วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 860 กับดัก


ตอนที่  860  กับดัก
ถังเทียนเล่าให้เชียนฮุ่ยฟังมากมายว่าเขาไปถึงแดนบาปได้ยังไง ออกมาได้ยังไง เรื่องแผนการของปิงและแน่นอนว่าหนุ่มชาวฟ้าทรงพลังมากเพียงไหน...

เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาสามารถเดินหน้าต่อไป ทั้งหมดต้องใช้ความอดทนมาก เสียงของเขาบางครั้งก็สูง บางครั้งก็ต่ำ เขาอธิบายเรื่องราวของเขาด้วยสีสันต่างๆ  ในอีกด้านหนึ่งหน้าของเชียนฮุ่ยยังคงยิ้มหวาน นางฟังอย่างตั้งใจและหัวเราะเป็นบางคราวโดยไม่รู้สึกเบื่อหรือรำคาญ
ขณะที่พวกเขาสนทนากันต่อเนื่อง เชียนฮุ่ยจะคุยเรื่องของนางด้วยเช่นกัน เรื่องประสบการณ์ของนาง วิธีที่นางออกจากสนามรบโบราณ เกี่ยวกับเรื่องแปลกประหลาดที่นางได้พบเห็น เรื่องอาซิ่นและเรื่องสนุกๆ ของเสี่ยวม่าน.....
เชียนฮุ่ยพูดอ่อนโยน ขณะที่ถังเทียนตะโกนดังลั่น บางครั้งอุทานออกมาดังๆ อย่างมีชีวิตชีวา
 เสียงของเชียนฮุ่ยไพเราะมาก ถังเทียนคิด
เขามีความสุขมาก  และไม่รู้ว่าจะอธิบายอารมณ์ของเขายังไง  เขาเพียงแต่รู้ว่าเขามีความสุขมาก ขนาดที่อยากจะกระโดดไชโยด้วยความดีใจ
เวลาผ่านไปโดยที่ทั้งสองคนไม่รู้
ทั้งสองคนคุยกันถึงสี่ชั่วโมงก่อนจะจบลงอย่างไม่เต็มใจนัก  โชคดีที่ทั้งสองคนอยู่ในทวีปกวงหมิง และสามารถติดต่อกันได้สะดวกมากขึ้น
เมื่อกลับมายังทวีปกวงหมิง ถังเทียนเต็มไปด้วยจิตใจพร้อมจะสู้  ร่างของเขาเปี่ยมไปด้วยพลังไม่มีขีดจำกัด  เมื่อคิดถึงเรื่องที่สนทนา เขายืนงงอยู่กับที่และหัวเราะเองคนเดียว
เมื่อซือหม่าเซี่ยวเห็นถังเทียน  เขาผิวปากและพูดด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า  “ดูเหมือนชายหนุ่มจะติดเชื้อเสียแล้ว! หึหึ แม้แต่หนุ่มชาวฟ้าก็ไม่สามารถต้านพลังแห่งความรักได้  ข้าสงสัยจริงแม่นางเชียนฮุ่ยเป็นยังไงบ้าง ถึงทำให้หนุ่มชาวฟ้าของเรามึนเมาตกหลุมรักนางได้”
หน้าของคนอื่นมีท่าทีแปลกประหลาด พวกเขาต้องการหัวเราะแต่ว่าไม่กล้า  ซือหม่าเซี่ยวสามารถหยอกล้อถังเทียนได้  แต่พวกเขาไม่กล้า  แต่หลายคนมีท่าทีแปลกประหลาด  กองพลเกราะเทพเจ้าติดตามถังเทียนมานานแล้ว และไม่เคยเห็นถังเทียนแสดงท่าทีกับหญิงสาว ไม่ว่าพวกนางจะงดงามอย่างไรก็ตาม  จอห์นสันรู้เรื่องนี้ชัดเจน เนื่องจากเขาอยู่ใกล้เมลิซซาเสมอ และชายหนุ่มธรรมดาทุกคนไม่ว่าพวกเขาจะมีตำแหน่งอะไรหรือมีอาชีพใดก็ตาม ทุกคนที่คุยกับเมลิซซาจะชื่นชมความงามของนาง สรรเสริญนาง หรือไม่ก็น้ำลายหก
ยกเว้นอยู่คนเดียว คือเจ้านาย เขาไม่เคยเห็นการแสดงออกอย่างนั้นมาก่อน  เขาจำได้ชัดเจน เจ้านายเคยแสดงรังสีฆ่าฟันแม้ต่อเมลิซซาด้วย  ในใจเขาเจ้านายเย็นชาและไร้อารมณ์ และไม่มีหญิงใดที่ส่งผลอิทธิพลต่อเขาแม้แต่น้อย  เขาคือเครื่องจักรฆ่าคน
เมื่อเขาเห็นถังเทียนหัวเราะอย่างโง่เขลากับตัวเองถึงครึ่งค่อนวัน มองดูเหมือนคนปัญญาอ่อนเขาตกใจ นี่คือนายท่านผู้ไร้ปราณี เย็นชา ละเอียดอ่อนและไร้อารมณ์ใช่หรือเปล่า?
จู่ๆ จอห์นสันก็เต็มไปด้วยความสงสัยต่อแม่นางเชียนฮุ่ย  สตรีแบบไหนที่ทำให้นายท่านเป็นแบบนั้นได้? หรือว่านางจะงดงามมากกว่าเมื่อเทียบกับคุณหนูเมลิซซา?
หลังจากหัวเราะกับตัวเองถึงครึ่งค่อนวันแล้ว  ถังเทียนเทียนตัดสินใจเริ่มงานที่เหมาะสม  เขาคิดถึงเรื่องความคิดที่เชียนฮุ่ยให้เขา และเรื่องที่นางเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เมื่อถังเทียนพูดกับทุกคนถึงแผนของเชียนฮุ่ย ทุกคนเงียบ พวกเขาทุกคนทำหน้าแปลกประหลาด
ปฏิกิริยาของทุกคนทำให้ถังเทียนตกใจ “มีปัญหาอย่างนั้นหรือ?”
หลังจากนั้นเป็นเวลานานซือหม่าเซี่ยวเป็นคนแรกที่หายตกใจ เขามีสีหน้าซับซ้อน “แม่นางเชียนฮุ่ยน่าทึ่งมาก  เจ้ามันโชคดีบัดซบ!
 “มันแน่อยู่แล้ว!  ไม่มีใครฉลาดกว่าเชียนฮุ่ย!  เมื่อยินเช่นนั้นถังเทียนดีใจ แต่ทันใดนั้นเขาเหลือกตากว้าง “ใครพูดวะ..โชคดีบัดซบ? อยากมีเรื่องหรือไง?”
ทุกคนหายตกใจ แต่ละคนมีสีหน้าเทิดทูนบูชา
*******************

ทวีปป่าน้อย
เถี่ยจี๋อำลาซ่างกวนเชียนฮุ่ยด้วยความรู้สึกเคารพอย่างสูง  “คุณหนู, ขอให้สบายใจได้ ผู้น้อยจะทำให้สำเร็จได้อย่างแน่นอน!  ขอให้คุณหนูรักษาตัวเองด้วย!
เขาไม่ชักช้าอีกต่อไปและจากไปพร้อมกับซางเป่ย  พวกเขาเริ่มเดินตรงไปที่ทางน้อยซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายกลับไปยังทวีปแดนเถื่อน
เมื่อเห็นเถี่ยจี๋และซางเป่ยแยกจากไป  เสี่ยวม่านอดยกดาบยักษ์ขนาดประตูในมือชูขึ้นอย่างกระตือรือร้นไม่ได้ “ข้าอยากได้การต่อสู้ดีๆ สักตั้ง!
อาซิ่นได้เพ่งสายตาเต็มที่เสียที แต่ตาของเขากลับมองอยู่ที่หน้าอกยั่วยวนของเสี่ยวม่านที่สั่นเคลื่อนไหวไปตามจังหวะการเคลื่อนไหวของดาบยักษ์ เขากลืนน้ำลายอย่างลุ่มหลง
เสี่ยวม่านหันหน้ากลับมาทันใดและยิ้มหวานให้อาซิ่น  “เป็นไง ดูดีไหม?”
 “มันดีจริงๆ...” อาซิ่นโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว
เงาร่างหนึ่งบดบังสายตาของเขาอย่างรวดเร็ว ดาบยักษ์, โอว ต้องบอกว่าอาวุธขนาดบานประตูกระแทกใส่หน้าอาซิ่นจนเขากลิ้งเป็นลูกบอลไปไกลเกินกว่า 30 เมตร
ซ่างกวนเชียนฮุ่ยที่อยู่ข้างๆ ยังหยุดยิ้มไม่ได้
เสี่ยวม่านไม่สนใจอาซิ่นอีกต่อไป และถามเชียนฮุ่ยอย่างกังวล “คุณหนู, ตอนนี้ซางเป่ยกลับไปแล้ว เราควรจะเคลื่อนไหวด้วยตนเองหรือเปล่า?”
เป็นงานยากมากในการเคลื่อนไหวในดินแดนศัตรูโดยไม่มีใครนำทางพวกเขา  นอกจากนี้พวกเขายังสะดุดตาเกินไป กลุ่มที่ประกอบด้วยขุนพลวิญญาณเป็นส่วนใหญ่ ตราบใดที่พวกเขาเดินอยู่ในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ ก็ยากที่จะไม่ดึงดูดความสนใจ
เชียนฮุ่ยส่ายศีรษะ  “ไม่, เรารออยู่ที่นี่  จะมีคนมารับเรา”
 “จะมีคนมารับเราหรือ?  นั่นเยี่ยมเลย!  เสี่ยวม่านถอนหายใจโล่งอก จากนั้นถามอย่างสงสัย  “คุณหนู,  ใครจะมารับเรา?”
 “กลุ่มการค้าเมซฟิลด์”  เชียนฮุ่ยยิ้ม  จากนั้นถาม  “ทุกคนรู้สึกยังไงบ้าง?”
เสี่ยวม่านตอบอย่างตื่นเต้น  “แตกต่างจากทวีปแดนเถื่อนโดยสิ้นเชิง  พลังงานที่นี่มีชีวิตชีวามากกว่า และหนาแน่นมากกว่าเมื่อเทียบกับทวีปแดนเถื่อน  ทุกคนแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถ้ามีเวลาเพียงพอ ข้าเชื่อว่าทุกคนสามารถเผยร่างจริงออกมาได้ แต่นั่นคงต้องใช้เวลายาวนาน”
เชียนฮุ่ยหัวเราะและกล่าว  “เราจะมีเวลานั้น”
*****************

เมื่อมองดูพื้นที่ก่อสร้างซึ่งกำลังขยายตัวอย่างมีชีวิตชีวา  โรเจอร์ไม่สบายใจแม้แต่น้อย  อัศวินพิเศษกวงหมิงผู้มีตำแหน่งสูงส่งถูกปล่อยให้อยู่ในเขตที่ก่อสร้างที่ไม่มีแม้แต่นกบินผ่านเป็นเหมือนหัวหน้าช่างก่อสร้าง
ถูกแล้ว เขารู้สึกตนเองว่าเป็นเหมือนหัวหน้าช่าง
 ไม่มีอะไรที่นี่เลย, เป็นไปได้ว่าสหายของข้าคงต้องมุ่งหน้าไปยังทวีปซางโจวพร้อมกับฝ่าบาท  เขามีท่าทีอยากไปทวีปซางโจวเพื่อประกาศความสำเร็จ และมีแนวโน้มว่าพวกเขาจะสามารถจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์สภาอาวุโสได้  แล้วข้าเล่า? ในหนังสือประวัติศาสตร์ของอัศวินพิเศษกวงหมิงที่รุ่งเรือง โรเจอร์ผู้โชคร้ายกลายเป็นคนคุมงานก่อสร้าง
โรเจอร์ยังต้องคอยปกป้องคาร์ล ถูกแล้ว อัศวินพิเศษกวงหมิงคนหนึ่งต้องมาคอยปกป้องพ่อค้าคนหนึ่ง ทำให้เขารู้สึกอับอาย ทั่วทั้งหน่วยอัศวินพิเศษกวงหมิงได้รับอิทธิพลจากโซเฟีย และไม่มีใครในพวกเขามีความรู้สึกที่ดีต่อพ่อค้าอย่างคาร์ล  ในทวีปกวงหมิง สภาอาวุโสคือผู้ปกครองที่แท้จริง และภายในสภาฯ อัศวินกวงหมิงอยู่ในตำแหน่งที่น่านับถือและแต่ละคนล้วนเป็นอัจฉริยะในอัจฉริยะ และโรเจอร์เองก็มีอัจฉริยะมากผ่านการคัดเลือกทดสอบมาหลายครั้งหลายครา  ด้วยตำแหน่งที่สูงส่งและน่านับถือและความสามารถที่เหลือล้น  พวกเขามีพลังเฉพาะตัวสูงกันทุกคน มีคุณสมบัติพอจะแสดงความหยิ่งต่อคนที่มีบุคลิกโดดเด่นได้
โรเจอร์ไม่สามารถขัดคำสั่งของโอรสศักดิ์สิทธิ์ได้  เนื่องจากเขามีความภักดีต่อสภาฯ และโอรสศักดิ์สิทธิ์ และเริ่มคิดว่าไม่ว่าเขาจะคิดยังไง ก็อาจเป็นการล่วงละเมิดต่อโอรสศักดิ์สิทธิ์
ขณะนั้นยามคนหนึ่งวิ่งเขามาหาทันที  โรเจอร์จำเขาได้ทันที  เขาเป็นผู้ช่วยที่น่าเชื่อถือของคาร์ล
 “ท่านโรเจอร์, ท่านคาร์ลเชิญให้ท่านมาหาขอรับ”  ยามผู้นั้นพูดเสียงอ่อน  “นายท่านมีการค้นพบใหม่ขอรับ”
เมื่อโรเจอร์ได้ยินครึ่งประโยคแรก  สีหน้าของเขาพลันเย็นชา  โรเจอร์ผู้นี้ยังจะมีผู้บังอาจขอให้ข้าไปหาหรือ?  แต่เมื่องเขาได้ยินครึ่งประโยคต่อมา  เขาตกใจ
 การค้นพบใหม่?
เขาสงสัยทันที  “การค้นพบอะไร?”
ยามผู้นั้นพูดเบาๆ “นายท่านค้นพบกลุ่มซากหักพัง และพบพลังงานเฉพาะแบบเหลืออยู่”
 พลังงานตกค้างที่ไม่เหมือนใครหรือ?
โรเจอร์ตาเป็นประกาย ความสนใจของเขาเพิ่มขึ้นทันที  พลังงานที่เหลืออยู่ต้องเป็นพวกโจรทิ้งไว้แน่นอน หรือว่ายังมีความแตกต่างระหว่างพวกมัน?
 “นำทางได้”  โรเจอร์พูดโดยไม่ลังเล
โดยมีทหารยามนำทางโรเจอร์พบตำแหน่งได้อย่างรวดเร็ว ที่ซึ่งมีการคุ้มกันหนาแน่นโดยหลายคนที่ใบหน้าไม่คุ้นเคย  โรเจอร์รู้ว่าองค์กรใหญ่อย่างกลุ่มการค้าตะวันตกจะมีสมบัติมั่งคั่งมากกว่าองค์กรธรรมดาทั่วไป และมียอดฝีมือมากมาย  ทั้งหมดเป็นกลุ่มทหารยามที่ไม่คุ้นและเป็นคนเช่นนั้น
โรเจอร์ตื่นเต้นอยู่ภายใน  เพราะคาร์ลให้ความสำคัญต่อที่นี้มาก ต้องมีอะไรบางอย่างจริงๆ งั้นหรือ?
ถ้ามีการค้นพบที่พิเศษ สำหรับโรเจอร์ ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องที่น่าสนใจเท่านั้น  แต่ยังคือโอกาสอีกด้วย  กลุ่มที่ทำการสอบสวนก็ไม่ได้อะไรที่ชัดเจนเกี่ยวกับโจร  อาจเป็นเพราะโกวเฉิงเวิ่นเต้ายึดทวีปซางโจวก็ได้  ถ้าโรเจอร์สามารถพบอะไรบางอย่างที่มีค่าจากการสอบสวน อาจจะเป็นประโยชน์ต่อเขามากมายก็ได้
เขาเห็นคาร์ลนั่งอยู่กับพื้น เหมือนกับเขากำลังคุยปรึกษาเบาๆ กับกลุ่มทหารยามรอบตัวเขา
โรเจอร์เดินตรงไปที่กลุ่มโดยไม่ลังเลและพูดเสียงดัง  “พูดไป, ว่าเป็นการค้นพบอะไร?”
เมื่อทหารที่ก้มหน้าอยู่ ได้ยินเขาพูด พวกเขายืนขึ้น
โรเจอร์หรี่นัยน์ตาทันที
รังสีดาบแดงงดงามปรากฏออกมาจากคนในกลุ่มนั้นบดบังทัศนวิสัยของเขาทันที
สายเกินไปที่โรเจอร์จะทันได้ชักดาบออกมา แต่ในที่สุดเขาแข็งแกร่งทรงพลังและมีประสบการณ์ต่อสู้เต็มที่  เขาไม่ตื่นเต้นเมื่อเผชิญกับการโจมตีกะทันหัน  แต่คำรามและรวบฝ่ามือกลายเป็นหมัดเปล่งรังสีกระแทกใส่รังสีดาบสีแดง
รังสีหมัดและรังสีดาบแดงปะทะกัน  เลือดในร่างของโรเจอร์ดูเหมือนจะถูกจับไว้ด้วยเชือกที่มองไม่เห็น
เป็นครั้งแรกที่โรเจอร์เผชิญกับกับความรู้สึกแปลกประหลาดแบบนั้นและหน้าของเขาเปลี่ยนไป
รังสีหมัดของเขาเพิ่มพลังขึ้นทันที และรัศมีสีขาวคลุมรอบหมัดของเขาทันทีกลายเป็นเข็มที่แหลมคมขณะที่มันสลายรังสีดาบสีเลือดกระจายออกไป
จี๋เจ๋อคราง แต่เขาก้าวหน้าแทนที่จะถอยหลัง  รังสีดาบแดงกระจายขยายเป็นข่ายที่รวบรัดโรเจอร์
โรเจอร์โกรธทันที แต่เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่โจมตีรวดเร็ว  เขาไม่สามารถป้องกันและสูญเสียโอกาสตกอยู่ในสภาพเฉื่อยชาได้  แต่อัศวินพิเศษกวงหมิงทุกคนมีประสบการณ์ฝึกฝนอดทนที่สุดและโหดร้ายที่สุด แม้จะอยู่ในสภาวะอันตราย ก็ไม่ตื่นเต้น
โรเจอร์ตระหนักว่ารังสีดาบของคู่ต่อสู้แปลกประหลาด  ตาของเขาเป็นประกายโกรธกร้าว และเกราะทองของเขาเปล่งแสงเจิดจ้าโดยรอบ
เพลิงสีขาวดูเหมือนจะลุกโชนออกมาจากผิวภายในของเกราะ เมื่อทั่วทั้งร่างของโรเจอร์เต็มไปด้วยเปลวเพลิงขาว
สายเส้นสีทองนับไม่ถ้วนแฝงอยู่ในเปลวเพลิง ทำให้ดูเหมือนมีสายฟ้าสีทองกระพริบอยู่ในเปลวไฟ
เมื่อใยดาบสีเลือดถูกเพลิงขาวขัดขวาง จึงเหมือนหยดน้ำที่หยดลงไปในเปลวเพลิงลุกโชน มีเสียงดังฉ่า.. แล้วใยนั้นก็หายไป
จี๋เจ๋อสะดุด เลือดไหลออกจากมุมปากของเขา
โรเจอร์อยู่ในเปลวเพลิงมองดูเหมือนกับเทพสงคราม  ม่านตาของเขากลายเป็นสีขาวขณะที่เขาพูดอย่างเฉยเมย  “คาร์ล เจ้ากล้าทรยศต่อสภาฯ ข้าจะลงโทษประหารเจ้าซะ!
เขาใช้ฝ่ามือแทนกระบี่ที่มีเปลวเพลิงคลุมและแทงไปที่คาร์ล
เป็นการแทงง่ายๆ  แต่ทุกคนสีหน้าเปลี่ยน  พลังงานรอบตัวพวกเขาระเบิดออกทำให้ไม่สามารถต้านทานได้
 “ฮึ”
บุรุษหนุ่มคนหนึ่งแค่นเสียงขึ้น
หมัดที่ดูเหมือนธรรมดาปรากฏขึ้นมาโดยไม่มีเค้าลางเตือนหยุดมือของโรเจอร์ไว้ได้
ระเบิดในท้องฟ้าก็หยุดกะทันหัน

8 ความคิดเห็น:

เทพ3บาท กล่าวว่า...

ค่าโทรพี่ถังหมด 555"

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบใจจ้าาาาา

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

FortuneFate กล่าวว่า...

“มันแน่อยู่แล้ว! ไม่มีใครฉลาดกว่าเชียนฮุ่ย!” เมื่อยินเช่นนั้นถังเทียนดีใจ แต่ทันใดนั้นเขาเหลือกตากว้าง “ใครพูดวะ..โชคดีบัดซบ? อยากมีเรื่องหรือไง?” ฮาฉากนี้ 555+

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Anny กล่าวว่า...

ขอบคุณมากนะคะ

แสดงความคิดเห็น