ตอนที่
679 ประกาศสงครามที่หยิ่งที่สุด
เมืองลมดำ
การฆ่าคนนอกที่ไร้พลังในเมืองลมดำเป็นเรื่องปกติยิ่งกว่าเมื่อเจ้านายปล้นกลุ่มสาวใช้อื่น
นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแทบทุกวัน
สิ่งเดียวที่ควรค่าแก่การพูดถึงก็คือหัวกลมเปากู่
ทุกคนในเมืองลมดำรู้จักสหายผู้นี้ ปกติเขาจะขลาดเขลากลัวตาย แต่เขาชอบคุยโม้โอ้อวดตนเอง เมื่อใดก็ตามที่เขาติดต่อกับใคร เขาจะเป็นเหมือนตัวหมัด แต่วันนี้หลายอย่างเปลี่ยนไป เพื่อคนภายนอกคนเดียว เขาถึงกับประเมินตนเองสูง
และต่อต้านรองประธานหอการค้าชิโด ในสายตาของคนทั้งหลาย
เจ้าผู้นี้กระทำเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ
สิ่งที่น่าทึ่งมากที่สุดก็คือ
หัวกลมเปากู่พูดว่าเพื่อประโยชน์แก่สหายของเขา
เพื่อประโยชน์แก่สหาย?
ในเมืองลมดำมีของอย่างนั้นจริงๆ
ด้วยหรือ? ในเมืองลมดำ คนที่เชื่อใจสหายของพวกเขาตายไปนานแล้ว
ในตอนท้ายของการพูดคุย พวกเขาได้ข้อสรุปว่า
เปากู่ไม่บ้าก็คงแสดงละครกับรองประธานหอการค้าและหัวหน้าทหารข่มขู่เอาเงินคนนอกเกินไปหน่อย นั่นไม่ใช่ครั้งแรก
แต่เป็นเรื่องทั่วไปที่เกิดขึ้นในเมืองลมดำ ตามบทบาทนั้นใครก็ตามที่เข้ากับฝ่ายตรงข้ามเพื่อได้รับความไว้วางใจด้วยเลือดและน้ำตา
ผู้นั้นจะถูกเรียกว่าสายลับ
เปากู่เป็นสายลับหรือเปล่า?
ขณะต่อมาผู้คนก็ไม่สามารถตัดสินใจได้
เพราะมีความจริงใจเพียงเล็กน้อยในการกระทำของหัวกลมเปากู่ ดูไม่เหมือนว่าจะปลอมได้ขนาดนั้น
แต่บทเรียนยังคงบอกผู้คนว่ายิ่งดูเหมือนจริงใจ
ก็ยิ่งปลอมได้เหมือนจริงมาก
นอกจากนี้เพื่อประโยชน์แก่สหายของเขา
เขายังเสี่ยงชีวิตสู้กับรองประธานหอการค้าที่กำลังโกรธ
แค่คิดเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ก็ทำให้ผู้คนตระหนักว่าเป็นไปไม่ได้!
“มาพนันกัน! ถ้าเปากู่สามารถกลับมาได้ อย่างนั้นก็ต้องเป็นเรื่องโกหก!”
ใครบางคนรับพนันในโรงเตี๊ยม
พนันกันว่าเปากู่จะสามารถปรากฏตัวในเมืองลมดำภายในสามวันหรือไม่ ถ้าเปากู่ปรากฏตัวอีกสามวันต่อมา อย่างนั้นเขาก็ต้องเป็นสายลับ
เขาต้องร่วมแสดงกับหัวหน้าทหารและรองประธานหอการค้าหลอกโกงเงินคนนอก! ถ้าเปากู่ไม่กลับมา
อย่างนั้นเขาคงบ้าไปแล้วจริงๆ
เขาคงถูกคนของรองประธานหอการค้าขับออกจากเมืองและฆ่าเขา
หลายคนพนันว่าเปากู่คงจะกลับมาภายในสามวัน
มีเพียงไม่กี่คนพนันว่าพวกเขาจะไม่สามารถกลับมาได้
ตัวอย่างเช่น
คนที่เป็นลูกชายทหารรับใช้ในจวนเจ้าเมืองพนันร้อยเหรียญทองว่าเปากู่จะไม่มีทางกลับมาได้
ครึ่งวันต่อมา เปากู่ก็ยังไม่กลับมา
อย่างไรก็ตามมีคนแปลกหน้าสองสามคนปรากฏตัวในเมืองลมดำ
เสื้อผ้าของพวกเขาค่อนข้างคล้ายกับคนนอก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ตาคมกล้าอาจพบว่าอกของพวกเขาติดตราเครื่องหมายเหมือนกัน ในบรรดาคนเหล่านี้ประกอบไปด้วย คนอ้วน คนผอม
คนที่เหมือนแท่งน้ำแข็ง เจ้าชายผู้หล่อเหลาปรากฏตัวด้วยราศีอันสูงส่ง
และพี่น้องฝาแฝดที่ดูเหมือนจะเป็นผู้คุ้มกัน การปรากฏตัวของคนไม่กี่คนนี้ทำให้เกิดเสียงเล่าลือลามไปทั่วหมู่พลเมืองเมืองลมดำผู้ลืมเรื่องการฆ่าคนนอก
รองประธานหอการค้าเพิ่งจะฆ่าคนไปไม่นานก็มีกลุ่มคนแปลกหน้าเข้ามาแล้ว
จะทำยังไงดี?
เป็นไปตามคาด คนเหล่านั้นไปถามข่าวคนนอกที่ร้านเหล้าก่อน
แม้ว่าผู้คนในร้านเหล้าจะโลภอยากได้เงิน
แต่ไม่มีใครกล้าบอกความจริง
บางทีเจ้าคนอ้วนเห็นว่าสายตาผู้คนแปลกไป เขาจึงสัญญาว่าจะให้เงินก้อนใหญ่...
แต่น่าเสียดายไม่ว่าใช้เงินมากเท่าใดเขาไม่สามารถซื้อชีวิตได้ ถ้ารองประธานหอการค้าและนายกองทหารได้ทราบข่าว เขาคงไม่สามารถรักษาชีวิตไว้ได้ นอกจากนี้
มนุษย์เหล่านี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยแข็งแกร่ง ในบรรดาพวกนี้
คนที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือบุรุษน้ำแข็ง ที่มีพลังปราณดินระดับสาม
กลุ่มคนอ่อนแออย่างนี้คงถูกรองประธานหอการค้ากำจัดได้หมดไม่ต้องพูดถึงนายกองทหาร
บุรุษน้ำแข็งมุ่งไปที่สมาคมทหารรับจ้างทันที
เขาตั้งภารกิจที่มีมูลค่าหมื่นเหรียญทอง
สำหรับการตามหาคน
และเบาะแสทั้งหมดที่ได้รับสามารถรับรางวัลได้สูงสุด 1000 เหรียญทอง....
ดังนั้นเมืองลมดำตกอยู่ในความโกลาหลทันที ตามภารกิจนี้
คนนอกที่ถูกฆ่าไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ดูเหมือนว่าจะเป็นคนสำคัญมาก
รองประธานหอการค้าได้พบปะลับกับนายกองทหารปรึกษาหารือมาตรการตอบโต้
“คนนอกผู้นั้น
เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าฆ่าเขาไปแล้ว?”
นายกองขมวดคิ้วถาม
“คนของข้าผลักเขากับเปากู่ลงไปในหลุมยักษ์ ตามปกติพวกเขาผลักหินใหญ่พอๆ กับภูเขาย่อมๆ ลงตามไปด้วยแล้วเจ้าพวกนั้นจะไม่ตายได้ยังไง?
นอกจากนี้หัวหน้านักสู้ของข้ายืนยันด้วยอสูรกระดูกว่าทั้งสองนั้นตายอยู่ในปล่องข้างล่างก่อนที่เขาจะกลับมารายงาน” รองประธานหอการค้ารู้สึกเสียใจ
ถ้าเขารู้เร็วกว่านี้ว่าถ้าฆ่าคนนอกนั้นจะมีเรื่องตามมา เขาคงไม่ทำแน่
ที่สำคัญคนนอกผู้นั้นดูเหมือนนักธุรกิจที่ไม่มีอำนาจหรืออิทธิพล
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรจะพูด” นายกองทหารแค่นเสียง “ในเมื่อเจ้าได้ทำลงไปแล้ว ก็ไม่ต้องเสียใจ
เจ้าอาจจะกำจัดพวกเขาอีกก็ได้”
“อาจจะมีเพื่อนร่วมกลุ่มก็ได้!”
รองประธานหอการค้าถามหาข้อมูลจึงได้ทราบว่าคนพวกนี้ถูกส่งมาจากเมืองใบไม้เงิน
อาจมีขบวนพ่อค้าในเมืองใบไม้เงิน
ถ้าเขาฆ่าคนพวกนี้
หลายอย่างจะไม่สามารถแก้ไขได้
นายกองทหารไม่คิดเช่นนั้น แม้ว่าจะมีคาราวานมาจากแดนสวรรค์ตะวันตกแต่ขนาดอาจไม่ใหญ่เกินไป
เพราะธรรมเนียมการขนส่งสำหรับการผ่านประตูเทเลพอร์ตแต่ละประตูเป็นเงินจำนวนมหาศาล
เขารู้สึกว่าบุรุษหนุ่มเหล่านี้น่าจะมาเที่ยวทัศนาจรมากกว่าจะมาทำธุรกิจ เกี่ยวกับพลังของนักสู้ของพวกเขา
ดูเหมือนจะไม่มีอำนาจและอิทธิพลมาก
พวกเขาอาจเป็นศิษย์ของตระกูลหรือสมาชิกในตระกูลเจ้าเมืองแห่งใดแห่งหนึ่งเป็นแน่
แดนสวรรค์ตะวันตกอยู่ห่างจากแดนสวรรค์ใต้มากเกินไป ต่อให้ลูกของเจ้าเมืองถูกฆ่า
ก็ไม่มีทางที่เขาจะก่อสงครามได้
นอกจากนี้เมืองลมดำมักจะได้เปรียบคนอื่นอยู่เสมอ
ผู้หนุนหลังของเขาทรงพลังมาก และเขาก็สบายดีอยู่เสมอ
“กำจัดพวกมันซะ เราต้องใช้แผนที่คล่องตัวและมีประโยชน์
อย่าปล่อยพวกมันผ่านไป เรื่องนี้เมื่อนายท่านกลับมา ข้าจะรายงานเขาเอง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น นายท่านจะออกรับไว้แทนเรา ไม่เป็นไรหรอก” นายกองทหารไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก
คนต่างถิ่นกี่คนแล้วที่ถูกสังหารในเมืองลมดำเพราะความโลภ? เขาก็ยังสบายดีเสมอมา!
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
รองประธานหอการค้าวิ่งแตกตื่นเข้ามาในห้องของนายกองทหาร
นายกองทหารกำลังอุ้มสาวใช้ขึ้นเตียง ต้องลุกพรวดพราดขึ้นมา เขาหงุดหงิดและตะโกนลั่น “บัดซบเอ๊ย, เจ้าต้องรายงานข้าไปเสียทุกเรื่องเลยใช่ไหม? นี่มีเรื่องอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า?
ข้าจะฆ่ามัน ข้าจะฆ่ามัน ไสหัวออกไป!”
รองประธานหอการค้าพูดด้วยสีหน้าฝืนทน “เรื่องมันผิดปกติไปกันใหญ่แล้ว...”
นายกองทหารตะลึงในตอนแรก จากนั้นเขาพูดอย่างไม่พอใจ “มันผิดปกติยังไง? คนของเจ้ามีแต่พวกงี่เง่าทั้งนั้นหรือ?
เจ้าพวกนั้นที่แข็งแกร่งที่สุดมีพลังแค่ปราณดินระดับสาม ถ้าเจ้าไม่สามารถฆ่าพวกมันได้
เจ้าจะทำอะไรอื่นได้?
มีหัวหน้านักสู้เกราะทองพลังปราณดินระดับแปดอยู่หอการค้าชิโดของเจ้าไม่ใช่หรือ?
อย่าบอกข้านะว่าเจ้าไม่ได้ส่งพวกเขาไปคุ้มกันพวกมัน!”
รองประธานหอการค้าส่ายหน้า “ไม่ ไม่
ไม่ใช่อย่างนั้น ความจริงทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เราใช้กับดักหลุมยักษ์
และเตรียมจะฆ่าพวกเขา
ใครจะรู้กันว่าเจ้าบุรุษน้ำแข็งและคนที่เหมือนเจ้าชายทั้งคู่เรียกคัมภีร์อัญเชิญออกมา
ทั้งยังเรียกพะยูนนรกปราณฟ้าระดับสองออกมาสองตัว
หัวหน้านักสู้เกราะทองไม่สามารถรับมือพวกเขาได้!”
“ตลกแล้ว,
พวกมันเป็นเพียงนักสู้ปราณดินระดับสาม แม้จะมีคัมภีร์อัญเชิญ
แล้วพวกมันทำสัญญากับพะยูนนรกปราณฟ้าระดับสองได้ยังไง!” นายกองไม่เชื่อเรื่องนั้น
“พวกเขาไม่ได้ทำสัญญา
บางทีอาจเป็นพะยูนนรก อสูรพิทักษ์ประจำตระกูลพวกเขาก็ได้...” รองประธานหอการค้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เจ้าหมายความว่าพวกมันหลบไปได้ใช่ไหม?” นายกองถาม
“ใช่แล้ว”
รองประธานหอการค้าต้องการบอกว่าไม่เพียงแต่อีกฝ่ายจากไปเท่านั้น
แต่พวกเขายังทุบตีเล่นงานพวกนักสู้รวมหัวหน้านักสู้เกราะทองและขู่ว่าจะส่งคนไปถล่มเมืองลมดำให้ราบเป็นหน้ากลอง แน่นอน
เขาไม่กล้าพูดคำพูดเช่นนั้นกับนายกองทหาร ถ้าเขาพูด
เขาคงถูกฉีกเป็นชิ้นแน่นอน
“ออกไป!” นายกองทหารรู้สึกกดดัน แม้ว่าเขาจะวางแผนทำเงินได้บ้างสักล้านเหรียญทอง แต่ก็ยังเป็นปัญหาค่อนข้างใหญ่
เขาคงจะรายงานเรื่องนี้กับเจ้าเมืองลมดำ
ถ้าเขาอยู่ที่นี่
นายท่านอาจส่งคนไปล่าพวกเขาและกำจัดอันตรายใดๆ
ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ปัญหาก็คือนายท่านไม่อยู่ที่นี่
เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะฆ่าพะยูนนรกอสูรปราณฟ้าระดับสองด้วยพลังของตัวเอง
ช่างเถอะ
ค่อยขอให้เขาตัดสินใจตอนนายท่านกลับมา! นายกองทหารไม่มีทางเลือก ได้แต่ระงับความหงุดหงิดไว้ในหัวใจ เขาเตรียมใจโดนเจ้านายด่าว่าแล้ว
เขาไม่กังวลว่าเจ้าเมืองลมดำจะฆ่าเขา
เพราะเขาเป็นบริวารผู้ภักดีของเขา
ทุกปีเขาจะนำหญิงงามเป็นหมื่นคนมาจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ
ให้เจ้านายเช่นเดียวกับเงินหลายสิบล้าน
เขาเป็นผู้สนับสนุนผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง
และเขายังเป็นญาติของภรรยาคนที่เก้าของเจ้าเมือง
ไม่ว่ายังไง เจ้านายคงไม่ฆ่าเขาเพื่อประโยชน์แก่คนนอก
เวลา 21.00 น.
ทูตจากสมาคมทหารรับจ้างในเมืองใบไม้เงินเป็นตัวแทนของสำนักทงเทียน
สำนักมังกรทะยานและวังมารในแดนสวรรค์ตะวันตกประกาศสงครามกับเมืองลมดำ
ด้วยการประกาศสงครามคราวนี้
ทั่วทั้งเมืองตกอยู่ในความปั่นป่วน
การประกาศสงครามข้ามดินแดนแบบนี้เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่มีแต่ในความฝันเท่านั้น มีเรื่องแบบนี้จริงๆ ด้วยหรือ?
อย่างไรก็ตาม ประกาศถูกติดไว้ที่ทางเข้าสมาคมทหารรับจ้างในเมืองลมดำ
เป็นข้อเท็จจริงหนักแน่น
ในจวนเจ้าเมืองแม้ว่าเจ้าเมืองลมดำจะไม่อยู่ในตอนนี้
แต่ภรรยาคนที่เก้าของเขากัดฟันและประคองตัวเองรับประกาศสงครามจากแดนสวรรค์ตะวันตก
กลับกลายเป็นว่าในช่วงตอนกลางวัน
ญาติของนางสมคบคิดกับรองประธานหอการค้าชิโดใช้วิธีชิงเงินและฆ่าคนภายนอกที่อ่อนแอ
สำหรับคนภายนอกผู้นี้เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุผู้เชี่ยวชาญคนสำคัญที่สุดของสามกองกำลัง
สำนักทงเทียน
สำนักมังกรทะยานและวังมารหลังจากฆาตกรรมคนนอกที่ชื่อจวินอู๋เย่แล้ว สหายของเขามาตามหา
แต่ญาติของนางและรองประธานหอการค้าพยายามกำจัดพวกเขาเพื่อกลบเกลื่อนความชั่วของตนเอง
สหายของจวินอู๋เย่หนีเอาชีวิตรอดได้ภายใต้การคุ้มครองของอสูรปราณฟ้า
เพราะความโกรธของพวกเขาที่มีต่อการกระทำที่โหดร้ายของเมืองลมดำ
กลุ่มธุรกิจร่วมที่ก่อตั้งโดยสำนักทงเทียน, สำนักมังกรทะยานและวังมารจึงประกาศสงครามกับเมืองลมดำทันที
มีอยู่เพียงไม่กี่จุดในการประกาศสงครามของแดนสวรรค์ตะวันตก
ประการแรกต้องมอบคนกระทำผิดและจ่ายค่าชดเชยความผิดอย่างน้อยหมื่นล้านเหรียญ
นี่คือความสูญเสียที่เกิดจากความตายของนักเล่นแร่แปรธาตุผู้เชี่ยวชาญ
ประการที่สองเจ้าเมืองลมดำจะต้องคุกเข่าขออภัย
นอกจากนี้ยังต้องเทิดทูนนักเล่นแร่แปรธาตุอย่างจวินอู๋เย่
นอกจากนี้เขาต้องประกาศต่อแดนสวรรค์ใต้และแดนสวรรค์ตะวันตก ในที่สุดเขาต้องลาออกจากตำแหน่งเจ้าเมืองและยอมรับพิจารณาคดีร่วมกับสำนักทงเทียน
สำนักมังกรทะยานและวังมาร คนที่สมคบคิดในเมืองลมดำจะต้องถูกประหารชีวิตทั้งหมด
คนในตระกูลยกเว้นเด็กและสตรีมีครรภ์จะต้องถูกเนรเทศหรือไม่ก็ให้ใช้แรงงานอย่างหนัก
ประการที่สาม สมาชิกหรือพันธมิตรของเมืองลมดำ
ใครก็ตามต้องการแทรกแซงสงครามของเมืองลมดำ
จะถูกประกาศว่ามีความผิดเช่นเดียวกับเจ้าเมืองลมดำ
ภายในสามวันนับจากวันประกาศสงคราม
ทุกคนที่อยู่อาศัยในเมืองลมดำจะต้องอยู่ห่างจากการรบหรือไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย มิฉะนั้นพวกเขาจะถูกมองว่าสมคบคิดและถูกตัดศีรษะ
ประการที่สี่
ให้เมืองลมดำสร้างสุสานให้นักเล่นแร่แปรธาตุ
หล่อรูปเหมือนที่น่าเกลียดของฆาตกรด้วยบรอนซ์ทำให้มันคุกเข่าอยู่ต่อหน้าสุสาน
…
“ไม่มีทาง!” คนที่ได้อ่านประกาศรู้สึกว่านี่มันบ้ามากเกินไป
เมืองลมดำไม่ใช่ลูกพลับอ่อนปวกเปียก
พวกเขาจะเห็นด้วยกับเงื่อนไขแบบนั้นได้ยังไง! ด้วยนิสัยที่หยิ่งยโสของเจ้าเมืองลมดำ
คงเป็นเรื่องแปลกถ้าเขาไม่เริ่มสงครามทันที
16 ความคิดเห็น:
มาแล้ว ขอบคุณ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
มาแล้วแกงค์ตบทรัพย์
นี้สิของจริง ไม่ใช่พี่ท่านทำไม่ได้นะเนี้ย
นี่สิปล้นของจริง ทีเดียวหมื่นล้าน 50-60 ล้านจะไปมีค่าอะไร 5555
ฮ่าๆๆๆๆ หยุดนี่คือการปล้น
มาที่ต้องเอาให้คุ้ม555
เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกัยเฮียต้องเจอแบบนี้
ขอบคุณครับ
ขอบคุณคร้บ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
นี่แมร่งกะปล้นให้บ้านเหี้ยนเลยนี่หว่า555
วางแผนแบบนี้ไว้แต่แรกแล้วสินะ ก็ว่าอดทนไปทำไม
นี่แหละเราถึงชอบเย่ว์หยาง!
แสดงความคิดเห็น