บทที่ 8 เคล็ดโคจรพลังระดับผู้เชี่ยวชาญ
“เคล็ดการนวดแผนโบราณ!”
นี่คือตำราวิชาที่ซุนม่อเพิ่งได้รับ เมื่อได้เห็นชื่อนี้ ไม่ว่าใครก็คงรู้สึกคลุมเครือ
“เมื่อก่อนเจ้าคงมีชื่อว่าระบบผู้เชี่ยวชาญการนวด จนกระทั่งเจ้าโดนธนูปักเข่าก็เลยกลายเป็นระบบมหาคุรุใช่หรือเปล่า?”
ซุนม่อล้อเลียน
ระบบยังคงเงียบ
“เจ้าตั้งใจจะเลี้ยงข้าให้เป็นสาวคอยนวดเท้าลูกค้าในร้านทำผมใช่ไหม?”
ซุนม่อเริ่มสงสัย
“แต่เจ้าเป็นผู้ชาย”
ในที่สุดระบบก็พูดขึ้น “และข้าก็พบว่าเจ้าช่างปากเสียเหลือเกิน”
“เห็นได้ชัดว่าตำราที่เจ้าให้มามีปัญหา นี่จะไม่ยอมให้ข้าพูดเรื่องนี้เลยใช่ไหม?”
ซุนม่อขมวดคิ้ว “ในฐานะครู ข้าจะแช่งชักผู้คนได้ยังไง? ให้ข้าบอกเจ้าก็แล้วกัน ถ้าข้าเริ่มแช่งชักหักกระดูก ข้าจะเหมือนกับหมาป่าที่ถูกปลดปล่อย แม้แต่ข้ายังกลัวตัวเองด้วยซ้ำ”
“ตำรานวดแผนโบราณเป็นเคล็ดการนวดที่ทรงประสิทธิภาพมากในยุคโบราณ ด้วยมือของเจ้า เจ้าสามารถสัมผัสและเข้าใจทุกส่วนของร่างกายเป้าหมายของเจ้า ทั้งยังบรรลุการควบคุมที่สมบูรณ์แบบ และช่วยให้เจ้าวางแผนแนวทางการฝึกปรือตามวิถีของเป้าหมายได้”
ระบบอธิบาย
ซุนม่อมีเพื่อนร่วมงานที่มีสามีเป็นนักกีฬาประจำจังหวัด ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าการนวดตัวเป็นส่วนหนึ่งของการฝึก การรักษาสภาพร่างกายและการฟื้นตัวมีความสำคัญสูงสุด ยิ่งบำรุงรักษาได้ดีเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งสามารถแข่งขันในอาชีพของตนได้นานขึ้นเท่านั้น
“อย่างไรก็ตาม เคล็ดวิชานวดแผนโบราณดูไม่เข้ากับสไตล์หรือเปล่า? เจ้าเปลี่ยนชื่อเป็นอะไรสักอย่างที่ฟังดูน่าประทับใจกว่านี้ได้ไหม อย่างเช่นหัตถ์มังกรโบราณประมาณนี้?”
ข้อเรียกร้องของซุนม่อถูกระบบเมินเฉย
“จะเรียนหรือไม่เรียน?”
“แน่นอน ย่อมต้องเรียน!”
ซุนม่อตอบรวบรัดชัดเจน
เปรี๊ยะ!
ตำราเคล็ดวิชาแตกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นลูกกลมแสงสีทองพุ่งเข้ามาที่กึ่งกลางคิ้วของซุนม่อ ความรู้แปลกๆ บางอย่างปรากฏขึ้นในใจของเขา
“ขอแสดงความยินดี เจ้าได้รับเคล็ดโคจรพลังระดับผู้เชี่ยวชาญ เคล็ดนี้เป็นหนึ่งในสี่ของ ‘เคล็ดนวดแผนโบราณ’ โดยมุ่งเป้าไปที่เส้นโคจรพลังเป็นหลัก เมื่อเส้นโคจรพลังถูกชำระ ปราณจิตจะสามารถโคจรผ่านได้โดยไม่มีอุปสรรคขวาง”
ซุนม่อปากสั่นและเขาเกือบสบถแช่งมารดาของระบบฯ หลังจากเสียเวลาไปครึ่งค่อนวัน นี่เป็นวิชาบางส่วน? น้อยนิดเสียเหลือเกิน
หลังอาหารมื้อเช้า ซุนม่อหาโกดังเงียบๆ แห่งหนึ่ง หลังจากล็อคประตูแล้ว เขาก็เริ่มฝึกวิชาเซียนมหาจักรวาลไร้ลักษณ์ เนื่องจากการปรากฏของปราณจิต, เขาพบว่าร่างของเขาแข็งแรงขึ้นมาก เพียงกระโดดแบบสบายๆ ก็สูงถึง 5-6 เมตร
“ถ้าข้าไปแข่งมาราธอนและล้มเหลวในการสร้างแรงกดดันต่อคู่แข่งอันดับสอง ข้าคงทำให้ร่างนี้ผิดหวังเป็นแน่”
ซุนม่อเพ้อฝัน ทุกคนอยากจะมีร่างกายแข็งแรงกันทั้งนั้น ในอดีตเขาสายตาสั้นและมีปัญหากับกระเพาะอาหารและกระดูกสันหลังต้นคอ ตอนนี้มันได้รับการแก้ไขให้สมบูรณ์แล้ว
“ทุกอย่างเกี่ยวกับการฝึกปรือนั้นเป็นเรื่องดีทั้งนั้น เว้นเสียแต่ว่ามันเหนื่อยเกินไป”
แม้ว่าเขาจะบ่นรำคาญ แต่ซุนม่อก็ใกล้เข้าสู่ประตูระดับแรกของวิชาเซียนมหาจักรวาลไร้ลักษณ์
ระดับแรกจะช่วยให้เขาปลดปล่อยศักยภาพและควบคุมร่างกายตนเอง ทำให้เขาระเบิดพลังได้ทุกเมื่อ ควบคุมพลังความแข็งแกร่งได้อย่างสมบูรณ์
แก่นสำคัญของระดับแรกคือการควบคุมร่างกายพวกเขา ขุดศักยภาพออกมาใช้ให้มากขึ้น
ช่วงเวลาการฝึกปรือนี้กินเวลาหนึ่งวัน ในช่วงเวลานี้ซุนม่อเห็นหลี่กงตามหาเขาไปทั่ว แต่เนื่องจากเขาซ่อนตัวไว้ หลี่กงจึงหาเขาไม่พบ
ไม่ใช่ว่ากลัวเขา แต่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะสนใจหลี่กงแล้ว เหมือนกับได้เกมใหม่แล้วติดใจ ไม่ต้องพูดถึงการไปโรงเรียน แม้แต่คนรักก็ยังไม่มีเวลาไปหา
ซุนม่อไม่ชอบกลุ่มผู้คน เขาจะรอจนหมดเวลาที่คนคับคั่งก่อนจะมุ่งหน้าไปที่โรงอาหาร
เขาสั่งก๋วยเตี๋ยวน้ำใสที่เส้นเหนียวหนึบน่าพอใจ สั่งเนื้อเปื่อยสองสามชิ้นที่ต้มทั้งคืน มันอร่อยมากจนเขาแทบกลืนลิ้นตัวเอง
ครูฝึกสอนจะมีเงินอุดหนุน ดังนั้นซุนม่อใช้เงินเพียง 5 เหรียญเท่านั้น ถ้าเขาได้รับการจ้างงานอย่างเป็นทางการ เงินอุดหนุนก็จะสูงมากขึ้น
หลังจากออกจากโรงอาหาร ซุนม่อมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบม่อเปย เขาอยากเดินเล่นหลังอาหารมื้อค่ำ
ชีเซิ่งเจี่ยเดินตามหลังเขามาห่างๆ 20 เมตร หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความลังเล ก่อนหน้านี้เขาตามหาซุนม่อไม่เจอ จากนั้นหวังฮ่าวก็มีความคิดและบอกให้เขาไปรอที่ทางเข้าโรงอาหาร ท้ายที่สุดทุกคนก็ต้องกิน
“ซุน... อาจารย์ซุน!”
ชีเซิ่งเจี่ยเร่งฝีเท้าไล่ตามซุนม่อ ทำให้เขาต้องเกร็งกล้ามเนื้อเพิ่ม มันทำให้เจ็บปวดมากจนเหงื่อท่วมหัว
“ขาของเจ้าเสียเหรอ?”
ซุนม่อหยุดและขมวดคิ้ว
“มือขวาของข้าด้วย”
ชีเซิ่งเจี่ยยิ้มเศร้าสร้อย เขามองใบหน้าที่สงบของซุนม่อและกัดฟันก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้น เขาใช้แรงมากจนเข่าของเขากระทบพื้นหินดังตุ้บ
“อาจารย์ซุน, โปรดชี้แนะข้าด้วย!”
ชีเซิ่งเจี่ยกล่าวพลางหมอบกราบ นี่คือความหวังสุดท้ายของเขา
“ลุกขึ้น!”
ซุนม่อดุ “ลูกผู้ชายมีทองอยู่ใต้เข่า เจ้าควรคุกเข่าต่อฟ้าดินและพ่อแม่ของเจ้าเท่านั้น!”
ซุนม่อเกลียดคนที่ไม่รักตัวเองที่สุด ดังนั้นหลังจากพูดแบบนี้ อารมณ์ของเขาพลุกพล่านถึงกับเปล่งรัศมีมหาคุรุ
วิ้งงง
รัศมีทองจากซุนม่อพุ่งออกมากระทบร่างชีเซิ่งเจี่ยราวกับฝนพร่างพรม
ภายใต้ผลกระทบของรัศมี ‘คำแนะนำล้ำค่า’ ประโยคที่ว่าลูกชายมีทองใต้หัวเข่าเป็นเหมือนระฆังยักษ์สั่นสะท้านจิตใจของชีเซิ่งเจี่ย เขาลุกขึ้นยืนโดยไม่รู้ตัว
“ข้าผิดไปแล้ว!”
ชีเซิ่งเจี่ยกล่าวขออภัย เขาก้มหน้าขณะที่ความลังเลก่อนหน้านั้นทั้งหมดจางหายไปอย่างสิ้นเชิง กลับเป็นอารมณ์เคารพอย่างสุดซึ้งเข้ามาแทนที่
เขาไม่ควรดูแคลนอาจารย์ซุน ผลของคำแนะนำล้ำค่าทรงพลังอย่างแท้จริง เขารู้สึกมีความหวังในหัวใจขึ้นมาอีกครั้ง
ติง!
คะแนนความประทับใจจากชีเซิ่งเจี่ย +3
ความเชื่อมสัมพันธ์อันทรงเกียรติกับชีเซิ่งเจี่ยปลดล็อค สถานะปัจจุบัน : เป็นกลาง (3/100)
“ข้าได้รับคะแนนประทับใจแบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ?”
ซุนม่อใช้เนตรทิพย์ตรวจสอบชีเซิ่งเจี่ย กล้ามเนื้อแขนขวาและขาซ้ายได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นโคจรพลังยุ่งเหยิงมาก
“อาจารย์! โปรดชี้แนะข้า”
ชีเซิ่งเจี่ยอ้อนวอนอีกครั้ง
“เจ้าต้องการให้ข้ารักษาแขนขาของเจ้าใช่ไหม? ต้องขอโทษด้วย ข้าคงทำไม่ได้”
“อาจารย์ซุน! ท่านคือความหวังสุดท้ายของข้า”
ชีเซิ่งเจี่ยกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล
“เจ้าตกอยู่ในสภาพนี้เพราะโหมฝึกหนักมากเกินไป การฝึกมากเกินไปทำให้กล้ามเนื้อและเส้นโคจรพลังของเจ้าเสียหาย ตราบใดที่เจ้าหยุดฝึก อาการของเจ้าจะค่อยๆ ฟื้นตัว”
ซุนม่อมั่นใจมากเพราะนี่คือผลของการใช้เนตรทิพย์ ซึ่งมีความแม่นยำมาก
“นานแค่ไหน.... ข้าต้องหยุดฝึกนานแค่ไหน?”
ชีเซิ่งเจี่ยมีสีหน้าเต็มไปด้วยความหวัง
“อย่างน้อยก็หนึ่งปี”
เมื่อได้ยินคำตอบนี้ชีเซิ่งเจี่ยหน้าซีดทันที “ไม่! มันนานเกินไป ข้าจะต้องมีคุณสมบัติเข้าทดสอบประเมินในห้องโถงประลองนี้ ถ้าไม่อย่างนั้น ข้าคงได้แต่ออกจากสถาบัน”
คำว่า ‘ออกจากโรงเรียน’ ทำให้ซุนม่อขมวดคิ้ว เขาขมวดคิ้วจนอาจหนีบปูจนตายได้ ในฐานะครู นี่คือคำที่เขาไม่อยากได้ยินที่สุด
“อาจารย์ซุน, ท่านต้องมีทางแก้ไขแน่นอน ท่านแนะนำข้าได้ไหมว่าควรทำอย่างไร?”
ชีเซิ่งเจี่ยงอเข่า เขาอยากคุกเข่าอีกครั้ง แต่ก็ต้องฝืนกับแรงกระตุ้น
ซุนม่อเงียบ
ชีเซิ่งเจี่ยไม่กล้าพูดได้แต่ยืนสงบเสงี่ยมอยู่ด้านข้างรอการตัดสินใจของซุนม่อ
“เคล็ดโคจรพลังน่าจะช่วยเยียวยาเส้นโคจรปราณที่ได้รับความเสียหาย แต่ข้าไม่มีวิธีแก้ปัญหาที่กล้ามเนื้อของเขา แต่ปัญหาหลักของเขาก็ยังคงเป็นเส้นโคจรพลัง อย่างน้อยที่สุดก็ยังช่วยให้แขนและขาของเขาแข็งแรงขึ้นมาได้”
เมื่อมองดูข้อมูลของชีเซิ่งเจี่ย ซุนม่อไตร่ตรองและบอกความจริงกับเขา
“ข้าสามารถรักษาแขนขาของเจ้าได้ แต่ยังไม่มั่นใจเต็มร้อย อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดอาจทำให้อาการของเจ้าหนักขึ้นหรือทำให้เจ้าพิการไปเลยจริงๆ เจ้ายังต้องการรักษาต่อไหม?”
นี่เป็นครั้งแรกที่ซุนม่อใช้เคล็ดกรุยเส้นโคจรพลัง ใครจะรู้ว่าจะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น
ชีเซิ่งเจี่ยตะลึง
ซุนม่อไม่รีบร้อนและรออย่างเงียบงัน ผ่านไปห้านาที เขาหันหลังและเดินจากไป
“อาจารย์ซุน”
ชีเซิ่งเจี่ยคำนับ “ทุกอย่างขึ้นกับท่าน”
ทั้งสองกลับไปที่โกดังและจัดเรียงกระดานที่สะอาด ซุนม่อให้ชีเซิ่งเจี่ยถอดชุดและนอนบนกระดาน
ระดับผู้เชี่ยวชาญ ก็ตามชื่อบอกไว้ หมายความว่าเขามีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ และความเชี่ยวชาญของเขายังมีมากกว่าระดับ ‘ดี’ แม้จะไม่ได้อยู่ในระดับ ‘ปรมาจารย์’ แต่อย่างน้อยก็ยังเป็นระดับหัวกะทิที่หายากเช่นกัน
เคล็ดโคจรพลังระดับผู้เชี่ยวชาญที่ซุนม่อเข้าใจทำให้เขารู้วิธีจัดการกับอาการของชีเซิ่งเจี่ย ในขณะที่เขาสัมผัสแขนขวาและลูบเล็กน้อย
อ๊า..
ความเจ็บปวดรุนแรงที่รู้สึกได้จากแขนของเขาทำให้ชีเซิ่งเจี่ยร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด จากนั้นเขารีบหุบปากกลัวจะรบกวนสมาธิของอาจารย์ซุน
ซุนม่อเพ่งสมาธิ เขารวบรวมพลังปราณในนิ้วมือแล้วนวดชีเซิ่งเจี่ย
ความรู้สึกเหมือนถูกเข็มแทงสามารถรู้สึกได้จากจุดที่ซุนม่อสัมผัส ราวสองนาทีต่อมาความเจ็บเปลี่ยนเป็นอาการคัน จากนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นกระแสพลังอุ่นไหลเวียนอยู่รอบแขนของเขา
ซีเซิ่งเจี่ยหลับตาด้วยความรู้สึกสบาย เขารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังล่องลอยอยู่บนปุยเมฆและกลับไปสู่อ้อมกอดของมารดา
แสงแรกของดวงอาทิตย์ยามเช้าฉายทะลุผ่านหน้าต่างตกลงที่ใบหน้าของชีเซิ่งเจี่ย เมื่อเขาตื่นขึ้นก็เป็นเวลาเช้าแล้ว
“เอ้านี่! กินอะไรสักหน่อยเถอะ”
ซุนม่อไปโรงอาหารซื้อข้าวต้มมาให้ชีเซิ่งเจี่ย
“ข้ามิกล้า ข้ามิกล้า”
ชีเซิ่งเจี่ยลุกขึ้นพรวดพราดโบกมือปฏิเสธพัลวัล หลังจากนั้น เขาเริ่มพบว่าอาการชาที่เเขนขวาและขาซ้าย ตลอดจนส่วนอื่นๆ ของร่างกายจางหายไปหมดแล้ว
“อาจารย์ซุน!”
ชีเซิ่งเจี่ยเอียงคอ เขาหลั่งน้ำตาขณะมองไปที่ซุนม่อ สภาพร่างกายของเขาในปัจจุบันนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่ได้รู้สึกมานานแล้ว
“กินกันเถอะ”
ซุนม่อส่งชามให้ชีเซิ่งเจี่ย เมื่อคืนหลังจากเจ้าผู้นี้หลับไปแล้วซุนม่อตัดสินใช้การนวดกรุยเส้นชีพจรรักษาเส้นโคจรพลังในร่างของชีเซิ่งเจี่ยทั้งหมด
หลังจากใช้เนตรทิพย์ตรวจสอบซุนม่อยืนยันได้ว่าอาการบาดเจ็บในเส้นโคจรพลังของชีเซิ่งเจี่ยลดลงเป็นอย่างมาก ถ้าเขานวดกรุยเส้นพลังอีกสองสามครั้ง เขาน่าจะฟื้นฟูสภาพได้เต็มที่
ว่ากันตามจริงแล้ว ซุนม่ออยากกู่ก้องตะโกนว่า ‘ระบบมหาคุรุ มันยอดเยี่ยมจริงๆ’ เคล็ดนวดแผนโบราณที่เขาได้รับมาจากหีบสมบัติ มีประโยชน์อย่างแท้จริง หากเขามีคะแนนความประทับใจเพียงพอ เขาต้องการซื้อส่วนอื่นๆ ของเคล็ดวิชานี้้ด้วย
ชีเซิ่งเจี่ยวางชามข้าวลงมีสีหน้าเคร่งขรึมขณะที่คุกเข่าลง เขาโขกศีรษะคำนับสามครั้ง ทำให้มีเสียงกระทบพื้นดังสามครั้ง แม้แต่ฝุ่นบนพื้นยังฟุ้งขึ้นจากแรงกระแทก
“อาจารย์ซุน ข้าไม่รู้จะขอบคุณท่านยังไงดี”
ขณะที่ชีเซิ่งเจี่ยกราบแสดงความขอบคุณ เสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นในหูของซุนม่อ
ติง!
คะแนนความประทับใจจากชีเซิ่งเจี่ย +15
ความเชื่อมสัมพันธ์กับชีเซิ่งเจี่ย สถานะปัจจุบัน: เป็นกลาง (18/100)
นอกจาก 4 คะแนนของหลี่จื่อชี และ 1 คะแนนของหลี่กงแล้ว ตอนนี้เขามีคะแนนความชื่นชม +23 และในร้านค้าของระบบ ราคาของผลดาราจันทร์ก็คือ 1000 คะแนน
เนื่องจากเขาสามารถเพิ่มขอบเขตพลังของเขาได้หลังจากกินผลดาราจันทร์ ถ้าเขาซื้อพวงผลของมันมากิน เขาก็มิต้องฝึกฝนเลยใช่ไหม?
ชีเซิ่งเจี่ยยังคงกระวนกระวายใจมาก เขาตามหาซุนม่อเพราะสิ้นหวังไม่มีหนทาง อย่างไรก็ตามผลที่ได้รับ ดีกว่าที่เขาคาดไว้มาก
“ครูฝึกสอนที่ทรงพลังมากขนาดนี้ถูกยัดเข้าแผนกขนส่งพัสดุ ผู้บริหารสถาบันตาบอดหรือเปล่า?”
ชีเซิ่งเจี่ยรู้สึกว่าเป็นเรื่องอยุติธรรมต่อซุนม่อ
“เอาเถอะน่า กินก่อน”
เมื่อซุนม่อกินข้าวต้มไปได้หนึ่งคำ เขาชะงักตัวแข็ง เสียงของระบบยังไม่หยุด
“ติง! ภารกิจใหม่ปลดล็อคแล้ว ช่วยให้ชีเซิ่งเจี่ยผ่านการทดสอบหอโถงประลอง รางวัล : หีบสมบัติทองคำ!”
ปัง
หลังจากระบบพูดจบ ซุนม่อกวาดชามข้าวลงพื้นทันที
2 ความคิดเห็น:
สนุกดี คล้ายๆจางเสวียนเลย
เกมสินะ
แสดงความคิดเห็น