วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 813 รบด้วยพลัง


ตอนที่  813  รบด้วยพลัง
ภายในเงาของซากหักพังของเรือรบล้อมโจมตีขนาดใหญ่  ร่างที่เลือนรางและคลุมเครือพอมองเห็นได้
สายตาของเว่ยถิงถิงสงบเหมือนน้ำ สังเกตความเคลื่อนไหวของศัตรู

ภายนอกป้อมรบ อสูรร้ายที่มีขนาดใหญ่และทรงพลังแต่ก่อนตอนนี้กำลังถูกเผาไหม้เงียบๆ ในบรรยากาศสู้รบที่ขมขื่น  ตอนนี้ซากพังทลายกลายเป็นตำแหน่งเฝ้าระวังตามธรรมชาติของพวกเขา
สงครามเป็นครูที่ดีที่สุด  และในการสู้รบต่อเนื่องทำให้เว่ยถิงถิงและพวกที่เหลือตระหนักว่ากลุ่มซากหักพังหนาแน่นเป็นแนวป้องกันที่ดีที่สุด  ภูมิประเทศที่ซับซ้อนสามารถเพิ่มและปลดปล่อยพลังสู้รบได้
ส่วนมอดไหม้ที่เหลือของเรือเป็นตำแหน่งที่แข็งแกร่งที่สุดของเรือรบ  และทุกสิ่งทุกอย่างที่เผาไหม้ได้ล้วนกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว  การโจมตีธรรมดาจากเรือรบแค่ทิ้งรอยแผลที่น่ากลัวไว้เท่านั้น  แต่ไม่สามารถทำลายองค์ประกอบของมันได้  การกวาดล้างไปทั่วบริเวณ มีทางเป็นไปได้มากว่าสามารถใช้เรือรบเพื่อดึงซากหักพังให้ออกไปได้
สำหรับโกวเฉิงเวิ่นเต้าผู้มีกำลังพลมากมาย ไม่ใช่ปัญหาใหญ่  แต่ตราบเท่าที่เรือลำใดเข้ามาใกล้  พวกเขาจะโจมตีตอบโต้  เว่ยถิงถิงและพวกลอบเข้าไปในซากหักพัง และเหมือนกับภูตพราย  พวกเขาไม่สามารถป้องกันได้
สำหรับงานเครียดและอันตรายนั้น  ไม่มีใครพูดอะไร  พื้นที่รายรอบกลายเป็นเงียบและที่มืดหลายที่สร้างจากที่ซึ่งแสงไปไม่ถึง  ทหารใหม่ทั้งหมดที่ไม่มีประสบการณ์คอยระวังตัว  แต่ในเวลารวดเร็ว พวกเขาก็เผลอหลับไปทั้งหมด
หน้าของเว่ยถิงถิงไม่มีความวู่วามแบบมือใหม่  แต่เป็นใบหน้ามั่นคงของทหารผ่านศึก มีธนูศึกในมือ ทำให้นางสะดวกสบายมากขึ้น  นางมีลูกศรทองดำพิเศษห้อยอยู่บนคันธนู ตัวคันธนูสร้างขึ้นด้วยทองดำ  ขณะที่ขนนกใสของธนูทองดำทำมาจากทองดำตัดบางราวกับปีกจั๊กจั่นทำให้ธนูทองดำทั้งหมดมีแนวสีทองดำ
มันมีชื่อเฉพาะว่า เทพธนูทอง หรือชื่ออีกอย่างหนึ่งคือธนูจิต
ชื่อเฉพาะและแปลกประหลาดทำให้เว่ยถิงถิงตะลึง นางได้ยินมาสองสามครั้ง  แต่ก็คิดว่านางฟังมาผิด  คำอธิบายของแผนกขนส่งก็คือเทพธนูทองก็คือชื่อย่อของธนูทองดำเทียมเทพ  และคำอธิบายทำให้ทุกคนตะลึงมากขึ้น
แต่รูปแบบและคุณภาพของมันทำให้ทุกคนมีความหวัง
ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าธนูเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่าจริง  เว่ยถิงถิงคงไม่ใช้มันแน่
มือข้างหนึ่งของเว่ยถิงถิงลูบธนูโดยไม่รู้ตัว  ลูกศรที่มีลวดลายงดงามนี้ปลดปล่อยพลังเฉพาะแบบเหมือนกับสมบัติดวงดาว  ธนูจิตทุกดอกจะบรรจุด้วยพลังวิญญาณจากทวีปซางโจวและมันคืออาวุธลับใหม่ล่าสุดของพวกเขา
เว่ยถิงถิงคิดอย่างตลกมากขึ้นทุกที ทำให้อดยิ้มไม่ได้
เหตุผลที่ธนูจิตทรงพลังมากไม่ใช่เพราะพลังวิญญาณที่เพิ่มเข้าไปในธนู  แต่เหตุผลที่แท้จริงก็คือธนูทุกดอกถูกฝังไว้กับคนบ้า
กลุ่มธนูจิตล่าสุดมีเพียงสิบเท่านั้น  และเว่ยถิงถิงรับไว้ใช้หนึ่งชุด
บางทีนางไม่เคยคิดว่านางจะมีวันอย่างนี้  มีบางครั้งเมื่อเว่ยถิงถิงคิดถึงชีวิตก่อนนั้นของนาง  ชีวิตที่ปลอดกังวล  แต่นางไม่ปรารถนาจะนึกย้อนกลับไป  บรรพบุรุษและเหล่าผู้อาวุโสของนางเสียสละตนเอง การล้างแค้นกลายเป็นเป้าหมายของนาง
นางต้องการทำลายทวีปกวงหมิง
ความเกลียดชังไม่ได้ทำให้นางสูญสียความมีเหตุผล  แต่ทำให้นางมองดูกองเรือศัตรูข้างหน้าอย่างสงบและมั่นคง
นางเติบโตแล้ว
หากเราต้องพูดว่าการฝึกฝนอย่างฝืนทนโดยการเดินในทะเลพลังงานได้ขัดเกลากำลังใจของนาง มันทำให้นางมั่นคงขึ้นและมั่นใจในตนเองมากขึ้น  จากนั้นในการสู้รบจริงทำให้นางเข้าใจถึงสงครามที่โหดร้าย  นางดีใจว่านางก็เป็นเจ้าหน้าที่ที่ฝืมือโดดเด่น
กล่าวกันว่าท่านอาเฮ่อเป็นมือใหม่คนหนึ่งเหมือนพวกเขา  แต่พวกเขาไม่เห็นด้วยแม้แต่น้อย
จากที่เรียกให้เข้ามาช่วย ความมั่นคงของท่านอาเฮ่อสร้างความทึ่งให้กับทุกคน ทำให้พวกเขาไม่สามารถเทียบกับเขาได้ในแง่การเป็นคนเยือกเย็นและละเอียดอ่อนตามปกติ  เมื่อพวกเขามาถึงป้อม มันยิ่งกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านั้น  ท่านอาเฮ่อปรามทุกคนอย่างช่วยไม่ได้  แต่ให้ซ่อนอยู่หลังป้อมเหมือนนักล่าที่มีประสบการณ์รอช่วงเวลาโจมตีที่ดีที่สุด
ท่านอาเฮ่อไม่เคยพูดดัง เสียงของเขามักจะสงบเย็นและเต็มไปด้วยความมั่นใจ  เขาเป็นคนที่มั่นคงสงบและสง่างาม และแม้แต่ในเวลาที่เขาสั่งให้โจมตี การเดินที่เงียบสงบพร้อมกับกระบี่ในมือของเขาดูมีเสน่ห์จนอาจทำให้หญิงสาวทุกคนซบหน้าแทบเท้าเขาได้
หน้าของเว่ยถิงถิงแดงทันที ท่านอาเฮ่อนับเป็นบุรุษในฝันของสาวๆ ทุกคน
แม้การสู้รบจะโหดร้าย  พวกเขาก็ไม่ได้เชื่อมกับโลกภายนอก
ขณะนั้น มีทหารมากมายนับไม่ถ้วนอยู่ที่ป้อมพิทักษ์สมุทร  และการรบเป็นที่จับตามองไปทั่วทั้งดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  กระบวนการสู้รบทั้งหมดถูกบันทึกโดยหน่วยทหารของตระกูลต่างๆ  บันทึกทั้งหมดนี้เหมือนกับพายุหมุนกระจายไปทั่วดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ในช่วงเวลาสั้นๆ
สิ่งที่ดึงดูดสายตาของทุกคนมากที่สุดก็คือเซี่ยอวี่อันและอาเฮ่อ
เซี่ยอวี่อันยังดี เนื่องจากเขาสร้างชื่อของเขาในฐานะผู้ป้องกันที่ทรงพลัง  และไม่มีอะไรต้องพูดมากเกี่ยวกับผู้พิทักษ์สวรรค์ดีเป็นอันดับสาม  ถ้าเป็นอีกสองคน พวกเขาจะทนได้ถึงหกชั่วโมงในสถานการณ์ที่หมดหวังดังกล่าวหรือไม่?
สงครามนี้มีเรื่องที่อธิบายไม่ได้อยู่มากมาย  แต่ภายใต้การโจมตีที่น่าสยดสยองเช่นนั้น การอดทนต้านรับได้ถึงหกชั่วโมงเต็ม  ว่าด้วยมาตรฐานการป้องกันของเขาหรือความมุ่งมั่น  กลับผลักดันให้เขากลายเป็นแม่ทัพผู้ป้องกันได้แข็งแกร่งที่สุดในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์และชื่อของเขาโด่งดังอีกครั้ง
แต่คนจริงที่เติมเต็มบรรยากาศก็คืออาเฮ่อ
ความเด็ดขาดในการสนับสนุนได้ทันเวลา  ความใจเย็นของเขารอคอยโอกาส พลังส่วนตัวที่แข็งแกร่งของเขาทำให้ทุกคนตาเป็นประกาย  ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาทราบคุณค่าของซากหักพัง แสดงถึงสัญชาตญาณที่แหลมคมในการสู้รบ
ด้วยคำสั่งให้ถอยและโจมตีของพวกเขา การซึมซับของพวกเขาแสดงว่าพวกเขาเป็นขุนพลทหารที่ใจเย็น
จากลักษณะที่น่าทึ่งของเซี่ยอวี่อันจนถึงความร้ายกาจของอาเฮ่อ  แล้วทุกคนก็ตระหนักได้ว่าพันธมิตรใต้ไม่ได้อ่อนแออย่างที่พวกเขาคิด  นอกจากนี้ยังมีไป๋เยี่ย จำนวนของแม่ทัพทหารระดับสูงคุณภาพดีมีถึงสาม  ทุกคนประหลาดใจว่าพันธมิตรใต้มีผู้มีพรสวรรค์มารวมตัวกัน  และรู้สึกว่าสัมพันธมิตรใต้ลึกลับยากจะหยั่ง  อาจเป็นไปได้ว่าสัมพันธมิตรใต้ยังมีผู้มีพรสวรรค์ซ่อนอยู่หรือไม่?
ไม่มีใครรู้
แต่เนื่องจากบันทึกการสู้รบแพร่กระจายไป นั่นเริ่มเผยให้เห็นพลังของมัน
ในที่อื่นบันทึกเช่นนั้นจะมีผลเหมือนกับระเบิด และจะทำให้ผู้คนตกใจจากนั้นก็ไม่มีอะไร  แต่ในภูมิภาคใต้จะไม่ใช่มีเพียงแค่นั้น  บันทึกการรบเป็นเหมือนไฟลามทุ่งที่เหมือนกับเริ่มจุดเชื้อเพลิงแห้งในภูมิภาคใต้
การแทรกซึมของทวีปกวงหมิงสร้างผลกระทบเป็นความน่ากลัวอย่างไม่เคยมีมาก่อนในภูมิภาคใต้
ประสิทธิภาพการทำงานที่ย่ำแย่ของมหาอำนาจภูมิภาคใต้ทำให้พลเมืองรู้สึกสิ้นหวังมากขึ้น
กองทัพใหญ่ของทวีปกวงหมิงเป็นเหมือนมีดร้อนที่หั่นเนย  การทำลายกิ่งไม้ที่เน่าเสีย  ภูมิภาคใต้เป็นเหมือนกระท่อมไม้เก่าที่ผุพังไปตามกาลเวลา  แค่ผลักดันเพียงเล็กน้อยก็จะพังทลายลง
แม้ว่าปฏิบัติการของสัมพันธมิตรใต้ก่อนหน้านี้จะดีไม่มีที่ใดเทียบ แต่แนวป้องกันของพวกเขากำลังจะพังทลายทั้งหมด  นอกจากเซี่ยอวี่อันเป็นเพียงแสงประกายเดียว  ที่อื่นๆ ล้วนย่ำแย่ ไป๋เยี่ยปะทะกับชิวซิ่วหัวทำให้ภูมิภาคใต้ได้ชื่นชมยินดีบ้าง  แต่ทุกคนรู้ว่าในภาพรวม ชัยชนะของไป๋เยี่ย นอกจากช่วยกองทัพพันธมิตรให้มั่นคงได้แล้ว ไม่มีอะไรอื่นเปลี่ยน
อีกด้านหนึ่งความเคลื่อนไหวของม่อซินไม่มีผู้ใดยับยั้งใด  เรื่องดีเพียงประการเดียวก็คือเขาต้องใช้เส้นทางยืดยาวจึงจะสามารถคุกคามทวีปซางโจวได้
แต่นั่นจะมีอะไรเล่า?  เป็นแค่เรื่องของเวลา
ในสถานการณ์ทำลายล้างดังกล่าว หัวใจของทุกคนเต็มไปด้วยความกลัว  นั่นทำให้อำนาจเสียสมดุล  ภูมิภาคใต้เป็นเหมือนเด็กเผชิญหน้ากับผู้ใหญ่  พวกเขาไม่มีความสามารถต่อต้านได้
แต่ยามนั้นเองบันทึกเริ่มเผยแพร่ไปทั่วทุกมุมถนน
ผู้คนเห็นประจักษ์ถึงการสู้รบตั้งรับหกชั่วโมงถึงกับสำลัก  ตาของพวกเขาจับจ้องอยู่ที่จักรกลสงครามขนาดยักษ์  ระเบิดที่ดังจนแก้วหูสะท้านและพลังเผาผลาญที่ปรากฏอยู่ในสายตา  พลังงานปั่นป่วนที่น่ากลัวทำให้ผู้คนรู้สึกสิ้นหวัง
แต่จากนั้นพวกเขามองป้อมพิทักษ์สมุทรซึ่งถูกถล่มจากแรงระเบิดสังหารทำลาย แต่ก็ยังโจมตีตอบโต้อย่างไม่เกรงกลัว  พวกเขายิงตอบโต้อย่างบ้าคลั่งและเด็ดขาด พลังใจที่สิ้นหวังของพวกเขาทำให้เขาสู้ตาย  แสงระเบิดวูบวาบ
แต่จากนั้นพวกเขาก็ได้เห็นกำลังเสริมที่ไร้เทียมทานโผล่ขึ้นมาทันที ลอบโจมตี ถอย ตอบโต้ ยืดพื้นที่อย่างไม่หวั่นเกรง  ความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณนักสู้ปรากฏออกมาจากภายในซากหักพัง นั่นช่างกระทบหัวใจพวกเขา
ผู้คนนับไม่ถ้วนร้องไห้ ความกลัวและสิ้นหวังครอบงำใจพวกเขากำลังถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่าน
ในท่ามกลางความสิ้นหวังไร้ขอบเขต  แสงอาทิตย์ฉายออกมาเหมือนธนูที่ทรงพลังทะลุชั้นเมฆครึ้มหนาแน่น
ความหวัง, สิ่งที่พวกเขาเห็นคือบางอย่างที่เรียกว่าความหวัง  พวกเขาเห็นความกล้าสูญเสีย  กล้าเผชิญกับเลือดและไฟ
พวกเขาอยู่ภูมิภาคใต้  บ้านของพวกเขา เปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้นี้จะเผาผลาญพลเมืองภูมิภาคใต้ทุกคน
ภูมิภาคใต้จะตกอยู่ในเปลวเพลิง
กองทัพแรกที่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงก็คือม่อซิน  เขาตระหนักได้ทันทีว่าศัตรูที่เขาเผชิญมีความเหนียวแน่นทันที  พวกเขาเหนียวแน่นเหมือนหวายคอยพันแข้งพันขาเขาต่อเนื่องจนเขาเหนื่อยกับการก้าวเดิน
มีการพังทลายน้อยลงกับการเผชิญหน้าครั้งแรก  คนที่อ่อนแอทั้งหมดดูเหมือนกับกินยาปลุกพลังมาได้เข้าจู่โจมพวกเขาอย่างไม่กลัวตาย  การสู้รบเริ่มยากลำบากมากขึ้นทุกทีทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าเขาตกลงไปในบึง  การสู้รบคุณภาพต่ำอย่างนั้นยังไม่เพียงพอคุกคามเขา  แต่เมื่อพวกเขาเพิ่มจำนวนขึ้นแน่นอน สถานการณ์ทั่วไปก็คงเปลี่ยนไป
เขายังพบเจอทหารรับจ้างสองสามหน่วยที่พยายามลอบโจมตีพวกเขา สถานการณ์เกินไปกว่าธรรมดา!
ทหารรับจ้างทำงานเพื่อเงิน  พวกเขาโจมตีใส่โดยไม่คำนึงถึงชีวิตได้ยังไง?
ม่อซินรู้ว่าเขาอยู่ในความยากลำบาก
การสู้รบที่ป้อมพิทักษ์สมุทรแพร่กระจายไปทั่วภูมิภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพลเมือง ทำให้พลเมืองภูมิภาคใต้มากกว่าครึ่งยอมรับว่ามีแต่พันธมิตรใต้จึงจะสามารถหยุดทวีปกวงหมิงได้  การสู้รบที่โหดเหี้ยมรุนแรงนั้นเป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือ
ตระกูลเล็กที่ทำธุรกิจตระกูลแล้วตระกูลเล่าต่างออกมาจับตามอง และทำธงเรือรบเขียนคำกำกับลงว่า ทวีปซางโจว”
คนนับไม่ถ้วนเริ่มรวมตัวเก็บสัมภาระและขึ้นเรือมุ่งหน้าสู่ทวีปซางโจว
การจุดประกายภูมิภาคใต้ให้เริ่มแสดงแสดงความมุ่งมั่นและพลังใจส่งผลต่อดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์แล้ว
*******************

เหวินกังผู้กลับเข้ามาในประตูบาปไม่รู้รายละเอียดการสู้รบที่เพิ่งเกิดขึ้น  เขาหมกมุ่นอยู่กับข้อมูลของตัวเขาเอง  ขณะที่ทั่วทั้งกองตกอยู่ในความเงียบ
ทุกคนตกตะลึง
ต่อให้เวลาฝึกฝนต่อสู้ของพวกเขาลดน้อยลง  แต่พวกเขาก็ยังเป็นทหาร และรู้เรื่องสงครามมากกว่าคนทั่วไป  และเป็นเพราะเรื่องนั้น พวกเขาจึงได้รับผลกระทบมาก
ทันใดนั้น เสียงแปลกประหลาดดังขึ้นน่าตกใจ พวกเขาตื่นขึ้นจากอาการซึมเซา
 นั่นเสียงอะไร?
เมื่อสายตาของพวกเขามองออกไปไกล  ม่านตาทุกคนหดลีบทันที

9 ความคิดเห็น:

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แอบอ่าน กล่าวว่า...

มาแล้วววว

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

มาแร้วววววววววววพี่ถัวจัดหนักเลย

หวังปี้เจ้า กล่าวว่า...

ได้เวลาเสริมทัพ

WingF กล่าวว่า...

แหมอธิบาบมายืดยาวกลัวเหลือเกิน กลัวว่สพี่ถังเป่าทีเดียวประตูบาปจะหายไปเลย

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบใจจ้า

นายแนนซ่า กล่าวว่า...

พี่ถัง กูมาแล้วววว สนุกมากครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น