วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 934 การตอบสนองของตู้เค่อ


ตอนที่  934  การตอบสนองของตู้เค่อ
เมื่อจี๋เจ๋อและฝูเจิ้งจือเห็นตู้เค่อ  พวกเขารู้ดีใจ เงาร่างนั้นเกิดขึ้นจากบุรุษผู้ลือนามนักสู้อันดับหนึ่งของแดนบาป  ชื่อเสียงและผลกระทบที่ตู้เค่อมีต่อทุกคนในแดนบาปนับว่าทรงพลังมาก  นอกจากนี้เมื่อเห็นวิธีที่ตู้เค่อแสดงออกมาว่าเป็นคนเดียวที่สามารถบินอยู่ได้ในท้องฟ้า  พวกเขารู้ว่าเขาสมควรแล้วที่ได้รับสมญานามว่าผู้แข็งแกร่งที่สุด

เมื่อบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนบาปเห็นพายุหมุนลอยอยู่เหนือเมืองหิมะ เขาถึงกับอ้าปากค้างมีสีหน้าตะลึง
หลังจากนั้นเป็นเวลานาน เขาจึงหันหน้ากลับมา ราวกับจะได้ยินเสียงดังแครก แครก เหมือนกับเครื่องกลไก ทำให้จี๋เจ๋อกับพวกกังวลว่าคอของเขาจะหักหรือไม่
 “นายท่านอยู่ข้างในหรือ?”  เขามองดูจี๋เจ๋ออย่างตะลึงขณะชี้มือไปที่พายุหมุนอย่างอ่อนล้า
 เป็นไปตามที่ผู้แข็งแกร่งที่สุดของแดนบาปคาด  สายตาของเขาทรงพลังมาก!’  จี๋เจ๋อพยักหน้าทันที  “ถูกแล้ว, นายท่านอยู่ข้างในมาสองสามวัน กับอาซิ่น เสี่ยวม่านและพวก”
 อยู่ข้างในมาสองสามวัน...’
ตู้เค่อเงยหน้ามอง และขณะที่เขาเห็นกระแสเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ถูกดูดเข้าไปข้างใน  มุมปากของเขาถึงกับเบี้ยว  เมื่อคิดถึงเรื่องลำแสงเพลิงที่วิหารก่อนหน้านั้น  สิ่งเดียวที่เขาคิดได้ก็คือฉากภาพน่าตกใจ  ควมเร็วของพายุหมุนในการกลืนเพลิงศักดิ์สิทธิ์น่ากลัวมาก  เพียงสิ่งเดียวที่เขาสามารถคิดจะพูดได้ในขณะนั้นก็คือ เสี่ยวตู้ ข้ามันก็แค่ไอ้บ้านนอกที่ยังไม่เคยเห็นโลก
ปากขนาดใหญ่ของพายุหมุนก็คือปากปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาในชีวิตของเขา  กระแสสีทองที่หลั่งไหลจากท้องฟ้าออกไปจากตัวเขา ทิ้งความคิดอย่างเดียวไว้ในใจเขาก็คือ เหมือนปากปลาวาฬ!’ ใช่แล้วอาจไม่มีตัวเปรียบเทียบที่เหมาะสม  แต่เขารู้สึกเหมือนกับว่าน้ำหลากท่วม
หลังจากเห็นประจักษ์ถึงฉากภาพตระการตาต่อหน้าเขา  เขาสงบลงได้  ใช่แล้ว ถ้าท่านถังเทียนไม่ทำอะไรที่น่าประหลาดใจ  เขาจะเป็นท่านถังเทียนได้ยังไง?’  ก่อนหน้านี้  ตู้เค่อก็ยังมีความกลัวต่อประมุขผู้อาวุโส  แต่หลังจากเห็นพายุหมุนยักษ์แล้ว  เขาลืมอารมณ์เหล่านั้นไปเลย  ใครก็ตามที่เห็นพายุหมุนคลุมเต็มท้องฟ้าถึงครึ่งหนึ่ง  คงรู้สึกราวกับว่าโลกได้เปิดออกต่อหน้าเขา
 “ใครคืออาซิ่นและเสี่ยวม่าน?”  ตู้เค่อถามคร่าวๆ  หลังจากเขาสงบใจลงได้  เขาพบว่านั่นเป็นชื่อที่ไม่คุ้นเคย  พวกเขาเป็นคนใหม่หรือ?
สำหรับตู้เค่อ กองพลเกราะเทพเจ้าได้รับการยกย่องอย่างมาก  ฝูเจิ้งจือพูดขึ้น  “อาซิ่นและเสี่ยวม่านเป็นขุนพลวิญญาณ  พวกเขาเป็นขุนพลของแม่หญิงเชียนฮุ่ย  แม่หญิงเชียนฮุ่ยคือว่าที่ภรรยาของนายท่าน”
 “ขุนพลวิญญาณ?  เรามีขุนพลวิญญาณด้วยหรือนี่?  ทั้งสองเป็นขุนพลวิญญาณหรือ?”  ตู้เค่อตื่นเต้นทันที  เป็นไปได้หรือว่านายท่านคาดเดาแผนการของวิหารออก?  ร้ายกาจ! เจ้าเล่ห์จริงๆ!  เขาก้าวล้ำไปหนึ่งก้าวจริงๆ ข้าเองเคยเปิดเผย ตรงไปตรงมา  แต่ตอนนี้ข้าชักเสียคนตามเจ้านายเสียแล้ว
 มียอดฝีมือสองคนอยู่ที่นี่อย่างนี้ นับเป็นเรื่อง นับเป็นเรื่องดี
อารมณ์ของตู้เค่อดีขึ้นมาก ตัวประหลาดที่น่ากลัวทั้งสิบสี่ก่อนนั้นสร้างผลกระทบใหญ่ต่อเขา
ฝูเจิ้งจือตอบ  “ถูกแล้ว  พวกเขาทั้งสองเป็นขุนพลวิญญาณ  ทหารของเขาก็เหมือนกัน  พวกเขาทั้งหมดเป็นขุนพลวิญญาณ  รวมกันแล้วมีร้อยยี่สิบนาย”
 “หนึ่ง...หนึ่งร้อยยี่สิบ?... ขุนพล..ขุนพลวิญญาณน่ะหรือ?”  ตู้เค่อรู้สึกเหมือนกับว่าใจของเขาไม่สามารถนับตัวเลขได้ขณะที่เขาตะลึง
ขุนพลวิญญาณหนึ่งร้อยยี่สิบ... ทันใดนั้นเขารู้สึกเหมือนกับว่ารัศมีที่ทรงพลังเปล่งออกมาจากลำแสงเพลิงทั้งสิบสี่ก่อนนี้ไม่มีอะไร  ในที่สุดเขาก็เข้าใจทำไมขนาดของพายุหมุนถึงได้ใหญ่โตมโหฬารนัก  และทำไมความเร็วในการกลืนเพลิงศักดิ์สิทธิ์ถึงได้น่ากลัวนัก
 ความจริงมีขุนพลวิญญาณถึงร้อยยี่สิบอยู่ที่นี่!’
 ถ้าจิ้งจอกเฒ่าที่อยู่ในลำแสงเพลิงรู้เรื่องนี้ เขาจะร้องไห้ไหม?’
 “ใช่แล้ว” ฝูเจิ้งจือเห็นสีหน้าของตู้เค่อ จึงรู้สึกลอบกังวลใจต่อตู้เค่อ  ทำไมท่านตู้เค่อถึงกังวลแต่เพียงเรื่องขุนพลวิญญาณ  ทำไมเขาไม่เข้าใจจุดสำคัญของเรื่องราว?’  เขาอดเตือนตู้เค่อไม่ได้  “พวกเขาเป็นขุนพลวิญญาณของแม่หญิงเชียนฮุ่ย และแม่หญิงเชียนฮุ่ยก็คือภรรยาในอนาคตของนายท่าน”
เขาพยายามเน้นเสียงเมื่อพูดถึง “แม่หญิงเชียนฮุ่ย”  เจ้ายังอายุเยาว์  เจ้ายังไม่มีประสบการณ์!  บุรุษหนุ่ม, เจ้ารู้ไหมว่าลมมีพลังมากเพียงไหน ถ้าเจ้ารุกรานนายท่านถังเทียน  นายท่านก็คงจะทุบตีเจ้าได้  แต่ถ้าเจ้ารุกรานนายหญิง หึหึ  ก็อาจตายตั้งแต่ต้นแล้ว เจ้ายังไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
 ภรรยาในอนาคตของนายท่าน...’
ดวงตาของตู้เค่อเหลือกทันที เหมือนกับว่าเขากลิ้งตกจากสวรรค์
 “ข้าบอกได้เลยสุภาพสตรีของตระกูลที่มีความงดงามและมีระดับอย่างนี้ ฉะนั้นนางต้องเป็นแม่หญิงของเจ้านาย!  นายท่านมีโชคดีอย่างแท้จริง  ดูนางสิ นายท่านมีโชคดีมาก!  เราเองก็พลอยมีโชคดีมากไปด้วย ด้วยคำแนะนำของนายหญิง เราจึงอยู่ในแนวทางได้และยังไร้เทียมทานอยู่ พวกที่ขวางเราล้วนพลาดท่าพังทลายอย่างรวดเร็ว  เมื่อเห็นนายหญิง ข้า...เสี่ยวตู้  รู้สึกได้ถึงจิตวิญญาณที่เมตตาและเป็นกันเองยิ่งนัก...”
ตู้เค่อรู้สึกชื่นชมทันที เหมือนกับว่าเขาพบพานญาติที่หายสาบสูญไปนาน
ฝูเจิ้งจือที่ก่อนหน้านี้เหมือนกำลังหยอกล้อตู้เค่อถึงกับตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของตู้เค่อ  ไม่ใช่เพียงแต่เขาเท่านั้น  แม้แต่จี๋เจ๋อผู้ให้ความนับถือต่อตู้เค่อ ก็อึ้งอยู่กับที่
 เสี่ยวตู้...’
เมื่อเห็นบุรุษวัยกลางคนเรียกตัวเองว่า ข้า..เสี่ยวตู้
 เฮ้, ท่านคือบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนบาปนะ...
แม้แต่เชียนฮุ่ยก็ยังอายหน้าแดงเมื่อได้ยินตู้เค่อพูดดังๆ “นายผู้หญิง”
ซาดราและประมุขตระกูลอื่นที่ได้เห็นฉากภาพนี้ขณะที่มาถึงกับอ้าปากค้างไปชั่วอึดใจ  ซาดรา, หัวหลิวซางและพวกที่เหลือมองหน้ากันเอง และอ่านสถานการณ์ได้ชัดเจนทันที  พวกเขาเห็นความทรงพลังของตู้เค่อว่าไม่ด้อยไปกว่าประมุขผู้อาวุโส  แต่บุรุษที่ทรงพลังอย่างนั้นยังคงให้ความเคารพต่อหน้าแม่หญิงเชียนฮุ่ย  ดูเหมือนว่าเขากำลังประจบนาง นายท่านและนายหญิงนั้นลึกล้ำยากจะหยั่งจริงๆ!’
 เป็นไปได้ไหมว่านายท่านและนายหญิงมาจากแดนบาป?  ถ้าไม่อย่างนั้นทำไมนักสู้ผู้ทรงพลังของแดนบาปจึงยอมรับใช้พวกเขา?
 “อย่าคิดมากไป, เราไม่มีคุณสมบัติจะคิดเรื่องอย่างนั้น”  ม่ออี้กู่พูดขึ้นมาทันใด
คนอื่นๆ พากันเงียบ แต่ก็เห็นด้วย  เรื่องเช่นนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกเขาจะคิดพิจารณาได้  พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ไม่ต้องคำนึงถึงประวัติของนายท่าน  วิหารซึ่งดำเนินการกระทำอันป่าเถื่อนโหดร้ายเช่นนั้นได้เป็นศัตรูทั่วทั้งทวีปกวงหมิงแล้ว  และความคิดของวิหารที่จะยึดอำนาจอีกเป็นสิ่งที่ทำให้แม้แต่คนที่กล้าหาญที่สุดก็ยังสั่นสะท้าน
ในสายตาของซาดราและประมุขตระกูลคนอื่นๆ  ใครก็ได้ที่เป็นเจ้าปกครองทวีปกวงหมิง  ตราบเท่าที่ไม่ใช่วิหาร  ก็ยังจะต้องเกี่ยวข้องกับชีวิตพวกเขา
ตอนนี้ที่พวกเขารู้ก็คือบริวารของนายท่านทรงพลังมาก  กำลังใจของพวกเขาก็ดีขึ้นและความหวังจะอยู่รอดได้ในหัวใจของพวกเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
**************
ภายในลำแสงเพลิงที่วิหาร  ประมุขผู้อาวุโสลืมตาขึ้น
เขามองดูหมัดของตนเอง หมัดโปร่งใสหนา และนอกจากสีทองเลือนราง ไม่มีอะไรที่แตกต่างจากมือของคนมีชีวิต แม้ความอบอุ่นและความรู้สึกก็รับรู้ถึงได้เหมือนกัน  นี่เหมือนกับร่างกายเดิมของเขา  เป็นร่างที่มั่นคง
เพลิงศักดิ์สิทธิ์และขุนพลวิญญาณคือชีวิตอมตะ  แต่เมื่อทั้งสองถูกสร้างพร้อมกันและพัฒนาจนถึงระดับสุดยอด ร่างของเขาไม่ใช่ร่างโปร่งแสงอีกต่อไป  แต่กลายเป็นร่างหยาบ  ร่างกายของเขามีแสงสีทองเลือนรางเพิ่มราศีสง่างามและศักดิ์สิทธิ์  เมื่อเขาเงยหน้า เขาสามารถรู้สึกได้ถึงพลังปั่นป่วนในตัวเขา
ขณะนั้นเขารู้สึกเหมือนเป็นพระเจ้า
แต่ในเวลารวดเร็วสีหน้าของเขาสลดลงอีก  เขาคิดเกี่ยวกับคนเดนตายจากแดนบาปที่เขาเห็นก่อนนั้นซึ่งมีพลังทำให้เขาประหลาดใจ  ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างสมบูรณ์ พลังส่วนตัวของเขาคงไม่อาจเทียบกับตู้เค่อได้  ประมุขผู้อาวุโสสามารถบอกได้ว่าตู้เค่อใช้กฎธรรมชาติ  แต่ตู้เค่อมีความเข้าใจกฎลึกซึ้งขนาดไหน เขาไม่แน่ใจ
ประมุขผู้อาวุโสมีเหตุผลให้ต้องประหลาดใจ  นักสู้ผู้ทรงพลังผู้ก้าวเข้าสู่กฎธรรมชาติระดับสูงซึ่งก็คือสนามพลังกฎธรรมชาติมักจะกลายเป็นตำนาน
รูปแบบของพลังเมื่อฝึกจนถึงจุดสุดยอดจะต้องทรงพลังมาก และนอกจากนี้สิ่งที่ตู้เค่อฝึกก็คือกฎธรรมชาติ
ประมุขผู้อาวุโสรู้ว่าแดนบาปเป็นได้แต่เพียงศัตรู  เนื่องจากไม่มีทางให้อภัยกันได้ระหว่างแดนบาปกับวิหาร
ตอนแรกเขาตั้งใจจะเริ่มโจมตีเมืองหิมะ  แต่เขาไม่สามารถเสี่ยงได้  ก่อนที่ขุนพลวิญญาณอื่นของเขาจะผ่านการเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จ  เขาสามารถรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นในเมืองหิมะ มีเพลิงศักดิ์สิทธิ์ปริมาณมหาศาลหลั่งไหลเข้าไปยังเมืองหิมะ  เขาไม่เคยคาดว่าศัตรูของเขาจะสามารถดูดกลืนเพลิงศักดิ์สิทธิ์ได้  และรู้ว่าไม่มีมนุษย์ธรรมดาที่สามารถเข้าใจความลับของเพลิงศักดิ์สิทธิ์  แต่พวกเดนตายแดนบาปทำความเข้าใจได้ แม้กระทั่งสร้างเปลวเพลิงเลียนแบบ
 แต่แล้วไงเล่าถ้าเจ้าค้นพบ?  แดนบาปไม่มีขุนพลวิญญาณ
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น  ประมุขผู้อาวุโสเผยรอยยิ้ม  ข้าวางแผนมานานนับปีไม่ถ้วน แล้วจะถูกทำลายได้ง่ายๆ ยังไง?
ประมุขผู้อาวุโสเป็นคนช่างสงสัย  และการปรากฏตัวกะทันหันทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง  แม้ว่าความไม่สบายใจจะเป็นแค่เพียงอารมณ์และความรู้สึก  แต่เขาตัดสินใจเพิ่มต้นทุนต่อรอง
แม้ว่าศัตรูจะก้าวอยู่ภายในสนามพลังกฎธรรมชาติ  แต่ทวีปเซียนปัจจุบันนี้เป็นเขตแดนของเขา   ลำแสงลงทัณฑ์ประหลาดห้าร้อยเป็นเหมือนเข็มที่ปักตรึงกับพื้นที่ทุกมุมทวีปเซียน ทำให้เขาควบคุมสถานที่ได้ทั่ว
เนื่องจากว่าเขาจำเป็นต้องเพิ่มต้นทุนเดิมพัน  เขาต้องใช้คน ประมุขผู้อาวุโสมองดูเพลิงศักดิ์สิทธิ์ในท้องฟ้า และรอยยิ้มเย็นชาปรากฏอยู่บนหน้าของเขา
ถ้าพันธมิตรตระกูลชั้นสูงต้องทนทุกข์จากการบาดเจ็บล้มตาย  อย่างนั้นตระกูลชั้นสูงใหม่ก็จะตกอยู่ในหายนะ  กองทัพที่พวกเขามียังเคยมีประสบการณ์เช่นนั้น เนื่องจากพันธมิตรตระกูลชั้นสูง และความแข็งแกร่งของพวกเขาอ่อนแอ
เมื่อเจอกับเพลิงศักดิ์สิทธิ์  พวกเขาจะตายกันทันที
ประชากรที่ยังเหลืออยู่น้อยกว่า 40%  พันธมิตรตระกูลชั้นสูงเสียประชากรไป 30%  และตระกูลต่างๆ สามารถรักษาสมาชิกไว้ได้  หลังจากมีตระกูลใหม่และความตายของพวกเขามีมากกว่า 60% ทั้งหมดจะตกอยู่ในความปั่นป่วน
คนที่ยังเหลือมองดูท้องฟ้าอย่างว่างเปล่า  พวกเขาทั้งหมดรู้สึกถูกเล่นงานจนหัวใจชาด้าน
ประมุขผู้อาวุโสปรากฏตัวทันที  เขาลอยตัวอยู่ในท้องฟ้า และปล่อยแสงทองที่ป้องกันไม่ให้ใครเห็นเขาได้โดยตรง  ลักษณะที่น่ากลัวของเขาห้อมล้อมตัวเขา เขาเป็นเหมือนเทพเจ้า ที่ทำให้ทุกคนรู้สึกต้องการจะบูชาเขา
ผู้คนที่อยู่ด้านใต้พังทลายไปนานแล้ว  ทุกคนคุกเข่าร้องขอความเมตตา  พวกเขาร้องไห้อ้อนวอนประมุขผู้อาวุโสในท้องฟ้า
ภายในแสงที่แพรวพราว เสียงเด็ดขาดของประมุขผู้อาวุโสดังกึกก้องทั่วดินแดน
 “พวกเจ้าทุกคนมีบาป!  ความภักดีของพวกเจ้ากำลังถูกวิหารทดสอบ และจะไม่มีรังสีสว่างคงอยู่ในตัวพวกเจ้าทุกคน  ข้าจะไม่มีทางรู้ได้  นี่คือการลงโทษเล็กๆ น้อยๆ กับพวกเจ้าทุกคน  เนื่องจากว่าพวกเจ้าทุกคนเป็นพลเมืองของวิหาร  วิหารตัดสินใจให้โอกาสพวกเจ้าเปลี่ยนแปลงตัวเอง”
คนที่อยู่ด้านล่างร้องไห้ด้วยความยินดี
 “จำเรื่องนี้ไว้ให้ดี ทุกคน นี่เป็นเพียงโอกาสเดียว!
ประมุขผู้อาวุโสตวาดทำให้แก้วหูทุกคนแทบแตก  แต่พวกเขาไม่สนใจเรื่องนั้น
ประมุขผู้อาวุโสโบกมือ  และลำแสงลงทัณฑ์ที่อยู่ไกล้  พุ่งลอยออกมาจากแสงทอง ซึ่งผู้ที่ลอยอยู่ก็คือประมุขผู้อาวุโส  และในพื้นที่ซึ่งเกิดจากประตูสีทองมากมาย
 “นี่คือโอกาสสุดท้ายของพวกเจ้า  ตราบใดที่พวกเจ้าก้าวผ่านเขาประตูเหล่านี้ได้ พวกเจ้าทั้งหมดจะได้รับการอภัย”
ทันทีที่ประมุขผู้อาวุโสพูดคำเหล่านั้นออกมา ผู้โชคดีรอดชีวิตพากันกรูเข้าหาประตู
ภายในแสงแพรวพราว ประมุขผู้อาวุโสมีรอยยิ้มเย็นชา

16 ความคิดเห็น:

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคูณครับ

Unknown กล่าวว่า...

โดนหลอกแล้ววว
ขอบคุณครับ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

งงอ๊ะจะทำไม? กล่าวว่า...

มันช่าง ชั่วได้ใจแท้ประมุขผู้อาวุโส

Unknown กล่าวว่า...

ขอบใจจ้า

หมูน้อย กล่าวว่า...

พี่ถังจะมีกองทัพ ขุนพลวิญณาน 12รึจะสู้​120

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แอบอ่าน กล่าวว่า...

สู้ 1 ต่อ 10 เลยนะ ถ้าออกมา

ำรำร กล่าวว่า...

เสียดายเรืองนี้จบได้แบบส่งติ่งมาก

ZzSTOPzZ กล่าวว่า...

เอิมนี้ยังไม่รวมขุนพลวิญญานที่พี่ถังสร้างมาเพื้อขนของเลยแล้วที่อยู่ในดาบอีก กองทัพวิญญานเลยนะ วิหารมีแค้14เองหรา?ใว้อาลัยแปป

ZzSTOPzZ กล่าวว่า...

เอิมนี้ยังไม่รวมขุนพลวิญญานที่พี่ถังสร้างมาเพื้อขนของเลยแล้วที่อยู่ในดาบอีก กองทัพวิญญานเลยนะ วิหารมีแค้14เองหรา?ใว้อาลัยแปป

ZzSTOPzZ กล่าวว่า...

เอิมนี้ยังไม่รวมขุนพลวิญญานที่พี่ถังสร้างมาเพื้อขนของเลยแล้วที่อยู่ในดาบอีก กองทัพวิญญานเลยนะ วิหารมีแค้14เองหรา?ใว้อาลัยแปป

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Et009 กล่าวว่า...

14 ต่อ 120 เห็นภาพอยาคตชัดเจน 555

แสดงความคิดเห็น