วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1045 จอมปีศาจไคเทียน



ตอนที่  1045  จอมปีศาจไคเทียน

เริ่นเทียนเกอมองเห็นได้ว่าเด็กใหม่ผู้นี้ก็คือหนุ่มน้อยที่เพิ่งเข้ามาร่วมในกลางทางและเป็นดึงดูดความสนใจของบัณฑิตตาเงิน


ในเวลานั้นถ้าไม่ใช่เพราะเขากระตือรือร้นรีบเข้าไปล่าสมบัติลับโบราณ  เขาอยากเห็นจริงๆ ว่าทำไมเขาถึงทำให้บัณฑิตตาเงินสนใจเขาได้

ตอนนี้ด้วยพลังของเด็กหนุ่มผู้มาใหม่สามารถหลบหนีได้สำเร็จหรือ?

ที่น่าเหลือเชื่อที่สุดก็คือเขาพาสหายอีกสามคนออกมาได้

 “เทพทราย!

พระยายมซิวอิ่งหลังจากมองดูอยู่นาน ทันใดนั้นดูเหมือนเขาจะเข้าใจบางอย่างทันที

เขาหยิบคนโทเจ็ดสีออกมาจากนั้นโปรยละอองเรืองแสงรอบๆ ตัว  แสงสว่างสดใสเปิดเผยสิ่งที่อำพรางรอบตัวพระยายมซิวอิ่งมีช่องตารางและช่องว่างจำนวนมากลักษณะคล้ายตะแกรงปรากฏขึ้น ยักษ์ดาบทองแสดงให้เห็นถึงพื้นที่มิติพิเศษภายในโล่พลังสีทอง

ในโลกนี้ไม่กลับพลิกคว่ำอีกต่อไป ทุกอย่างไม่แปลกประหลาดอีกต่อไป

เหตุผลที่สุดยอดนักสู้ผู้แข็งแกร่งอย่างพระยายมซิวอิ่งรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก ก็เพราะพวกเขาทั้งหมดกำลังยืนอยู่ที่ขอบฟ้าและดินตั้งใจจะเดินผ่านออกไปมิติภายนอกที่ไม่มีที่สิ้นสุด  ดังนั้นจึงถูกพลังกฎสวรรค์สะท้อนกลับ ไม่สามารถผ่านไปได้

และแทบจะในทันทีร่างของทุกคนกลับคืนสู่สภาพธรรมชาติ ไม่ท้าทายอำนาจกฎสวรรค์อีกต่อไป

แต่เริ่นเทียนเกอและผู้นำอื่นตระหนักได้ว่า เมื่อครู่นี้ยักษ์ดาบทองเพิ่งฆ่าคนไปหมื่นคน

ไม่ใช่เพราะฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่ง

แต่ตำแหน่งที่คนทั้งหมื่นยืน อยู่ในแนวรอยแยกมิติ เมื่อตกลงไปแล้วจะกลายเป็นผุยผงในไม่กี่วินาที

 “คิดไม่ถึงว่าข้าลังเลไม่ยอมใช้เทพทรายวิเศษมาหลายพันปีแล้ว ไม่เคยคิดว่าจะมีวันได้ใช้ออก” พระยายมซิวอิ่งทั้งดีใจและโกรธ  เขาดีใจที่ได้ชีวิตคืนมาโดยไม่ต้องกังวล  เขาโกรธเพราะในฐานะหัวหน้าฝ่ายค่ายมารกลับถูกศัตรูหลอก  หากไม่ใช่เพราะเจ้าเด็กนี่หนีได้สำเร็จ  คาดว่าทุกคนคงตายที่นี่กันหมด

 “ฆ่ามัน”

จอมถลกหนังเป็นคนแรกที่บุกเข้าโจมตี

หากไม่มีการคืนสภาพธรรมชาติ ภายใต้ผลสะท้อนของพลังกฎสวรรค์  หากโจมตีใส่ยักษ์ดาบทองที่กำลังล่อลวง นั่นเท่ากับฆ่าตัวตาย  แต่ตอนนี้แตกต่างกัน สภาพธรรมชาติปกติคืนสภาพแล้ว  ไม่มีใครโง่โจมตีพลังกฎสวรรค์ที่มิอาจโยกคลอนได้  แต่ตอนนี้โจมตียักษ์ดาบทอง จอมถลกหนักเซี่ยทีมีความคิดจะท้าทายเทพของเทพที่หลอกลวงผู้คน

พลังที่สามารถทำลายฟ้าทำลายดินฉีกมิติในพื้นที่ยาวถึงร้อยเมตร

และมีความกว้างราวสามเมตร

ในมิตินั้น ทุกอย่างกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย

ด้วยพลังของเซี่ยทีมิติแตกเกิดรอยแยกอย่างเง่ายดาย ถ้าไม่ใช่เพราะเขากลัวว่าจะไปสัมผัสพลังของกฎสวรรค์ซึ่งอยู่ที่ขอบเขตแดน  เขาสามารถใช้พลังที่มากขึ้นสร้างความเสียหายที่น่ากลัวยิ่งขึ้น

จอมถลกหนังโจมตีอย่างเสียแรงเปล่า!

 “เจ้าตัวตลกที่หลงตัวเอง!  ยักษ์ดาบทองแค่เหยียดนิ้วก็รับพลังโจมตีของจอมถลกหนังได้อย่างง่ายดาย

 “ซี่.....”

เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวดังกล่าว ทุกคนอดสูดหายใจหนาวเหน็บมิได้

แม้ว่ายักษ์ดาบทองจะหลอกทุกคน และไม่ได้เป็นคนที่ฆ่าผู้ท้าทายผ่านด่านหมื่นคนด้วยตนเอง แต่พลังของเขาน่ากลัวอย่างมิต้องสงสัย

 “หักคอ ทำร้ายอวัยวะภายใน แยกสังขาร ควักหัวใจ ถลกหนัง หักซี่โครง ขูดกระดูก!  จอมถลกหนังเซี่ยทีโกรธพอๆ กับราชสีห์ลงมือโจมตีเป็นจักรผัน  แต่ยักษ์ดาบทางยังคงใช้มือซ้ายข้างเดียวโดยไม่ต้องใช้มือขวาสู้ตอบโต้  จนถึงบัดนี้ทุกคนจึงเข้าใจว่ายักษ์ดาบทอง แม้ไม่ใช้พลังดาบ ก็ฆ่าคนเป็นพันๆ คน  เขาไม่ใช่ผู้นำแม้แต่น้อย แต่ไม่มีพลังพอจะฆ่าได้

 “ลงมือพร้อมกัน เราน่าจะได้เปรียบมากกว่า”  พระยายมซิวอิ่งและพวกมีสายตาขนาดไหน สามารถตัดสินได้จากการดูการต่อสู้ระหว่างเซี่ยทีและยักษ์ดาบทองได้  ยักษ์ดาบทองไม่ต้องใช้ดาบก็ไม่กลัวต่อการรุมล้อมของคนที่เหลือ!

 “เป็นยังไงบ้าง”  เริ่มเทียนเกอในเวลานี้ยังต้องฟังคำแนะนำของบัณฑิตตาเงิน

 “ความเป็นไปได้ต่อการเอาชนะมีเจ็ดลักษณะ บาดเจ็บอย่างเบา 20%  บาดเจ็บหนัก 10%  ฆ่าได้สำเร็จ 1% หรือแทบเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้ต่อให้มันบาดเจ็บหนัก เราก็ต้องจ่ายราคามาหาศาล”  บัณฑิตตาเงินตัดสินได้แม่นยำกว่าพระยายม  หลังจากคำนวณการต่อสู้แล้วสามารถสู้ได้แต่คาดว่าน่าอนาถมาก  เงื่อนไขอีกฝ่ายก็คือต้องไม่มีผู้ช่วย

 “ไปกันลุยกันเลย” บุรุษผมแดงฮ็อกพอได้ยินว่ามีโอกาสเป็นไปได้ 70% คิดว่ายังจะรั้งรออะไรอีก?

 “ตื่นเต้นมาก!  บุรุษหน้ากากชิงหมอรู้สึกว่าตอนนี้ต้องร่วมมือกัน มีความเป็นไปได้ว่ายักษ์ดาบทองจะเอาชนะพวกเขาทีละคนและสูญเสียความได้เปรียบในการรบอีกครั้ง

 “เชียนจ้ง!  พาคนออกจากประตูลับ กระจายนักสู้ฝีมือดีออกไปตามค่ายข้างบนและขอกำลังเสริมมาช่วย  ดีที่สุดถ้าเจ้านำทัพกลับมาด้วยตนเอง”  เริ่นเทียนเกอในฐานะหัวหน้าใหญ่รู้ความสำคัญของกำลังเสริม  ถ้าได้หัวหน้าจากค่ายข้างบนมาสมทบช่วย เชื่อว่าสถานการณ์การต่อสู้จะดีขึ้น

 “เจ้าก็ต้องทำเหมือนกัน จ้าวหมูป่า”  จ้าวกระดูกจินหายยังคงสั่งพวกในค่ายฝ่ายเดียวกันตนให้กลับค่ายมารเรียกกำลังเสริม

เขาเลือกท้าทายเทพ

แน่นอนว่าไม่ใช่งานที่จะทำให้สำเร็จได้ในค่ำคืนเดียว

ทั้งเริ่นเทียนเกอและหัวหน้าค่ายฝ่ายมารเตรียมพร้อมสำหรับสงครามยืดเยื้อ

เชียนจงผู้รูปงามและเป็นมิตร เขาเป็นพันธมิตรของเริ่นเทียนเกอที่น่าเชื่อถือได้ ไม่อ่อนแอและมีความเฉลียวฉลาด  เขาไม่วู่วามเหมือนฮ็อก ไม่อำมหิตเหมือนชิงหมอ  หากให้ฮ็อกหรือชิงหมอกลับไปเริ่นเทียนเกอไม่สบายใจนัก ส่วนบัณฑิตตาเงินนั้นขาดไม่ได้ ต้องให้เขาอยู่ด้วย  ดังนั้นเขาจึงส่งมือกระบี่รูปงามเชียนจงออกไป

ในอีกด้านหนึ่งค่ายฝ่ายมารมีราชาหมูป่าที่หน้าดุร้ายและพลังแข็งแกร่งแต่มีความละเอียดอ่อนถูกส่งออกไป

เชียนจงและจ้าวหมูป่าต่างรับคำกลับไปนำกำลังเสริมให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้  นอกจากนี้ยังป้องกันนักสู้ฝีมือดีไม่ให้ตกอยู่ในกับดักและค่อยๆ ถอนตัวออกจากประตูเทเลพอร์ตที่สาม

 “ข้าคิดว่าค่ายของเราควรหยุดทำสงครามไปก่อน  เจ้าคิดว่ายังไง?”  ก่อนจะอำลาแยกกันจ้าวหมูป่ายื่นข้อเสนอที่ดี

 “ดีเหมือนกัน”  มือกระบี่รูปงามเชียนจงพยักหน้า

นักสู้ฝีมือดีทั้งสองฝ่ายค่ายต่างซาบซึ้ง  และถ้าพวกเขาท้าทายเทพเจ้าสงคราม สงครามดุเดือดต้องปะทุขึ้นอย่างแน่นอน

ผลที่ตามมาจะเป็นหายนะที่ค่ายทั้งสองอาจจะสูญพันธุ์  และผู้นำอย่างเริ่นเทียนเกอ บัณฑิตตาเงินและซิวอิ่ง, จินหาย, เซี่ยที ฯลฯ สุดยอดนักสู้จะถูกเทพเจ้าทำลาย  หลังจากทั้งสองค่ายได้รับความเสียหายรุนแรงอย่างหนัก การสู้รบที่ดุเดือดอาจกลายเป็นสงครามครั้งสุดท้ายที่มีการนองเลือด  สงครามจะอยู่เหนือการควบคุม  ผู้ท้าทายผ่านด่านแต่ละคนจะติดอยู่ในการสู้รบยากจะหลบหนีได้!

เพื่อให้เกิดความสงบสุข และผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายสงครามจะสงบลง

ปรากฏว่าฝ่ายค่ายมารที่หยิ่งยโสและจ้าวหมูป่าที่มีพลังเหนือกว่ามือกระบี่เชียนจงเล็กน้อย เปิดโอกาสเสนอเงื่อนไขที่ดีอย่างนั้น

 “ลาก่อน” จ้าวหมูป่ามองดูมือกระบี่รูปงามเชียนจงเห็นด้วยกับเขา  เขาลอบยินดีและกล่าวคำอำลาอย่างสุภาพที่สุดในชีวิต  นี่เป็นครั้งแรก ที่เขาทำอย่างนี้กับผู้ท้าทายฝ่ายเทพ  แสดงให้เห็นว่าจ้าวหมูป่าให้ความจริงใจกับการร่วมมือในครั้งนี้

 “เชิญ, ข้าไม่ส่งไกลกว่านี้แล้ว...”  เชียนจงหัวเราะและกล่าวตามมารยาท

ขณะเดียวกันทั้งฝ่ายพันธมิตรเทพและฝ่ายค่ายมารต่างคำนับอวยพรให้กัน  ทุกคนต้องการร่วมมือกันท้าทายเอาชนะเทพช่วยพี่น้องที่ติดอยู่ในกับดักได้

ขณะที่ทั้งสองฝ่ายเตรียมจะแยกจากกัน

มือกระบี่หนุ่มรูปงามเชียนจงผู้มีมารยาทยกมือและชักกระบี่ทันที

พลังกระบี่ที่แผ่ออก

มีพลังยิ่งใหญ่กว่ายักษ์ดาบทองที่เพิ่งฆ่าคนไปหมื่นคน  ภายใต้สายตาสิ้นหวังของจ้าวหมูป่า มือกระบี่เชียนจงปกติมีพลังปราณฟ้าระดับห้า สามารถฆ่าจ้าวหมูป่าและยอดฝีมือเกือบร้อยคนในรวดเดียว จ้าวหมูป่ามีพลังปราณราชันย์ระดับหกถูกพลังปราณกระบี่ผ่าร่างเป็นสองส่วนตายในทันที

แม้ว่าจะลอบโจมตี ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพลังกระบี่นี้เพียงพอต่อการสังหารได้ทุกคน

มือกระบี่รูปหล่อสอดกระบี่คืนฝักช้าๆ และพูดกับพื้นที่ว่างเปล่า  “เด็กน้อย  เจ้าจงออกมา  ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าเจ้ารู้จักตะแกรงมิติฟ้าได้อย่างไร?  ข้าไม่เข้าใจว่าเด็กน้อยอย่างเจ้าหนีพ้นกับดักออกมาได้อย่างไร?  ทำไมเจ้าต้องช่วยชีวิตมดแมลงสองสามตัวนั้นด้วย?    ข้าไม่ระแวงระวังเจ้า  เจ้ารู้ไหมว่าเป้าหมายเดิมของข้าคือเริ่นเทียนเกอ แต่ตอนนี้ข้าสนใจเจ้าเป็นที่สุด!

เย่ว์หยางและทอเรนเป่ย เจ้าสี่แขนและเจ้าสัวอ้วนเตี้ยหน้าซีดขาวตัวสั่นยืนตะลึง  และหัวหน้าตาเดียวบาดเจ็บสาหัสยังไม่ได้สติค่อยๆ ปรากฏในอากาศ

นอกจากเขาแล้ว ไม่มีใครหัวเราะออก

ขณะเห็นมือกระบี่รูปงามเชียนจง เย่ว์หยางยิ้มสดใสเหมือนดวงอาทิตย์  “ข้าเองก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าจอมปีศาจในตำนานจะกลายเป็นหนุ่มน้อยรูปงามเช่นกัน!

 “บางคนยิ่งเวลานานวัน ก็ยิ่งหล่อขึ้นเป็นเรื่องช่วยไม่ได้...”  มือกระบี่รูปงามเชียนจงไม่ปฏิเสธ แต่กลับหัวเราะให้เย่ว์หยางราวกับพบกับสหายเก่า  “เด็กน้อย!  เจ้าไม่เลว  ข้าเห็นว่าบุรุษผู้มีสติปัญญายิ้ม ยังดีกว่าสตรีงามเสียอีก  เด็กน้อยอย่างเจ้าจะฆ่าทิ้งก็เสียดาย  เจ้าจะมาเป็นบริวารของข้าไหม?”

 “ถ้าข้าเป็นสตรี ข้าอาจรับพิจารณา  แต่ข้าไม่สนใจบุรุษ”  เย่ว์หยางปฏิเสธ

 “ไม่มีทาง ข้าไม่อาจปล่อยให้เด็กหนุ่มที่ดูดีมีศักยภาพมากกว่าข้าได้เติบโตตามวิถีแล้วกลับมาคุกคามชีวิตของข้า”  มือกระบี่รูปงามเชียนจงถามย้ำให้แน่ใจ  “เจ้าจะไม่คิดดูให้ดีหรือ?  เจ้าก็รู้ด้วยพลังปัจจุบันของเจ้า ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้!

 “ถูกต้อง โจมตีต้องมีพลังเพียงพอ ว่าแต่ข้ายังไม่แพ้ไม่ใช่หรือ?” เย่ว์หยางยิ้ม

 “เจ้าจะหนีหรือ?” มือกระบี่เชียนจงมีสีหน้าสงสัย

 “ก็ลองดูได้”  เย่ว์หยางมั่นใจทักษะการหลบหนีของเขา

6 ความคิดเห็น:

โอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่า กล่าวว่า...

นึกว่าตาแก่ตาเรืองแสงซะอีกผิดคาดแหะ

Popcorn กล่าวว่า...

ได้สองจริงๆ ขอบคุณๆ อาหยางลำบากแล้ว

zen zen กล่าวว่า...

ก็สงสัยบันดิดตาเงินอยู่นานที่แท้เป็นเอ็งนี่เองแต่ไอ่หยางคงไม่ตายหรอกมันเป็นพระเอกถึงตายก็คงฟื้นมาใหม่

Lazykuma กล่าวว่า...

ตอนแรกผมคิดว่าตาเงินนะนั้นเพราะสังเกตุุุเห็นพี่หยางก่อน พล๊อตพลิกเฉย

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณผู้แปลใจดีครับ...

ulomzx กล่าวว่า...

T-Tถูกหักหลังหมดคนเลย

แสดงความคิดเห็น