หยางเตะเจ้าอ้วนไห่ล้มลงกับพื้น แล้วชิงซาลาเปาเอามาใส่กระเป๋าเก็บไว้กินต่อ
ฝีมือหยิบสิ่งของของเขานั้นดูเชี่ยวชาญ คาดว่าฝึกฝนมาไม่เกินสิบปี
เป็นไปไม่ได้ที่จะมีฝีมือถึงระดับนี้ได้
ชิงผิงตะลึงอยู่ชั่วครู่
นางเห็นเย่คงและพี่น้องตระกูลหลี่มีสีหน้าเหมือนคนไม่สนิทกัน
เฉยเมยก็ตัดสินได้ว่าพวกเขารู้จักกัน เพียงแต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน
ชิงผิงสังเกตอยู่นานและพบว่าเจ้าเด็กหนุ่มหน้าขาวมีสัมพันธ์ที่ดีกับเสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัว มีสัมพันธ์ธรรมดากับเย่คงและพี่น้องตระกูลหลี่
มีสัมพันธ์กับเจ้าอ้วนไห่เหมือนกับเป็นศัตรู
แน่นอนว่าเหตุผลที่องค์ชายเทียนหลัวทักทายเจ้าเด็กหน้าขาวอาจเป็นเพราะได้รับการอบรมมารยาทมาอย่างดี
ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน!
แต่ที่แน่ก็คือคนกลุ่มนี้รู้จักกันและคงมาจากถิ่นเดียวกันแน่นอน
เจ้าอ้วนไห่ลุกขึ้นจากพื้นอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ
เปลี่ยนเป็นคนอื่นคงรู้สึกอายขายหน้าต่อสาธารณชน แต่เขาตะโกนขึ้นอย่างไม่สนใจ “น้องหลิวเย่ของข้าอยู่ที่ไหน? ทำไมนางไม่มาด้วย?”
“อะไรนะ, หลิวเย่เป็นน้องสาวเจ้าหรือ? บังอาจ!
นางเป็นศิษย์ของข้า!”
เย่ว์หยางทำท่าขยับเท้าขู่ขวัญจนเจ้าอ้วนไห่จนถอยหลังกรูดดด
“ไม่จำเป็นต้องพูดเลย
เจ้าไม่ยอมให้นางออกมาเที่ยว”
คำพูดของเจ้าอ้วนไห่ทำให้ชิงผิงเห็นด้วยเป็นครั้งแรก
นางก็คิดแบบนี้เหมือนกัน
ต้องเป็นตัวลามกใหญ่นี้ที่เข้มงวดกับหลิวเย่
ดังนั้นเขาไม่ยอมปล่อยให้นางออกไปเที่ยวทะเลหมอกพร้อมกับทุกคน
การฝึกฝนเพื่อเข้าใจสนามพลัง
นั่นเป็นเรื่องอ้างโกหก
สาวน้อยอย่างหลิวเย่จะมีพลังถึงขนาดเข้าใจเรื่องของสนามพลังได้ยังไง? นางโง่พอให้เขาหลอกได้อย่างไร?
ทัศนคติที่นางมีต่อเย่ว์หยางเปลี่ยนเป็นเลวร้ายกว่าเดิม! คนแบบนี้นอกจากหน้าตาดีแล้วไม่มีอะไร! ถ้าหน้าตาของเขาเปลี่ยนได้กับเย่คง
บุรุษน้ำแข็งและองค์ชายได้ก็คงเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรสูญเปล่า!
เย่ว์หยางแค่นเสียงย้อนคำถามเจ้าอ้วนไห่ “เจ้าดีแต่ผายลม ข้าปกป้องหลิวเย่
นางยังเป็นลูกศิษย์ของข้า
ข้าทรมานนางหรือไง?
นางยังเยาว์วัย
ยังไม่เข้าใจว่าหัวใจของมนุษย์นั้นน่ากลัวเพียงไหน
เป็นเรื่องอันตรายที่จะพานางไปขึ้นเรือเที่ยวเล่นด้วย!”
เจ้าอ้วนไห่ไม่ค่อยมั่นใจ “นอกจากเจ้า
ใครอื่นยังจะหลอกนางได้!”
“เจ้าอ้วนบ้า, คันเนื้อคันตัวมากนักใช่ไหม? หรือว่ากำลังหาเรื่องตาย...”
“สู้กันก็เหมือนกับได้กินอาหารนั่นแหละ!”
“ทำไมเจ้าไม่แกล้งตายอีกเล่า? มิฉะนั้นเราคุณชายจะแล่เนื้อไขมันเจ้าแล้วทอดเอาน้ำมัน!”
“ข้ากลัวจริงๆ
ถ้าเจ้าเคลื่อนไหวเล็กน้อย ข้าจะแอบย้อนกลับไปเปิดประตูบ้านของเจ้า!”
ชิงผิงต้องการไกล่เกลี่ยให้พวกเขา
แต่ก็พบว่าเย่คงและพวกทำเหมือนว่าเรื่องทะเลาะวิวาทกันนี้เป็นเรื่องธรรมดาที่เห็นได้ทั่วไป
นางได้แต่ถอนหายใจ
การทะเลาะกันของคนพวกนี้เป็นเรื่องปกติ! ขณะที่นางยังไม่ได้ตรวจสอบตั๋วโดยสาร
นางยังคงคุยกับเย่คงและคนอื่น
เมื่อองค์ชายเทียนหลัวชมกระโปรงสีเขียวอ่อนของนางว่าน่าสนใจ
นางทำเขินอายบอกว่าได้เมื่อตอนวันเกิดครบสิบหกปี
ตอนนี้ค่อนข้างสั้นเล็กน้อย
ทันทีที่นางพูดถึงเรื่องเสื้อผ้า
เย่ว์หยางเหยียบเจ้าอ้วนไห่และรีบเข้ามาร่วมวงสนทนาทันที
“กระโปรงสั้นตรงไหนกัน? กระโปรงปิดเข่า
ข้าว่ามันยาวเกินไป!
กระโปรงสั้นคืออะไร
ต้องพูดถึงกระโปรงสั้นจิ๋วในตำนาน”
เมื่อเจ้าอ้วนไห่ได้ยินคำว่ากระโปรงสั้นจิ๋ว
ตาของเขาเป็นประกายเหมือนหมาป่าทันที
“กระโปรงสั้นจิ๋วในตำนานคืออะไร?”
เย่ว์หยางพึมพำ “นั่นคือกระโปรงที่สั้นมากๆ กล่าวกันว่ามีแต่คนระดับเจ้าพ่อเท่านั้นที่เห็นได้”
“เจ้าพ่อ?”
เจ้าอ้วนไห่ถาม เจ้าพ่อนี้คือเทพม้าหรือเปล่า?
“กล่าวกันว่าเจ้าพ่อ
เป็นคำเรียกของภาษาลับโบราณหมายถึงสุดยอดนักสู้ที่หายสาบสูญไปนานมาก”
เย่ว์หยางเย่ว์หยางอวดภูมิรู้ที่คนอื่นไม่มีทางรู้ได้อย่างแท้จริง นี่เป็นความรู้จากโลกก่อน
“เจ้าพ่อนี้ ก็เหมือนกับเทพเจ้า....” เจ้าอ้วนไห่เสนอหน้าทันที “ข้าอยากเป็นเจ้าพ่อบ้าง จะได้มองดูกระโปรงสั้นจิ๋วให้เต็มตา!”
“ดูเหมือนสวะอย่างเจ้าน่ะหรือ?
ในสมัยเด็กเจ้าไม่รู้จักอ่านเรียนให้ดี แล้วอยากจะเป็นเจ้าพ่อน่ะหรือ? เจ้าอยากเห็นกระโปรงสั้นจิ๋วจริงๆ หรือ? ประสาทจริงๆ
เด็กๆ! ต่อไปพวกเจ้าต้องเตือนเจ้าอ้วนนี่
อย่าให้ได้พบจุดจบที่น่าอนาถอีก!”
เย่ว์หยางเขกกะโหลกเจ้าอ้วนไห่ เหมือนเป็นการเตือนเย่คง เสวี่ยทันหลาง
องค์ชายเทียนหลัวว่าพวกเขาควรจะฝึกฝนให้หนักขึ้นทุกคนวัน
“ในโลกนี้มีกระโปรงสั้นจิ๋วจริงๆ หรือ?” ชิงผิงไม่เคยได้ยินเรื่องทำนองนี้
“อะแฮ่ม,
เจ้ารู้เรื่องการออกแบบเสื้อผ้ายุคโบราณแค่ไหน?
เกี่ยวกับกระโปรงสั้นจิ๋วในตำนานนี้มีอยู่ในคัมภีร์โบราณชื่อว่า คัมภีร์ไซอิ๋ว ข้าได้เห็นครั้งหรือสองครั้ง
แต่ข้ามีปัญหาในการทำความเข้าใจ
จนกระทั่งข้าได้เข้าใจว่านั่นเป็นเหมือนเสื้อผ้าเทพที่มีมาแต่โบราณดึกดำบรรพ์ จะต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งมากๆ จึงจะมีโอกาสได้ใส่” เย่ว์หยางส่งสัญญาณให้ทุกคนฟังเรื่องราวของเขา
“โปรดอธิบายเพื่อคลายความเขลาเบาปัญญาให้เราด้วย!”
เจ้าอ้วนไห่อดแสดงความนับถือไม่ได้
“คัมภีร์โบราณไซอิ๋ว ทำไมข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน?” ชิงผิงยังคงสงสัยอยู่ในใจ
“ไซอิ๋วกล่าวถึงเรื่องราวการต่อสู้กับโชคชะตาของวานรกำพร้า
เป็นเรื่องไม่ยาวแต่น่าซาบซึ้งตรึงใจยิ่งนัก
เมื่อเจ้าลิงตัวนี้โดดออกมาจากเขาห้าดรรชนีปรากฏตัว
และไล่ฆ่าเสือแก่แล้วถลกหนังของมันมานุ่งเป็นกระโปรงสั้นหนังเสือ” เจ้าอ้วนไห่ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น “โหว...กระโปรงต้องสั้นจริงๆ! สามารถทำลายภูเขาห้าดรรชนีออกมาได้
ฆ่าเสือแก่ เย็บเป็นกระโปรงสั้น เขาคือเจ้าพ่อใช่หรือเปล่า?”
“ไม่, เจ้าพ่อนั้น
แข็งแกร่งอย่างที่ข้าไม่เคยพบเจอมาก่อน”
เย่ว์หยางทำหน้าเสียดาย
“แล้วกระโปรงสั้นจิ๋วนี่เรื่องจริงหรือ?” ชิงผิงเมื่อได้ยินเรื่องจริงเล็กน้อย นางสงสัยว่าเจ้าลามกผู้นี้ไม่น่าสามารถแต่งเรื่องราวที่ดีอย่างนี้ได้ จากนั้นนางถามต่อ “เหมือนกับอะไร?”
“ความจริงเป็นภาพวาด ข้าไม่เคยเห็น
แต่ถ้าทำตามตำนาน ข้าต้องสิ้นเปลืองแรงกายแรงใจ
กว่าจะเลียนแบบได้เพียงไม่กี่จุด”
เย่ว์หยางพูดอย่างไม่เห็นแก่ตัว
“เมื่อข้าทำเสร็จข้าจะส่งรูปไปให้เจ้าดู
คาดว่าถ้าอย่างเจ้าได้สวมใส่คงดูดีเป็นแน่” เขาพูดจบ เจ้าอ้วนไห่ เย่คงปรบมือโห่ร้อง
“จริงหรือ?
ข้าต้องขอบคุณไว้ก่อน...”
แม้ว่าชิงผิงจะรู้สึกอึดอัดใจกับเย่ว์หยาง
แต่นางอยากสวมใส่ชุดในตำนานจริงๆ
เฒ่าเถี่ยเหมาเดินเข้ามาหาและขออย่างสุภาพให้เย่ว์หยางกับพวกขึ้นเรือ และจากนั้นเรือสำราญเปิดเสียงหวูดเรือ
การเดินทางไปทะเลหมอกเริ่มขึ้นแล้ว การเดินทางจะเป็นเช่นไร? จากรอยยิ้มบนใบหน้าของเย่ว์หยาง
เจ้าอ้วนไห่และเย่คงกับพวก ดูก็รู้ว่านี่เป็นการเดินทางที่สนุก
…………………………
4 ความคิดเห็น:
โธ่..ออกทะเลแล้ว(งง)
เอสไปฆ่าชัดๆ (แต่ฆ่าผิดคนจริงๆ)
นี่มันอะไรกันครับเนี่ย
เมิงจะหลอกเงือกใส่จับปิ้งใช่มะ กรูรู้นะ
แสดงความคิดเห็น