วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 643 ต้องการคุยเงื่อนไข? ว่ามาเลย!


ตอนที่  643  ต้องการคุยเงื่อนไข? ว่ามาเลย!
บุรุษหมวกสูงไม่ได้เห็นสหายของเขาถูกต้อนเข้ามุม เขาแกล้งถอยเพื่อล่อนางเซียนหงส์ฟ้า เพื่อที่ว่าเขาจะได้กันคนที่แข็งแกร่งที่สุดออกพ้นทางไป

เขาไม่เคยนึกฝันเลยว่าสหายนักสู้ปราณฟ้าทั้งสองของเขาจะไม่สามารถโจมตีศัตรูได้  พวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากเขาอย่างหมดท่า
เนื่องจากการมาถึงของเย่ว์หยาง  สมาชิกวังมารรู้ว่ามีความเป็นไปได้ในการล้มเหลวเป็นศูนย์  ระดับความมั่นใจของพวกเขาทะยานขึ้นทันที  เมื่อเห็นวิธีที่เย่ว์หยางสามารถปั่นหัวศัตรูราวกับว่าพวกเขาไม่มีอะไร  กำลังใจของพวกเขาก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นมากมายและพวกเขาทุ่มพลังโจมตีเต็มที่  ทักษะฝีมือระดับสูงถูกปล่อยออกมา ขณะที่พวกเขาใช้ถี่จนดูราบรื่น  และโดยการเสริมพลังให้กันและกัน พลังที่ผสานของพวกเขาแข็งแกร่งมากกว่าปกติหลายเท่า
หลังจากสู้รบอย่างดุเดือดหนึ่งชั่วโมง หนอนทรายที่อยู่ใต้ดินก็ถูกมารเคราะห์ฟ้ายิงจนตาย  นางได้ความดีความชอบมากที่สุดกับการฆ่าอสูรตัวแรก
สาวขี้เมา แพนด้าน้อยหนิวหนิว, เย่ว์หวี่และอสูรคลื่นพายุของนาง, นางเงือกวายุผนึกกำลังกันเอาชนะกิ้งก่าเขาศิลาได้ ทำให้สัตว์ประหลาดตัวที่สองตาย  อย่างไรก็ตามสัตว์ประหลาดที่น่าจะถูกฆ่าตายเป็นตัวที่สองควรเป็นแมงมุมปีศาจ ที่ต่อสู้กับมารแค้นฟ้า  เพื่อต้องการยกระดับให้ตัวเขาเอง  มารแค้นฟ้าจงใจปล่อยให้แมงมุมปีศาจมีชีวิตและใช้มันในการฝึกฝีมือ  เขาต้องการความสำเร็จในการยกระดับ  นอกจากนี้แมงมุมปีศาจมีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเหลือเชื่อ  เมื่อมันมีเวลาพัก มันจะฟื้นฟูพลังต่อสู้ได้ทั้งหมด  มันคือศัตรูที่ยากลำบากมาก  ในบรรดาสมาชิกวังมาร นอกจากเย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้าแล้ว  มีแต่มารแค้นฟ้าที่มีพลังเอาชนะสัตว์ประหลาดตนนี้ได้
มารฟ้าพิบัติผู้ยิ่งยโสสู้กับอสูรฝันร้ายไฟนรกเป็นเวลานาน
เขาลังเลใจที่จะฆ่าอสูรตนนี้  เขาอยากจะบังคับให้มันทรยศเจ้านายของมันและบังคับให้มันรับใช้เขา
น่าเสียดายดูเหมือนว่าอสูรฝันร้ายไฟนรกจะมีความภักดีต่อเจ้านายของมันมาก  แม้ว่าหัวหน้าไป๋หม่าในตอนนี้จะถูกรุมเล่นงานโดยเสี่ยวเหวินหลีและอสูรอื่นๆ แต่มันก็ยังปฏิเสธที่จะหักหลังเจ้านายของมัน ทำให้มารฟ้าพิบัติมีอารมณ์ทั้งเกลียดและทั้งมีความสุข
เขามีความสุขที่อสูรฝันร้ายไฟนรกยังมีความภักดี  พิสูจน์ได้ว่ามันเป็นอสูรที่ดี  สิ่งที่ทำให้เขาเกลียดก็คือ มันไม่ได้เป็นของเขา
ยังมีการต่อสู้ระหว่างมารอาญาฟ้าและม้าเพลิงแดนสวรรค์ซึ่งรุนแรงจนยากจะแยกแยะว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ ถ้าความสามารถของม้าเพลิงแดนสวรรค์ได้รับการขยายเพิ่มขึ้นหลายเท่าโดยอสูรลมโชย มารอาญาฟ้าก็แค่สู้ได้เสมอกับมันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทักษะแสงชำระของเสี่ยวเหวินหลีมีความสามารถในการขับไล่กระจายพลังงาน  ความสามารถในการเพิ่มพลังของอสูรลมโชยจึงลดลงอย่างมากมาย  ทุกที่ที่สัมผัสกับแสงชำระจะทำให้พลังของศัตรูลดลงอย่างมาก  ในทางตรงกันข้าม ทุกคนที่อยู่ในฝ่ายเดียวกับเย่ว์หยางจะได้รับการฟื้นฟูจากความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า  เมื่อไม่มีการสนับสนุนจากอสูรลมโชย ม้าเพลิงแดนสวรรค์ก็ไม่สามารถปล่อยพลังโจมตีได้เต็มที่เพื่อทำลายพลังป้องกันที่แข็งแกร่งของมารอาญาฟ้า  ในทางตรงกันข้ามพายุที่รุนแรงซึ่งนางเงือกวายุเรียกทำให้ความเร็วในพลังต่อสู้ของม้าเพลิงแดนสวรรค์ตกลงเล็กน้อย จนมันต้องถอยทีละนิดจากพลังโจมตีของมารอาญาฟ้า
โชคดีที่มันรวดเร็วพอจะหลบหลีกจากการโจมตีที่รุนแรง
มารอาญาฟ้าไม่สามารถล้มมันได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
ก่อนที่นางเงือกวายุจะเป่าสังข์วายุเรียกพายุรุนแรง และก่อนที่เย่ว์หวี่จะเรียกอสูรคลื่นพายุออกมา  งูหางกระดิ่งปีศาจมีความน่ากลัวมาก  แค่อาศัยพลังของมันเอง ก็สร้างความลำบากให้กับสามมารฟ้าที่ระดับพลังต่ำที่สุดก็คือมารฟ้าพิโรธ, มารฟ้าสังหารและมารกระบี่ฟ้าจนร่วงไปอีก ไม่สามารถตอบโต้การโจมตีของมันได้
อาการบาดเจ็บสาหัสของมารกระบี่ฟ้าแทบจะทำให้เขาเกือบตายหลายครั้งแล้ว
อย่างไรก็ตาม มังกรทองสามหัวที่ทรงพลังของไห่อิงอู่ได้เข้ามาช่วยชีวิตของเขาไว้อย่างกล้าหาญ
ด้วยการใช้อสูรคลื่นพายุของเย่ว์หวี่และพายุรุนแรงของนางเงือกวายุ  งูหางกระดิ่งปีศาจได้รับความทรมานอย่างมากจากสภาพที่ลื่นไหล เนื่องจากโดยธรรมชาติของมัน มันเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายแห้งแล้ง  หลังจากเย่ว์หวี่ใช้บอลวารีบำบัดรักษามารกระบี่ฟ้า  เขาโกรธจัดจนมีพลังมากกว่ามารแค้นฟ้าซึ่งถือกลองฟ้าผลาญใจ  มารกระบี่ฟ้าควงกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เผชิญหน้าตรงๆ กับงูหางกระดิ่งปีศาจที่ในตอนนี้ความเคลื่อนไหวและการสนองตอบของมันลดลงอย่างมากมาย  เขาใช้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์แทงฟันศัตรูของเขาหลายครั้งครา พยายามสะสางความแค้นจากการที่เขาเกือบถูกฆ่าตายก่อนนั้น
หัวหน้าไป๋หม่าและเฮยถูไม่เคยคาดคิดเลยว่า แค่ทำให้ฝนตกและเรียกอสูรน้ำออกมาจะเปลี่ยนสถานะการต่อสู้ไปอย่างสิ้นเชิง
สภาพพื้นที่เปียกชื้นยังคงส่งผลใหญ่ต่ออสูรฝันร้ายไฟนรกและม้าเพลิงแดนสวรรค์ ที่กำลังต่อสู้อยู่กลางอากาศ
ขณะเดียวกันเขาเกลียดนาคาสายฟ้าที่คอยเรียกสายฟ้าคอยลอบทำร้ายศัตรูเป็นครั้งๆ
แม้จะสูญเสียความสามารถในการดำดิน  แต่แมงมุมปีศาจก็ยังสามารถลอยตัวอยู่บนผิดน้ำได้  ยังไม่ถึงกับได้รับผลที่แย่เกินไปนัก
อย่างไรก็ตาม หนอนทราย, กิ้งก่าเขาศิลา, แมงมุมปีศาจและงูหางกระดิ่งปีศาจก็มีระดับพลังที่ตกลงมาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนอนทราย  เนื่องจากความสามารถในการต่อสู้ตามธรรมชาติของมันอยู่ในที่ลึก ต้องฝังตัวในทราย  มันจึงกลายเป็นสัตว์ที่ไร้ประโยชน์เมื่อไม่มีสภาพแวดล้อมใต้ดิน  มันกลายเป็นตุ๊กตาน้ำแข็งเนื่องจากทักษะของมารเคราะห์ฟ้า มหาภัยพายุหมุนและมหาภัยธารน้ำแข็ง  เนื่องจากกิ้งก่าเขาศิลาไม่สามารถดำดินได้และสู้ต่อสู้ในสภาพแวดล้อมที่เปียกแฉะ  มันจึงกลายเป็นตุ๊กตาหินให้ทุบตีทั้งเป็นด้วยฝีมือสาวขี้เมาและหนูน้อยแพนด้าหนิวหนิว  มันตายอย่างน่าเวทนาที่สุด เนื่องจากมันตายด้วยฝีมือนักรบที่ยังไม่มีพลังปราณก่อกำเนิด
หัวหน้าไป๋หม่าเกลียดเสี่ยวเหวินหลีมากที่สุด  เนื่องจากการปรากฏตัวของเธอทำให้พลังโจมตีของเขาถูกรั้งไว้หลังจากโดนพลังพันธนาการ
ปีศาจอสรพิษน้อยร้ายกาจยิ่งกว่าความชั่วของมันเอง
แต่ เฮยถูไม่เห็นด้วย
เขารู้สึกว่าสิ่งที่น่ากลัวจริงๆ ไม่มีใครอื่นเกินกว่านางโคเงา เนื่องจากนางมีพลังหัวใจธรณีสารกับพลังที่ไม่มีหมดเหมือนกับพลังของไตตัน
แม้แต่นักสู้ปราณฟ้าระดับสองยังถูกนางทุบตีจนไม่เหลือเรี่ยวโต้ตอบ
บางครั้งเฮยถูก็สงสัยตัวเองว่าเขาเป็นนักสู้ปราณฟ้าหรือเปล่า
แน่นอนว่า เขาคงตายไปนานแล้วถ้าเขาไม่ใช่นักสู้ปราณฟ้า
อาหมันมีพลังแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นจากเงาปีศาจยักษ์จึงไม่ใช่ศัตรูที่นักรบธรรมดาจะสามารถรับมือได้
สำหรับเฮยถู เขาต้องยอมรับว่านี่เป็นการต่อสู้ที่ทรมานจริงๆ  เมื่อพวกเขาต่อสู้กัน  เขาตระหนักอย่างน่าเสียใจว่าวิทยายุทธของโคเงายังดีกว่าเขา  นอกจากนี้การแลกหมัดโจมตีกับนางไร้ความหมาย  ตราบใดที่นางยังคงยืนปักหลักอยู่กับพื้น  นางจะลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วไม่ว่านางจะถูกทุบตีล้มไปกี่ครั้งก็ตาม  ถ้าเขาเหนื่อยต้องการจะหลบหนี?  โคเงานี้จะใช้โซ่ล่ามเทพในมือนาง   ไอ้โซ่บ้านี่ก็มีความสามารถในการจำกัดฝีมือของเขาที่เป็นนักสู้ปราณฟ้า..เฮยถูผู้ติดอยู่ในสถานการณ์นี้ต้องเป็นฝ่ายถูกทุบตีบ้าง  เขาเกือบร้องไห้เมื่อนางเงือกวายุเรียกพายุและเย่ว์หวี่เรียกคลื่นพายุ
นี่มันไม่ยุติธรรมเกินไปแล้ว!   อย่าว่าแต่สู้กับนางโคเงาที่มีพลังหัวใจธรณีสารซึ่งเป็นจุดอ่อนของเขา  พวกเขายังเริ่มต้นด้วยการสู้ในน้ำ
บุรุษหมวกสูงตีวงอ้อมกลับมาโดยไม่ได้โจมตี
ตอนแรกเขาคิดว่าเขาคงจะเห็นศพของศัตรูนอนเกลื่อนเต็มพื้น  และสหายของเขาคงจะรอเขาและร่วมโจมตีมารกฎฟ้าพร้อมกัน พร้อมกับรอยยิ้มเต็มใบหน้า
เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์จริงกลับตรงกันข้ามกับที่เขาคาด จำนวนของศัตรูไม่ได้ลดลง แต่สหายของเขากลับถูกทุบตีเล่นงานบาดเจ็บหนัก  ศัตรูของเขากำลังหัวเราะรอให้เขากลับมา... เมื่อเห็นว่าเย่ว์หยางยิ้มสดใสรอเขา  เขาตกตะลึงแทบตาย
 “โธ่เว้ย, จงกวน, เจ้าเป็นตัวแทนประสาอะไรกัน?  เจ้ารายงานข้อมูลผิดพลาด พาเรามาติดกับดักแล้วหนีเอาตัวรอดเอง  อสูรของเรากำลังจะตายหมดในไม่ช้านี้  เจ้าหายหัวไปอยู่ไหนมา?”  หัวหน้าไป๋หม่าฝืนตนเองสบถในท่ามกลางการต่อสู้  เพราะเขาโกรธมากเมื่อเขาเห็นบุรุษหมวกสูงกลับมาจนได้หลังจากไล่ตามมารกฎฟ้า
 “มาตรงนี้เร็วๆ เข้า...”  เฮยถูไม่มัวแต่พูดดีๆ แล้ว
มารฟ้าวิบัติ, สาวขี้เมา เย่ว์หวี่และคนอื่นๆ ฆ่าศัตรูของพวกเขาแล้วจึงมีเวลาว่างมาช่วยอาหมันสู้กับเฮยถู  นี่ทำให้สถานการณ์ของเขาแย่มากกว่าแต่ก่อน
ทั้งนี้เพราะการต่อสู้ทางน้ำไม่ใช่เรื่องถนัดของเขา
มันคือจุดอ่อนของเขา
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่เป็นใจ  บุรุษหมวกสูงจงกวนเริ่มรู้สึกปวดหัว
สหายของเขาที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าถูกศัตรูทุบตีเล่นงานแบบนี้ได้ยังไง?  เกิดอะไรขึ้น?  เขาวิ่งวนรอบสถานที่นี้กับมารกฎฟ้ารอบเดียวเท่านั้น  แต่สถานการณ์ที่นี่จู่ๆ ก็กลายเป็นแบบนี้ช่างเหลือเชื่อจริงๆ!
เหมือนกับมีประกายไฟแว่บขึ้นมาในใจ เขารู้ขึ้นมาทันที  ถ้าข่าวลือเป็นจริง มีเพียงคนเดียวที่มีความสามารถแบบนี้!  บุรุษหมวกสูงจงกวนร้องมาทางเย่ว์หยางที่ยังไม่ได้โจมตีตอนนี้  “เจ้า, เจ้าคือคุณชายสามตระกูลเย่ว์หรือ?  ไม่, เจ้าไม่ควรจะอยู่ที่นี่  มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?  หรือว่าเย่เซียว จื่อกวงและเยี่ยซู่ไม่ได้ฉุดลากเจ้าลงไป?   เจ้าถูกล่อให้ไปสู้ในผนึกโบราณอื่น เจ้าไม่ควรมาอยู่ที่นี่ เจ้ามาที่นี่ได้ยังไง?  เจ้า แยกร่างเป็นสองได้หรือ?”
เย่ว์หยางยังคงเงียบกริบ
เมื่อรอยยิ้มสาแก่ใจของเขาสะท้อนอยู่ในดวงตาของบุรุษหมวกสูงจงกวน  ร่างของเย่ว์หยางหายไป
เขามาปรากฏอีกครั้งที่ด้านหลังจงกวน  เมื่อม่านตาของจงกวนหรี่ลงและเขาเตรียมตัวหลบหนี วงจักรนิรันดร์กาลเส้นผ่าศูนย์กลางสิบเมตรปรากฏอยู่ใต้เท้าเย่ว์หยาง  ร่างของจงกวนชะงักค้างอยู่ในกลางท้องฟ้า  จากมุมมองของไป๋หม่าและเฮยถู จงกวนเหมือนกับหุ่นไม้ที่ถูกบดขยี้เป็นชิ้น เย่ว์หยางทุบตีเขาจนตาเขียวและจมูกบวมเป่ง ชุดที่งดงามขาดรุ่งริ่งยิ่งกว่าขอทาน แม้แต่หมวกสูงที่อยู่บนหัวของจงกวนซึ่งมีค่าเท่ากับชีวิตของเขายังกระเด็นลอยไปจมน้ำระดับเข่า
สิ่งแรกที่จงกวนทำเมื่อรู้สึกตัวก็คือไปเก็บหมวกของเขา
เขาสวมมันไว้ด้วยความภาคภูมิใจ
เพียงเท่านั้นเขาก็หายใจโล่งอกราวกับว่าหมวกเป็นเหมือนชีวิตของเขาเอง
อย่างไรก็ตาม  เย่ว์หยางไม่ยอมปล่อยเขาไป  เขาควงดาบเทาเถี้ยและใช้ท่าดาบผ่าปฐพี... จงกวนรีบหลบพร้อมกับใช้มือประคองหมวก  ร่างของเขาล้มลงกับน้ำอย่างทุลักทุเลจนน้ำแตกกระจาย
 “มันเป็นไปไม่ได้ใช่ไหม?”  หัวหน้าไป๋หม่าและเฮยถูรู้สึกผิดหวังอย่างมิต้องสงสัย  ตอนแรกพวกเขาหวังว่าจงกวนจะมาช่วยพวกเขาให้รอด  แต่เขาก็จบลงอย่างน่าอนาถ ความสามารถของบุรุษหนุ่มสูงส่งกว่าพวกเขาทุกคน  ต่อให้พวกเขาทั้งสามคนโจมตีพร้อมกัน  พวกเขาก็คงจะแพ้  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้วยการปรากฏตัวของมารกฎฟ้าผู้น่ากลัวและอสูรที่ไม่ธรรมดาอีกหลายตัว
 “เราขอยอมแพ้  เราหวังว่าพวกเจ้าทุกคนจะอนุโลมตามกฎของการต่อสู้แดนสวรรค์ ให้เรายอมแพ้ด้วยความภูมิใจ  เรายินดีจะจ่ายชดเชยเพิ่มขึ้น”  บุรุษหมวกสูงจงกวนเข้าใจดีว่าเขาไม่เคยเป็นศัตรูของคุณชายสามตระกูลเย่ว์  ถ้าเขายังคงสู้ต่อไป  เขาคงไม่สามารถรอดชีวิตกลับแดนสวรรค์ได้  ดังนั้นการยอมแพ้เป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ทันทีที่เขาเห็นว่าเย่ว์หยางฟุ้งซ่านเล็กน้อย  เขายืนขึ้นทันที
เขาหยิบหมวกขึ้นมาก่อนแล้วดัดให้ตรง
จากนั้นเขากล่าวกับเย่ว์หยางด้วยความหยิ่ง  “ในฐานะนักรบแดนสวรรค์  ต่อให้รบแพ้ก็ยังคงยอมรับและมีศักดิ์ศรี  ก่อนที่เราจะจ่ายค่าชดเชย พวกเจ้าไม่ควรจะดูหมิ่นใดๆ ทั้งสิ้น  นอกจากนี้เรายังมีสิทธิ์จะรักษาความลับไม่จำเป็นต้องตอบ  ในฐานะนักสู้ปราณฟ้าคนหนึ่ง  เรามองว่าเกียรติก็เหมือนกับชีวิตของเรา”
ตามกฎการสู้รบในแดนสวรรค์  นักสู้ปราณฟ้าได้รับอนุญาตให้ยอมจำนนศักดิ์ศรีได้เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ต่อสู้ที่ไม่เอื้ออำนวย
ตัวอย่างเช่นกลุ่มโจรเพลิงพิโรธเมื่อสองพี่น้องหัววัวเห็นว่าสถานการณ์ไม่พึงประสงค์  พวกเขายอมแพ้ให้กับราชาใจสิงห์
ไม่มีใครเยาะเย้ยพวกเขา  เพราะในแดนสวรรค์ ถือเป็นเรื่องปกติที่สมบูรณ์แบบเพื่อรักษากำลังของตนถ้าสถานการณ์นั้นจำเป็น
ในฐานะนักสู้ปราณฟ้า ชีวิตของพวกเขาอยู่เหนือสิ่งใดอื่น.. มีกฎเกณฑ์ดีๆ หลายอย่างสำหรับการยอมแพ้ของนักสู้ปราณฟ้า  ตัวอย่างเช่น แม้ว่าพี่น้องมนุษย์วัวจะยอมแพ้  แต่พวกเขายังคงรักษาศักดิ์ศรีและชื่อเสียงเอาไว้ แม้แต่เสี่ยวโฉ่วก็ยังไม่สามารถดูถูกหรือบังคับพวกเขาให้เปิดเผยความลับได้  เขาสามารถกักตัวพวกเขาจากการต่อสู้ได้
แน่นอนว่าสถานการณ์นี้แตกต่างไปจากหอทงเทียนอย่างสิ้นเชิง
หอทงเทียนมองว่าการยอมจำนนเป็นเรื่องที่ควรดูถูกอย่างหนึ่ง
โดยเฉพาะในสถานที่ทั้งสามแห่งนี้คือ ทวีปมังกรทะยาน  บันไดสวรรค์  แดนอเวจี ในที่เหล่านี้การตายในการสู้รบจะได้รับเกียรติสูงสุด  ขณะที่ยอมแพ้จะถือว่าน่ารังเกียจที่สุดและมีการกระทำที่อ่อนแอที่สุด
นี่คือเหตุผลที่บุรุษหมวกสูงจงกวนรีบอธิบายกฎทันทีเพราะกลัวเย่ว์หยางไม่รู้กฎของแดนสวรรค์
เย่ว์หยางฟังและผงกศีรษะพร้อมกับยิ้ม  “ดี, แดนสวรรค์อาจจะเป็นเช่นนั้น  แต่พวกเจ้าต้องจดจำไว้ในใจให้ดีว่านี่คือหอทงเทียน และนี่คือบันไดสวรรค์  แน่นอนเรื่องนี้ไม่มีอะไรสำคัญ  ที่สำคัญที่สุด ข้าเป็นผู้ควบคุมที่นี่ไว้ เข้าใจไหม? มีแต่คำพูดข้าที่เป็นกฎ  มิฉะนั้นจะกลายเป็นว่าข้ายืนยันว่าเจ้าจะได้สนุกเพลิดเพลินกับการเดินทางมาหอทงเทียนสินะ”
 “อา..ไม่ ข้าขอประท้วง..”  บุรุษหมวดสูงจงกวนโกรธ เหมือนกับว่าเขาพบกับคนเถื่อนไร้เหตุผล
 “กฎของข้าข้อแรกคือ ต้องการจะพูดเรื่องเงื่อนไขก็ต้องมีอำนาจต่อรอง”  เย่ว์หยางหัวเราะไม่สนใจการประท้วง
 “อย่างนั้นเราจะกำหนดเงื่อนไขอำนาจต่อรองกันยังไง?”  นางเซียนหงส์ฟ้าถามพลางหัวเราะ
 “ตัวอย่างเช่น ไม่พูดอะไรสักคำหลังจากถูกทุบตีไปสองสามชั่วโมง”  เย่ว์หยางเข้าใจ
 “เข้าใจแล้ว!  ทุกคนตอบรับ
คนที่ตอบสนองได้ไวที่สุดก็คือโคเงาอาหมัน  นางต่อยใส่เฮยถูเต็มแรง ทำให้เขาร้องลั่นอย่างสิ้นหวัง  “เจ้ามันโง่จริงๆ จงกวน!  เนื่องจากเราขอความปราณีจากเขาเราต้องก้มหัวให้เขา  ทำไมเจ้าถึงมาพูดศักดิ์ศรีที่ไร้สาระของนักสู้ปราณฟ้า? ยอมแพ้แล้วยังจะมีศักดิ์ศรีอะไรอยู่อีก?  การทุบตีและการเย้ยหยันทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากความหยิ่งยโสของเจ้า!  เจ้าโง่!  ก็แค่ตอบตกลงกับเขาไป  ข้าโดนนังโคเถื่อนทุบตีเกือบจะตายอยู่แล้ว!
จงกวนไม่มีโอกาสเอ่ยปากอีก เนื่องจากเขาทุบตีไล่ต้อนจากการร่วมมือกันทั้งจากนางเซียนหงส์ฟ้าและนางพญาซัคคิวบัส  เขาไม่มีเวลาร้องขอความเมตตา
ในหลายๆ อย่างไป๋หม่ายังดีกว่าเล็กน้อย
หลังจากโดนเสี่ยวเหวินหลีและนางพญากระหายเลือดเล่นงานอย่างดุดัน ในที่สุดเขาก็มีโอกาสพักหายใจและร้องขอยอมแพ้
เย่ว์หยางทำเป็นมองท้องฟ้าและใช้นิ้วก้อยไชหูเล่นแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไร
รอยยิ้มหยิ่งยโสปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขาจนน่าทุบตีนัก....

17 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

ทวีศักดิ์ เลิศวรญาณ กล่าวว่า...

สายฮาจริง ๆเรื่องนี้

BJ กล่าวว่า...

บักเย่ ร้ายจริงๆ

นายหนอนไหมปีนป่ายต้นรัก กล่าวว่า...

มาทำไรอะนี่

WingF กล่าวว่า...

555 ขนาดหัวหน้ามันยังหนีแทบไม่ทัน ลูกน้องรึไม่อยู่ในสายตาหรอก

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

เเหมผู้เหนือกว่าคือกฎ 555

myuu กล่าวว่า...

กฏคือ กำลังคิดจะทำเงินเยี่ยงไรถ้าสู้จบ

gg กล่าวว่า...

ขอบคุณสำหรับตอนใหม่คับ

Unknown กล่าวว่า...

แสบชนิดซีม่ายังอายเลยเย่วหยาง

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

natthapol.nondang@gmail.com กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

tho กล่าวว่า...

555ขอบคุณมากครับ

ulomzx กล่าวว่า...

สุดยอดเลยบักหยาง

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น