ตอนที่
644 ชัยชนะ
เหออิงมีประสบการณ์ในการสู้รบและคุ้นเคยกับเรือรบยอดนิยม เมื่อเห็นว่ามีเพียงที่นั่งเดียวของเรือรบธนูดำที่มีแสงสว่าง เขาถอนหายใจโล่งอก
เขาได้ยินมาว่าเหมิ่งหนานจ่ายเงินซื้อเรือรบมาก่อน ดังนั้นเขาไม่ประหลาดใจเรื่องนั้นมาก แต่เพราะเหมิ่งหนานไม่มีกำลังคนเพียงพอ
แค่ได้ซื้อเรือรบลำหนึ่ง แต่เขาไม่สามารถใช้ความสามารถในการสู้ที่แท้จริงของเรือรบได้
อาวุธเรือรบจำเป็นต้องการความถี่ในการประสานงานสูง และไม่มีใครที่สามารถใช้งานได้
ถึงเป็นคนร่ำรวยมหาศาลเอาแต่ซื้ออาวุธดีๆ
แต่อาวุธทั้งหมดนั้นจำเป็นต้องใช้ศักยภาพเต็มที่ และมักจะถูกทิ้งไว้ให้ฝุ่นและสนิมจับอยู่ในคลังสินค้า เหออิงรู้ว่าของแบบนั้นก็พังสลายไปด้วยเช่นกัน
เมื่อเห็นว่ามีเพียงที่นั่งเดียวที่เปล่งแสงสว่าง นั่นเป็นการยืนยันการคาดเดาของเหออิง เหมิ่งหนานไม่มีกำลังเพียงพอ
ที่นั่งหนึ่งจำเป็นต้องได้กำลังทหารยี่สิบคน จำนวนเท่านี้ตรงกับที่เหออิงได้รับ
เรือรบธนูดำเป็นเรือชั้นดี แต่กำลังพลไม่พอ ก็เป็นแค่ท่อนไม้ลอยได้
เหออิงมีคนเพียงยี่สิบคนอยู่ใกล้ๆ
แต่พวกเขาเป็นทหารที่แข็งแกร่งกันทุกคนและได้ติดตามเหออิงมาหลายปีแล้ว ทุกคนเป็นทหารฝีมือดีและคุ้นเคยกับการสู้รบด้วยรูปกระบวนศึกมามาก
สำหรับพวกเขาสามารถจัดการกับคนสิบคนได้อย่างง่ายดาย
เหออิงมั่นใจในตนเอง
เฟี้ยววว!
รังสีกระบี่หนาแน่นพุ่งตรงเข้ามาพร้อมกับเสียงหวีดหวิวใส่เหออิง
ไป๋เสี่ยวที่กำลังมองการต่อสู้พึมพำ “มาแล้ว”
“มาแล้ว?” ไป๋เยี่ยสับสนและถามโดยไม่รู้ตัว
“ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้ง!” ไป๋เสี่ยวตอบ
เขาตื่นเต้นหวนนึกภาพการต่อสู้จากครั้งก่อน เขารู้สึกว่าเหมือนเป็นความฝันทั้งหมด
จากนั้นไป๋เยี่ยคิดถึงเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับโจรสลัด ในการสู้รบคราวนั้น
อาจกล่าวได้ว่าเหมิ่งหนานควบคุมปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งคนเดียว
ซึ่งนับว่าผิดแปลกจากธรรมดาไปมาก
เขายังคงเต็มไปด้วยความสงสัย
แสงวูบวาบฉายเข้าในดวงตาของเหออิง ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้ง!
‘มีมาตรฐานบางอย่างสำหรับความเข้มข้นระดับนี้ มาตรฐานของคู่ต่อสู้นับว่าไม่เลวนัก แต่ด้วยพลังเพียงเท่านี้ เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถฆ่าผู้บัญชาการระดับเงินได้หรือ เจ้าดูถูกข้าเกินไปแล้ว’
เหออิงเยาะเย้ย ภายใต้การควบคุมของเขา
พลังงานที่ผสานกันก่อเป็นพายุสีแดงอย่างรวดเร็วซึ่งปกป้องพวกเขาไว้ตรงกลาง
ถ้าดูอย่างระมัดระวัง
จะมีคนตระหนักได้ว่าพายุสีแดงความเร็วสูงมีเม็ดสีแดงเข้มอยู่มากมายภายในนั้น
ซึ่งถูกสร้างจากพลังงานทำให้พายุรุนแรงกล้าแข็งขึ้น
รังสีกระบี่รังผึ้งปะทะกำแพงพายุทำให้เกิดกระแสปั่นป่วนนับไม่ถ้วน
แต่กำแพงพายุก็ยังคงตระหง่าน
ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งส่วนใหญ่ใช้สู้กับทหารที่หละหลวมรวมตัวไม่เป็นระเบียบ
แต่ไม่ได้มีพลังมากนัก
แต่สามารถยิงรังสีกระบี่ได้มากมายต่อครั้ง
และรัศมีครอบคลุมพื้นที่ค่อนข้างใหญ่
เหออิงเต็มไปด้วยความมั่นใจในพายุกรวดแดงของเขา
คุณสมบัติในการป้องกันของมันจะแข็งแกร่งมากกว่าม่านพลังงานธรรมดา
ต้นแบบในการสร้างพายุนี้มาจากพายุทรายในทะเลทราย
การไหลเวียนครอบคลุมของอากาศสามารถกระจายพลังงานโจมตีของศัตรูได้ และในเวลาเดียวกันก็เพิ่มพลังป้องกันของมัน
และและปริมาณของทรายที่แข็งและหนักที่ผสมอยู่พายุจะทำให้พายุหนาแน่นและยากจะทำลายผ่านไปได้
แม้แต่พลังทำลายล้างที่รุนแรงยังไม่สามารถเอาชนะพายุกรวดแดงได้
อย่าว่าแต่ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้ง
นอกจากนี้
แม้ว่าปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งจะสามารถยิงรังสีกระบี่ออกมาหลายสายได้ในครั้งเดียว
แต่ความถี่ในการรุกก็ไม่มากนัก หลังจากเจอคลื่นโจมตีทุกอย่างแล้ว ก็จะต้องมีการหยุดชะงัก
ซึ่งจะแก้ปัญหานี้ได้ก็ต้องมีลูกเรือหลายคนคอยสลับกัน แต่ตอนนี้
คู่ต่อสู้ของเขามีเพียงปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งชุดเดียวและมีข้อจำกัดอยู่มาก
สำหรับเหออิง ผู้บัญชาการระดับเงิน
ตราบใดที่มีข้องบกพร่อง เขาจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้สิ้นเชิง นอกจากนี้ ยังเป็นข้อบกพร่องใหญ่เสียด้วย
รังสีกระบี่ที่กระทบกับพายุกรวดแดงแตกกระจายไปหมด
‘ได้เวลาตอบโต้!’
ขณะที่เหออิงเตรียมโจมตีตอบโต้ ในช่วงเวลาถัดมาหน้าของเขาก็ชะงักค้าง
ฟิ้วววว!
เสียงหวีดหวิวจนหูอื้อดังอีกครั้งและกระแสเชี่ยวกรากของรังสีกระบี่กระแทกใส่พายุกรวดแดง
เหออิงแทบกระโดด ‘เป็นไปไม่ได้…’
ผลกระทบของพลังงานปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งค่อนข้างใหญ่
และไม่มีใครเพิกเฉยต่อพลังสะท้อนกลับได้
เขาไม่เคยเห็นกลุ่มที่สามารถยิงปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งอย่างต่อเนื่องมาก่อน มันไม่มีเหตุผล
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
เสียงหวีดหวิวหนาแน่นตัดผ่านอากาศยามราตรี ระลอกแล้วระลอกเล่าราวกับฝนแสงกำลังหลั่งออกมาจากเรือรบธนูดำ
ใส่พายุกรวดแดง
บึ้ม
บึ้ม บึ้ม!
รังสีกระบี่ยิงใส่พายุอยู่ต่อเนื่อง
ประกายแสงนับไม่ถ้วนปลิวไปทุกที่ พายุพัดใส่รังสีกระบี่แตกเป็นเป็นชิ้นเล็กน้อย
แต่ก็ยังคงอยู่ได้มั่นคง
เหออิงมีสีหน้าตกใจ
และบังคับตนเองให้สงบใจและถ่ายพลังเข้าในพายุกรวดแดง
ความสามารถในการป้องกันที่ทรงพลังของพายุกรวดแดงแสดงถึงความอิ่มตัว
การหลั่งไหลเข้ามาของรังสีกระบี่ไม่ได้มากไปกว่าพายุ
“พระเจ้า!”
ไป๋เยี่ยเอามือกุมศีรษะ
ใบหน้าแสดงออกว่ารู้สึกเหลือเชื่อ
เขาได้ยินมาจากไป๋เสี่ยวว่าเหมิ่งหนานใช้ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งอย่างไร
แต่พอมาเห็นกับตาตนเองถึงวิธีใช้อาวุธโดยไม่สะดุดหยุดลง รังสีกระบี่พ่นโจมตีต่อเนื่อง เขารู้สึกว่าหลักการเหตุผลถูกฉีกทิ้ง
รอเดี๋ยว!
เขาสั่นทันที
ในฐานะผู้บัญชาการที่ลือชื่อ
เขาจับจุดสำคัญได้อย่างรวดเร็ว
ถ้าฉากเช่นนั้นเกิดขึ้นในสงคราม...
ถ้าเพียงแต่เรือรบลำเดียว มีอาวุธทั้งหมดสามารถทำได้อย่างเดียวกัน...
เขาสั่น
เขารู้ว่าถ้าเรือรบประหลาดอย่างนี้ปรากฏในสนามรบ ใครจะหยุดมันได้? ไม่ ไม่มีใครหยุดมันได้ ถ้าขบวนเรือรบทุกลำสามารถเป็นอย่างนั้นได้
อย่างนั้นไม่มีใครในดาราจักรเซียนศักดิ์จะสามารถหยุดพวกเขาได้
ไป๋เยี่ยไม่กล้าคิดไกลออกไป
แค่เพียงคิดถึงผลที่จะเกิดขึ้นก็เป็นเหตุให้มือเขาเย็น เขาจ้องดูสนามรบอย่างตั้งใจ
กลัวว่าจะพลาดรายละเอียดแม้แต่เล็กน้อย
‘เจ้าคนเสียงดังและน่ารำคาญนั่น เขามีความลับซ่อนอยู่เท่าใดกันแน่?
รังสีกระบี่ก่อเป็นกระแสยังคงโจมตีพายุแดงอย่างต่อเนื่อง
เหมือนกับว่าช่วงเวลา 10 วินาที
แต่เหออิงรู้สึกราวกับว่าเขาถูกลากยาวไปเป็นปี
พายุกรวดแดงมีพลังป้องกันที่น่าทึ่ง
แต่รังสีกระบี่มีมากเกินไป และด้วยการโจมตีอย่างต่อเนื่อง เหออิงตกอยู่ในแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ พลังงานในตัวหมดไปอย่างรวดเร็ว
นอกจากต้องทนแล้ว
เหออิงไม่มีความคิดอย่างอื่น
พายุกรวดแดงเริ่มแกว่ง และถ้ายังเป็นไปแบบนี้
พวกเขาจะถูกรังสีกระบี่กลืนและกระดูกทั่วร่างก็จะไม่เหลือ
“ทุกคน! อดทนเอาไว้!” เหออิงตะโกน “ศัตรูทนได้ไม่นานนักหรอก!”
ทหารของเขาทุกคนกัดฟันและทนอย่างขมขื่น
พวกเขาเชื่อมั่นในเหออิงและพวกเขาเชื่อว่าศัตรูจะทนอยู่ได้ไม่นาน
การโจมตีที่บ้าคลั่งอย่างนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถปล่อยออกมาได้ตลอดเวลา
เป็นการสู้กันที่ปณิธาน ใครก็ตามเปิดช่องว่างก่อนจะต้องเป็นฝ่ายแพ้
เสี่ยวเอ้อถือคันจับปืนใหญ่กระบี่รังผึ้ง
เสียงคำรามร้องของถังเทียนที่ข้างตัวเขาทำให้เขาแสบแก้วหู เขายังคงห่างเหินราวกับว่าเขาไม่ได้ยินอะไร จนกระทั่งตอนนี้
เขายังไม่ได้โจมตีแม้สักครั้ง
สีหน้าของเขายังคงปกติ
เหมือนกับว่าสถานการณ์ที่อยู่ต่อหน้าของเขาไม่ได้กวนใจเขาแม้แต่น้อย
ซี่....
ถังเทียนหยุดคำรามทันทีปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งเหนือหัวเขาแตกเป็นชิ้นและเป็นผุยผง
ฝุ่นปกคลุมไปทั่วสถานที่ และถังเทียนนั่งอยู่ที่เดิมโดยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
มีเพียงความคิดเดียวอยู่ในใจของเขา ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งอ่อนแอลงได้อย่างไร?
โอกาส!
เหออิงที่ดันทุรังอดทนได้รู้สึกดีใจทันที
ใช่แล้วต่อให้ทหารฝ่ายศัตรูสามารถอดทนผลสะท้อนที่น่ากลัวได้ แต่ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งเองก็ไม่สามารถทนรับภาระได้
ไม่มีใครรู้ว่าในช่วงที่ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งของถังเทียนจะระเบิด
ดวงตาที่ไร้ความรู้สึกของเสี่ยวเอ้อเป็นประกายเยือกเย็นทันที
กระบี่ยาวที่ลอยอยู่ด้านหลังของเขาเปล่งแสงพร้อมกัน
รังสีกระบี่ระเบิดและพุ่งหาเหออิง
เหออิงที่เพิ่งเตรียมจะโต้ตอบกลับได้ยินเสียงหวีดหวิวทันทีและต้องรู้สึกตกใจอีกครั้ง ความจริงศัตรูยังมีกำลังคน! สิ่งที่ทำให้เขากังวลมากขึ้นก็คือเขาไม่ทันสังเกตว่าศัตรูกำลังโจมตี มันกระทันหันเกินไป
แต่เป็นแค่เพียงการระเบิดของรังสีกระบี่ครั้งเดียว และไม่เหมือนกระแสของกระบี่
ทำให้เหออิงรู้สึกคลายกังวลขึ้นมาบ้าง
แม้ก่อนที่เขาจะยินดี เสียงหวีดหวิวในอากาศก็เปลี่ยนไป
เสียงหวีดหวิวต่ำในตอนแรกพลันกลายเป็นเสียงแหลมเหมือนเข็มเจาะเข้าไปในสมอง
หน้าของเหออิงบิดเบี้ยวน่าเกลียด เขาเงยหน้าขึ้นมา กลุ่มฝนกระบี่ผสานรวมกันเป็นกระบี่เดียว
หัวใจของเหออิงสั่นสะท้าน
เป็นกระบี่เพียงเล่มเดียว
แต่มีหางแสงยาวลากตามหลังปลดปล่อยพลังและรังสีเมื่อเทียบกับระเบิดฝนกระบี่
มันแข็งแกร่งมากกว่าหลายเท่า
มือกระบี่!
เหออิงค่อยรู้สึกตัวทันที
มีแต่มือกระบี่เท่านั้นที่จะเข้าใจกระบี่ได้ลึกซึ้ง
สามารถสร้างพลังโจมตีออกมาพร้อมกับปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งได้อย่างน่ากลัวขนาดนั้น
จากนั้นเขาเข้าใจเหตุผลที่คู่ต่อสู้ควบคุมพลังโจมตีได้โดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ
เสี่ยวเอ้อผู้รู้แจ้งกฎกระบี่มีความล้ำหน้าในการเข้าใจและใช้ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งเกินกว่าถังเทียน เขาแค่เพียงสัมผัสได้เพียงชั่วครู่
เสี่ยวเอ้อก็เข้าใจอาวุธได้ทันที
วิธีใช้พลังโจมตีทื่อๆ ทำให้เสี่ยวเอ้อก่นด่าเขาในใจ แต่โชคดีสำหรับถังเทียน มันใช้ได้ผล
ดังนั้นเสี่ยวเอ้อไม่ต้องทำอะไรแค่รอโอกาสที่จะเกิดขึ้น
เสี่ยวเอ้อผู้มีความเข้าใจกฎกระบี่อย่างลึกซึ้งสามารถใช้ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งในระดับพลังที่เหลือเชื่อ
‘แย่แล้ว!’
เหออิงหน้าเสียและซีดขาว เขาตะโกนลั่น
“ระวัง!”
ก่อนที่เขาจะพูดจบคำ
รังสีกระบี่แพรวพราวก็พุ่งตรงกระแทกพายุกรวดแดงอย่างหนักหน่วง
บึ้ม!
พายุกรวดแดงสั่นสะเทือน
เหออิงและพวกที่อยู่ภายในรู้สึกหวานในลำคอวูบ มุมปากมีรอยเลือด
ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ
แต่พวกเขารู้ว่าไม่มีเวลาตื่นเต้น
พลังโจมตีที่น่ากลัวต้องทำให้ผู้ใช้ต้องเตรียมพลังงานมหาศาล และร่างของมือกระบี่ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น
ตารางหมากรุกแสงที่อยู่ใต้เท้าของเสี่ยวเอ้อ
พอกระแสพลังสะท้อนเข้ามาในร่างของเสี่ยวเอ้อก็แตกระเบิดสลายไปในทันที
ร่างของเสี่ยวเอ้อสะท้าน
แม้ว่าพลังงานส่วนใหญ่ที่สะท้อนกลับจะถ่ายเทลงไปที่ตารางหมากรุกแสงไปแล้วไม่น้อย
แต่เขาอ่อนแอเกินกว่าจะโจมตีได้อีกครั้ง
‘อาวุธเรือรบไม่เหมาะกับขุนพลวิญญารเลยแม้แต่น้อย...’
รอยเลือดเกิดที่มุมปากของเขา
ทำรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าของเขามองดูน่ากลัว
งานของเขาสำเร็จแล้ว การโจมตีของเขาทำให้ถังเทียนมีโอกาสกระโดดไปที่ปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งอีกฐานหนึ่ง
กระบี่ที่ลอยอยู่หลังป้อมปืนเรืองแสงอีกครั้ง
ท่ามกลางเสียงคำรามของถังเทียน
รังสีกระบี่ที่น่ากลัวถูกยิงออกไปอีกครั้ง
คลื่นพลังสะท้อนกลับครั้งแล้วครั้งเล่าที่โถมใส่ร่างของถังเทียน
ทำให้ร่างของเขาสั่นเป็นเจ้าเข้า ขณะที่เลือดในตัวเขาก็ยังทะลักอย่างเจ็บปวด
เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธจนลืมตัว ดวงตาของเขาราวกับจะมีไฟพวยพุ่ง เขาคำรามเหมือนเสือ
กระแสคลื่นรังสีกระบี่กระแทกใส่พายุกรวดแดงอย่างรุนแรง พายุกรวดแดงพบกับศัตรูที่ดุร้ายยิ่งขึ้น
หน้าของเหออิงแดงสลับขาว หลังจากพลังกระบี่โจมตีอย่างหนัก แม้วาพวกเขาจะป้องกันไว้ได้ แต่พายุกรวดแดงก็ได้รับความเสียหายด้วย
บึ้ม!
พายุกรวดแดงแตกสลายสิ้นเชิง
‘ไม่....’
เขาต้องการคำรามร้องเสียงดัง แต่เขาไม่มีเสียง
ภาพข้างหน้าเปลี่ยนเป็นขาวโพลน
กระแสรังสีกระบี่ที่สูญเสียการควบคุมกระจายไปทั่วทุกที่ ทำลายทุกอย่างที่ขวางทาง
15 ความคิดเห็น:
เป็นศพ
ขอบพระคุณมากๆจ้า
บัยยยยย
สลายกลายเป็นฝุ่นผงในพริบตา
Good bye
เฮ้ยๆ ตายแบบนี้จะมีของดรอบไหม พี่ถังทำไรไม่คิด ^^
ขอบคุณมาครับ
น่าจะเป็นอากาศมากกว่าคับ ศพก้อคงไม่เหลือ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
ลาก่อย
ขอบคุณครับ
แล้วสินสงครามจะเหลือให้จับบ้างไหมนั่น
กว่าจะได้นอน เห้ออ
แสดงความคิดเห็น