วันเสาร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 252 คว้าชัยชนะ

ตอนที่  252  คว้าชัยชนะ

ปัง!
เงาร่างสีเขียวปลิวผ่านไปกระแทกฝังเข้าไปในผนังเสียงดังสนั่น

รอยแตกร้าวนับไม่ถ้วนปรากฏและขยายลามผ่านร่างเขา  แรงปะทะยังทำให้ผนังแตกถล่ม เป็นภาพที่งดงาม  สีเขียวจากของเหลวของหญ้าและสีแดงจากเลือดของเขากระจายอยู่ทั่วผนัง
ถังเทียนหอบหายใจหนักหน่วง  พันกระเรียนบรรจบสังหารใช้คู่กับพลังระเบิดมันมากเกินกว่าเขาจะรับมือได้ และตอนนี้เขาทำได้แต่เพียงอ้าปากหอบหายใจ
โกดังอยู่ในสภาพยุ่งเหยิง
พื้น เสาและผนังเต็มไปด้วยเข็มเล็กๆ เป็นภาพที่น่าหวาดหวั่น แม้ตัวของเซรีนก็ยังมีรูเล็กบาง
ม่อเว่ยเทียนและม่อเหล่งยืนตะลึงขณะที่เขามองร่างหุ่นไล่กาที่ห้อยอยู่ไร้สัญญาณชีวิตฝังอยู่ในรอยแตกของผนัง
 “เขา..เขา..เขา...” ม่อเว่ยเทียนรู้สึกว่าลิ้นชาขึ้นมาทันใด
 “เขาตายแล้ว”  ถังเทียนหอบหายใจหนักหน่วงขณะถือโล่ของเขาขึ้นมาอีกครั้ง  โชคดีที่เขามีโล่อยู่ในมือ  ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงต้องลำบากอย่างหนัก  กรงเล็บเพลิงภูตพรายแหลมคมและทรงพลังก็จริง  แต่วิทยายุทธนี้ไม่เหมาะใช้ตั้งรับ  ถังเทียนเสียใจที่เขาไม่ได้โจมตีหุ่นไล่กาทันทีที่เขาปรากฏตัว แต่กลับปล่อยให้เขาได้สนทนากับเขา หากเขาโจมตีเร็วกว่านี้  พวกเขาคงไม่ลงเอยในสภาพอย่างนี้
เขาไม่รู้ว่าพลังปะทะจะส่งผลกับม่อเว่ยเทียนและคนที่เหลือได้มากมาย
หุ่นไล่กาเป็นหนึ่งในนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในทำเนียบสวรรค์วิถี  แม้ว่าตระกูลม่อจะได้รับการยกย่องว่าเป็นตระกูลเก่าแก่ทางด้านงานจักรกล  แต่พวกเขาไม่มีอะไรนอกจากเป็นผู้สร้างความปั่นป่วนได้และพวกเขาไม่มีนักสู้สวรรค์วิถีสักคนเดียว มีแต่สมาชิกผู้มีชื่อที่คุ้นเคยในทำเนียบนักสู้เท่านั้น  เมื่อใดก็ตามที่ตระกูลม่อต้องการให้ช่วย  พวกเขาจะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น   และพวกที่เข้ามาช่วยพวกเขาก็เป็นเหมือนเครื่องหมายของความน่าเคารพเท่านั้น
ตระกูลเก่าแก่ฟังชื่อเหมือนดูดี  แต่ในท่ามกลางดวงดาวนับล้านดวงในสวรรค์วิถี มีตระกูลเก่าแก่อยู่นับไม่ถ้วน
แต่สำหรับนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี พวกเขามีชื่ออยู่ใน 10,000 คนแรก
ในสายตาของม่อเว่ยเทียน นักสู้สวรรค์วิถีได้รับการยอมรับอย่างสูง นั่นคือเหตุผลเมื่อหุ่นไล่กาปรากฏตัว   ใครๆ ก็นึกภาพออกได้เลยว่าม่อเว่ยเทียนจะตกใจเพียงไหน  แต่เมื่อเห็นประจักษ์การตายของนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีอยู่ต่อหน้าต่อตาเขา  เขาได้แต่สับสน
ขณะที่ถังเทียนซึมซับประสบการณ์ที่ได้รับในการต่อสู้  เขามองดูเซรีนและรู้สึกโล่งใจเนื่องจากนางไม่ได้รับบาดเจ็บ  จากนั้นเขานึกถึงอสูรจักรกลสามตัวที่ถูกเรียกออกมา
อสูรบรอนซ์ทั้งสามได้ความดีความชอบ และไม่ทันได้สังเกตหลังจากที่พวกเขาได้ชัยชนะแล้ว
แพะภูเขาบรอนซ์อยู่ที่เดิมกำลังเดินลากเท้า กระรอกมองดูหางใหญ่ที่เสียหายของมันอย่างงงงัน ขณะที่เต่าบรอนซ์ค่อยคลานต้วมเตี้ยมออกมาจากกอหญ้า
ทันใดนั้นหยาหยาปรากฏตัวอย่างไม่คาดคิดและพุ่งเข้าหาอสูรบรอนซ์ทั้งสาม
แพะภูเขากลับหลังหันมา งอหลังและย่อเขาของมันลงขณะที่เตรียมตัวโจมตี
กระรอกพุ่งความสนใจไปที่หยาหยา  แต่เมื่อมันเห็นเป็นหยาหยา มันกลับจ้องด้วยความประหลาดใจ
และเต่ายังคงคลานออกมาจากกอหญ้าเดินไปตามทางของมันช้าช้า
หยาหยายังคงเหน็บธงเล็กๆ ไว้ที่ก้นของเขาขณะที่ส่งเสียงร้องแหลม  หยาหยาใช้มือน้อยๆ โบกไปมาแสดงท่าทาง
 “หยาหยา!  เซรีนตะโกนอย่างทึ่ง นางเพิ่งจะตั้งหลักได้จากอาการตกใจในการต่อสู้กับหุ่นไล่กา
เมื่อได้ยินเซรีนตะโกน  หยาหยาหันหัวไปทางเซรีนและเริ่มวิ่งเข้าหานาง  ธงเล็กๆ ที่เหน็บไว้ที่ก้นของมันยังคงโบกสะบัดขณะที่มันวิ่ง
ถังเทียนชี้ไปที่อสูรบรอนซ์ทั้งสามตัว และถามเซรีน “เจ้าสามตัวนี้มันคืออะไร?”
 “อสูรจักรกล”  เซรีนตอบขณะที่นางเอาแต่บีบจับแก้มของหยาหยา  “พวกมันคืออสูรจักรกลที่ข้าผสานจิตวิญญาณพลังยุทธลงไป เจ้าไม่เห็นเหรอ?”
ถังเทียนประหลาดใจ  “แม้แต่อสูรจักรกลก็สามารถใส่จิตวิญญาณพลังยุทธได้ด้วยเหรอ?”
 “ทำไมจะไม่ได้เล่า?” เซรีนตอบ  หลังจากได้เห็นประสิทธิภาพการต่อสู้ของอสูรทั้งสามแล้ว เซรีนภูมิใจในสิ่งประดิษฐ์ของนาง “พวกมันเป็นยังไงบ้าง? ไม่เลวเลยใช่ไหม? ตอนนั้นข้าเบื่อและมีเวลาเหลือเฟือก็เลยประดิษฐ์ขึ้นมา  แพะภูเขาฉลาดที่สุดแต่มันชอบต่อสู้  เต่าขี้เกียจที่สุด แต่กระรอกมันชอบมึนงงสับสน  เนื่องจากข้าใช้เวลาส่วนใหญ่ตามลำพัง ก็เลยมีเจ้าอสูรทั้งสามนี้เป็นเพื่อนแก้เหงาได้”
ม่อเหล่งตั้งใจฟังเซรีนและอดที่จะตอบบ้างไม่ได้  “อสูรจักรกลแบบนี้เหนือกว่าอสูรจักรกลทั่วไปลิบลับ! พวกมันสามารถเอาชนะอสูรจักรกลในรุ่นปัจจุบันนี้ได้แน่นอน!
เซรีนตอบอย่างภาคภูมิใจ “แน่นอน!  เป้าหมายของเซรีนก็คือกลายเป็นวิศวกรจักรกลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้ได้!
ทันใดนั้นนางตระหนักได้ทันทีว่าปรมาจารย์จักรกลผู้ยิ่งใหญ่กำลังคุยกับนาง  จบกัน!  นางไปแสดงความหยิ่งยโสต่อหน้าปรมาจารย์จักรกลได้ยังไงกัน
เป็นความผิดของถังเทียนคนเดียว
นางตำหนิอิทธิพลถังเทียนที่มีต่อนางหลังคลุกคลีด้วยกันมาเป็นเวลานาน
ถังเทียนไม่รู้ว่าเซรีนแอบด่าเขาในใจที่ทำให้นางผิดพลาด  เขาไปนำตัวหุ่นไล่กาลงมาจากผนัง  ตู้เก็บของอควาเรียสที่หุ่นไล่กาใช้มีขนาดเล็กกว่าที่ถังเทียนมี ภายในที่เก็บของยุ่งเหยิง  ถังเทียนไม่ได้ดูอย่างใกล้ชิดว่าของในตู้อควาเรียสมีอะไรบ้าง  เนื่องจากเขาสนใจสมบัติอีกชิ้นหนึ่งบนร่างกายของหุ่นไล่กา
เป็นเหรียญเงินที่สลักคำว่า ขาตั้งภาพ”
ถังเทียนจึงได้รู้ว่าภาพวาดนี้ ก็คือกลุ่มดาวขาตั้งภาพ
ถังเทียนกำเหรียญเงินไว้แน่นและถ่ายปราณแท้ลงไป ในไม่ช้ารอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นในใบหน้าของเขา
 “ลายมือเงิน” เป็นสมบัติชั้นเงินจากกลุ่มดาวขาตั้งภาพ
ถังเทียนลองถ่ายปราณแท้ลงไปในเหรียญเงิน  ปราณแท้ทั้งหมดในตัวของเขาดูเหมือนจะควบคุมได้ง่ายมาก มันช่วยให้เขาใช้ปราณแท้ของเขาในแนวที่เมื่อก่อนนี้เขาทำไม่ได้  เหรียญเงินนี้ดูเหมือนยังซ่อนมือที่มองไม่เห็นทำให้การควบคุมปราณแท้ไม่ถูกยับยั้งสะดุดลง  มิน่าเล่าหุ่นไล่กาถึงได้ควบคุมใบมีดหญ้าที่มีความเปลี่ยนแปลงของปราณแท้ที่ซับซ้อน ทั้งนี้เนื่องมาจากลายมือเงินนี่เอง
จุดอ่อนอย่างเดียวก็คือเหรียญเงินนี้จำเป็นต้องได้รับการถ่ายเทปราณแท้เข้ามาก่อนจึงจะใช้งานได้
ไม่มีข้อข้องใจการทำงานของลายมือเงิน  แต่เนื่องจากการฝึกฝนธรรมดา มันจะไม่มีประโยชน์เนื่องจากจะทำให้คนพึ่งพามันมากเกินไป  หลังจากงุนงงอยู่เป็นเวลาสั้นๆ ถังเทียนก็ถูกพลังของมันดึงดูดไปแล้ว
แต่ถังเทียนรีบเรียกความรู้สึกกลับมาอย่างรวดเร็วและตระหนักถึงอันตรายที่มาพร้อมกับลายมือเงิน
 “ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าน้องชายก็เป็นนักสู้ระดับสวรรค์วิถีอีกด้วย  ข้าขออภัยที่ไม่ได้ให้เกียรติเจ้าเท่าที่ควร!  ม่อเว่ยเทียนกล่าวขอโทษ
 “ท่านเกรงใจมากไปแล้ว”  ถังเทียนรีบถ่อมตัวกับคำชมของเขา
ม่อเว่ยเทียนรู้สึกคลายใจแกมประหลาดใจเนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ได้พบนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี  ยิ่งกว่านั้นถังเทียนยังอายุเยาว์ อนาคตของเขาย่อมสดใสแน่นอน
ม่อเว่ยเทียนรู้สึกหงุดหงิดในใจอย่างหนึ่ง  ตระกูลเก่าแก่ทางด้านจักรกลมีเงินทุนทรัพย์สินมหาศาล  แต่ชื่อเสียงตกต่ำ ทำให้พวกเขาไม่สามารถดึงดูดนักสู้จากทำเนียบสวรรค์วิถีมาได้  ที่สำคัญ วิชาอาวุธจักรกลตระกูลม่อยังล้าหลังจากการเป็นตระกูลเก่าแก่ที่ได้รับยกย่อง  แต่เมื่อเทียนกับสวรรค์วิถีทั้งหมดแล้ว  พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้นักสู้ฝีมือดีจากที่นั่นเลย
เครื่องจักรกลเป็นวงการเล็กๆ
แต่เมื่อสามารถปกครองตระกูลม่อได้  ม่อเว่ยเทียนก็ไม่ใช่คนธรรมดาเหมือนกัน  อาวุธจักรกลวิญญาณคงสามารถพลิกฟื้นสถานการณ์ที่น่าอึดอัดของวิชาจักรกลขึ้นมาได้แน่
การร่วมมือของปรมาจารย์วิศวกรจักรกลที่เต็มไปด้วยอัจฉริยภาพและนักสู้จากทำเนียบสวรรค์วิถีเป็นเรื่องที่น่ากลัว
เมื่อนึกถึงการต่อสู้ที่เพิ่งจะเกิดขึ้น  ม่อเว่ยเทียนนึกอัศจรรย์ใจเมื่อเขาตระหนักว่า คนที่ดูเยาว์วัยนี้เริ่มเข้ามามีบทบาทเป็นผู้นำระหว่างขั้นตอนในการต่อสู้บ้างแล้ว
เซรีนไม่ได้ผลิตจิตวิญญาณพลังยุทธออกมามากนัก  ดังนั้นจึงไม่มีความขัดแย้งระหว่างตระกูลม่อกับนาง
ม่อเว่ยเทียนจ้องมองพลางไตร่ตรองหาวิธีส่งเสริมเซรีนและถังเทียน  สิ่งแรกที่เขาคิดก็คือเรื่องเงิน  เนื่องจากตั้งแต่ก่อนจะสู้กับหุ่นไล่กา  ม่อเว่ยเทียนรู้สึกว่าทั้งสองคนยังขาดแคลนเงิน  แม้ว่าอิทธิพลตระกูลม่อจะยังอ่อน เนื่องจากลักษณะของตระกูลเก่าแก่ทางเรื่องจักรกล  แต่พวกเขายังมีพลังที่น่ากลัว ซึ่งก็คือพวกเขามีเงิน
ตระกูลเก่าแก่ด้านจักรกลสามารถติดต่อแหล่งทรัพยากรได้มากมาย  แม้ว่าพลังรบของอสูรจักรกลพวกเขายังจะอยู่ในระดับต่ำ  แต่พวกเขายังมีความสามารถในการหาทรัพยากรเหมือนแร่  แม้ว่าตระกูลจะขายอาวุธจักรกล  แต่พวกเขาก็มีรายได้เพิ่มอีกเล็กน้อยจากเหมืองแร่  เนื่องจากต้องใช้รักษาชื่อเสียงพวกเขาในสวรรค์วิถี  ผลพวงจากการทำทรัพยากรเหมืองแร่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตระกูลเก่าแก่ทางด้านจักรกลยังมั่งคั่งอยู่ได้
ม่อเว่ยเทียนยิ่งยินดีจะให้การสนับสนุนเงินจำนวนมากแก่ถังเทียนและเซรีน เนื่องจากเขาสามารถเห็นศักยภาพมากมายที่พวกเขาทั้งสองคนมีอยู่
แต่, เราควรจะให้การสนับสนุนพวกเขาได้ยังไง?
ม่อเว่ยเทียนรู้สึกอึดอัดอยู่บ้างแม้ว่าเขาเพิ่งจะร่วมมือกับพวกเขาและได้บรรลุข้อตกลงลงกันไปแล้ว ชั่วขณะที่ผ่านไปก่อนหน้านั้น เขาล้มเหลวที่จะยื่นข้อเสนอเป็นเงินให้พวกเขา
ถ้าถังเทียนรู้สิ่งที่ม่อเว่ยเทียนกำลังคิด เขารีบวิ่งออกมาพร้อมกับอ้าแขนรับแน่นอน
โชคไม่ดีที่ถังเทียนไม่รู้
 “ทำไมเจ้าผู้นี้ถึงได้ต้องการสู้กับเรา?”  ถังเทียนชี้ไปที่ร่างไร้ชีวิตของหุ่นไล่กาและถามดู
ม่อเว่ยเทียนตอบอย่างไม่ลังเล  “เพราะเป็นหนึ่งในสมาชิกสำนักเกราะโลหิต”
ม่อเว่ยเทียนอธิบายให้ถังเทียนทราบถึงรายละเอียดสำนักเกราะโลหิตและวัตถุประสงค์ของพวกเขา  มิน่าเล่า ม่อเว่ยเทียนตอนนี้ถึงได้เข้าข้างถังเทียนเต็มที่  ทั้งนี้เพราะสำนักเกราะโลหิตมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดรุนแรงมากกว่ากลุ่มของถังเทียนและนอกจากนี้ถังเทียนยังเป็นนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีอีกด้วย
การสูญเสียหุ่นไล่กานับเป็นความพ่ายแพ้ของสำนักเกราะโลหิตครั้งใหญ่และทางสำนักคงต้องหาทางแก้แค้นให้เขาแน่นอน  เพราะทุกสำนัก การสูญเสียนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่เสมอ
จากนั้นม่อเว่ยเทียนบอกข้อกังวลของเขา
ถังเทียนบอกเขาว่าเมื่อเขาส่งมอบทองอีกาให้เขาได้สำเร็จแล้ว  ถังเทียนจะกลับไปยังเมืองสามวิญญาณ จากนั้นเขาจะเดินทางต่อไปยังกลุ่มดาวกางเขนใต้เพื่อตามหาซ่างกวนเชียนฮุ่ย
ถังเทียนเชื่อว่าการเดินทางของพวกเขา คงไม่มีโอกาสที่พวกเขาจะไปบรรจบกับสำนักเกราะโลหิตเป็นแน่
ถังเทียนเตือนม่อเว่ยเทียน  “แล้วพวกเขาจะไม่ระบายความโกรธกับพวกท่านแทนกระมัง”
ม่อเว่ยเทียนหัวเราะลั่น  “อย่าห่วง  แม้ว่าตระกูลม่อจะไม่มีนักสู้สวรรค์วิถี  แต่เราไม่ยอมถูกรังแกง่ายๆ แน่ เว้นเสียแต่สำนักเกราะโลหิตยินดีจะทุ่มพลังทุกอย่าง และสำนักของพวกเขาก็ยังขาดเงินทุนสนับสนุนอีกด้วย  ดังนั้นถ้าพวกเขาสู้กับเรา เงินทุนของพวกเขาก็จะสูญเปล่า”
ถังเทียนรู้สึกอิจฉา
เมื่อได้ยินความรู้สึกห้าวหาญของม่อเว่ยเทียน  ก็ยิ่งน่าประทับใจมากที่เขาสามารถใช้เงินสยบศัตรูมากกว่าจะฆ่ากันให้ตาย
เมื่อไหร่ข้าจะมั่งคั่งได้ถึงระดับนั้น?  นัยน์ตาถังเทียนเป็นประกายรูปเงินเหรียญดาว
จากนั้นม่อเว่ยเทียนกล่าว “ขอเชิญมาพักที่บ้านของเราสักสองคืนเถอะ  สถานการณ์ที่เกี่ยวพันกับจื่อหวีและม่อลิ่วเป็นความผิดของตระกูลม่อเอง  ขอให้เราได้ทำอะไรชดเชยบ้างเถอะ”
ม่อเหล่งกล่าว “แม้ว่าตระกูลม่อเราจะมีเคล็ดลับที่ใช้สร้างอาวุธจักรกลของเรา  แต่วิชาเหล่านั้นก็ยังไม่เท่าวิชาของแม่นางเซรีน  แต่ถ้าแม่นางเซรีนสนใจ  เจ้าสามารถชมดูชุดอาวุธจักรกลของเราได้”
ม่อเว่ยเทียนประหลาดใจ เนื่องจากม่อเหล่งไม่ค่อยพูด  ซึ่งเป็นการกระทำที่แยบยลของม่อเหล่งอยู่แล้ว
เซรีนหลังจากได้ฟังข้อเสนอของม่อเหล่งก็ดีใจ  นางค่อยๆ หันไปทางถังเทียนหวังว่าถังเทียนจะรับข้อเสนอของเขา
ถังเทียนยิ้ม  “อย่างนั้นขออภัยที่ต้องรบกวน!
 “ไม่ต้องห่วง” ม่อเว่ยเทียนรีบตอบรับขณะที่เขามีหน้าเป็นประกายด้วยความสุข
 “อย่างนั้นเรากลับกันเถอะ”
ถังเทียนแบกร่างหุ่นไล่กาใส่หลัง ขณะที่เขาเดินตรงไปที่ประตู   เขาจ้องมองขณะที่สัญชาตญาณนักฆ่าของเขาถูกกระตุ้น
เขาต้องการแสดงให้กลุ่มอาวุธพลังสายเลือดรู้ว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง

5 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ จอบยุ ...

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

peawji กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
peawji กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ สนุกมากเลย

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น