ตอนที่ 646
นึกว่าเจ้าไวหรือ? ข้าไวกว่า!
เขี้ยวแสง!
หัวหน้าหย่งฮุยแค่เสียงเย็นชาและชี้หน้าเฮยถู
ในโลกวารีเฮยถูผู้ดูดซับพลังงานดินเพื่อให้ตัวเองใช้งานจะอ่อนแอที่สุด ในที่นี้เฮยถูไม่อาจแสดงฝีมือของเขาเองได้
อสูรศึกไม่สามารถดูดซับพลังงานแผ่นดินขนาดใหญ่ได้
ดังนั้นเขาจึงอ่อนแอที่สุดในสามคน
แม้แต่หัวหน้าไป๋หม่าจะสู้รบได้ดีในอากาศ
ก็ไม่ใช่สู้รบได้ดีในน้ำ
แต่ก็ยังดีกว่าเฮยถูผู้เด่นที่สุดในการสู้บนพื้นสำหรับจงกวนเขามีทักษะย้ายเงา เขาสู้ได้ดีในอากาศ ในน้ำและบนภาคพื้น
หย่งฮุยไม่ต้องการเปลืองพลังงานกับเขา
ปลายนิ้วชี้ของหย่งฮุยมีประกายแสงเล็กๆ
ที่เขาเรียกออกมา
เล็กกว่าธนู ไวกว่าสายฟ้า
เมื่อประกายในดวงตาของเฮยถูฉายแสง
ลำแสงที่แฝงไปด้วยพลังมรณะก็ยิงมาที่อกของเขาไปแล้ว
เร็วเกินไป แม้ด้วยความคล่องแคล่วของเฮยถูที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสอง
ก็ยังไม่สามารถหลบพลังโจมตีได้เลย
แม้แต่จงกวน
ไป๋หม่าและเฮยถูก็รู้ว่าหัวหน้าหย่งฮุยมีพลังเขี้ยวแสงเป็นอสูรที่ว่องไว
และพวกเขาตื่นตัวอยู่นานแล้ว อย่างไรก็ตาม
เฮยถูไม่สามารถหลบพลังโจมตีนี้ได้ ได้แต่มองแสงทะลวงผ่านอกของเขา
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการหลบ แต่เทียบกับความเร็วของเขี้ยวแสงแล้ว
ใครๆ
ก็กลายเป็นมึนเมางุ่มง่าม ขณะที่อีกฝ่ายเหมือนธนูที่ว่องไว
ไม่มีทางที่เขาจะหลบได้ เฮยถูเต็มไปด้วยความกลัว เขาเตรียมทุ่มเทพลังทั้งหมดเพื่อต่อต้าน
มั่นใจมากเกินไป!
แม้ว่าเขี้ยวแสงจะมีพลังปราณฟ้าระดับหนึ่ง
แต่มันเป็นอสูรที่ใช้รุกเต็มร้อยโดยไม่มีการตั้งรับ ถ้าเฮยถูถูกมันโจมตีโดยตรง ต่อให้เขาไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บหนักอยู่ดี
เฮยถูรับพลังโจมตีได้ครั้งเดียว และการโจมตีครั้งอื่นเล่า?
ในเวลาแค่หนึ่งวินาที
หย่งฮุยก็สามารถโจมตีได้ทันทีด้วยเขี้ยวแสง
ภายใต้พลังโจมตีของเขา เฮยถูจะทนได้นานเท่าใด?
หัวหน้าไป๋หม่าขี่อสูรฝันนรกพุ่งลงมาจากท้องฟ้าตั้งใจจะช่วยเฮยถู แต่สายเกินไปแล้ว
ความเร็วของเขี้ยวแสงและความเร็วของอสูรฝันนรกต่างกันเหมือนฝ่ายหนึ่งวิ่ง
อีกฝ่ายหนึ่งเดิน ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน
ไป๋หม่าหลั่งเหงื่อพรั่งพรู
หัวหน้าหย่งฮุยเป็นสุดยอดนักสู้ปราณฟ้าระดับสี่
ระดับเดียวกับผู้นำกลุ่มโจรตัวตลก
เขาคงไม่แพ้นักสู้ปราณฟ้าระดับสอง สามคนที่ร่วมมือกันแน่
เมื่อเฮยถูกำลังจะถูกเขี้ยวแสงฆ่า
เขาหายตัวไป
จากนั้นเขามาปรากฏตัวด้านหลังจงกวนผู้สวมหมวกสูง
จงกวนช่วยเขาไว้
แม้ว่าจงกวนจะช่วยเฮยถูได้ไว้ได้ด้วยวิชาย้ายเงา เขาก็ยังอดหลั่งเหงื่อเยียบเย็นมิได้ โชคดีที่สามารถทำได้ทัน ถ้าช้าไปเพียงเสี้ยววินาที
หัวใจของเฮยถูคงถูกทะลวง
ดูซิว่าเจ้าจะช่วยเขาได้สักกี่ครั้ง! หัวหน้าหย่งฮุยชี้นิ้วไปที่เฮยถูอีกครั้ง
เขี้ยวแสงถูกยิงอีกครั้ง
ในขณะที่มันเกือบจะถึงหน้าผากของเฮยถู ถ้าหากเขี้ยวแสงกระทบถูกหน้าผาก กะโหลกของเฮยถูจะต้องถูกเปิดออก
วิชาร่างเงาของจงกวนไม่มีจำกัดเวลาของเขาเอง แต่ เขาทำได้แต่ใช้เงาตนเองช่วยสหายของเขา เขาทำได้แค่ย้ายเฮยถูเข้ามาในเงาของเขา แต่ก็พบว่าหัวหน้าหย่งฮุยลดนิ้วลงชี้
เขี้ยวแสงดักรออยู่เส้นทางย้ายร่างของเขา
นั่นแสงของตะวันฉายทานตะวัน ใจของจงกวนเต็มไปด้วยอาการตกใจ เขาเข้าใจทันทีถึงเหตุผลที่หย่งฮุยใช้ตะวันฉายทานตะวันเพื่อปรับมุมยิงแสง
ศัตรูรู้จุดอ่อนในการย้ายร่างเงาแล้ว
และขึ้นอยู่กับมุมของแสงฉาย
เขาสามารถคำนวณร่องรอยของเงาได้
การโจมตีนี้ศัตรูคำนวณไว้ก่อนแล้ว
หัวหน้าหย่งฮุยเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสี่แล้วจึงไม่ใช่เป็นคนรับมือง่ายๆ
แน่นอน
จบแล้ว!
ถ้าเฮยถูไม่อยู่ในเงาที่ย้าย
เขายังสามารถหลบได้
แต่ตอนนี้เขาอยู่ภายใต้การควบคุมจากจงกวน
ได้แต่ดูเขี้ยวแสงพุ่งเข้าหาตัวเขาเอง
ม้าเพลิงสวรรค์ป้องกันเฮยถูไว้
และเตะเขาลอยไปในอากาศ
ร่างของมันถูกเขี้ยวแสงทะลวงทันที
อาการของมันบาดเจ็บหนักปางตาย หัวหน้าไป๋หม่าไม่มีเวลาเรียกมัน
เขาตะโกนอย่างบ้าคลั่งขี่อสูรฝันนรกชนเฮยถูให้กระเด็นห่างออกไปหลบจากพลังเขี้ยวแสงโจมตีได้อย่างหวุดหวิด หย่งฮุยแค่นเสียงจากนั้นเหยียดมือเพื่อเรียกอสูรที่แปลกประหลาด
มันมีปีกอยู่ด้านหลังสี่ปีกคล้ายมังกรมีกรงเล็บดำ หางอสรพิษตาสีน้ำเงิน เขาเดียว
ควันดำถูกพ่นออกมาจากปากอสูร จากนั้นมันซ่อนตัวอยู่ในควันดำ
ควันสีดำขยายเพิ่มมากขึ้นทุกทีจนคลุมทั้งท้องฟ้า
นี่คืออสูรรบที่ทรงพลังอีกตัวหนึ่งของหัวหน้าหย่งฮุย มังกรเขาเดียว
แม้ว่ามันจะไม่ใช่มังกรยักษ์ของแดนสวรรค์ เป็นเพียงมังกรสายรอง แต่มันก็เหมือนกับมังกรแดนสวรรค์ เพียงแต่ไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกัน อย่างไรก็ตามพลังของมันแข็งแกร่ง
ในควันของมันนอกจากจะมีกรดที่ทำให้สิ่งมีชีวิตมึนงงและอ่อนแอแล้ว
ยังมีผลพิเศษอย่างที่ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่สิ่งมีชีวิตอื่นจะหามันได้พบ ในแง่พลังโจมตีของมัน
มังกรเขาเดียวยังด้อยกว่าเขี้ยวแสงเล็กน้อย แต่ความสามารถในการสู้ต่อเนื่องจะทำได้ดีมาก
จับมัน! เฮยถูเดิมพันด้วยชีวิต
เรียกแมงมุมปีศาจที่ได้รับบาดเจ็บหนักอยู่ก่อนนั้นออกมา
แมงมุมพ่นใยออกมานับไม่ถ้วน
สร้างเป็นรังสีเทา
ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
แมงมุมก็จับมังกรเขาเดียวจากท้องฟ้าได้และเกือบจะลากมันลงมาได้ ในบรรดาอสูรที่รับมือการสู้ในกลางอากาศได้ดี
แมงมุมปีศาจรับมือได้ดีและอาจกล่าวได้ว่าสามารถเอาชนะสัตว์ปีกได้หมด
ร่างของมังกรเขาเดียวควันดำเปลี่ยนเป็นควัน จากนั้นก็หลบออกไปจากใยแมงมุมได้อย่างง่ายๆ
แมงมุมร่วงลงไป
ที่เหนือแมงมุมปีศาจ
มังกรพุ่งโฉบลงพร้อมกับพ่นไฟ และเกือบจะแผดเผาแมงมุมปีศาจให้กลายเป็นแมงมุมปิ้งได้ แต่มันพลาด
จากนั้นมันซ่อนตัวอยู่ในควันดำอีกครั้ง
มันมาอยู่ด้านหลังของเฮยถูเมื่อมันปรากฏตัวอีกครั้ง หย่งฮุยยกมือก่อนที่เฮยถูจะทันรู้ตัว
และยิงคลื่นเขี้ยวแสงอีกครั้ง
มีเพียงสองทางเลือกให้เฮยถู หนึ่งถูกมังกรเขาเดียวเผาตาย หรือสองถูกเขี้ยวแสงยิง
ไม่มีทางเลือกที่สาม
ในท่ามกลางควันเลือนราง
ไม่มีเงา
พลังย้ายเงาของจงกวนไม่สามารถช่วยเขาได้
ขณะที่หัวหน้าไป๋หม่ายังอยู่บนอสูรฝันร้าย
เขาไวเมื่อเทียบกับอสูรบินธรรมดา
แต่เมื่อเทียบกับเขี้ยวแสง
เขายังช้าไป
เฮยถูอยู่ไกลเกินความสามารถของพวกเขา
ข้าต้องสู้! เฮยถูคิดว่าไม่มีโอกาสที่เขาจะรอดชีวิตได้ ด้วยคลื่นความโกรธในใจ
เขาสั่งแมงมุมปีศาจให้โจมตีหัวหน้าหย่งฮุย
สู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย
แม้ว่าเฮยถูจะไม่สามารถฆ่าหย่งฮุยได้
แต่การใช้แมงมุมให้ใช้พิษเล่นงานเขาก็เป็นทางเลือกที่ดี
อย่างไรก็ตามเขาไม่อาจปล่อยให้เจ้าผู้นี้หลุดมือไปได้อย่างง่ายดายแน่!
แต่ไม่มีใครรู้ว่าหัวหน้าหย่งฮุยยังเรียกอสูรออกมาไว้อีกตัวหนึ่ง
มันเป็นสัตว์ประหลาดขนาดเล็กตัวมีเกล็ดสีเขียวตาสีทอง
เขาสีเงิน เมื่อมันถูกหย่งฮุยเรียก
น้ำภายในรัศมีร้อยเมตรเกิดระลอกทั้งหมด เกิดเป็นภาพที่น่าตื่นตะลึง
ก่อนที่แมงมุมจะเข้ามากัด มันค่อยๆ หย่อนอุ้งเท้าเล็กๆ
ลงในน้ำและเกิดเป็นผิวน้ำวน
แมงมุมตกลงไปในแอ่งน้ำวน จึงเป็นไปไม่ได้ที่มันจะร่วมสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย พลังของมันเพียงแค่ปราณดินระดับหนึ่ง
ต่ำกว่าแมงมุมปีศาจที่เกือบจะถึงระดับหนึ่งของระดับปราณฟ้า
แต่ตาของมันฉลาด
แม้ว่ามันจะไม่สามารถเปลี่ยนเป็นมนุษย์
ไม่สามารถพูดได้ แต่มันมีความรู้สึกใกล้กับอสูรศักดิ์สิทธิ์
ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเจ้าตัวเล็กนี้ยังอยู่ในวัยเด็กและระดับของมันต่ำเกินไป
บางทีมันอาจเอาชนะแมงมุมปีศาจที่มีระดับสูงด้วยสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดของมัน
หย่งฮุยรักอสูรน้อยตัวนี้มาก หลังจากเขาเรียกมันออกมา เขาจับมันไว้ในมือ
ไม่ยอมปล่อยมัน
เขากลัวว่าเจ้าตัวน้อยที่ฉลาดนี้จะหักหลังเขาและหนีไป
ตอนนี้จงกวน
ไป๋หม่าและเฮยถูรู้สึกอยากตาย และกำลังใจของพวกเขาหดหายหมดไม่มีเหลือ
เขาแข็งแกร่งมาก
หัวหน้าหย่งฮุยผู้นี้เป็นยอดฝีมือระดับหัวหน้ากลุ่ม นอกจากมีพลังปราณฟ้าระดับสี่ขั้นสูงแล้ว เขายังมีอสูรรบที่แข็งแกร่งอีกหลายตน
ความจริงไม่มีทางสู้ได้เลย!
ผสานพลังกันระหว่างตะวันฉายทานตะวันและภูตแสงก็รับรองได้ว่าไม่มีวันตายอยู่แล้ว ยังมีเขี้ยวแสง และมังกรเขาเดียวควันดำก็เป็นการผสานพลังฆ่าที่แข็งแกร่ง
เรื่องที่แย่ที่สุดก็คือเพื่อเป้าหมายฝึกอสูรรบ หย่งฮุยเรียกอสูรเด็กออกมาร่วมรบด้วย ดูเหมือนว่าการสู้ครั้งนี้ไม่มีอะไรสำหรับหย่งฮุย เขาก็แค่มีเวลาบำรุงเลี้ยงอสูรเด็กของเขา
ตอนนี้พวกเขาต้องการถอย
พวกเขาเตรียมรับการโจมตีจากหย่งฮุยสองสามครั้ง
และจะรีบถอยจากการต่อสู้
แม้ว่าจะต้องถูกเย่ว์หยางทุบตีก็ตาม
แต่พวกเขาไม่ต้องการสู้อีกต่อไป
ไม่มีประโยชน์เลยในการสู้แบบนี้
หัวหน้าหย่งฮุยผู้นี้ไม่ใช่คนที่ทั้งสามจะสู้ได้
แม้จะสู้พัวพันก็ยังเป็นไปไม่ได้
ในขณะที่พวกเขารู้สึกสิ้นหวัง
และเสียงหัวเราะของหย่งฮุยแฝงไปด้วยความหยิ่งยโส
มีบางอย่างที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เกิดขึ้นในดวงตาของหย่งฮุยที่เตรียมจะเริ่มโจมตีเฮยถู ตาของเขาหรี่แคบขณะมองดูท้องฟ้า ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แม้แต่เฮยถูที่เกือบจะถูกกัด ไป๋หม่าที่กำลังมาช่วย จงกวนที่เตรียมใช้พลังไร้เงา
ทั้งหมดลืมเรื่องการสู้รบและจ้องมองท้องฟ้าในขณะนั้นอย่างว่างเปล่า
ท้องฟ้าสว่าง
ในพริบตาเดียว
กลับมืด
ตะวันฉายทานตะวันหายไปต่อหน้าต่อตาทั้งที่ทุกคนมองดูอยู่
เหมือนกับว่ามีคนตบหน้าเขา หย่งฮุยตระหนักได้ว่าตะวันฉายทานตะวันทรยศเขา
เป็นไปได้ยังไง?
อสูรสายพฤกษามีความเป็นไปได้ยากที่สุดที่จะหักหลังเมื่อเทียบกับอสูรสายอื่น เว้นแต่อสูรหุ่นที่ไม่เคยทรยศและอสูรพิทักษ์
ก็มีแต่เพียงอสูรพฤกษาเพียงไม่กี่พันธุ์ที่ต่อต้านเจ้านายของพวกมัน
ยกเว้นแต่อสูรพฤกษามีความคิดที่เป็นอิสระและสติปัญญาใกล้เคียงกับอสูรศักดิ์สิทธิ์ ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นพวกมันก็ยังมีสัญชาตญาณ แม้ว่าเจ้านายของพวกมันกำลังเผชิญกับความตาย พวกมันก็ยังไม่ทรยศ
ทำไม?
ทำไมตะวันฉายทานตะวันถึงทรยศหย่งฮุย เมื่อเขาได้เปรียบ และยังจะเอาชนะศัตรูได้?
ข้อสงสัยนี้ทำให้หย่งฮุยรู้สึกระอา
เหมือนกับมีหนูกัดแทะหัวใจของเขา
ทำให้เขารู้สึกทุกข์ทรมานมาก
ไม่เพียงแต่หย่งฮุยจะรู้สึกอับอายเท่านั้น
แต่เขายังโกรธและรู้สึกกดดัน
เสน่ห์ของเขาดูแย่นักหรือ?
แม้แต่ตะวันฉายทานตะวันก็ไร้สติปัญญาไม่ใช่หรือ? สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือความขายหน้าที่ถูกทรยศนี้เกิดขึ้นต่อหน้าจงกวน
ไป๋หม่าและเฮยถู เขาโกรธจัดจนรู้สึกเจ็บ
คำตอบออกมาโดยเร็ว
สำหรับหย่งฮุย
คำตอบก็หมายถึงความโกรธ
สำหรับทั้งสามคน
กลับมีความสุข
ตะวันฉายทานตะวันปรากฏในท้องฟ้าอีกครั้ง ส่องแสงสว่าง
แต่มันเปลี่ยนเจ้าของเสียแล้ว
เจ้าของใหม่เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง หญิงสาวกำลังกุมมือเย่ว์หยางเลื่อนลงมาจากท้องฟ้าเหมือนเหมือนเทพธิดาสายลม
ราศีของนางอ่อนโยนนุ่มนวลทำให้เกิดกลิ่นสดชื่นไปทั่วโลกวารี
เจ้าทำเรื่องนี้เองหรือ? หัวหน้าหย่งฮุยตะโกนลั่นด้วยความโกรธ เขาไม่เคยคิดว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์จะชิงตะวันฉายทานตะวันไปได้
“ภูตแสงไม่มีปัญญา ข้าไม่ชอบเท่าใดนัก
แต่ถ้าเป็นเขี้ยวแสงสามารถหลอมรวมกับแสงอุษาเกลียวของข้าได้
อย่างนั้นนั่นก็ไม่เลวนัก”
สตรีผู้มาพร้อมกับกลิ่นดอกไม้ก็คือเจ้าเมืองโล่วฮัว นางไม่สนใจอาการโกรธของหย่งฮุย
ในสายตาของนางมีแต่เย่ว์หยาง นางยิ้มให้พร้อมกับคำแนะนำของนางพลางโบกมือ
“ปิงเอ๋อให้ข้ายืมตะวันฉายทานตะวันในตอนนี้
ดังนั้นเหลือภูตแสงไว้ให้พวกเขาเถอะ! ข้าชอบโจมตี อสูรบำบัดก็มีประโยชน์ ดังนั้นเอาไว้ให้เย่ว์หวี่เถอะ”
“เจ้ากล้าท้าทายศักดิ์ศรีของข้าหรือ? บังอาจ พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!”
หย่งฮุยเงื้อมือด้วยความโกรธและชี้นิ้วมาที่เย่ว์หยาง เตรียมใช้เขี้ยวแสงเพื่อให้บทเรียนที่แสนสาหัสกับเขาสักครา
แสงอุษา!
ที่ไวกว่าหย่งฮุย
ลำแสงอุษาขนาดมหึมาพร้อมกับพลังหมุนเกลียวทำลายล้างยิงตรงเข้าหาเขา
30 ความคิดเห็น:
ห๊ะตกใจ แปป กดทีแรกเข้าใจว่าถังเทียน
มาแล้วในที่สุด5555
เหมือนกันเลย
นึกว่าเรื่องนี้ ดรอปไปแล้ว
ผมต้องอ่านย้อนไกลมากๆ หรืออาจจะตั้งแต่ต้นเลย
ขอบคุณมากครับ จำไม่ได้เลยยครับ
ขยี้ตาแป็ป....
ในที่สุดก็มา T^T
มาแล้ววววว ขอกลับไปทบทวนแปป
มาแล้ววววว ขอกลับไปทบทวนแปป
ขอบคุณครับ
รอมานาแสนนาน
อ่านย้อนยาวๆ
มาแล้วๆ
เริ่มอ่านใหม่เลยยาวๆ
ขอบคุณครับ ในที่สุดก็ได้อ่านต่อ
นานจนลืม
ขอบคุณผู้แปล คัมแบ็กซักที 555
รอมานาน ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
รอมานานเลยครับ ในที่สุด ก็กลับมาแปล ต่อแล้ว ขอบคุณมากเลยนะครับ
กราบขอบพระคุณผู้แปลไว้นะที่นี้กระผมได้หายค้างดุจหยดน้ำกลางทะเล....
ทราย
จำตอนเก๋าำม่ได้
ขอบคุณครับ
มาแล้ววว
วันละตอนได้ 2 เดือน
อ่าาา ในที่สุด
ขอบคุณครับ
มาแล้ว ตั้งหน้าั้งตารอตั้งนาน ขอบคุณผู้แปลมากครับ
อาการเดียวกันเลยร้ำต่จิใหล
ขอบคุณมากครับ ในที่สุดก็มา 5555
ขอบคุณค่ะ ได้อ่านสักที
ขนาดอ่านทีหลังยังกดเลื่อนเมื่อยมือ
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น