วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 896 พบพานอีกครั้ง


ตอนที่  896  พบพานอีกครั้ง
ภายใต้เงาอาทิตย์ปรากฏร่างที่คุ้นเคยและงดงามขึ้น แค่ชำเลืองมอง  ถังเทียนก็จำนางได้
ความร่าเริงยินดีเอ่อท้นไปทั้งร่างกายของเขา  เขาเหม่อจ้องมองนางขณะที่แสงอาทิตย์ส่องมาจากด้านหลังผ่านผมยาวสวยงามของนาง  ความงดงามของวันวานยังคงเหมือนเดิม หญิงสาวที่เขารู้จักดูเหมือนเดินออกมาจากความฝันและปรากฏตัวอยู่หน้าเขา

เขาลืมพูดและเหม่อมองนางอย่างไม่เกรงใจ
เหมือนกับความฝัน ฝันที่เขาปรารถนาไม่หยุดยั้ง ความทรงจำอันไกลโพ้นทั้งหมด เมืองซิงฟง สถานบันแอนดรูว์ เด็กหญิงที่อ่อนแอร้องไห้ขี้มูกโป่ง เด็กหนุ่มอัจฉริยะที่คนก่นด่าทั่วเมือง เด็กสาวผู้ยืนอยู่ข้างเขาเงียบๆ บนภูเขา เด็กสาวผู้เสี่ยงชีวิตเพื่อเขา...
ร่างเด็กสาวที่มีทั้งด้านมืดและด้านสว่างได้ฝังอยู่ในใจของเขา
ไม่รู้ว่านางไปอยู่ตรงนั้นเมื่อใด
นางอยู่ตรงที่นั้นโดยไม่รู้ตัว
 “เชียนฮุ่ย”  เขาพูดราวกับว่าส่งเสียงละเมอ ไม่มีวี่แววของผู้ทรงอิทธิอำนาจของกลุ่มดาวเหลืออยู่เลย ไม่รังสีฆ่าฟันของเทพสงครามไร้เทียมทาน  ถังเทียนในตอนนี้เป็นแค่บุรุษหนุ่มธรรมดา
เขาพูดเสียงอ่อนโยนมาก  เหมือนกับว่ากลัวนางจะตกใจกลัว
ตั้งแต่เวลาที่นางเห็นถังเทียน ความรู้สึกเหมือนกับว่าถูกฟ้าผ่า เชียนฮุ่ยนิ่งอึ้งอยู่กับที่  เพราะเหตุผลบางอย่าง สาวน้อยเม้มฝีปากแน่นเหมือนกับเด็กหญิงที่ได้รับทุกข์ใจ นางเริ่มหลั่งน้ำตา  ส่วนที่ยากที่สุดนางผ่านมาได้แล้ว ความปรารถนาทั้งหมด  ความทุกข์ทนทั้งหมดความว้าเหว่เดียวดาย ทั้งหมดนั้นผุดขึ้นมาพร้อมกัน
น้ำตาเอ่อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ร่างที่อยู่ข้างหน้านางพร่าเลือน  และร่างอ่อนล้าที่ปกป้องนางคอยยืนอยู่หน้านาง และร่างที่มักจะรับการเยาะเย้ย แต่ไม่เคยยอมแพ้ ร่างที่นอนอยู่บนสนามหญ้าเคียงข้างแหงนดูท้องฟ้า  และร่างที่นั่งอยู่บนโต๊ะเขียนจดหมายถึงนาง ทั้งหมดผสานรวมเป็นหนึ่ง
เสียงร้องเบาๆ ครั้งสุดของสาวน้อยเชียนฮุ่ยที่ยับยั้งเอาไว้ทำให้ความอดทนในร่างนางหายไป
 “พี่เทียน!”
อารมณ์ความยินดีนับไม่ถ้วนทะลักออกมาจากน้ำตา  ขณะที่นางวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดถังเทียน
ผมที่สยายอยู่ด้านหลังของนางสะท้อนกับแสงแดดอบอุ่น
ไม่ใช่ว่าทุกที่จะมีความชื่นมื่นยินดีเหมือนกับกลุ่มการค้าเมซฟิลด์  ในมุมอื่นของเมืองหิมะขาว บรรยากาศในลานแห่งหนึ่งเคร่งขรึมและมีความวิตก
 “เป็นไปได้หรือว่าเราจะต้องปล่อยไป?”  ชิวหวินฉียืนขึ้น ไม่มีบุคลิกเดิมของเขาตามปกติ  ตอนนี้เขาดูท่าทางน่ากลัว  เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาปูดโปน  “พวกมดแมลงเหล่านั้นพวกมันกล้าได้กล้าเสียกับเรา  หน้าตาของตระกูลชิวไม่มีค่าแล้วหรือไง?  ต่อหน้าคนมากมาย ตระกูลชิวของเรากลายเป็นตัวตลก  ตระกูลชิวของเราไม่สามารถรับมือพวกมดแมลงอย่างกลุ่มการค้าเมซฟิลด์แล้วใช่ไหม?  วิหารมีเจตนาเข้าข้างพวกมัน  พวกมันกำลังกำลังต้านเรา  อัศวินพิเศษกวงหมิงมาแล้วไงเล่า?  ถ้าพวกเขากล้าลงมือ...”
เผียะ!
เสียงตบดังขึ้น  ชิวหวินฉีถึงกับทำหน้าบิดเบี้ยว  พลังรุนแรงขนาดทำให้ชิวหวินฉีหมุนคว้างกระแทกกับชั้นวางหนังสือ  โครม.. หนังสือร่วงลงใส่ชิวหวินฉีทั้งหมด
 “สวะ” บุรุษที่มีสีหน้าเฉยเมยรั้งมือขวากลับ  เขามองดูคล้ายกับชิวหวินฉีมาก  แต่เมื่อเทียบกับชิวหวินฉี  เขาดูไม่แยแสและใจเย็น  รังสีฆ่าฟันแผ่อยู่รอบตัวเขาทั้งหมด  เขาคือพี่ชายของชิวหวินฉี ชิวเป่ยฟง
แรงตบของเขาแฝงด้วยพลังมากจนชิวหวินฉีไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ครึ่งค่อนวัน
 “ถ้าเจ้าไม่ใช่น้องชายข้า  เจ้าตายไปแล้ว”  สายตาของชิวเป่ยฟงไม่มีร่องรอยความอบอุ่นแม้แต่น้อย เหมือนกับว่าเขากำลังพูดเรื่องธรรมดา  “หยุดเรียกคนอื่นว่ามดแมลงได้แล้ว  เจ้าไม่สามารถเอาชนะมดแมลงได้สักตัว  ถ้าเจ้าไม่ใช่สวะ อย่างนั้นเจ้าเป็นอะไร?  นี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย  ข้าไม่สนว่าเจ้าชอบผู้หญิงคนไหน  ข้าไม่สนว่าเจ้าชอบอวดโอ่  แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้าต้องทำให้เจ้าเข้าใจให้ชัดเจน  อย่ากลายเป็นสวะ  ข้าเกลียดสวะ  นี่จะเป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้า  ถ้าเจ้ายังทำตัวเหมือนสวะต่อไป  ข้าจะฆ่าเจ้ากับมือตัวเอง”
พูดเพียงเท่านั้น เขาออกไปโดยไม่หันมามองชิวหวินฉีอีกเลย
ชิวเป่ยฟงกลับไปที่ค่าย  ตั้งแต่เขาเข้าควบคุมกองทัพ  เขายืนยันที่จะกินและอยู่กับทหารของเขา
 “เราจะปล่อยกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ไปจริงๆ หรือ?”  บุรุษผู้คล่องแคล่วแข็งแรงแต่ดูดุร้ายเข้ามารับหน้าเขาชื่อชิวหลี่และเป็นลูกหลานของตระกูลชิว  แต่เขามาจากสายสาขาตระกูลชิว  และติดตามชิวเป่ยฟงมาหลายปี กลายเป็นขุนพลที่มีความสามารถและแข็งแกร่งภายใต้บังคับบัญชาของชิวเป่ยฟง
 “ปล่อยให้หวินฉีจัดการ  ถ้าเขาไม่สามารถรับมือพวกเขาได้  เขามีชีวิตอยู่ไปก็ไม่มีความหมาย”  ชิวเป่ยฟงแค่นเสียง
ชิวลี่พยักหน้า  เขาคุ้นเคยกับอารมณ์ของชิวเป่ยฟง  เขารู้ว่าถ้าชิวหวินฉีไม่สามารถรับมือตระกูลการค้าเมซฟิลด์ได้  ชิวเป่ยฟงจะฆ่าเขาแน่นอน
ชิวหลี่ติดตามชิวเป่ยฟงมาหลายปีมากแล้ว  และได้รับความหยิ่งมาจากชิวเป่ยฟง  เขาไม่สนใจในกลุ่มการค้าเมซฟิลด์เช่นกัน
 “เหตุผลที่เรามาที่นี่ในครั้งนี้ก็คือรับโอกาสไปทวีปซางโจว”  ชิวเป่ยฟงพูดอย่างไม่ใส่ใจ
ทวีปกวงหมิงมีตระกูลชั้นสูงจำนวนมากรวมตัวกันอยู่ในทวีปเซียน  แต่ด้วยตระกูลที่มากมาย  บางตระกูลก็จำเป็นต้องอยู่ในทวีปกวงหมิงขณะที่ตระกูลอื่นสามารถไปทวีปซางโจวได้  เนื่องจากทวีปกวงหมิงไม่มีความมั่นคงภายใน ไม่ว่าจะเป็นโจรทวีปทองหรือพวกแดนบาป  พวกเขาล้วนเป็นปัญหาทั้งนั้นและต้องการได้คนไปตามจับพวกเขา
ผลประโยชน์ในทวีปกวงหมิงได้ถูกแบ่งไปแล้วจนกระทั่งไม่มีอะไรเหลือและตระกูลต่างๆ ปรารถนาจะได้ครอบครองดินแดนเป็นของตน  และสิ่งที่เหลืออยู่ในทวีปกวงหมิงจะรับก็โดยผ่านการทำงานหนัก
เมื่อสามารถมุ่งสู่สัมพันธมิตรใต้เพื่อเสริมกำลังคนปกป้องเส้นทางลำเลียงนับได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีกว่า  เนื่องจากสัมพันธมิตรใต้ถือว่าเป็นพื้นที่ดีสำหรับขยายดินแดน
แต่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผลประโยชน์ที่ใหญ่ที่สุดจะต้องไปที่ทวีปซางโจวเพื่อหาเส้นทางเข้าสวรรค์วิถี  มันคือโลกใหม่ ซึ่งหมายถึงโอกาสและความมั่งคั่งไม่สิ้นสุด  ถ้าพวกเขาสามารถเข้าสวรรค์วิถีได้เร็วกว่า  รากฐานของตระกูลชิวจะสามารถคงอยู่ไปได้เป็นพันปี เชื่อมั่นว่าจะไม่ล่มสลาย
ตระกูลชิวและตระกูลอื่นเข้าใจตรงจุดนั้น  นั่นคือเหตุผลที่มีการแข่งขันและขัดแย้งกันระหว่างตระกูล
ทันใดนั้น ชิวเป่ยฟงพูดขึ้นทันที “ไป, ส่งคนส่วนหนึ่งติดตามหวินฉีไป”
นับตั้งแต่ชิวเป่ยฟงนำทหารของเขาเข้ามาในเมืองหิมะขาว  บรรยากาศของเมืองหิมะขาวตึงเครียดทันที  พลังและชื่อเสียงของชิวเป่ยฟงยิ่งใหญ่กว่าและแข็งแกร่งกว่าชิวหวินฉีหลายเท่า  แต่เขามีชื่อเสียงที่สุดเพราะการเป็นนักฆ่าที่เย็นชา  เขาถูกเรียกว่าเพชฌฆาตเลือดเย็น และไม่มีใครรู้ว่าในสายตาของเขาเห็นคนตายมามากมายเท่าใด
ทุกคนรู้ว่าตระกูลชิวจะไม่ยอมปล่อยไปแน่นอน  ชิวหวินฉีจะไม่มีทางปล่อย  ชิวเป่ยฟงก็จะไม่มีทางปล่อย  พวกเขาจะต้องตอบโต้อย่างแน่นอน
แม้แต่หน่วยอัศวินพิเศษกวงหมิงจะลาดตระเวนอยู่ในเมืองหิมะขาว  ก็ยังกังวลว่าชิวเป่ยฟงจะบ้าระห่ำ  นี่คือหน่วยส่วนตัวของโซเฟีย  ซึ่งแสดงว่าทางวิหารจับตาสถานการณ์มากมายเพียงไหน
แต่ชิวเป่ยฟงไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร  ราวกับว่าเขาลืมเรื่องที่เกิดขึ้น  แต่โซเฟียยังคงสงบ  นางรู้ว่าชิวเป่ยฟงเจ้าเล่ห์ และปกติจะเคลื่อนไหวเมื่ออีกฝ่ายไม่รู้ตัว  โซเฟียรู้ว่าการป้องปรามของนางส่วนใหญ่มุ่งไปที่ตระกูลชิว  และถ้าตระกูลชิวเคลื่อนไหวเข้าย่ำยีกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ วิหารก็คงจนใจไม่สามารถลงโทษตระกูลชิวได้
ถ้าพวกเขาต้องลงโทษตระกูลชิว ทางตระกูลชิวจะคิดถึงผลที่ตามมา  วิหารจะไม่สามารถทนรับการตอบโต้ที่ตระกูลชิวเริ่มได้
สิ่งที่วิหารสามารถทำได้ก็คือหยุดการฆ่าก่อนที่จะเริ่มต้น
 “สถานการณ์เป็นเช่นไร?”  โซเฟียถาม
 “ชิวเป่ยฟงไม่เคลื่อนไหว”  อัศวินกวงหมิงคนหนึ่งรายงาน  “ชิวหวินฉีสร้างเครือข่ายติดต่อทุกที่  ดูเหมือนว่าเขาคิดส่งผ่านแผนของเขา  กล่าวกันว่าเขาจะถูกชิวเป่ยฟงลงโทษ  ชิวเป่ยฟงพูดว่าถ้าชิวหวินฉีไม่สามารถล้างแค้นได้ชิวเป่ยฟงจะฆ่าเขาด้วยตัวเอง  แต่เราพบว่าเขาส่งคนไปบางส่วนเพื่อปกป้องชิวหวินฉี”
โซเฟียขมวดคิ้ว  ชิวเป่ยฟงไม่ได้เห็นความสำคัญของคำสั่งโอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์เลย
เขาเป็นคนดุร้ายที่ฆ่าได้โดยไม่ยั้งคิด  และสามารถฆ่าน้องชายแท้ๆ ได้โดยไม่กระพริบตา  สมกับฉายาว่าเพชฌฆาตเลือดเย็นจริงๆ
 “ชิวเป่ยฟงให้ชิวหวินฉีไปจัดการล้างแค้นด้วยตนเอง  ซึ่งก็หมายความว่าเขาจะไม่ระดมกำลังทหารส่วนตัว”  โซเฟียตาเป็นประกาย  “ชิวหวินฉีหาคนอื่น  จงให้ความสนใจกับตระกูลที่สนิทกับชิวหวินฉี  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มการค้าอลิซาเบธ  เตือนพวกเขา ใครก็ตามที่กล้าต่อต้านคำสั่งฝ่าบาทจะต้องถูกทำลาย  เราไม่สามารถรับมือกับตระกูลชิวได้  แต่ตระกูลอลิซาเบธหลบเลี่ยงไม่ได้  จับตาทหารเหล่านั้นให้ดี  ชิวเป่ยฟงเป็นคนเจ้าเล่ห์มากฝ”
 “ขอรับ!”  อัศวินนั้นรับคำและออกมา
 ดูเหมือนว่าดีแล้วที่ข้ามา  โซเฟียรู้ว่าชิวเป่ยฟงยังมีความกลัวเกรงต่ออัศวินพิเศษกวงหมิง  มิฉะนั้นเขาคงลงมือเองไปนานแล้ว
สถานการณ์ยิ่งแย่ลงมาก  และโซเฟียไม่ชอบให้ซับซ้อนแม้แต่น้อย  นางชอบการต่อสู้ดีๆ
 โชคดีที่ข้าไม่ต้องคิดอะไรมาก  ข้าแค่ต้องแน่ใจว่าตระกูลชิวจะไม่เคลื่อนไหว  และงานของข้าสำเร็จแล้ว สำหรับสิ่งที่เหลือ ข้าจะปล่อยให้ประมุขผู้อาวุโสและฝ่าบาท
*********

สาขากลุ่มการค้าตระกูลเมซฟิลด์
 “พวกเขาจะมาหรือไม่?”  หน้าของจี๋เจ๋อมีท่าทีเหลืออด  “เจ้าบอกว่าตระกูลชิวเป็นตระกูลอันดับหนึ่งไม่ใช่หรือ  ทำไมพวกเขาถึงขลาดกลัวนักเล่า?  จนป่านนี้ พวกเขายังไม่มารับคนของพวกเขา  พวกเขากำลังทำอะไร!
เขากำลังจะร้องไห้ มันยากนักหรือกับแค่มาขอท้าสู้ดีๆ?
 พวกเจ้าบอกว่าพวกเจ้าเป็นตระกูลอันดับหนึ่ง   ความหยิ่งยโสของเจ้าหายไปไหนแล้ว!’
 ฮึก ฮึก ในที่สุด พวกเจ้าก็แค่โกหก!’
เมลิซซามองดูจี๋เจ๋ออย่างสงบ  นางไม่เคยเห็นใครที่ต้องการหาความผิดกับคนอื่นขนาดนั้น เจ้าอยู่อย่างปกติขึ้นหน่อยไม่ได้หรือไง
 “ใช่แล้ว นั่นก็ถูกแล้ว”  อาซิ่นอยู่ข้างๆ และรู้สึกเบื่อพอกัน เขาใช้มือต่างหมอนนอนอยู่บนพื้นและพูดอย่างอ่อนอกอ่อนใจ “ทำไมชีวิตถึงไม่มีความหมายนะ?  ถังเทียนและคุณหนูกำลังมีความสุข  พวกเขาไม่คิดถึงอารมณ์ของเราเลยหรือ?  เสี่ยวม่านจ๋า, เราได้แต่มองดูอย่างว่างเปล่า เพราะอัตตาของเราสูงส่ง  มามะ, มาช่วยข้าหน่อย ขอจุ๊บ..สักทีก็พอ...”
ป้าบ!
ด้านแบนของดาบยักษ์ฟาดใส่อาซิ่นปลิวไปในอากาศ
ฝูเจิ้งจือทำตาเหลือก  ดูเหมือนบริวารของนายหญิงไม่มีตรงไหนที่ดีกว่า
สำหรับจี๋เจ๋อ ตาของเขาแวววาวด้วยแสงขณะที่เขามองเสี่ยวม่าน  ดาบนั้น พลังนั่น อารมณ์แบบนั้น นางสมบูรณ์แบบที่จะสู้ด้วย!’
 “มาเลย เรามาพนันกันด้วยเกียรติของเจ้านายเราและนายหญิง  มาสนุกกับการต่อสู้เถอะ!
รอบๆ เขาทุกคนมีสีหน้าแปลกประหลาดทันที
ปัง!
ขาข้างหนึ่งยันเข้าที่หลังจี๋เจ๋อ  ตาเขาเบิกกว้างก่อนที่เขาจะทันรู้ตัว เขากลิ้งเป็นลูกบอลกระเด็นออกไป 20 เมตร
ถังเทียนถอนเท้ากลับมาอย่างสงบ  มือข้างหนึ่งจูงเชียนฮุ่ย และพูดอย่างเด็ดขาด
 “ดูเหมือนพวกเจ้าทุกคนจะพักกันพอแล้ว ได้เวลายืดเส้นยืดสายกันบ้างแล้ว

17 ความคิดเห็น:

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

โอ้ยยยยย กว่าจะได้เจอกัน

Unknown กล่าวว่า...

ได้เวลาลุยแล้ว ตอนหน้าขอเลือดเยอะๆนะ

neng2006 กล่าวว่า...

นางเอกก็มาแล้ว ได้แล้วลุยยยยย

minibull กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

วันนี้ที่รอยคอ

เทพ3บาท กล่าวว่า...

เหมือนอ่านข้ามไปตอนหนึ่งเลย.

Unknown กล่าวว่า...

800กว่าตอน กว่าจะได้เจอกัน

Unknown กล่าวว่า...

ยืดเส้นยืดสายยย 5555

Unknown กล่าวว่า...

ลาบรออบูาขาดเลือดครับ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Neoplasm24 กล่าวว่า...

มันยังไม่รู้ใช่มั้ย หัวหน้าแก๊งทั้ง2คนอยู่ในเมืองแล้ว สงสารวิหาร

Sunrise กล่าวว่า...

เปงตนที่อ่านแล้วอมยิ้ม

Boybravo กล่าวว่า...

มาเจอกันตอนท้ายเรื่องเลย
ขอบคุณผู้แปล

Unknown กล่าวว่า...

เป็นนางเอกที่ค่าตัวแพงจริงๆ

Unknown กล่าวว่า...

จีเจ๋อโดนถีบ555

Anny กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ

แสดงความคิดเห็น