วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 10 บาลุค – ตอนที่ 5 ออกดอกออกผล


เล่มที่  10 บาลุค – ตอนที่ 5 ออกดอกออกผล
ยามดึก ภายในห้องหนังสือที่เงียบสงัด มีเพียงโต๊ะทำงานหนึ่งตัวกับโคมไฟหรี่แสง
บนโต๊ะ มีบุรุษร่างผอมจมูกงองุ้มเหมือนเหยี่ยวไว้ผมยาวสีม่วง  คนผู้นี้กำลังพลิกหนังสือเล่มหนา  ลักษณะของคนจมูกเหยี่ยวไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจน  แต่ในขณะนั้นเอง  “ก๊อก ก๊อก กีอก” เสียงเคาะประตูดังขึ้น

 “เข้ามา”  บุรุษจมูกเหยี่ยวไม่เงยหน้าขึ้น ยังคงอ่านหนังสือต่อไป
 “แอ๊ดดดด” ประตูผลักเปิดออก และบุรุษวัยกลางคนผมทองรูปหล่อเดินเข้ามา  ทันทีที่เข้ามาแล้วเขาปิดประตู จากนั้นคำนับด้วยความเคารพ  “ใต้เท้าตุลาการ!  กองกำลังของลินลี่ย์ยึดหัวเมืองโมแอ็ตไปแล้ว”
บุรุษจมูกเหยี่ยวคือหัวหน้าตุลาการแห่งศาลศาสนจักรกลางแห่งศาสนจักรเจิดจรัส โอเซนโน
ต่อหน้าสาธารณะ จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์จะเป็นผู้นำศาสนจักรเจิดจรัส  อย่างไรก็ตามศาสนจักรจะต้องกระทำตนเองให้ดูบริสุทธิ์สูงส่ง  เมื่อต้องจัดการกับยอดฝีมือบางคน  พวกเขามีศาลศาสนจักรคอยรับภารกิจอย่างโหดอำมหิตเต็มที่  หัวหน้าของพวกเขาตุลาการเป็นคนในศาสนจักรเจิดจรัสเอง มีพลังและอำนาจไม่น้อยไปกว่าจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
 “เหรอ”  โอเซนโนยังคงอ่านหนังสือต่อไป
บุรุษผมทองพูดด้วยความเคารพต่อ  “ยืดหัวเมืองโมแอ็ตเป็นเรื่องเล็กน้อย  ที่สำคัญกว่า..ด้านลินลี่ย์ใช้อสูรชั้นเซียนลึกลับเป็นอสูรประเภทเสือดำบุกทำลายกำแพงเมือง!
 “พวกเขาใช้อสูรชั้นเซียนด้วยหรือ?”  โอเซนโนเงยหน้าทันที
ตาของโอเซนโนลึกล้ำเหมือนทะเล  บุรุษผมทองรู้สึกว่าหัวใจของเขาสั่นสะท้านจากการจ้องมองของโอเซนโน  แต่ข่มความกลัวและพูดต่อ  “ใต้เท้าตุลาการ ฝ่ายลินลี่ย์ใช้เซียนเข้าสู้รบ นี่เป็นเรื่องยั่วยุอย่างเห็นได้ชัด”
กล่าวโดยทั่วไปเซียนจะไม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการสู้รบ
เมื่อมีเซียนเข้ามาเกี่ยวข้อง นั่นหมายความว่าจะไม่มีอะไรเบี่ยงเบน ไม่มีโอกาสปรองดองกันได้ มีแต่ต้องสู้ตายเท่านั้น
เนื่องจากหัวเมืองโมแอ็ตไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนของศาสนจักรเจิดจรัส  เพราะลินลี่ย์กระทำเช่นนั้นไม่ได้เป็นการยั่วยุตรงต่อศาสนจักรเจิดจรัส  แต่สำหรับเขาการมีอสูรเวทระดับเซียนเข้าร่วมทำศึก.. นี่คือการแสดงท่าที  ท่าทียั่วยุที่มีต่อศาสนจักรเจิดจรัส  ความตั้งใจของลินลี่ย์ค่อนข้างชัดเจน...
อสูรเวทของข้าแสดงตัวแล้ว  กองกำลังเหล่านี้เป็นของข้า ลินลี่ย์  ดังนั้นศาสนจักรเจิดจรัสของเจ้าจะทำอะไรได้?
ขณะเดียวกันฝ่ายลินลี่ย์ก็กำลังแสดงกำลังของเขา  เนื่องจากข้ากล้าส่งอสูรเวทระดับเซียนเข้าสู้รบ  ถ้าศาสนจักรเจิดจรัสเจ้าต้องการสู้รบกับข้า  จะดีที่สุดให้พวกเจ้านำเซียนมาด้วย  อย่าได้เปลืองกำลังทหารเลย
 “ใต้เท้าตุลาการ?”  บุรุษผมทองมองโอเซนโน
ดวงตาลึกล้ำของโอเซนโนไม่อาจหยั่งคาด  ทันใดนั้นโอเซนโนกล่าว  “จำเอาไว้  จากวันนี้ไป อย่าสู้กับลินลี่ย์โดยตรง  เราจะอดทน!  บุรุษผมทองตกใจ และเขามองดูโอเซนโนอย่างเหลือเชื่อ
โอเซนโนคือยอดฝีมือที่แข็งแกร่งทรงพลังอย่างมากแน่นอน
ในฐานะหนึ่งในเสาหลักของศาสนจักรเจิดจรัส  พลังของเขาไม่ต่ำกว่าเฮนด์เซนและบางทีอาจสูงล้ำกว่า  ศาสนจักรเจิดจรัสมีเซียนอยู่สองสามคนในแดนอนารยชนเช่นกัน ไม่จำเป็นที่พวกเขาจะต้องกลัวลินลี่ย์
 “ใต้เท้าตุลาการ,  ฝ่ายลินลี่ย์รวมกับเขาด้วย มีอสูรเวทระดับเซียนอยู่สองตัว”  บุรุษผมทองพูดอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ
โอเซนโนพูดอย่างใจเย็น  “ไม่, เขาไม่ได้มีเซียนแค่เพียงสองสามคน  ห้าพี่น้องบาร์เกอร์ ถ้าเราคาดการณ์ได้ถูก ก็น่าจะเป็นเชื้อสายของอาร์มันด์  ตอนนี้ทุกคนเป็นนักรบระดับเก้าแล้ว  เมื่อแปลงร่างพวกเขาจะเป็นเซียนระดับต้น  มีแต่ยอดฝีมือชั้นเซียนระดับกลางจึงจะเอาชนะพวกเขาได้”
 “นักรบอมตะ?”  บุรุษผมทองมีท่าทางตกใจ
โอเซนโนมองเขา
เมื่อซีซาร์ช่วยบาร์เกอร์และน้องๆ พวกเขาได้ขู่สเตลห์ไว้, จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไฮเดนส์สงสัยว่าพี่น้องบาร์เกอร์คือคนของตระกูลอาร์มันด์  ที่สำคัญคือซีซาร์ลงมืออย่างแข็งขันจริงจัง... ไม่มีคำอธิบายเป็นอย่างอื่น
 “พวกเขาไม่ได้อ่อนแอกว่าเรา”  โอเซนโนก้มหน้าอ่านหนังสืออีกครั้ง  เขาพูดย้ำอย่างใจเย็น  “จำไว้  อดทน”
 “อย่างนั้นถ้าลินลี่ย์ตั้งอาณาจักรปกครองอิสระ และเริ่มรุกรานดินแดนของเรา?”  บุรุษผมทองถาม  แม้ว่าเขาจะเป็นผู้สั่งการระดับสูงของกองกำลังศาสนจักรเจิดจรัสในแดนอนารยชน  แต่ตอนนี้โอเซนโนอยู่ที่นี่  โอเซนโนย่อมมีอำนาจเหนือกว่าเป็นธรรมดา
โอเซนโนพูดอย่างใจเย็น  “ถ้าพวกเขารุกรานดินแดนของเรา  เราจะถอยและปล่อยให้เขายึดไป”
 “หือ...”  บุรุษผมทองจ้องมองโอเซนโนอย่างตกใจ
โอเซนโนพูดอย่างใจเย็น  “พวกเขายั่วยุเรา  เราจะทน  ถ้าพวกเขาโจมตีดินแดนของเรา  เราจะถอย!  ปล่อยให้ลินลี่ย์คิดว่าเรากลัวพวกเขาและว่าพลังของเราน้อยกว่าพวกเขา... อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจเรื่องนี้ไว้ด้ว้ย  เมื่อเขายึดดินแดนของเรา  เขาจะต้องจัดระเบียบและใช้ทหารของเมืองเป็นธรรมดา”
 “อา!  ตาของบุรุษผมทองเป็นประกาย  เขาเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ของโอเซนโน
 “ใต้เท้าตุลาการช่างปราดเปรื่องยิ่งนัก”  บุรุษผมทองพูดอย่างตื่นเต้น
โอเซนโนหัวเราะอย่างใจเย็น  “นี่คือวิธีการที่สงครามเป็นไปอยู่เสมอ  ทรัพยากรมนุษย์คือสิ่งที่สำคัญสูงสุด!  ในแง่ของความจงรักภักดี จะมีอะไรที่ทรงพลังมากกว่าความศรัทธา?  ลินลี่ย์.. ข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่าพลังของความศรัทธาน่ากลัวเพียงไหน”
บุรุษผมทองลอบสะท้านใจ
โอเซนโนน่ากลัวเกินไปจริงๆ
พวกเขามีพลังยิ่งใหญ่และมียอดฝีมือหลายคน  แต่พวกเขายังใช้วิธีการที่น่ากลัวแบบนั้น  บุรุษผมทองสามารถมองเห็นภาพทั้งหมด... กองทัพที่อวดดีจองหองของลินลี่ย์คงจะต้องพ่ายแพ้กลับไปยังจุดเริ่มต้น
 “ตอนนี้เจ้าไปได้แล้ว”  โอเซนโนก้มหน้าอ่านหนังสือขณะเขาพูดอย่างใจเย็น
 “ขอรับ, ใต้เท้าตุลาการ”
บุรุษผมทองเดินออกมาจากห้องด้วยความเคารพ ปล่อยให้โอเซนโนอยู่คนเดียวในห้องหนังสือที่มีแสงสลัว  เขายังคงอ่านหนังอย่างเงียบงัน ข้างๆ ตัวเขานั้นมีม้วนเอกสารซึ่งมีหนังสือเขียนไว้ด้านบน ลินลี่ย์ บาลุค
…..

ในพื้นที่ตอนเหนือของดินแดนอนารยชน ในอึดใจเดียวพวกเขาก็ยึดหัวเมืองใหญ่หนึ่งเมืองและเมืองน้อยอีกเก้าเมือง, ก่อตั้งเขตแคว้นปกครองมีพลเมืองในบังคับเก้าล้านคน  แต่แม้ว่าพวกเขาตีเมืองโมแอ็ตได้  แต่ศูนย์กลางการปกครองฝ่ายลินลี่ย์ยังคงอยู่ในเมืองแบล็คเดิร์ท
เมืองแบล็คเดิร์ทในปัจจุบันนี้พัฒนาไปมาก
นโยบายยกเว้นภาษี ทำให้หลายคนต้องการอพยพเข้าเมืองแบล็คเดิร์ท และทำให้เมืองแบล็คเดิร์ทล้นทะลักจากตามชายตะเข็บ  นี่เป็นผลให้ฝ่ายบริหารในเมืองแบล็คเดิร์ทเพิ่มนโยบายมีข้อกำหนดการอพยพเข้าเมือง  แต่เมืองแบล็คเดิร์ทที่เป็นศูนย์กลางการปกครองพื้นที่นี้ยังคงดึงดูดผู้อพยพมาเป็นจำนวนมาก
 “พี่ใหญ่, เมืองแบล็คเดิร์ทเปลี่ยนแปลงไปมากเลย”  บีบียืนอยู่บนไหล่ของลินลี่ย์ขณะที่ลินลี่ย์เดินไปตามถนนหลัก
ลินลี่ย์ยังคงมองดูโรงแรมรอบๆ ร้านเสื้อผ้า และร้านอาวุธตั้งอยู่สองฝั่งข้างถนน  เมื่อลินลี่ย์มาถึงเมืองแบล็คเดิร์ทครั้งแรก  พลเมืองท้องถิ่นแต่งตัวด้วยผ้าขาดรุ่งริ่ง ส่วนใหญ่ตัวเหลืองเหมือนเป็นโรคขาดอาหาร  แต่ในช่วงไม่กี่เดือนนี้ เมืองแบล็คเดิร์ทเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ร้านเก่าโกโรโกโสได้รับการปรับปรุงหมด
ถนนได้รับการซ่อมแซมเช่นกัน และมีต้นไม้สองข้างฝั่งถนน  ในบางโรงแรม ลินลี่ย์เห็นประชาชนทั่วไปกำลังดื่มเหล้าสนทนากันตามปกติ  เกือบทุกคนคุยเรื่องห้าเทพสงครามของพวกเขา
ภายใต้การนำของห้าเทพสงครามผู้ไร้เทียมทานนี้  ชีวิตของพวกเขามีความมั่นคงยิ่งขึ้น  และการงดเว้นภาษีทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นกว่าเดิมมากมายหลายระดับ
 “ถ้าห้าเทพสงครามพ่ายแพ้เล่า....”  ขณะนั้นคนผู้หนึ่งในโรงแรมพูดขึ้น...
 “แม่มันเอ๊ย...เจ้าผายลมอะไรอีกเล่า?”
 “เทพสงครามเหล่านั้นไร้เทียมทาน  พวกเขาจะพ่ายแพ้ได้ยังไง?  เด็กน้อย เจ้าระวังปากเจ้าไว้ดีกว่า”
หลายคนเริ่มก่นด่าเขาอย่างโกรธเคือง  ประชาชนเหล่านี้ลึกๆ แล้วพอใจกับความสงบสุขในปัจจุบันของพวกเขา  เป็นธรรมดาที่พวกเขาไม่ต้องการให้ชีวิตของพวกเขาต้องระหกระเหิน
 “ในจักรวรรดิโอเบรียนและสหภาพศักดิ์สิทธิ์ ชีวิตที่สงบสุขหาได้ง่ายมาก  แต่ในดินแดนอนารยชน ชีวิตแบบนั้นมีคุณค่ามาก”  ลินลี่ย์ตื่นเต้นมากทันที  “นี่คือสาเหตุให้เกิดความวุ่นวาย”
 “ถ้าสักวันหนึ่ง แดนอนารยชนสามารถเป็นอันหนึ่งเดียวกันได้  ความวุ่นวายก็จะสิ้นสุดลง...”
เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของประชาชนทั่วไปแล้ว  ทันใดนั้นลินลี่ย์ตระหนักได้ว่าหัวใจของเขามีความสุข  มีความรู้สึกพอใจ
 “รวบรวมแผ่นดิน?”  ลินลี่ย์ส่ายศีรษะและหัวเราะ
เขาไม่ตั้งใจจะทำแบบนี้  สามารถทำให้คนที่เขารักมีความสุขและทำให้ตนเองก้าวหน้าในการฝึกฝน นี่ก็ทำให้เขาพอใจมากอยู่แล้ว
 “จะดีที่สุดคือปล่อยให้ซาสเลอร์และบาร์เกอร์รับมือกับเรื่องสงครามต่อไป”  ร่างของลินลี่ย์หายวับไปกับสายลม
ภายในจวนเจ้าเมืองในเมืองแบล็คเดิร์ท  เจนน์  รีเบ็คกา  ลีนาและคนอื่นๆ กำลังทานมื้อกลางวันในห้องโถง  ทันใดนั้นลินลี่ย์มาปรากฏต่อหน้าประตู..
 “ใต้เท้า”  บาร์เกอร์ลุกขึ้นยืนทันที  และคนอื่นๆ ก็ทำเช่นกัน  ลินลี่ย์รีบกล่าว “นั่งเถอะ ทุกคน ข้าแค่มาเยี่ยมพวกเจ้าและคุยด้วยสองสามคำ”  ลินลี่ย์ยิ้มขณะที่เขาเดินเข้ามาที่เก้าอี้และนั่งลง
ซาสเลอร์พูดทันที  “ลินลี่ย์, เราตั้งใจจะไปหาเจ้าและหารือพูดคุยความก้าวหน้ากับเจ้า  ตอนนี้เจ้าก็มาแล้ว,  เจนน์.. เจ้ารายงานให้ลินลี่ย์ทราบ  “ตอนนี้เจนน์เป็นระดับผู้บริหารชั้นสูงของพวกเขา
เพียงแค่เจนน์กำลังจะอ้าปากพูด  ลินลี่ย์หัวเราะและยื่นมือห้ามนาง  “เจนน์ นั่งก่อน ไม่ต้องรีบ”
เจนน์พยักหน้าและนั่งลง
 “ตราบเท่าที่สงครามยังเป็นเรื่องที่น่ากังวล  เจ้าต้องทำใจตัวเองให้ดีก่อน  ตอนนี้ ข้ากำลังคิดว่า.. ยังมีช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่เราจะเริ่มสู้กับศาสนจักรเจิดจรัส  ข้าต้องการถือโอกาสในช่วงนี้เดินทางลงใต้เพื่อซ้อมมือกับเซียนสักสองสามคน”
ลินลี่ย์ยังจำคำเชิญจากมิลเลอร์ได้
ซ้อมมือกับยอดฝีมือ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับยอดฝีมือที่เรียนกฎธรรมชาติอย่างเดียวกัน  จะช่วยให้เขารู้แจ้งได้มาก  นอกจากนี้ กองทัพของเขาจะต้องสู้กับศาสนจักรเจิดจรัสในอีกไม่ช้า  เมื่อเวลาสู้รบเริ่มขึ้น  เขาคงไม่กล้าจากไปจริงๆ
เขาต้องฉวยเวลาที่เขามีอยู่
 “ใต้เท้าไม่ต้องกังวล”  บาร์เกอร์หัวเราะ  “อย่างไรก็ตามอีกราวเจ็ดแปดวัน  เราจึงจะเริ่มโจมตีแคว้นที่อยู่ในบังคับของศาสนจักรเจิดจรัส  เพราะเรื่องที่เราได้คุยกับท่านเมื่อล่าสุด  ใต้เท้า, ถ้าศาสนจักรเจิดจรัสสู้เราตรงๆ  เราไม่กลัวพวกเขา  และหนึ่งเดือนจากนี้ เราจะก่อตั้งอาณาจักรปกครองบาลุค  ถ้าพวกเขากลัวเรา  เราสามารถทำเป็นเหมือนว่าจะบุกโจมตีพวกเขา และใช้ชื่ออื่นแทน”
ลินลี่ย์พยักหน้า
 “งั้นก็ดีแล้ว  แฮรุจะอยู่กับพวกท่าน  ในกรณีมีเรื่องฉุกเฉิน  บีบีกับข้าจะออกหน้าเอง  ลินลี่ย์ยืนขึ้นทันที
 “พี่ลินลี่ย์, ท่านไม่ร่วมทานอาหารกับเราหรือ?”  เจนน์พูดทันที
ลินลี่ย์หัวเราะให้เจนน์  จากนั้นส่ายหัว  “ไม่”  ร่างของลินลี่ย์กระพริบและหายไปจากห้องนั่งเล่น  เจนน์รู้สึกผิดหวัง ได้แต่ถอนหายใจเบาๆ
……….

ในตอนใต้ของดินแดนอนารยชน  ภายในหมู่บ้านน้อยที่ลึกลับและเงียบสงบ
ตั้งแต่ข่าวว่าเรย์โนลด์เลือกจะอยู่ที่นี่ในหมู่บ้านนี้แพร่กระจายออกไป  เรย์โนลด์ก็ถูกขัดขวางไม่ให้เข้าหมู่บ้าน!  เหตุผล?  โมนิกา!  โมนิกาคือคนที่งดงามที่สุด เป็นหญิงสาวที่สวยเด่นสะดุดตาที่สุดในหมู่บ้านนี้  มีคนติดพันนางอยู่มากมาย
เดิมทีบุรุษหนุ่มหลายคนคิดว่าเรย์โนลด์จะออกไปอย่างแน่นอน  ดังนั้นจึงไม่มีการคุกคามอะไร
แต่ในที่สุดแล้ว เรย์โนลด์ก็ยังอยุ่
ภายในโรงแรมหมู่บ้านภูเขา  เรย์โนลด์กำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่นั่น
 “เฮ้ เจ้าเด็กน้อย, หลีกไปซะ”  เด็กหนุ่มสามคนเดินเข้ามาหาและตบโต๊ะเขาอย่างแรงขณะที่พวกเขาตะคอกใส่เรย์โนลด์
เรย์โนลด์เงยหน้ามองดูพวกเขา
 “อะไร, เจ้ามีปัญหาหรือไง?”  ร่างของเด็กหนุ่มทั้งสามคนเริ่มเลือนรางขณะเร่งเร้าปราณยุทธ  จอมเวทระดับเจ็ดคนหนึ่งไม่ถือว่ามีอะไรมากนักในหมู่บ้านภูเขาลึกลับนี้ มีเด็กหนุ่มที่ถึงระดับเจ็ดเป็นสิบๆ คน และมีสองสามคนที่ถึงระดับแปด  เด็กหนุ่มต่อหน้าเขาทั้งสามคนเล่า?  คนหนึ่งเป็นนักรบระดับเจ็ด คนที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นนักสู้ระดับแปด
ไม่มีอะไรที่เขาจะทำได้ ถ้าพวกเขาจะลงมือกับเขา
เรย์โนลด์สูดหายใจลึกสงบสติอารมณ์และหลบออกไปด้านข้าง  ไม่มีอะไรที่เขาจะทำได้  เขาไม่มีคนให้พึ่งพาอาศัยในหมู่บ้านแห่งนี้  แต่ลุง ป้า ปู่ย่าตายายหลายๆ คนไม่เว้นกระทั่งเด็กหนุ่มพวกนี้ล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งนั้น  เป็นไปได้ยังไงที่เขาจะสู้กับพวกเขา?  และเด็กหนุ่มหลายคนที่นี่เติบโตมาด้วยกัน  ถ้าพวกเขารวมกลุ่มกัน เขาจะสู้ได้ยังไง?
 “พวกเจ้าจะทำอะไร?”
โมนิกาและสาวใช้ของนางเดินเข้ามาและแสดงความไม่พอใจต่อพวกเขา
 “องค์หญิงโมนิกา” คนทั้งสามคนคำนับทันที  ภายในหมู่บ้านภูเขา  สถานะของบิดาของโมนิกาสูงส่งนัก  ตามตำนาน.. หมู่บ้านภูเขาลึกลับนี้มีอยู่มานานเกินพันปีแล้ว  และในเวลานั้น, บิดาของโมนิกายังดูดีจนถึงเดี๋ยวนี้
โมนิกาจ้องมองพวกเขาแต่ละคนอย่างไม่พอใจ  จากนั้นคว้ามือเรย์โนลด์  “พี่เรย์โนลด์  ไปกันเถอะ”
เรย์โนลด์ยืนขึ้น สูดหายใจลึก เขาออกไปพร้อมกับโมนิกา
 “ทั้งหมดที่เขาทำได้คือหลบอยู่หลังอิสตรี เจ้าคนไร้ประโยชน์”  ทั้งสามคนสบถใส่เขาเบาๆ เรย์โนลด์เดินออกไปกับโมนิกา ได้ยินเสียงพวกเขาเป็นธรรมดา  ร่างของเขาสั่นเล็กน้อย  และจากนั้นเขาตามโมนิกาออกไป
ในหมู่บ้านภูเขาลึกลับนี้ เขาไม่มีคนให้พึ่งพาอาศัย  ทั้งหมดที่เขาทำได้คืออดทน

10 ความคิดเห็น:

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

รอก่อนเถอะเดะลูกพี่ก็มา

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

GG กล่าวว่า...

โดนแน่

Motto-mk กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ

Big กล่าวว่า...

เสือดำ

แสดงความคิดเห็น