วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 811 ข่าวของเหวินกัง


ตอนที่  811  ข่าวของเหวินกัง
 “มีข่าวอะไรจากแนวหน้าบ้างไหม?”
หลู่ไควางเหยือกเหล้าข้างหน้าเหวินกัง และเมื่อคนที่เหลือได้ยินคำถาม  พวกเขาวิ่งเข้ามารวมกันทันที  เหวินกังเพิ่งกลับมาจากภารกิจในเมือง  และจะต้องได้รู้ข้อมูลใหม่แน่นอน  ประตูบาปแยกออกมาจากโลก  และการเดินทางจากดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์มายังประตูบาปไม่ใช่เรื่องง่าย  และตามระเบียบปฏิบัติ  พวกเขามีโอกาสทุกๆ สามปีพวกเขาจะได้กลับไปยังทวีปกวงหมิงเพื่อรับหน้าที่ทางการ

ในประตูบาป การกรีฑาพลเข้าภูมิภาคใต้เป็นหัวข้อสนทนาที่ร้อนแรงที่สุด
ในรอบหลายศตวรรษ ทวีปกวงหมิงต่อสู้มาหลายสงครามและชนะศึกทั้งหมด  พวกเขากลืนทวีปต่างๆ ในภูมิภาคตะวันตก และปกครองแบบเบ็ดเสร็จในปัจจุบัน  หลังจากได้ชัยชนะต่อเนื่อง ก็ทำให้พลเมืองของทวีปกวงหมิงมีความรู้สึกลำพองในตัวเองตั้งแต่อายุยังเยาว์  พวกเขาเชื่ออย่างแน่นเหนียวว่าทวีปกวงหมิงไร้เทียมทาน และกระตือรือร้นต่อการสู้รบ  ยิ่งกว่าพลเมืองธรรมดา
การไม่สามารถเข้าร่วมกรีฑาพลเข้าภูมิภาคใต้ทำให้พวกทหารเหล่านี้ที่ถูกส่งมาเฝ้าประตูบาปรู้สึกเสียใจ  แต่พันธมิตรใต้ยังเป็นหัวข้อที่ได้รับการสนใจมากที่สุด  เพียงแต่พวกเขาอยู่ห่างเกินไป  และเมื่อใครสักคนมาจากธุระงานเมืองข้างนอกก็จะทำให้พวกเขาได้รับทราบข่าวล่าสุด
เหวินกังรับเหยือกเหล้าและดื่มเต็มอึก
ประตูบาปมีเหล้าให้ดื่มมากมาย
ตามกฎแล้วผู้ปฏิบัติงานมึนเมาระหว่างปฏิบัติหน้าที่จะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก  แต่ที่ประตูบาป กฎพวกนั้นจะทำอะไรได้?
ประตูบาปตัดขาดจากโลกที่เหลือ เนื่องจากเป็นที่มีสภาพแวดล้อมอันตราย ไม่มีน้ำหรือน้ำมัน เป็นสถานที่โหดร้ายน่ากลัวเกินกว่าจะทำงานได้  และคนปกติทั่วไปไม่ยินดีทำงานที่นี่  เนื่องจากเป็นที่เหมือนกับคนต้องโทษอาญา  พวกผู้บัญชาการก็คือคนที่เคยขัดใจกับระดับสูงในอดีต และทหารที่ติดตามพวกเขาพลอยโชคร้ายไปด้วย  หลังจากอยู่มาเป็นเวลาทศวรรษหนึ่ง ความทะเยอทะยานและเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาก็ถูกกำจัดล้างไป
จากที่เคยฝึกฝนกันทุกวัน ก็กลายเป็นฝึกฝนสามวันต่อครั้ง  และจากนั้นก็กลายเป็นฝึกสิบวันครั้ง แล้วก็ไม่ฝึกกันเลย
บุคลากรที่ได้รับแต่งตั้งดูแลไม่สามารถหลบหนีได้ จะมีพลเมืองแดนบาปท้าทายพวกเขาเป็นครั้งคราว  และถ้าพวกเขาปล่อยให้คนแดนบาปหนีไปได้จริงๆ ครอบครัวพวกเขาเองจะถูกปฏิบัติอย่างสาสม  แต่ช่วงเวลาสองสามปีมานี้ คนในแดนบาปไม่เคยปรากฏตัว และวันคืนที่ดูน่าเบื่อทำให้พวกเขาหมดหวัง  เมื่อคนแดนบาปคนสุดท้ายปรากฏตัว  กองทัพก็ถูกระดับพล และทุกคนก็จะมาดูความวุ่นวาย
พวกทหารที่ทำหน้าที่จะเบื่อกันมาก และพวกเขาถ้าไม่เล่นไพ่ก็ดื่มเหล้าฆ่าเวลา  พวกเขาไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไงในวันเหล่านี้
เมื่อเห็นว่าทุกคนล้อมวงเข้ามา เหวินกังให้ความสนใจชั่วครู่ ก่อนจะพูดจริงจัง  “ตอนนี้แม่ทัพโกวเฉิงเวิ่นเต้าพบคู่ต่อกรของเขาแล้ว”
 “พูดจริงหรือ?”
 “เป็นไปได้ไหมว่าทวีปทองเคลื่อนไหวแล้ว?”
 “หรือว่าแม่ทัพใหญ่โกวเฉิงเวิ่นเต้าตั้งใจอ่อนข้อ?”
……

ทุกคนรุมล้อมเข้ามาอย่างวุ่นวายทันที
ทุกคนรู้ว่าโกวเฉิงเวิ่นเต้าเป็นใครในฐานะหนึ่งในห้าแม่ทัพพยัคฆ์กวงหมิง ในแง่ความสามารถรุก เขาคือผู้ชนะเลิศ!  ห้าแม่ทัพพยัคฆ์กวงหมิงมีศักดิ์ศรีที่สูงส่งในทวีปกวงหมิง บางอย่างที่ไม่มีคนภายนอกรู้  ทหารยศต่ำทุกคนเทิดทูนและนับถือห้าแม่ทัพพยัคฆ์กวงหมิง นอกจากนี้ พวกเขาแตกต่างจากแม่ทัพที่มีชื่อเสียงในทวีปอื่น  นอกจากมู่จือเสียแล้ว สี่แม่ทัพมีผลงานสู้รบที่โดดเด่น  ขณะที่แม่ทัพที่มีชื่อเสียงของทวีปอื่นเอาแต่เล่นซ่อนหากับโจรสลัด  ส่วนทั้งสี่คนนั้นสามารถสังหารและยึดครองทวีปได้
บางทีอาจมีคนที่แข็งแกร่งมากกว่าห้าพยัคฆ์กวงหมิงในแง่พลังส่วนตัว  แต่เมื่อว่าถึงการควบคุมสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกรีฑาทัพขนาดใหญ่ แม่ทัพผู้มีชื่อเสียงอื่นถือว่ายังต่างชั้นกันกับห้าแม่ทัพพยัคฆ์กวงหมิง
จุดนี้ฝังลึกอยู่ในใจของคนทวีปกวงหมิง  ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้ยินว่าแม่ทัพโกวเฉิงเวิ่นเต้าพบคู่มือต่อกร ทุกคนจึงมีปฏิกิริยารุนแรง
 “มีเด็กอยู่สองคน”  เหวินกังชูนิ้วมือสองนิ้ว
 “เด็กสองคน?  เจ้าเข้าใจผิดหรือเปล่า?  เหวินกัง อย่าโกหกเราดีกว่า!”
 “นั่นน่ะสิ!  และพวกเขายังเป็นเด็กหรือ?  เจ้าคิดว่าทุกคนเป็นอย่างแม่ทัพชิวหรือ?”
 “ต้องมีข้อมูลบางอย่างผิดไปแน่  แม่ทัพชิวคืออัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่โดดเด่นที่ปรากฏออกมาในรอบไม่กี่ร้อยปี”
ทุกคนค่อนข้างจะเหยียดหยามข้อมูลของเหวินกัง  และทุกคนมีอารมณ์รู้สึกเหลือเชื่อ
 “ผิดผิด, หนึ่งในนั้นไม่ใช่เยาว์วัย”
เหวินกังแกล้งทำเป็นลึกลับ  เมื่อเห็นว่าทุกคนให้ความสนใจแล้ว  จากนั้นเขาจึงค่อยเพิ่มเติม  “หนึ่งในนั้นเรียกว่าเซี่ยอวี่อัน  เมื่อพูดเรื่องของเขา เขามาจากพื้นฐานที่น้อยนิด เขาคือเพื่อนร่วมชั้นเรียนของไป๋เยี่ย”
 “ไป๋เยี่ยเป็นใคร”
 “ข้าไม่เคยได้ยินชื่อของเขามาก่อน”
 “เอ่, ข้าคิดว่าข้ารู้เรื่องของเขาบางเรื่อง  ดูเหมือนมีอยู่คนหนึ่งจากตระกูลไป๋เรียกว่าไป๋เยี่ยแห่งภูมิภาคใต้ แต่เขาไม่ใช่คนมีชื่อเสียง”
 “ข้าบอกแล้วว่า เราไม่เคยได้ยินชื่อเขามาก่อน  เหวินกังหยุดทำเป็นอวดและทำเสียงราวกับว่าไป๋เยี่ยเป็นเหมือนคนยิ่งใหญ่”
ทุกคนมีท่าทีเย้ยหยัน
เมื่อเหวินกังรั้งสายตากลับ  “เจ้าไม่เคยได้ยินชื่อเขามาก่อนใช่ไหม?  ข้าก็เหมือนกัน แต่แม่ทัพชิวซิ่วหัวกำลังลำบากเพราะไป๋เยี่ยและสูญเสียกำลังพลไปสามหมื่น  และแม่ทัพฟงหวินม่านตายในการศึก
ทุกคนเงียบลง และมีสีหน้าเหลือเชื่อ
 “สามกองทัพใหญ่, แม่ทัพโกวเฉิงเวิ่นเต้ากระหน่ำใส่สัมพันธมิตรใต้โดยตรง  แม่ทัพม่อซินนำกำลังไปทางปีกซ้าย  ขณะที่แม่ทัพชิวซิ่วหัวนำทัพปีกขวา  เวลานั้น, แม่ทัพชิวซิ่วหัวนำกองทัพใหญ่แสนห้าหมื่นนายยันกับกองทัพร่วมภูมิภาคใต้ โดยมีกองพลเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์เป็นแกนนำ  แนวป้องกันของทัพพันธมิตรกำลังตกอยู่ในอันตราย และจากที่เห็น แม่ทัพชิวซิ่วหัวกำลังจะชนะ  แต่ไป๋เยี่ยและกองพลกาขาวของเขาปรากฏตัวข้างกองทัพของแม่ทัพชิวซิ่วหัวเหมือนภูตพรายและซุ่มโจมตีอย่างน่ากลัว ทำให้แม่ทัพชิวซิ่วหัวมีคนบาดเจ็บล้มตายไปมาก  และพวกเจ้าไม่เคยได้ยินเรื่องของไป๋เยี่ยมาก่อนสินะ  กองพลกาขาวที่เขาบัญชาการเพิ่งจะเลื่อนขึ้นเป็นกองทัพระดับทองเมื่อเร็วๆ นี้  ใช่แล้ว ทุกคนถูกเขาล่อลวง ทุกคนคิดว่าเขาจะไปถ่วงเวลาแม่ทัพม่อซิน”
น้ำเสียงของเหวินกังจริงจัง การสู้รบที่สูญเสียกำลังพลไปถึงสามหมื่นนาย เป็นเรื่องที่ยากจะเห็นได้ในประวัติศาสตร์ทวีปหมิงกวง  นอกจากนี้ ผู้บัญชาการใหญ่ยังเป็นแม่ทัพชิวซิ่วหัว  แม้ว่าทุกคนจะลำเอียงไปทางเขา  พวกเขาก็ต้องยอมรับว่าไป๋เยี่ยนับว่าเป็นผู้โดดเด่นคนหนึ่ง
ในเวลานี้ทุกคนตะลึง
 “เซี่ยอวี่อันคือเพื่อนร่วมชั้นเรียนของไป๋เยี่ย  และอดีตของเขายิ่งน่าทึ่งมาก  เวลานั้นสัมพันธมิตรใต้ โอว, ตอนนั้นยังไม่มีสัมพันธมิตรใต้  แค่เรียกกันว่าทวีปซางโจว เวลานั้นทวีปซางโจวไม่มีกองทัพเลยสักกองทัพเดียว  ดังนั้นพวกเขาจึงคิดหาทางตัดสินใจซื้อกองทัพ!”
ต้องบอกว่าเหวินกังรู้วิธีพูด  เนื่องจากเขาดึงดูดความสนใจของทุกคนได้
 “ซื้อกองทัพ?”
ทุกคนงุนงง  หน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเลื่อ  พวกเขาโตเป็นผู้ใหญ่ปูนนี้แล้ว ไม่เคยได้ยินเรื่องประหลาดอย่างการซื้อกองทัพมาก่อน
 “ใช่แล้ว เมื่อข้าได้ยินเรื่องนี้  ข้าก็ตะลึงเหมือนกัน  เมื่อเราพูดเรื่องคนในภูมิภาคใต้  เราเรียกพวกเขาว่านักธุรกิจที่มีพรสวรรค์ และพวกเขาก็รู้วิธีทำธุรกิจเป็นอุปนิสัย  ทวีปซางโจวนี้ร่ำรวยมาก พวกเขามีทรัพยากรหล่อเลี้ยง  และเมื่อพบกับปัญหา ไม่ต้องพูดอะไรสักคำ  พวกเขาแค่ซื้อ ซื้อ ซื้อ!  เวลานั้น ทวีปซางโจวมีธุรกิจร่วมกับตระกูลไป๋และเซี่ยอวี่อันก็เป็นผลของการทำธุรกิจ”
ทุกคนจดจ่ออยู่กับข้อมูล  มันประหลาดมากเหลือเกิน
 “ทวีปซางโจวนี้ร่ำรวยมากอุดมไปด้วยทรัพยากรมาก  ไม่ต้องพูดสักคำ พวกเขาทำให้เซี่ยอวี่อันกลายเป็นกองทัพระดับเงินได้สำเร็จ  และส่วนที่ฟุ่มเฟือยที่สุด พวกเจ้ารู้ไหมว่าคืออะไร?  อาวุธวิญญาณ!  ทวีปซางโจวนี้มอบอาวุธวิญญาณให้กำลังพลทุกคนในกองพลนางแอ่นของเซี่ยอวี่อัน”
เมื่อเหวินกังพูดแค่นั้น แม้แต่เขาเองก็มีแววอิจฉา
 “อะไรวะนั่น รวยชิบหาย!”
 “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราพยายามจะยึดทวีปซางโจวด้วยการทุ่มเงินมหาศาล ใครจะทนรับได้เล่า”
 “แล้วไงเล่า ถ้าพวกเขารวย!  เอาเถอะ แล้วตอนนี้เราจะทำยังไง ชิงมันมาใช่ไหมเล่า?”
ทุกคนเริ่มอุทานออกมาดังๆ ทุกคนถึงกับตาแดงน้ำลายไหล
เมื่อเหวินกังเห็นสีหน้าพวกเขา  เขาลอบดีใจ  ความจริงเมื่อเขาได้ยินเรื่องนั้นตอนแรกก็คงไม่มีทางดีไปกว่าพวกเขาได้  เขากระแอมเบา “ตอนแรก เราก็ไม่สนใจหรอก ฮึ... กองพลนางแอ่นน่ะหรือ?  ไม่มีใครเคยได้ยินชื่อพวกเขามาก่อน  โกวเฉิงเวิ่นเต้าเป็นบุรุษที่น่ากลัวขนาดนั้น  เขาคือดาบสมบัติที่แท้จริง  ไม่ว่าเขาจะไปที่ใด  ทุกอย่างจะถูกสับฟันพินาศสิ้น  แนวป้องกันสัมพันธมิตรใต้ถูกบดขยี้อย่างรวดเร็ว และจากเท่าที่ดู สภาพพวกเขาใกล้จะพังทลาย  เวลานั้นพวกเขาเตรียมตัวจะโค่นถล่มแนวป้องกันทั้งหมด  แต่พวกเขาไม่ทันตระหนักว่ายังมีคนที่ทนอยู่ได้  เป็นเพราะตำแหน่งยุทธศาสตร์ของพวกเขาแปลก  และถ้าพวกเขาต้องการโค่นทุกอย่างลง  พวกเขาต้องกำจัดหนามยอกที่ตรึงอยู่ตรงนั้นให้ได้เสียก่อน ท่านแม่ทัพคลิฟ ขุนพลเลือดเหล็กอยู่ในตำแหน่งที่ดี  ท่านคลิฟส่งกองพลที่สามไปกำจัดเสี้ยนหนาม  แต่ล้มเหลวและกองพลที่สามพ่ายแพ้  หลังจากนั้นท่านคลิฟส่งกองพลที่สองไปอีก  แต่ก็ล้มเหลว  ในที่สุดท่านคลิฟก็ไม่อาจทนอยู่ได้นำกองพลสามหมื่นเข้าบุกตะลุย  แต่ในทุกสุดพวกเขาก็ยังแพ้สูญเสียกำลังพลไปพันนาย!”
ทุกคนสูดลมหายใจหนาวเหน็บ
คลิฟอาชากล้าเลือดเหล็กคือหนึ่งในสามแม่ทัพใต้ร่มธงของโกวเฉิงเวิ่นเต้าผู้มีความกล้าหาญไม่มีใครเหมือน ทุกคนคือทหารกล้าและพวกเขาเป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเข็มงวดและระดับความแข็งแกร่งในกองทัพของพวกเขา  และความต่างกันในเรื่องพลังของกองทัพคลิฟก็เป็นอีกระดับหนึ่ง  สูงกว่าพวกนั้นสองสามระดับ และกองทัพบริวารคลิฟโดยตรงก็เป็นยอดฝีมือในยอดฝีมือและมีทหารไม่กี่คนที่แข็งแกร่งมากกว่าพวกเขาที่เป็นบริวารโดยตรงของห้าแม่ทัพพยัคฆ์กวงหมิง
 เซี่ยอวี่อันผู้นี้ทรงพลังแท้จริง!’
 “เซี่ยอวี่อันกลายเป็นผู้ลือชื่อในศึกเดียวและได้รับฉายาว่าผู้พิทักษ์สวรรค์ดีที่สุดเป็นอันดับสาม หลังจากนั้นเขาฟื้นฟูป้อมพิทักษ์สมุทรที่ซึ่งแม่ทัพโกวเฉิงเวิ่นเต้าตัดสินใจเคลื่อนกำลังพลด้วยตนเอง  ฉากภาพการรบที่ทำให้สวรรค์เปลี่ยน แม่ทัพโกวเฉิงเวิ่นเต้านำเรือรบล้อมตีขนาดยักษ์ไปกับเขาด้วย!
เสียงสูดหายใจหนาวเหน็บของทุกคนดังขึ้นอีกครั้ง  กองเรือรบล้อมโจมตีขนาดยักษ์ 22 ลำ ช่างสง่างามเหลือเกิน!
ใจของทุกคนคิดถึงฉากภาพที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ก็ทำให้พวกเขาตื่นเต้น
 “หลังจากนั้นเล่า?”
บางคนอดถามไม่ได้
เหวินกังรีบสงบใจลง
 “หลังจากนั้น?”  ใครบางคนคะยั้นคะยอ
แต่ในเวลาอันรวดเร็ว  ทุกคนสังเกตว่าเหวินกังเงียบ ทุกคนตะลึง
 “หลังจากนั้น, ป้อมพิทักษ์สมุทรจู่ๆ ก็เปิดการตอบโต้อย่างน่ากลัว  ไม่มีใครรู้ว่ามันจะทำอะไร”  เสียงของเหวินกังแหบแห้ง  “มันทรงพลังมากเหลือเกิน มากยิ่งกว่าพลังโจมตีจากเรือรบล้อมตีเสียอีก  เวลานั้น เรือรบล้อมโจมตีขนาดยักษ์สามลำระเบิดจากพลังโจมตีนั้น”
 “เป็นไปไม่ได้!”
 “นั่นน่ะสิ จะเป็นไปได้อย่างไร ที่มีพลังโจมตีที่รุนแรงขนาดนั้น?”
 “จะมีอะไรที่โจมตีได้รุนแรงมากกว่านอกจากพลังโจมตีของเรือรบล้อมโจมตีลำยักษ์?”
ทุกคนส่งเสียงฮือฮาอีกครั้ง  เรือรบล้อมโจมตีใหญ่เป็นอสูรสงครามสูงสุด  แม้ว่าพวกเขาจะมีจุดอ่อนหลายอย่าง  แต่พวกมันมีพลังทำลายล้างทำให้พวกมันกวาดสนามรบได้ทั้งหมด
 “เป็นการโจมตีจากสมบัติวิญญาณ”  เมื่อเหวินกังเงียบไปชั่วขณะก่อนจะพูดต่อ  “ผู้บริหารเบื้องบนคาดว่าเป็นการโจมตีจากสมบัติวิญญาณ เป็นการใช้ความสามารถของสมบัติวิญญาณสูบพลังงาน สร้างเป็นพลังงานกระแสหมุนวนที่สะท้อนพลังกันและกัน  ผู้บริหารระดับสูงคำนวณไว้แล้ว  พวกมันต้องใช้สมบัติวิญญาณมากกว่าหกชิ้นเพื่อกระตุ้นพลังโจมตีเช่นนั้น  ทุกการโจมตีต้องทุ่มเทคุณค่าสูงจากพวกทหาร”
ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ  พวกเขาต้องการคัดค้านเขา  แต่ไม่มีใครพูดอะไร
การโจมตีที่จำเป็นต้องใช้สมบัติวิญญาณหกชิ้นหรือมากกว่าเป็นเรื่องที่พวกเขาไม่สามารถคาดคิดได้
 “การสู้รบรุนแรง”  เมื่อเหวินกังรู้สึกได้ว่าคอของเขาแห้ง  และร่างของเขาเริ่มสั่น  “ป้อมรบนี้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้  และไม่สามารถหลบได้  เรือรบล้อมโจมตีขนาดใหญ่ทอดสมอโจมตี  และไม่สามารถเคลื่อนที่ได้  ขณะนั้นเอง ไม่มีกลยุทธอื่นที่เป็นไปได้  และทั้งสองต่างระดมยิงใส่กัน”
ปากของทุกคนอ้าค้าง  หน้าของพวกเขาซีดขาว แค่เพียงไม่กี่ประโยค ก็อธิบายการสู้รบได้ทั้งหมด ทำให้ทุกคนสำลัก
 “การสู้รบคงอยู่เป็นเวลาหกชั่วโมง”
เสียงของเหวินกังสั่นสะท้าน  เหมือนกับว่าเขากำลังเพ้อ

10 ความคิดเห็น:

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ กำลังดุเดือดเลย

Unknown กล่าวว่า...

ค้างงงงงงงงงงงงง

หวังปี้เจ้า กล่าวว่า...

ประตูแดนบาป โอว เหมือนจะง่ายอีกแล้ว

windwolf กล่าวว่า...

ค้างอีกแล้ว ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

พี่ซิ่วผมตายรึยัง

neng2006 กล่าวว่า...

ค้างรอบแล้วรอบเล่า 555

แอบอ่าน กล่าวว่า...

ครบเวลาที่นัดไว้เลย กำลังเสริมมาถึงแล้ววสิ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ มันส์

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

มันรอดถึงหกชั่วโมงได้ไง เป็นคนอื่นเละตั้งแต่ชั่วโมงแรก

แสดงความคิดเห็น