เล่ม 12 เชื้อสายเทพ – ตอนที่ 22 มุ่งมั่นกลายเป็นเทพ
หลังจากฆ่าเทพ เยลจะได้รับการช่วยเหลืออย่างนั้นหรือ?
เมื่อได้ยินคำพูดซาสเลอร์ ลินลี่ย์รู้สึกกดดัน
“เยลในตอนนี้...”
เมื่อลินลี่ย์คิดเรื่องที่เยลถูกครอบงำด้วยเมล็ดวิญญาณ
และจะเชื่อฟังคำสั่งเทพลึกลับผู้นั้น เขารู้สึกโกรธและรู้สึกถึงอยุติธรรมในใจเขา “ไม่ว่าเทพผู้นั้นจะเป็นใคร ข้าจะต้องฆ่าเขาให้ได้!”
เพื่อให้เยลกลับคืนเป็นเยลคนเดิมอีกครั้ง
เพื่อให้เยลคืนสติเป็นของตัวเอง เขาต้องทำเช่นนี้!
“ลอร์ดลินลี่ย์? ข้าอยากถาม”
ซาสเลอร์ชะงักเล็กน้อย จากนั้นถามต่อ
“ลอร์ดลินลี่ย์ หลังจากท่านกับท่านเฟนฆ่าบุรุษชุดเงินทั้งสองพร้อมกัน
ท่านได้รับอะไรจากศพของบุรุษชุดเงินทั้งสองบ้างไหม? อย่างเช่น...แหวนมิติเก็บของ..”
“มีแหวนมิติเก็บของ”
ลินลี่ย์พยักหน้าขณะมองดูซาสเลอร์
“แต่ข้าให้วอร์ตันไปแล้ว วอร์ตันจะมอบให้ใครก็ได้ที่เขาพอใจ มีอะไรหรือ?”
บางทีสำหรับพระราชาแห่งราชอาณาจักร แหวนมิติเก็บของเป็นสมบัติมีค่ามาก
แต่สำหรับเซียนธรรมดาคนหนึ่ง ของพวกนั้นเป็นวัตถุธรรมดาทั่วไป สำหรับยอดฝีมืออย่างลินลี่ย์,
เป็นเรื่องง่ายมากกับการหาแหวนมิติเก็บของได้สักวง
ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจแหวนมิติเก็บของที่เขาพบจากศพของบุรุษชุดเงินมากนัก แหวนมิติเก็บของสองวงจากบุรุษชุดเงิน
เฟนได้ไปวงหนึ่ง และลินลี่ย์เก็บมาวงหนึ่ง
“ลอร์ดลินลี่ย์, ดีที่สุดถ้าท่านจะตรวจสอบสิ่งของที่อยู่ภายในแหวนมิติเก็บของนั้น”
ซาสเลอร์พูดจริงจัง
“ก็ได้”
ลินลี่ย์ฟังคำแนะนำของซาสเลอร์และส่งคนไปเชิญวอร์ตันมาทันที
วอร์ตันรีบมาถึงสวนดอกไม้หลังปราสาท ระหว่างทางนั้นเขารู้สึกค่อนข้างกังวลใจ
“พี่ใหญ่เป็นผู้ที่ที่ให้ความสำคัญกับความรักที่เขามีต่อพี่น้องเป็นอย่างสูง แต่ว่าเยล เขา.. พี่ใหญ่ต้องรู้สึกแย่ในตอนนี้” วอร์ตันกำลังห่วงใยลินลี่ย์ แต่เมื่อเขาเห็นลินลี่ย์ เขาพบว่า....
ตอนนี้ลินลี่ย์ดูไม่เหมือนคนใจสลาย เขากลับขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาจ้องเขม็งราวกับว่าเขากำลังกังวลเรื่องบางอย่าง
“พี่ใหญ่, ท่านเรียกข้าทำไม?” วอร์ตันถามทันที
“ข้าให้แหวนมิติเก็บของกับเจ้าวงหนึ่งไปใช่ไหม? เจ้าให้ใครอื่นไปหรือยัง?” ลินลี่ย์ถามอย่างรีบร้อน
วอร์ตันหัวเราะและกล่าว
“ยังไม่ได้ให้เลย
ข้าตั้งใจจะให้นีน่าในอีกไม่กี่วันนี้
นีน่ากับข้าแต่งงานกันมานานแล้ว
แต่ข้าไม่เคยให้อะไรที่มีค่าแก่นางเลย”
“งั้นให้นีน่ารีบมาเร็วๆ และให้นางผูกสัญญาด้วยเลือด
เราจะดูกันว่ามีอะไรอยู่ในแหวนมิติเก็บของ” ลินลี่ย์กล่าวเร่งรัด
วอร์ตันประหลาดใจมาก
ทำไมพี่ชายเขาถึงได้เร่งรัดขนาดนี้?
ในไม่ช้านีน่าก็มาถึง หลังจากรู้สิ่งที่ลินลี่ย์ต้องการ
นีน่ารีบผูกสัญญาโลหิตกับแหวนมิติเก็บของในทันทีทันใด และจากนั้นดึงของที่เก็บอยู่ภายในแหวนออกมา
มีเสื้อผ้าบางส่วน, แร่บางอย่าง,
และโดยเฉพาะแก้วผลึกกลมก็ยื่นออกมา
“นั่นไง” ตาของซาสเลอร์เป็นประกายเมื่อเขาเห็นแก้วผลึก
ลินลี่ย์ วอร์ตัน และนีน่าต่างมึนงงกันหมด
เท่าที่พวกเขากังวลลูกแก้วผนึกมีรัศมีแปลกประหลาด ใช่แล้ว
แต่ลินลี่ย์และอีกสองคนไม่คิดว่าแก้วผลึกจะมีผลอะไร แต่ซาสเลอร์รู้ว่ามันคืออะไร ทันทีที่เขาเห็น
ซาสเลอร์เอื้อมมือไปหยิบแก้วผลึก
วัสดุภายในแก้วผลึกดูเหมือนจะแตกต่างออกไปเมื่อเทียบกับวัสดุด้านนอก เมื่อพระอาทิตย์ฉายเข้าไปในแก้วผลึก
มันดูบิดเบี้ยวหักเหและจากนั้นก็แข็งตัวจากภายในใจกลางแก้วผลึก
ซาสเลอร์ควบคุมพลังจิตของเขาส่งผ่านเข้าไปในลูกแก้วผลึกตรวจสอบสภาพภายในอย่างระมัดระวัง
“ลูกแก้วผลึกนี้ได้รับการปรับแต่งแล้ว” ซาสเลอร์พูดหลังจากชะงักและพยายามหาวิธีอธิบายสิ่งที่เขาต้องการพูด
“ปัจจุบันนี้มันมีวัตถุประสงค์ในการใช้คือดูดวิญญาณโดยรอบที่ไม่มีการปกป้องในพื้นที่ราวๆ
สิบตารางเมตร
“รวบรวมวิญญาณ?”
หัวใจของลินลี่ย์สะท้าน
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว
เหตุการณ์ ‘เมืองมรณะ’
เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะบุรุษชุดเงินเป็นผู้ฆ่าคนด้วยมือข้างหนึ่งขณะที่ถือแก้วผลึกด้วยมืออีกข้างหนึ่ง
แต่ละคนที่ถูกฆ่าวิญญาณพวกเขาจะถูกสูบเข้ามาไว้ในแก้วผลึก หลังจากกวาดล้างเมืองบลูเลียน
วิญญาณเกือบแสนดวงก็ถูกสูบเก็บไว้
“พวกเขารวบรวมวิญญาณไปทำอะไร?” วอร์ตันพูดด้วยความประหลาดใจ วอร์ตันกับนีน่ารู้สึกตกใจหนักทั้งคู่
ซาสเลอร์อธิบาย “การรวบรวมดวงวิญญาณมากมาย..ที่สำคัญเลย
เพราะพ่อมดมาจากจอมเทพมรณะ
กล่าวโดยทั่วไปก็คือพวกที่ฝึกในเวทพ่อมดสามารถกลายเป็นเทพได้ พวกฝึกในแนวกฎมรณะ
และกฎมรณะจะแฝงไว้ด้วยเรื่องการใช้ประโยชน์ของดวงวิญญาณ”
“ด้วยการสะสมดวงวิญญาณมากมาย
เขาจะสามารถสร้างพลังโจมตีพิเศษบางอย่างได้” ซาสเลอร์อธิบาย
“กะ..กฎพิเศษมรณะ ความจริงก็คือ...” แม้แต่ลินลี่ย์ก็ค่อนข้างไม่สบายใจ
เขารู้จักกฎธาตุทั้งเจ็ดคือ ดิน ไฟ
น้ำ ลม สายฟ้า ความสว่าง ความมืด
เขายังรู้จักกฎแห่งความตาย, ทำลายล้าง, ชีวิตและชะตา
สี่กฎพิเศษและกฎธาตุธรรมชาติเป็นสองแนวคิดที่แตกต่างกัน กฎพิเศษเป็นกฎซึ่งครอบคลุมไปทั้งจักรวาล
สำหรับกฎมรณะ การฝึกต้องเพ่งสมาธิที่ความตาย
“วัตถุประสงค์ที่ใหญ่ที่สุดของการใช้วิญญาณมากมายมหาศาลก็เพื่อเอามาใช้เพิ่มพูนพลังของผู้ใช้นั่นเอง”
คำพูดของซาสเลอร์ไม่ทำให้หยุดทึ่งได้เลย
“เสริมพลังวิญญาณของผู้ใช้เวทหรือ?” ลินลี่ย์ตะลึงอย่างแท้จริง
ในอดีตไดลินได้บอกเล่าลินลี่ย์ว่ามีเงื่อนไขในการเป็นเทพสองอย่าง
เงื่อนไขที่สองก็คือสร้างร่างร่างแยกเทพรอบประกายศักดิ์สิทธิ์ซึ่งจะเป็นตัวแทนของผู้นั้น วิญญาณจะถูกแบ่งครึ่ง
วิญญาณเป็นธาตุพื้นฐานที่สุดของสิ่งมีชีวิตทุกอย่าง! เมื่อกลายเป็นเทพ ร่างของเทพเมื่อถูกทำลาย
ก็สามารถสร้างขึ้นใหม่จากพลังงานทันที
แต่ถ้าวิญญาณถูกทำลาย
อย่างนั้นเจ้าของวิญญาณก็จะตายแน่นอน
ขณะที่เขาฝึกและมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น วิญญาณของผู้ฝึกฝนจะค่อยๆ
เพิ่มความแข็งแกร่งเช่นกัน
“กลั่นวิญญาณจำนวนมหาศาล
จากนั้นดูดกลืนวิญญาณเหล่านั้นมาเสริมพลังวิญญาณของตน?” ลินลี่ย์รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
“ใช่แล้วเพียงแต่การกลั่นวิญญาณนั้นทำได้ยากมาก” ซาสเลอร์ถอนหายใจ “จำเป็นต้องมีความเข้าใจเรื่องวิญญาณอย่างถ่องแท้
แม้แต่ข้าก็ยังไม่สามารถทำเรื่องอย่างนั้นได้
ข้าคาดว่าเทพที่ฝึกฝนมาทางวิถีมรณะจึงจะมีความสามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้
แต่มีแนวโน้มว่าเทพอื่นผู้ฝึกฝนในกฎที่แตกต่างออกไปก็คงพบว่ามันยากมากที่จะทำเช่นนี้ได้”
ลินลี่ย์พยักหน้ากับตัวเอง
ปรับแต่งวิญญาณคนอื่นมาเสริมพลังวิญญาณของตน ความสามารถเช่นนี้ยิ่งใหญ่มากเหลือเกิน
ถ้าเทพเบื้องต้นธรรมดาสามารถทำเช่นนี้ได้
นั่นคงน่าขันเกินไป เท่าที่ฟังดี
แม้ว่าพวกเทพจะสามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้ก็ยังเป็นเรื่องที่ยากมาก
“ข้าคิดว่าข้ารู้ดีแล้วว่าตอนนี้เทพตนนี้อยู่ที่ตำแหน่งใด” ซาสเลอร์กล่าว
ตาของลินลี่ย์เป็นประกาย
ซาสเลอร์พูดอย่างสงบ
“เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวเข้าด้วยกัน
อย่างเรื่องที่เยลขอซื้อเชลยศึกมากมาย
หรือบุรุษชุดเงินทำลายเมืองและรวบรวมวิญญาณ... เห็นได้ชัดเลยว่า เทพตนนี้ต้องการวิญญาณอย่างเต็มที่ สำหรับตำแหน่งเทพตนนี้
ข้าคาดว่าเขาน่าจะอยู่ในที่ซึ่งเชลยศึกเหล่านั้นถูกส่งไป”
ลินลี่ย์เห็นด้วยกับจุดนี้เช่นกัน
“เรายังคงรู้ว่าข้ออ้างของหอการค้าดอว์สันที่ให้เราไว้
เหตุผลที่พวกเขาซื้อทาสมากมายเป็นเพราะพวกเขาขุดเหมืองลับขนาดใหญ่
คงต้องอยู่ในแนวเขาไปทางใต้ของจักรวรรดิบาลุคของเรา ภายในเทือกเขา
มีหุบเขาใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่ตั้งสาขาของหอการค้าดอว์สัน ข้าคิดว่า...
บางทีเทพตนนั้นคงจะอยู่ที่นั่น”
ซาสเลอร์คาดเดา
ริมฝีปากของซาสเลอร์มีรอยยิ้มชั่วร้าย “ไม่แต่เพียงแค่นั้น สำหรับเหตุที่เยลสามารถมาถึงได้รวดเร็ว.. ลอร์ดลินลี่ย์,
ท่านฆ่าบุรุษชุดเงินนั้นเมื่อคืนก่อน
แต่เยลมาถึงในวันนี้
ข้าคาดว่าเมื่อคืนนี้ เยลคงได้รับคำสั่งจากเทพตนนั้นให้มาจัดการกับท่าน
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
“เยลไม่ใช่เซียน
เขาต้องขับขี่อสูรบิน
ประการแรกเลยเขาต้องไปรับพิษไหมวิญญาณจากเทพตนนั้นก่อน และจากนั้นก็ต้องรีบด่วนมายังปราสาทเลือดมังกร เขาใช้เวลาเพียงราวๆ สิบชั่วโมง...
แล้วอสูรบินจะบินได้เร็วมากแค่ไหน?
ดังนั้น เทพนั้นจะต้องอยู่ในรัศมีไม่กี่พันกิโลเมตรห่างจากเรา มิฉะนั้น
ไม่มีทางที่เยลจะรีบเร่งมายังปราสาทเลือดมังกรได้รวดเร็วขนาดนั้นเป็นแน่”
“มีสาขาใหญ่ของหอการค้าดอว์สันภายในรัศมีสองสามพันกิโลเมตรจากเราก็คือ
หุบเขานั้น”
ซาสเลอร์มั่นใจมาก
“ถูกต้อง” ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย “วอร์ตัน ซาสเลอร์ นีน่า..
พวกเจ้าทุกคนไปพักกันได้ ข้าจะไปเริ่มฝึกเดี๋ยวนี้”
“พี่ใหญ่, ท่านรีบร้อนมากขนาดนั้นหรือ?” วอร์ตันค่อนข้างประหลาดใจ ที่สำคัญ,
ลินลี่ย์บอกพวกเขาว่าจะร่วมทานอาหารค่ำด้วยกัน
แล้วค่อยกลับไปฝึกต่อหลังอาหารมื้อค่ำ
“เจ้ายังนึกว่าข้ามีอารมณ์เช่นนั้นอยู่อีกหรือ? พอเถอะ,
พวกเจ้าทุกคนไปจัดการกิจการของตนได้”
ลินลี่ย์หันไปมองทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
“รวบรวมวิญญาณ? เข่นฆ่าชีวิตคน? ครอบงำเยล...”
ลินลี่ย์เต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันต่อเทพผู้ลึกลับและไม่เห็นตัวนี้
ลินลี่ย์ออกจากสวนดอกไม้หลังปราสาททันที
และเข้าไปในห้องฝึกลับลึกลงไปในปราสาทเลือดมังกร
ทันทีที่ลินลี่ย์ก้าวเข้ามาในห้องมิติ
เดเลียที่ยังนั่งอยู่ในท่าขัดสมาธิบนเตียงศิลาก็ลืมตาทันที
“ลินลี่ย์, เกิดอะไรขึ้น?”
เดเลียค่อนข้างประหลาดใจ
เมื่อเห็นเดเลีย ลินลี่ย์ตัดสินใจ เขาไม่ต้องการให้เดเลียกังวลใจ เขาฝืนยิ้มและกล่าว “ไม่มีอะไร
ฝึกต่อไปเถอะ”
ลินลี่ย์นั่งลงขัดสมาธิบนพื้นทันที ด้านนอกห้องมิติเป็นกระแสอวกาศหลากสีสันที่ปั่นป่วน
“เมื่อถึงระดับเทพ เทพคนแรกที่ข้าจะต้องฆ่าให้ได้
ก็คือเจ้าบัดซบนั่น”
หัวใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยแรงกระตุ้นอำมหิต
ลินลี่ย์สูดหายใจลึกสามครั้งก่อนที่เขาจะสามารถสงบลงได้
จากนั้นเขาเริ่มซึมซาบเข้ากับกฎธรรมชาติธาตุลมทดลองอย่างต่อเนื่องและใช้สัจจธรรมแห่งความเร็วที่สมบูรณ์...
ขณะที่เขาซึมซาบเข้ากับกฎธรรมชาติที่กว้างไกลไร้ขอบเขต ภาพกระบี่ในใจทั้งสามซึ่งเป็นตัวแทนด้านเร็ว
ด้านช้าและสัจจธรรมแห่งความเร็วทั้งหมดเริ่มฉายภาพการโจมตีในใจเขา กระบี่ทั้งสองเปลี่ยนแปลงไปนับครั้งไม่ถ้วน
และในชั่วขณะหนึ่งลินลี่ย์สามารถตั้งสมมติฐานแตกต่างกันถึงสิบล้านวิธี
พอตั้งสมมติฐานและจากนั้นใช้กระบี่ด้านเร็วและด้านช้า
จากนั้นเขาค่อยๆ ได้รับความรู้แจ้งใหม่อีกครั้ง
เพียงแต่การทดลองครั้งแล้วครั้งเล่าจะทำให้เขาเข้าใจถึงเส้นทางที่ถูกต้อง
ยิ่งได้รู้แจ้งมากขึ้น
ลินลี่ย์ก็รู้สึกได้ชัดว่าด้านเร็วและด้านช้าไม่ได้ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ทั้งสองด้านมีความเป็นธรรมดา
โชคดีที่ลินลี่ย์รู้แจ้งในด้านเร็วและด้านช้าระดับต่ำ
จึงทำให้สัจธรรมแห่งความเร็วของเขายังมีความก้าวหน้าได้
ถ้าเขาได้เข้าถึงด้านเร็วและด้านช้าในระดับสูงก่อนหน้านี้
อาจทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับเขาในการหลอมรวมสองด้านนี้เข้าด้วยกัน
เวลาไหลไปเหมือนสายน้ำไม่มีหยุดนิ่ง
ผู้วิเศษยังคงรู้ว่าพิษไหมวิญญาณที่เยลใช้ล้มเหลวในการฆ่าลินลี่ย์
นี่เป็นเหตุให้ผู้วิเศษนี้ไตร่ตรองด้วยความประหลาดใจ พิษไหมวิญญาณมีความเป็นกรดมาก
และไม่เคยมีเซียนแม้แต่คนเดียวที่สามารถหลบเลี่ยงผลของมันแล้วรอดชีวิตได้
ลินลี่ย์เป็นคนแรกที่รอดจากวิชาของผู้วิเศษนี้
“ข้าว่าข้าจะปล่อยเจ้าเซียนเด็กน้อยนี้ให้รอดชีวิตอีกระยะหนึ่ง” ผู้วิเศษไม่สนใจเรื่องเซียนอยู่แล้ว ถ้าฝ่ายตรงข้ามเป็นเทพเขาอาจจะกังวลอยู่บ้าง
แต่ก็แค่เซียนคนหนึ่ง?
เหตุผลเดียวที่เขาต้องการฆ่าลินลี่ย์เป็นเพราะลินลี่ย์ฆ่าองครักษ์ชุดเงินของเขา
ทำให้เขาค่อนข้างโกรธ
“อย่างนั้นเขาก็ไม่ฆ่าเยลจริงๆ เขาใจอ่อนจริงๆ คนอย่างเขาอาจถูกทรยศและคงฆ่าในพิภพจองจำเกบาโดสไปนานแล้ว โอวก็ดีเหมือนกัน
เพราะเขาทำอย่างนี้ช่วยให้ข้าประหยัดพลังไม่ต้องยุ่งยากควบคุมสมาชิกหอการค้าดอว์สันคนอื่น”
เรื่องนี้หายไปจากใจของผู้วิเศษนี้อย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ผู้วิเศษนี้ให้ความสนใจกับการหล่อหลอมวิญญาณที่อยู่ต่อหน้าเขา
ในพริบตาผ่านไปมากกว่าครึ่งปี
ลึกลงไปในปราสาทเลือดมังกร
ห้องมิติ
ภายในใจของลินลี่ย์ผู้ที่ยังอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิจมอยู่กับการฝึก
กระบี่ทั้งสามยังคงแสดงวิธีใช้ให้เขาดูครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า
และยังเป็นการแสดงสัจธรรมแห่งความเร็วที่ลึกลับ
“เอาเลย”
จิตและวิญญาณของลินลี่ย์เริ่มรู้สึกได้ชัดเจนอย่างเป็นธรรมชาติ..ว่าเขาเพิ่มก้าวข้ามพ้นเขตแดน เขตแดนระหว่างเซียนกับเทพ
ลินลี่ย์ลืมตาและเงยหน้าขึ้น!
“ครืนนน...”
พลังงานรุนแรงสั่นสะท้านวิญญาณขยายลามคลุมตัวลินลี่ย์ไว้ภายในทันที พื้นที่รอบตัวลินลี่ย์บิดเบี้ยว
เหมือนกับจะแยกลินลี่ย์ออกจากมิติรอบๆ
ทั้งตัวของลินลี่ย์ลอยขึ้นไปในอากาศ
ร่างของเขาไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาขณะที่เขาลอยขึ้นไป
“ช่างน่ากลัว...”
ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ถึงพลังงานมหาศาล เก่าแก่ เฉพาะแบบ เป็นการเจาะจงมากยิ่งขึ้น
พลังที่แสดงออกเหมือนกับบางอย่างคล้ายกฎธาตุธรรมชาติ หรือกฎธรรมพิเศษ
อยู่ต่อหน้าพลังนี้
ลินลี่ย์รู้สึกว่าเขาไม่มีอะไรมากไปกว่ามด
“นี่..
น่าจะเป็นฎีกาธรรมชาติซึ่งจะตัดสินว่านักสู้จะได้กลายเป็นเทพหรือไม่” หัวใจของลินลี่ย์สั่นสะเทือนเต็มที่
6 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ ก้าวสู่ความเป็นเทพสักทีนะ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณมาก ตอนหน้าไล่ตบเทพพ่อมดแน่
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น