เล่ม
13 เกบาโดส – ตอนที่ 20 เทพชั้นสูงไร้เทียมทาน
“อาจจะเอาชนะได้น่ะหรือ?” ลินลี่ย์ปั่นป่วนใจ
หลังจากพูดแล้วเบรุตนั่งอยู่กับที่มองดูลินลี่ย์พร้อมกับมีรอยยิ้ม
เมื่อลินลี่ย์สังเกตถึงสีหน้าอารมณ์ของเบรุต ลินลี่ย์ก็เข้าใจได้ทันที เขาหัวเราะเยาะตนเอง “ท่านลอร์ดเบรุต
ท่านพยายามจะบอกข้าว่าข้าควรจะหลีกเลี่ยงการสู้กับเทพที่มีระดับที่สูงกว่าข้าใช่ไหม?”
เบรุตลูบเคราเริ่มหัวเราะ
“ถูกแล้ว”
ลินลี่ย์ค่อยรู้สึกโล่งใจ
เขาคือระดับเทียมเทพผู้โดดเด่นหรือ? ลินลี่ย์ไม่รู้สึกมั่นใจที่จะพูดอย่างนั้น
คู่ต่อสู้ของเขาคือเทพแท้ที่อ่อนแอ? นั่นก็ยากจะระบุได้
ดังนั้นแม้ว่าในทฤษฎี
ระดับเทียมเทพจะสามารถฆ่าเทพแท้ได้
แต่ในความเป็นจริงโอกาสสำเร็จต่ำมาก
เว้นแต่ว่าเทพแท้จะบาดเจ็บหนักและในช่วงพริบตาที่จะตาย
เทพแท้ที่อยู่ในสถานการณ์ปกติจะไม่มีทางพ่ายแพ้เทียมเทพ
เบรุตลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ประตูห้องหนังสือ
“แอ๊ดดด!” ประตูห้องหนังสือเปิดออกเอง ทำให้ลมราตรีพัดเข้ามา
ชุดยาวดำของเบรุตโบกสะบัด
เบรุตลังเลเล็กน้อย
จากนั้นหันมามองลินลี่ย์ “ลินลี่ย์,
มีบางเรื่องที่เดิมทีข้าตั้งใจจะบอกเจ้าหลังจากที่เจ้าแข็งแกร่งมากขึ้นกว่านี้ อย่างไรก็ตามเป็นการยากจะบอกได้ว่าเจ้ากับบีบียังจะรั้งอยู่ในทวีปยูลานในอนาคตหรือไม่ ดังนั้นข้าจะบอกเจ้าในวันนี้ไปเลย แม้ว่านี่อาจจะทำให้เจ้าท้อแท้อยู่บ้าง แต่อย่างน้อย
เจ้าได้ไม่เดินผิดเส้นทาง”
ลินลี่ย์ยืนขึ้นทันที
ท้อใจ?
ดำเนินผิดทาง? เขาไม่เคยกลัวความยากในการฝึกฝน
ตั้งแต่เขายังเป็นเด็กหนุ่มธรรมดาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้
เขาเคยกลัวความท้อแท้เมื่อใดกัน?
“ท่านเบรุต! เชิญกล่าว”
ลินลี่ย์พูดด้วยความเคารพ
เบรุตยิ้มและพยักหน้า “เจ้าควรจะรู้ข้อกำหนดในการได้เป็นเทพชั้นสูง”
“ขอรับ, รู้แจ้งกฎความรู้ลึกล้ำทั้งหมด” ลินลี่ย์พยักหน้าขณะตอบรับ
เบรุตถอนหายใจ “ถูกแล้ว! เมื่อเจ้ารู้แจ้งความรู้ลึกลับทั้งหมด
เจ้าจะกลายเป็นเทพชั้นสูง
ในแต่ละกฎธาตุเป็นกฎธาตุที่สมบูรณ์แบบ
อย่างเช่นความรู้วิชาลึกลับเรื่องความเร็วและความช้าที่ผสานกันเป็นหนึ่ง ถ้าหนึ่งในกฎธาตุมีอยู่เก้าประเภท,
อย่างนั้น...”
ตาของเบรุตเริ่มฉายเป็นประกายขณะจ้องมองลินลี่ย์ “และสองของเก้าความรู้วิชาลึกลับสามารถผสานกันเป็นหนึ่งได้
สามความรู้ลึกลับผสานกันเป็นหนึ่งได้ และในความจริง
เก้าวิชาความรู้ลึกลับทั้งหมดก็สามารถผสานกันเป็นหนึ่งได้!”
ลินลี่ย์ตกใจอย่างหนัก
ทั้งหมดนี้สามารถหลอมรวมได้หรือ?
“มันเป็นการยากมากที่จะมีผู้ได้รับความรู้แจ้งสายความรู้ลึกลับทั้งเก้าอย่าง การหลอมรวมแค่สองหรือสามให้เป็นหนึ่งยิ่งเป็นเรื่องยากกว่า”
เบรุตถอนหายใจ “ลินลี่ย์
เส้นทางการฝึกที่แท้จริงไม่จำเป็นจะต้องยิ่งมากก็ยิ่งดี เมื่อได้รับการรู้แจ้งใจกฎธรรมชาติ มันจะหลอมรวมกับวิชาลึกลับได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น
ความรู้ลึกลับด้าน ‘เร็ว’
และ ‘ช้า’ ยังเป็นความรู้ลึกลับในระดับต่ำ
แต่เมื่อทั้งสองหลอมรวมเป็น ‘สัจธรรมแห่งความเร็ว’ มันเปรียบได้กับความรู้ระดับสูง
ถ้าเจ้าสามารถหลอมรวมความรู้ลึกลับระดับต่ำให้เป็นหนึ่งได้ พลังก็จะเหนือกว่าความรู้ลึกลับระดับสูงมากมาย”
ลินลี่ย์ตาเป็นประกาย
“ถ้าเจ้าสามารถหลอมรวมความรู้ลึกลับทั้งเก้าให้เป็นหนึ่งเดียวได้
นั่นเจ้าจะต้องมีความเข้าใจในกฎธาตุอย่างแท้จริง!
นั่นคือระดับสูงสุดในการบรรลุเป้าหมายของเทพชั้นสูง” เมื่อพูดอย่างนี้แล้ว
ทัศนคติของเบรุตก็แตกต่างออกไป
ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจไม่หยุดหย่อน
ได้รับการรู้แจ้งในความรู้ลึกลับเก้าอย่างและกลายเป็นเทพชั้นสูง?
ความสำเร็จนั้นเหนือจากจุดสูงสุดที่แท้จริง
หลอมรวมความรู้ลึกลับทั้งเก้าแบบเข้าด้วยกันหมด นั่นจึงคือสุดยอดที่แท้จริง
“ความรู้ลึกลับทั้งเก้าอย่างทำให้เป็นหนึ่งเดียว?” ลินลี่ย์อดเปล่งเสียงแผ่วเบาไม่ได้ “ท่านลอร์ดเบรุต
มียอดฝีมือระดับนี้กี่คนในพิภพจักรวาล?”
“กี่คน?”
เบรุตหัวเราะขณะมองดูลินลี่ย์
“ในบรรดาเทพสิบล้านล้าน
จะมีเพียงหนึ่งเดียวที่กลายเป็นเทพชั้นสูง! แต่เทพชั้นสูงผู้เทียมทานสามารถหลอมรวมความรู้ลึกลับในกฎธาตุธรรมชาติให้เป็นหนึ่ง...
แม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่ามีเทพชั้นสูงเท่าใดเกิดขึ้นมาในแต่ละพิภพเช่นนั้น” เป็นเรื่องยากที่เบรุตจะพูดออกมา “ทั้งหมดที่ข้าสามารถบอกเจ้าได้ก็คือในอนันตจักรวาล
จำนวนยอดฝีมือที่มาถึงระดับนี้ได้สามารถนับได้ด้วยมือข้างเดียว!”
“นับด้วยมือข้างเดียว?”
ลินลี่ย์ใจสั่นสะท้าน
จักรวาลคงอยู่มาเป็นเวลายาวนานมาก
ส่งผลให้จำนวนเทพในแต่ละพิภพสร้างเทพขึ้นมาเป็นจำนวนที่น่าทึ่ง
ในพิภพใหญ่น้อยนับไม่ถ้วนและโดยเฉพาะพิภพระดับสูง
เป็นเรื่องยากจะคำนวณได้ว่ามีเทพอยู่เท่าใด
แต่แม้ในพิภพระดับสูง จำนวนของเทพชั้นสูงสุดยอดก็ยังสามารถนับได้ด้วยมือข้างเดียว
“ลอร์ดเบรุต
ภายในพิภพจองจำเกบาโดสมียอดฝีมือที่หลอมรวมกฎวิชาลึกลับได้ทั้งหมดบ้างไหม?” ลินลี่ย์พูดด้วยความสงสัย “ข้าได้ยินมาว่ามีราชันย์ผู้ทรงพลังถึงห้าคน”
เบรุตแค่นเสียง
“ไม่มี, ไม่มีอย่างแน่นอน!
อย่าว่าแต่ห้าราชันย์แห่งพิภพจองจำเกบาโดสแค่หลอมรวมกฎความรู้ลึกลับได้เพียงไม่กี่แบบเท่านั้น จะหลอมรวมกฎธาตุและกลายเป็นสุดยอดเทพได้น่ะหรือ? ใครๆ
ก็ประเมินได้ว่าโอกาสที่พิภพนั้นจะสร้างเทพชั้นสูงขึ้นมาได้นั้นยากเย็นเพียงไหน?”
“ลอร์ดเบรุต,
ท่านมั่นใจขนาดนั้นเชียวหรือ?”
ลินลี่ย์ค่อนข้างประหลาดใจ
ห้าราชันย์ยังไม่ถึงแม้แต่ระดับที่สมบูรณ์ ลินลี่ย์ไม่ประหลาดใจเรื่องนั้น
สิ่งที่เขาประหลาดใจก็คือเบรุตมั่นใจถึงขนาดนั้น
หรือว่าเบรุตสามารถตรวจสอบความแข็งแกร่งของผู้อื่นได้?
“แน่นอน ข้ามั่นใจ” เบรุตพยักหน้าและหัวเราะ “ทั้งนี้เป็นเพราะ เมื่อเทพชั้นสูงสามารถหลอมรวมความรู้ลึกลับในกฎธาตุธรรมชาติปรากฏตัวขึ้น
แม้แต่มหาเทพ..
ก็ยังทะเลาะกันเพื่อให้ได้โอกาสคว้าตัวอัจฉริยะนั้นไปทำงานให้พวกเขา” เบรุตถอนหายใจชื่นชม
“ที่สำคัญ มีแต่คนอย่างนั้นจึงจะคุมเทพอยู่ได้...
เพราะพวกเขาเป็นเทพชั้นสูงสุดยอดที่แท้จริง! ยอดฝีมืออย่างพวกเขา
ต่อให้มีเทพชั้นสูงเป็นร้อยหรือเป็นพันมาสู้กับเขา
พวกเทพชั้นสูงเหล่านั้นมีแต่จะตายกันหมด”
หัวใจลินลี่ย์สั่นสะท้าน
ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของเทพชั้นสูง นับว่าเป็นเทพไร้เทียมทาน
“มหาเทพถึงกับเชิญตัวเชียวหรือ?” ลินลี่ย์พูดด้วยความประหลาดใจ “ทำไมมหาเทพต้องเชิญตัวพวกเขาด้วยเล่า? เป็นไปได้ไหมว่าพลังของพวกเขาอาจคุกคามแม้แต่มหาเทพได้?”
เบรุตหัวเราะ “ลินลี่ย์! เจ้าไม่เข้าใจ
มหาเทพทรงพลังจริงแท้แน่นอน เหนือกว่าเทพชั้นสูงในแง่พลัง อย่างไรก็ตาม...ลินลี่ย์, เจ้าต้องเข้าใจไว้ ในอนันตจักรวาล พิภพดินแดนที่กว้างขวางมากมาย
ส่วนใหญ่เป็นพิภพหยาบจับต้องได้
ตัวอย่างเช่นทวีปยูลานของเรา ก็ถือว่าเป็นพิภพธาตุหยาบ
ลินลี่ย์พยักหน้า
พิภพธาตุหยาบเป็นรากฐานของจักรวาล
“กล่าวอีกอย่างหนึ่งคือ
มหาเทพไม่สามารถเข้าไปในพิภพธาตุหยาบได้
มหาเทพมีพลังเทพมากมายมหาศาล เพียงพอจะทำให้พิภพธาตุหยาบล่มสลายได้!” เบรุตพูดจริงจัง
ลินลี่ย์ใจสั่นสะท้าน มหาเทพทรงพลังอำนาจมากมายเกินไปแน่นอน
“ลินลี่ย์,
พิภพธาตุหยาบถูกสร้างขึ้นโดยกฎธรรมชาติของจักรวาล
พิภพเหล่านี้ไม่ได้รับอนุญาตให้มีการทำลาย” เบรุตพูดเคร่งขรึม “สี่จอมเทพออกคำสั่งอย่างเข้มงวด
ถ้าอะไรก็ตามเป็นเหตุให้พิภพธาตุหยาบต้องล่มสลาย อย่างนั้นผู้นั้นต้องมีความผิด
ต่อให้เป็นมหาเทพก็ตามจะต้องโทษเหลือแต่เถ้าถ่าน!”
ลินลี่ย์ลอบประหลาดใจ
“ดังนั้นมหาเทพไม่กล้าเข้าพิภพธาตุหยาบ
และพวกเขาไม่สามารถเข้าพิภพธาตุหยาบด้วยเช่นกัน!” เบรุตกล่าว
ลินลี่ย์พยักหน้า
“ดังนั้น...เทพชั้นสูงผู้ผสานความรู้ลึกลับในกฎธาตุได้ทั้งหมดก็ต้องบอกว่าไร้เทียมทานกว่าเทพทั้งหมดรองลงมาจากระดับมหาเทพ! ถ้าพวกเขาหนีมายังพิภพธาตุหยาบ
แม้แต่มหาเทพก็ไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้
ถ้ามหาเทพรับพวกเขาให้ทำงานให้ก็จะทำให้เกิดความสำเร็จในเรื่องต่างๆ
กับมหาเทพ สิ่งที่มหาเทพไม่สามารถทำได้”
ลินลี่ย์พยักหน้าและเริ่มจะเข้าใจ
เทพชั้นสูงสามารถเข้าพิภพธาตุหยาบ แต่มหาเทพทำไม่ได้!
“แต่แน่นอนว่า นั่นเกินระดับของเจ้าไปมาก” เบรุตหัวเราะ
ลินลี่ย์ก็หัวเราะด้วยเช่นกัน
“ข้าบอกเจ้าเพราะข้าหวังกับตัวเจ้ามาก ลินลี่ย์,
เมื่อจะฝึก
ควรจะเริ่มทำความรู้สึกคล้ายคลึงและหลอมรวมความรู้ซึ้งลึกลับทั้งสองให้ได้ หลังจากหลอมรวมความรู้สองอย่างได้
ก็จงหลอมรวมความรู้ที่สาม
แค่เพียงฝึกไปตามทำนองนั้นเจ้าจึงจะมีความหวัง นอกจากนี้ ถ้าเจ้าสำเร็จได้รับการรู้แจ้งสัจธรรมลึกลับในธาตุหมดแล้ว
อย่างนั้นเจ้าลองผสานสัจธรรมความรู้ลึกลับทั้งเก้าแบบให้เป็นหนึ่งพร้อมกัน ตอนนั้นจะยากมากเกินไป” เบรุตพูดจริงจัง
จะต้มกบทั้งเป็น
ทั้งหมดที่เจ้าต้องทำก็คือค่อยๆ เพิ่มอุณหภูมิ
ลินลี่ย์พยักหน้า ถอนหายใจชื่นชม “แค่ความรู้ด้าน ‘เร็ว’ และ ‘ช้า’ หลอมรวมกันก็กลายเป็นสัจธรรมแห่งความเร็วไปได้ จำเป็นต้องให้เราสามารถรู้สึกได้ว่ามีความคุ้นเคยอยู่ก่อน
เป็นเรื่องยากมากที่จะหลอมรวมความรู้ลึกลับทั้งสองรูปแบบ
การหลอมรวมความรู้ลึกลับสามหรือสี่ชนิด...” ใจของลินลี่ย์เพียงคิดอยู่เท่านั้น
หลอมรวมความรู้ลึกลับทั้งหมดในกฎธาตุ?
แน่นอนว่านี่ยากเย็นกว่าขึ้นสวรรค์เสียอีก
“พวกอัจฉริยะอย่างนี้ก็เป็นที่ต้องการของมหาเทพ” เบรุตถอนหายใจ
“เพียงแต่อัจฉริยะแบบนี้หาได้ยากมาก
ขณะที่มหาเทพมีอยู่ถึงเจ็ดในทุกสายธาตุ ก็คือมีถึง 49 ในเจ็ดกฎสายธาตุ เพื่อจะได้สุดยอดเทพชั้นสูงมารับใช้
พวกเขาถึงกับต่อสู้กันเองด้วยซ้ำ”
เบรุตเองก็อยู่ในฐานะทูตของมหาเทพ
ย่อมรู้ความลับหลายอย่างเป็นธรรมดา
ลินลี่ย์จ้องมองพูดไม่ออก
แม้แต่มหาเทพก็ยังต่อสู้กันเองเพื่อให้ได้อัจฉริยะอย่างนั้น
“ถ้ามีเทพสามารถบรรลุถึงระดับนั้น
พวกเขาก็คงรู้สึกภูมิใจในตัวเองอย่างแท้จริง” ลินลี่ย์รู้สึกอิจฉายอดฝีมือเหล่านั้น
ขอเพียงพวกเขาเป็นสุดยอดในสุดยอดฝีมือ
“การเริ่มต้นด้วยการรู้สึกถึงการหลอมรวมตั้งแต่แรก
เพียงแค่นั้นอนาคตของเจ้าก็มีความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่แล้ว” เบรุตหัวเราะปลงตัวเอง “ตัวอย่างเช่น
ข้าเองในอดีต ข้าไม่รู้เรื่องเหล่านี้
เมื่อเวลาผ่านไปจนข้าถึงชั้นเทพระดับสูงและต้องการจะหลอมรวมความรู้เหล่านั้น
ก็สายเกินไปเสียแล้ว
การหลอมรวมความรู้แจ้งลึกลับของกฎธรรมชาติให้เป็นหนึ่งพร้อมกัน? เป็นเรื่องที่ยากเกินไป”
ลินลี่ย์อดรู้สึกขอบคุณเบรุตไม่ได้
แม้ว่าเบรุตจะเพียงแต่ให้คำแนะนำเขาเพียงเล็กน้อยก็ตาม
แต่สำหรับเขานี่คือเป้าหมายใหม่ในเส้นทางใหม่สำหรับเขา
ทางสองแพร่ง
ถ้าใครหลงเดินผิดทางตั้งแต่แรก
ในที่สุดความแตกต่างระหว่างทางทั้งสองจะมากมายยิ่งขึ้น
มีแนวโน้มว่า
หลังจากถึงระดับเทพชั้นสูง
เขาอาจกลายเป็นเหมือนเบรุต ไม่สามารถหลอมรวมอะไรได้เลย
“พอเท่านี้แหละ ข้าจะกลับเดี๋ยวนี้แล้ว เส้นทางในอนาคตของเจ้า
เจ้าจะต้องเดินด้วยตัวเอง” เบรุตหัวเราะ
“ขอบคุณ, ลอร์ดเบรุต” ลินลี่ย์คำนับอย่างซาบซึ้ง
เมื่อเห็นเบรุตจากไป
ใจของลินลี่ย์เริ่มมีไฟลุกโชน ก็เหมือนวิธีที่เมื่อตอนเขาอายุยังน้อย
เทพสงครามเป็นบุรุษสุดยอดไร้เทียมทานในใจของลินลี่ย์ แต่ตอนนี้... ความสุดยอดในใจของลินลี่ย์กลายเป็นเทพชั้นสูงสุดยอดที่ไร้เทียมทานผู้สามารถหลอมรวมความรู้แจ้งลึกลับในกฎธาตุให้เป็นหนึ่งได้!
นี่คือเป้าหมายใหม่ของลินลี่ย์!
เวลาผ่านไปอย่างสงบและรวดเร็ว ในพริบตาก็ถึงปียูลานที่ 10046
ปีนี้เป็นปีที่เติมเต็มความหวังสำหรับลินลี่ย์ การมีเป้าหมายใหม่ เขาเริ่มฝึกฝนจริงจัง
ทั่วทั้งปราสาทเลือดมังกรอยู่ในสภาพมีพลังงานคงที่ เต็มไปด้วยเทพต่างๆ
มารวมตัวอยู่ด้วยกัน ลอร์ดเบรุตกลับไปที่ไพรทมิฬนานแล้ว
แฮรี่พี่คนโตของสามพี่น้องจ้าวมุสิกม่วงทองกลับไปไพรทมิฬเช่นกัน สำหรับฮาร์ทกับฮาร์วีย์รั้งอยู่ในปราสาทเลือดมังกร
ตามสิ่งที่ฮาร์ทและฮาร์วี่ย์พูด พวกเขาชอบสถานที่ครึกครื้นมีชีวิตชีวา
ดังนั้นลินลี่ย์ต้อนรับสองพี่น้องอย่างอบอุ่น
ท้ายฤดูใบไม้ร่วง
ศักราชยูลานที่ 10046
วังหลวงของจักรวรรดิโอเบรียนมีพื้นที่กว้างขวาง นอกจากวังของแอดกินส์แล้ว สี่เทพบริวารของเขาก็มีพื้นที่อยู่ในวังหลวงด้วย แต่แน่นอนว่า
โอจวินและเทพคนอื่นก็มีพื้นที่อยู่ของตนเองด้วยเช่นกัน
เทพแท้หมายเลขหนึ่งที่รับคำสั่งของแอดกินส์ก็คือบาร์นาส
มีพลังแข็งแกร่งที่สุดและได้รับความไว้วางใจมากที่สุด
ภายในวังหลวง
ที่พักของบาร์นาส บาร์นาสในตอนนี้กำลังวาดภาพบนแผ่นกระดาษยาว ขณะที่โอจวิน
ฮันบริทและบุรุษหนุ่มผมทองยืนอยู่ข้างเขามีสีหน้าอ่อนโยน
ที่สำคัญ
บาร์นาสแข็งแกร่งทรงพลังมาก และบาร์นาสมีสมบัติเทพระดับสูง!
แอดกินส์มอบให้บาร์นาสเป็นการส่วนตัว
มีแนวโน้มว่าแม้เมื่อรวมพลังกันโอจวินและเทพแท้อีกสองคนก็ยังไม่สามารถเอาชนะบาร์นาสได้
“พูดไปสิ, มีอะไร?” บาร์นาสยังคงวาดต่อไป
โดยไม่เหลือบมองทั้งสองคนแม้แต่น้อย
ฮันบริทและโอจวินไม่กล้าส่งเสียง แต่เป็นบุรุษผมทองกล่าวขึ้นแทน “ท่านบาร์นาส,
โอจวินรักลูกชายของเขาที่ถูกฆ่าตายไปมาก
นอกจากนี้ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของโอจวินยังถูกศัตรูทำลายเช่นกัน
มันเป็นเรื่องยากที่โอจวินจะยอมรับความอัปยศเช่นนั้นได้ เพียงแต่เขาไม่ต้องการรบกวนลอร์ดแอดกินส์
ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาไม่เคยพูดกับลอร์ดแอดกินส์
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาข้าตัดสินใจแล้วว่าจะไปเป็นเพื่อนกับพี่โอจวิน วันพรุ่งนี้ข้าจะเดินทางไปกับเขา
ช่วยให้เขาได้ล้างแค้น”
“เกเทนบี...”
บาร์นาสวางพู่กันของเขาลง และชำเลืองมองดูบุรุษหนุ่มผมทองและถอนหายใจ
ความจริงบาร์นาสให้ความสำคัญกับเกเทนบี สำหรับฮันบริท เขาจะดูถูก เนื่องจากโอจวิน...
บาร์นาสรู้สึกว่าโอจวินเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการ ดังนั้นจึงไม่ชอบเขา
“โอจวิน”
บาร์นาสมองโอจวิน
“ท่านบาร์นาส” ท่าทีของโอจวินนอบน้อม
เพื่อให้เกเทนบีช่วย ระหว่างสองปีมานี้ เขาใช้ความพยายามไปมาก
ในที่สุดเกเทนบีตอบตกลงจะช่วย
บาร์นาสหัวเราะอย่างใจเย็น “ข้ารู้ดีถึงความตั้งใจของเจ้า ถ้าพวกเจ้าทั้งสามคนยังจะแพ้
เจ้าคงจะทำให้ลอร์ดแอดกินส์เสียหน้า
เอาอย่างนี้ ข้าจะไปพร้อมกับพวกเจ้า เราจะขุดรากถอนโคนปราสาทเลือดมังกร”
โอจวินดีใจแทบคลั่งทันที
พลังของบาร์นาสยิ่งใหญ่ไม่มีใครเทียบได้
ต่อให้โอจวินลิ้มรสพลังของทารอสมาแล้ว
เขาก็ยังรู้สึกแน่ใจว่าบาร์นาสไม่อ่อนแอกว่าทารอส ที่สำคัญ
บาร์นาสมีสมบัติเทพชั้นสูง
บาร์นาสพูดอย่างใจเย็น “ข้าก็เหมือนกัน
อยากจะทดสอบว่าเทพแท้ทารอสจะมีพลังมากมายเพียงไหน”

4 ความคิดเห็น:
เอาประกายเทพมาแจกกันอีกละ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
เดวเจอบีๆ 555
แสดงความคิดเห็น