วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2561

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 669 เปิดประตูรับโจร?


ตอนที่  669  เปิดประตูรับโจร?
 “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”  กลุ่มองครักษ์รอบๆ ตัวคนอ้วนหัวเราะกันหนักจนน้ำตาเล็ด
โจรน้อยคนหนึ่งผู้มีพลังไม่ถึงระดับปราณดิน แต่ภายใต้การจับตาดูแลของกลุ่มองครักษ์ผู้มีพลังระดับ 6 ถึงระดับ 8  ประกาศว่าจะปล้นท่านบาร์ตัน จะมีเรื่องใดในโลกไร้สาระมากไปกว่านี้ไหม?  โจรน้อยผู้นี้ยังไม่ตื่นอีกหรือ?  ตอนนี้กองทัพที่ตีวงล้อมและกำจัดกลุ่มของขโมย  นั่นคือกลุ่มที่ล้อมโจมตีกองคาราวานของท่านบาร์ตันไม่ใช่หรือ?

คนตัวอ้วนหัวเราะอย่างหนักจนแทบหายใจไม่ออก
ในบรรดาสาวใช้ มีสาวหุ่นดียั่วยวนนางหนึ่ง  เมื่อนางมองดูเย่ว์หยาง สายตาของนางทอประกายประหลาดใจ
เย่ว์หยางถือมีดสั้น ไม่สนใจเสียงหัวเราะขององครักษ์รายรอบ และประกาศอย่างใจเย็น  “นี่คือการปล้น, ข้าขอประกาศว่าทุกอย่างที่นี่ในหุบเขาสุนัขป่าหอนจะเป็นของข้า  ทิ้งของมีค่าทั้งหมดเอาไว้  ทุกคนประสานมือไว้หลังศีรษะ หญิงหลบไปทางซ้าย ชายหลบไปทางขวา กระเทยอยู่ตรงกลาง!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ พวกองครักษ์ตะลึง
และจากนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น
บางคนหัวเราะจนกระทั่งยืดหลังไม่ออกถึงกับล้มลงไปหัวเราะกลิ้งกับพื้นก็มี
สาวใช้ที่พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อจะกลั้นไม่ให้ตนเองหัวเราะ ก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป  พวกนางไม่กล้าเสียมารยาทต่อหน้าเจ้านายของนาง  พวกนางหันหน้าไปหัวเราะทางอื่น
 “ฮ่าฮ่า ข้าละขำแทบตาย”  คนอ้วนหัวเราะจนกระทั่งมุมปากแทบจะถึงหู  เขาหัวเราะจนตัวสะท้าน
 “เฮ้ย, ขำมากนักเหรอ?”  เย่ว์หยางสับสนอยู่เล็กน้อย  เขาจะฆ่าคนสักหลายคนเพื่อแสดงพลังของเขาดีหรือไม่?
 “เดี๋ยวก่อน ขอพักแป๊บ..” เจ้าอ้วนผู้นั้นพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อกลั้นหัวเราะ เขารับผ้าเช็ดหน้าจากสาวใช้และซับน้ำตาของเขา  มีหลายครั้งที่เขาพยายามสงบใจ  แต่ก็ทำไม่สำเร็จ  ทันทีที่เขาเห็นหน้าเย่ว์หยางเขาอดหัวเราะไม่ได้  หลังจากผ่านไปนานอารมณ์ของเขาค่อยมั่นคง และด้วยนิสัยชอบหยอกล้อเขาถามเย่ว์หยาง  “เจ้าขโมยน้อยชาวมนุษย์  เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังพยายามปล้นใครอยู่?”
 “ข้าก็ไม่รู้...”  เย่ว์หยางไม่รู้ว่าเจ้าอ้วนนี้เป็นใคร  แต่ว่านั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ตราบใดที่เขามีเงิน เขาจะเป็นใครไม่สำคัญ
 “อ๊า..ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”  เมื่อองครักษ์ได้ยินเช่นนี้ พวกเขาระเบิดเสียงหัวเราะอีกครั้ง
 “อืม.. ข้าควรจะแนะนำตัวเองก่อน!”  บุรุษอ้วนพยายามกลั้นหัวเราะ  เขาสูบซิการ์ลึกและพ่นควันออก  ทำให้หน้าอ้วนๆ ของเขามีควันปกคลุม  เขาพูดอย่างลึกลับ  “ข้าคือบาร์ตัน ข้าคือพ่อค้าทาสระดับทองในแคว้นมรกตนี้”
 “พ่อค้าทาสหรือ?”  เย่ว์หยางค่อยเข้าใจเล็กน้อย แต่ยังแกล้งเป็นไม่เข้าใจ
 “เจ้า, อย่าบอกข้านะว่าเจ้าไม่รู้ว่าการค้าทาสคืออะไร?  นี่เจ้าโผล่มาจากประเทศไหนกันแน่?”  คนตัวอ้วนพูดไม่ออก  เขาคิดว่าชั่วขณะที่เขาเอ่ยคำว่าพ่อค้าทาส  เย่ว์หยางจะกลัวเขาจนสั่นไปทั้งตัว ขโมยน้อยนี่ไม่รู้กระทั่งการค้าทาส ไม่มีประโยชน์อะไรจะพูดด้วย ทั้งหมดนี้ไม่ต่างอะไรกับสีซอให้ควายฟัง  คนตัวอ้วนโบกมือเบาๆ “จับเขาซะ, ระวังอย่าให้ใบหน้ามีบาดแผลล่ะ  มนุษย์รูปร่างแบบนี้โดดเด่นและหาได้ยากมาก  น่าจะขายได้ราคาดี!”
 “ขอรับ ท่านบาร์ตัน”
ขณะที่พวกองครักษ์กำลังเล่นทายนิ้วมือเพื่อตัดสินใจว่าใครจะเป็นคนจับเย่ว์หยาง ในท้องฟ้าห่างออกไป ขุนพลสองคนมีพลังปราณฟ้าระดับหนึ่ง และผู้ช่วยขุนพลมีพลังปราณดินระดับเก้าหรือสิบ บินกลับมาพร้อมเชลยที่จับได้ซึ่งเป็นหัวหน้าก๊กโจร
รวมทั้งหัวหน้าก๊กโจรทอง  พวกเขาถูกมัดรวมกันเหมือนเกี๊ยว
สำหรับหัวหน้าที่มีเคราดกแต่ปัญญาน้อยซึ่งเย่ว์หยางได้พบก่อนนั้น  เขายังคงถูกอัศวินฝีมือดีของกองทัพจับด้วยและพามาเข้ากลุ่ม
เขาเป็นเพียงหัวหน้าหน่วยเล็กๆ  ที่ไม่มีคุณสมบัติได้รับการคุ้มครองและนำตัวไปโดยรองขุนพลเอง  แม้แต่หัวหน้าก๊กโจรทอง เจ้าผู้นั้นยังเป็นนักสู้ปราณดินระดับ 7 เขาถูกนำตัวมาด้วยเพราะเขาเป็นหัวหน้าก๊กโจร  ถือเสียว่าเป็นโบนัสที่จับหัวหน้ากลุ่มโจรอื่นได้  ขุนพลทั้งสองที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับหนึ่ง ประสานมือคารวะทักทายคนอ้วน
ปกติคนตัวอ้วนไม่กล้ารับการทักทายจากขุนพลระดับปราณฟ้า
เขารีบยืนขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับยืดตัวตรงคำนับตอบอย่างยากลำบาก และตอบรับคำทักทาย
 “ถ้าไม่ใช่เพราะแผนการของท่านบาร์ตันผลเก็บเกี่ยวในครั้งนี้คงไม่อุดมสมบูรณ์  ท่านบาร์ตัน!  เมื่อข้ากลับไปข้าจะรายงานเรื่องนี้ให้ท่านเจ้าเมืองทราบเพื่อให้บันทึกความดีความชอบของท่านบาร์ตันเอาไว้”  ขุนพลคนหนึ่งก้าวออกมาข้างหน้าและยื่นเอกสารปิดผนึกให้กับเจ้าอ้วน  จากนั้นโบกมือ สั่งให้กองทัพควบคุมกลุ่มโจรออกไป
 “ข้าได้หนึ่งล้านด้วยผลงานนั้น  ด้วยผลตอบแทนและความสำเร็จ ช่างเป็นการค้าที่ยอดเยี่ยมมาก”  คนอ้วนจูบเอกสารปิดผนึกอย่างมีความสุข  ภายในเอกสารนั้นจะต้องมีเอกสารรับรองทางการเงินรางวัลจากเจ้าเมืองมรกตเป็นแน่
เมื่อทหารจากไป พวกเขาไม่ได้เอาขโมยไปทั้งหมด
เขาเอาไปแต่เพียงขโมยที่มีพลังสูงกว่าปราณดินระดับ 3 ปล่อยพวกต่ำกว่าระดับ 3 ไว้ให้เจ้าอ้วน
ในกลุ่มพวกนี้มีเย่ว์หยางรวมอยู่ด้วย  พวกองครักษ์ที่เหลือสองคนที่แข็งแกร่งที่สุดคอยปกป้องท่านบาร์ตัน  และที่เหลือบินลงมาไล่ต้อนพวกโจรที่กำลังสั่นด้วยความกลัว และสั่งพวกเขาให้เดินตามหลังพวกเขา  ชะตากรรมที่รอคนพวกนี้อยู่ก็คือถูกส่งไปที่ตลาดค้าทาสในตลาดมืดและขายให้เจ้านายหรือสำนักนิกายบางแห่งใช้แรงงานไปจนกว่าจะตาย
แน่นอนว่าการเลือกปฏิบัติก็แตกต่างไปสำหรับบุรุษหนุ่มรูปงามอย่างเย่ว์หยาง
ถ้ามีเจ้านายสตรีที่ชอบบุรุษรูปงาม  เขาจะถูกขายออกไปด้วยราคางามอย่างแน่นอน
เย่ว์หยางต้องการใช้มีดแทงเจ้าอ้วนให้ตายนัก  จากนั้นปล่อยให้เลือดไหลเหมือนกับหมูที่ถูกเชือดและจากนั้นปล้นทรัพย์ที่เป็นของเจ้าหมูอ้วน
ตอนนี้ดูเหมือนว่ายังมีทางทำเงินเพิ่มรอเขาอยู่  เย่ว์หยางตัดสินใจรอจนกว่าจะถึงตลาดค้าทาสแล้วค่อยปล้นคนรวย จะมีคนรวยอยู่ที่นั่นสักกี่คน?  คนรวยคนเดียวอย่างเจ้าอ้วนจะเทียบกับกลุ่มคนรวยได้ยังไง?
เมื่อหัวหน้าองครักษ์ตะโกนสั่งเย่ว์หยางให้มารวมกลุ่มเชลย
เขาเข้าไปร่วมกับกลุ่มเชลยเงียบๆ
ซ่อนตัวอยู่ภายในกลุ่มเชลย
ทำตัวไม่โดดเด่นต่อไปอีก
เหมือนกับว่าไม่เคยมีการปล้นเกิดขึ้น!  เจ้าอ้วนและคนอื่นไม่สนใจเป้าหมายอย่างเย่ว์หยาง  เขาไม่มีพลังเท่ากับนักสู้ปราณดินด้วยซ้ำ  ในสายตาพวกเขา เขาไม่มีอะไรมากไปกว่ามด  มีแต่สาวใช้ที่ทรงเสน่ห์และหุ่นดีมองดูเย่ว์หยางอยู่หลายครั้งเมื่อนางแกล้งทำเป็นเหลือบมองเชลย
ในส่วนลึกของดวงตานาง มีความว้าวุ่นแน่นอน ราวกับว่ามีบางอย่างทำให้นางสับสน
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างกลับคืนสู่สามัญอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครสังเกตความเปลี่ยนแปลงในดวงตานาง
หลังจากผ่านไปตามหุบเขาสุนัขป่าหอน เรือลำใหญ่มหึมาลอยอยู่ในท้องฟ้าห่างไกล บนเรือมีธงเป็นสัญลักษณ์ของเจ้าเมืองลมดำ
เย่ว์หยางเข้าใจได้ทันที ผู้หนุนหลังบาร์ตันก็คือเจ้าเมืองลมดำ  เมืองลมดำอยู่ไม่ไกลจากเมืองใบไม้เขียว  ทั้งสองเมืองอยู่ภายใต้การปกครองของแคว้นมรกต  เพราะชื่อของเจ้าเมืองก็คือเฮยฟง เมืองที่เขาปกครองจึงชื่อลมดำ (เฮยฟง)   เย่ว์หยางรู้ว่าไม่มีอะไรเกี่ยวกับเจ้าเมืองผู้นี้ก่อนคำสารภาพของจงกวนและอีกสองคนที่เหลือที่มักเสนอให้ยอมแพ้  ชื่อของเจ้าเมืองลมดำถูกกล่าวว่าเป็นพันธมิตรลับของก๊กโจรตัวตลก  ดังนั้นเย่ว์หยางจึงรู้จักเจ้าเมือง
เจ้าเมืองลมดำอ่อนแอกว่าเสี่ยวโฉ่ว (หัวหน้าโจรตัวตลก)  แต่เขาไม่ถือว่าอ่อนแอ
พลังของเขาก็คือปราณฟ้าระดับสาม เกือบระดับสี่ มีรางวัลค่าหัว 220 ล้าน
เทียบกับนายพลปีศาจจื้อกวงมีค่าหัว 650 ล้าน มนุษย์กระดูกราเชลมีค่าหัว 550 ล้าน และหลงเสียง 400 ล้าน  รางวัลค่าหัวของเจ้าเมืองลมดำไม่นับว่าสูง แต่ก็ไม่นับว่าต่ำ
ต้องรู้ไว้ก่อนว่าเมื่อเย่ว์หยางทุบตีกระทั่งนายพลปีศาจจื้อกวง ต้องใช้ความพยายามมากจนเขาแทบเอาทักษะทั้งหมดมาใช้.. ขณะที่เจ้าเมืองลมดำสามารถมีค่าหัวถึง 220 ล้านนับว่าทำได้ดี
เชลยทั้งหมดขึ้นไปในเรือและมุ่งหน้าสู่เมืองลมดำโดยเร็ว
การส่งสินค้ามูลค่าห้าล้านไปยังเมืองใบไม้เขียวเป็นแค่เหยื่อล่อที่บาร์ตันโยนออกไป  เป้าหมายที่แท้จริงของเขาก็คือตลาดมืดในเมืองลมดำ
ภายในเมือง เย่ว์หยางเห็นตลาดมืดในตำนาน  เขาไม่เคยคิดเลยว่าตลาดมืดสามารถเปิดได้ถูกต้องโดยชอบธรรม  ในหอทงเทียนตลาดมืด ไม่ได้รับอนุญาต  แต่อาจมีซ่อนเร้นแน่นอน  มีตำหนักลับใต้ดินหรือห้องภายในอาคารที่ลอบขายสินค้าต้องห้าม... แดนสวรรค์แตกต่างออกไป  ตลาดมืดที่นี่เปิดอย่างเปิดเผยข้างๆ จวนเจ้าเมือง  อาคารใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่สองในเมือง  แม้แต่คนโง่ก็ไม่เชื่อว่าตลาดมืดไม่มีอะไรเกี่ยวกับเจ้าเมือง
 “เฮ้, โจรน้อยชาวมนุษย์ที่หน้าตาดีอยู่ตรงไหน?”  หลังจากเข้าไปในตลาดมืด คนอ้วนจำได้ทันทีว่าเขามีเชลยชั้นดี
 “ท่านบาร์ตัน โจรน้อยนั่นหายไปแล้ว” หนึ่งในองครักษ์เหงื่อตกรีบรายงาน
 “เขาไม่มีแม้กระทั่งพลังปราณดิน แล้วหายไปต่อหน้าต่อตาพวกเจ้าได้ยังไง?”  คนตัวอ้วนไม่เชื่อว่าเย่ว์หยางหนีไปแล้ว  เขาสงสัยอย่างหนักว่าองครักษ์บางคนหรือพวกโจรคงกินโจรน้อยชาวมนุษย์ ที่เขาตั้งใจจะขายให้ได้ราคาดีเนื่องจากความหิวหรือความอิจฉาก็เป็นได้
คนตัวอ้วนโกรธ
เขารู้ว่าบริวารของเขามีนิสัยชอบกินมนุษย์และมักจะแอบกินนักโทษอยู่เสมอ
เนื่องจากนักโทษธรรมดามีราคาถูก  เขามักจะเห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าวโดยปริยาย  ที่สำคัญคงจะดีถ้ามีเชลยแรงงานที่น้อยลง
อย่างไรก็ตาม โจรน้อยชาวมนุษย์มีหน้าตาที่หล่อมาก  ถ้าเขาได้รับเสื้อผ้าดีๆ และแต่งตัว เขาจะดึงดูดยอดฝีมือสตรีผู้เปลี่ยวเหงาเข้ามา  และเวลานั้นเขาจะขายได้ราคาดีแน่นอน  บางทียอดฝีมือสตรีอาจจะใช้เงินจำนวนมากเพื่อให้ได้ชายหนุ่มรูปงามไปครอง
แต่ตอนนี้ หนึ่งในบริวารของเขากินมันไปจริงๆ เสียแล้ว  เขาโกรธจัดจนเส้นเลือดปูดโปน
พวกเขากินไปแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใคร สมองของเจ้าพวกคนคุ้มกันเหล่านี้เต็มไปด้วยขี้เลื่อยงั้นหรือ?
เจ้าอ้วนตัดสินใจระบายอารมณ์โกรธกับบริวารของเขาทุกคน เมื่อทำธุรกรรมเสร็จ สิ่งที่เขาต้องการก็คือบริวารที่เชื่อฟัง  สุนัขที่แอบขโมยอาหาร เขาไม่ต้องการ
ขณะนั้นคนที่มีตำแหน่งสูงยืนอยู่ที่ทางเข้าตลาดมืด  เจ้าอ้วนพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาบุคลิกที่สงบไว้ ไม่สบถด่าออกมา  แม้ว่าในใจของเขาอยากจะใช้แส้หวดบริวารผู้โง่เขลาให้ตายนัก
มองดูผิวเผินเขาไม่ติดใจในเรื่องนี้ แต่เขาแอบซ่อนความแค้นไว้ในก้นบึ้งหัวใจ
รอยยิ้มปรากฏอยู่บนริมฝีปากของสาวใช้ผู้ทรงเสน่ห์ร้อนแรง ราวกับว่านางได้คำตอบสำหรับข้อสงสัยของนาง  ขณะเดียวกันดูเหมือนนางจะขำขันกับเรื่องโง่เขลาบางอย่าง
อย่างไรก็ตามสีหน้าเช่นนั้นวูบผ่านก่อนจะหายไปกลับคืนสู่ลักษณะสาวใช้ปกติ
พร้อมกันนั้นสาวใช้ทุกคนเดินติดตามบุรุษอ้วน
เมื่อเข้าไปในตลาดมืด
เวลานี้เย่ว์หยางเปลี่ยนชุดแล้ว และเข้าไปในตลาดมืดอีกทางเข้าหนึ่ง เขาลงทะเบียนในชื่อว่า จวินอู๋เย่
ข้อได้เปรียบของตลาดมืดก็คือไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นสินค้าชนิดใดก็ตาม พวกเขาสามารถผ่านไปได้โดยไม่มีอุปสรรค.. เพียงแค่นั้นจวินอู๋เย่ทหารรับจ้างผู้อื้อฉาวและอ่อนแอมีคุณสมบัติเข้าสู่ตลาดมืด  นอกจากนี้หลังจากใช้ทองสิบเหรียญ เย่ว์หยางยังได้รับที่นั่งประมูล  ถ้าพนักงานลงทะเบียนรู้ว่าเย่ว์หยางมาที่นี่เพื่อปล้นพวกเขา   บางทีพวกเขาอาจไม่กระตือรือร้นมากเท่าที่ควร...
 “ยินดีต้อนรับ, ท่านลูกค้า  ข้าหวังว่าท่านจะพอใจกับผลงาน!  พนักงานลงทะเบียนต้อนรับเย่ว์หยางด้วยรอยยิ้ม
 “ขอบคุณ, ข้าคิดว่าจะมีผลเก็บเกี่ยวที่ดีในวันนี้”  เย่ว์หยางให้ทิปหนึ่งเหรียญทอง ซึ่งเป็นเหรียญทองแดนสวรรค์เหรียญสุดท้ายที่เขามี

10 ความคิดเห็น:

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

รับโจรเข้าบ้านดีจริงๆ

Unknown กล่าวว่า...

จะปล้นแล้วยังให้ทิป

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ คนขนผู้ให้ทิป 555

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

พี่เย่วอย่าไปบอกใครนะว่ามาปล้นเขา อายเขาบ้าง 555

natthapol.nondang@gmail.com กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

samchay กล่าวว่า...

ทุ่มหมดตัว ไม่ปล้นไม่ได้แล้ว

สายลมโชย กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น