วันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 243 ทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่ง

ตอนที่  243  ทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่ง

เซรีนรู้ว่าเกี่ยวกับอะไร  การทดสอบระดับพื้นฐานชั้นหนึ่งเป็นการทดสอบของการเข้าแข่งขันที่มีความยากสูงสุด  ปกติจะใช้เพื่อจัดการคู่แข่งพิเศษ

ถ้าเป็นปิง เซรีนมั่นใจไม่ว่าจะเป็นการทดสอบเบื้องต้นชั้นไหนก็ตามพวกเขาก็ผ่านได้  แต่ถังเทียนเป็นคนที่เพิ่งฝึกฝนมาได้เจ็ดวัน  เขาจะผ่านทดสอบด้วยระดับความยากสูงสุดได้อย่างไร?  เซรีนได้ยินปิงพูดถึงพรสวรรค์การต่อสู้ที่โดดเด่นของถังเทียนมาหลายครั้งแล้ว  ดังนั้นแต่เดิมทีนางหวังว่าถังเทียนจะสามารถเข้าแข่งขันได้หลังจากผ่านไปไม่กี่รอบ  แม้ว่าความก้าวหน้าจะไม่มาก  แต่อย่างน้อยนางหวังว่านางจะก้าวหน้ามากขึ้น
เมื่อมาถึงจริงๆ กลับเป็นการทดสอบระดับพื้นฐานชั้นหนึ่งทันที...
นั่นหมายความว่าการเดินทางของพวกเราสิ้นสุดลงในวันนี้ใช่หรือไม่?
เซรีนโกรธ  “นี่หมายความว่ายังไง?  การทดสอบระดับพื้นฐานชั้นหนึ่งใช้กับผู้เข้าแข่งขันพิเศษไม่ใช่หรือ พื้นแบบนั้น...”
ชายชราตอบอย่างใจเย็น  “หากมั่นใจว่าการเอาอาวุธจักรกลชำรุดนี้เข้าแข่งขัน ก็ต้องถือว่าเจ้าเป็นคู่แข่งขันพิเศษเป็นธรรมดา”
ทุกคนหัวเราะลั่น
เซรีนหน้าแดง ปกตินางเป็นผู้หญิงฉลาดและสามารถโต้ฝีปากได้เร็ว  การนำอาวุธจักรกลชำรุดนี้เข้าแข่งขัน สำหรับผู้จัดการแข่งขันถือเป็นการท้าทาย  และในการแข่งขันมักจะมีการต่อสู้ทะเลาะกันเป็นปกติ แม้ว่าการต่อสู้นี้จะไม่ชัดเจนนัก  แต่การแข่งขันในที่มืดก็มีจำนวนมาก
 “ผู้เข้าแข่งพิเศษ? ท่านกำลังพูดถึงยอดฝีมือใช่ไหม?”  ถังเทียนถามตัดบททันที
คอของเซรีนแดงไปหมด  คำถามของถังเทียนทำให้นางอับอายอีกครั้ง และนางอยากจะมุดดินลงไปซ่อนตัวเสียให้ได้  เจ้างี่เง่านี่อยากตายหรือไง... เจ้าไม่เข้าใจหรือว่าพวกเขากำลังพูดอะไร? ข้าจะไม่มีทางออกมาพร้อมกับเขาอีกต่อไปแล้ว!
 “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!
 “โอย..ไม่ไหวแล้ว .. ข้าหัวเราะมากเกินไปจนท้องคัดท้องแข็งหมดแล้ว!  ฮ่า ฮ่า ฮ่า....”
 “ข้า..ข้า..ข้าก็หยุดหัวเราะไม่ได้ ฮ่าฮ่าฮ่า...”
รอบๆ ตัวพวกเขาปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่มียั้ง
ใบหน้าชายชรามีแววเย้ยหยันขณะที่เขาหัวเราะเบาๆ  “แน่นอน, จากที่เห็นแล้วข้าบอกได้เลยว่าเจ้าเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง!
 “ตาถึงจริงๆ ท่านถึงได้เห็นขนาดนั้น!  ถังเทียนทึ่ง
 “ก๊ากๆๆๆๆๆ...”
 “ไอ้หนูนั่น มันตลกจริงๆ เว้ย”
 “เฮ้ย, ยอดฝีมือ!  รีบๆ แสดงฝีมือให้เราชมเร็วๆ”

เซรีนบัดเดี๋ยวหน้าเขียวบัดเดี๋ยวหน้าแดง  ตั้งแต่เด็กจนโตมา นางไม่เคยขายหน้าขนาดนี้  เจ้างี่เง่านี่ ก็ช่างงี่เง่าเสียจริง!  หัวใจนางรู้สึกสิ้นหวังอย่างแรง  การเผชิญหน้าสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้น่าขายหน้า แต่นางก็ไม่สามารถหนีไปได้
แครก แครก!
เสียงฝีเท้าโลหะหนักดังพร้อมกับเสียงโลหะกระทบกัน ขณะที่ทั่วทั้งตัวหิมะสายฟ้ามีส่วนชำรุดรุ่งริ่งดูราวกับว่าเหมือนเสื้อผ้าที่มีขยะมาแขวนไว้
เสียงหัวเราะค่อยๆ หยุดลง
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลายๆ คนเริ่มจางหายไป ขณะที่อาวุธจักรกลชำรุดเริ่มเดินออกมา
เจ้าเด็กนี่จะเอาจริงๆ หรือนี่?
ความคิดนี้ติดอยู่ในใจของหลายๆ คน  การทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่งถูกสร้างมาเป็นพิเศษสำหรับจัดการนักสู้สายจักรกลที่กร่างท้าทายให้เกิดการประชันขันแข่งและมีน้อยคนมากที่จะผ่านไปได้  จนกระทั่งบัดนี้มีคนใช้วิธีนี้ถึง 249 ครั้งและจำนวนคนที่ประสบความสำเร็จมีเพียงหกคน
ดังนั้น มันจึงมีอีกชื่อว่า บททดสอบมรณะ
หลังจากที่เงียบไประยะสั้นๆ เสียงหัวเราะเบาๆ ก็ดังขึ้นอีกครั้ง  เจ้าเด็กนี่ช่างโง่เขลาจริงๆ เขาไม่รู้เรื่องการทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่งเลย
จะมีการแสดงดีๆ ให้ดูแล้ว
บททดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่ง นอกจากความยากอยู่ในระดับสูงแล้ว ยังมีส่วนที่พิเศษคือ  ในทะเลสาบจะมีฝูงปลาฟันเหล็กจอมเขมือบอยู่ร้อยตัวขนาดนิ้วมือ พวกมันไม่สนใจเนื้อสัตว์ แต่กลับอารมณ์เสียได้ง่ายและตื่นเต้นเล่นงานกับของสิ่งอื่น
ทันที่ใครก็ตามร่วงลงไปในทะเลสาบ ปลาฟันเหล็กทั้งร้อยตัวจะกัดอาวุธจักรกลทุกอย่าง เสื้อผ้า รองเท้าและสิ่งของทุกอย่างจนหลุดกระจุยเหลือแต่ตัวเปล่า
ทะเลสาบนี้ยังคงมีอีกชื่อก็คือ “ทะเลสาบชำระหนี้”
ทันใดนั้นเซรีนนึกถึงเรื่องราวนี้ได้ และนางหน้าซีดขาวทันที นางตะโกนอย่างกังวล “อย่าไป!
ถังเทียนไม่สนใจเสียงตะโกนของนาง ไม่แม้แต่จะอุ่นเครื่อง หิมะสายฟ้ายังคงยืนอยู่ประจำจุดเริ่มต้น  เสียงพึมพำของเขาไม่ดัง  แต่เสียงเหล่านั้นถูกลมพัดกรอกหูทุกคน
 “ช่างเป็นการแข่งขันที่น่าหลงใหล!  ทำให้คนรู้สึกเลือดลมพลุกพล่านได้จริงๆ”
คำพูดไร้ความรู้สึกนี้ทำให้ทุกคนตะลึง  หลังจากนั้นชั่วขณะพวกเขาก็รู้สึกตัว  เจ้าบ้านี่โง่ขนาดแยกไม่ออก  เขาไม่รู้จักเสียงเยาะเย้ยถากถางจริงๆ หรือนี่?
พวกเขาต้องการจะก่อกวนต่อ  แต่จู่ๆ หิมะสายฟ้าหันหัวสกปรกของมันและจ้องดูชายชรา
 “ข้าเริ่มได้หรือยัง?”
ชายชราตะลึง  เขาไม่คิดเลยว่าคนผู้นี้จะไม่มีความตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อยหรือไม่มีความต้องการจะถอนตัวแม้แต่น้อย  ทันใดนั้นชายชรามีความรู้สึกแปลกบางอย่าง เว้นแต่...
เขาลอบส่ายหน้า  จะเป็นไปได้อย่างไร? เจ้าเด็กนี่ผู้อยู่ต่อหน้าเขายี่ห้อก็บอกอยู่แล้วว่าบ้านนอก  เจ้าเด็กนี่ยังจะผ่านการทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่งได้อย่างไร?  เขาทำงานมาเกินสิบปีแล้ว ผ่านงานแข่งขันมาห้าครั้ง  ในห้าครั้งเหล่านี้ เขาไม่เคยเห็นผู้เข้าแข่งขันสอบผ่านการทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่งได้เลย  ตามคำเล่าลือกล่าวไว้ว่ามีเพียงหกคนที่สอบผ่าน แต่ใครจะรู้กันเล่าว่าผ่านมานานแค่ไหนแล้ว
นั่นเป็นเพราะพอมีการทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่ง ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดก็ไม่กล้าเข้ามาวุ่นวายด้วย
ก็มีเจ้าเด็กที่ดูโง่งมนี่น่ะหรือ?
ชายชรารู้สึกละอายอย่างช่วยไม่ได้ที่เขาสงสัยและคลางแคลงใจก่อนหน้านั้น  เขาเกือบคล้อยตามเจ้าเด็กที่เด็กร้ายกาจนี่แล้ว
ชายชราไม่ทำท่าเย้ยหยันอีกต่อไป เขากลับเข้าทำหน้าที่และกล่าว  “งั้นเชิญ..เริ่มได้”
ทุกคนเบิกตากว้างอย่างช่วยไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าหน้าของทุกคนตื่นเต้น นานมากแล้วที่ไม่มีคนเข้ามาขอแข่งทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่ง  พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะได้มาเห็นกับตาตัวเอง  การแสดงดีๆ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
 “ข้าเริ่มได้จริงๆ เหรอ?”  ถังเทียนยืนยัน
ชายชราสำทับเขา “ผ่านไปสามวินาทีแล้ว”
 “สามวินาที อา.. เวลาเดินเร็วนัก..” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเสียดาย  และเหมือนกับใบไม้ที่ล่องลอยอยู่ในสายลม เสียงนั้นทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจไปกับสายลม
หกวินาที
 “หิมะสายฟ้า เราต้องไปแล้ว
หิมะสายฟ้าตั้งท่าเตรียมออกตัว มันชะงักอยู่ในท่านั้น
สิบวินาทีผ่านไป
พวกผู้ชมระบายลมหายใจกันหมด  ครึ่งหนึ่งของพวกเขาแสดงสีหน้าผิดหวังออกมา ส่วนอีกครึ่งหนึ่งก็ดูไปอย่างนั้นเอง  สำหรับพวกเขาแล้ว เจ้าอาวุธจักรกลชำรุดนี้ก็แค่ตั้งท่าเสแสร้งเก๊กท่า แต่ไม่ได้ทำจริงๆ
พวกเขาถูกหลอก!
บางคนเตรียมหันหลังจากไป  แววผิดหวังปรากฏอยู่ในใบหน้าของพวกเขา ดูต่อไปก็ไม่มีอะไรดี
พอถึงเวลานี้ เสียงคำรามลั่นราวฟ้าลั่นดังออกมาทันที เสียงระเบิดนั้นดังเข้าหูของทุกคน “หิมะสายฟ้า!
คลื่นเสียงดังระเบิดออกมาเป็นปริมณฑล อาวุธจักรกลที่ชิ้นส่วนรุ่งริ่งพลันยืดตัวอยู่ในท่าตั้งตรง  หิมะสายฟ้าที่ชำรุดกลายเป็นกราดเกรี้ยวในทันทีเหมือนกับแมวดำขนพองด้วยความดุร้าย  รอยยิ้มเหมือนปรากฏตามเขี้ยวแหลมคมและกรงเล็บที่คมที่ยื่นออกมาจากอุ้งมืออุ้งเท้า  รังสีฆ่าฟันกวาดผ่านไปทั่วบริเวณ
ร่างของทุกคนแข็งค้าง
พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่าหน้าของพวกเขาซีดขาวเหมือนกระดาษ  พวกเขาไม่รู้ตัวว่าขาของพวกเขากำลังสั่น เพราะความคิดของพวกเขาพังทลาย  คลื่นพลังจิตโจมตีที่ดุร้ายและรุนแรงทำให้พวกเขาสูญเสียความรับรู้  ความสัมพันธ์ระหว่างจุดเริ่มต้นกับจุดสิ้นสุดที่สุดขั้วนี้ไม่มีใครเตรียมตัวมาก่อน และในความเป็นจริง ทุกคนเหมือนถูกขู่จนขวัญกระเจิง
ในท่ามกลางการจ้องมองอย่างว่างเปล่า เสียงแหลมเหมือนกับธนูแหวกอากาศพุ่งผ่านโสตประสาทพวกเขาไป สายฟ้าสีน้ำเงินเจิดจ้าพุ่งวาบผ่านสายตาพวกเขาไป
เสียงโห่ร้องจากมุมเวทีในด้านต่างๆ ดังระงมพร้อมัน
 “ไวมาก!
คนสองสามคนเหล่านี้เป็นคนส่วนน้อยที่ไม่ได้ตกใจไปด้วย  นักสู้สายจักรกลเหล่านี้ยังคงรักษาความสงบอยู่ได้  พวกเขาเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งด้วยเช่นกัน!  แต่ในช่วงเวลานี้ พวกเขาก็เหมือนกัน ไม่สามารถสงบจิตใจอยู่ได้  พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างขณะที่ตั้งใจจ้องดูสายฟ้าสีน้ำเงิน  สีหน้าของพวกเขาอยู่ในอาการตกตะลึง
เงาสายฟ้าสีน้ำเงินนั้นไวมากจนพวกเขาเกือบมองไม่ทัน
ไวเหลือเกิน!
สายลมหวีดหวิวกรอกเข้าหูเขา  นัยน์ตาถังเทียนแดงเหมือนเลือด  ความโกรธเขารุ่มร้อนในอกเพิ่มขึ้นจนแทบเผาผลาญเขาให้มอดไหม้  ผิวบนร่างกายของเขาทุกตารางนิ้วร้อนขึ้น
เจ้าพวกบัดซบเหล่านี้.. บังอาจเยาะเย้ยหิมะสายฟ้า!
พวกเขาบังอาจเห็นหิมะสายฟ้าเป็นตัวตลก!
นี่คือเหตุผลที่เขาโกรธ  ไม่กี่วันมานี้ หิมะสายฟ้ากับเขาอดทนกับบทฝึกที่โหดหิน ทนเจ็บปวดร่วมกัน ในใจถังเทียนแล้ว หิมะสายฟ้าก็คือสหายร่วมศึกของเขา
และในวันนี้ หิมะสายฟ้ายังถูกหัวเราะเยาะอีก
เขาไม่อาจยอมรับได้!  ไม่ยอมรับแน่นอน!
วิ่ง!
วิ่งต่อไป!
ถังเทียนกับหิมะสายฟ้าพุ่งไปข้างหน้าด้วยแรงส่งจากการตีลังกาหลายตลบ ไวจนเขาเป็นเหมือนกับดาบ เป็นกระบวนการที่ทำได้สมบูรณ์แบบ
เมื่อเห็นฝูงผึ้งภูตเขียวที่อยู่ข้างหน้าเขา นัยน์ตาถังเทียนเบิกกว้าง แต่ไม่มีความกลัวอยู่ในใจของเขาเลย ไม่มีความลังเลอยู่ในใจเหมือนทหารที่กล้าฆ่าตัวตาย  เขากางแขน ด้วยการตัดสินใจที่เด็ดขาดเขาระเบิดพลังเข้าไปในฝูงผึ้งภูตเขียวอย่างเด็ดเดี่ยว
หิมะสายฟ้า ลุยเข้าไป!
หัวใจของถังเทียนเต็มไปด้วยความโกรธไม่มีที่สิ้นสุด  หิมะสายฟ้าเร็วจริงๆ สายฟ้าสีน้ำเงินสมบูรณ์พลันสว่างเจิดจ้าชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะที่ตรงเข้าไปในฝูงผึ้งภูตเขียว!
ผึ้งภูตเขียวประหลาดใจรีบกระพือปีกอย่างรวดเร็ว พวกมันตั้งตัวได้อย่างรวดเร็วรวมตัวกันเหมือนเมฆดำ และเตรียมกวดไล่ตามหิมะสายฟ้าอย่างไม่ลดละ
ถังเทียนเร่งความเร็วอย่างบ้าคลั่งไม่ได้รู้สึกถึงอันตรายที่รออยู่ ขณะที่เขาพุ่งผ่านไป  ฝูงผึ้งภูตเขียวพุ่งออกมาข้างหน้า เหล็กในนับไม่ถ้วนโผล่ออกมาเปล่งรังสีที่มองไม่เห็นขณะที่พวกมันรวมตัวกัน
ตอนนี้แหละ
ถังเทียนตะโกนระบายความโกรธในใจออกมา ปราณแท้ของเขาทะลักเข้าไปในหิมะสายฟ้าอย่างรุนแรง  หิมะสายฟ้าเร่งความเร็วอย่างบ้าคลั่งพุ่งเข้าไปพร้อมกับกางแขน  อาศัยแรงเฉื่อย ร่างใหญ่โตของมันปั่นหมุนด้วยความเร็วสูงมาก
ผึ้งภูตเขียวคาดไม่ถึงว่าเจ้าอาวุธจักรกลชำรุดจะโจมตีก่อนจริงๆ  พวกมันตั้งรับทันทีและถูกดูดเข้าไปหาร่างสีน้ำเงินที่กำลังปั่นด้วยความเร็วสูง
ปราณแท้ระดับหกที่คมบางม้วนครอบคลุมแขนของหิมะสายฟ้า แม้แต่ชิ้นส่วนที่ห้อยรุ่งริ่งก็ยังมีปราณบางๆ ครอบคลุมไว้ทำให้เป็นเหมือนใบมีดเล็กๆ  หิมะสายฟ้าที่กำลังปั่นหมุนด้วยความเร็วสูงกลายเป็นเครื่องปั่นเนื้อที่น่ากลัวทันที
ติง ติง ติง!
เสียงโลหะปะทะกันภายในตัวของเงาสีน้ำเงิน เกิดประกายไฟนับไม่ถ้วน ผึ้งภูตเขียวที่บิดเบี้ยวและแตกหักถูกปั่นกระแทกออกมาด้วยความเร็วสูง  เกิดเป็นกลุ่มหมอกขนาด 300 เมตรเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาทุกคน
ร่างน้ำเงินไม่มีทีท่าว่าจะหยุดขณะที่มันวิ่งออกจากกลุ่มหมอกเขียว
ถังเทียนสังหารด้วยความโกรธ และด้วยความตั้งใจ หิมะสายฟ้าร่วงลงจากอากาศอย่างรวดเร็ว บึ้ม  เหมือนหวดกระแทกกลองอย่างแรง  หิมะสายฟ้าก้าวไปบนพื้นอย่างหนักหน่วง การลงพื้นอย่างทรงพลังทำให้เกิดรอยร้าวนับไม่ถ้วนและแรงระเบิดใต้เท้าของมัน  เกิดรอยแตกกินเส้นผ่าศูนย์กลางเกินกว่าเจ็ดเมตรดูราวกับใยแมงมุมขึ้นทันที
เมื่อยืมพลังที่ถ่ายลงจากขาของเขา ถังเทียนบังคับให้มันหยุดหมุนปั่นและฉวยโอกาสพุ่งไปข้างหน้า
วิ่ง!
ในช่วงนี้ ความเร็วของหิมะสายฟ้าพุ่งขึ้นถึงขีดสุดของมัน
ร่างที่เหมือนอาบรังสีน้ำเงินพุ่งวาบคล้ายกับธนูสีน้ำเงิน ขณะพุ่งเข้าหากลุ่มลูกโป่ง
ด้วยความเร็วขนาดมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น มันบิดเอวปล่อยหมัดออกไป
ลูกโป่งทองจำนวนมหาศาลแน่นขนัดเหมือนกับกำแพงแก้ว เมื่อรวมตัวกันแน่น พอสะเทือนก็เปลี่ยนเป็นชิ้นส่วนของกำแพงทันที
ร่างสีฟ้าทรงพลังวิ่งไปถึงจุดสุดท้ายกระแทกลงพื้นเสียงดังปังทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายขึ้นมา ร่างน้ำเงินที่ดูตะคุ่มเลือนรางมองมองเยาะเย้ยมาทางกลุ่มคน  เหมือนอสูรร้ายที่ยืนตระหง่าน  เหมือนกับขุนศึกผู้ห้าวหาญที่พิชิตศัตรูทั้งสามของเขา
หยิ่งยโสเหลือประมาณจริงๆ
 

5 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

WIndjukks กล่าวว่า...

อั้ยหยาาตบแม่งอิกกก

Unknown กล่าวว่า...

เมพมากพี่ถัง

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น