วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 925 ความลับของเพลิงศักดิ์สิทธิ์


ตอนที่  925  ความลับของเพลิงศักดิ์สิทธิ์
ถังเทียนรู้สึกได้ถึงกลิ่นอันตราย
จนกระทั่งบัดนี้ วิหารยังคงสงบมาก  แต่ภายใต้ความสงบที่แปลกประหลาด มีความผิดปกติเกินไป  ทำให้ทุกคนต้องกังวล

ถังเทียนส่ายศีรษะ เขาทิ้งความคิดสับสนไปจากใจทั้งหมด ยิ่งเขาคิดมาก ก็ยิ่งกลายเป็นเรื่องซับซ้อนมาก  เขากลับมาให้ความสนใจที่ลำแสงลงทัณฑ์  แต่เขาไม่เคยคิดว่าหลังจากกลับไปกลับมาแล้ว ปมสำคัญยังคงไปลงที่เพลิงศักดิ์สิทธิ์  ความล้มเหลวซ้ำซากไม่ได้ทำให้เขาท้อถอย  ใจกลางของระบบแบบนี้จะง่ายได้ยังไง?
ในวันปกติ ถังเทียนจะใช้วิธีอื่นค่อยๆ ศึกษา ตัวอย่างเช่นปลอมตัวเองและแทรกซึมเข้าไปในวิหารเพื่อเรียนรู้เพลิงศักดิ์สิทธิ์  สำหรับถังเทียนไม่ว่าจะเป็นพลังงานอะไรก็ตาม  ทั้งหมดล้วนมีความแตกต่างกันแต่ไปถึงจุดลงตัวเดียวกัน  ความเข้าใจของเขาที่มีต่อเพลิงศักดิ์สิทธิ์เป็นเพียงช่องเล็กๆ ที่มองผ่านหน้าต่าง  แต่เป็นไปอย่างต่อเนื่องพิสูจน์ผ่านร่องรอยขนาดเล็กจนนำไปสู่การรู้แจ้งฉับพลัน  และถ้าใครไม่สามารถกระตุ้นผ่านความสับสนวุ่นวายได้  เขามักจะคลำทางไปให้ถึงเป้าหมาย
เวลายังคงผ่านไป ถังเทียนรู้ว่ายิ่งเขาชักช้า ก็ยิ่งทำให้พวกเขาเสียเปรียบ  เขาไม่สนใจอีกต่อไป และตัดสินใจใช้วิธีที่อันตรายที่สุด
สายตาของเขามองดูที่กลุ่มเพลิงศักดิ์สิทธิ์ด้านหน้าของเขา  เพลิงทองศักดิ์สิทธิ์ค่อยๆ ปั่นป่วนเหมือนบัวทองศักดิ์สิทธิ์
เขาสูดหายใจลึกและกระตุ้นเกราะเทพเจ้า  เกราะทองที่งดงามลอยอยู่ตามร่างของเขาเหมือนของเหลวสีทอง สายใยกฎธรรมชาติที่ลึกซึ้งนับไม่ถ้วน ของเหลวสีทองที่คล้ายกับสิ่งมีชีวิตคล้ายหนอนคลุมเต็มหน้าของถังเทียน  ขณะที่ตาของถังเทียนเฉยเมยทันที  ถังเทียนในตอนนี้เปล่งรัศมีเย็นชาผิดมนุษย์เหมือนจักรกลไร้ชีวิต
พอสวมชุดเกราะเทพเจ้าเต็ม รังสีของถังเทียนทะลักขึ้นไปในท้องฟ้า ภายในดวงตาที่เย็นชาสายเส้นนับไม่ถ้วนเคลื่อนไหวไม่มีจบสิ้น  พลังในร่างพัฒนาจนถึงขีดสุด
เขายืดนิ้วออกไปสัมผัสเพลิงศักดิ์สิทธิ์
เมื่อสัมผัสกับนิ้วถังเทียน เพลิงศักดิ์สิทธิ์เปล่งรัศมีข่มขวัญและเปลวเพลิงร้อนแรงทันที  มันไหลไปตามนิ้วเข้าสู่ร่างของเขา
การถูกคลุมด้วยเกราะเทพเจ้า  ถังเทียนยังคงไม่สะทกสะท้าน ขณะที่เขารู้สึกถึงเพลิงศักดิ์สิทธิ์อย่างระมัดระวัง  ในสายตาของเขา ทั่วทั้งโลกแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
เพลิงทองศักดิ์สิทธิ์กำลังลอยอยู่ในท้องฟ้าดูเหมือนกับว่าถูกดักอยู่ในตาข่ายขนาดใหญ่ มีเส้นเลือนรางที่คล้ายตาข่ายล้อมรอบเพลิงศักดิ์สิทธิ์  ถังเทียนคุ้นเคยกับเส้นเหล่านั้น นั่นคือเสายใยกฎอวกาศ ขณะที่สวมเกราะเทพเจ้า ถังเทียนจะมีความเฉียบคมต่อกฎธรรมชาติมาก  เขาสังเกตว่าพื้นที่ซึ่งจมเข้าไปในพื้นที่ระหว่างเพลิงศักดิ์สิทธิ์คล้ายกับช่องว่าง  มันมืดมากจนทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง
ถังเทียนสามารถเห็นเพลิงศักดิ์สิทธิ์กำลังลุกไหม้อยู่ที่ปลายนิ้วของเขา มิติว่างบิดเบี้ยวอยู่รอบเพลิงศักดิ์สิทธิ์มองดูเหมือนวังวนพลังงาน  และพลังงานใดๆ ที่เข้าไปในรัศมีก็จะถูกกลืน  ชั้นพื้นที่ว่างบิดเบี้ยวนี้เป็นชั้นที่บางมาก  แต่สามารถดูดซับพลังงานได้ต่อเนื่อง
ทุกครั้งที่เพลิงทองศักดิ์สิทธิ์ลามเลีย พลังงานแสงสว่างบริสุทธิ์ปริมาณน้อยจะคล้ายกับฝนที่รดอยู่ในท้องฟ้า
 เพลิงศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่กฎธรรมชาติแน่นอน!’
ขณะนั้นเองถังเทียนตัดสินได้ว่าเพลิงศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่กฎธรรมชาติ ทั้งไม่ใช่สร้างจากพลังงาน
ถังเทียนสังเกตเห็นความผิดปกติของเพลิงศักดิ์สิทธิ์อีกอย่างหนึ่งได้โดยเร็ว  ความสามารถของเพลิงศักดิ์สิทธิ์ในการกลืนพลังงานนั้นแข็งแกร่งมาก และไม่ว่าจะเป็นพลังงานอะไร  เพลิงศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องใช้ความพยายามก็กลืนกินได้  จากนั้นเปลี่ยนเป็นพลังงานแสงบริสุทธิ์  อาจกล่าวได้ว่าพลังงานก็คืออาหารโปรดของเพลิงศักดิ์สิทธิ์  แต่เกลียดกฎธรรมชาติ
เกราะเทพเจ้าสร้างขึ้นจากสายใยกฎธรรมชาติ  และเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสูบกลืนพยายามแทรกซึมเข้าไปในเกราะเทพเจ้า ด้วยพลังทั้งหมดของพวกมัน  เหมือนกับว่ามีความเกลียดชังกันระหว่างทั้งสอง
เป็นครั้งแรกของถังเทียนที่เผชิญกับฉากภาพเช่นนั้น  ในพริบตาเดียว เพลิงศักดิ์ก็ถูกขับออกมา และปลายนิ้วของถังเทียนก็คลุมไปด้วยเกราะเทพเจ้าซึ่งปนเปื้อนจุดสีเท้าที่ก่อตัวขึ้น
เป็นครั้งแรกที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในสายตาที่ไม่แยแสของถังเทียน
เขากระดิกนิ้วและยิงจุดสีเทาออกไปในอากาศ  มันเริ่มหลอมละลายในระดับที่มองเห็นด้วยตาเปล่า  ก่อนที่จะหายไป
กฎธรรมชาติที่เป็นจุดสีเทาที่ถูกสร้างแตกหักกันทั้งหมด  ไม่, ต้องบอกว่าถูกทำลาย!
ความสามารถในการกลืนกินพลังงานของเพลิงศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ทำให้ถังเทียนแปลกใจ  แต่เขาไม่เคยคาดว่าเปลวเพลิงสามารถทำลายกฎธรรมชาติได้  สายใยกฎธรรมชาติถูกตัดการเชื่อมโยงจากการแทรกแซงได้ง่าย  แต่ยากมากที่จะทำลายได้  ในสภาวะของเกราะเทพเจ้า กฎธรรมชาติต่างๆ ไม่สามารถหลบพ้นสายตาของเขาได้  และเขาสามารถเห็นได้ว่าสายใยกฎธรรมชาติที่ปลายนิ้วเขาถูกทำลายจริงๆ
ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
 สายใยกฎธรรมชาติถูกทำลายได้ยังไง?
ถังเทียนเต็มไปด้วยความสงสัย  แต่เขาไม่ผ่อนความระมัดระวังที่มีต่อสภาพแวดล้อม  และทันใดนั้นเขาสังเกตเห็นฉากภาพที่แปลกประหลาด  เพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยอยู่ภายในระยะสิบเมตรโดยรอบตัวเขาบินเข้าหาเขาทันที  จากตั้งแต่เริ่มแรก เพลิงศักดิ์สิทธิ์ลอยอยู่ในท้องฟ้าอย่างอ้อยอิ่ง แม้แต่จังหวะของเปลวเพลิงก็ยังลุกไหม้เป็นจังหวะช้ามาก ทำให้มันดูสง่างาม  แต่เพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยเข้าหาถังเทียนกลายเป็นเหมือนฉลามได้กลิ่นเลือด  พวกมันบินเข้ามาอย่างรวดเร็วและดุร้าย
 เกิดอะไรขึ้น?
ถังเทียนหรี่ตา ร่างของเขาเคลื่อนไหวหลบเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่บินเข้าหาเขา  แม้ว่าช่วงระยะจะมีขนาดเล็ก  แต่ถังเทียนเข้าใจไม่ผิด ดูเหมือนเกราะเทพเจ้าจะถูกเพลิงศักดิ์สิทธิ์มองว่าเป็นศัตรู  ใจของถังเทียนทำงานอย่างรวดเร็ว  คาดว่าพลิงศักดิ์สิทธิ์โปรดปรานพลังงานแต่เกลียดกฎธรรมชาติและความสามารถในการทำลายของมันก็น่าทึ่ง
ถังเทียนตระหนักได้ทันทีว่าคุณสมบัติที่ผิดปกตินี้เป็นปมสำคัญที่สุดในการคลี่คลายเพลิงศักดิ์สิทธิ์
หลังจากแสวงหาปมของปัญหา สิ่งที่ตามมาก็คือการตรวจสอบแนวนี้ ต้องสามารถได้รับคำตอบ  ถังเทียนไม่ตื่นเต้นกับเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งเข้าหาเขา  และเริ่มบิดและหมุนตัวในพื้นที่ 3 เมตรรอบตัวของเขา  เขาไม่ต้องการตอแยเพลิงศักดิ์สิทธิ์มากเกินไป  และควบคุมขอบเขตการทำงานของเขาอย่างระมัดระวัง  แม้ว่ารัศมี 3 เมตร ถังเทียนก็ยังเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่นมาก  แม้เพลิงศักดิ์สิทธิ์จะไว แต่ก็เหมือนอยู่นิ่งเมื่อเทียบกับถังเทียน  กลุ่มเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่เต้นอยู่รอบตัวถังเทียนเหมือนกับฝูงผึ้ง  ฉากภาพดูแพรวพราว  แต่ไม่มีแม้แต่เปลวเดียวที่สามารถแตะต้องเสื้อผ้าถังเทียนได้
ถังเทียนยังคงรักษาการหลีกเลี่ยงเอาไว้  แต่ฉวยโอกาสเริ่มตอบสนองเพลิงศักดิ์สิทธิ์อื่น
ทันทีที่เพลิงศักดิ์สิทธิ์สัมผัสร่างของเขา  ดวงตาที่นิ่งลึกของถังเทียนเปล่งประกายแสงประหลาดทันที และโดยไม่มีเค้าลาง รัศมีของเขาปะทุออก  อากาศรอบตัวเขาหายไปทันที  และเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่เต้นอยู่หรี่ลงทันทีเหมือนกับว่าพวกมันพุ่งเข้าไปในกาว
สภาพใจที่เหมือนกระจกแก้วเยือกเย็นของถังเทียนทำงานรวดเร็วอย่างไม่เคยมีมาก่อนและพังฉากภาพข้างหน้าเขาอย่างต่อเนื่อง
ในขณะนั้น เวลาดูเหมือนจะช้าลงกะทันหัน
เพลิงทองศักดิ์สิทธิ์ขยายใหญ่ขึ้นๆ ในสายตาของเขา และทุกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นที่ตำแหน่งซึ่งเพลิงทองศักดิ์สิทธิ์มีปฏิกิริยากับเกราะเทพเจ้าของเขาปรากฏขึ้นช้ามาก
ความเร็วซึ่งใจของถังเทียนทำงานเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด  รัศมีแสงจากตาของเขาพลันสว่าง ถึงขนาดที่ไม่มีใครกล้ามองเขาโดยตรง ควันเริ่มซึมออกจากเกราะเทพเจ้า และลอยขึ้นไปในอากาศ  พลังมากมายของร่างกายของถังเทียนเริ่มทำงาน และทะลักเข้าไปในใจของถังเทียน  ภายใต้เกราะเทพเจ้า แสงสีแดงกะลายอยู่เต็มคอของถังเทียน และมากขึ้นในระดับที่น่าตระหนก  ถ้าถังเทียนสงสัยแม้แต่น้อย  เขาจะรู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ในทะเลพายุ และมีสายฟ้าดังครืนๆ อยู่ในหูของเขา
เขาไม่กล้าใช้พลังร่างกายของเขามาก
พลังงานของร่างกายแตกต่างจากพลังงาน มันคือน้ำที่เก็บรักษาลึกลงไปในทราย พวกมันไม่ไหลเอื่อยเหมือนแม่น้ำ  แต่จะผสมปนอยู่ในทราย และหยาบมาก  การรวบรวมกำลังกายจำเป็นต้องยับยั้งเอาไว้  มิฉะนั้นร่างกายเนื้อจะไม่มีทางฟื้นตัวกลับมาได้
แต่ในขณะนั้นพลังกายของถังเทียนเคลื่อนไหวโดยตัวเอง  พลังมากมายทะลักเข้าไปในสมองของถังเทียน  แสงจากดวงตาของเขาสว่างมากขึ้นทุกที  ถึงขนาดที่สว่างเท่ากับพระจันทร์และหดตัวต่อเนื่องจนถึงระดับสูงสุด  แม้แต่แสงของเกราะเทพเจ้าที่งดงามก็ยังหมองลงเมื่อเทียบกับแสงจากดวงตาของถังเทียน
ทุกรายละเอียดที่เกิดขึ้นระหว่างกฎธรรมชาติของเกราะเทพเจ้าและเพลิงศักดิ์สิทธิ์ชัดเจนมากเหมือนดูตอนกลางวัน
ตลอดกระบวนการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ  แต่ความเป็นจริงมันเกิดขึ้นในฉับพลัน
ปรากฏจุดสีเทาขึ้นอีกจุดหนึ่งบนเกราะเทพเจ้า  และในพริบตาจุดสีเทพก็ถูกทำลายเผยให้เห็นช่องว่าง  แสงในดวงตาของถังเทียนหมองลง  รัศมีสง่างามรอบตัวเขายังคงหายไป  เกราะเทพเจ้าสลาย และหายไปในอากาศกลายเป็นจุดไฟ  นี่เป็นครั้งแรกที่เกราะเทพเจ้าสลายไปหลังจากถังเทียนได้รับการรู้แจ้งวิชานี้  แม้ว่าช่วงเวลาที่ทุกอย่างเกิดขึ้นจะสั้นมาก  แต่การสิ้นเปลืองพลังก็มากมาย เกินกว่าถังเทียนคาดไว้มาก  แม้แต่เกราะเทพเจ้าก็ไม่สามารถคงอยู่ได้และร่างสลายหายไปในอากาศโดยตรง
เพลิงศักดิ์สิทธิ์ล้อมรอบตัวถังเทียนสูญเสียความสนใจในตัวเขาทันที่และแยกกระจัดกระจายไป
หน้าของถังเทียนซีดขาวยิ่งกว่ากระดาษ ปลายนิ้วของเขาสั่น  ขาของเขาหมดแรง แต่ดวงตาของเขายังคงสงบและกระจ่าง ดีใจจนไม่สามารถพูดออกมาได้
ในที่สุดเขาก็พบกุญแจสำคัญ
เพลิงศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่พลังงาน  เป็นผลผลิตระหว่างทั้งสอง
ถังเทียนต้องยอมรับว่าประมุขผู้อาวุโสเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง
ถังเทียนเห็นเพลิงศักดิ์สิทธิ์ธรรมดามาก่อน  และเพลิงศักดิ์สิทธิ์ขาวและเพลิงศักดิ์สิทธิ์ทองทั้งสองอย่างเป็นสิ่งที่แตกต่างกัน  เพลิงทองศักดิ์สิทธิ์เกิดขึ้นบนตัวประมุขผู้อาวุโส  ก่อนประมุขผู้อาวุโส ในประวัติศาสตร์วิหาร ไม่เคยมีใครที่ฝึกเพลิงศักดิ์สิทธิ์ทองได้  นอกจากนี้ มีแต่ประมุขผู้อาวุโสใช้สถานะของเขาปล่อยมวลเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้น  ซึ่งก็หมายความว่าระบบทั้งหมดมีแต่สร้างขึ้นจากเพลิงศักดิ์สิทธิ์เป็นแกนกลาง
ในอดีตเมื่อเมลิซซาพูดถึงมัน  ถังเทียนไม่เคยสนใจคิด  แต่ขณะนั้นหลังจากตรวจสอบแล้ว  ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าประมุขผู้อาวุโสทรงพลังขนาดไหน!
เพลิงศักดิ์สิทธิ์คือสิ่งที่อยู่ระหว่างพลังงานและกฎธรรมชาติ  หรือจะพูดอีกอย่างหนึ่ง ก็คือผลผลิตที่มาจากการประสานทั้งสองอย่าง
เพลิงศักดิ์สิทธิ์ขาวเป็นแค่พลังงานรังสีบริสุทธิ์
คนทั่วไปทุกคนคิดหาวิธีผสานพลังงานและกฎธรรมชาติ  และจะใช้กฎเป็นเพียงกระดูกสันหลัง และพลังงานเป็นเหมือนเนื้อหนัง เพื่อให้เขาสามารถสร้างองค์ประกอบที่มั่นคงได้  ในบางความรู้สึก  นั่นจะเป็นอย่างที่จี๋เจ๋อและนักสู้แดนบาปเคยใช้  ด้วยกฎธรรมชาติเป็น  พวกเขาจะดูดซับพลังงานเข้าในเลือดเนื้อ
แต่เห็นได้ชัดว่าประมุขผู้อาวุโสไม่ได้ทำเช่นนั้น
ในทันทีเมื่อเพลิงศักดิ์สิทธิ์ทองและกฎธรรมชาติของเกราะเทพเจ้าถูกทำลาย  ถังเทียนเห็นว่าภายในเพลิงศักดิ์สิทธิ์ทอง  ยังมีจุดเงาที่ปะทะกันภายในกฎธรรมชาติของเกราะเทพเจ้า
 นี่ควรจะเป็นเคล็ดในการทำลายของพวกมัน
สิ่งที่ทำให้ถังเทียนประหลาดใจก็คือรูปร่างของจุดลวงตานั้นจะคล้ายกับสายใยกฎธรรมชาติมาก
ในขณะนั้น ถังเทียนมีความเข้าใจผิดอย่างหนี่ง เหมือนกับว่าสายใยกฎธรรมชาติกำลังกระโจนเข้าหาภาพสะท้อนของมัน
เขาสะดุ้งในใจ  นี่มันอะไรกัน?

2 ความคิดเห็น:

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

เดวเจอกรงเล็บภูพราย

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น