วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 880 เหตุวิกฤติที่สุดของกวงหมิง


ตอนที่  880  เหตุวิกฤติที่สุดของกวงหมิง
 “เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าเราจะสามารถบุกเข้าทวีปเว่ยเย่กวนได้?”  อาซือหมิงมองดูเถี่ยจี๋
ด้านหลังพวกเขากองทัพใหญ่ยาวเหยียดออกไปไม่สิ้นสุด  นี่คือกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของทวีปแดนเถื่อน  และเป็นกองทัพของกษัตริย์เพอซูสด้วยภารกิจที่ใหญ่ที่สุด  อาซือหมิงไม่อาจถูกตำหนิได้เรื่องกังวล  เขาไม่เคยบัญชาการกองทัพที่มีขนาดใหญ่อย่างนั้นมาก่อน

นอกจากนี้ ยังเป็นการเผชิญหน้ากับมู่จือเสียแห่งทวีปเว่ยเย่กวน
ทวีปแดนเถื่อนไม่ขาดแคลนคนหยิ่งและภูมิใจในศักดิ์ศรี  แต่ตั้งแต่เริ่มต้นทวีปเว่ยเย่กวนมักจะตั้งเด่นเป็นสง่าเหมือนกับหม้อน้ำร้อน คุ้มกันปกป้องเส้นทางใหญ่เข้าสู่ทวีปกวงหมิง  ตั้งแต่มู่จือเสียเฝ้ารักษาการณ์ในทวีปเว่ยเย่กวน ไม่เคยมีใครบุกฝ่าเข้าไปได้เลย
มู่จือเสียสามารถยึดครองอยู่ที่ทวีปเว่ยเย่กวนอย่างมั่นคงและขณะเดียวกันก็แทรกซึมเข้าไปในทวีปแดนเถื่อนไม่ใช่เพราะเขาน่าคบหา  แต่เพราะเขาแข็งแกร่ง  ทวีปแดนเถื่อนบูชาความแข็งแกร่ง และเชื่อว่าหมัดที่แข็งกว่าคือเหตุผลที่ถูกต้อง มิฉะนั้นทำไมเผ่าเล็กๆ จึงยินดีรับคำแนะนำจากเขาเล่า?  มู่จือเสียกลายเป็นคนนอกที่แข็งแกร่งที่สุดที่เข้าทวีปแดนเถื่อน  แม้ว่าจะมีคนน้อยรู้เรื่องที่เขามีกองทัพที่ประสบความสำเร็จ  แต่ไม่มีใครเคยได้ยินว่ามู่จือเสียเคยแพ้คนอื่น
คนอย่างอาซือหมิงมีความรู้ในเรื่องอย่างนั้นมาก  และเข้าใจชัดว่ามู่จือเสียน่ากลัวเพียงไหน
อาซือหมิงไม่เข้าใจทำไมราชินีถึงได้ตั้งใจโจมตีทวีปเว่ยเย่กวน  ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเชื่อใจราชินีอย่างที่สุด เขาคงคิดว่าต้องมีแรงจูงใจซ่อนอยู่เบื้องหลัง
เถี่ยจี๋คัดค้านมุมมองของเขา  “ตราบใดที่เราทำสิ่งที่ราชินีต้องการได้สำเร็จ  ราชีนีจะต้องมีแผนแน่นอน หรือเจ้าคิดว่าเรายังแข็งแกร่งทรงพลังมากกว่านาง?”
อาซือหมิงคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นส่ายหน้า “เจ้าพูดแบบนั้นได้ยังไง?  ราชินีคือเทพธิดาสงครามของเรา  นางไร้พ่าย  ครั้งนี้มู่จือเสียโชคร้ายเสียแล้ว”
เขากำลังยินดีกับภัยพิบัติของมู่จือเสีย ผู้ทรงอำนาจมากที่สุดในทวีปแดนเถื่อนไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อมู่จือเสีย  มู่จือเสียมีเจตนาบางอย่างต่อทวีปแดนเถื่อน และเขาอาจจะหลอกเผ่าเล็กๆ ได้  แต่กลุ่มทรงอิทธิพลท้องถิ่นไม่ให้ความสำคัญต่อเขาแม้แต่น้อย
มู่จือเสียพยายามแอบติดต่อกลุ่มที่ทรงอำนาจสองสามกลุ่ม  แต่แม้ว่าเขาจะมีพลังและความสามารถ แต่เขาไม่เคยประสบความสำเร็จ
สำหรับเถี่ยจี๋และอาซือหมิง สงสารเขาที่ต้องมาเจอกับราชินี
สำหรับอาซือหมิง คนที่เอาชนะมู่จือเสียในทวีปแดนเถื่อนแน่นอนก็คือราชินี  แม้สำหรับเขาราชินีไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้  เพราะนางมีเวลามากมายในการรวมทวีปแดนเถื่อน  แต่แน่นอน เนื่องจากราชินีตัดสินใจทำเช่นนั้นแล้ว อาซือหมิงจะไม่ปฏิเสธ
 “ไม่ว่ามู่จือเสียจะโชคร้ายหรือไม่ก็ตาม ข้าไม่รู้”  เถี่ยจี๋ส่ายศีรษะ  แต่ในพริบตา เขายิ้มกว้าง  “แต่ข้ารู้แน่ๆ ว่าทวีปกวงหมิงหมดโชคแล้วในคราวนี้ นอกจากนี้พวกเขาจะต้องเสียเลือดเนื้อสำหรับการนี้!”
 เถี่ยจี๋รู้อะไรบางอย่างแน่นอน’  แต่อาซือหมิงไม่ถามต่อไป
ราชินีไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของนางเอง และเข้าสู่ทวีปกวงหมิง เห็นได้ชัดว่ามีความตั้งใจอะไรบางอย่างที่นั่น
ความเกลียดชังที่มีต่อทวีปกวงหมิงครั้งนี้ทำให้อาซือหมิงมีความสุขมาก  เขารู้สึกว่าราชินีกำลังแสดงความกล้าหาญและพลังของนาง  ราชินีไม่พอใจแค่กับการรวบรวมทวีปแดนเถื่อนเท่านั้น  ตอนนี้นางยังจับตามองทวีปกวงหมิงด้วย  นางมีจิตใจของผู้ทรงอำนาจจริงๆ
เมื่อกองทัพมากมายปรากฏในพื้นที่ใกล้ทวีปเว่ยเย่กวน ทหารรักษาการณ์ถึงกับตะลึง
ทวีปกวงหมิงก็ตกตะลึง วิหารกวงหมิงก็ตกตะลึง
คำร้องขอความช่วยเหลือฉุกเฉินนับไม่ถ้วนทำให้วิหารกวงหมิงตกอยู่ในความแตกตื่น  เหล่าผู้อาวุโสพยายามข่มความกังวลและความแตกตื่นในใจของพวกเขา และฝืนตนเองพูดคุยอย่างร่าเริง เป็นตลกฝืดและมีรอยยิ้มสุดฝืน  แต่หน้าของพวกเขาซีดขาว  ตาหมองคล้ำการก้าวเดินขัดกับสีหน้าของเขา ดวงตาที่พ่ายแพ้ท่าทางที่ทำแบบขอไปทีทำให้ดูตลกมากกว่า
ทางวิหารไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นเลย
แนวหน้าสูญเสียพื้นที่ของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง  คำขอกำลังเสริมของโกวเฉิงเวิ่นเต้าแทบถูกส่งมาวันละสามเวลา  ชิวซิ่วหัวประสบความสูญเสียหนัก และม่อซินอยู่ในตำแหน่งแห่งใดไม่ทราบ
นอกจากนี้กองทัพใหญ่ของทวีปแดนเถื่อนปรากฏที่ด้านนอกทวีปเว่ยเย่กวน
เรื่องนี้กดดันเหล่าผู้อาวุโสจนสภาพใจของพวกเขาแทบจะพังทลายได้ทุกเมื่อ  และยังเป็นต่อไปจนพวกเขาเกือบจะร้องไห้
 ทวีปแดนเถื่อนเข้าร่วมลงมือปฏิบัติการแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?’
ทวีปกวงหมิงมีความตั้งใจต่อทวีปแดนเถื่อน มิฉะนั้นพวกเขาคงไม่อดทนกับภารกิจแทรกซึมเข้าทวีปแดนเถื่อน  แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทวีปกวงหมิงจะกล้าตอแยทวีปแดนเถื่อน  แม้ว่าพวกเขามักจะพูดถึงทวีปแดนเถื่อนอย่างเหยียดหยาม  แต่ในใจพวกเขา พวกเขารู้อย่างชัดเจนถึงพลังที่น่ากลัวของทวีปแดนเถื่อน
ทวีปแดนเถื่อนเป็นเหมือนรังแตนขนาดใหญ่  ใครก็ตามเข้าไปตอแย อาจถึงตายได้
กองกระดูกนับไม่ถ้วนที่เป็นของคนทะเยอทะยานในทวีปแดนเถื่อนนี้พิสูจน์ตรงจุดนี้ได้
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้ทวีปกวงหมิงสบายมากกว่าก็คือทวีปแดนเถื่อนไม่เคยขยับขยายดินแดนพวกเขามาก่อนในประวัติศาสตร์  เนื่องจากความสามารถของพวกเขาทั้งหมดใช้ในการปะทะกันเองภายในอยู่เสมอ  ประวัติศาสตร์ของทวีปแดนเถื่อนดูเหมือนจะมีสงครามวุ่นวายยุ่งเหยิงอยู่ตลอด  นี่คือเหตุผลให้ทวีปแดนเถื่อนไม่เคยรวมกันเป็นเอกภาพมาก่อน
แต่ทวีปแดนเถื่อนที่ไม่เคยขยายดินแดนกลับมีกองทัพมหึมาปรากฏอยู่ที่ชานทวีปเว่ยเย่กวน
ผู้อาวุโสหลายคนอดนึกถึงตำแหน่งของรายงานที่มู่จื่อเสียส่งมาก่อนหน้านั้นไม่ได้  เกี่ยวกับสตรีเทพธิดาสงครามคนหนึ่ง  มู่จื่อเสียอ้างว่านางสร้างราชอาณาจักรเพอซูสและอาจรวมทวีปแดนเถื่อนให้เป็นเอกภาพได้  เวลานั้นพวกเขาทุกคนแค่นเสียงขึ้นจมูกเมื่ออ่านรายงาน  รวมทวีปแดนเถื่อนน่ะหรือ?  นี่ไม่เคยทำได้มาก่อนเป็นหมื่นปีแล้ว  และสตรีนางเดียวจะทำได้หรือ?  เขากำลังเล่าเรื่องตลกอะไร!’  ถ้ารายงานไม่ได้ส่งมาโดยมู่จือเสียผู้มีตำแหน่งน่านับถือ เหล่าผู้อาวุโสคงสั่งลงโทษไปแล้ว
ทันใดนั้น เมื่อผู้อาวุโสหลายคนจำรายงานนี้ได้ ความหนาวยะเยือกแผ่ซ่านอยู่ในใจพวกเขา
 เป็นไปได้ไหมว่า.. รายงานนั้นจะเป็นความจริง?’
ทุกคนเริ่มกังวลใจ ในการแทรกซึมไม่กี่ทศวรรษมานี้  ทวีปกวงหมิงมีความเข้าใจต่อทวีปแดนเถื่อนลึกซึ้งมากกว่าในอดีต  เหตุผลที่ทวีปแดนเถื่อนไม่เคยมีท่าทีคุกคามต่อทวีปกวงหมิงเป็นเพราะพวกเขาขาดผู้นำ
กลุ่มคนเถื่อนเพียงแต่ขาดผู้นำ!
สำหรับทวีปกวงหมิง ถ้าพวกเขามีผู้นำสักคน จะกลายเป็นฝันร้าย
และในที่สุดฝันร้ายกำลังมาอยู่ต่อหน้าต่อตาพวกเขา
 “ท่านมู่จือเสียอยู่ที่ไหน?  ทำไมถึงไม่มีใครได้ข่าวจากท่านมู่จือเสีย?”  หนึ่งในผู้อาวุโสถาม
คำถามของเขากระตุ้นความสนใจของผู้อาวุโสอื่น  สายตาทุกคู่มองดูที่โอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์  ถูกแล้ว ในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนั้นมีกองทัพใหญ่คุกคาม  วิหารกวงหมิงไม่ได้รับข่าวจากท่านมู่จือเสียเลย
ในช่วงเวลาอันตรายอย่างนั้นแม่ทัพใหญ่อย่างมู่จือเสียสามารถคุ้มกันพวกเขาได้
หน้าของชาร์ลส์บูดบึ้ง แต่เขาพยายามฝืนยิ้ม  “ท่านมู่จือเสียยังไม่กลับมาเลย”
ผู้อาวุโสทุกคนโกลาหล ทุกคนมีสีหน้าเหลือเชื่อ  พวกเขาทุกคนคิดว่าพวกเขาได้ยินผิด  มีกองทัพศัตรูคุกคามอย่างนั้น แม่ทัพใหญ่ที่ได้รับการสนับสนุนให้ป้องกันพวกเขา กลับไม่ปรากฏตัว
นั่นคือเหตุผลที่เหล่าผู้อาวุโสมีปฏิกิริยาไปในทำนองเดียว  มู่จือเสียมีศักดิ์ศรีสูงส่ง  ความสำเร็จของเขาเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่พวกเขา  และในการทำงานที่หนักแน่นและรอบคอบมาเป็นเวลาสิบๆ ปีทำให้เขาเป็นแบบอย่างของแม่ทัพหลายคนในทวีปกวงหมิง
เขาจะมีความประมาทได้อย่างไร?
ชาร์ลส์กลับเป็นคนเดียวที่สงบ  ขณะที่เขายิ้ม  “ตอนนี้เขาอยู่ในทวีปแดนเถื่อนเพื่อทำภารกิจตามฆ่าราชินีเพอร์ซูส  เราต้องมั่นใจในตัวเขา”
ทันใดนั้นผู้อาวุโสทุกคนมีสีหน้ารับรู้ทันที  อย่างนั้นนั่นก็คือเหตุผลที่ท่านมู่จือเสียละเลยงานของเขา!’
ความกังวลของผู้อาวุโสทุกคนได้รับการปลดเปลื้อง  สำหรับผู้อาวุโสที่ก่อนนั้นได้เห็นรายงาน พวกเขาก็ยกย่องเขา  ตามที่มู่จื่อเสียคาด  เขาสามารถเห็นรายละเอียดที่สำคัญที่สุด  พวกเขาทุกคนลืมเรื่องเวลาเมื่อพวกเขาสบถใส่รายงานที่มู่จื่อเสียส่งให้พวกเขา
บรรยากาศผ่อนคลายลงทันที  พวกเขาเชื่อว่าเมื่อมู่จื่อเสียรับมือกับสถานการณ์  ก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว
ไม่มีใครสงสัยว่ามู่จื่อเสียจะล้มเหลว
 “ข้าก็เหมือนกับทุกคนที่นี่ พวกเขาทุกคนมีความมั่นใจในท่านมู่จื่อเสีย  แต่ข้ามีข่าวร้ายจะแจ้งพวกท่านเช่นกัน”  ชาร์ลส์มีสีหน้าเคร่งเครียด  จนผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุดสังเกตเห็นเขากำหมัดแน่นจนเล็บขาว
ผู้อาวุโสถึงกับเงียบลง  พวกเขาทุกคนมองดูโอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์อย่างประหลาดใจ  สำหรับความประทับใจของพวกเขา โอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์มักจะโดดเด่นและสง่างามและไม่เคยโกรธ  พวกเขาไม่เคยเห็นเขาเคร่งเครียดและกังวล
ทุกคนเริ่มมีลางสังหรณ์ในใจ
 “เราเพิ่งได้รับข่าว”
ชาร์ลส์พูดนุ่มนวล มีร่องรอยความเศร้าและท่าทีแตกตื่นมีกันทุกคน
พวกเขาอยู่ในความเงียบ  สังหรณ์ร้ายเกิดขึ้นในใจของผู้อาวุโสเริ่มมีมากขึ้นทุกทีเขาผ่อนคลายบรรยากาศขณะหนึ่งและเปลี่ยนมาเป็นตึงเครียดอีกครั้ง
 “คอลลินตายในการรบ  กองทหารเขาทั้งหมดถูกกำจัด  กองทัพของคอลลินถูกศัตรูลอบทำร้าย  กองเรือ..”  ชาร์ลส์หยุดสูดหายใจลึก เหมือนกับว่าเขาพยายามจะรวบรวมความกล้า  “ทหารทั้งกองทัพถูกทำลาย”
เงียบเป็นป่าช้า เหมือนกับว่าไม่มีคนมีชีวิตอยู่ด้วย
ผู้อาวุโสตะลึง  พวกเขาเอามือกุมศีรษะ  สีหน้าของพวกเขายังคงชะงักค้าง  ตาของพวกเขาเบิกค้าง เหมือนกับปลาที่บังเอิญว่ายอยู่ในน้ำร้อน
เป็นเวลาสิบวินาที ทั่วทั้งสถานที่ไม่มีเสียงเลย
 “มันคือโชคร้าย นี่คือข่าวล่าสุดที่เราได้รับ”  หน้าของชาร์ลส์ยังคงซีดขาว  “ศัตรูฟื้นคืนสภาพเรือรังสีกัมปนาทและสร้างเรือรบชั้นสูงสุดที่ทรงพลังมาก  นั่นคือวิธีที่กองเรือของโอลิเวอร์พ่ายแพ้  สำหรับกองทัพของคอลลิน เรายังไม่ได้รับรายละเอียด  ศัตรูตัดการเชื่อมต่อของประตูดวงดาวระหว่างทวีปรกร้างและทวีปทุ่งขาว  ดังนั้นไม่มีใครจากกองทัพของคอลลินที่ออกมาได้”
เสียงอุทานนับไม่ถ้วนดังขึ้นพร้อมกัน  เมื่อสถานที่มีเสียงฮือฮาดังขึ้นใจทุกคนมึนชาทันที
 “วิหารกวงหมิงตกอยู่ในภาวะวิกฤติที่สุดแล้ว”
ขณะนั้นเอง เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากด้านหลังชาร์ลส์ และหยุดเสียงฮือฮาโกลาหลทันที  รัศมีที่สง่างามและศักดิ์สิทธิ์คลุมเต็มสถานที่ทันที เหมือนกับว่ามีเทพชะลอลงมา  ร่างที่เหมือนรูปสลักสีทองค่อยๆ เดินออกมา
 “ประมุขผู้อาวุโส!
ผู้อาวุโสทุกคนตื่นจากภวังค์ สีหน้าของพวกเขาที่แตกตื่นก็หายไป กลับมีความเคารพนบนอบเข้ามาแทน  ทุกคนก้มศีรษะคำนับ
ไม่ว่าประมุขผู้อาวุโสจะผ่านไปที่ใดก็ตาม เพลิงศักดิ์สิทธิ์สีทองก็จะไหลลงบนพื้น  ตำหนักกวงหมิงจะส่งเสียงครืนๆ ขณะรัศมีพลังงานเริ่มร่วงลงมาจากท้องฟ้า
ภายใต้พลังงานของเทพ  ไม่มีใครสามารถทนได้!
ทุกคนที่เห็นภาพคุกเข่าลงกับพื้นทันที ตลอดทั้งตัวของพวกเขาสั่นสะท้านไม่หยุด ไม่ว่าจะมาจากความตื่นเต้นหรือความกลัว ไม่มีใครรู้
เสียงที่เต็มไปด้วยความสง่างามและเฉยเมยดังก้องไปทั้งตำหนักกวงหมิงเหมือนสายฟ้า
 “จงไปลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์”

4 ความคิดเห็น:

neng2006 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

Last boss ปรากฏแล้ว

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Anny กล่าวว่า...

สนุกมากกกก❤️❤️❤️

แสดงความคิดเห็น