วันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 248 ดาบเพลิงบิน

ตอนที่  248  ดาบเพลิงบิน

อีกด้านหนึ่งของเมืองม่อเฉิง
 “เจ้าคิดว่าใครจะชนะ?”  บุรุษวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานถามอย่างสง่างาม  เขาคือประมุขตระกูลม่อรุ่นปัจจุบัน ม่อเว่ยเทียน  ขณะที่คนที่อยู่ด้านข้างของเขาสวมชุดมอมแมม รองเท้าสกปรกมองดูเหมือนชาวนา ความจริงเขาคือปรมาจารย์เครื่องจักรกลของตระกูลม่อ ม่อเหล่ง

 “ยากจะบอกได้” ม่อเหล่งพูดอย่างอิจฉา
ม่อเว่ยเทียนมีสีหน้าเย็นชา  “กลุ่มอาวุธสายเลือดไม่ใช่ตัวดีจริงๆ แต่ข้าสงสัยว่าอาวุธจักรกลที่สามารถทำให้พวกเขารู้สึกถูกคุกคามได้ สงสัยจริงว่าเขาจะเหมือนอะไร?”
ทันใดนั้นเขาหันไปหาพ่อบ้านที่อยู่ข้างๆ เขาและถาม “แล้วเจ้าได้พบอะไรมาบ้าง?”
พ่อบ้านรายงานอย่างเคารพ  “องค์การกลุ่มอาวุธสายเลือดมีความเข้มงวดและรักษาความลับเป็นอย่างดี  โชคดีที่เราพบหนึ่งในพวกเขาที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกตระกูลม่อคนหนึ่ง  เขาเป็นวิศวกรจักรกลอยู่ในกลุ่มนั้นมาเป็นเวลานาน อาจถือได้ว่าเป็นคนสำคัญก็ได้ ประวัติของกลุ่มสาวไปได้เกินกว่าพันปี  พวกเขาดำเนินงานประสบความสำเร็จมาหลายชั่วอายุคน และเป็นหนึ่งในองค์การที่อยู่ในสังกัดองค์การวิญญาณมืด  พวกเบื้องบนเป็นสมาชิกขององค์การวิญญาณมืดทั้งหมด  แต่ภายในองค์การวิญญาณมืด  พวกเขามีระดับที่ไม่สูงนัก ราวๆ เจ็ดปีที่แล้ววิชาอาวุธจักรกลพลังสายเลือดของพวกเขาสร้างได้สมบูรณ์แบบ  อาวุธระดับสูงก็ทำได้สำเร็จมากขึ้น  ปัจจุบันพวกเขามีอาวุธระดับสูงอยู่สามชุดซึ่งก็คือ คิงคอง, เหวยถัว, เย่ซา”
 “โอว นั่นก็หมายความว่าหลิ่วย่าจือมีระดับที่สูงใช่ไหม?”  ม่อเว่ยเทียนลูบคิ้ว  “ข้าจำได้ว่าอาวุธสายเลือดของเขาก็คือคิงคองใช่ไหม?”
 “ใช่แล้ว!  พ่อบ้านตอบด้วยความเคารพ  “แต่อาวุธระดับสูงสามชุดนี้ทำให้กลุ่มต้องหมดเงินทุนไปมาก  และตอนนี้พวกเขากำลังต้องการเงินทุน”
วิชาจักรกลนับว่าล้างผลาญเงินทองจริงๆ  และไม่มีใครเข้าใจเรื่องนี้ดีไปกว่าม่อเว่ยเทียนแล้ว  กลุ่มอาวุธสายเลือดมาพบกับตระกูลม่อต้องการได้รับเงินทุนที่จำเป็นและปรารถนาว่าด้วยช่องทางที่มากมายของตระกูลม่อ  พวกเขาจะสามารถผลิตอาวุธพลังสายเลือดได้เป็นจำนวนมาก
 “คิงคองแข็งแกร่งมากอย่างแท้จริง”  ม่อเหล่งพูดขึ้นทันที  “มันแข็งแกร่งกว่าหอคอยห้าวหาญเสียอีก”
เขาคือปรมาจารย์วิศวจักรกล และด้วยรูปลักษณ์นี้เอง เขาสามารถกำหนดมาตรฐานอาวุธจักรกลได้   เพื่อดึงดูดตระกูลม่อ  หลิ่วย่าจือไม่มีอดออมรั้งฝีมือของเขาแต่ประการใด และคิงคองได้แสดงพลังต่อตระกูลม่อเต็มศักยภาพของมัน
แม้ว่าคำพูดเหล่านี้จะเจ็บปวดเมื่อม่อเว่ยเทียนได้ยิน  แต่เขารู้ว่าปรมาจารย์เหล่งพูดถูก   หอคอยห้าวหาญก็คืออาวุธจักรกลที่แข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบันของตระกูลม่อ  แต่มันไม่อาจเทียบได้กับคิงคอง ในฐานะที่เป็นตระกูลเก่าแก่ทางด้านงานจักรกล  ตระกูลม่อไม่มีทางยอมแพ้ในการฟื้นฟูงานจักรกล มาถึงจุดนี้พวกเขาและกลุ่มอาวุธสายเลือดตกลงกันแล้ว
เมื่อวิชาจักรกลตกต่ำ ไม่ว่าจะเป็นนักสู้สายอาวุธจักรกลหรืออาวุธจักรกล ก็ล้วนตกต่ำไปกันหมด
แต่, ม่อเว่ยเทียนและตระกูลของเขาไม่ชอบกลุ่มอาวุธสายเลือด  สำหรับเขาอาวุธสายเลือดไม่ใช่อาวุธจักรกลอีกต่อไป
ม่อเว่ยเทียนพูดอย่างเฉื่อยชา  “แต่เมื่อเห็นวิธีสกปรกของพวกเขา ดูเหมือนความเชื่อมั่นของพวกเขายังไม่เพียงพอ”
พ่อบ้านตอบ “ข้าได้ยินมาว่าเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อหลิ่วย่าจือทดสอบคิงคอง  เขาได้พบกับนักสู้อาวุธจักรกลคนหนึ่งและพ่ายแพ้เขาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด  ยอดฝีมือสองสามคนจากกลุ่มอาวุธสายเลือดร่วมกันล้อมจับศัตรู แต่ศัตรูยังกำจัดพวกเขาได้อย่างง่ายดาย และเรื่องนี้เป็นเหตุให้เบื้องบนโกรธมาก”
 “มิน่าเล่า!  ม่อเว่ยเทียนตระหนักได้ทันที นัยน์ตาเขาเป็นประกายและพูดอย่างครุ่นคิด  “ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีอาวุธจักรกลที่แข็งแกร่งมากกว่าคิงคอง! คนผู้นั้นมาจากไหนกัน? ข้าจะยอมทุ่มค่าใช้จ่ายเพื่อตามหาเขาให้ได้”
ประโยคสุดท้ายนั่น สำเนียงของเขาจริงจังมาก  คิงคองของหลิ่วย่าจือมีพลังเพียงพอทำให้เขารู้สึกตกตะลึง  ถ้ามีอาวุธจักรกลที่แข็งแกร่งกว่าคิงคอง นั่นก็หมายความว่า คนผู้นั้นมีพลังระดับอยู่ในทำเนียบสวรรค์วิถีมิใช่หรือ?
นั่นน่าตกใจเกินไปแล้ว
วิชาจักรกลจะถูกฟื้นฟูกลับมาได้จริงหรือ?
ม่อเว่ยเทียนไม่มั่นใจ
พ่อบ้านเห็นด้วยทันที
ม่อเหล่งผู้ไม่เคยละสายตาจากหิมะสายฟ้ากล่าวทันที “อาวุธจักรกลนั่นดูแล้วไม่ธรรมดาแน่นอน”
อาวุธจักรกลที่ดูเหมือนชำรุดนั้น ในสายตาของม่อเหล่ง มันเคลื่อนไหวราวกับสุภาพสตรีชั้นสูง  หลายคนคงคิดว่ามันน่าเกลียด แต่ม่อเหล่งสามารถบอกได้ว่าโครงสร้างของมันสร้างตามหลักวิชาการ แบบอย่างดั้งเดิมหลายอย่าง แม้ว่าจะแทบจำไม่ได้ แต่ม่อเหล่งสามารถบอกได้ว่าต้นแบบเดิมมาจากกองทัพดาวกางเขนใต้
แต่ม่อเหล่งมีสีหน้าเฉยชา งงงันมองดูไม่มั่นใจ เขาพึมพำกับตัวเอง “มันใช้เวลา 7.6 วินาทีได้อย่างไร?”
ผ่านการทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่งในเวลา 7.6 วินาที นั่นเป็นสถิติที่น่าทึ่งอย่างแน่นอน
แม้แต่คิงคองของหลิ่วย่าจือก็ไม่สามารถทำได้
แต่โดยรวดเร็ว ทั้งสองคนไม่สนใจคุยต่อไป  สายตาของพวกเขาจับจ้องอยู่ที่ร่างสีน้ำเงินและแดงที่เคลื่อนไหวทันที
อาวุธของปะการังก็คือดาบยาวเมตรครึ่ง ใบดาบจะมีรังสีแดง  ดาบแดงยิงรังสีจนเต็มท้องฟ้าทันที
เหมือนกับว่าถังเทียนติดอยู่ใต้พายุทำให้เขาปวดศีรษะ  ดาบของศัตรูบินอยู่ในอากาศอย่างต่อเนื่องและความรู้สึกถึงอันตรายที่กล้าแข็งทำให้หัวใจถังเทียนตื่นเต้น  ด้วยการเสริมจิตวิญญาณพลังยุทธของเขา  สัญชาตญาณของเขาเพิ่มขึ้นถึงยี่สิบสองเท่าจากเดิมที่เป็นสิบแปดเท่า
ข้าไม่สามารถลากออกไปได้ไกลกว่านี้
รังสีเย็นสายหนึ่งวาบผ่านอยู่ในดวงตาของถังเทียน เขากระแอมเบาๆ “หิมะสายฟ้าไปกันเถอะ!
เหมือนกับว่าเป็นช่วงเวลาที่เขาคิดถึงมัน  หิมะสายฟ้าเขาใจได้ทันที  มันปลดปล่อยพลังและวิ่งเข้าหาดาบ
วูบ วูบ วูบ
ทันใดนั้น ลำแสงดาบเพลิงเจ็ดสายส่องเข้ามาในสายตาถังเทียน ความระวังตัวของถังเทียนตื่นตัวในระดับสูง  จิตวิญญาณพลังยุทธของเขาสั่น และสัญชาตญาณยี่สิบสองเท่าของเขา ทำให้สภาพแวดล้อมรอบตัวชัดเจนยิ่งขึ้น
กิ่งก้านสาขาของไม้บนพื้นถูกเผา  ปราณร้อนทำให้อากาศรอบตัวพวกเขาบิดเบี้ยว  ฝุ่นบนพื้นฟุ้งกระจายขึ้น
รังสีดาบเพลิงเจ็ดสายตัดขวางกันเป็นคลื่นโดยรอบเหมือนกับตาข่ายใหญ่  และพุ่งตรงหาถังเทียนไม่มีช่องว่าง
ไม่นะ!
มีพื้นที่เพียงเล็กน้อย
ดวงตาของถังเทียนสว่างเหมือนหินดวงดาว ปราณแท้ในร่างของเขาไหลเวียนเข้าไปในร่างหิมะสายฟ้า  เขาโน้มตัวท่อนบนไปข้างหน้าพุ่งออกไปด้วยความเร็วขึ้นทำให้ลำแสงใบมีดแดงเพลิงบิดเบี้ยว  ทันใดนั้นของเขากลายเป็นเหมือนตะปูที่ถูกค้อนตอกลงไปกับพื้นขุดลึกลงไปในดิน
เนื่องจากแรงเฉื่อย ร่างกายท่อนบนของเขาดูเอียงผิดธรรมดา ทันใดนั้นเขาปล่อยพลังฝ่ามือออกมาทันที
ประทับหัตถ์ใหญ่
รังสีดาบในอากาศซึ่งกำลังฟันลงมาเปลี่ยนตำแหน่งฟันลงทันที
เมื่อประทับหัตถ์ใหญ่ปรากฏอยู่บนพื้น  แทนที่เป็นเสียงดังบึ้มอย่างที่คาดแต่เป็นเสียงปั้บเบาๆ ดังออกมา
 “หิมะสายฟ้า ลุย ลุย ลุย”
ถังเทียนตะโกนลั่น ขาของหิมมะสายฟ้าที่จมลึกในพื้นพลันใช้แรงถอนออกมาและฝ่ามือประทับหัตถ์ใหญ่ทั้งสองเป็นเหมือนกระดานใสไร้รูป  ถังเทียนเลื่อนตัวไปข้างหน้า
ปุ ปุ ปุ!
รังสีดาบเจ็ดสายแฉลบผ่านหนังศีรษะของถังเทียนและตัดใส่พื้นข้างหลังเขา  ทิ้งรอยดาบเจ็ดสายไว้เบื้องหลัง
ม่อจื่อหวีคิดไม่ถึงว่าถังเทียนจะใช้วิธีนี้หลบรังสีดาบ
หิมะสายฟ้าที่ก้าวอยู่บนกระดานใสประทับหัตถ์ใหญ่มีความเร็วมาก มันเลื่อนตัวไปเร็วจนตาเปล่ายากจะมองได้ทันเหมือนกับสายฟ้า
ระยะสองสามเมตรกลับดูใกล้ทันที
 

3 ความคิดเห็น:

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น