วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 806 ตู้เค่อเยี่ยมเยียน


ตอนที่  806  ตู้เค่อเยี่ยมเยียน
ท่านหน้ากากผีความจริงเป็นแค่ร่างเงาเลือนลาง
จี๋เจ๋อรู้สึกเหมือนกับถูกน้ำแข็งราดใส่  ความรู้สึกที่ทุกอย่างอยู่ในความควบคุมของเขาหายไปทันทีไม่เหลือร่องรอย  สิ่งที่ทำให้เขาตกใจหนักก็คือเขาไม่สามารถรู้สึกได้ถึงรัศมีของนายท่านแม้แต่น้อย
มีแต่ร่างแสงพร่ามัวยืนอยู่ต่อหน้าเขา  แต่เขาไม่สามารถรู้สึกได้ถึงความคงอยู่ของมัน   เหมือนกับว่าเขากำลังจ้องมองผีที่อยู่ต่อหน้าเขา  และเขารู้สึกความหนาวสะท้านแล่นขึ้นมาจากเท้า

จี๋เจ๋อคลายพลังของเขาเองและการแพ้ต่อท่านหน้ากากผีไม่ใช่เรื่องประหลาด  แต่ก่อนนั้นเขารู้สึกว่าเขาเข้าใกล้ถังเทียนได้  ระดับเขามีความสามารถสัมผัสถึงพลังได้  แม้เป็นตู้เค่อเอง เขาก็ยังรู้สึกได้ ในระยะไกลระหว่างพวกเขา
 เหตุผลเรื่องนี้เป็นเพราะข้าไม่คุ้นเคยกับดาบพิศวงใหม่หรือ?
จี๋เจ๋อพยายามอย่างดีที่สุดที่จะข่มความกลัวในใจของเขา  แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามหนักเพียงไหนเขาก็ไม่สามารถรู้สึกถึงนายท่านได้  ร่างแสงพร่าเลือนเป็นเหมือนอากาศ  ไม่มีอะไรอยู่ที่นั่น
 เป็น... เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง!’
แสงม่านฉายค่อยๆ ลดขนาดลง และทุกคนรู้สึกได้ถึงทัศนวิสัยสีแดงก็ลดลง
ถังเทียนรู้สึกได้ว่าหน้าจี๋เจ๋อขาวกระด้างและถามด้วยความสงสัย  “อะไรกัน มีอะไรบางอย่างที่เจ้าไม่สบายใจ?”
เมื่อคนอื่นได้ยินเขา  พวกเขาทุกคนหันมามองจี๋เจ๋อด้วยอาการเหลือเชื่อ พวกเขารู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้  ทำไมจี๋เจ๋อยังรู้สึกไม่สบายใจ?
จี๋เจ๋อถูกทุกคนจ้องมองค่อยรู้สึกตัว  เมื่อเห็นว่าพวกเขาเต็มไปด้วยความอิจฉา สายตาที่ริษยาและไม่พอใจของเขา  หลังตรงของเขางอทันที  เขาพยักหน้าและก้มหน้า  “ผู้น้อยนี้มีความสุขมาก จนถึงกับลืมตัว”
 “จริงหรือ?”  ถังเทียนประหลาดใจ
จี๋เจ๋อเหงื่อแตกเต็มหลัง  เขาพยักหน้าทันที  “จริง จริงขอรับ!
 “งั้นก็ดีแล้ว”  ถังเทียนถอนหายใจโล่งอก  แม้ว่าดาบจะไม่ใช่ของเขา  ถ้ามันถูกทำเสียหายจริงๆ ก็คงทำให้เขาเสียหน้า  ข้า, หนุ่มชาวฟ้า เสียอะไรก็เสียไป  แต่อย่าเสียหน้าก็พอ
ทันใดนั้นฝูเจิ้งจือวิ่งเข้ามาหาเป็นลมพัด และก่อนที่เขาจะเข้ามาใกล้ เขาตะโกนลั่น  “นายท่าน, นายท่าน, แย่แล้ว! แย่แล้ว!
ถังเทียนหันหน้าไปดูฝูเจิ้งจือด้วยความสับสน
ฝูเจิ้งจือวิ่งมาอยู่ต่อหน้าถังเทียนแทบไม่มีเวลาหายใจ  เขารีบรายงานทันที  “นายท่าน, ตู้..ตู้เคอก็สร้างกองทัพเช่นกัน”
 ตู้เคอกำลังสร้างกองทัพเช่นกัน? ข่าวนี้สร้างความประหลาดใจให้ถังเทียน  แต่ก็แค่เล็กน้อย
 แล้วไง, ไม่เห็นมีอะไรต้องกังวลเกินไปนี่  เขามองดูฝูเจิ้งจืออย่างสงสัย
เมื่อเห็นพฤติกรรมเฉยเมยของเจ้านายของเขา  ฝูเจิ้งจือยิ่งกระวนกระวาย  “นายท่าน, อำนาจระดมคนของตู้เคอต่างจากคนอื่นๆ ในแดนบาป ตราบใดที่เขาเรียกออกไปครั้งหนึ่ง ยอดฝีมือครึ่งหนึ่งของแดนบาปจะติดตามเขา  ข้าได้ยินว่ามียอดฝีมือจากทำเนียบนักสู้ราว 20 คนอยู่ด้วย  แม้แต่ทหารที่ธรรมดาที่สุดก็ต้องผ่านการกลั่นกรองกันถึงสามรอบ แต่ละคนเป็นยอดฝีมือเอง! นายท่าน เราควรทำยังไงดี?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ถังเทียนประหลาดใจจริงๆ  เขาประหลาดใจที่ตู้เค่อเรียกยอดฝีมือในทำเนียบออกมาได้ถึง 20 คน นั่นต้องน่ากลัวอย่างมิต้องสงสัย  ถังเทียนมีความเข้าใจดีถึงระดับพลังของยอดฝีมือในทำเนียบนักสู้  รายชื่อในทำเนียบนักสู้มีเพียง 50 คน  แต่เมื่อเพิ่มคนโฉดผู้มีพลังพอๆ กับนักสู้ในทำเนียบนักสู้เข้าไปด้วย  โดยรวมก็ยังมีน้อยกว่า 100 คน
อำนาจระดมคนของตู้เค่อก็ได้รับคนมาถึง 20 คนเชียว พลังของเขาน่ากลัวจริงๆ
 แต่ ข้าหนุ่มชาวฟ้าจะกลัวได้ง่ายๆ อย่างนั้นได้ยังไง?  ถังเทียนแค่นเสียง  “เจ้าจะตื่นเต้นไปทำไม คิดว่ากองทัพจะสร้างกันได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?”
คำเหล่านี้ไม่ได้แกล้งกล่าว  แม้ว่าถังเทียนจะไม่ใช่แม่ทัพนายกองเองก็ตาม  แต่ภายใต้อิทธิพลของปิง  เขาเข้าใจว่าการสร้างกองทัพไม่ใช่เรื่องง่าย  แดนบาปคุ้นเคยกับการสู้เดี่ยว ต้องการรับรูปแบบกองทัพ จะกลายเป็นเรื่องง่ายได้ยังไง?
 ข้าเองก็ยังเข้าใจการสะท้อนผิวกฎธรรมชาติ!’
 “นายท่าน, พวกเขาต้องสร้างกองทัพมาจัดการเรา!  เมื่อพวกเขาสร้างกองทัพได้,  พวกเขาจะต้องมองหาเรา! นายท่าน, พวกเขาเรียกตัวเองว่ากองทัพแรกแห่งแดนบาป”  ฝูเจิ้งจือพูดด้วยสีหน้าเจ็บปวด  นั่นเป็นสิ่งที่เขารู้สึกเจ็บจริงๆ  ตั้งแต่ถังเทียนตั้งใจสร้างกองทัพเกราะเทพเจ้า  ฝูเจิ้งจือมักใช้ชื่อว่า กองทัพแรกแห่งแดนบาป และเต็มไปด้วยความโหยหาถึงอนาคต  เนื่องจากมันเป็นตัวแทนของอนาคตของเขาที่ไร้ขีดจำกัด
 ตอนนี้,  ทุกอย่างหายไปหมด!’
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฝูเจิ้งจือรู้สึกผิดหวังมาก  ตู้เค่อครองตำแหน่งที่สูงส่งมากในหัวใจของทุกคน  บางสิ่งที่ถังเทียนไม่สามารถจินตนาการออก  และกองทัพของตู้เค่อจะเป็นที่รู้จักของทุกคน  ทำให้พวกเขาเรียกชื่อของกองทัพนี้  เทียบเรื่องนั้น  ฝ่ายของถังเทียนยังดูอนาถาเกินไป
กองทัพของตู้เค่อมีนักสู้ในทำเนียบนักสู้แดนบาปถึง 20 คน  ขณะที่ฝ่ายของเขามีเพียง 2 คน
ความแตกต่างเรื่องพลังระหว่างทั้งสองฝ่ายทำให้พวกเขาหดหู่
ถังเทียนไม่มีความกลัวต่อตู้เค่อ  ดังนั้นเขาสามารถเข้าใจความรู้สึกของฝูเจิ้งจือเป็นอย่างดี  แต่เมื่อเขามองดูคนที่เหลือ  เขาตระหนักได้ว่าสีหน้าทุกคนซีดขาว  เนื่องจากกำลังใจของพวกเขาหายไปหมด  แม้แต่จี๋เจ๋อที่เพิ่งได้รับดาบพิศวงมาใหม่ยังตะลึงเป็นไก่ตาแตก
เมื่อเห็นท่าทีน่าผิดหวังของพวกเขา  ถังเทียนหงุดหงิดขึ้นมาทันที  “ดูสีหน้าตกใจของพวกเจ้าทุกคนสิ!  พวกเจ้าทุกคนกำลังฝึกพิเศษ!
เขามองดู ขณะที่พวกเขาสะดุดกับการฝึกมากขึ้น  เมื่อเห็นพวกเขาก้มหน้า ถังเทียนโมโหอย่างช่วยไม่ได้
เขาไม่เคยคิดว่าข่าวว่าตู้เค่อสร้างกองทัพจะเพียงพอขู่ขวัญพวกเขาได้  เป็นเรื่องที่ถังเทียนไม่เคยคิด  ตั้งแต่เริ่มแรก ผู้คนที่อยู่รอบตัวเขาทุกคนไม่กลัวตาย  และแม้แต่เผ่าหมาป่าผู้อ่อนแอก็มีอุปนิสัยดื้อรั้นยืนกราน  เขาไม่เคยกังวลถึงปัญหาอย่างนั้น  ทุกคนจะเคลื่อนไหวไปกับเขาด้วยความภูมิใจ ไม่มีใครกลัวตาย
ฝูเจิ้งจือและคนที่เหลือไม่กล้าขัดขืนคำสั่งถังเทียน  แต่กำลังใจของพวกเขาตกต่ำ ซึ่งมีผลต่อความก้าวหน้าของการฝึกฝน
 เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้!’
แม้ว่าถังเทียนจะไม่ใช่คนฉลาด  แต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่แม้แต่น้อย  และรู้ถึงภาวะแทรกซ้อน
 ข้าจะทำให้พวกเขาไม่มีความรู้สึกขลาดกลัวได้ยังไง?
สิ่งที่ถังเทียนไม่รู้ก็คือการประกาศสร้างกองทัพแรกของตู้เค่อในแดนบาปทำให้เกิดการปลุกเร้าในแดนบาป  ตู้เค่อเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นนักสู้หมายเลขหนึ่งของแดนบาป  แต่เขาเป็นคนที่สันโดษมากยากจะปรากฏตัวต่อสาธารณชน
เมื่อเขาประกาศว่าจะสร้างกองทัพ เจ็ดตระกูลใหญ่ที่อยู่ใกล้สี่เมืองใหญ่สนับสนุนพวกเขาอย่างเป็นทางการทันที และตามมาจากนั้น อัจฉริยะและนักสู้ฝีมือดีต่างๆ ก็ไหลหลากเข้ามาที่บ้านตระกูลตู้  และนักสู้ทรงพลังนับไม่ถ้วนต่างตอบรับ
เป็นเพราะตู้เค่อคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของแดนบาป
เมื่อเขาปรากฏตัว  ทั่วทั้งแดนบาปจะเคลื่อนไหวเพื่อเขา
ไม่มีใครให้ความสนใจหน่วยสุญญตาในเมืองม้าบินอีกต่อไป  ไม่มีใครสนใจบุรุษหน้ากากผีในเมืองพายุ  ทั่วทั้งแดนบาปจับตาไปที่ตู้เค่อ  ระดับสูงของสี่เมืองใหญ่ผู้ที่ในตอนแรกพยายามถ่วงดุลอำนาจพากันเงียบด้วยความกลัวกันหมด  ไม่มีใครกล้าส่งเสียงพูดอย่างไม่พอใจ
กองทัพ,  กองทัพแรกของแดนบาป
ขณะที่ถังเทียนโกรธเรื่องกำลังใจ  ฝูเจิ้งจือกลับเข้ามาและเรียกด้วยเสียงดัง  “นะ..นายท่าน, มีคนต้องการพบท่าน!
เมื่อเห็นท่าทีแตกตื่นของฝูเจิ้งจือแล้ว  ถังเทียนโกรธจัดจนถลึงตาใส่และแค่นเสียงพูด  “นี่เจ้าแตกตื่นอะไรกัน,  ดูตัวเจ้าเองสิ!  เขาเป็นใคร?”
 “เขาเรียกตัวเองว่าตู้เค่อ”  ฝูเจิ้งจือกัดฟันกล่าว
 ตู้เค่อ....
ถังเทียนตกใจ
เขาไม่เคยคาดว่าตู้เค่อจะมาหาเขาเป็นการส่วนตัว
เขาเห็นบุรุษกลางคนธรรมดาที่กำลังยืนต่อหน้าของเขา  นี่คือตู้เค่อ?  นักสู้อันดับหนึ่งของแดนบาป ตู้เค่อ?
ตู้เค่อจับตามองถังเทียนด้วยความสนใจ  เขาหัวเราะทันที  “น้องกุ้ย, เจ้าถอดหน้ากากออกจะได้ไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ถังเทียนถอดหน้ากากอย่างมีความสุขและพูดอย่างเปิดเผย  “ข้าไม่ได้แซ่กุ้ย  ข้าชื่อถังเทียน”
เมื่อเห็นหน้าของถังเทียน  ตู้เค่อตกใจ  “ข้าไม่เคยคาดเลยว่าท่านถังยังอายุเยาว์มากนัก”
เขาผงะตกใจจริงๆ  แต่ไม่ใช่แค่เพียงเขาเท่านั้น, ฝูเจิ้งจือและจี๋เจ๋อที่อยู่ข้างๆ ก็ตะลึงพอกัน พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าท่านหน้ากากผีผู้ร้ายกาจและเจ้าเล่ห์ยังอายุเยาว์มากจริงๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับจี๋เจ๋อ  เขานับว่าเยาว์วัยที่สุดและมีพรสวรรค์โดดเด่นที่สุด  แต่เมื่อเห็นถังเทียนที่ดูเยาว์วัยยิ่งกว่าเขา และยังแข็งแกร่งกว่าเขามาก  เขาแทบไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง
 “นี่...นี่มากเกินไปแล้ว!’
 “ฮ่าฮ่าฮ่า, ข้าจะพูดอะไรได้  ถ้าพรสวรรค์ของท่านยิ่งใหญ่  มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนอายุเยาว์!  ถังเทียนพูดอย่างมีความสุขที่ได้แสดงสถานะที่แท้จริงของเขาทันที
ตู้เค่อตอบอย่างค่อนข้างปลาบปลื้ม  “เมื่อข้ายังอายุเท่าท่านถัง, พลังของข้ายังอ่อนอยู่มากเมื่อเทียบกับท่านถัง  คนรุ่นต่อไปมักจะทรงพลังมากจริงๆ เฮ้อ”
 “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!  ถังเทียนหัวเราะโดยไม่ระงับยับยั้งตัวเองอีกต่อไปและโบกมือกล่าว  “อย่าเอามาเทียบกับข้า  อย่าเทียบกับข้า,  หนุ่มชาวฟ้านี้จะยังร้ายกาจได้อีกตลอดไป ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”
ฝูเจิ้งจือและจี๋เจ๋อจ้องมองถังเทียนอย่างตกใจ
 นี่..นี่คือท่านหน้ากากผีผู้มั่นคงและเด็ดเดี่ยว ไร้อารมณ์และยากหยั่งถึงหรือนี่?
 นี่ดูเหมือนเจ้างี่เง่าที่คลานออกมาจากไหนก็ไม่ทราบ!’
ในทางตรงกันข้ามตู้เค่อดูเหมือนไม่ถือสา อัจฉริยะมักจะมีนิสัยแปลกประหลาดอยู่เสมอ ถังเทียนในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับเขาตอนเยาว์วัย  แต่กลับรู้สึกว่าถังเทียนเป็นคนตรงไปตรงมา  และหัวเราะ  “ข้า, ตู้เค่อไม่ค่อยฉลาดนักหรอก, แม้จะแก่กว่าเจ้า แต่จะเป็นไรไหมถ้าข้าจะเรียกเจ้าว่าน้อง?”
ถังเทียนรู้สึกว่าตู้เค่อเป็นคนดีมากอยู่แล้ว และไม่สร้างความยุ่งยากมาก  เขาตอบ “ไม่มีปัญหา อย่างนั้นข้าจะเรียกท่านว่าพี่ตู้”
ฝูเจิ้งจือและจี๋เจ๋อมองหน้ากันเอง  หน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความสับสน รู้ว่าฉากภาพที่อยู่ข้างหน้าแปลกประหลาดมาก  ทั้งสองคนควรจะพูดคุยเรื่องต่อสู้และเข่นฆ่ากันไม่ใช่หรือ?  ทำไมพวกเขาถึงพูดคุยถูกคอกันอย่างสนิทสนมกันอย่างนี้? นี่มันสถานการณ์อะไรกันแน่?
ตู้เค่อหัวเราะ  “อย่างนั้นทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกันจากนี้ไป!  สบายใจได้ นับจากนี้เรื่องของน้องถังเท่ากับว่าเป็นเรื่องของพี่ตู้ผู้นี้!  ข้าจะสั่งให้เมืองต่างๆ ส่งคืนบริวารของน้องถังกลับคืนไปที่เมืองม้าบินแล้ว”
 “อย่างนั้นข้าก็ต้องขอขอบคุณพี่ตู้!  ถังเทียนเลิกหัวเราะและพูดอย่างจริงจัง
 “แม้ว่าเราต่างก็มีความขัดแย้งระหว่างกันในอดีต  แต่ก็ไม่มากนัก  แต่การต่อยตีกันมักจะนำมาซึ่งมิตรภาพเสมอ”  ตู้เค่อแสดงสีหน้าที่ไม่มีอันตราย  “แต่พี่น้องของเราไม่ได้ผลประโยชน์จากความขัดแย้ง  ผู้คนที่อยู่ระดับล่างๆ จะคิดว่าน้องถังพยายามจะแย่งชิงชามข้าวของพวกเขา  แต่ข้ารู้ว่าแดนบาปยังไม่เข้าใจน้องถัง  และน้องถังต้องการต่อสู้หาทางกลับไปยังดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์”
ถังเทียนชูนิ้วหัวแม่มือ  “พี่ตู้, ท่านสายตาดีเยี่ยมจริงๆ!
จากนั้นตู้เค่อมองถังเทียน  “ผู้พี่ขอถามได้ไหม?  น้องเราเป็นมิตรหรือศัตรูกับทวีปกวงหมิง?”
 “ศัตรูตลอดกาล”  ถังเทียนพูดโดยไม่ลังเล
 “ทั่วทั้งแดนบาปเป็นศัตรูกับกลุ่มกวงหมิง”  ตู้เค่อพูดอย่างใจเย็น  “หลายคนคิดว่าข้าผู้พี่สร้างกองทัพขึ้นมาเพื่อเอาชนะน้องถัง, แต่พวกเขาไม่รู้ว่าเราผู้พี่ มีเพียงเป้าหมายเดียว นั่นคือกลับไปยังดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้ได้ออกไปจากแดนบาป บรรพบุรุษของเราต้องตายไปมากมาย  แต่ไม่มีใครประสบความสำเร็จ  อาจารย์ของข้าตายเพราะเรื่องนี้ รวมทั้งปู่ข้าเหมือนกัน  ข้ารู้ว่าวิธีการในอดีตไม่มีประโยชน์ และเป็นเวลาหลายปี ข้าคิดหาวิธีออกไปจากสถานที่เลวร้ายแห่งนี้  จนกระทั่งข้ามาถึงเมืองม้าบิน ข้าจึงได้ตระหนักในที่สุด  มันคือกองทัพ มีแต่กองทัพจึงจะออกไปจากที่นี่ได้!
เมื่อเขาพูดจบสีหน้าของตู้เค่อดูน่ากลัวมาก

12 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

สุดยอดดดด..

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ รวมพลังอดนบาป จะได้สอยหลังกวงหมิงซะที รอมานานมาก

เนพื กล่าวว่า...

ได้เวลาออกไปแล้ว

Unknown กล่าวว่า...

ปูทางมาตั้งนานนึกว่าจะมีอัดกัน ดันร่วมมือกันดื้อๆ โอเค งั้นกลับดาราจักรเซียนก่อนค่อยว่ากัน

แอบอ่าน กล่าวว่า...

เสยเลยตอนนี่

MAXNY กล่าวว่า...

ก็ว่าละไงแดนบาปเมื่อรู้ความจริง ยังจะมีใครสนพี่ถังอีกละ(แต่อาจจะมีคนของกวงหมิงรอกวนน้ำให้ขุ่นอยู่)

MAXNY กล่าวว่า...

กลับไปก็คงไม่ทะเลาะกันหรอกถังเทียนไม่ได้อยากปกครองใครมันตามหาเมียอย่างเดียว

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ ไม่ต่อยตีไม่รู้จักสนิทสนมสินะ

สมประสงค์ อินทรกำแหง กล่าวว่า...

ว่าแล้วต้องออกมาแนวนี้ ไม่งั้นเดี๋ยวไปช่วยปิงไม่ทัน

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Anny กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

SaMiiz กล่าวว่า...

โอ้ยยยย มี คนร่วมรบเพิ่มมม

แสดงความคิดเห็น