วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 935 ทางเลือกของชิวซิ่วหัว


ตอนที่  935  ทางเลือกของชิวซิ่วหัว
ประตูทองห่างไกลตั้งอยู่ในพื้นที่ว่างเปล่า  แสงทองลอยอยู่ในอากาศ และภายใต้จะมีโล่แสงเลือนลางซึ่งมีเพลิงโปร่งแสงลุกไหม้อยู่  ด้านนอกผนังแสง เพลิงศักดิ์สิทธิ์ทะลักออกโดยรอบเหมือนกับทะเลทอง


ทันทีที่ผู้รอดชีวิตก้าวเข้าไป  พวกเขากลายเป็นจุลก่อนที่พวกเขาจะทันดีใจ  เพลิงโปร่งแสงไม่ได้รุนแรง แต่ตราบใดที่ผู้รอดชีวิตก้าวเข้าไปในผนังแสง  พวกเขาจะไม่รอดชีวิต  เห็นได้ชัดว่าผู้รอดชีวิตทะลักเข้าไปเหมือนคลื่น และเหมือนหยดน้ำที่ราดรดบนเหล็กร้อน  พวกเขากลายเป็นหมอกเป็นไอ
ผู้รอดชีวิตคนแล้วคนเล่ามอดไหม้เป็นจุล
ประมุขผู้อาวุโสยังคงไม่เคลื่อนไหวขณะที่เขาจ้องมองผนังแสงอย่างเฉยเมย
ทันใดนั้นตาของประมุขผู้อาวุโสเป็นประกาย
หนึ่งในผู้โชคดีรอดชีวิตที่ไม่กลายเป็นเถ้าถ่าน  ร่างของเขาเริ่มเปล่งเปลวเพลิงใส  และสีหน้าของเขามีความเจ็บปวด  ร่างเนื้อของเขาดูเหมือนหมูอ้วน เขาค่อยๆ ละลายขณะที่ถูกเผา จนกระทั่งหายไป  สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือร่างหมองเลือนรางที่ยืนเงียบอยู่ภายในกรอบโล่พลัง  เขามีสีหน้าว่างเปล่า  และหน้าผากของเขาเปล่งรังสีสว่าง
ประมุขผู้อาวุโสขมวดคิ้ว  ขุนพลวิญญาณมีคุณภาพทั่วไป  แต่เขาคิดว่าก็ยังดีกว่าไม่มีอะไร  ประมุขผู้อาวุโสโบกมือ  ขุนพลวิญญาณนั้นปลิวออกมาจากม่านแสงนั้นและก้าวเข้ามาในทะเลเพลิงศักดิ์สิทธิ์  เมื่อบินออกมาจากม่านแสง ทะเลเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่สงบแต่เดิมพลันปั่นป่วน เพลิงศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนลอยเข้ามาทันที  และในพริบตาขุนพลวิญญาณใหญ่ถูกพันล้อมด้วยเพลิงศักดิ์สิทธิ์ และเพลิงศักดิ์สิทธิ์ทองก็เปลี่ยนเป็นเพลิงสีแดงซึ่งคล้ายๆ กับลูกไฟลอยอยู่ในทะเลสีทอง
ผู้โชคดีรอดตายยังคงหลั่งไหลเข้ามา และส่วนใหญ่เหลือแต่เถ้าถ่าน  มีส่วนน้อยที่กลายเป็นขุนพลวิญญาณ  ในทะเลเพลิงศักดิ์สิทธิ์สีทอง  มีกลุ่มเพลิงสีแดงลอยอยู่มองดูคล้ายรังไหม
ประมุขผู้อาวุโสส่ายศีรษะ  ตามคาด, คุณภาพของขุนพลวิญญาณเกี่ยวข้องโดยตรงกับพลังของบุคคล  ขุนพลวิญญาณที่ผลิตขึ้นจากอัศวินกวงหมิงคุณภาพแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  แต่ขุนพลวิญญาณที่สร้างจากผู้โชคดีรอดตายไม่ได้คุณสมบัติที่ข้าต้องการเลย พวกเขาธรรมดาเกินไป  และเป็นได้แต่เพียงทหารชั้นเลว
โชคดีที่ความตั้งใจเดิมของเขาคือต้องการได้ทหารธรรมดาไว้ช่วยโซเฟียและพวกที่เหลือให้ได้มีบริวาร
 มีเพลิงศักดิ์สิทธิ์ตั้งมากมาย  ถ้าข้าไม่ใช้ก็จะสูญเปล่า
เขารู้สึกเสียดายต่อตระกูลชั้นสูง  ศิษย์ของพวกเขาโดดเด่นมากและอาจเป็นไปได้ว่าจะใช้สร้างขุนพลวิญญาณชั้นดี แต่ตระกูลชั้นสูงทั้งหมดมีประสบการณ์และไม่หวั่นไหวได้ง่าย  คงไม่ง่ายที่จะหลอกพวกเขาให้เข้าไปในประตูแสง
ความเสียดายหายไปจากใจประมุขผู้อาวุโสอย่างรวดเร็ว  เขามีความทะเยอทะยานในใจ  เมื่อโซเฟียและขุนพลวิญญาณอื่นเปลี่ยนแปลงสำเร็จ  เขาจะสามารถกวาดล้างได้ทั่วดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์
มันคือยุคแห่งแสงของเขา  ยุคสำหรับวิหาร  ยุคที่เป็นของเขา  เขาเชื่อหนักแน่นว่ายุคเช่นนั้นจะต้องมาถึง
******************
ชิวซิ่วหัวมองออกไปนอกหน้าต่าง  สายฝนที่ตกพรำไม่หยุดทำให้เขางง
คำขอเข้าทวีปซางโจวของเขาถูกโกวเฉิงเวิ่นเต้าปฏิเสธ  และเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องถอย  ออกมาตั้งค่ายอยู่ในทวีปเล็กบนเส้นทางลำเลียง  เขาไม่คาดว่าการเสริมกำลังอย่างกระวนกระวายของเขาจะต้องทำให้เขาต้องจ่ายราคาใหญ่และจบลงด้วยคำปฏิเสธนั้น  ทำให้เขารู้สึกท้อแท้
กองเรือที่เต็มไปด้วยบาดแผลของม่อซินก็ยังถูกโกวเฉิงเวิ่นเต้าปฏิเสธ  อย่างไรก็ตามม่อซินกับเขาไม่สามารถรวมกลุ่มกันได้
ความแตกแยกระหว่างทั้งสามคือเรื่องที่ทุกคนรู้ดี  ขณะที่ข่าวเกี่ยวกับการปะทะกันภายในเป็นหัวข้อที่ร้อนแรงที่สุดในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  โกวเฉิงเวิ่นเต้าเป็นฝ่ายที่รักษาความเป็นกลาง  เขาไม่ต้องการตอแยวิหารหรือตระกูล  ดังนั้นเขาจึงยืนยันไม่ยอม  และตัดสินใจรอให้สถานการณ์ขัดแย้งภายในและการต่อสู้เพื่อแย่งอำนาจกันในทวีปกวงหมิงจบลงเสียก่อน
ม่อซินเป็นคนของตระกูลม่อแห่งพันธมิตรตระกูลชั้นสูงและตั้งแต่ข่าวตระกูลชั้นสูงทอดทิ้งตระกูลชิว นั่นไม่ใช่เรื่องลับ ความขัดแย้งเพิ่มขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่าย  เหมือนกับว่าทั้งสองฝ่ายเป็นน้ำกับไฟ
เรื่องกะทันหันทั้งหมดนั้นทำให้การได้เปรียบของการรุกรานลงใต้หายไปอย่างรวดเร็ว
ความหวาดระแวงกันระหว่างสองแม่ทัพใหญ่ในแนวหน้าเกิดขึ้นกับทวีปกวงหมิงที่มีชื่อเสียง จะไม่ทำให้ชิวซิ่วหัวหัวเราะอย่างจำฝืนได้ยังไง
แต่เรื่องกังวลใจที่ใหญ่ที่สุดของเขาเกิดจากข่าวลือลับ
ตระกูลชิวและเขาตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง  ตระกูลชิวเป็นไม่กี่ตระกูลแรกที่เข้าร่วมกับพันธมิตร ซึ่งก็หมายความว่าตระกูลชิวถูกวิหารขึ้นบัญชีดำเอาไว้แล้ว  ด้วยพลังของวิหาร ถ้าพวกเขาปราบจลาจลได้  ตระกูลชิวคงยากจะหลบหนีจากชะตากรรมได้
นอกจากนี้ ตระกูลชิวถูกพันธมิตรทอดทิ้ง  ซึ่งหมายความว่าถ้าพันธมิตรชนะการขัดแย้งภายใน  ตระกูลชิวจะไม่มีวันที่ดีรออยู่  นอกจากนี้ ตระกูลชิวประสบความลำบากอย่างมากมายที่สุด  และเขาเป็นเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่  ซึ่งทำให้เขาคิดถึงคำว่าคนเดียวไม่สามารถกอบกู้สถานการณ์ได้  ถ้าพันธมิตรชนะ  พวกเขาจะยึดเอาทรัพย์สินของตระกูลชิวมาเติมเต็ม  ชิวซิ่วหัวเข้าใจตระกูลชั้นสูง  เขาเข้าใจรูปแบบการกระทำของพวกเขา  ความโลภและความเลือดเย็นของพวกเขา  และแม้แต่ตระกูลชิวเองก็คงทำ ถ้าพวกเขาอยู่ในสถานะที่ต่างกัน
ไม่ว่าใครเป็นผู้ชนะ ลงท้ายก็เป็นเรื่องแย่สำหรับตระกูลชิว  ข้อแตกต่างประการเดียวก็คือตระกูลชิวถูกลงโทษ หรือไม่ก็ถูกตระกูลอื่นกิน
เมื่อเขาไม่แน่ใจในอนาคต เขาก็ได้รับทราบข่าว  หรือจะพูดให้ถูกก็คือคำเชิญ ทำให้หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความว้าวุ่น
เป็นเวลาสามวันสามคืน  ที่เขานอนไม่หลับ  เนื่องจากเขาต้องแยกแยะข้อมูลที่อยู่ต่อหน้าเขา
ความจริง เมื่อข่าวถูกแพร่กระจาย  เขารู้สึกว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก  ทำไมแม่ทัพใหญ่ที่อยู่แนวหน้าจึงได้รับข้อมูลอย่างนี้  แต่สัมพันธมิตรใต้เป็นฝ่ายแพร่กระจายข่าวหรือเปล่า?  ตั้งแต่เมื่อใดกันที่สัมพันธมิตรใต้รวบรวมข่าวได้รวดเร็วกว่าเรา ที่เป็นชาวท้องถิ่น?
หลังจากเขาทำความเข้าใจข้อมูลเหล่านี้ เขาได้ค้นพบอะไรอีกมากมาย
ตัวอย่างเช่น เขาตระหนักได้โดยไม่ทันรู้ตัวว่า การสนองตอบและความรับผิดชอบของทวีปกวงหมิงทำอย่างเรื่อยเปื่อย และมีข้อจำกัด  เหมือนกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นคอยออกแบบดำเนินการให้เป็นไปตามแผนการของเขาเอง  สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกตกใจมากยิ่งขึ้นก็คือมือที่มองไม่เห็นนั้นประสานงานเป็นอย่างดีกับแผนการของสัมพันธมิตรใต้
ตัวอย่างเช่น  การซุ่มโจมตีเส้นทางส่งบำรุง โกวเฉิงเวิ่นเต้าต้องการกำลังเสริม  ขณะที่ม่อซินกับเขาเผชิญกับอุปสรรคพร้อมกัน    พร้อมๆ กับความมั่นคงของทวีปกวงหมิงพังทลาย ความขัดแย้งภายในที่ทำให้ทุกคนกังวล  โจรทวีปทอง แดนบาป การทำลายล้างของเรือรบรังสีกัมปนาทและการเอาชนะกองกำลังท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง การบุกรุกทวีปกวงหมิง ทวีปที่มีกองทัพมากที่สุด กลับตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัด มีกำลังพลไม่พอ
นี่ทำให้เกิดการลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์โดยตรง  และการรวมกองทัพที่ทวีปเซียน  ซึ่งทำให้พันธมิตรเห็นจุดอ่อนของวิหาร และทำให้พวกเขามั่นใจว่าจะเอาชนะวิหารได้
ช่วงเวลาที่เกิดความไม่สงบและการแทรกแซงทำให้ชิวซิ่วหัวสงสัยว่ามือสีดำที่มองไม่เห็นก็คือสัมพันธมิตรใต้  ไม่ใช่ความลับเลยที่ผู้นำฝ่ายสัมพันธมิตรใต้หายสาบสูญไปช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งพวกเขาไม่ได้พูดถึงกัน  แต่ทุกคนรู้สึกว่าเหตุผลหลักที่สุดสำหรับการหายไปของเขาเป็นเพราะเขาไปหาการสนับสนุน อย่างเช่นจากทวีปทอง
แม้แต่คนที่กล้าที่สุดก็ไม่เคยคาดเดาว่าเขาจะลอบเข้าไปในทวีปกวงหมิง
ร่องรอยที่ชิวซิ่วหัวตามได้บังเอิญได้มาจากตระกูลชิว  การทำลายล้างกองทัพตระกูลชิวสร้างความตกตะลึงให้กับชิวซิ่วหัวอยู่นาน  ดังนั้นกลุ่มการค้าเมซฟิลด์จึงตกเป็นเป้าหมายเพ่งเล็งของเขา  ถ้าไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์โดยตรง  ตระกูลสูงส่งตระกูลเล็กอย่างนั้นไม่มีทางเป็นที่ดึงดูดความสนใจได้  เมื่อชิวซิ่วหัวศึกษาตระกูลเมซฟิลด์  เขาตระหนักได้ทันทีว่าพวกเขาเป็นกลุ่มคนที่มาจากภูมิภาคตะวันตก  เขาคิดได้ทันทีเกี่ยวกับเรื่องเกิดขึ้นต่อเนื่องในภูมิภาคตะวันตก การล้มเหลวของแม่ทัพระดับพลโทไม่ใช่เรื่องเล็ก
ไม่ใช่แต่เพียงแค่นั้น  พลโททั้งสองที่ล้มเหลวนำทัพสู้โดยตรงซึ่งนำกองทัพภูมิภาคตะวันตกหายสาบสูญ  ซึ่งก็ถูกกลบโดยสงครามต่อเนื่องที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้น
การปรากฏตัวครั้งแรกของทวีปทองก็คือในภูมิภาคตะวันตก  เรือรบรังสีกัมปนาทถูกชิงมาจากสุสานเรือรบในภูมิภาคตะวันตก  ความล้มเหลวของพลโทคอลลินเกิดขึ้นในภูมิภาคตะวันตก  มีแต่เรื่องบังเอิญมากเกินไป  การพลาดล้มเหลวของสามพลโทอย่างต่อเนื่องกันสั่นสะเทือนทวีปกวงหมิง  และทำให้พลเมืองหวั่นไหว และเป็นจุดเริ่มต้นในการกระทำโง่ๆ ของตระกูลชั้นสูง
ถ้านั่นคือเรื่องทั้งหมด ทวีปกวงหมิงก็ยังสามารถทนรับได้  ความสำเร็จในการยึดทวีปซางโจวของโกวเฉิงเวิ่นเต้าทำให้กองเรือของเขาถูกซุ่มโจมตี  เส้นทางส่งกำลังบำรุงถูกสัมพันธมิตรใต้โจมตีอย่างรุนแรง  และโกวเฉิวเวิ่นเต้าเรียกขอกำลังเสริมทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน  ขณะเดียวกัน ชิวซิ่วหัวและม่อซินก็ถูกขัดขวาง  และพวกเขาไม่สามารถสนับสนุนโกวเฉิงเวิ่นเต้าได้
หลังจากชิวซิ่วหัวคิดดูแล้ว  เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในช่วงเวลาสั้นๆ มีการประสานงานและบังเอิญเกินไป  ในบางความรู้สึก เหตุการณ์เล็กๆ ทั้งหมดนี้นำไปสู่การสร้างสถานการณ์ของทวีปกวงหมิง
ไม่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจะสำเร็จหรือเวลาสมบูรณ์หรือไม่ ทุกอย่างสมบูรณ์แบบเกินไป
มีสงครามกลางเมือง การรุกรานลงภูมิภาคใต้ลดความเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้ลำบากจนวิหารต้องลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์  การตัดสินใจนี้ได้ถอดโซ่ตรวนที่วิหารล่ามตระกูลชั้นสูงไว้ และทำให้พวกเขามองเห็นโอกาส
 เป็นแผนที่มองการณ์ไกลจริงๆ’  ชิวซิ่วหัวเชื่อและเคารพคนที่วางแผนได้ไกลขนาดนั้นอย่างหมดใจจริงๆ
แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันในทวีปเซียนทำให้เขาตระหนักว่าความตั้งใจที่แท้จริงของศัตรูไม่ใช่ที่โกวเฉิงเวิ่นเต้า  แต่เป็นทวีปเซียน!  ศัตรูวางแผนทำให้วิหารล้าเกินกว่าจะโต้ตอบ  แต่สำหรับวิหารก็ยังส่งกำลังออกไปอย่างต่อเนื่อง และสร้างความอ่อนแอให้ศูนย์กลาง
ชิวซิ่วหัวคาดว่าการตัดสินใจของวิหารลั่นระฆังศักดิ์สิทธิ์เป็นเรื่องเกินคาดไปบ้าง  แต่พันธมิตรตระกูลชั้นสูงเป็นบางสิ่งที่ผู้วางแผนไม่เคยมองไกลขนาดนั้น  แต่ศัตรูรู้วิธีฉวยประโยชน์จากสถานการณ์  ความจริงศัตรูแข็งแกร่งกว่าที่ข้าคิด ตระกูลชิวกลายเป็นตระกูลแรกที่เสียสละ
ชิวซิ่วหัวไม่รู้จะพูดยังไง  เนื่องจากตระกูลชิวเป็นก่อปัญหาและตอแยศัตรูเอง  อาจกล่าวได้ว่าศัตรูทรงพลังเกินไป และด้วยการควบคุมระยะไกล  ทุกย่างก้าวของพวกเขารุนแรงและทรงพลังมาก
ตั้งแต่เริ่มชิวซิ่วหัวคิดว่าผู้วางแผนก็คือผู้บัญชาการใหญ่ขุนพลวิญญาณของสัมพันธมิตรใต้  แต่เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าไม่ใช่ปิง  แต่เป็นถังเทียน  ในสถานการณ์ยุ่งเหยิงและซับซ้อน ไฟไม่อาจส่องควบคุมระยะไกลได้  แต่ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับอุปสรรคขวากหนาม
ชิวซิ่วหัวฝืนหัวเราะขมขื่น  ก่อนรุกรานลงใต้ พวกเขามักจะดูถูกสัมพันธมิตรใต้  และเพียงหลังจากต่อสู้ซ้ำๆ กันพวกเขาจึงค่อยๆ รู้จักความแข็งแกร่งของผู้นำสัมพันธมิตรใต้  แต่พวกเขาก็ยังไม่เคยรู้สึกว่าผู้นำของพวกเขายังคงอยู่
สถานะของถังเทียนไม่ได้เป็นความลับต่อวิหารอีกต่อไป    ถึงขนาดที่พวกเขารู้ความสำเร็จของเขาในสวรรค์วิถี  แต่สำหรับพวกเขา  ความสำเร็จของเขาในสวรรค์วิถีไม่มีอะไร  เนื่องจากความสามารถในการต่อสู้ในสวรรค์วิถีอ่อนแอเกินไปสำหรับชิวซิ่วหัวและพวก
แต่ขณะที่ชิวซิ่วหัวแยกแยะโยงใยสถานการณ์ไปทั่ว  เขาตระหนักด้วยความเสียใจว่าทวีปกวงหมิงสูญเสียความหวังที่จะชนะเสียแล้ว  เขาตระหนักว่าสัมพันธมิตรใต้ องค์กรที่ดูไม่เหมือนผู้นำ ทรงพลังยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เพียงแค่ผู้นำคนนี้ พวกเขาก็เปลี่ยนสถานการณ์ใหญ่ได้  มีคนที่มีความสามารถขนาดนั้นอยู่ในโลกด้วยหรือนี่’
ทันใดนั้น เขาคิดถึงฉายาที่วิหารได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับถังเทียนไว้ว่า หนุ่มชาวฟ้า
 ชื่ออาจจะผิด  แต่ฉายาไม่ผิดแน่
สถานการณ์ในทวีปเซียนยังไม่จบ  แต่ชิวซิ่วหัวสังหรณ์ใจว่าหนุ่มชาวฟ้าจะเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด  ชิวซิ่วหัวเชื่อหนักแน่นว่าวิหารไม่รู้ตัวว่าพวกเขาเผชิญสัตว์ประหลาดแบบไหนอยู่กันแน่
เขารู้ว่าเขาและตระกูลชิวไม่มีคุณสมบัติรอให้ทวีปเซียนค้นพบปริศนานี้
เขาจำเป็นต้องปล่อยวางชะตาของเขาและของตระกูลของเขาก่อนจะทำอะไรอย่างอื่น

9 ความคิดเห็น:

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Kontumblog กล่าวว่า...

อาการปลงตกชินะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบใจจ้า

คมศักดิ์ กล่าวว่า...

ทุกอย่างมันบังเอิญเพราะพายุหอบพวกถังเทียนไปโผล่ในแดนบาปสินะ 5555

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

พี่ชิวลองไปนอแบบชิวชิวได้ละ พี่ถังชนะแน่นวน

Neoplasm24 กล่าวว่า...

จะบอกว่าพี่ถัง ไม่ได้วางแผนขนาดนั้น เพ่ชิวจะเชื่อมะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น