วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1358 น่าใช้สายฟ้าฟาดเจ้าเด็กนี่ให้ตาย!

 

ตอนที่  1358  น่าใช้สายฟ้าฟาดเจ้าเด็กนี่ให้ตาย!

ปราณกระบี่พุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า

อาบร่างมังกรปีศาจไว้ในปราณกระบี่

 

เขาร้องโหยหวนสุดเสียงด้วยความเจ็บปวดและทรุดตัวลงอย่างน่าสมเพช

เย่ว์หยางรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ ในใจของเขาไม่ชัดเจน  พี่ใหญ่เขาไม่สามารถต้านปราณกระบี่ ทำไมต้องขอให้เขาโจมตีด้วย? ทั้งยังขอเป็นสุดยอดปราณกระบี่ นี่เขาตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?

อย่างไรก็ตามเขาเปลี่ยนความคิดอีกครั้งว่า มังกรปีศาจเป็นพี่ใหญ่ที่น่าอดสู  แม้ว่าจะไม่สมเหตุผลนัก แต่เขาไม่สามารถทนพลังของปราณกระบี่ของเขาได้  ก่อนหน้านี้เขาสู้กับจักรพรรดิไร้เทียมทานจนได้รับบาดเจ็บ  และสู้กับเทพพิทักษ์ภูเขากวงหมิงอีกครั้ง ร่างกายได้รับทุกข์ทรมานอย่างมาก  การต่อสู้นั้นหนักและเหนื่อยมาก ก็ยังไม่เห็นเป็นไร ตอนนี้เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?  เกิดอะไรขึ้น?

มังกรปีศาจกลิ้งอยู่บนพื้นไม่สามารถจะปกปิดร่างหลักได้กลายสภาพเป็นร่างมังกรพิโรธและกระอักเลือดอย่างบ้าคลั่ง

เลือดมังกรฉีดพุ่งกระจาย

เลือดดำราวกับหมึกฉีดกระจายไปทั่ว

สภาพมังกรพิโรธนี้ ทำให้พวกเทพทะเลมรณะที่รุมล้อมจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อมองเห็นแล้วถึงกับร้องลั่นตกใจ “นั่นมังกรปีศาจ เจ้าบ้านี่หนีออกมาได้  เทพมังกรทองไม่ได้ขังเขาไว้ตลอดไปหรือ?”

“ปล่อยเขาไป  เจ้าผู้นี้คือมังกรที่มีร่างเป็นอมตะจากเผ่าบูรพา สู้กับเขาไปไม่มีประโยชน์!

“เทพมังกรต้องการกลับสู่สวรรค์หรือ?”

“อา..  น่ากลัวจริงๆ และตอนนี้ไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว!

“ตอนนี้เราจะทำยังไงดี? จะล้อมจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อต่อไปโดยไม่ได้อะไรหรือ?

“ทำต่อไป อย่าไปยุ่งกับเจ้ามังกรปีศาจนั่น  ล้อมจิ๋วซื่อไว้ต่อไป!  ถ้าเทพพิทักษ์ฝ่ายเราพ่ายแพ้ เราทุกคนจะต้องตาย และจะถูกจักรพรรดิไร้เทียมทานสังหาร  ชะตากรรมของเราเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับทะเลมรณะ ไม่มีทางเลือกอื่น และไม่มีทางเป็นไปได้ที่สอง  จงสู้ต่อไปเพื่อโชคชะตาของเรา เพื่ออนาคตของเรา!

การต่อสู้ด้านนั้นเต็มไปด้วยความผันผวนแปรปวนไม่แน่นอน

ส่วนทางด้านนี้เย่ว์หยางเห็นมังกรปีศาจบิดร่างยาวเหยียดเหมือนงูตาย  บางครั้งก็กระอักโลหิตดำออกจากปาก

ขณะที่เย่ว์หยางคิดว่าเจ้าผู้นี้อาจจะกระอักโลหิตจนตาย มังกรพิโรธที่ตัวบิดงอและมีเกล็ดสีดำมันวาวค่อยๆ ลุกขึ้นพร้อมกับรัศมีสีดำกระจายออกไปกลายเป็นสีทองเข้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขามังกรที่ด้านบนหน้าผาก  ดวงตามังกรคู่โตมีแสงสีทองสุกใส

ดวงตามองดูกลับมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ปรากฏว่าลมปราณที่ใกล้แตกซ่านระเบิดพลังออกมาก้าวหน้ากว่าเดิมเป็นร้อยเท่าพันเท่า

จากตายกลายเป็นเกิดใหม่

อย่างไรก็ตามใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที  และเย่ว์หยางไม่อยากจะเชื่อ

“ฮ้า...สบายเนื้อสบายตัวขึ้นมากเลย!  มังกรปีศาจในร่างมังกรพิโรธค่อยๆ เปลี่ยนร่างเป็นร่างมนุษย์เดินโซเซมาอยู่ต่อหน้าเย่ว์หยางและพูดอย่างอ่อนแรง  “มีอาหารเสริมที่คล้ายกับเลือดเทพบ้างไหม ข้าขอกินบ้าง”  เย่ว์หยางส่ายหน้า เลือดเทพย่อมมีแน่นอน  แต่ถ้าต้องการเลือดเทพจากมือของเด็กหนุ่มข้ามโลก คาดว่ายากพอๆ กับการเอาชนะเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้   มังกรปีศาจไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากลดข้อกำหนดลง  “หากไม่มีเลือดเทพให้ข้ากินน้ำตาเทพธิดาก็ได้ บัดซบข้าเสียเลือดมากเกินไป กระหายแทบตายอยู่แล้ว แล้วข้าจะสู้ตอบโต้ได้อย่างไร? เอ่อ..   ก็ได้ ข้าเป็นหนี้เจ้าอยู่แก้วหนึ่ง แล้วข้าจะใช้คืนสองแก้วหลังจากการต่อสู้จบลง เจ้า เจ้าเด็กบ้ามาพูดถึงเรื่องดอกเบี้ยในตอนนี้ เจ้ามันปีศาจหน้าเลือดชัดๆ  ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?”

“ระวัง, เจ้าเป็นพี่ใหญ่ ไม่ใช่อันธพาล!  น้ำตาเทพธิดาของเย่ว์หยาง ถ้ามีสักแก้วหรือสองแก้ว อย่างนั้นก็คงจะดีถ้าให้ยืมดื่มสักแก้ว แต่เขาสงสัยในตัวพี่ใหญ่ว่าจะจริงจังหรือเปล่า

“เหลวไหล, ข้าเหมือนคนที่ติดหนี้แล้วไม่ใช้คืนหรือ?”  มังกรปีศาจรับไปดื่ม

“ไม่ใช่ไม่เหมือน แต่ใช่เลย!  เย่ว์หยางกังวลว่าน้ำตาเทพธิดาของเขาจะหมดไป

“ตอนนี้ข้าคืนชีพอย่างเป็นทางการแล้ว และวันดีๆ ของพวกเจ้าก็จบเช่นกัน!  มังกรปีศาจกระโดดพุ่งเข้าหาจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่ออีกครั้ง หมัดเดียวกันนี้ หมัดหนึ่งโจมตีใส่จักรพรรดิจิ๋วซื่อ อีกหมัดหนึ่งมุ่งทำลายร่างเทพ  เย่ว์หยางมองตาแทบถลน เขาโวยวายลั่น  “นี่ไม่สมเหตุสมผลเลย!” เมื่อครู่นี้ยังเกือบตาย แค่ดื่มน้ำทิพย์เทพธิดาเพียงหนึ่งแก้ว ก็ระเบิดพลังจักรวาลน้อย และพยายามต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง  น้ำทิพย์เทพธิดาแก้วเดียวมีประสิทธิผลหรือ?  สิ่งนี้ไม่สามารถอธิบายด้วยสามัญสำนึกทั่วไป!

“เขาคงจะถูกปลดปล่อยโดยพลังกฎสวรรค์ แม้ว่าจะยังไม่ฟื้นฟูถึงพลังสูงสุด  แต่พลังที่แท้จริงของเขาก็ถูกปลดปล่อยออกมาโดยราบรื่น”  จื้อจุนมองเห็นได้ชัดเจน

“แต่ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย..”  เย่ว์หยางมองดูมือตนเอง ที่เพิ่งยิงปราณกระบี่ออกไป

“บางทีเขาอาจใช้ช่องโหว่ของอนาคตเจ้า”  จื้อจุนคาดการณ์ไปในทำนองนั้น

“ไม่ถูกต้อง!” เย่ว์หยางยังไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่ได้ทำอะไรเลย  ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ไม่มีกฎสวรรค์ใดๆ  ปราณกระบี่ไม่ได้ปลดผนึกอะไร ไม่ได้ใช้พลังแห่งโชคชะตา  เขาไม่ได้แบกรับพลังชะตาหรือรู้แจ้งใดๆ  ในช่วงเวลาสั้น เขาไม่ได้ทำอะไรเลย  เป็นไปได้อย่างไร?  นอกจากนี้ยังเป็นไปไม่ได้ที่มังกรปีศาจที่เพิ่งถูกปลดผนึกพลังจะฟื้นฟูพลังได้ทันทีหลังจากดื่มน้ำทิพย์เทพธิดาแก้วเดียว อาจเป็นไปได้ว่าพี่ใหญ่แกล้งหลอกเขา ความสงสัยทำให้เขาคิดฟุ้งซ่าน

“เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” จื้อจุนไม่สนใจเรื่องอื่น แค่มองเย่ว์หยางด้วยสายตาประหลาดใจเล็กน้อย

“ประโยคนี้ข้าควรถามท่านมากกว่า ท่านมาทำอะไรที่นี่?  รู้หรือเปล่าว่าที่นี่อันตรายแค่ไหน? ในที่อันตรายขนาดนี้ท่านกลับกล้ามาเพียงคนเดียว ทั้งยังไม่ให้ทุกคนรู้ นี่ไร้เหตุผลเกินไปหรือเปล่า!  เย่ว์หยางยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธ  ในขณะที่เขาพูด เขาตั้งใจตำหนิและสอบถาม แต่ภายใต้สายตาจับจ้องของจื้อจุน เสียงของเขาอ่อยลงๆ ในที่สุดเขาบ่น “ทุกคนเป็นห่วงท่าน ท่าน ท่าน ปลอดภัยใช่ไหม?”

“ยกเว้นสามคนนั้นที่ไม่สามารถเอาชนะได้ชั่วคราว เจ้าคิดว่าจะมีปัญหาอะไรไหม?”  จื้อจุนเป็นผู้ชมดูที่หยิ่งในศักดิ์ศรี

“มียอดฝีมืออยู่หลายคนมาก!  เย่ว์หยางมองเห็นว่าหลายคนมีบัลลังก์เทพ ทั้งยังมีจำนวนเกือบร้อย  ในกรณีนี้จื้อจุนกลับบอกว่าไม่มีปัญหา เรื่องแบบนี้ทำให้เขารับไม่ได้จริงๆ  “ท่านยืนอยู่อย่างนี้ ไม่มีใครทำร้ายท่านหรือ?”  เขาสงสัยว่าฝ่ายตรงข้ามตาบอดหรือเปล่า

“ใช่” จื้อจุนพูดอย่างสบายๆ  “แต่หลังจากถูกฆ่าไปสองสามคน พวกเขาก็เลิกตอแยข้า”

“......” เย่ว์หยางพูดไม่ออก

แน่นอนว่าโลกนี้เป็นโลกที่ยอมรับกันว่า ใครกำปั้นใหญ่กว่าก็ได้รับการยอมรับ

หลังจากต่อสู้มานานในขณะที่มังกรปีศาจตาแดงและเทพอารักษ์ของทะเลมรณะ จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่ออยู่ในสภาพสับสน  และยังคงตามจับนักสู้ระดับเทพผู้โชคร้ายที่คอยรายล้อมเขา

จักรพรรดิไร้เทียมทานตั้งใจจะประหัตประหารโดยไม่มีการให้อภัยและอดกลั้น เขาต้องการเข่นฆ่าทำลายล้างอย่างเดียว

เขาฉีกร่างเทพของฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่ปราณี ขณะที่ใช้พลังเทพของตนทำลายประกายเทพและวิญญาณของฝ่ายตรงข้าม

ความรู้สึกนั้น

เหมือนกับพญาราชสีห์ไล่จับลูกไก่ฉีกกิน

เย่ว์หยางถึงกับปากอ้าค้าง พระเจ้า,  จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อแข็งแกร่งร้ายกาจมากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือนี่? โชคดีที่ไม่ใช่พี่ใหญ่ที่ถูกทุบตี ไม่เช่นนั้นการฝึกฝนมาหลายร้อยหลายพันปีก็ไม่มีประโยชน์เช่นกัน  ในทางกลับกันจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อและเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ ใครแข็งแกร่ง ใครอ่อนแอกว่ากัน  ด้านนั้นมีความสูงถึงหกหมื่นเมตร  ทั้งยังมีสามเศียรหกกร นั่นจะใช่เทียนอี้หรือเปล่า?

จื้อจุนถือโอกาสดูดซับพลังที่สลายไปของบัลลังก์เทพฝ่ายตรงข้ามและเปลี่ยนเป็นสีดำ ของบัลลังก์ดำขาวที่นางยังคงกลั่นควบ

“ท่านกำลังควบสร้างบัลลังก์เทพจริงๆ หรือ?”  เย่ว์หยางถามเบาๆ  “ท่านไม่ขอให้คนอื่นช่วยสร้างบัลลังก์เทพให้หรือ?”

“มีบางคนเก็บความรู้ศักดิ์สิทธิ์ทิ้งไว้ข้าในบันไดสวรรค์ขั้นที่ล้าน  ข้าต้องการใช้ความรู้นั้นสร้างบัลลังก์เทพเล็กๆ เพื่อตัวข้าเอง  แน่นอนว่าบัลลังก์เทพของแท้นั้นใหญ่  จะต้องได้คนอื่นช่วยข้าทำให้เสร็จ  แต่ก่อนจะได้คนอื่นช่วย ข้าจะต้องสร้างบัลลังก์เทพน้อยให้สำเร็จด้วยตนเองก่อน”  จื้อบอกเย่ว์หยาง ทำให้เขารู้สึกด้อยค่าอย่างไม่มีที่สุด

แม้ว่าจะเป็นบัลลังก์เทพน้อย แต่ท่านก็สามารถสร้างได้ด้วยตนเอง เขายังไม่สามารถทำได้

นอกจากนี้จือจุนยังได้รับการเปิดเผยจากสวรรค์ แต่เขากลับไม่ได้รับการเปิดเผยได้อย่างไร?  เทพธิดากระบี่ฟ้าลืมเขาไปหรือเปล่า? ไม่ถูกต้อง นางคงถูกกักไม่รู้เรื่อง สถานการณ์ข้างนอกต้องเป็นเช่นนี้แน่นอน

เย่ว์หยางรู้สึกอิจฉามาก หลังจากมองดูอยู่นาน เขาพบว่าเขาไม่สามารถเข้าใจบัลลังก์เทพได้ มันซับซ้อนมากเกินไป ดังนั้นเขาถาม  “นี่บัลลังก์เทพแบบไหน?”

“จ้าวบัลลังก์เทพ!  จื้อจุนบอกเขาตรงๆ  “คือสิ่งที่ข้าได้แนวคิดมาจากการรู้แจ้งในประตูเป็นตาย  ภายใต้เจตจำนงราชันย์ สามารถครอบงำความเป็นตายได้ทั้งหมด  ตัวอย่างเช่นในสนามรบนี้ ไม่ว่าใครก็ตามที่มีการเปลี่ยนแปลงจากเป็นไปสู่ตาย  หรือจากตายกลายเป็นมีชีวิต ล้วนตกอยู่ภายใต้การควบคุมของบัลลังก์เทพของข้า  มันยังไม่สำเร็จสมบูรณ์  มันดูดซับจากพลังเทพที่ตายในสงครามเท่านั้น...”

“ข้าอยากได้เหมือนกัน!  เย่ว์หยางน้ำลายแทบหก

“เจ้าไม่มีพื้นฐานความสำเร็จมากพอ และเจ้าไม่มีสัญลักษณ์ความสำเร็จบัลลังก์เทพแบบนี้”  จื้อจุนพูดกับเขาแบบขวานผ่าซาก

“ใครเป็นคนให้ความรู้ท่าน? แบ่งข้าบ้างไม่ได้หรือ?”  เย่ว์หยางจำได้ว่าเขาก็ไปถึงบันไดขั้นที่ล้านในตอนแรกแล้ว แม้ว่าจะเป็นการถูกจื้อจุนดึงไปก็ตาม

“อยากรู้หรือ?”  จื้อจุนให้ความสนใจเย่ว์หยางและเห็นเจ้าเด็กน้อยมีท่าทีกระวนกระวายและมีอาการลิงโลดอยู่ในแววตาให้เห็นเป็นระยะๆ  “นี่เป็นความลับ บอกเจ้าไม่ได้!  นอกจากนี้ถ้าเจ้าต้องการสำเร็จบัลลังก์เทพ สิ่งแรกก็คือต้องสร้างความประทับใจให้ข้าก่อน.. ตัวอย่างเช่นมีใครก็ไม่รู้ทำเรื่องที่ไร้ยางอายกับเทพธิดาตนหนึ่ง นั่นทำให้ข้าโกรธมาก!

จื้อจุนโกรธมาก ผลที่ตามมาคงเลวร้ายสุดคาดคิด

เมื่อเย่ว์หยางได้ยินเท่านั้น  หมดกัน จบเห่กัน ตอนแรกเขาบอกนางว่าไม่ควรทำอะไรเกินตัว  เจ้าแม่จันทราเคยบอกว่าไม่มีอะไร นางจับมือเขาไปแตะสัมผัสนางถึงสองครั้ง  มันจบแล้ว!

ขณะที่เย่ว์หยางกำลังครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรดีต่อไปเพื่อสร้างภาพพจน์ที่ดี เขาเห็นมังกรปีศาจถูกยักษ์ใหญ่มหึมาทุบและกระเด็นมาข้างหน้าเขา

มังกรปีศาจใช้หมัดทลายจักรวาลน้อย  จักรพรรดิไร้เทียมทานและยักษ์เทพพิทักษ์ทะเลมรณะคาดไม่ถึงว่าเขาจะทำได้สำเร็จ และตอนนี้ก็ไม่ค่อยดีนัก  ดังนั้นผู้เป็นพี่ใหญ่ตะโกนบอกเย่ว์หยาง “ดูก่อน, ลงมือเร็วๆ ในเวลาอย่างนี้พวกเจ้ายังพลอดรักกันอยู่ได้  กลับไปค่อยคุยกันไม่ได้หรือ?  ไม่มีเวลาแล้ว”

“ลงมือหรือ?” เย่ว์หยางมองดูยักษ์สามเศียรหกกรขนาดหกหมื่นเมตร เขาอดทำคอย่นไม่ได้  “ข้าไม่โง่หรอกนะ”

“น่าขายหน้านัก เจ้าไม่สามารถโจมตีหลักๆ ได้ แต่เจ้าสามารถลงมือกับพวกบริวารได้ไม่ใช่หรือ!  มังกรปีศาจโมโห เขาลงมือลงแรงเต็มที่ แต่เจ้าผู้นี้เอาแต่ยืนเฉยในสนามรบมองดูคนฆ่ากัน ตัวเองเอาแต่เกี้ยวสาวอย่างสบายใจ ฟ้าจะต้องลงโทษ

“นี่มันเกินกำลังข้าไปมาก”  เย่ว์หยางพบว่าพวกบริวารมือเท้าพวกนี้ คนที่มีบัลลังก์เทพมีอยู่ไม่น้อย พวกตัวเล็กที่สุดก็ขนาดหกกิโลเมตรเข้าไปแล้ว

พระเจ้า!

นี่น่ะหรือบริวารผู้เป็นมือเป็นเท้า

จื้อจุนเองก็ต้องการลงมือ แต่นางหงุดหงิดกับคำพูดของมังกรปีศาจ นางจึงจงใจงอมืองอเท้ารอดูเจ้าผู้นี้ถูกถลกหนังชั่วขณะ  นางนิ่งเฉยเมย  แน่นอนว่าเย่ว์หยางย่อมทำตามนาง สำหรับพี่ใหญ่ผู้มีความภักดีและมีมิตรภาพที่แข็งแกร่ง เมื่ออยู่ต่อหน้าสาวงาม เป็นเหมือนแค่เมฆลอยเลื่อน!  และยิ่งจื้อจุนโกรธ เขายิ่งต้องทำตัวเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย

เย่ว์หยางมองไปรอบๆ และหายตัวขึ้นไปอยู่บนยอดเขา

เขาเอ่ยปากคุยกับเจี้ยนจางเซิงผู้ใช้มือข้างเดียวแบกโดมฟ้าทั้งวัน  “บริวารผู้นี้ถูกทุบมาอย่างหนัก หรือว่าข้าต้องคอยทุบตีเขาดี!

มังกรปีศาจโกรธจนแทบกระอักเลือก “ฆ่าเขาแล้วเจ้าจะแบกโดมฟ้าแทนเขาหรือ?  หากไม่มีใครแบกโดมท้องฟ้า  ประตูแห่งชะตาจะปิดลง และอาจไปรบกวนมหาเทพยุคโบราณ ถึงตอนนั้นทุกคนจบสิ้นกัน ใครถูก ใครผิด พูดไปก็ไร้ประโยชน์!  ข้าไม่อยากติดคุกอีกต่อไปแล้ว โดยเฉพาะคุกดำที่ติดกันยาวนานเป็นแสนปี!

เย่ว์หยางประหลาดใจถามเจี้ยนจางเซิง  “ดูชั่วแว่บแรกเจ้าเหมือนไม่ใช่คนดี ทำไมเจ้าถึงมาตรงนี้ช่วยแบกโดมท้องฟ้าให้ทุกคนด้วย?”

เจี้ยนจ้างเซิงฝืนยิ้ม “เรื่องนี้ว่ากันยาว....”

เด็กหนุ่มข้ามโลกส่ายหน้าโบกมือ “ไม่ต้องเล่าก็ได้!  เขาเป็นคนประเภทเห็นอะไรมามากและทนฟังไม่ได้  เขาไม่มีความอดทนขนาดนั้นและพูดเข้าเรื่องโดยตรง  ถ้ามัวแต่พูดอ้อมไปอ้อมมาเมื่อไหร่จะรู้เรื่องกัน จากนั้นมองดูที่ไม่ไกลจากเท้าของเจี้ยนจางเซิง ดูเหมือนว่ามีร่างเทพที่เหมือนถูกยักษ์สักแสนตัวเหยียบย่ำใส่ แทบไม่มีกระดูกที่สมบูรณ์อยู่ในร่าง ชี่ตันจื้อนั่นเอง  “แล้วเจ้าล่ะ?  เห็นได้ชัดว่าเจ้าไม่ใช่คนดีแน่นอน ทำไมเจ้าถึงอยากขึ้นมาที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์นี้ หรือว่าขึ้นมาอบซาวน่า?”

ชี่ตันจื้อไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าซาวน่า แต่พอจะเข้าใจความหมายอยู่บ้าง

เขายิ้มแล้วกล่าว  “ข้าถูกจิ๋วซื่อย่ำใส่ ข้าไม่อาจมีชีวิตต่อไปได้ และข้าก็ไม่ต้องการอยู่ต่อไปแล้ว จึงขึ้นมาบนนี้

เย่ว์หยางตกใจกับเทพบริวารผู้นี้ “ยอมให้จักรพรรดิไร้เทียมทานเหยียบหรือ?  ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็หนีอย่างประมาทเกินไป!  มัวแต่หนีอย่างเลินเล่อได้อย่างไร?  ที่นี่อันตรายมาก!

“เจ้าหมายความว่าข้าทำผิดหรือ?”  ชี่ตันจื้อไม่เคยคิดว่าเขาจะถูกใครเหยียบ ทั้งยังทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส  และอย่างนี้กลับกลายเป็นว่าเขาคิดผิด

“เจ้าคิดว่าตนเองถูกหรือ?”  เย่ว์หยางวิพากษ์วิจารณ์

“อา, ข้าคิดว่าในฐานะคนร้าย ข้าสามารถทำผิดได้ แต่ข้าคาดไม่ถึง...”  ชี่ตันจื้อสลดใจเล็กน้อย

“ในฐานะคนร้าย เจ้าไม่ได้ทำการไตร่ตรองด้วยตนเองให้ดี เจ้าเอาแต่วิ่งหนีไปรอบๆ และทำไม่ถูก  เรื่องแบบนี้ไม่ควรทำเลย!  เย่ว์หยางเตือนเขา  “อย่างไรก็ตาม ไหนๆ เจ้าก็จะตายแล้ว เจ้ามีอะไรเหลือติดตัวบ้างไหม? ถ้าเจ้าไม่มีของวิเศษ แสดงว่าเจ้าไม่ได้เป็นมนุษย์  และนี่ไม่ใช่เป็นการตายหรือ ข้าคิดว่าของวิเศษเลือกเจ้าเป็นเจ้านายนั้นก็เป็นเรื่องไม่ถูกเช่นกัน!

“เจ้าหมายความว่าเจ้าก็เลือกจะทำอย่างนี้หรือ?”  ในตอนนี้ชี่ตันจื้อนับว่าเข้าใจแล้วว่าเย่ว์หยางหมายถึงอะไร

“ข้าคิดว่าไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบ มันชัดเจนมาก!  ข้าเห็นเจ้านอนรอความตายอยู่ตรงนี้ ข้ายืนอยู่ตรงนี้ลิงโลดยินดี  เจ้าแก่มากแล้วและอยู่ในสภาพย่ำแย่ ไม่มีเรี่ยวแรงพอจะทำเรื่องอื่น ข้ายังอายุเยาว์ ฉลาดพอจะทำเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างราบรื่น เจ้าคงต้องมีความรู้สึกด้อยและมีความรู้เล็กน้อย  ข้าคิดว่าเจ้าควรจะเอาสมบัติวิเศษออกมาและมอบให้ข้าทันที แม้ว่าข้าจะปฏิเสธอย่างจริงจัง เจ้าก็ต้องให้ข้าอย่างแน่นอน ให้ข้าเถอะไม่งั้นเจ้าจะตายอย่างเปล่าประโยชน์”  เมื่อเย่ว์หยางพูดเช่นนั้น ชี่ตันจื้อดกระอักเลือดออกมาเต็มปากมิได้

บัดซบ!  คุยกันตั้งนาน  ที่แท้ต้องการของวิเศษชั้นเทพของข้า!

ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นคนหน้าด้านมาก่อน แต่ไม่เคยเห็นคนหน้าด้านขนาดนี้มาก่อน  เจ้าเด็กนี่ ทำไมเทพเจ้าถึงไม่ใช้สายฟ้าฆ่าเขา?

**** **** ****

6 ความคิดเห็น:

blakaros กล่าวว่า...

สมเป็นพี่เย่ว์ ขนาดนี้ยังจะปล้นเขาอีก

Pcha กล่าวว่า...

55นี่ก็เกินไป

Unknown กล่าวว่า...

คงคิด มาด่าตู ยังจะของตูอีก ขอบคุณค้าบ สุดจัด

CHANTANA กล่าวว่า...

สฺดจัดละ

BJ กล่าวว่า...

บทพระเอกช่วงนี้ลดลงไปเป็นตัวประกอบนลกแทนละ

Mr.kong กล่าวว่า...

ชั่วที่สุดในเรื่องก็พี่สามนี่แหละ 555

แสดงความคิดเห็น