วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 866 งานสุดขมขื่น


ตอนที่  866  งานสุดขมขื่น
เพื่อประโยชน์ในการสร้างเมืองวายุน้ำเงิน กลุ่มการค้าตะวันตกเตรียมสินค้าไว้มากมายมหาศาล  พวกเขาสร้างเมือง นอกจากนี้พวกเขาต้องการสร้างให้เป็นเมืองใหญ่สง่างาม ดังนั้นสินค้าและวัสดุที่พวกเขาต้องใช้จึงมีราคาแพงเป็นธรรมดา  ใครจะรู้กันว่าถังเทียนจะเป็นคนได้รับประโยชน์

ตาของถังเทียนเป็นประกายเหมือนหมาป่าหิวโหย  เขาจ้องมองกองวัสดุและสินค้าชั้นดี
 “เราไม่มีเวลามากนัก” ซือหม่าเซี่ยวเตือน
ในบรรดาพวกเขาทุกคน ผู้ที่ยังคงสงบอยู่ได้กับกองภูเขาสมบัติก็คือราชาแมงป่อง ครั้งสุดท้ายถังเทียนขนคลังสินค้าจนว่างเปล่า เขาใช้เวลาทั้งคืน  แต่คลังสินค้าในคืนนั้นดูอนาถาไปเลยเมื่อเทียบกับคลังสินค้าที่อยู่ต่อหน้าพวกเขา  กลุ่มการค้าตะวันตกขนวัสดุและสินค้าดีๆ มาทั้งหมด และถ้าพวกเขาต้องนำออกไป ก็คงต้องใช้กำลังคนมากมายและเป็นกระบวนการใหญ่อย่างมิต้องสงสัย
เขาค่อนข้างกังวล ถังเทียนจะเสียเวลาเพราะสมบัติที่อยู่ต่อหน้าพวกเขา
มีสมบัติมากเกินไป และมีคนน้อยมากที่สามารถรักษาความเยือกเย็นของเขาต่อหน้าสมบัติเช่นนั้นได้  มีหีบสมบัติเจ็ดหีบที่แตกและเต็มไปด้วยอัญมณี  ราคาของมันเหนือกว่าคลังสินค้าที่เขาเคยปล้นมาทั้งหมดรวมกัน ส่วนใหญ่ของวัสดุจะมีผลึกเซียนอยู่ในนั้น และทั้งหมดกองเป็นเนินเขา
สิ่งที่ถังเทียนและคนที่เหลือไม่รู้ก็คือว่า แม้แต่คนของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่สามารถสกัดผลึกเซียนออกมาได้  แต่พวกเขารู้ว่ามันมีอยู่  วัสดุที่ร่ำรวยด้วยผลึกเซียนปกติจะมีลักษณะที่โดดเด่น  และส่วนใหญ่จะเป็นวัสดุที่มีคุณภาพสูง  ส่วนใหญ่ของวัสดุนี้จะถูกใช้ประโยชน์ในภูมิภาคเมืองใหญ่  สร้างกระดูกงูของเรือหรือสถานที่สำคัญอื่น
กลุ่มการค้าตะวันตกต้องการสร้างเมืองวายุน้ำเงินให้สง่างามยิ่งใหญ่  ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องใช้วัสดุคุณภาพสูง
ซือหม่าเซี่ยวรู้คุณค่าของผลึกเซียน และวัสดุคุณภาพสูงนั้น  ผลึกเซียนสามารถสะสมได้เยอะมาก  แต่ตามแผนการเดิม พวกเขาไม่มีเวลามากนัก
ขั้นตอนต่อไปมีความสำคัญมาก  และถ้าพวกเขาพลาด ก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะได้รับโอกาสอื่น
 ควบคุม, เจ้าต้องควบคุมอารมณ์ไว้’  ซือหม่าเซี่ยพึมพำในใจ  จากที่เห็น สมบัติที่อยู่ต่อหน้าทุกคนมีความดึงดูดใจมาก  แต่การยึดความได้เปรียบจากการเคลื่อนไหวก่อนเป็นเรื่องมีค่ายิ่งกว่า  หนุ่มชาวฟ้า, เจ้าสร้างปาฏิหาริย์มามากมาย เจ้าต้องชั่งน้ำหนักความสำคัญของเรื่องราว
ถังเทียนที่จับตามองดูวัสดุ กลับจ้องมองของเหล่านั้นอย่างว่างเปล่าเหมือนตุ๊กตา
ถังเทียนไม่เคยคิดปล่อยให้สิ่งของดีๆ เหล่านี้หลุดมือไป  แม้ว่ามีบางครั้งที่ต้องทำตัวเหมือนกับผู้ทรงอิทธิพลที่ร่ำรวย  แต่จะปล่อยสมบัติเช่นนั้นไป ก็ไม่ใช่นิสัยของเขา  เขายังคงรู้ความสำคัญของแผนการ  เขาก็รู้ชัดว่าเมื่อพวกเขาออกดำเนินการตามแผนแล้ว พวกเขาจะไม่มีทางกลับมาเมืองวายุน้ำเงินอีกเลย
 เจ้าล้อเล่นหรือเปล่า!’
เมื่อไม่สามารถยอมเสียสมบัติและด้วยความเร่งด่วน รู้สึกเหมือนกับว่าเข้าไปสู่สถานการณ์ที่สิ้นหวัง และสมองที่น่าสงสารของเขาต้องทำงานอย่างหนัก
ซือหม่าเซี่ยวอดแนะนำเขาอีกครั้งไม่ได้  ทันใดนั้นเมื่อถังเทียนมีความคิดอย่างหนึ่งขึ้นได้ ตาของเขาเป็นประกายทันที  “ข้ามีความคิดแล้ว!”
เมืองสามวิญญาณ
ถังเทียนปรากฏตัวทันที เป็นเหตุให้ผี่ผากังวลใจทันที  เนื่องจากนางคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น  แต่นางคาดไม่ถึงเลยว่าถังเทียนถามหาการ์ดวิญญาณ
 การ์ดวิญญาณ?’
ผี่ผาประหลาดใจ
กลุ่มดาวหมีใหญ่สร้างความแข็งแกร่งมานานแล้ว  และขณะที่จำนวนเซียนที่มีระดับพลังสูงเพิ่มมากขึ้น  นักสู้พลังกายเป็นศูนย์ก็ยังเป็นกลุ่มหลักของกลุ่มดาวหมีใหญ่  ความต้องการการ์ดวิญญาณลดน้อยลงไปมาก ทำให้มีของสำรองเก็บไว้เต็มคลัง
สิ่งที่ให้ผี่ผาประหลาดใจมากขึ้นก็คือถังเทียนเลือกการ์ดวิญญาณระดับต่ำสุด การ์ดวิชาระดับบรอนซ์
ในค่ายหมายเลขเจ็ดที่ซึ่งพวกเขาไม่มาเป็นเวลานานแล้วดูเหมือนจะมีความเปลี่ยนแปลงไปมากยกเว้นหญ้ารก
ห้องวิญญาณยังคงเหมือนเดิม และประตูบรอนซ์เรียบง่ายยังตั้งอยู่อย่างเงียบงัน
ถังเทียนคิดถึงถังอวี้และถังโฉ่ว และอดยิ้มไม่ได้  เนื่องจากเขามีเวลาเร่งด่วน  เขาไม่มีเวลาระลึกถึงความหลัง และทำการเคลื่อนไหวทันที ใช้การ์ดชั้นบรอนซ์ในห้องวิญญาณ
ถูกแล้ว เขากำลังวางแผนใช้ขุนพลวิญญาณ
การ์ดวิญญาณชั้นบรอนซ์เป็นการ์ดระดับต่ำ  ประตูห้องวิญญาณบรอนซ์เป็นประกายสว่างและขุนพลวิญญาณตนหนึ่งปรากฏอยู่ต่อหน้าถังเทียน
เนื่องจากเขาใช้การ์ดวิญญาณระดับบรอนซ์  ห้องวิญญาณแปลงการ์ดวิญญาณเป็นขุนพลวิญญาณระดับต่ำที่สุด มันมีประกายแสงอ่อนมาก  หน้าของมันเต็มไปด้วยหมอกไม่มีร่างที่เต็ม ยกเว้นแขนขา
ถังเทียนพยายามให้คำสั่งขุนพลวิญญาณบางอย่าง ซึ่งส่งผลให้มันค่อนข้างทื่อและมีปฏิกิริยาช้า แต่ก็ยังสามารถรับคำสั่งอย่างง่ายๆ ได้
จากนั้นถังเทียนพยายามใช้ให้มันเคลื่อนของบางอย่าง และตระหนักได้ว่ามันมีความแข็งแรงอยู่ และทำให้เขาดีใจทันที
นอกจากสร้างขุนพลวิญญาณคุณระดับบรอนซ์กลุ่มหนึ่งแล้ว  ถังเทียนเรียกหยาหยาออกมาด้วย
หยาหยาเอาแต่ขุดอย่างต่อเนื่องตลอด  และเมื่อเห็นถังเทียน มันได้ยินและดีใจมาก ร้อง ยี้ย้า ยี้ย้าตลอดจนทำให้ถังเทียนรู้สึกผิด เพราะเขาปล่อยหยาหยาอยู่ห่างตัวนานแล้ว  เมื่อถังเทียนแจ้งหยาหยาเกี่ยวกับเรื่องงาน  หยาหยาตบอก จากนั้นพากองทัพอสูรจักรกลออกมา
เมื่อถังเทียนพากองทัพอสูรจักรกลและขุนพลวิญญาณกลับมาคลังสินค้ากลุ่มการค้าตะวันตก ทุกคนตกใจ
 มีแรงงานให้ใช้มากมาย!’
ภายในสามชั่วโมง  พวกมันก็ทำให้คลังสินค้าว่างเปล่า
เมื่อเห็นคลังสินค้าว่างเปล่าเกลี้ยงเกลาราวกับพืชผลถูกฝูงตั๊กแตนลง  ทุกคนอดสั่นสะท้านไม่ได้  นายท่านร้ายกาจนัก
ซือหม่าเซี่ยวตะลึง
หลังจากนั้นชั่วขณะ เขาตระหนักได้ทันทีถึงการปรากฏตัวของขุนพลวิญญาณ และผลกระทบซ่อนเร้นและลึกที่มีต่อสองโลก  ก่อนหน้านี้ แม้ว่าถังเทียนจะมีประตูดวงดาวเชื่อมสองโลกในความเห็นของเขา  แต่เขาก็มีความสามารถจำกัดในการควบคุมมัน เหมือนกับท่อเบาบางที่มีขีดจำกัดในการส่งสินค้า  แต่ด้วยการปรากฏของขุนพลวิญญาณ ก็หมายความว่าท่อที่เล็กและเบาบางได้ขยายออกเป็นร้อยเท่าพันเท่า และการขนส่งสินค้าระหว่างโลกทั้งสองกลายเป็นเรื่องน่าตกตะลึง
ความสำคัญของสินค้าจากโลกใหม่จะเปลี่ยนสวรรค์วิถีและดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ไปมาก  ทั้งสองเป็นโลกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ก็หมายความว่า โลกทั้งสองเริ่มเชื่อมเข้าหากันจริงๆแล้ว
ภายในลานที่ซึ่งเปลวเพลิงลุกโชนถึงฟ้า ฉายให้เห็นใบหน้าที่ตื่นตกใจของซือหม่าเซี่ยว เมื่อเห็นคลังสินค้าว่างเปล่าและท่าทางที่ตื่นตะลึงของคนอื่น เขาหัวเราะทันที  ‘ดูเหมือนถังเทียนเองยังไม่รู้ตัวว่า ในคืนนี้ซึ่งเปลวเพลิงลุกไหม้สูง  ยุคใหม่กำลังคืบคลานเข้ามาช้าๆ
ทวีปกวงหมิงคงไม่มีทางเดาออกว่าเป้าหมายเดียวที่คนของพวกเขาต่อสู้มาหลายรุ่น ในขณะนั้น ณ คืนนั้นจะค่อยๆ เปิดออกในมือของบุรุษหนุ่มคนหนึ่งก็ได้
ทันใดนั้นซือหม่าเซี่ยวรู้สึกว่าเขาค่อนข้างโชคดี ที่สามารถเห็นประจักษ์ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ด้วยตาตัวเอง
 “เตรียมตัวเคลื่อนขบวน!”
เสียงของถังเทียนดังขึ้นทำลายความคิดมากมายของซือหม่าเซี่ยว  และเขาหันไปมองถังเทียน  ตาของเขาใสซื่อมาก  ใครจะรู้กันว่าเขาคือหมาป่าที่หิวกระหายและโลภ?
 เป็นบุรุษที่มองไม่ออกเลยจริงๆ’
ซือหม่าเซี่ยวเที่ยวเดินทางไปกับถังเทียนในช่วงเวลาหนึ่ง  แต่เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเข้าใจบุรุษหนุ่มที่ดูเหมือนไร้เดียงสาและโง่งมผู้นี้  เขาเป็นคนละโมบ เขาเยือกเย็นและสงบ  ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องจริง  แต่ความเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ของเขามักจะเป็นไปฉับพลัน
เพลิงถูกสุมเข้าในห้องคลังสินค้าที่ว่างเปล่า และทำให้คลังสินค้าตกอยู่ในทะเลเพลิงทันที
 “ไปกันเถอะ”  ถังเทียนทะยานขึ้นไปในอากาศ
ซือหม่าเซี่ยวพาคาร์ลที่ยังตะลึง ติดตามไปด้านหลัง
**************

ชิวซิ่วหัวจ้องมองหน้าต่างอย่างงงงวย
การสู้รบที่รุนแรงกระจายไปทั่วทะเลพลังงาน  ไป๋เยี่ยเหมือนสินค้าเลียนแบบสำหรับเขา และเขากำลังคิดถึงวิธีการทั้งหมดในการกำจัดเขา  ทั้งสองฝ่ายสู้รบตอบโต้กันไปมาหลายครั้ง และคุ้นเคยกันและกัน เทียบกับกองพลเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ที่รุ่งเรืองและมีชื่อแล้ว ไป๋เยี่ยปราดเปรียวและหลากหลายมากกว่า ทำให้ชิวซิ่วหัวรู้สึกปวดหัว
เขาพยายามใช้หลายวิธีรับมือไป๋เยี่ย  แม้ว่าเขาต้องเจ็บและสูญเสีย  เขาก็ยินดีจะทำ  ใครจะรู้ว่าไป๋เยี่ยเจ้าเล่ห์เกินไป  ทุกครั้งที่เขาใช้เหยื่อล่อพวกเขา และดูเหมือนว่าชิวซิ่วหัวกำลังจะจับเขาได้ แต่ในช่วงเวลาวิกฤติ ไป๋เยี่ยจะลื่นหลุดหนีไปได้  มาตรฐานในการบัญชาการของไป๋เยี่ยสูงมากทำให้ชิวซิ่วหัวนึกชื่นชมเขา  ถึงขนาดต้องการรับเขามาไว้ใต้ร่มธงบัญชาการหลังจากไป๋เยี่ยยอมแพ้เมื่อการสู้รบจบสิ้น
โชคดีที่แม้ว่าชิวซิ่วหัวไม่สามารถทำอะไรกับไป๋เยี่ยได้  ไป๋เยี่ยก็ยังทำอะไรชิวซิ่วหัวไม่ได้  และทั้งสองฝ่ายยังคงยันกันอยู่ในสภาพแปลกประหลาด
แต่การยันกันที่แปลกประหลาดกลับถูกทำลายโดยการขอความสนับสนุนของโกวเฉิงเวิ่นเต้า
ชิวซิ่วหัวไม่สามารถจะลืมความเหลือเชื่อที่เขามีได้  เมื่อเขาได้รับคำร้องขอของโกวเฉิงเวิ่นเต้า  เขาเชื่อในสายตามองการณ์ไกลของตนเอง  และเห็นมาตรฐานของโกวเฉิงเวิ่นเต้าชัดเจน ห้าแม่ทัพพยัคฆ์กวงหมิงอาจจะแตกต่างกัน  แต่พวกเขาทุกคนแทบจะเท่าเทียมกัน
เรือรบถูกทำลายเกือบทั้งหมด
ไม่มีใครจะเชื่อว่าความล้มเหลวจะมาจากโกวเฉิงเวิ่นเต้า
แต่โกวเฉิงเวิ่นเต้าเป็นคนร้องขอความสนับสนุนเอง และอธิบายรายละเอียดเหตุผลของความพ่ายแพ้  หลังจากอ่านทุกอย่างรวดเดียว ชิวซิ่วหัวตกใจ และเรียกความรู้สึกกลับมาได้หลังจากผ่านไปชั่วโมงหนึ่ง
เมื่อเขาฟื้นตัว  ความกลัวอย่างรุนแรงครอบงำเขา
ในอีกแง่หนึ่ง ก็เป็นแค่เรือรบของกองทัพถูกทำลาย  แต่ผลที่มีต่อการสู้รบทั้งหมดย่อมมีอย่างแน่นอน
โกวเฉิงเวิ่นเต้ายังคงเห็นว่าพวกเขาเริ่มจะแพ้จากการเคลื่อนไหวที่ได้เปรียบของพวกเขาครั้งแรก  ดังนั้นจึงขอความช่วยเหลือจากชิวซิ่วหัว
ชิวซิ่วหัวไม่ลังเลใจและเคลื่อนกำลังไปยังทวีปซางโจวเต็มพิกัดความเร็ว  แต่ไป๋เยี่ยยังคงไล่ตามเขาอย่างเร่งร้อน และพัวพันสู้รบกับเขาทำให้ความเร็วของกองเรือตกลงไป
ชิวซิ่วหัวรู้ว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป  สถานการณ์จะกลายเป็นเลวร้ายสถานเดียว
 “ข้าจำเป็นต้องให้คนทำลายตลบหลัง”  ชิวซิ่วหัวพูด สายตาของเขากวาดผ่านขุนพลสองสามคน
เขาไม่เลือกพวกเขาออกมา เนื่องจากเป็นภารกิจฆ่าตัวตาย ด้วยเหตุผลที่ไม่มีโอกาสรอดชีวิต  แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น  ถ้าเขาไม่สามารถตีจากไป๋เยี่ยได้  พวกเขาจะไม่สามารถเร่งไปถึงทวีปซางโจวเพื่อช่วยโกวเฉิงเวิ่นเต้าได้  ยิ่งพวกเขาชักช้า สถานการณ์จะแย่ลงไปอีก
เฉพาะคนที่กล้าเท่านั้น ยินดีจะทำลายข้อมือของพวกเขาเมื่อพวกเขาไม่มีทางเลือก
 “ผู้น้อยยินดีรับหน้าที่!”  บุรุษร่างใหญ่แข็งแรงพูดขึ้น
เว่ยเยี่ยคือมือขวาของชิวซิ่วหัว  พูดด้วยสีหน้าที่มุ่งมั่น
ชิวซิ่วหัวจ้องมองเว่ยเยี่ยเป็นเวลานาน  มีความรู้สึกเจ็บปวดอยู่ในใจ  บรรดาบริวารโดยตรงของเขา แม่ทัพรองทั้งสาม ฟงหวินม่านเสียสละตนเองไปแล้ว  และตอนนี้เว่ยเยี่ยเตรียมจะเสียสละเช่นกัน เหลือแต่เพียงจื่อเชอเจียจิ้ง
หน่วยของเว่ยเยี่ยรีบออกมา และให้กำลังส่วนใหญ่เพื่อโอกาสสู้เพื่ออิสระในการเดินหน้า
เมื่อเขาได้ยินเสียงระเบิดด้านหลังพวกเขาค่อยๆ อ่อนลงและกองเรือที่หายไป ชิวซิ่วหัวไม่อาจทนได้อีกต่อไป เขาเริ่มหลั่งน้ำตา
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมสงครามจึงกลายเป็นเหตุวิกฤติหนักโดยไม่รู้ตัว
*****************

เซี่ยอวี่อันยุ่งมาก แต่เมื่อเขาได้รับคำสั่งต่อไปของเขา  เขาตื่นเต้นและกระตือรือร้น
หลังจากเป็นทูตเพื่อรับสมัครทหาร  ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าทึ่ง  แต่หลังจากผละออกมาจากชีวิตกลิ่นควันและสนามรบ  มันทำให้เขารู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก  โชคดีที่ปิงไม่ปล่อยให้ทหารที่โดดเด่นอย่างนั้นไว้โดยไม่ทำอะไร
หลังจากเสริมระดับกองทัพแล้ว  เซี่ยอวี่อันได้รับงานลับ ซึ่งต้องไปจากสัมพันธมิตรใต้อย่างเงียบกริบ
เขามีเพียงภารกิจเดียวซึ่งก็คือถ่วงเวลาม่อซินให้ช้าลง
ใช้วิธีอะไรก็ได้ เขาต้องซุ่มเล่นงานม่อซิน และถ่วงเวลาให้เขาถอยช้าลง
ตอนแรกเซี่ยอวี่อันมีความสงสัยมากเกี่ยวกับภารกิจ  แต่เขาไม่ถามอะไรมาก  และต้องการดำเนินการอย่างจริงจัง  จนกระทั่งวันก่อนยังไม่เป็นเช่นนั้น  เมื่อเขาได้ยินข่าวเรื่องกองเรือของโกวเฉิงเวิ่นเต้าถูกทำลาย นั่นเองจึงทำให้เขารู้แจ้ง
 อย่างนั้นก็เป็นเพราะเรื่องนั้นเอง’
เขารู้สึกเคารพท่านปิงอย่างหมดใจ  เขาไม่เข้าใจว่านายท่านทำได้ยังไง
และตอนนี้ ได้เวลาทดสอบของเขาบ้าง
ตลอดทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยจิตวิญญาณนักสู้

8 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบใจมากๆจ้าาาา

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

MAXNY กล่าวว่า...

ถังใช้สมองสักที
สรุปหยาหยาอยู่กับเองตลอด
แถมยังมีกองทัพจักรกลอีกด้วย
ช่วยกันขนแปบเดียวขนคนเดียว
ได้ตั้งนาน

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

คนไทย กล่าวว่า...

เมื่อเห็นถังเทียน มันได้ยินและดีใจมาก ร้อง ยี้ย้า ยี้ย้าตลอดจนทำให้ถังเทียนรู้สึกผิด เพราะเขาปล่อยหยาหยาอยู่ห่างตัวนานแล้ว นี้คือความรู้สึกผิดที่ลืมกรรมกรเหรอพี่เทียน​555

Anny กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ🌸😁❤️❤️❤️

แสดงความคิดเห็น