เล่ม 14 อสูร – ตอนที่ 3 เผ่ามังกรดำ
“ท่าน
ท่านพูดให้ชัดกว่านี้ได้ไหม?”
ลินลี่ย์สับสนอย่างหนัก
ทันทีที่เขาออกมาจากสิ่งมีชีวิตโลหะ เขาก็เข้ามาพบกับชายชราผมหงอกนี้ ที่จู่ๆ
ก็เข้ามาร้องขอศิลาดำของเขา
แม้ว่าเขาจะไม่มีความรู้ว่าศิลาดำคืออะไร
แต่ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายแปลกประหลาดในนี้
นี่คือของที่ไม่ธรรมดาแน่นอน ดังนั้นเขาจะมอบให้คนอื่นง่ายๆ ได้ยังไง?
“ฮะฮะ...”
ชายชราผมหงอกมีใบหน้ายิ้มแย้ม
“เจ้าทั้งสามเพิ่งจะมาถึง
ดังนั้นข้าเกรงว่าจะมีเรื่องอยู่สองสามเองที่เจ้ายังไม่รู้ ก็ได้ อย่างนั้น ข้าจะพูดให้ชัดมากกว่านี้!”
ชายชราผมหงอกมองดูรอบๆ จากนั้นกล่าว “แดนนรกแห่งนี้คือหนึ่งในสี่พิภพชั้นสูง
เนื่องจากเป็นพิภพที่จอมเทพทำลายล้างสร้างขึ้น แดนนรกจึงเต็มไปด้วยความป่าเถื่อนและโหดร้ายไร้เขตแดน การสังหารหมู่พบเห็นได้โดยทั่วไปในแดนนรก!” ขณะที่เขาพูด
ตาของชายชราเรืองแสงสีแดง
ลินลี่ย์และพวกพ้องแอบตกใจ
ชายชราผมหงอกกวาดตามองกลุ่มลินลี่ย์ จากนั้นพูดด้วยความมั่นใจ
“แม้ว่าพวกเจ้าทั้งสามจะเป็นระดับเทพกันแล้ว
แต่ในแดนนรก พวกเจ้าอยู่ในดินแดนที่ไม่คุ้นเคย ข้ากล้าพูดได้เลยว่าถ้าเจ้าบุ่มบ่ามเดินทางไปในแดนนรกพวกเจ้าจะมีชีวิตได้ไม่เกินสามวัน!”
ลินลี่ย์ เดเลียและบีบีตกใจเล็กน้อย
“ตาเฒ่า, เจ้าพยายามหลอกเราหรือ?” บีบีจ้อง
แม้ว่าบีบีจะถลึงตามองเขา
แต่ก็ยังดูน่ารักมาก
บุรุษชราผมขาวไม่ได้โกรธแต่อย่างใด
เขากล่าว “แม้ว่าเจ้าก็เพิ่งมาถึงแดนนรกไม่นาน
บนเรือเหาะโลหะของกองทัพเรดบุด
ใต้เท้าที่อยู่ในกองทัพเรดบุดก็คงจะบอกเรื่องราวกับพวกเจ้าสองสามเรื่องแล้ว โชคดีที่เจ้าเป็นระดับเทพ ถ้าพวกเจ้าเป็นเซียน ต่อให้พวกเจ้ามีศิลาดำ
ข้าก็ไม่สนใจจะนำพวกเจ้าเข้ามาในกลุ่มเหมือนกัน
ภายในใจของลินลี่ย์มีภาพหนึ่งปรากฎขึ้นมาทันที
เมื่อพวกเขาอยู่ในสัตว์ประหลาดโลหะ เด็กหนุ่มร่างผอมชุดม่วงได้บอกเขา “แดนนรกเป็นหนึ่งในสี่พิภพชั้นสูง
ปกติจะมียอดฝีมือมากมายเหมือนเมฆบนท้องฟ้า
เมื่อพวกเจ้าอยู่ในแดนนรก จะดีที่สุดก็คือให้หาเผ่าหรือสำนักตระกูลเข้าร่วมซะ!”
ขณะนั้นลินลี่ย์ไม่ได้ให้ความสนใจคำพูดนี้มากนัก
แต่ตอนนี้ เขาค่อนข้างเข้าใจ
ร่วมกับเผ่าหรือสำนักตระกูล!
“ลินลี่ย์,
แดนนรกเป็นที่อันตรายจริงๆ หรือ?”
เดเลียมองลินลี่ย์ เขาส่งคำปลอบโยนนางผ่านสำนึกเทพ
“ไม่ว่ายังไงเราก็มาถึงแดนนรกแห่งนี้แล้ว ระมัดระวังไว้เป็นดีที่สุด
ข้าขอถามอีกสักสองสามเรื่องก่อน”
ลินลี่ย์มองดูชายชราผมขาวและหัวเราะ “ข้าชื่อลินลี่ย์, ขอถามได้ไหม ท่านเป็นใคร?”
“บัฟเฟ็ต!” ชายชราผมหงอกยิ้ม
ลินลี่ย์พยักหน้าและหัวเราะ
“ท่านบัฟเฟ็ต ข้าขอถาม ศิลาดำนี้คืออะไร? เราเพิ่งมาถึงแดนนรก ดังนั้นเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้”
“ฮ่าฮ่า...” ชายชราผมหงอกหัวเราะ “นั่นสามารถทำความเข้าใจได้ ศิลาดำนี้จะพูดให้ถูกก็คือสกุลเงินสำหรับแดนนรก!”
“สกุลเงิน?” ลินลี่ย์ บีบีและเดเลียประหลาดใจกันหมด
การอยู่อาศัยในทวีปยูลาน
ลินลี่ย์และอีกสองคนเข้าใจว่าสกุลเงินหมายความว่ายังไง
สกุลเงินของแดนนรกใช้ศิลาดำนี้ซึ่งไม่ธรรมดาจริงๆ
“สิ่งที่นับว่าเป็นสกุลเงินนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานอะไร?” ลินลี่ย์ถาม ด้วยความไม่เข้าใจ
บางอย่างที่สามารถใช้เป็นสกุลเงินอย่างน้อยก็ควรมีการกำหนดค่าที่แน่นอน
บัฟเฟ็ตส่ายศีรษะ
“ข้าเองไม่แน่ใจเท่าใดนัก เนื่องจากศิลาดำมีความพิเศษมาก แต่ข้ารู้อยู่อย่างหนึ่ง
ไม่มีที่ในแดนนรกซึ่งสามารถทำเหมืองศิลาดำได้
มีแต่เพียงจ้าวนรกทั้งเจ็ดที่สร้างมันออกมาได้ ลำพังเฉพาะเรื่องนี้
ศิลาดำก็มีคุณสมบัติใช้เป็นสกุลเงินได้แล้ว”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
ดังนั้นศิลาดำก็สร้างขึ้นโดยจ้าวนรกทั้งเจ็ด
เพียงแต่ศิลาดำนี้ใช้อะไรทำเป็นพิเศษกันแน่?
หรือว่าพวกมันแค่สร้างเพื่อให้ผู้คนตามหา?
ลินลี่ย์ยังคงรู้สึกว่าศิลาดำมีลักษณะเฉพาะและคุณค่าที่พิเศษ
“สกุลเงินนี้สามารถใช้อะไรซื้อหา?” ลินลี่ย์ถาม
บัพเฟ็ตหัวเราะ
“สกุลเงินนี้สามารถซื้อของได้น้อยไม่กี่อย่าง ตัวอย่างเช่นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ ประกายศักดิ์สิทธิ์ อัญมณีศักดิ์สิทธิ์ หลายอย่างอีกมากมาย
นอกจากนี้ของพิเศษโดยเฉพาะเช่น พลอยม่วง, โกเลมยักษ์ และมากกว่านั้น
แต่แน่นอนก็ต้องมีสิ่งอัศจรรย์เพิ่มขึ้นไปด้วย..ในช่วงเวลาสั้นๆ สกุลเงินนี้มีดีหลายอย่าง แม้แต่สมบัติมหาเทพในตำนานก็สามารถใช้ซื้อหาได้
เพียงแต่จำนวนรวมน่าตกใจมากเท่านั้นเอง
ลินลี่ย์เริ่มเข้าใจคุณค่าของศิลาดำเหล่านี้
“ท่านบอกข้าได้ไหม ราคาประกายเทียมเทพเท่าไหร่?” ลินลี่ย์ถาม
“ราคาประกายเทียมเทพราวๆ ร้อยศิลาดำ สมบัติเทียมเทพราคาราวๆ
สิบศิลาดำ”
บัฟเฟ็ตพูดอย่างผู้มากประสบการณ์
“ในแดนนรกมีเทียมเทพอยู่แทบทุกหนแห่ง ดังนั้นประกายเทียมเทพจึงมีค่าไม่สูงมาก”
“อย่างไรก็ตามประกายเทพแท้มีค่าราวหมื่นศิลาดำ
ขณะที่ประกายเทพชั้นสูงมีค่าสิบล้านศิลาดำ!” บัฟเฟ็ตถอนหายใจ “สิบล้านศิลาดำ ถ้าข้ามีประกายเทพชั้นสูง
ข้าคงกลายเป็นชนชั้นสูงในแดนนรกไปแล้ว”
ลินลี่ย์ บีบีและเดเลียมองหน้ากันเอง และหัวเราะพร้อมกัน
“พี่ใหญ่, ท่านคิดจริงๆ
หรือว่าศิลาดำนี้จะเป็นสมบัติอย่างนั้น” บีบีคุยกับเขาผ่านทางสำนึกเทพ
“ข้าแค่มีความรู้สึกว่าศิลาดำเองดูเหมือนจะไม่ธรรมดามากอยู่แล้ว
ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าศิลาดำนี้ไม่ได้มีค่ามากอย่างที่เป็น”
เป็นธรรมดาที่กลุ่มของลินลี่ย์จะไม่สนใจใจเรื่องศิลาดำอีกต่อไป ที่สำคัญ ลินลี่ย์นำเอาสมบัติระดับเทียมเทพและแม้กระทั่งสมบัติเทพแท้มาด้วย
เขามีกระทั่งสมบัติเทพแท้ซึ่งเขายังไม่ได้ใช้ด้วยซ้ำ
นอกจากนี้เขายังมีประกายเทพชั้นสูงอยู่ด้วย
ตอนนี้ลินลี่ย์
เดเลียและบีบีไม่มีข้อคัดค้านเข้าร่วมกับเผ่ามังกรดำต่อไป แค่คนละหนึ่งศิลาดำใช่ไหม?
“ถ้าเราร่วมกับเผ่าของท่าน
แล้วจะเป็นยังไงถ้าเราต้องการจะจากไปในอนาคต?” ลินลี่ย์ถาม
“จากไปน่ะหรือ?
เจ้าสามารถจากไปได้เมื่อเจ้าต้องการได้เลย”
บัฟเฟ็ตหัวเราะ “อย่างไรก็ตาม
มีแต่คนโง่ที่จากไปด้วยตัวเอง ไม่มีความสามารถป้องกันตัวเจ้าเอง
การเดินทางในแผ่นดินเหล่านี้มีอันตรายร้ายแรงอยู่ในที่ทั่วๆ ไป
ก็เหมือนกับเอาชีวิตไปทิ้ง
ในแดนนรกการฆ่าคนชิงเอาทรัพย์สินมีค่าเป็นเรื่องธรรมดามาก แม้แต่เทพแท้ทั้งหมดก็ยังไม่กล้าเลินเล่อ”
กลุ่มของลินลี่ย์มองหน้ากันเอง
“ดีล่ะ เรายอมรับ”
แค่เพียงพลิกมือ ลินลี่ย์เอาศิลาดำออกมา ขณะที่บีบีและเดเลียก็นำของตนเออกมาด้วย บัฟเฟ็ตยื่นมือมารับ
แต่ลินลี่ย์ชักแขนกลับ “ไม่ต้องรีบ
ข้าจะมอบให้ท่านหลังจากที่เราเข้าไปในเผ่ามังกรดำของท่านแล้ว”
บัฟเฟ็ตตกใจจากนั้นเขาเริ่มหัวเราะลั่น “เจ้ากลัวว่าข้ากำลังพยายามหลอกเจ้าหรือ?”
“ก็ได้
งั้นมากับข้า” บัฟเฟ็ตบินลงไปทันที
ขณะที่ลินลี่ย์ เดเลียและบีบีบินตามลงไป
แรงโน้มถ่วงของแดนนรกเกือบร้อยเท่าของทวีปยูลาน
ลินลี่ย์รู้สึกได้ชัดว่าความเร็วในการบินของเขาตกลงไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดินแดนโลกธาตุ ขณะที่บินลงมาบีบีถามด้วยความกังวล “เฮ้, ผู้เฒ่า, ท่านเพิ่งพูดถึงกองทัพเรดบุด
กองทัพเรดบุดที่พาเรามาที่นี่
พวกเขาเป็นใคร ?
ทำไมระหว่างทางที่เรามาที่นี่ เราพบกับยอดฝีมือกำลังต่อสู้กันอยู่
แต่ทันทีที่พวกเขาเห็นทหารเรดบุด พวกเขาหนีไปอย่างหวาดผวา”
“โอว,
ข้าเกือบลืมบอกเรื่องนี้กับเจ้า”
บัฟเฟ็ตถอนหายใจ
“แดนนรกมีห้าทวีปใหญ่
จ้าวครองทวีปเรดบุดของเราเป็นมหาเทพสายทำลายล้างผู้ทรงอานุภาพ
หนึ่งในเจ็ดจ้าวนรกที่เราทราบว่าเป็นผู้ปกครองทวีปเรดบุด”
ลินลี่ย์และคนอื่นรู้เรื่องนี้แล้ว
แดนนรกมีห้าทวีปใหญ่และสองมหาสมุทร
ซึ่งถูกควบคุมโดยผู้ปกครองใหญ่ทั้งเจ็ด
จ้าวปกครองทั้งเจ็ดเป็นมาหเทพผู้ฝึกมาทางวิถีทำลายล้าง!
“และกองทัพเรดบุดนี้เป็นกองทัพที่อยู่ภายใต้การควบคุมของมหาเทพทำลายล้างผู้ทรงอานุภาพ!
นี่คือกองทัพที่ทรงพลังที่สุดในทวีปเรดบุด
และพวกเขาทุ่มเททำตามคำสั่งของมหาเทพผู้ปกครองเรดบุด! ทวีปเรดบุดไม่มีใครกล้าตอแยกองทัพเรดบุดได้!”
ตาของบัฟเฟ็ตเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
ลินลี่ย์และพวกตกใจ
ดังนั้นก็เป็นกองทัพภายใต้อำนาจมหาเทพผู้ทรงอานุภาพ!
มิน่าเล่าไม่มียอดฝีมือคนใดที่เผชิญพบในระหว่างทางจะกล้าก่อกวนกองทัพเรดบุด
“บางทีแค่หน่วยเล็กๆ
ของกองทัพเรดบุดอาจจะยังไม่น่ากลัว
แต่ถ้าเจ้ากล้าตอแยแค่หน่วยเดียวของกองทัพเรดบุต อย่างนั้นทั่วทั้งกองทัพเรดบุดจะออกตามล้างแค้น!
แม้แต่เจ้าแคว้นไนท์บลาสที่ทรงพลังของเราก็เถอะอาจจะสามารถจัดการกับกองร้อยได้
แต่จากนั้นจะมีแนวโน้มว่าอาจเผชิญกับการตามล้างแค้นจากกองทัพเรดบุดได้ ในทั่วทั้งทวีปเรดบุด
ไม่มีใครกล้าล่วงเกินกองทัพเรดบุด!”
บัฟเฟ็ตมองดูลินลี่ย์และพวก “เจ้าต้องจำเรื่องนี้ไว้ให้ดี ในทวีปเรดบุดของแดนนรก
ไม่ว่ายังไงอย่าได้ล่วงเกินกองทัพเรดบุดนี้เด็ดขาด การล่วงเกินพวกเขาเป็นเรื่องร้ายแรงมาก!”
“พวกเขาทรงพลังมาก และไม่มีใครกล้าตอแยพวกเขา อย่างนั้นทำไมท่านไม่เข้าร่วมกับกองทัพเรดบุด
ท่านบัฟเฟ็ต?
ข้าเห็นว่าสมาชิกหลายคนของกองทัพเรดบุดก็เป็นเทพแท้
ท่านก็เป็นเทพแท้ด้วยไม่ใช่หรือ?” ลินลี่ย์หยอกล้อ
“เจ้านึกหรือว่าข้าไม่ต้องการ?”
บัฟเฟ็ตส่ายศีรษะและถอนหายใจ
“ข้อกำหนดสำหรับการเข้าร่วมกองทัพเรดบุดเข้มงวดมาก ที่สำคัญที่สุด เจ้าต้องกลายเป็นเทพด้วยตัวเอง!
ใครก็ตามที่กลายเป็นเทพโดยผ่านการหลอมรวมประกายศักดิ์สิทธิ์จะถูกคัดออกจากการพิจารณาทันที นี่ทำให้ 90%
ของคนในแดนนรกไม่มีหวังเข้าร่วม และข้อกำหนดประการที่สอง....
อย่างน้อยเจ้าต้องเป็นเทพแท้และผ่านการแข่งขัน
แต่ละครั้งพวกเขาจะคัดเลือกคนได้น้อยมาก
พวกที่สามารถเอาชนะในการแข่งขันอย่างน้อยต้องมีความสามารถเฉพาะอย่าง”
ลินลี่ย์อดถอนหายใจด้วยความประหลาดใจไม่ได้ถึงระดับคุณภาพของกองทัพเรดบุดนี้
ผู้อ่อนแอที่สุดในพวกเขาจะต้องเป็นเทพแท้ผู้กลายเป็นเทพด้วยพลังของตนเอง
นอกจากนี้พวกเขายังต้องถูกเลือกโดยผ่านการแข่งขัน...
เป็นเวลานับปีไม่ถ้วน
จำนวนยอดฝีมือผู้ทรงพลังที่แท้จริงที่ได้รับคัดเลือกเข้ามาในกองทัพเรดบุตสูงอย่างคาดไม่ถึง มิน่าเล่าจึงไม่มีใครในทวีปเรดบุดที่กล้าตอแยกองทัพเรดบุด
ลินลี่ย์และพวกลงมายืนอยู่ที่พื้น
“โรวววว” “โรววววว”
เสียงคำรามต่ำดังลั่นจากภูเขาใหญ่ข้างหน้าพวกเขา
มังกรดำตัวมหึมานับไม่ถ้วนที่มีขนาดยาวเกินร้อยเมตรนอนขดตัวอยู่รอบแนวเขา
ถ้ามีคนมองดูดีๆ ก็จะพบว่ามังกรดำทุกตัวจะมีคนๆ หนึ่งนั่งอยู่บนหัวพวกมัน
“นี่คือเผ่ามังกรดำของเรา!” บัฟเฟ็ตมีความภูมิใจเป็นอย่างมาก “มาเถอะ, ตามข้าเข้ามาข้างใน” ขณะที่เขาพูด บัฟเฟ็ตก้าวเดินนำหน้า เส้นทางภูเขาคดเคี้ยว แต่ลินลี่ย์และพวกเขาเดินไปได้อย่างง่ายดาย
“เอ๋?” ทันใดนั้นบีบีอุทานด้วยความประหลาดใจ “พี่ใหญ่ ดูเหมือนนั่นจะเป็นอดาแมนเทียม!”
ลินลี่ย์หันไป
จากในที่ห่างไกลออกไปมาก
เขาสามารถมองเห็นเนินเขาเล็กที่เกิดจากอดาแทนเทียม อดาแมนเทียมปริมาณมากขนาดนั้นทำให้ลินลี่ย์รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน
เมื่อเห็นลินลี่ย์จ้องมองอดาแมนเทียมที่อยู่ไกลออกไปอย่างประหลาดใจ บัฟเฟ็ตอดหัวเราะไม่ได้ “นี่คืออดาแมนเทียม
เป็นแร่ที่มีอยู่ทั่วไปในแดนนรก
เจ้าจะพบเห็นได้ทุกที่ ดูตรงนั้นสิ นั่นคือแร่น้ำเงินใช่ไหม? นั่นคือแร่ฝันร้ายน้ำเงิน ในแง่ความทนทาน เทียบได้กับอดาแมนเทียม แต่ในแง่ของความยืดหยุ่น มันมีระดับสูงกว่า อย่างไรก็ตาม
สิ่งเหล่านี้สามารถพบเห็นได้ทุกที่
ในแดนนรก สมบัติเทพค่อนข้างราคาน้อย
ถ้าเจ้าต้องการสมบัติเทพ
เจ้าก็แค่ใช้พลังเทียมเทพฝึกฝนกับสมบัติสักหมื่นปีเจ้าก็จะมีสมบัติระดับเทียมเทพแล้ว แต่นี่มีค่าเพียงราวๆ สิบศิลาดำ”
ลินลี่ย์ เดเลียและบีบียังคงเงียบ
ความจริง...
แค่เพียงหลังจากฝึกฝนและบำรุงก็ทำให้พลังของสมบัติเทพเพิ่มขึ้น
การสร้างอาวุธเทพใหม่ไม่อาจนับได้ว่าเป็นสมบัติเทียมเทพ และเป็นเพียงอาวุธที่ไม่มีการจัดระดับ
“บัฟเฟ็ต, เจ้าพาคนมาเพิ่มอีกสามคนแล้ว ฮ่าฮ่า ประชาชนเผ่าเราเพิ่มขึ้นอีกแล้ว!” จากแต่ไกลเสียงหนึ่งดังขึ้น,
มังกรดำตัวมหึมากำลังบินเข้ามา
และมีบางคนบินลงมาจากหลังของมังกรดำ
เขาสวมผ้าโพกสีฟ้าบนศีรษะและมีร่างกายแข็งแรง
บัฟเฟ็ตหัวเราะ
“พวกเขาเพิ่งมาถึงแดนนรก”
“เฮ้,” บีบีกระพริบตา
“ดูเหมือนทุกคนที่นี่จะเป็นเทพกันทั้งนั้น
แต่ทำไมพวกเจ้าไม่ยกระดับมังกรดำเหล่านี้?
เจ้าพวกนี้ล้วนแต่เป็นระดับเซียนทั้งนั้น”
บุรุษร่างกำยำลอยตัวลงมาและหัวเราะ “อย่าประเมินพวกมันต่ำไป
มังกรดำแบบนี้คือเผ่าพันธุ์พิเศษเฉพาะมังกรดำ มันมีชื่อว่ามังกรดำพันธุ์เจอร์ราร์ด น้ำลายของมังกรดำพันธุ์เจอร์ราร์ดมีค่ามาก ถ้าเจ้าเลี้ยงเจ้ามังกรดำพันธุ์เจอร์ราร์ดไปสักเกินหมื่นปี
เจ้าจะทำรายได้หลายพันศิลาดำ
พวกเจ้าโชคดีมากแล้วที่ได้เข้าร่วมกับเผ่ามังกรดำ
ถ้าพวกเจ้าเข้าร่วมกับเผ่าอื่นก็คงจะไม่ดีเท่าที่อยู่กับเรา”
บัฟเฟ็ตพูดเช่นกัน “แน่นอน
ถ้าเทพอื่นๆ ต้องการร่วมกับเผ่าเรา เราอาจไม่ยินดีรับพวกเขาไว้ก็ได้ อย่างไรก็ตามพวกเจ้าถูกกองทัพเรดบุดส่งมา
ดังนั้นจึงเป็นที่แน่นอนว่าพวกเจ้ามาจากดินแดนโลกธาตุ เจ้าไม่ใช่คนสอดแนมของเผ่าศัตรู!”
กลุ่มของลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้
ดังนั้นเหตุผลที่เผ่ายอมรับพวกเขาเป็นเพราะพวกเขาทั้งสามซื่อใสไร้เดียงสา
“ฮ่าฮ่า เรามีพี่น้องใหม่แล้วใช่ไหม เอ่?”
คนขี่มังกรหลายคนหัวเราะลั่น
“เนื่องจากพวกเจ้าเพิ่งมาถึงเผ่ามังกรดำของเรา ในอนาคต เราทุกคนจะเป็นพี่น้องกัน ฮ่าฮ่า...บัฟเฟ็ตรีบจัดที่ให้พวกเขาพักอาศัย”
ลินลี่ย์มองดูคนขี่มังกรดำที่อยู่ห่างออกไป
และในใจเขารู้สึกถึงความเป็นกันเอง
ดูเหมือนว่าคนในเผ่ามังกรดำจะเป็นคนดีกันทุกคน.
8 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
คนดีหรือไม่ต้องรอดู
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น