วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 873 คอลลิน


ตอนที่  873  คอลลิ
เป็นครั้งแรกของคอลลินที่ย่างเท้าไปบนดินของทวีปรกร้าง
แย่จริงๆ

พลังงานในอากาศเบาบางมาก เพิ่มความรู้สึกที่ไม่สบาย  คอลลินรู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นเหมือนปลาที่บังเอิญกระโดดขึ้นมาจากน้ำ  ความรู้สึกหอบหายใจอย่างรุนแรงทำให้เขาเคลื่อนไหวไปข้างหน้าได้ยากลำบาก  นอกจากนี้เขาสามารถรู้สึกได้ว่าพลังงานในร่างของเขากำลังจะหมดลง ซึ่งก็หมายความว่าพวกเขาไม่สามารถทำการสู้รบใดๆ ได้ ซึ่งมีแต่จะทำให้พวกเขาเสียเปรียบ
 นี่จะเป็นการสู้รบที่แย่มาก’
 อยู่ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงเช่นนี้  ยังไม่ต้องคำนึงถึงการเตรียมพร้อมของทหาร  พวกเขาต้องทนกับแรงกดดันมากเป็นประวัติการณ์’
หน้าของคอลลินดูหวาดกลัว  สถานการณ์รุนแรงมากกว่าที่เขาจะนึกภาพออก
สายตาของเขามองเห็นหนึ่งในหน่วยสอดแนมของแดนบาป  นี่เป็นครั้งแรกที่คอลลินพบกับนักสู้แดนบาป  วิหารหมิงกวงระงับข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับแดนบาป  และประชาชนไม่สามารถหาข้อมูลอะไรๆ ได้จากที่ไหนๆ เลย
คนสอดแนมของแดนบาปเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วว่องไว  พลังงานที่เบาบางไม่ส่งอิทธิพลต่อพวกเขาแม้แต่น้อย  พวกเขาเป็นเหมือนปลาที่ว่ายอยู่ในน้ำ
คอลลินสามารถเห็นความเกลียดชังในดวงตาของนักสู้แดนบาป  พวกเขามีความกล้าและเต็มไปด้วยความก้าวร้าว ขณะที่หน่วยสอดแนมของคอลลินถูกฆ่าตายไปมากกว่าสิบคนแล้ว
คอลลินลอบส่ายศีรษะและโยนความคิดที่ใช้ไม่ได้ออกไปจากใจ
ความเกลียดชังกันระหว่างสองฝ่ายไม่อาจประนีประนอมกันได้  และเพราะการสู้รบจบ จะต้องมีฝ่ายหนึ่งโชกเลือดแน่นอน
คอลลินเรียกความสงบกลับคืนมาอีกครั้ง  หลังจากเขาได้รับคำสั่ง  เขาขอข้อมูลเนื้อหาเกี่ยวกับแดนบาปจากวิหารกวงหมิงทันที  จากตรงนั้น เขาได้รับความรู้อย่างเพียงพอถึงวิธีที่นักสู้แดนบาปใช้สู้กัน  และหลังจากตรวจสอบพลังงานที่เบาบางในทวีปรกร้างแล้ว  เขาคิดหาวิธีสองสามอย่างโดยเร็ว
เขาไม่เคยสู้โดยไม่เตรียมตัวมาก่อน
สิ่งที่คอลลินไม่รู้ก็คือเมื่อเขากวาดสายตาผ่านแดนบาป  มีปลาใหญ่สองตัว
*****************

ตู้เค่อและน้องสาวสังเกตกองทัพใหญ่ของศัตรูอย่างรอบคอบ  และเนื่องจากพวกเขาไม่มีการป้องกันรอบตัวพวกเขา  ทำให้พวกเขาดูไม่แตกต่างจากหน่วยสอดแนมอื่น  ทั้งสองคนได้รับการคัดค้านจากบริวารของพวกเขา  แต่ตู้เค่อมีความมั่นใจและพลังของตนเอง
นักสู้อันดับหนึ่งของแดนบาป ในสภาพแวดล้อมที่ติดกับแดนบาป  เขาสามารถปล่อยพลังได้ถึง 90%
 “มันเป็นยังไงเล่า?”  ตู้เค่อถาม
ในแง่กระบวนศึก  เขาเชื่อถือน้องสาวของเขา  ตู้ซินหวี่ตัดสินใจได้มากกว่า
 “ไม่มีตำหนิ”  ตู้ซินหวี่ส่ายศีรษะ  นัยน์ตาของนางเปล่งประกายมีเสน่ห์  ขณะที่หัวใจนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเช่นกัน
ในความรู้สึกบางอย่าง  คงจะเป็นการรบครั้งแรกของกองทัพแดนบาปหลังจากที่ตู้เค่อและน้องสาวสร้างกองทัพขึ้นมา และได้รวมเอายอดฝีมือระดับสูงเกือบทั้งหมดในแดนบาป  หลังจากเป็นพันธมิตรกับถังเทียนแล้ว  กลุ่มที่บุกโจมตีประตูบาปก็คือกองพลเกราะเทพเจ้าของถังเทียน  นี่นำมาซึ่งสถานการณ์ที่น่าอาย  เนื่องจากกองทัพแดนบาปถูกสร้างขึ้นมาแล้ว  พวกเขายังไม่เคยผ่านการสู้รบจริง
การสู้รบครั้งแรกของพวกเขาเพียงพอจะทำให้ทุกคนตื่นเต้น  และเพื่อต่อต้านกองทัพของทวีปกวงหมิง  กองทัพแดนบาปทั้งหมดดูราวกับว่าคลั่งไคล้หลงใหลการสู้
จะมีอะไรมากไปกว่าได้สู้กับศัตรูคู่แค้นของพวกเขา?
ตู้เค่อหัวเราะเบาๆ  “ดูเหมือนว่าเขาค่อนข้างเป็นศัตรูที่ทรงพลัง”
 “ย่อมแน่นอน  คอลลินเป็นหนึ่งใน 12 ผู้บัญชาการชั้นพลโท ยังไม่นับห้าแม่ทัพใหญ่  เขาคือหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดในสิบสองคน”  ตู้ซินหวี่เตือน  “การจัดตั้งค่ายของเขาระมัดระวังตัวมาก ไม่มีข้อบกพร่องให้เห็นชัดเจน  ตามรายงานที่ถังเทียนส่งมา คอลลินเป็นคนที่ระมัดระวังตัวมาก จากที่เห็นดูเหมือนจะเป็นความจริง”
 “ข้าสงสัยว่าห้าแม่ทัพใหญ่จะเป็นยังไง”  ตู้เค่อเริ่มคิดนอกทาง
ตู้ซินหวี่ไม่สนใจเรื่องที่พี่ชายของนางมีความคิดของตนเองเป็นครั้งคราว  นางไม่เคยละสายตาจากกระบวนทัพข้างหน้านางแม้แต่ชั่วขณะ  ขณะที่นางพึมพำกับตัวเอง  “ทหารศัตรูมีคุณภาพชั้นยอดไม่ด้อยไปกว่าเรา  พวกเขามีความเชี่ยวชาญในกระบวนทัพของพวกเขา  ถังเทียนมักจะพูดไว้ว่าการผสานพลังของพวกเขาจะถูกซ่อนเอาไว้  นี่คือกองทัพที่ทรงพลัง  แต่คำถามตอนนี้ก็คือ เขาเตรียมจะจัดการกับเรายังไง?”
ค่ายทหารมีความโอ่อ่าตระการตา  แต่ในพื้นที่ 10 กิโลเมตรจากค่ายทหารเป็นสนามรบที่เข้มข้นที่สุด
หน่วยสอดแนมของทั้งสองฝ่ายเริ่มมีส่วนร่วมรบ
พวกคนสอดแนมทั้งหมดเป็นคนฝีมือดีในกองทัพ  เนื่องจากพวกเขาต้องทำภารกิจในกลุ่มเล็กและสามารถเผชิญหน้ากับอันตรายและสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงทุกรูปแบบ  ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้พวกเขาแต่ละคนมีความแข็งแกร่งเฉพาะตน
จากที่เห็น หน่วยสอดแนมของแดนบาปจะกุมความได้เปรียบ
สิบห้าต่อสอง
หน่วยสอดแนของคอลลินสิบห้าคนตาย  แต่ของแดนบาปเสียคนไปสองคน แสดงให้เห็นคามแตกต่างขนาดใหญ่
ตู้ซินหวี่ไม่ได้รับผลจากจำนวน  น้ำเสียงนางยังคงชัดและเยือกเย็น  “ทวีปกวงหมิงก็คือสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ ถ้าเราไม่ได้ถังเทียนช่วยไว้  เราคงไม่มีโอกาสชนะ  ทวีปกวงหมิงอาจจะมีกองทัพเช่นนั้นสิบสองกองทัพ  แม่ทัพใหญ่ห้าคนก็มีพลังที่น่าทึ่ง  อำนาจสั่งการของแม่ทัพใหญ่อย่างน้อยครอบคลุมสามกองพลเช่นนั้น ขณะที่ผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรงของพวกเขาก็ยังแข็งแกร่งกว่า  ข้าไม่แน่ใจจริงๆ ว่าสัมพันธมิตรใต้ของถังเทียนจะสามารถต้านทานห้าแม่ทัพใหญ่ได้”
 “นั่นก็ถูกแล้ว”  ตู้เค่ออดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้  “ตอนนี้เรารู้ความจริงว่าเราก็มีกองทัพอยู่ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นทวีปกวงหมิงหรือถังเทียน พวกเขาทั้งสองก็คือสัตว์ประหลาดยักษ์สำหรับเรา  นับเป็นโชคร้ายที่ทวีปกวงหมิงมีศัตรูอย่างเรา  แต่เป็นโชคดีของเราที่มีถังเทียนเป็นสหาย  โชคดีที่เขาสามารถช่วยเราได้  แต่ชะตากรรมของเรา ตระกูลเรา  เราจะต้องได้มาจากการสู้รบของเราเอง”
ประโยคสุดท้ายของเขาดูเหมือนเป็นการตอกย้ำ
ตู้ซินหวี่หันมามองพี่ชายนางผู้มีสีหน้ามุ่งมั่น
ตู้เค่อไม่ปิดบังสายตาจากตู้ซินหวี่ และพูดขึ้น “ไม่ว่าเราจะต้องทุ่มเทราคาเท่าใด  เราต้องชนะสงครามครั้งนี้!”
ตู้ซินหวี่กัดริมฝีปากและกล่าว  “เราจะชนะได้แน่นอน!”
ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาฝึกกันหนักเพียงไหนเพื่อการสู้รบ  ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขายินดีจะทุ่มเทมากเพียงไหนเพื่อการสู้รบ
ด้วยประสบการณ์ของเขา  เมื่อคอลลินเห็นสภาพแวดล้อมของทวีปรกร้าง  เขารีบร่างแผนอย่างรวดเร็ว
เมื่อสินค้าที่สำคัญที่สุดของสงครามส่งมาถึง  เขาจะไม่ถอยและสั่งให้กองทัพเข้าทวีปรกร้าง  เพื่อป้องกันเส้นทางถอยของเขาถูกตัดขาด  เขาจัดให้กองทัพของโอลิเวอร์คุ้มกันอยู่ที่ประตูดวงดาว  โอลิเวอร์ถูกกักขังอยู่  กองทัพของเขาเตรียมเผชิญกับภัยพิบัติเนื่องจากเหตุการณ์ในกลุ่มการค้าตะวัตก  แต่พวกเขาถูกวางกองทัพกลับไปรบ
เพียงเมื่อพวกเขาพบกับคอลลิน ทำให้พวกเขาถูกเห็นความสำคัญอีกครั้ง
สิ่งแรกที่คอลลินทำเมื่อเข้ามาในภูมิภาคตะวันตกก็คือนำพวกฝีมือดีมารวมกัน  โอลิเวอร์ถูกคุมขัง กองทัพของเขาเป็นเหมือนมังกรไร้หัว  กำลังใจของทหารตกต่ำมาก  แต่กำลังทั้งหมดไม่ได้รับอิทธิพลมากนัก  เนื่องจากพวกเขาค่อนข้างเป็นกองกำลังระดับสูง
เนื่องจากทหารเหล่านี้ไม่เห็นอนาคตความหวังพวกเขายินดีจะสู้เพื่อชีวิตพวกเขา
คอลลินไม่มีกำลังคนเพียงพอ ดังนั้นไม่ว่ายังไงก็ตาม กองทัพนี้จำเป็นต้องใช้ และยังแข็งแกร่งมากกว่าทหารกระสุนมนุษย์ของกองกำลังท้องถิ่นทั้งหมด
ด้วยกองกำลังฝีมือดีนี้คอยคุ้มกันตัดทางถอย  คอลลินค่อยสบายใจ  โจรทวีปทองเพิ่งปรากฏตัวที่ทวีปหย่งหมิง ซึ่งอยู่ห่างไกลไปมาก  มีความเป็นไปได้ต่ำมากที่ทวีปทุ่งขาวจะถูกโจมตี  แต่เพื่อความรอบคอบ  คอลลินยังคงประจำกองกำลังไว้เบื้องหลัง
หลังจากจัดการทางถอยไว้แล้ว  คอลลินนำกองทัพใหญ่เข้าไปในทวีปรกร้างทันที
หลังจากเข้าทวีปรกร้าง กองทัพใหญ่มุ่งหน้าตรงไปที่ป้อมที่แดนบาป  แม้ว่าหน่วยสอดแนมของพวกเขาไม่สามารถเทียบได้กับหน่วยสอดแนมของแดนบาป  คอลลินยังคงส่งหน่วยสอดแนมออกไป  แม้สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือตาย
จำนวนคนตายมากมาย สำหรับหน่วยสอดแนมที่รวบรวมข้อมูลที่มีค่า  ในทวีปรกร้าง นอกจากป้อมที่ประตูบาปแล้ว ชาวแดนบาปที่หลงเหลืออยู่ไม่ได้สร้างป้อมอื่น  นั่นก็หมายความว่าพวกเขาต้องโจมตีป้อมที่แดนบาป  และพวกเขาจะสามารถขังพวกเขาไว้ในแดนบาปได้อีกครั้งหนึ่ง
เรื่องนี้ทำให้คอลลินถอนหายใจโล่งอก
ในสถานการณ์ที่รุนแรงอย่างนั้น เวลามีค่ามาก และเขากลัวที่สุดกับการเทียวไปเทียวมา
หน่วยสอดแนมส่วนใหญ่ของแดนบาปบินอยู่รอบกองทัพใหญ่เหมือนแมลงวัน  เมื่อเห็นว่าพวกเขาสามารถฉวยโอกาสได้  แต่คอลลินไม่สนใจพวกเขาแม้แต่น้อย  เมื่อไม่สนใจพวกเขาก็เคลื่อนที่ไปด้านหน้า  หน่วยสอดแนมมีพลังส่วนตัวที่ทรงพลัง  แต่เมื่อเผชิญหน้ากับพลังระเบิดของกระบวนศึก พวกเขาไม่มีท่าทีคุกคาม
เพราะการสังเกตการณ์และสอดแนมพวกเขา  คอลลินไม่มีสนใจจริงๆ  เขาวางแผนไว้แล้วสำหรับการสู้รบโดยไม่ต้องใช้กลอุบายใดๆ
เมื่อพวกเขาอยู่ห่างออกไป 10 ลี้จากประตูแดนบาป กงอทัพใหญ่หยุดตั้งค่ายอยู่กับที่  ขณะที่หน่วยสอดแนมส่วนใหญ่ยังคงสังเกตพวกเขาจากระยะไกล
คอลลินลี่ย์ไม่ใส่ใจพวกเขา  แม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนหลายคน  แต่การเคลื่อนไหวเสียงดังของพวกเขาทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนมือสมัครเล่น  ในสงครามขนาดใหญ่  ความแข็งแรงส่วนบุคคลไม่มีประโยชน์เท่าใดนัก  ไม่สำคัญว่าหน่วยสอดแนมจะแข็งแกร่งมากเท่าใด ไม่สำคัญว่าพวกเขาจะมีกันกี่คน  ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่า พวกเขาไม่มีประโยชน์
สายตาของเขามองไปที่ป้อมประตูบาปในที่ไกลออกไป
แดนบาปเรียกมันว่าเมืองฮวงเฉิง  แต่คอลลินเรียกว่าป้อมประตูบาป มันคือดินแดนของทวีปกวงหมิง  พวกเดนตายจากแดนบาปมีสิทธิ์อะไรมาตั้งชื่อสถานที่นี้?
เทียบกับป้อมกวงหมิงที่โดดเด่นและสง่างาม  ป้อมที่อยู่ต่อหน้าคอลลินดูน่าเกลียดมาก  แต่เขาไม่ได้รีบโจมตี  แต่เรียกทหารรักษาการณ์
หลายค่ายทหารถูกสร้างขึ้น
แม้เมื่อเขาคิดหาวิธีให้จบการสู้รบอย่างรวดเร็ว  แต่ตอนนี้พอการสู้รบเริ่มจริงๆ  เขาลืมทุกสิ่งทุกอย่าง  คำสั่งถูกส่งลงไป  และเขาลาดตระเวนไปรอบๆ เพื่อความแน่ใจในทุกสิ่ง
ในป้อมปราการ ตู้เค่อและตู้ซินหวี่มองดูกองทัพที่ตั้งค่ายพัก ความเข้มงวดการตั้งกระบวนทำให้พวกเขาดูเหมือนกับอันตรายมาก
 “เรามีศัตรูที่ทรงพลัง”  ตู้วินหวี่ชื่นชม
แม้แต่ตู้เค่อก็สามารถมองเห็นมาตรฐานสูงส่งของคอลลิน  จากการเคลื่อนไหวของพวกเขาเพื่อตั้งค่าย  เพื่อสร้างค่ายของพวกเขา  ตลอดทั้งกระบวนการราบรื่นและจัดเรียงอย่างเป็นระบบ  พวกเขาทุกคนมีความมุ่งมั่น ราวกับว่าทหารทุกคนรู้ว่าพวกเขาต้องทำอะไร  สำหรับหน่วยสอดแนมแดนบาปจ้องมองพวกเขาเหมือนกับพยัคฆ์  พวกเขาไม่สามารถหาโอกาสบุกเข้าไปได้ และได้แต่จ้องมองจากระยะไกล
แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าหน่วยสอดแนมไม่สามารถทำอะไรได้มาก  แต่ตู้ซินหวี่ก็ยังส่งหน่วยสอดแนมออกไปหลายคน
ในแดนบาป พวกเขามีทหารที่น่าสมเพช  แต่พวกเขามีนักสู้ผู้ทรงพลังนับจำนวนไม่ถ้วน  ซึ่งสามารถสอดแนม  นางไม่หวังให้คนสอดแนมพวกนี้ได้รับความเสียหายจริงจัง  แต่ตราบใดที่พวกเขาสามารถเบี่ยงเบนความสนใจของศัตรูได้  นั่นก็นับว่าพอเพียงแล้ว
ตู้ซินหวี่รู้ว่านางยังเป็นมือใหม่  และไม่ลังเลจะใช้ประโยชน์จากต้นทุนที่นางมี
แต่คอลลินเจ้าเล่ห์ไม่ได้กังวลกับนาง
ขณะนั้นเองหน้าของตู้ซินหวี่เปลี่ยน  นางเงยหน้าขึ้นทันทีและจ้องมองศัตรูที่ข้างหน้าพวกเขา  ตู้เค่ออยู่ข้างนางก็พลอยเคร่งเครียดไปด้วย
พลังงานหนาแน่นขยายออกมาจากค่ายศัตรู
สิบนาทีต่อมา พลังงานหนาแน่นคลุมไปทั้งค่ายของคอลลิน  แต่ไม่กระจายสลายไป  เหมือนกับว่าค่ายทหารเองมีพลังที่มองไม่เห็นที่แผ่พลังงานยึดกับค่ายไว้หนาแน่น
ทุกคนในป้อมเคร่งเครียด
การสู้รบคงจะไม่สู้กันง่ายๆ!

7 ความคิดเห็น:

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

WingF กล่าวว่า...

สงสัยเรือจะมาเร็วๆนี้แน่

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบใจจ้า

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ojo กล่าวว่า...

ก็ว่าอยู่ ทำไมผมอ่านตอนนี้แล้วงงๆ กดเข้าตอนผิด จาก 670 เป็น 873 555

แสดงความคิดเห็น