เล่ม
13 เกบาโดส – ตอนที่ 30 เรียกว่าซ้อมมือ
สภาพแวดล้อมของภูเขาฆ้องทองแดงงดงามมาก ภายในหุบเขาลึกเงียบสงัด มีน้ำตกและสระอยู่ภายใต้นั้น
ลินลี่ย์กับบีบีสร้างบ้านศิลาสองหลังและอยู่ในนั้น ลินลี่ย์ไม่ต้องการไปรบกวนจ้าวภูเขาฆ้องทองแดง
แค่ขอให้เขาให้คำแนะนำลินลี่ย์ก็เพียงพอแล้ว
“ครืนนน...”
น้ำตกเทตัวลงมาเหมือนไข่มุกสีขาวนับไม่ถ้วนกระแทกกับสระลึกข้างล่าง
“ซูมมม!”
น้ำในสระไหลออกไปในกระแสลำธาร
ลินลี่ย์นั่งในท่าขัดสมาธิอยู่ข้างสระในพงหญ้า ร่างหลักของเขาเริ่มสงบใจลงและเน้นปรับให้เข้าเคล็ดความรู้ลึกลับแก่นธาตุดิน ขณะที่ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของเขายังคงวิเคราะห์ธาตุลมต่อไป
“ข้าไม่เคยให้ความสนใจต่อแก่นธาตุดินอย่างที่เป็นในปัจจุบันมาก่อน”
ลินลี่ย์ส่งพลังจิตทั้งหมดออกไปสัมผัสทุกอณูแก่นธาตุดิน
อณูแก่นธาตุดินมีขนาดเล็กมาก ไม่มีทางที่ใครจะเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่อณูแก่นธาตุดินเหล่านี้มีเต็มโลกไปหมด อณูแก่นธาตุดินแต่ละอณูลอยอยู่ในพื้นที่ใกล้ๆ
เคลื่อนไหวอย่างสับสนไม่แน่นอน
และจากนั้นอณูเหล่านั้นจะชนปะทะกันเองและแยกกระจายไป
อณูแก่นธาตุดินบ้างก็ดึงดูดกัน จากนั้นก็ผลักดันกัน
“แปลก, นี่คือธาตุดินหรือ?”
ลินลี่ย์ถอนหายใจสรรเสริญ
และจากนั้น
ขณะที่ลินลี่ย์ใส่พลังจิตเข้าไปในธาตุดิน
“อณูแก่นธาตุที่แข็งตัวเหล่านี้อยู่ใกล้กันเกินไป” ความจริงเป็นเช่นนั้น หินและฝุ่นทั้งหมดสร้างขึ้นจากแก่นธาตุดิน
ยกเว้นความหนาแน่นของธาตุสูงมาก
“แม้ว่าดินไม่มีที่สิ้นสุดและศิลาภูเขาจะก่อตัวขึ้นจากแก่นธาตุดิน
แต่ทั้งหลายเหล่านี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกถึงกลิ่นอายธาตุแข็งแกร่งเลย
อา” หัวใจลินลี่ย์เต็มไปด้วยความตกใจ “ตามพฤติกรรมรูปแบบอณูธาตุดินในอากาศ เมื่ออณูธาตุเข้ามาถึงในระยะใกล้มาก
พวกมันจะผลักกันและกัน จากนั้นทำไม.. กลุ่มจำนวนอณูที่หนาแน่นมากเหล่านั้นในหินจึงไม่ผลักกันเอง?”
ลินลี่ย์เองก็สามารถควบคุมแก่นธาตุดินสร้างกองฝุ่นหรือหินหรือโลหะได้
แต่เมื่อเขาทำเช่นนั้นจะเกิดกลิ่นอายธาตุที่แข็งแกร่ง
“ทำไมหินและโคลนจึงไม่ให้ความรู้สึกถึงรัศมีธาตุที่แข็งแกร่ง?” ลินลี่ย์ไม่เคยพบเรื่องนี้มาก่อน
ดังนั้นดูเหมือนชิ้นก้อนหินและฝุ่นธรรมดาจะแฝงไปด้วยเคล็ดความรู้ลึกลับเฉพาะตนเอง
ใจของลินลี่ย์ไม่สามารถทำความเข้าใจได้
ความขัดแย้งทุกอย่างทำให้เขาเข้าใจลำบาก
การฝึกอย่างนี้
ลินลี่ย์เริ่มซึมซับเข้าไปในโลกแห่งแก่นธาตุดินที่น่าอัศจรรย์
“โกรวววว...”
ช่วงสองเดือนที่ผ่านมา
ภูเขาฆ้องทองแดงจะมีเสียงคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวและเสียงตะโกนออกมาจากภายในเป็นครั้งคราว นี่เป็นเพราะขณะฝึก
ลินลี่ย์จะควบคุมแก่นธาตุสร้างอสูรเวททุกรูปแบบซึ่งปล่อยเสียงคำรามด้วยความโกรธเป็นครั้งคราว เกี่ยวกับความรู้เข้าใจในแก่นธาตุธรรมชาติ
ความแตกต่างขัดแย้งได้รับการแก้ไขครั้งแล้วครั้งเล่า
ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจแล้วว่าการใช้พลังจิตฝืนควบคุมแก่นธาตุสร้างสิ่งที่แข็งกระด้างเป็นเรื่องที่โง่!
“ระหว่างอณูแก่นธาตุเองและระหว่างอณูแก่นธาตุอื่น
มีความเกี่ยวข้องกันอย่างลึกลับและน่าทึ่ง
ทั้งหมดที่ข้าต้องทำก็คือใช้พลังจิตพิเศษเพิ่มเล็กน้อย และข้าสามารถทำให้อณูแก่นธาตุนับไม่ถ้วนกลายเป็นหนึ่งได้”
ลินลี่ย์ลืมตามองดูหมีปฐพีที่คำรามอยู่ในกลางอากาศอย่างดุร้าย
หมีปฐพีนี้ตลอดทั้งตัวของมันจะมีรัศมีแสงสีเหลืองคลุมตัว มันคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวพลางทุบอกมันเอง
หมีปฐพีนี้สร้างขึ้นมาจากแก่นธาตุดิน
“สองเดือนที่แล้ว ถ้าข้าใช้เวทต้องห้ามเรียกหมีปฐพีนี้ออกมา ข้าจะต้องใช้พลังจิตมากกว่าถึงสิบเท่า
หรือบางทีอาจมากกว่านั้น!” ลินลี่ย์อดถอนหายใจไม่ได้ “และนี่คือความเข้าใจเคล็ดความรู้ ‘แก่นธาตุดิน’ เพียงน้อยนิดของข้า”
ถ้าเขาเข้าใจเคล็ดความรู้ลึกลับแก่นธาตุดินได้อย่างสมบูรณ์ ก็จะแตกต่างอย่างมากมาย
“ถ้าท่านใช้คนสองคนที่มีพลังจิตพอๆ กัน
คนหนึ่งฝึกมาทาง ‘แก่นธาตุดิน’ ขณะที่อีกคนหนึ่งไม่ได้ฝึก ความแตกต่างของพลัง ‘เกราะผู้พิทักษ์ดินศักดิ์สิทธิ์’ ที่พวกเขาสร้างขึ้นจะมีความแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน”
“แก่นธาตุธรรมชาติช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ”
ลินลี่ย์รู้สึกซาบซึ้งขอบคุณจ้าวภูเขาฆ้องทองแดงลีย์ลินยิ่งนัก
คำพูดของลีย์ลินถูกต้อง เคล็ดความรู้ลึกลับแก่นธาตุดินเป็นแค่เพียงพื้นฐาน
กฎธรรมชาติของธาตุดินทั้งหมดไม่มีอะไรมากไปกว่าเคล็ดความรู้ลึกลับหลายอย่างซึ่งถูกสร้างมาจากแก่นธาตุดินนับไม่ถ้วน การเข้าใจเคล็ด ‘แก่นธาตุดิน’ จะช่วยทำให้เข้าใจเคล็ดความรู้ลึกลับอื่นได้ด้วย
ที่พักของลีย์ลิน
ภูเขาฆ้องทองแดง
ภายในคฤหาสน์ธาตุดิน
ลีย์ลินอยู่กับพี่ชายทั้งสอง
ลีย์ลินเลิกคิ้วสีแดงเข้ม
เขาถอนหายใจชมเชยขณะกล่าว “พรสวรรค์ของลินลี่ย์ผู้นี้ดีเยี่ยมจริงๆ ในช่วงวลาสั้นๆ เพียงสองเดือน
เขาเข้าถึงความเข้าใจ ‘แก่นธาตุดิน’ ระดับสูงได้ถึงเพียงนั้น ด้วยความเร็วในการเรียนรู้ปัจจุบัน...
เคล็ดความรู้ลึกลับ ‘แก่นธาตุดิน’
เป็นความรู้ที่ง่าย เป็นไปได้ว่าใช้เวลาเพียงสองสามปี
เขาคงจะเชี่ยวชาญอย่างสมบูรณ์”
“ลินลี่ย์มีพรสวรรค์ธรรมชาติ แต่ยังจะเทียบกับเจ้าได้หรือ น้องสาม?” บุรุษศีรษะโล้น เบอร์เกสหัวเราะ
บุรุษชุดขาวยังกล่าว “น้องสาม,
เจ้าคืออัจฉริยะที่ทรงพลังที่สุดอย่างแท้จริงในประวัติศาสตร์ทวีปยูลานของเรา”
บุรุษชุดขาวและและเบอร์เกสมองดูลีย์ลินด้วยสายตาที่ชื่นชม
“พวกท่านอย่าพูดอย่างนั้น” ลีย์ลินมองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
เหมือนกับว่าเขาสามารถมองทะลุผนังและเห็นลินลี่ย์ที่อยู่ในระยะไกล
กำลังฝึกอยู่ในหุบเขา
เขาหัวเราะและกล่าวอย่างใจเย็น “ลินลี่ย์ผู้นี้เป็นเพียงระดับเทียมเทพ
เขาเพิ่งเริ่มเส้นทางการฝึกฝน
ใครจะคาดเดาได้ว่าในอนาคตของเขาความสำเร็จของเขาจะเป็นเช่นไร?”
“อย่างน้อยเนื่องจากความเร็วในการฝึกฝนปัจจุบันของเขา
เขาเพียงแต่ช้ากว่าข้าเมื่อในอดีตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ส่วนความสำเร็จในอนาคตของเขา
นั่นยากจะพูด”
บุรุษศีรษะล้านและบุรุษชุดขาวพยักหน้าเล็กน้อยทั้งคู่
“เบรุตผู้นั้นแจ้งบอกข้าว่าในพิภพอื่น
ยังมีอัจฉริยะผู้สามารถเข้าถึงระดับเทียมเทพภายในสิบปีได้ ระดับเทพแท้ภายในร้อยปี และระดับเทพชั้นสูงภายในพันปี แต่คนโง่เขลา
พวกเขาอาจจะติดอยู่ที่คอขวดเป็นเวลาล้านๆ
ปีโดยไม่สามารถบรรลุผ่านไปถึงระดับเทียมเทพได้” ลีย์ลินหัวเราะอย่างสงบ
“นั่นคือความหมายของการรู้แจ้งและเข้าใจ”
ลีย์ลินถอนหายใจ
“ลินลี่ย์นี้เป็นคนที่มีความเข้าใจได้ลึกซึ้งแจ่มแจ้งมากคนหนึ่ง”
“กลายเป็นเทพชั้นสูงในเวลาพันปี
นี่เป็นเรื่องที่นึกไม่ถึงเลย”
เบอร์เกสและบุรุษชุดขาวถอนหายใจทั้งคู่
ลีย์ลินหัวเราะอย่างใจเย็น
“นี่ต้องเกี่ยวข้องกับวาสนาและประสบการณ์ของแต่ละคน
อัจฉริยะระดับสูงสุดอย่างนั้นไม่คู่ควรกับการเอ่ยถึง!”
ลีย์ลินค่อนจะรังเกียจต่ออัจฉริยะเหล่านั้นอย่างเห็นได้ชัด
“อัจฉริยะเหล่านั้นแค่ต้องการจะเข้าถึงระดับเทพชั้นสูงให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้
แต่พวกเขาจะรู้ได้ยังไงว่าถ้าผู้ฝึกไม่ได้เริ่มพยายามหลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับต่างๆ
ตั้งแต่แรก ถ้าพวกเขาเริ่มและพยายามหลอมรวมเคล็ดความรู้เหล่านั้นเมื่อเข้าถึงระดับเทพชั้นสูง ก็จะสายเกินไป!”
“เคล็ดความรู้ลึกลับของกฎธาตุต้องหลอมรวมให้ได้ตั้งแต่แรก ถ้าทำได้ก่อนก็จะง่ายมากขึ้น” ลีย์ลินถอนหายใจ “ถ้าข้าเข้าใจเรื่องนี้ตั้งแต่ข้ายังเป็นเทียมเทพ
มีแนวโน้มว่าข้าจะสามารถหลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับทั้งหกกลายเป็นสุดยอดเทพชั้นสูงได้”
“หลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับทั้งหมดหรือ? น้องสาม
ในพิภพนับไม่ถ้วน จะมีสักกี่คนที่ทำตรงนี้ได้สำเร็จ?” บุรุษชุดขาวกล่าว
ลีย์ลินหัวเราะ
และไม่พูดเรื่องนี้อีกต่อไป
“พี่ใหญ่!” ลีย์ลินมองดูบุรุษศีรษะล้าน “อาจนับได้ว่าลินลี่ย์ช่วยให้เราหนีมาจากพิภพจองจำเกบาโดสได้สำเร็จ ท่านก็เป็นคนที่ฝึกในกฎธรรมชาติธาตุดิน
ไปช่วยซ้อมมือกับเขาหน่อยเถอะ”
“ได้เลย”
เบอร์เกสพยักหน้าโดยตรง
ลีย์ลินมองดูบุรุษชุดขาว “พี่รอง,
ข้าได้รับความกรุณาครั้งใหญ่จากลอร์ดเบรุตผู้นั้น ท่านช่วยไปดูแลหนูกินเทพนั้น
ช่วยซ้อมมือกับเขาด้วย”
“และอยู่ที่นี่
ข้าก็ค่อนข้างเบื่อบ้างเล็กน้อย”
บุรุษชุดขาวหัวเราะขณะกล่าว
………
สายน้ำไหลไปตามลำธาร
ลินลี่ย์ซึมซับกับการปรับตัวกับแก่นธาตุอย่างสมบูรณ์
หยาดแห่งปัญญาเติมเข้าในใจของเขาหยาดแล้วหยาดเล่า
ทำให้ลินลี่ย์ยิ้มโดยไม่รู้ตัว
ขณะที่ลินลี่ย์กำลังฝึก บีบีก็สงบใจและเริ่มฝึกด้วยเช่นกัน
ทันใดนั้น
บุรุษคนหนึ่งปรากฏร่างที่นี่
“ลินลี่ย์ผู้นี้” เบอร์เกสเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของลินลี่ย์ “เขายิ้มขณะฝึกได้ นี่ชวนให้อิจฉาจริงๆ!”
มียอดฝีมือเพียงไม่กี่คนที่สามารถหาความสุขจากการฝึกฝนได้
ถ้าท่านอยากทำอะไร
อย่างนั้นทันทีที่ท่านซึมซับอยู่ในสิ่งที่ทำ
ผลที่ท่านได้รับจะสูงล้ำ ถ้ากลับตรงกันข้าม
ท่านไม่ชอบสิ่งที่กำลังทำ และยังฝืนใจกระทำ
ผลลัพธ์ที่ได้จะต่ำมาก
ยอดฝีมือส่วนใหญ่ฝืนตัวเองให้ต้องฝึกฝน เพราะพวกเขาไม่ต้องการด้อยกว่าคนอื่น ไม่ต้องการถูกคนอื่นฆ่า หรือเพราะเหตุผลอื่น
พวกเขาที่ฝืนใจฝึกฝนจะเทียบได้กับคนที่รักการฝึกฝนได้ยังไง?
ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนเหล่านี้เข้าใจผลกระทบนี้ และพวกเขาต้องการพยายามทำให้ตัวเองเพลิดเพลินกับการฝึก และฝึกด้วยความสนุกเพลิดเพลิน ดังนั้นจึงทำให้พวกเขาฝึกได้เร็วมาก ได้รับการรู้แจ้งได้ง่ายมาก และก้าวหน้าได้ง่าย
แต่ไม่ว่าท่านจะชอบหรือไม่ก็ตาม
สิ่งนั้นจะถูกกำหนดโดยนิสัยและวิญญาณของท่าน
ท่านไม่สามารถเลือกชอบบางอย่างได้
ตัวอย่างเช่น ถ้าท่านเห็นสตรีที่อัปลักษณ์มาก ไม่ว่าท่านจะพยายามทำใจให้ตัวท่านเองชอบเธอมากแค่ไหน
ท่านก็ไม่มีทางทำได้
ทางเลือกโดยธรรมชาติของนิสัยท่านไม่สามารถเปลี่ยนได้
“ท่านเบอร์เกส ทำไมท่านถึงมาที่นี่?” บีบีร้องเรียกเสียงดัง
ตอนนี้ลินลี่ย์ลืมตาและลุกขึ้น
พร้อมกับหัวเราะและพูดทักทาย
“ท่านเบอร์เกส”
เบอร์เกสหัวเราะลั่น “ลินลี่ย์, ข้ารู้ว่าเจ้าฝึกฝนกฎธรรมชาติธาตุดิน พอมาคิดดูแล้ว ข้าก็ฝึกมาในกฎธาตุดินเหมือนกัน
ระหว่างเราทั้งสองน่าจะมาลองซ้อมมือกันบ้าง
เจ้าจะว่ายังไง?”
“นี่...นี่ยอดเยี่ยมแน่นอน” ลินลี่ย์ประหลาดใจดีใจพร้อมกัน
การได้ฝึกฝีมือกับคนที่ฝึกมาในกฎธาตุด้านเดียวกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ทรงพลังกว่ามากนับว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากอย่างยิ่ง ที่สำคัญ,
นี่หมายความว่าคนที่แข็งแกร่งกว่ายอมลดตัวมาฝึกให้เขา
แม้ว่าจะใช้คำพูดว่า
‘ซ้อมมือ’
แต่ในความเป็นจริงอีกฝ่ายช่วยเขาและแนะนำเขา!
“ฮ่าฮ่า..ข้าเองค่อนข้างโง่
ข้าเพียงแต่ฝึกเคล็ดความรู้ลึกลับกฎธาตุดินมาสองอย่าง
หนึ่งนั้นก็คือเคล็ดความรู้ลึกลับแก่นธาตุดิน ขณะที่อีกเคล็ดหนึ่งก็คือเคล็ดความรู้ลึกลับแห่งพลัง”
ลินลี่ย์สะท้านใจ
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเคล็ดความรู้ลึกลับอีกอย่างหนึ่งของกฎธาตุดินก็คือเคล็ดความรู้ลึกลับแห่งพลัง
“ครืน....”
เกิดการควบแน่นของแก่นธาตุดินในปริมานมหาศาล
และร่างของเบอร์เกสคลุมไปด้วยเกราะธาตุดินเป็นประกายระยิบระยับ
“ไม่ใช่สีของอดาแมนเทียมหรือนั่น?” ลินลี่ย์ลอบประหลาดใจ
“ลินลี่ย์ สำหรับกับเจ้า
ไม่จำเป็นต้องให้ข้าใช้งานเคล็ดความรู้ลึกลับแห่งพลังก็ได้ ข้าใช้แค่เคล็ดความรู้ลึกลับแก่นธาตุดิน ระวังให้ดี!” เบอร์เกสหัวเราะลั่น และขณะที่เขากล่าว
เขาเตะพื้นเต็มกำลังและพุ่งเข้าใส่ขณะที่เขากระแทกหมัดใส่ลินลี่ย์
ดวงอาทิตย์สะท้อนประกายเกราะสีดินอย่างแพรวพราว
หมัดขวาของเบอร์เกสเปลี่ยนรูปเป็นศีรษะหมาป่าที่ดุร้ายซึ่งอ้าปากและงับลงมาทันที
“ฮู้ววววว!” หมาป่าดุร้ายเปล่งเสียงหอนโหยหวน
ลินลี่ย์สีหน้าเปลี่ยน เขาต้องการถอย
แต่เบอร์เกสใช้สนามพลังเทพ
ในฐานะเทพแท้ สนามพลังเทพของเบอร์เกสทำให้ความเร็วของลินลี่ย์ตกลงไปมาก
“แคล้ง!”
กระบี่เลือดม่วงปะทะกับหมัดหัวหมาป่าอย่างรุนแรง
ลินลี่ย์ถูกแรงปะทะกระเด็นถอยหลังไปราวกับกระสอบทราย
พอเสียงบึ้มดังเขากระแทกกับสระน้ำราวกับอุกกาบาตกระแทก
ทำให้น้ำฉีดพุ่งกระเด็นไปทุกที่
ภายใต้แสงอาทิตย์ น้ำฉีดพุ่งเป็นประกายเหมือนหยดแก้วมณี
“เฮ้, แบบนั้นยังอ่อนเกินไป” เบอร์เกสส่ายศีรษะ
“บึ้ม!”
ลินลี่ย์พุ่งออกมาจากผิวน้ำ
จากนั้นลงมายืนบนพื้น เขาจ้องมองเบอร์เกสและถามทันที “ท่านเบอร์เกส, หัวหมาป่าที่แปลงมาจากหมัดของท่านมีพลังรุนแรงมากมายขนาดนั้นได้ยังไง?
ความแข็งของมันอยู่ในระดับเดียวกับสมบัติเทพได้ยัไง?” ลินลี่ย์รู้สึกทึ่งกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น
เบอร์เกสยิ้ม “ลองคิดด้วยตัวเจ้าเอง”
ลินลี่ย์ยิ้มค้าง
“ก็ได้
มาลองกันอีกครั้ง” ลินลี่ย์กัดฟัน
จากวันนี้เป็นต้นไป
แต่ละวันลินลี่ย์จะพ่ายแพ้เบอร์เกสสามครั้ง
เบอร์เกสไม่เคยให้คำแนะนำอะไรกับเขา
คำถามใดๆ ที่ลินลี่ย์มี เขาจะบอกให้ลินลี่ย์คิดด้วยตนเอง ความจริง.. ต่อให้เบอร์เกสอธิบายไป
ก็คงไม่สามารถอธิบายได้ชัด
ที่สำคัญ
ในการทำความเข้าใจเคล็ดความรู้ลึกลับของแก่นธาตุดิน เบอร์เกสใช้เวลานานเกินพันปี
ลินลี่ย์ซ้อมมือกับเบอร์เกส ขณะที่บีบีซ้อมมือกับบุรุษชุดขาว
ด้วยการซ้อมมือในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง
ระดับความก้าวหน้าในการทำความเข้าใจแก่นธาตุดินของลินลี่ย์เพิ่มขึ้นมากมาย
ลินลี่ย์ปลิวกระเด็นอีกครั้งหนึ่ง
ขณะที่เขาล้มลงกับพื้นรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเขาจริงๆ
“ข้าผิดแล้ว
ทำผิดแล้ว!”
ลินลี่ย์หัวเราะลั่น “มันไม่ตาย
ไม่ตายนี่นา”
“ข้าไม่เคยเข้าว่าพลังอะไรอยู่เบื้องหลังชีพจรโลกมีไม่สิ้นสุด ตอนนี้, ข้าเข้าใจแล้ว ข้าเข้าใจ ชีพจรของโลก ฮ่าฮ่า ดังนั้นนี้ก็คือชีพจรโลก!” ดูเหมือนลินลี่ย์จะบ้าไปแล้ว
ขณะที่เขาเงยหน้าเขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
และลินลี่ย์เริ่มหัวเราะหนักขึ้นทุกที
กระแสพลังมหาศาล
เฉพาะแบบ ไม่มีใครต้านได้หลั่งไหลลงมา
พื้นที่โดยรอบลินลี่ย์มองดูบิดเบี้ยวทันทีซึ่งดูเหมือนกฎธรรมชาติ ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตจะทรงพลังแค่ไหน
ก็ไม่ต่างอะไรกับมด
แม้แต่เบอร์เกสก็ยังอดสั่นสะท้านไม่ได้
เบอร์เกสที่เพิ่งเอาชนะลินลี่ย์ได้อีกครั้ง
กำลังเตรียมจะสั่งสอนเขาถึงกับตะลึง
“ลินลี่ย์นี้, เขา... เขาบรรลุความรู้ใหม่ด้วยอาการอย่างนั้นหรือนี่ ผิดธรรมดามากเกินไปแล้ว?”
ในที่สุดเบอร์เกสก็เข้าใจความแตกต่างระหว่างเขาเองกับอัจฉริยะ

12 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณค่ะ
โดนกระทืบจนรู้เเจ้ง ห้าๆๆ
เป็นนิยายที่ลึกซึ้งมากครับ หากไม่ได้ความสามารถที่ดีเยี่ยมในการแปและเรียบเรียงคำของผู้แปลให้มีตวามสวยงาม อ่านเข้าใจง่าย นิยายเรื่องนี้คงดรอปลงไปเยอะ ขอบคุณผู้แปลอย่างสูงครับ
ขอบคุณ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ติดตามเรื่อยๆแน่นอนครับ ขอบคุณครับผม
ขอบคุณคร๊าบบบบบ
สนุกมากกกกกก💗💗💗🙏🏻
แสดงความคิดเห็น