วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 929 กดดัน ความคิด ช่องว่าง


ตอนที่  929  กดดัน ความคิด ช่องว่าง
องค์ประกอบของเพลิงศักดิ์สิทธิ์มีความเสถียรมาก  กฎธรรมชาติเทียมและพลังกลวงถึงความสมดุลในระดับน่าอัศจรรย์  ความสมดุลนี้มีความมั่นคงมาก  และปัจจัยทั้งสองส่งอิทธิพลต่อกันและกันมาก  อาจกล่าวได้ว่าแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะดึงเอากฎธรรมชาติเทียมออกมาจากเพลิงศักดิ์สิทธิ์

แม้แต่ถังเทียนก็ยังไม่สามารถทำได้  ขณะที่เขามีเกราะเทพเจ้า  เขาสามารถควบคุมสายใยกฎธรรมชาติ  แต่เขาก็ยังจนใจกับสายใยกฎธรรมชาติเทียม  ก่อนที่จะเป็นเพลิงศักดิ์สิทธิ์  ถังเทียนไม่เคยเห็นกฎธรรมชาติเทียมหรือพลังกลวงมาก่อน
ถังเทียนคิดหาวิธีอื่น
เนื่องจากเขาไม่สามารถแยกทั้งสองออกจากกันได้  เขาอาจจะทำลายสมดุลได้  เขาจะใช้กฎธรรมชาติเพื่อเจาะเข้าไปในพลังงานช่องว่างและใช้กฎธรรมชาติปะทะกับกฎธรรมชาติเทียม  การปะทะกันของทั้งสองจะเป็นปัจจัยนำไปสู่การทำลาย  และถังเทียนจะสามารถได้พลังงานกลวงที่บริสุทธิ์
สิ่งที่มีค่ามากที่สุดของเพลิงศักดิ์สิทธิ์ก็คือกระบวนการคิดและการสร้างสรรค์  หาใช่วิธีที่เต็มไปด้วยกฎธรรมชาติและพลังงานไม่
การทำลายง่ายกว่าการสร้าง
แน่นอนว่าอาจจะไม่ง่ายขนาดนั้น  แต่ท้ายที่สุดก็เป็นวิธีการที่เป็นไปได้  และเป็นเพียงวิธีที่ถังเทียนสามารถคิดได้ในช่วงเวลาสั้นๆ  สำหรับความเสี่ยง ถังเทียนไม่มีเวลาสนใจ
เพลิงศักดิ์สิทธิ์ถูกดึงมาจากทุกทิศทาง  รัศมีของขุนพลวิญญาณจากการ์ดวิญญาณทองดึงดูดเพลิงไว้  รัศมีของการ์ดวิญญาณสีทองหลอกล่อมันเข้ามามาก
ถังเทียนให้ความสนใจกับการควบคุมจังหวะ  เมื่อจำนวนเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่เข้าไปมีจำนวนถึงร้อยผนังลมจะกั้นรัศมีออกมา  เพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลเข้ามาจะสูญเสียเป้าหมาย และความเร็วจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด และคล้ายกับแมงกะพรุนลอยอยู่ด้านนอกผนังลม
ภายในผนังลมเพลิงศักดิ์สิทธิ์ทั้งร้อยกระจายตัวออก ที่ซึ่งเพลิงศักดิ์สิทธิ์แต่ละดวงจะลอยอยู่เหนือการ์ดวิญญาณแต่ละใบ  แสงทองจากการ์ดวิญญาณจะครอบคลุมรอบเพลิงศักดิ์สิทธิ์ เหมือนกับรัศมีเฉพาะของขุนพลวิญญาณทำให้เพลิงศักดิ์สิทธิ์ยังคงนิ่งกับที่  จังหวะเต้นเหมือนชีพจรช้าลงมาก  ขณะที่ถูกดูดเข้าไปในรัศมีของการ์ดวิญญาณ
ถังเทียนมองดูเพลิงศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น  เหตุการณ์ทุกอย่างยังคงอยู่ในการควบคุมของเขาได้
แต่การทดสอบจริงกำลังจะเริ่มขึ้น
ด้วยท่ากางแขนของเขา ถังเทียนพบว่าสายใยกฎธรรมชาติกำลังลอยอยู่ห่างๆ ในอากาศ  ทันใดนั้นประกายแสงสีทองฉายวาบในดวงตาเขา  นิ้วทั้งสิบของเขางอและคว้าพื้นที่ว่างเปล่า  และแสงสายรุ้งกระพริบแสงปรากฏอยู่ในมือของเขาทันที
จากตรงนี้ทุกคนสามารถเห็นความก้าวหน้าของถังเทียน  ในอดีต เขาเพียงแต่ใช้หมัดเทพเจ้ารวบรวมสายใยกฎธรรมชาติ  แต่ขณะนั้น เขาสามารถใช้วิชาต่างๆ คว้าจับสายใยกฎธรรมชาติในอากาศซึ่งเป็นการก้าวหน้าที่ครอบคลุม
ภายใต้สภาวะเกราะเทพเจ้า  ระดับความรู้สึกของถังเทียนที่มีต่อกฎธรรมชาติถึงระดับไม่อาจหยั่งได้  และจากจุดนี้  ตัวถังเทียนเองสร้างเกราะเทพเจ้าตื่นรู้ ไม่มีทางด้อยกว่าเพลิงศักดิ์สิทธิ์
เกราะเทพเจ้าของถังเทียนไม่เพียงแต่ใช้สู้รบเท่านั้น แต่สำหรับเขาความรู้สึกอ่อนไหวต่อกฎพลังธรรมชาติและความสามารถในการควบคุมที่ละเอียดอ่อนถูกใช้ขยายในการฝึกไม่ได้ใช้ในการสู้รบ
ด้วยความรู้สึกที่ไวต่อกฎธรรมชาติสูงและความสามารถในการควบคุมที่แข็งแกร่ง  เขาสามารถใช้วิธีต่างๆ ทำงานได้หลายอย่าง  และนั่นก็คือจุดที่ทรงพลังที่สุดของเกราะเทพเจ้าตื่นรู้  วิธีการต่างๆ มากมายเกี่ยวข้องกับกฎธรรมชาติต่างๆ ซึ่งช่วยให้เขาเข้าใจกฎธรรมชาติได้  ความได้เปรียบนี้คือสิ่งที่ตู้เค่อพร้อมกับสนามพลังกฎธรรมชาติของเขาก็ยังไม่สามารถทำได้  ถ้าตู้เค่อรู้ความมหัศจรรย์ของการใช้เกราะเทพเจ้าตื่นรู้  เขาคงน้ำลายหยดทันที
ลักษณะของเกราะเทพเจ้าตื่นรู้ ถังเทียนไม่ได้เอามาใช้เพื่อเข้าใจกฎธรรมชาติบางอย่าง  แต่กลับช่วยเขาได้มากในเรื่องการเข้าใจความเกี่ยวข้องระหว่างกฎธรรมชาติ  ความเข้าใจที่มาของกฎธรรมชาติ
ถ้ามีสักวันที่ถังเทียนสามารถเข้าใจแก่นแท้ของกฎธรรมชาติ  เขาคงสามารถสร้างกฎธรรมชาติเป็นของเขาเองได้  และนั่นก็คือสนามพลังที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่เคยทำได้สำเร็จ
เอาละ ถังเทียนยังคงห่างจากนั้นได้เป็นล้านกิโลเมตรได้กระมัง และห่างไกลจากเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง  แต่สิ่งที่เขาสามารถใช้ได้ก็คือ ความเข้าใจกฎดั้งเดิมของเขา
ที่ขอบเขตระหว่างความเป็นกับความตาย  มนุษย์คนหนึ่งจะปลดปล่อยศักยภาพทั้งหมดของเขา  และในช่วงเวลาเช่นนั้นที่คนเราจะบรรลุความก้าวหน้าได้เร็วที่สุด  แม้ว่าจะมีความอันตรายมากที่อาจเกิดขึ้นในสนามรบ  แต่ก็เป็นเพียงความรู้ทางทฤษฎีที่กว้างขวาง แต่ชั่วเวลาระหว่างเป็นตายก็จะถูกสร้างขึ้นมาและขยันอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องสะสมจากช่วงเวลาธรรมดา  คงเป็นการเพ้อฝันที่ปรารถนาจะได้รับความเข้าใจในช่วงเวลาเป็นหรือตาย
ถังเทียนคว้าสายใยกฎธรรมชาติและได้รับความสนใจจากเพลิงศักดิ์สิทธิ์ซึ่งกำลังลอยอยู่เหนือการ์ดวิญญาณทอง ทั้งหมดกระโจนเข้าใส่อย่างกระตือรือร้น
ทันใดนั้นการ์ดวิญญาณทองฉายแสงแช่แข็งเพลิงศักดิ์สิทธิ์ไว้
สายใยกฎธรรมชาติในมือของถังเทียนหมองลง ขณะที่ชั้นพลังงานรอบๆ ถูกสร้างอยู่รอบสายใยกฎ  มือของถังเทียนสั่น สายใยกฎธรรมชาติถูกพลังงานพัฒนาจนเป็นเส้นตรงเหมือนกับธนูแหลมคม และเขาแทงเข้าไปในเพลิงศักดิ์สิทธิ์
ชี่ ชึ่ ชึ่
พลังงานรอบสายใยกฎธรรมชาติละลายอย่างรวดเร็ว  ขณะที่พลังกลวงและพลังงานธรรมดายังคงเป็นศัตรูกัน  ก่อนที่พลังงานจะละลายไปหมดไม่เหลือ  สายใยกฎธรรมชาติก็สัมผัสลงบนสายใยเส้นประกายในเพลิงศักดิ์สิทธิ์
เพลิงศักดิ์สทธิ์พลันมึนซึม สายใยกฎธรรมชาติเทียมปรากฏและแทงเข้าไปในแกนของสายใยกฎธรรมชาติ
ไม่มีเสียง ทันทีที่กฎธรรมชาติเทียมแทงเข้าไปในสายใยกฎธรรมชาติ พวกเขาจะหายไปทันที  และเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ดูเหมือนหนอนจะกลายเป็นดูบิดเบี้ยว หรือเป็นเทียนที่ถูกเผา เหมือนกับว่าค่อยๆ ไหลออก  ในพริบตา เพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลแยกออกมาก็กลายรูปเป็นจุดแสงโปร่งใส  นี่คือร่างเดิมของพลังงานกลวงที่ไม่มีกฎธรรมชาติเทียม พลังงานกลวงโปร่งใสและไร้สีสัน
ทุกๆ จุดแสงมีความกลมเหมือนบอลแสงใส
พวกมันทะลุผ่านชั้นแสงทองที่ปลดปล่อยออกมาจากขุนพลวิญญาณเหมือนฝนเทลงมาจากฟ้า จุดแสงกระทบเข้ากับเหล่าขุนพลวิญญาณและซึมซาบเข้าไปในร่างของพวกเขา ทำให้พวกเขาลุกขึ้นโดยไม่รู้ตัว  อาซิ่นและเสี่ยวม่านมีความสุข พวกเขารู้สึกว่าร่างกายของเขาได้รับการเสริมพลัง  ไม่จำเป็นต้องให้เขาสั่ง ขุนพลวิญญาณทั้งหมดวุ่นกับการรับเอาพลังงานกลวงเข้ามา แต่มีพลังงานกลวงมากมายเกินไป  แม้ว่าพวกเขาจะจัดการได้มาก แต่ก็ยังมีที่ตกลงไปบนพื้นอีกมาก
อาซิ่นงง ไม่มีความเจ็ดปวดเกี่ยวกับเรื่องนี้  ไม่มีความทรมาน  ทำไมเขาพูดอย่างนั้น
ตามมากับความสำเร็จถังเทียนมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น  ความเคลื่อนไหวของเขาเริ่มคุ้นเคยมากขึ้นขณะที่เพลิงศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นในปริมาณที่มาก  นี่ยังส่งผลให้พลังงานกลวงมีมากขึ้น ขณะที่ปริมาณพลังงานกลวงมากขึ้นทุกที อาซิ่นและขุนพลวิญญาณอื่นรู้สึกเหมือนกับถูกฝนหลั่งรด
อาซิ่นอ้าปากกว้าง หน้าของเขามีความสุข สุดยอดมาก เขารู้สึกเหมือนกับว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาในอดีตนั้นคุ้มค่า  แต่เขายังคงมีสติปัญญากระจ่าง  เขาไม่ลืมคำเตือนของถังเทียน  หรือว่านายผู้ชายเตือนเราไม่ให้กินมากเกินไป, มันยากจะทนต่อความรู้สึกนี้ได้จริง ฮ่าฮ่า!’
เสี่ยวม่านที่อยู่ด้านข้างยังคงรู้สึกสะดวกสบายอย่างไม่เคยมีมาก่อน แต่เมื่อนางเห็นภาพสีหน้าของอาซิ่น  นางรู้สึกหมั่นไส้อยากยกขาเตะเขาไปไกลๆ  แต่หลังจากพิจารณาแล้วว่าพวกเขาจะตกอยู่ในอันตราย นางข่มอารมณ์หมั่นไส้และค่อยๆ ซึมซับพลังงานกลวง
อาซิ่นไม่ทันสังเกต แต่ลวดลายที่คุ้นเคยบนพื้นจะคล้ายกับเส้นเลือดในห้องพลังงานเปล่งแสงเลือนราง ฝนพลังงานกลวงสัมผัสพื้น จะถูกดูดซึมเข้าไปในลวดลายทันที  พลังงานกลวงที่หยดลงพื้นทะลักเข้าสู่ม่านพลังสายลมทันที
พลังงานกลวงที่ถูกดูดเข้าไปในพื้นค่อยๆ ถูกเปลี่ยนเข้าไปในม่านพลังสายลม ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงละเอียดอ่อน  และม่านสายลมที่บางเบาแต่เดิมก็สร้างสิ่งที่คล้ายกับม่านสายน้ำ
แต่เนื่องจากสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ในม่านพลังลม ไม่มีใครสังเกตความเปลี่ยนแปลงได้  ด้วยการเพิ่มพลังงานกลวง ม่านพลังสายลมเริ่มดึงดูดเพลิงศักดิ์สิทธิ์เข้ามาเพิ่มอีก  และเพลิงศักดิ์สิทธิ์ยิ่งทะลักเข้ามามาก  อาซิ่นและพวกเริ่มสังหรณ์ใจว่าที่พวกเขาประสบก่อนหน้านั้นเป็นช่วงเวลาก่อนพายุ  จากนั้นในตอนนี้พวกเขาตกอยู่ภายใต้การถาโถมใส่ของน้ำตก
 ความรู้สึกนี้ยิ่งใหญ่เกินไปเสียแล้ว!’
 โอวตายแล้ว, ชักเจ็บปวดมากจริงๆ  ข้าอิ่มจนเจ็บปวดมากจริงๆ ความรู้สึกนี้ดีมากจนเจ็บปวดไปหมดแล้ว  ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!’
อาซิ่นรู้สึกว่าเขาเตรียมจะบินขึ้นท้องฟ้าสูง  เขาอยู่ในสภาวะมึนงง  เป็นอะไรที่เขาไม่เคยประสบมาก่อน
ชี่... เสียงเบาๆ เลือนรางในอากาศพุ่งผ่านอากาศเข้ามา  แต่เนื่องจากมีฝนตก มันจึงไม่ถูกตรวจสอบ
ร่างของอาซิ่นแข็งชะงักทันที ความรู้สึกเจ็บปวดที่ต้นขาของเขา และแผ่ลามไปทั่วตัว เขาสะดุ้งอยู่สองสามวินาที ก่อนในที่สุดจะรู้สึกเจ็บปวดจับใจ
ปฏิกิริยาของเสี่ยวม่านไวกว่าอาซิ่น แทบจะเวลาเดียวกัน นางใช้ดาบยักษ์ป้องกันข้างหน้า  แต่สิ่งที่ตามมาทำให้นางตกใจ รังสีกระบี่ตัดผ่านดาบยักษ์นางและพุ่งเฉือนร่างนางจนนางรู้สึกชา
รังสีกระบี่นับไม่ถ้วนก่อตัวโดยพลังงานกลวงยิงออกมาจากม่านพลังสายลม
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
ขุนพลวิญญาณทั้งหมดสะดุ้งจนหมด  รังสีกระบี่ทั้งหมดสร้างขึ้นจากพลังงานกลวงเยือกเย็นและแหลมคม  และขุนพลวิญญาณทั้งหมดรู้สึกเหมือนกับพวกเขาจะถูกตัดขาด
ไม่สำคัญว่าอาซิ่นคิดว่าในจุดเวลาไหน เขาไม่เคยคาดว่าเรื่องอย่างนี้จะเริ่มขึ้น
จำนวนรังสีกระบี่เพิ่มขึ้น พวกมันมีมากยิ่งกว่าเม็ดฝนและ และถูกกระตุ้นโดยม่านพลังสายลม รังสีกระบี่หมุนด้วยความเร็วสูงขึ้นทุกที  เสียงหวีดหวิวแหลมคมกลายเป็นเสียงทุ้มลง เสียงของรังสีกระบี่เหล่านี้ทำให้ใจเต้นเร็ว ทุกคนที่ได้ยินจะรู้สึกหนังศีรษะชา  รังสีกระบี่หมุนอย่างรวดเร็วเป็นกลุ่มฉุดดึงจนต้องมารับมือกับรังสีกระบี่กลุ่มนี้  สำนึกกระบี่แหลมคมยิงมาจากทุกทิศ  และเสี่ยวม่านรู้สึกเหมือนกับว่านางกำลังถูกบดเสียดสี  นางรู้สึกว่าร่างของนางถูกหั่นเป็นชิ้นๆ  ความเจ็บปวดซึมลึกเข้าไปในหัวใจนาง  แต่ก่อนที่นางจะหมดสติ  พลังงานกลวงจะเข้ามาแทนและฟื้นฟูร่างกายของนาง
วนเวียนเช่นนี้ไม่มีจบ
อาซิ่นหัวใจชา เหลือเพียงความคิดเดียวอยู่ในใจของเขา  เจ้าบัดซบนั่น  สิ่งที่เขาบอกเป็นจริง...
ถ้าอาเฮ่อหรือหลิงซิ่วปรากฎตัวอยู่ด้วย  พวกเขาคงจะจำสิ่งที่เกิดขึ้นได้ นั่นคือวังวนพายุกระบี่!  มันคือพายุหมุนกระบี่ที่ถังเทียนใช้ในอดีตทำให้ทุกคนกลัวแทบตาย!  ในกลุ่มดาวหมีใหญ่  ถังเทียนสำเร็จวิชาวังวนพายุกระบี่และเอาชนะได้รับความชื่นชมจากทุกคน  แน่นอนว่าทุกคนมีความสุขที่สุดจากเสียงร้องโหยหวนที่คงอยู่นานเป็นเวลาหลายเดือน  เสียงกรีดร้องเหล่านั้น ใครได้ฟังคงต้องหลั่งน้ำตากันทีเดียว
 “เด็กๆ ทั้งหลาย, เห็นไหมเพื่อประโยชน์ความสำเร็จ ฝ่าบาทยินดีทุ่มเทถึงขนาดนั้น  ดังนั้นพวกเจ้ายังมีหน้ามาบ่นว่าเจ็บปวดเมื่อยล้าอีกหรือ?  พวกเจ้าทุกคนทนทุกข์รวมกันยังจะเท่ากับฝ่าบาทได้หรือ?  พวกเจ้าทุกคนทนทุกข์เจ็บปวดได้เท่ากับฝ่าบาทหรือ?  พวกเจ้ารู้ไหมทำไมกลุ่มดาวหมีใหญ่ของเราจึงมีกองทัพที่ตั้งมั่นยืนยง?  เป็นเพราะในปีนั้น บริวารของฝ่าบาทฝึกพิเศษอยู่ข้างนอกพายุฟังเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของฝ่าบาทจนทุกคนหลั่งน้ำตา  และจากนั้นมาพวกเขายิ่งทุ่มเทพลังเพื่อความรุ่งเรืองและกลายเป็นทหารฝีมือดีของฝ่าบาท
นี่คือสุนทรพจน์ที่พลเมืองชาวกลุ่มดาวหมีใหญ่ใช้ปลุกเรียกความกล้าหาญของเด็กๆ  ถ้าถังเทียนรู้เรื่องนั้น  เขาคงเป็นฝ่ายร้องไห้ไม่หยุดแน่  ตั้งแต่เมื่อใดกันที่กองทัพของเขาปลุกกำลังขวัญทหารด้วยเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของเขา  นั่นมันเพื่อความสุขของตัวพวกเขาเอง
แต่ถ้าอาซิ่นรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาคงคลานออกนอกม่านพลังสายลมด้วยความเจ้าเล่ห์ไปนานแล้ว
น่าเศร้าที่เขาไม่รู้
วังวนพายุกระบี่เป็นแนวคิดที่มาจากถังเทียนอย่างกะทันหัน  เพราะเมื่อเขารู้สึกว่ามีเพลิงศักดิ์สิทธิ์มากเกินไป  เขาคิดจะใช้มันได้ยังไงจึงจะดี?  ขณะนั้น เขาคิดถึงวังวนพายุกระบี่ ซึ่งเดิมทีเป็นวิชาขัดเกลาปรับแต่งวิญญาณ และเหมาะกับอาซิ่น เสี่ยวม่านและพวกที่เหลือ
บึม บึม บึม!
เทียบกับวังวนพายุกระบี่เดิมของถังเทียนแล้ว  วังวนพายุกระบี่ที่สร้างขึ้นโดยพลังงานกลวงจะทรงพลังมากกว่า  ขณะนั้น สิ่งที่ถังเทียนใช้ก็คือพลังงานของกลุ่มดาว  ซึ่งไม่อาจเทียบได้กับพลังงานของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  นอกจากนี้ พลังงานกลวงยังแข็งแกร่งมากกว่าพลังดั้งเดิม
วังวนพายุกระบี่ที่แข็งแกร่งกว่า ก็ยิ่งมีความเจ็บปวดมากกว่า เจ็บปวดจนต้องกรีดร้อง
เสียงอึกทึกดังสนั่นหวั่นไหวอย่างนี้ไม่สามารถกลบบังเสียงเสียงหวีดทรมานจากใจกลางได้  ทำให้จี๋เจ๋อและพวกเขาที่เหลือกลัวจนหน้าถอดสี  ย้อนไปเมื่อถังเทียนเตือนอาซิ่นกับพวกที่เหลือ  จี๋เจ๋อและกองพลเกราะเทพเจ้ายังดีใจในหายนะของผู้อื่น  พวกเขารู้มาตรฐานสิ่งที่เรียกว่าความเจ็บปวดของเจ้านายดี  ว่ามันน่ากลัวขนาดไหน
 อดทนให้ได้ คำเหล่านี้จากเจ้านาย เป็นคำที่น่าหวาดหวั่นขวัญผวา
เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนจากภายใน  พวกเขามีสีหน้าเหมือนกับที่พวกเขาได้คาดไว้  แต่เนื่องจากเสียงกรีดร้องทรมานดังหนักขึ้นและรุนแรงขึ้น  หัวใจพวกเขาเริ่มเต้นรัว และหน้าเริ่มไร้สีเลือด  เกิดอะไรขึ้นข้างใน? เจ้านายทำอะไรกับพวกเขา?  ทำไมพวกเขาถึงเจ็บปวดมากมายขนาดนั้น?
เชียนฮุ่ยดูเหมือนกับว่านางไม่สามารถทนต่อเสียงกรีดร้องได้ สายตาของนางจับนิ่งอยู่ที่ม่านพลังสายลมและวังวนหมุนภายใน
นางรู้ว่าถังเทียนมีวิธีการฝึกเฉพาะแบบ  แต่เมื่อได้ยินพวกเขากรีดร้องอยู่ภายใน  นางอดสวดภาวนาให้พวกเขาไม่ได้ พวกเจ้าทุกคนต้องอดทนให้ได้
สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจมากยิ่งขึ้นก็คือม่านพลังสายลมและวังวนยังคงขยายขนาดอย่างต่อเนื่อง  กระแสเพลิงศักดิ์สิทธิ์ไม่มีที่สิ้นสุดทะลักเข้ามาจากทั่วทุกทิศ  ขณะที่ม่านพลังสายลมและวังวนพลังงานขยายขึ้นๆ เสียงรังสีกระบี่เริ่มเด่นชัดขึ้น
 กระบี่?
ทุกคนกำลังสับสนและสงสัย  มีเพียงซือหม่าเซี่ยวที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  สายตาของเขาเป็นประกายและโพล่งออกมา  “นั่นคือวังวนพายุหมุนกระบี่!
ในอดีตเขาเคยจับตาถังเทียนในฐานะศัตรูที่คู่ควร  และเขารู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในกลุ่มดาวหมีใหญ่  เขาตรวจสอบเรื่องวังวนพายุหมุนกระบี่อย่างเป็นพิเศษ  เมื่อเขาเห็นม่านพลังสายลม  เขายังไม่ได้เชื่อมโยงวิชานี้เข้าด้วยกัน  แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงกระบี่หวีดหวิวชัดเจนขึ้น  เขาเริ่มสงสัยว่าเขาเคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน
 “วังวนพายุหมุนกระบี่?”  เชียนฮุ่ยหันหน้ามาถาม
 “ถูกแล้ว นั่นคือวังวนพายุหมุนกระบี่”  ซือหม่าเซี่ยวอธิบาย  “มีต้นเค้ามาจากวิชาขัดเกลาวิญญาณวังวนกระบี่  เป็นวิชาที่ใช้สำนึกกระบี่ปรับแต่งจิตวิญญาณยุทธ แสดงว่ามันอยู่ในมือถังเทียน  วังวนกระบี่กลายเป็นวังวนพายุหมุนกระบี่  และเมื่อตอนถังเทียนอยู่ในกลุ่มดาวหมีใหญ่  เขาใช้ฝึกฝนถี่มาก และในที่สุด เขาใช้วิชานี้ฆ่าเซียนนักสู้ได้”
เมื่อเชียนฮุ่ยได้ยินว่าถังเทียนใช้วิธีเดียวกับที่เขาฝึก หัวใจนางสั่นสะท้าน
 “มีน้อยคนนักที่จะยอมใช้วิชาวังวนกระบี่เพื่อขัดเกลาปรับแต่งวิญญาณของเขา  เพราะคนที่ใช้ต้องมีความอดทนต่อความเจ็บปวดอย่างยิ่งยวด  ดังนั้นจึงถูกยกย่องว่าเป็นวิชาขัดเกลาวิญญาณที่โหดร้ายรุนแรงที่สุด  ไม่มีใครรู้ว่าถังเทียนจะสร้างวิชาวังวนพายุกระบี่น่ากลัวอีกครั้ง  และความเจ็บปวดจากการนี้ไม่สามารถคาดคิดได้  และนี่อาจกล่าวได้ว่าเจ็บปวดเกินขีดจำกัดที่มนุษย์จะทนได้ ความสำเร็จของถังเทียนในเรื่องนี้ทำให้ทุกคนเคารพนับถือเขา”
น้ำเสียงของซือหม่าเซี่ยวก็เต็มไปด้วยอารมณ์และความนับถือยิ่งมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับถังเทียน ก็ยิ่งยากหามุมมองที่จะเป็นศัตรูกับเขาได้
หนุ่มชาวฟ้า เบื้องหลังชื่อนี้ได้มาอย่างโชกเลือด เหงื่อ น้ำตาและความเจ็บปวด โดดเดี่ยว และทรมานอย่างคาดไม่ถึง  คนแบบนี้คงไม่มีใครรู้สึกอิจฉาแน่นอน
แม้แต่เชียนฮุ่ยเมื่อรู้ถึงความขมขื่นและทรมานที่ถังเทียนได้รับมาในอดีตมาบ้างแล้ว  แต่พอได้ยินจากซือหม่าเซี่ยวพูด นางรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ
 ใช่แล้ว พี่เทียนต้องเคยทนทุกข์มาก่อนแล้ว พวกเจ้าทุกคนก็ต้องยินดีด้วยเช่นกัน เอ๊ย..ไม่ใช่ พวกเจ้าต้องพยายามอย่างดีที่สุด!
เชียนฮุ่ยเมินเสียงกรีดร้องของพวกเขาทันที  สายตาของนางมองผ่านพวกเขาไป  ร่างสีทองเลือนรางเหนือพายุจับตาน่าสนใจนัก
ถังเทียนไม่รู้สถานการณ์ด้านนอก  และเหมือนกับว่าเสียงกรีดร้องใต้ตัวเขา เขาไร้อารมณ์ไม่ใส่ใจ  ในอดีต เมื่อข้าอยู่ภายในนั้นแหกปากร้องโหยหวนเกือบตาย เจ้าบัดซบที่อยู่ข้างนอกทุกคน ร่าเริงดีใจได้ฟังเสียงข้า  หึหึ คราวนี้ถึงคราวพวกเจ้าบ้างล่ะ...
ความจริงถังเทียนยุ่งเกินไปจนเขาไม่มีเวลาสนใจพวกเขา
แม้ต่อให้ได้รับความช่วยเหลือจากเกราะเทพเจ้าตื่นรู้  ก็ไม่ง่ายที่จะควบคุม  จำนวนของเพลิงศักดิ์สิทธิ์มีมากเกินไป  ถึงขนาดที่ทำให้คนที่เหลือกลัว  เขาสงสัยว่าจะมีมีขุนพลวิญญาณมากเท่าใดที่เตรียมตัวไว้แล้ว  ขุนพลวิญญาณเท่าใดจึงจะสามารถดูดซับเพลิงศักดิ์สิทธิ์ได้มาก?
คำถามนี้ผุดขึ้นมาในใจวาบหนึ่งแล้วก็หายไปทันที  แรงกดดันที่เขาต้องแบกรับเหนือกว่าที่เขาคาดไว้
เขาไม่ใส่ใจรายละเอียด  เมื่อวังวนพายุกระบี่ตั้งขึ้น มันก็เริ่มต้นเสริมพลังความสามารถในตัวเอง และไม่จำเป็นต้องควบคุม  แต่สถานการณ์อย่างนั้น ขณะที่วังวนพายุกระบี่ยังคงขยายและเสริมพลัง ก็ทำให้มีพลังขยายมากขึ้น
ความเร็วของเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ทะลักเข้ามาเริ่มเร็วขึ้นๆ ถังเทียนต้องรับมือกับเพลิงศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ได้พลังงานกลวง  แต่ถ้าเขาไม่สามารถแปลงเป็นพลังงานได้ทัน  และเพลิงศักดิ์สิทธิ์ผสมเข้าไปในวังวนพายุหมุนกระบี่และเปลี่ยนเป็นรังสีกระบี่  นั่นจะเป็นอันตรายร้ายแรงต่ออาซิ่น เสี่ยวม่านและพวกที่เหลือ
ถังเทียนทุ่มความสนใจทั้งหมดกับการรับมือเพลิงศักดิ์สิทธิ์
ความถี่ของเขาดีกว่าตอนเมื่อเขาเริ่มต้นมาก  ขณะที่จำนวนเพลิงศักดิ์สิทธิ์ยังคงทำให้เขามีประสบการณ์เพิ่มพูน  เขาแทบรับมือกับเพลิงศักดิ์สิทธิ์ 500 ชุดได้รวดเดียวโดยไม่มีการรั่วไหลเลย  แต่เนื่องจากความเร็วของเพลิงศักดิ์สิทธิ์ยังเพิ่มต่อเนื่อง จึงไม่ใช่เรื่องที่เขามีความพอใจนัก  แต่กลับเพิ่มแรงกดดันให้กับเขา
เขารู้สึกต้องเพิ่มความพยายามมากขึ้น และรู้ว่าระดับความก้าวหน้าของเขายังไม่สามารถรักษาระดับความเติบโตของวังวนพายุหมุนกระบี่ได้
 ไม่อาจเป็นแบบนี้ต่อไปได้!’
ในสภาวะเกราะเทพเจ้าตื่นรู้  ถังเทียนมีความคิดสำหรับการคำนวณได้ดีอย่างน่าอัศจรรย์  เขายังคงใจเย็นขณะนับ  ตามอัตราการขยายสองส่วน ก็ต้องใช้เวลาสิบนาทีก่อนที่ข้าจะโผล่ออกมาจากกระแสเพลิงศักดิ์สิทธิ์ได้  ในจุดนั้นจุดรั่วแรกจะปรากฏ
 ข้าต้องทำอะไรสักอย่าง  ถังเทียนแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการเปลี่ยนแปลง
แรงกดดันที่หนักหน่วงทำให้ถังเทียนรู้สึกหายใจไม่ออก ราวกับว่าเขาอยู่ใต้แรงกดทับของภูเขาไท่ซาน  แม้แต่ในสภาวะเกราะเทพเจ้าตื่นรู้  มือของเขาไม่ได้ช้าลง  สมองของเขาทำงานตลอดเวลา  ข้าควรจะทำยังไง?
 เพิ่มความเร็วของวังวนพายุกระบี่?
ความคิดนี้ถูกถังเทียนปฏิเสธตั้งแต่แรก  ขนาดปัจจุบันของวังวนพายุกระบี่ก็ถือว่ามีขนาดใหญ่มากอยู่แล้ว   ความสูงของมันสูงถึง 120 เมตร  ขณะที่เส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เมตรซึ่งถือว่ามีขนาดภูเขาย่อมๆ วัตถุขนาดมหาศาลเช่นนั้นมีพลังน่ากลัวมาก  และไม่ใช่สิ่งที่ลำพังเขาคนเดียวจะทนอยู่ได้
 อย่างนั้นข้าสามารถทำได้แต่เพียงเพิ่มระดับการรับมือเพลิงศักดิ์สิทธิ์  ว่าแต่ข้าจะเพิ่มได้อย่างไร?
 ข้าต้องการสายใยกฎธรรมชาติมากขึ้น  ขอเพียงมีสายใยกฎธรรมชาติมากขึ้น ข้าก็สามารถเพิ่มระดับได้  ไม่ใช่เรื่องยากกับการเพิ่มสายใยกฎธรรมชาติ  ตราบใดที่ถังเทียนคลายแรงดันในเกราะเทพเจ้า  ข้าก็สามารถควบคุมกฎธรรมชาติได้มากขึ้น  แต่ยิ่งจำนวนกฎธรรมชาติมากขึ้น ก็ต้องใช้ความสามารถในการควบคุมที่สูงขึ้น  และเขาไม่สามารถควบคุมกฎธรรมชาติได้หลายอย่าง
 ดูเหมือนว่าไม่เพียงแต่จำนวนสายใยกฎธรรมชาติเท่านั้น  ข้ายังต้องควบคุมกระแสของเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่เข้ามาถึงข้า
ถังเทียนไม่ยอมแพ้  เขายังคงไตร่ตรองต่อไป  เขาระลึกย้อนเมื่อเขาควบคุมเพลิงศักดิ์สิทธิ์  ส่วนที่ยากที่สุดของการรับมือเพลิงศักดิ์สิทธิ์คืออะไร?  ขั้นตอนใดที่ทำให้ข้าล่าช้า?
ในเวลาอันรวดเร็วก็ทำให้เขาตาเป็นประกาย
เพลิงศักดิ์สิทธิ์มองกฎธรรมชาติว่าเป็นศัตรู  เขาจำเป็นต้องคลุมสายใยกฎทั้งหมดด้วยพลังงานชั้นหนึ่ง  และความหนาของพลังงานจะต้องมีอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องสายใยกฎธรรมชาติทะลุผ่านเพลิงศักดิ์สิทธิ์จากการสัมผัสกฎธรรมชาติจะทำให้ทั้งสองเกิดการทำลายล้างกัน
นั่นคือส่วนที่ต้องใช้ความพยายามมากที่สุด  และยังจำเป็นต้องทำแน่นอน
 ข้าจะผ่อนแรงตรงนี้ได้ยังไง?
ถังเทียนตระหนักได้ทันทีว่าเขาเข้าใจปมของปัญหาแล้ว
ทันใดนั้นนั้นใจเขาตื่นเต้น  ถ้ารังสีกระบี่สร้างโดยพลังงานกลวงโจมตีใส่เพลิงศักดิ์สิทธิ์จะเกิดอะไรขึ้น?
เขาไม่ลังเลใจนำรังสีกระบี่พลังงานกลวงจากม่านพลังสายลมบนกลุ่มเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ทันทีที่รังสีกระบี่สัมผัสกับเพลิงศักดิ์สิทธิ์ เสียง ปัง ดังขึ้น ระเบิดทำให้พลังงานแตกกระจายเป็นเม็ดนับไม่ถ้วน เหมือนกับฝนตกลงมาหลังจากสายใยกฎทั้งสองทำลายกัน
ถังเทียนประหลาดใจ  แต่เขารีบคิดทันที
เมื่อรังสีกระบี่มีปฏิกิริยากับพลังงานกลวงของเพลิงศักดิ์สิทธิ์  ทั้งสองก็แตกตัวพร้อมกัน  แต่กฎธรรมชาติเทียมในใจกลางของเพลิงศักดิ์สิทธิ์ยังคงเดิม  แต่เมื่อไม่มีการป้องกันจากพลังงานกลวง มันจึงลอยอยู่ในอากาศโดยไม่มีอะไรป้องกัน  มันเป็นเส้นสีเทาบางกว่าเส้นผม และเปล่งประกาย
พลังงานกลวงที่แตกกระจายค่อยๆ ลอยเข้าหากฎธรรมชาติเทียมภายในใจกลาง
ถังเทียนไม่หยุดนิ่ง  แต่สังเกตทั้งกระบวนการอย่างระมัดระวัง
พลังงานกลวงที่ลอยอยู่ในอากาศค่อยๆ บรรจบกับกฎธรรมชาติเทียมภายในแกน ในช่วงถัดมาเพลิงศักดิ์สิทธิ์มาปรากฏต่อหน้าถังเทียนอีกครั้ง  เป็นเพลิงศักดิ์สิทธิ์ใหม่ที่หมองกว่าที่เคยเป็นและเพลิงมีขนาดเล็กกว่า
ถังเทียนได้ความเข้าใจจากการนี้บางส่วน  โดยการนำรังสีกระบี่โจมตีใส่เพลิงศักดิ์สิทธิ์  ตลอดทั้งกระบวนการแสดงต่อหน้าของเขาอีกครั้งหนึ่ง  ถังเทียนลองทำซ้ำๆ กันหลายครั้ง และดูตลอดทุกกระบวนการอย่างระมัดระวัง  และในที่สุดเขาก็เข้าใจสถานการณ์
รังสีกระบี่ถูกสร้างมาจากพลังงานกลวง และทั้งรังสีกระบี่และเพลิงศักดิ์สิทธิ์ยังคงมีพลังงานคุณสมบัติเดียวกัน  พวกเขาจึงไม่ก่อให้เกิดการทำลายกันและกันเมื่อปะทะกัน  พลังรังสีกระบี่นำไปสู่การล่มสลายขององค์ประกอบของเพลิงศักดิ์สิทธิ์  ดังนั้นพลังงานกลวงและกฎธรรมชาติเทียมจึงอยู่ในแกนแยกกัน
ถ้าไม่มีแรงพลังจากภายนอก  กฎธรรมชาติเทียมในแกนกลางจะดึงดูดพลังงานกลวงเข้ามาและประกอบเข้าด้วยกันเป็นเพลิงศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง
แต่จะเป็นยังไงถ้ามีแรงภายนอกบังคับ?
ถังเทียนพยายามอีกครั้ง และเหมือนครั้งก่อน  กฎธรรมชาติเทียมภายในแก่นกลางลอยอย่างโดดเดี่ยวในอากาศอีกครั้ง  ถังเทียนใช้กฎธรรมชาติกระตุ้นใส่แกนกลาง
ทันใดนั้นสายใยกฎทั้งสองถูกทำลายทันที
 ตามคาด ตาของถังเทียนเป็นประกาย  เขาพบวิธีแก้แล้ว
เขาเพียงแต่ต้องนำรังสีกระบี่จากม่านพลังลม โดยพึ่งพารังสีกระบี่เหล่านี้เพื่อทำลายองค์ประกอบของเพลิงศักดิ์สิทธิ์  เขาสามารถควบคุมสายใยกฎธรรมชาติอย่างง่ายดายและทำลายกฎธรรมชาติเทียม  พลังงานกลวงภายในม่านกั้นพลังลมมีมาไม่หมดสิ้น  นั่นก็หมายความว่าจำนวนรังสีกระบี่ก็ต้องมีไม่สุดสิ้นเช่นกัน  เมื่อเป็นเช่นนั้นจำนวนเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่เขาสามารถรับมือได้ ก็ต้องมีปริมาณมหาศาลในคราวเดียว
แต่....
ถ้าเป็นกรณีนั้นจริงๆ  ก็หมายความว่าเขาเช่นกัน ที่ต้องลงไปเผชิญหน้ากับรังสีกระบี่ เป็นรังสีกระบี่ปริมาณมากมายอย่างน่าทึ่ง
 ข้ายังต้องมาเจอกับประสบการณ์วังวนพายุหมุนกระบี่อีกครั้งหรือนี่?
หลังประสบพบครั้งล่าสุด  แม้ว่าจะเป็นเวลานานมาแล้ว  แม้ว่าเขาจะอยู่ในเกราะเทพเจ้าตื่นรู้  แต่ร่างถังเทียนก็ยังสั่น  เขาเพิ่งจะดีใจกับความเจ็บปวดของอาซิ่นและคนอื่นๆ  แต่ในพริบตาเขาก็ต้องหล่นลงไปในหล่มเหวนั้นเอง
ถังเทียนอยากจะร้องไห้ทันที
สำหรับถังเทียนไม่มีอะไรทารุณโหดร้ายมากไปกว่านี้อีกแล้ว

13 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ช่างเป็นวิธีการที่แม้แต่ถังเทียนก็ไม่อยากใช้

Exboss กล่าวว่า...

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พายุกระบี่ กลับมาอีกแล้ว โครตคิดถึงเลย แต่ เชียนฮุ่ย นี้ติด ถังเทียน ระยะสุดท้ายแล้วสินะ

Exboss กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

งงมากๆๆๆ

WingF กล่าวว่า...

5555 ไม่น่าเลยพี่ถัง พึ่งสะใจคนอื่น ต้องโดนอีกแล้วหรือนี้

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

แล้วพี่ถังก็ขี่พายุไปถล่มอีกครั้ง 555

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

นักอ่าน กล่าวว่า...

แล้วพี่ถังก็เขาวังวนพายุกระบี่ไปถล่มวิหาร

Anny กล่าวว่า...

พี่ถังสู้ๆนะคร๊า☺️😁💗💗💗

แสดงความคิดเห็น