ตอนที่ 881 ระฆังศักดิ์สิทธิ์
เมื่อถังเทียนได้รับข่าวผลของการสู้รบในทวีปรกร้างและทวีปทุ่งขาว เขากับกองพลเกราะเทพเจ้าอยู่ห่างจากทวีปทุ่งขาวมาไกลแล้ว
“ทำได้ดี!” อารมณ์ของถังเทียนค่อนข้างดี
ไม่ว่าจะเป็นตู้เค่อหรือเนี่ยชิว
ผลงานของพวกเขาเกินกว่าที่ถังเทียนคาดไว้
ถังเทียนไม่มีความกังวลด้านตู้เค่อเท่าใดนัก
พวกเขาเก็บกวาดพลังงานทวีปรกร้างจนเหลือพลังงานเบาบางอยู่ในทวีป และทำให้เหมาะกับกองทัพแดนบาปของตู้เค่อ
แม้ว่ากองทัพยังไม่สามารถปลดปล่อยพลังได้เต็มที่
แต่ความแข็งแกร่งส่วนตัวของตู้เค่อเพียงพอจะสร้างความยุ่งยากให้ศัตรู นอกจากนี้เบื้องหลังป้อมยังมีแดนบาป ด้วยศักดิ์ศรีของตู้เค่อในแดนบาป เขาสามารถระดมกำลังได้ทั่วแดนบาป
ในการกะการของถังเทียน
แม้ว่าตู้เค่อจะไม่สามารถเอาชนะศัตรูได้
แต่คงไม่มีปัญหากับการถ่วงเวลาศัตรู
แต่ถังเทียนไม่คาดเลยว่า ไม่เพียงแต่ตู้เค่อจะชนะได้เท่านั้น
แต่เป็นชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ทำลายกองทัพคอลลินได้อย่างราบคาบ!
ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอนที่จะทำอย่างนั้นได้
ถ้าชัยชนะของตู้เค่อทำให้ถังเทียนต้องดำเนินการประเมินกองทัพแดนบาปใหม่อีกครั้ง
อย่างนั้นเรือรบรังสีกัมปนาทกลับสร้างความสุขให้เขาอย่างคาดไม่ถึง
เรือรบเก่าแก่เป็นร้อยปีที่ไร้การเหลียวแลเหมือนขยะและกลุ่มมือสมัครเล่นที่ไม่เคยควบคุมเรือรบมาก่อน
ด้วยกลยุทธที่ไม่เคยรับการทดสอบมาก่อน
กลับประสบผลสำเร็จได้ชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ทำลายกองเรือศัตรูลงได้
เมื่อถังเทียนเห็นรายงานนี้ เขาอ้าปากค้างจนหุบไม่ลง
แต่ในเวลาอันรวดเร็วเขากลับดีใจ
‘เป็นไปตามคาดบริวารของข้า ดูสิ, ด้วยอิทธิพลของหนุ่มชาวฟ้าผู้นี้ทุกคนกลับกลายเป็นทรงพลังแข็งแกร่ง!”
‘ใช่แล้ว,
ต้องเป็นเพราะข้าแน่!’
ถังเทียนยินดียิ่งนักและเริ่มไตร่ตรองว่าชัยชนะทั้งสองครั้งจะส่งผลต่อแผนการโดยรวมยังไง หลังจากคิดอย่างจริงจัง ถังเทียนตระหนักได้ทันทีว่าชัยชนะนั้นส่งผลดีต่อแผนการอย่างมาก
‘วิหารกวงหมิงต้องปวดหัวกันหนักแน่ในคราวนี้’ ถังเทียนหัวเราะ จากนั้นเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง
ถังเทียนไม่มีทางคาดเลยว่าชัยชนะทั้งสองส่งผลกระทบต่อวิหารกวงหมิงเกินกว่าเขาจะจินตนาการออก
เรือสินค้าบินอย่างมั่นคงในอากาศมีตราเครื่องหมายการค้ากลุ่มการค้าเมซฟิลด์อยู่ด้านข้าง เมืองด้านล่างมองเห็นได้ชัด ตามแผนการพวกเขาจะไม่หยุดพักในเมือง แต่ต้องรีบมุ่งหน้าไปยังจุดนัดรวมตัว
เมื่อคิดถึงเรื่องที่เขาจะได้พบกับเชียนฮุ่ยในอีกไม่ช้า หัวใจของถังเทียนเร่าร้อนราวกับมีไฟ
‘โอว,
ดูเหมือนว่าข้าต้องไปฝึกเสียบ้างแล้ว เมื่อข้าตื่นเต้น ข้าจะหลับไม่ลง’
ถังเทียนรู้สึกมานานแล้วว่าผิวและกล้ามเนื้อของเขาหนามากและเปลี่ยนแปลง
ผิวทองแดงกระดูกเหล็กและสภาพจิตใจแข็งแกร่ง
ไม่ต้องคิดเลยว่าเขาจะนอนหลับได้ลำบาก
‘ก็ได้ ไม่ได้นอนหลับเพราะเชียนฮุ่ยไม่ใช่เรื่องน่าอายแม้แต่น้อย คนอื่นยังไม่มีโอกาสด้วยซ้ำ’
ถังเทียนพอใจอีกครั้ง
ตอนนี้เขารู้สึกถึงบางอย่างได้ทันที เขาลืมตาที่ฉายแววเยือกเย็น
ร่างของเขาหายวับไปจากเรือ
แทบจะในเวลาเดียวกัน คนอื่นๆ ก็วิ่งออกมาจากเรือสินค้า
เมื่อพวกเขาวิ่งออกมา
พวกเขาตกตะลึงกับสิ่งที่พวกเขาเห็น
พลังงานเหนือเมืองพลุกพล่านทันที
ราวกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นกวนจนเกิดระลอก
พลังงานจากทุกทิศมาบรรจบกัน
ปลดปล่อยระลอกตามๆ กัน
เกิดเป็นรอยฉีกแสงที่มองเห็นได้ในท้องฟ้า
ซึ่งเกิดจากรัศมีพลังเฉิดฉายของพลังงานในอากาศ
แสดงให้เห็นว่าพลังงานเจิดจ้าในบริเวณนั้นหนาแน่นขนาดไหน
เรือรบทุกลำ เรือสินค้า เรือโดยสารในอากาศหยุดหมด
หลายคนวิ่งออกมาพร้อมกับสีหน้าที่ตกใจ
พลเมืองทุกคนภายในเมืองตื่นเต้นรีบออกมาจากที่พัก
มีอยู่นับไม่ถ้วนที่บินขึ้นไปในท้องฟ้า
แสดงสีหน้าที่ตกใจเหมือนกัน
เมลิซซาที่อยู่ด้านข้างเขาเอามือปิดปาก ดวงตาเบิกกว้าง
หน้าของนางแสดงถึงอาการตกใจ
จอห์นสันก็เช่นกัน เขามีสีหน้าเปลี่ยนไป
ถังเทียนอ้าปากค้าง
สายตาของเขาจับนิ่งอยู่ที่ตำแหน่งซึ่งพลังงานหนาแน่นมากที่สุด
พลังงานแสงเจิดจ้าทะลักมาในตำแหน่งเดียวกันจากทุกที่และสร้างรัศมีแสงกลมสีขาว ยิ่งพลังงานทะลักมาเพิ่มขึ้น
รัศมีแสงกลมก็ขยายขนาดเร็วอย่างน่าประหลาดใจ
ในพริบตา รูประฆังมหึมาปรากฏอยู่เหนือเมือง
ถังเทียนแสดงสีหน้าประหลาดใจ
ระฆังที่ดูเหมือนสง่างามถูกสร้างขึ้นมาจากพลังงานเจิดจ้า
ตง
เสียงกังวานดังก้องไปทั่วทั้งแผ่นดิน
ถังเทียนจ้องมองระฆังยักษ์อย่างคลางแคลงใจ
เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นวิชาแบบนั้น และระฆังก็ยังมีพลังงานมาก ถ้ามันระเบิดได้ ถังเทียนรู้ว่าครึ่งเมืองจะราบเป็นหน้ากลอง
ระฆังมีการสะท้อนพลังงานที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งสามารถส่งพลังงานได้
แต่สิ่งที่ทำให้ถังเทียนสนใจก็คือเมื่อระฆังปล่อยเสียกังวาน
คลื่นเสียงสามารถดูดซับพลังงานโดยรอบได้อย่างต่อเนื่อง
ทำให้เสริมพลังของมันได้อย่างต่อเนื่อง
ถังเทียนเข้าใจทันทีว่ามีไว้เพื่ออะไร
นั่นคือวิชาที่ใช้เตือนภัย
ไม่เพียงแต่สามารถลั่นระฆังส่งเสียงกระจายไปเท่านั้น
แต่มันจะมีพลังมากขึ้นซึ่งก็หมายความว่าระฆังสามารถปลุกได้ทั่วทวีปโดยไม่ต้องใช้แรงอะไร
เป็นเคล็ดการใช้พลังที่น่าสนใจและมีประโยชน์มาก
เมื่อเห็นว่าไม่ได้มีไว้สำหรับโจมตี ถังเทียนเบาใจ
หลังจากระฆังลั่นเสียงสามครั้ง ระฆังยักษ์ก็หายไป
กลายเป็นจุดแสงนับไม่ถ้วนที่แตกกระจายไปกับสายลมร่วงลงจากฟ้าเหมือนกับหิมะ
ผู้คนที่ลอยอยู่ในอากาศทั้งหมดดูมีสีหน้าเคร่งเครียดและกังวล ภายใต้พวกเขาเมืองอยู่ในความโกลาหล ร่างนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นท้องฟ้า
ดูเป็นแนวโค้งเหมือนกับว่าทุกคนบินไปในตำแหน่งต่างๆ
“เกิดอะไรขึ้น?”
ถังเทียนถาม
หน้าของเมลิซซาขาวซีด
ราวกับว่านางสูญเสียวิญญาณ
“นั่นคือระฆังศักดิ์สิทธิ์!”
“ระฆังศักดิ์สิทธิ์?”
“ขอรับ, นายท่าน” จอห์นสันเสริมต่อ
สภาพจิตใจของเขาดีกว่าเมลิซซา และอธิบายต่อ
“ระฆังศักดิ์สิทธิ์จะถูกลั่นเสียงต่อเมื่อวิหารกวงหมิงอยู่ในช่วงวิกฤติและอันตราย เมื่อระฆังศักดิ์สิทธิ์ดังขึ้น ตระกูลต่างๆ
จะพายอดฝีมือท้องถิ่นมุ่งสู่วิหารกวงหมิง
เพื่อปกป้องพวกเขา
ในคืนวันเก่าก่อนของทวีปกวงหมิง วิหารกวงหมิงได้ลงลงนามกับตระกูลต่างๆ
เวลานั้นวิหารกวงหมิงไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนทุกวันนี้ และจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากหลายตระกูล
หลังจากนั้นวิหารกวงหมิงแข็งแกร่งมากขึ้นทุกคน
ดังนั้นพวกเขาไม่มีความจำเป็นต้องลั่นระฆัง ข้าไม่เคยคิดเลยว่าวิหารกวงหมิงจะใช้ระฆังศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง ดูเหมือนวิหารกวงหมิงจะถูกไล่ต้อนเข้ามุมเสียแล้ว”
คำพูดของจอห์นสันเต็มไปด้วยอารมณ์อยู่ในดวงตา
วิหารกวงหมิงทรงอำนาจด้วยพลังที่ยากจะหยั่งถึงและพื้นฐานที่แข็งแกร่ง
ใครจะรู้ว่าวิหารกวงหมิงจะลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง
ถังเทียนมีท่าทีหม่นหมอง บรรดาพวกเขาทุกคน
มีเพียงเขารู้ว่าสถานการณ์ของวิหารกวงหมิงย่ำแย่เพียงไหน เขา, เชียนฮุ่ยและลุงปิงพูดคุยปรึกษากันหลายครั้งเกี่ยวกับการแยกสลายกำลังของวิหารกวงหมิงให้เบาบาง
แต่พวกเขาเพียงแต่คิดว่าวิหารกวงหมิงคงจะเกณฑ์ทหารเพิ่มอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่เคยคิดว่าวิหารจะใช้ระฆังศักดิ์สิทธิ์
สำหรับถังเทียนระฆังศักดิ์สิทธิ์ก็คล้ายกับไพ่พิเศษของพวกเขา
ถังเทียนอดยกย่องพวกเขาในใจไม่ได้ ‘ดูเหมือนว่าวิหารกวงหมิงมีคนที่มีความสามารถอยู่แล้ว แทนที่จะสร้างกองทัพใหม่ พวกเขามีมาตรการตอบโต้มากมาย’ ใครจะคิดได้
แม้ก่อนที่ถังเทียนจะขยายแผนการเต็มที่
ศัตรูรู้สึกได้ถึงอันตรายและใช้ระฆังศักดิ์สิทธิ์ช่วย
‘เด็ดขาดจริงๆ’
เมลิซซากลับสงบใจได้และมองดูถังเทียน
จอห์นสันเป็นหัวหน้าผู้คุ้มกันนางและปกติจะมีความรู้เรื่องการสู้รบมากกว่า แต่การฝึกวิธีคิดของเขาง่ายมาก อีกอย่างหนึ่งเมลิซซามีความลึกซึ้งมากกว่า
และสงสัยว่าการดังของระฆังศักดิ์สิทธิ์นั้นต้องเกี่ยวข้องกับถังเทียน
แววหวาดกลัวผุดขึ้นมาในใจนาง
ความนับถือที่นางมีต่อถังเทียนยิ่งเพิ่มมากขึ้น แต่ในเวลาอันรวดเร็ว
นางตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น
กลุ่มการค้าเมซฟิลด์ในปัจจุบันนี้เข้าร่วมกับถังเทียนแล้ว และพวกเขาแบ่งปันเป้าหมายร่วมกัน นอกจากความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งของกลุ่มการค้าเมซฟิลด์แล้ว
แม้แต่กลุ่มการค้าตะวันตกซึ่งเป็นองค์กรการค้าที่แข็งแกร่งที่สุดก็ต้องรับฟังหนุนหลังและรอคำเรียกหาจากวิหารกวงหมิง กลุ่มการค้าตะวันตกถูกทำลายโดยสิ้นเชิง และแม้กระทั่งผู้เกี่ยวข้องที่อยู่รอบๆ นี่มีผลต่อเมลิซซาอย่างมาก
วิหารกวงหมิงไม่เคยฟังข้ออ้างหรือเหตุผลใดๆ ตราบเท่าที่มีการเชื่อมโยงใดๆ มีแต่จุดสิ้นสุดทางเดียวสำหรับพวกเขาเท่านั้น
สายเกินไปสำหรับกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ที่จะแยกตัวมาจากถังเทียน พวกเขามีแต่ต้องเดินเข้าไปในความมืดอย่างเดียวและเป็นธรรมดาที่เมลิซซาหวังว่าถังเทียนจะแข็งแกร่งมากขึ้น
นางหัวเราะเบาๆ
“ดูเหมือนวิหารฯ เผชิญพบกับปัญหาใหญ่เสียแล้ว ถ้าไม่ใช่เรื่องด่วน ทางวิหารจะไม่ลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์แน่ เนื่องจากไม่ใช่ว่าจะเปิดใช้งานกันได้ง่าย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ถังเทียนสงสัยขึ้น “ทำไมเป็นเช่นนั้น?”
เมลิซซาก็มาจากตระกูลชั้นสูงและรู้มากกว่าคนอื่นๆเป็นธรรมดา ดังนั้นนางอธิบาย
“ในปีนั้นภายในข้อตกลงระหว่างวิหารกับตระกูลต่างๆ ได้กล่าวไว้ว่าเมื่อวิหารกวงหมิงเปิดใช้งานระฆังศักดิ์สิทธิ์ ตระกูลต่างๆ ต้องช่วยพวกเขา แต่ก็ยังคงกล่าวว่าเมื่อระฆังดังขึ้น ถ้าตระกูลต่างๆ จะช่วย
สินสงครามทั้งหมดจะถูกกันไว้ให้ตระกูลต่างๆ และวิหารจะไม่ได้รับส่วนแบ่ง สำหรับตรงนี้วิหารกวงหมิงเสียสละอย่างมาก วิหารยึดทวีปซางโจว
และได้เส้นทางเข้าสู่สวรรค์วิถี
ถ้าพวกเขาไม่ลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์
เส้นทางนี้จะตกเป็นของวิหารอย่างสมบูรณ์
และวิหารไม่จำเป็นต้องแบ่งให้ตระกูลอื่นๆ
แต่ตอนนี้ เมื่อวิหารลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์ เส้นทางนั้นจะไม่เป็นของวิหารอีกต่อไป แต่จะเป็นของตระกูลต่างๆ”
ถังเทียนประหลาดใจ
“วิหารยอมเสียทวีปซางโจวได้ยังไง?”
เมลิซซาไม่ตอบ
แต่พูดในใจกับตัวนางเอง ‘นั่นจะขึ้นอยู่กับสิ่งที่เจ้าจะทำต่อวิหาร แต่วิธีที่ข้าเห็น
วิหารถูกบังคับให้ลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์’
ถังเทียนไม่เชื่อว่าวิหารกวงหมิงจะยอมยกทวีปซางโจว
แต่เขาไม่สามารถเข้าใจแรงจูงใจซ่อนเร้นเบื้องหลัง เมื่อคิดต่อไปไม่ออก
ถังเทียนเลิกคิด ‘ข้ามีสหายฉลาดอยู่เยอะแยะไปหมด
ก็แค่ถามเชียนฮุ่ยหรือลุงปิงก็ได้’
จากนั้นเขาถาม
“จะมีคนเท่าไหร่ที่พวกเขารวบรวมได้?”
“ข้าไม่รู้”
เมลิซซาส่ายศีรษะ
“วิหารไม่ได้ลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์มานานแล้ว ยากที่จะประเมินได้ว่าจะมีคนมารวมตัวเท่าใด แต่แม้ตระกูลที่มีพลังเล็กน้อยก็ยังไปร่วม แค่ในกรณีที่วิหารฯ จะมอบผลประโยชน์ตอบแทน
แม้ว่าพวกเขาจะไปเดินสำรวจรอบๆ ดูพวกเขาก็จะไป
ถังเทียนสังเกตถึงปัญหาได้ทันที “แล้วพลเมืองเล่า? พวกเขาถูกเกณฑ์เป็นทหารหรือไม่?”
“พลเมือง?” เมลิซซาประหลาดใจ แต่นางแก้ไขทันที “พวกเขาจะใช้ประโยชน์อะไรจากพลเมืองได้? ความมั่งคั่งและพลังเป็นของตระกูลใหญ่ พวกเขาคือรากฐานที่แท้จริงของวิหารกวงหมิงที่รวมตัวกันอยู่ ประชาชนผู้ไร้ประโยชน์เหล่านั้นไม่มีค่า วิหารกวงหมิงไม่สนใจว่าพวกเขาจะอยู่หรือตาย”
ถังเทียนไม่เห็นด้วยกับมุมมองของเมลิซซา กลุ่มดาวหมีใหญ่ของเขาไม่มีตระกูลใหญ่ แต่วิธีการที่วิหารทำ
ถังเทียนฟังแล้วรู้สึกโล่งอก
แต่เขาไม่กังวลถึงคำถามนี้ต่อไป แต่ถามต่อ
“กลุ่มการค้าเมซฟิลด์จะถูกเกณฑ์ด้วยหรือเปล่า?”
เมลิซซาลังเลเล็กน้อย จากนั้นพยักหน้า “ถูกแล้ว”
ถังเทียนตาเป็นประกาย

10 ความคิดเห็น:
ขอบคุณมากครับ
เข้าสู่ใจกลางวิหารแน่งานนี้
แทนที่จะเรียกคนมาช่วย นี้เปิดประตูต้อนรับพี่ถังเลย
ขอบคุณครับ
ขอบใจจ้าาาาา
เปลี่ยนแผนเบย 555
ขอบคุณครับ
สลัดมั้ยล่ะ กวงหมิง
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากค่ะ
แสดงความคิดเห็น