วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2561

Panlong เล่ม 15 สมบัติประมาณค่ามิได้ – ตอนที่ 7 การเลือก


เล่ม 15 สมบัติประมาณค่ามิได้ ตอนที่ 7 การเลือก
ลินลี่ย์เดินอยู่ในท่ามกลางปราสาทที่เปลี่ยนแปลงรู้สึกกังวลเป็นห่วงมาก  “ที่บ้าแห่งนี้เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง  ไม่มีทางที่ข้าจะหาทางออกพบเลย  นอกจากนี้ยังมีศัตรูคอยโจมตีลอบทำร้ายจากภายในอีกด้วย!  ลินลี่ย์จำได้ชัดเจนเมื่อเห็นศพของอสูรก่อนนั้น

เมื่อเห็นศพลินลี่ย์เข้าใจทันทีว่าปราสาททรายโบราณนี้ไม่ใช่แค่กับดักจับคนเท่านั้น
มีการวางกำลังคนซุ่มทำร้ายอยู่ที่นี่!
ความจริง, ลินลี่ย์ควรจะเข้าใจเรื่องนี้นานแล้ว  เพียงแต่เขาไม่กล้าคิดถึงมัน  “ลอบทำร้าย? ลอบฆ่า? บีบีกับข้ายังดีขึ้นบ้าง  ข้ามีสมบัติมหาเทพปกป้องวิญญาณ  ขณะที่บีบีมีสมบัติที่เบรุตให้เขา เขาไม่น่าจะมีปัญหาในการเอาชีวิตรอดแต่อย่างใด  แต่เดเลีย นาง.. นาง..โธ่เอ๊ย ข้าไม่ควรจะรีบเร่งอย่างนั้น  ข้าควรจะให้เดเลียถึงระดับเทพชั้นสูงขั้นแรกก่อนจะออกเดินทาง”  ลินลี่ย์รู้สึกเต็มไปด้วยความเสียใจ
 “ถ้าเดเลียถูกฆ่าละก็....”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว ลินลี่ย์ยิ่งกังวลมาก
ความจริงเดเลียฝึกมาในกฎธรรมชาติธาตุลม  และเชี่ยวชาญเคล็ดความรู้ลึกลับหกอย่าง และนางมีโกเลมมัจจุราชอยู่กับตัวนาง  แม้ว่าความสามารถในการอยู่รอดของนางยังด้อยกว่าลินลี่ย์และบีบี นางก็ยังมีระดับความสามารถ
เพียงแต่ลินลี่ย์ยังกังวลอยู่ดี
 “ศัตรูถือว่าไม่ธรรมดามาก สามารถสร้างปราสาทแปลกประหลาด  นอกจากนี้เดเลียยังไม่ถึงระดับสูง”  ลินลี่ย์เคลื่อนที่ผ่านปราสาทด้วยความเร็วแต่ก็อย่างระมัดระวังหวังว่าจะวิ่งไปพบกับเดเลีย
แต่ทันใดนั้น..
 “หือ?”
ลินลี่ย์มาถึงเส้นทางเปิด จากนั้นหางตาของเขาเห็นบางคนลอยอยู่ในกลางอากาศ
 “ผู้เฒ่าเขาดำ?”  ลินลี่ย์จำเขาได้ทันที  ผู้เฒ่าเขาดำก็มองเห็นลินลี่ย์ได้ชัดเจนเช่นกันขณะที่เขามอง
แต่ในขณะนั้น สายลมเบาวูบหนึ่งก่อตัวขึ้นเปลี่ยนแปลงเป็นรูปชายชราชุดเขียว  ชายชราชุดเขียวยิ้มเต็มหน้า  เขาชำเลืองมองลินลี่ย์ไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย  “เทพแท้ก็ยังหนีมาถึงนี่ได้ด้วยหรือ”
สำหรับชายชราชุดเขียว เทพแท้เป็นพวกที่เขาสามารถฆ่าได้ทันที เนื่องจากสถานะและตำแหน่งที่สูงส่งของเขา  เขาไม่สนใจลินลี่ย์แม้แต่น้อย
 “เจ้าคือ...?”  ผู้เฒ่าเขาดำเห็นบุรุษชุดเขียวปรากฏตัวออกมาจากอากาศเบาบาง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที
ชายชราชุดเขียวมองดูชายชราเขาดำข้างหน้าเขาอย่างสงบ  “เจ้าช่างกล้าจริงๆ เพราะเจ้าและน้องของเจ้าหลบหนีไปกับสมบัติมหาศาลของตระกูลบอยด์ แต่...ข้าไม่คาดเลยว่าหลังจากผ่านไปนานหลายปี เจ้าทั้งสองยังจะกล้ากลับมาอีก ว่าไง? พวกเจ้าต้องการกลับไปทวีปเจดโฟลทหรือ?”
ชายชราเขาดำสีหน้าเปลี่ยน และจากนั้นเขาหัวเราะถอนหายใจ  “ปีนั้นพี่ใหญ่ข้าและข้าหนีออกจากทวีปเจดโฟลท  เราคิดว่าไม่มีใครปกป้องเราได้  ครั้งนี้เราเชิญอสูรมาช่วยเฝ้าระมัดระวังเป็นจำนวนมาก  แต่ข้าไม่คาดเลยว่าเจ้าจะมาด้วย!
ผู้เฒ่าชุดเขียวแค่นเสียงเหยียดหยาม
 “เจ้าต้องการได้รับสมบัติของตระกูลบอยด์หรือ? ฮ่าฮ่า....”
ผู้เฒ่าเขาดำเงยหน้าและหัวเราะลั่นทันที จากนั้นจ้องมองชายชราชุดเขียว  “ฝันไปเถอะ เพราะเราสองพี่น้องกล้าเดินทางในการเดินทางครั้งนี้ก็หมายความว่าเราเตรียมตัวของเราไว้เต็มที่แล้ว  ต่อให้เจ้าฆ่าเราสองพี่น้อง เจ้าจะไม่ได้รับสมบัติตระกูลบอยด์! เจ้า..ไม่มีทางได้รับมัน!
ชายชราชุดเขียวมีสีหน้าเครียดทันที
เขาติดตามศิษย์ของเขาอินนิโกมาจากทวีปเจดโฟลทข้ามทะเลสตาร์มิสท์สู่ทวีปเรดบุด ทั้งหมดนั้นทำเพื่อให้ได้สมบัติตระกูลบอยด์
 “ฮึ่ม...เมื่อข้าฆ่าเจ้า ข้าจะรู้เอง”  ชายชราชุดเขียวโบกมือเรียกกระบี่ยาวเล่มหนึ่งดูเหมือนไหมสีเงิน  นี่คือกระบี่อ่อนเล่มหนึ่ง  แต่เมื่อเทียบกับกระบี่เลือดม่วงของลินลี่ย์ ยังบางกว่าและสว่างกว่า
 “เตรียมตัวตาย”  ชายชราชุดเขียวมั่นสถานการณ์ของเขาจึงแจ้งให้ศัตรูทราบก่อนที่เขาจะฆ่า
ทันทีที่ผู้เฒ่าเขาดำเห็นปราสาทลม เขามีความเข้าใจว่าศัตรูของเขาแข็งแกร่งทรงพลังเพียงไหน
แม้ว่าเขาเองจะเป็นเทพชั้นสูง แต่เมื่อเทียบกับคนที่อยู่ข้างหน้าเขาแล้วแตกต่างกันอย่างมาก
 “เจ้าต้องการฆ่าข้างั้นหรือ? ข้าจะทำให้เจ้าต้องชดใช้ราคา”  ชายชราเขาดำทำใจแล้วว่าต้องตายที่นี่  เมื่อเขาตะโกนดาบหนักปรากฏอยู่ในมือของเขา ทันใดนั้นอากาศรอบดาบหนักสีดำบิดเป็นเกลียวทันที และแสงสีดำยิงออกมาไปทั่วทุกตำแหน่ง
ลินลี่ย์เมื่อเห็นเทพชั้นสูงทั้งกำลังจะสู้กันก็อดรู้สึกตกใจมิได้  “ข้าหนีดีกว่า  ถ้าเข้าพัวพันในการต่อสู้นี้ข้าคงจบกัน!  ลินลี่ย์ไม่ลังเลแม้แต่น้อยวิ่งไปที่ตำแหน่งทางเดินอื่นทันที
แม้ว่าเขาจะเคลื่อนไหวได้เร็ว
 “ปัง!
การปะทะกันครั้งแรกของเทพชั้นสูงทั้งสองคนทำให้ร่างของผู้เฒ่าเขาดำกระเด็นมาทางลินลี่ย์ด้วยความเร็วสูง
 “หือ?” ลินลี่ย์อดรู้สึกตะลึงไม่ได้  เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น เขามองดูร่างที่ปลิวเข้าหาเขา
แต่พอพลิกตัวชายชราเขาดำกำลังยืดตัว  เมื่อครู่นี้หนึ่งในร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของชายชราเขาดำถูกฆ่าไปแล้ว
 “เจ้าต้องการฆ่าข้าหรือ?”  ชายชราเขาดำตอนนี้รู้ตัวเต็มที่แล้วว่าพวกเขามีพลังต่างกันเพียงไหน  หนึ่งในร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของเขาเพิ่งถูกทำลาย  และตอนนี้เขาเหลืออยู่เพียงร่างเดียว  “ประมุขตระกูล, บ่าวไม่ได้ตั้งใจให้ท่านผิดหวัง เพียงแต่ในอนาคต บ่าวคงไม่สามารถทำงานให้คุณชายได้ต่อไป”
 “ปัง!
ดาบยาวของชายชราเขาดำแฝงไปด้วยพลังทำลายโลกเปลี่ยนเป็นเงาสีดำทำให้มิติบิดเบี้ยวและทิ้งไว้แต่เงาเลือนลาง
 “ฮ่าฮ่า... เจ้าก็แค่มีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ตายไปหนึ่งร่าง  ข้าอยากเห็นนักว่าเจ้ายังมีอะไรดีเหลืออีกสักเท่าไหร่”  ชายชราชุดเขียวหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและจากนั้นลินลี่ย์สังเกตได้ถึงร่องรอยประกายสีเงินงดงาม  ไม่ว่าประกายสีเงินฉายผ่านไปที่ใด มิติจะเริ่มเกิดรอยแยกเล็กๆ
ลินลี่ย์ตกตะลึง
 “รอยแตก?  รอยแยกมิติในแดนนรกนี่น่ะหรือ?”  ลินลี่ย์พบว่ายากจะเชื่อได้
 “บึ้ม!
ชายชราเขาดำเพียงแต่ป้องกันประกายแสงเงินได้สายเดียวเท่านั้น  ตลอดทั้งร่างของเขาถูกรังสีแสงสีเงินตัดผ่านหลายส่วน  ร่างของเขาถูกตัดเป็นชิ้นๆ ร่วงลงจากฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหวนมิติเก็บสมบัติในมือซ้ายของเขากำลังร่วงลงมา
ขณะนั้นเอง...
 “แหวนมิติเก็บสมบัติ?”  ลินลี่ย์มีความคิดหนึ่ง  เขาสามารถรวมรวบแหวนมิติเก็บสมบัติเป็นของเขาเอง
 “ข้าสามารถเก็บไว้ได้หรือไม่?”
แหวนมิติเก็บสมบัติของชายชราเขาดำมีสมบัติมากมายอยู่ภายใน  ลินลี่ย์แน่ใจเรื่องนี้  เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ว่าจ้างของเขา คนที่สามารถเชิญอสูรหกดาวได้ สมบัติโดยรวมของชายชราเขาดำนี้ต้องมีอยู่แน่นอน  เพียงแต่เขาจะเก็บมาได้หรือไม่?
ลินลี่ย์มองดูชายชราชุดเขียวในระยะไกล จากนั้นเขาหนีไปทันทีโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
 “ข้าคงไม่มีชีวิตรอดได้ใช้มันแน่”
ลินลี่ย์หนีไปด้วยความเร็วสูง ผ่านออกไปได้หลายพันเมตรอย่างรวดเร็วหายลับสายตาชายชราชุดเขียว เพียงแต่ทุกตำแหน่งภายในปราสาทนี้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของชายชราชุดเขียวนี้  เป็นธรรมดาที่เขาย่อมรู้ว่าลินลี่ย์หนีไปที่ใดกันแน่  ชายชราชุดเขียวหัวเราะเบาๆ  “เทพแท้ผู้นี้ไม่ยอมให้ความโลภครอบงำการตัดสินใจ”
ถ้าลินลี่ย์ขโมยแหวนมิติเก็บสมบัติ แม้ว่าชายชราชุดเขียวจะรังเกียจการฆ่าเทพแท้อย่างลินลี่ย์   แต่ชายชราชุดเขียวจะต้องจัดการเรื่องแหวนมิติเก็บของด้วยตนเอง  ถึงจุดนี้ลินลี่ย์จะไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย
 “เขามีอะไรอยู่ภายใน?”  ผู้เฒ่าชุดเขียวลงมายืนที่พื้น จากนั้นเก็บแหวนเก็บของภายในของเขาขณะที่ผูกสัญญาด้วยเลือด
หน้าของชายชราชุดเขียวเปลี่ยนไปมาก “หืม?  มีเพียงสามหมื่นล้านศิลาดำ เป็นไปได้ยังไง? น้อยขนาดนั้นเชียวหรือ?”  ชายชราชุดเขียวไม่อยากเชื่อ  “เป็นไปไม่ได้ สมบัติของตระกูลบอยด์สั่งสมมานานนับปีไม่ถ้วน  แม้แต่ส่วนเสี้ยวที่น้อยที่สุดก็ยังมากกว่านี้”
บางทีสำหรับลินลี่ย์หรือเทพชั้นสูง สามหมื่นล้านศิลาดำถือว่าเป็นสมบัติมหาศาล
แต่...
สำหรับชายชราชุดเขียวและยอดฝีมืออย่างนั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่าจำนวนนิดหน่อย  ถ้าเขาเทียบกับเงินสามหมื่นล้านศิลาดำนี้กับสมบัติตระกูลบอยด์ทั้งหมด นั่นแค่เท่ากับขนเส้นเดียวจากในร่างกาย  ต้องเข้าใจก่อนว่า..ภายในเมืองโรงแรมแห่งเดียวก็มีมูลค่าหมื่นล้านศิลาดำแล้ว
เป็นไปได้ยังไงที่สมบัติตระกูลบอยด์จะมีมูลค่าเทียบกับโรงแรมแห่งเดียว?
 “ไม่, ยังมีชายชราเขาสีขาวอีกคน”  ตาของชายชราชุดเขียวเป็นประกายเย็นชา  “สมบัติต้องอยู่ที่เขาแน่นอน”  แต่เมื่อเขารู้สึกถึงตำแหน่งของชายชราเขาสีขาว หน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที  “แย่แล้ว...อสูรผู้นั้นเข้ามาใกล้ชายชราเขาสีขาวแล้ว”
หน้าของแลร์มองต์เย็นชาและอำมหิต เขาควงดาบยาวและเดินผ่านปราสาทราวกับเดินเล่นในสวนดอกไม้ของตนเอง  เมื่อเขาเผชิญผนังทรายเมื่อใด  เขาจะเดินตรงผ่านเข้าไปทันทีโดยไม่สนใจผนังทรายข้างหน้าเขา
ดาบของเขาเป็นประกาย!
 “ครืนนน!
ผนังทรายเหลืองถูกทำลายโดยตรงทั้งหมด  แลร์มองต์เคลื่อนไหวเหมือนกับภาพลวงตาผ่านช่องว่างไปได้  ขณะที่ทรายผนังทรายเหลืองกลับคืนสภาพตามหลังทันที
 “หืม” แลร์มองต์มองด้านข้างอย่างเย็นชา
 “ควั่บ!” ดาบของเขาฟันใส่ผนังทรายที่อยู่ห่างไกลราวกับสายฟ้า  ทันใดนั้นมีเลือดฉีดพุ่งออกมาจากผนังทรายเหลือง และศพร่างหนึ่งร่วงลงมาจากผนังทราย  ตาของศพนั้นเบิกโพลงด้วยความตกใจ เหมือนกับว่าเขาไม่เชื่อว่าแลร์มองต์จะสังเกตเขาออก
แลร์มองค์ไปข้างหน้าต่อ
ไม่มีใครขัดขวางข้างหน้าเขาได้
 “ข้ารู้ว่าเจ้าได้ยินข้า”  แลร์มองต์พูดขณะเดิน  “เจ้าอาจจะออกมาได้เช่นกัน  เจ้าเชื่อหรือว่าข้าจะไม่สามารถทำลายมิติปราสาทของเจ้าได้?”
 “โครม..”
อีกดาบหนึ่งฟันใส่อุปสรรคกีดขวางข้างหน้าเขา และร่างของแลร์มองต์เอนอีกครั้งไปปรากฏอยู่ด้านตรงข้ามของทาง
 “อา. ท่านแลร์มองต์” ชายชราเขาขาวจ้องมองแลร์มองต์ยอย่างประหลาดใจและดีใจ ทั้งที่หน้าของเขายากจะมีรอยยิ้มให้เห็น
 “ข้าช้าไปก้าวหนึ่ง”  ชายชราชุดเขียวซ่อนตัวอยู่ห่างออกไปสองสามร้อยเมตรจากชายชราเขาขาวในห้อง  “คนผู้นี้ชื่อแลร์มองต์หรือ?  พลังโจมตีของเขาน่ากลัวจริงๆ  นี่แค่พลังโจมตีปกติของเขาก็ยังมีพลังขนาดนั้น  ถ้าเขาระเบิดพลังออกมาจริงๆ...”
ชายชราชุดเขียวมีประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดา  แน่นอนเขาสามารถบอกได้ว่าแลร์มองต์ยังมีไม้ตายโจมตีสูงสุด
กล่าวโดยทั่วไป ยอดฝีมือผู้ทรงพลังมากมายอย่างพวกเขาจะใช้ความสามารถโจมตีที่ดีที่สุดได้ซึ่งต้องสิ้นเปลืองพลังจิตและพลังเทพมาก  ดังนั้นเว้นแต่ช่วงเวลาวิกฤติมาถึง ยอดฝีมือชั้นสูงระดับนี้ไม่ต้องการใช้พลังโจมตีที่สูงสุด
 “เจ้าบัดซบนั่น”  ชายชราชุดเขียวตัดสินใจทันที  “ตอนนี้, ทั้งหมดที่ข้าทำได้คือหาเทพชั้นสูงให้มากขึ้นและให้พวกเขาโจมตีชายชราเขาขาว  ขณะที่ตัวข้าเองจะลงมือกับแลร์มองค์เองชั่วขณะ”
ชายชราชุดเขียวเข้าใจว่าไม่มีทางที่เทพชั้นสูงคนอื่นจะรับมือแลร์มองต์ได้
แต่การฆ่าบุรุษชราเขาขาว แค่ใช้เทพชั้นสูงสองสามคนร่วมมือกันลอบทำร้ายเขา  นั่นคือสิ่งที่จำเป็นต้องทำที่สุด
……………………… . .
ขณะที่การสู้รบดำเนินไปภายในปราสาททราย จำนวนเทพชั้นสูงลดลงมากทุกที
ซาโลมอนยืนอย่างสงบในกลางอากาศ
 “หวังว่านีซคงปลอดภัย” ใจของซาโลมอนยังคงห่วงใยน้องสาวของเขา
 “ควั่บ!
ทันใดนั้นจากจุดที่ใกล้กับผนังมีร่างสองร่างปรากฏพุ่งตรงเข้าหาซาโลมอน พร้อมกับปลดปล่อยพลังสะท้านมิติ
 “ฮึ่ม!” ซาโลมอนพลิกมือปล่อยรังสีดำมากมาย  ร่างทั้งสองส่งเสียงร้องโหยหวน  หนึ่งในนั้นกระแทกร่างกับพื้นไม่มีโอกาสขยับร่างอีกเลย  ขณะที่อีกร่างหนึ่งหนีหายเข้าไปในผนังทรายเหลือง
 “ต้องการจะฆ่าข้าหรือ?”  ซาโลมอนหัวเราะ
การสู้รบดำเนินต่อไป และอสูรล้มตายคนแล้วคนเล่า
 “นอกจากอสูรที่น่ากลัวแล้ว มีเทพชั้นสูงสี่คนที่ยากจะจัดการได้”  อินนิโกได้ยินรายงานจากบริวารของเขาและเริ่มขมวดคิ้ว  เขาไม่รู้ว่าสี่คนที่รับมือยากนี้มีอสูรระดับเทพชั้นสูงจะเป็นพี่น้องเอ็ดเวิร์ดและซาโลมอน!
ระดับดาวเดียวไม่จำเป็นต้องบ่งบอกถึงพลังของอสูร
ตัวอย่างเช่น อสูรผู้ทรงพลังอาจจะยังเป็นอสูรดาวเดียวที่เพิ่งจะสอบผ่านคัดเลือกอสูร  แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพลังของเขาจะอยู่ที่ระดับดาวเดียว
ซาโลมอนเป็นตัวอย่างที่ดี  มองอย่างผิวเผิน เขาเป็นเพียงอสูรสี่ดาว  แต่พลังที่แท้จริงของเขาเล่า?
อสูรทั้งหมดไม่สามารถตัดสินจากดาวเดียวของพวกเขาได้
 “ไม่จำเป็นต้องจัดการกับเทพชั้นสูงเหล่านั้น  ไม่มีผลประโยชน์กำไรจากพวกเขาเลย”  อินนิโกสั่ง เป้าหมายที่แท้จริงของเขาก็คือชายชราสองพี่น้อง  ไม่มีความจำเป็นต้องฆ่าอสูรเทพชั้นสูงทั้งหมด”  สำหรับตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องรวมกำลังกัน   โจมตีได้ตามเท่าที่พวกเจ้าพอใจ  จัดการกับอสูรระดับเทพแท้ให้หมด”
สำหรับเทพชั้นสูงฆ่าเทพแท้ ไม่จำเป็นที่พวกเขาจะต้องรวมกำลังกัน
 “ได้เลย คุณชาย!
เทพชั้นสูงหายเข้าไปในทรายเหลือง
ด้วยคำสั่งที่ได้รับนี้ อสูรระดับเทพแท้ในปราสาทตกอยู่ในอันตรายทันทีรวมทั้งลินลี่ย์ บีบี เดเลียและนีซ...
เริ่มเกิดวิกฤติ!
ลินลี่ย์เดินตรงผ่านทรายเหลืองอย่างระมัดระวัง  เขามองดูเหมือนนักรบโลหะ  ลินลี่ย์ใช้เกราะชีพจรป้องกันเพื่อปกป้องทุกส่วนของร่างกายเขา
 “ควั่บ” เงาดาบสายหนึ่งระเบิดพลังออกมาจากด้านข้างของลินลี่ย์!
ลินลี่ย์เพียงแต่รู้สึกเหมือนกับว่าเขากลายเป็นเรือน้อยที่เผชิญคลื่นลมรุนแรงในมหาสมุทรทันที

5 ความคิดเห็น:

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ ใช้การต่อสู้นี้เลื่อนสู้ระดับเทพแท้ได้สินะครับ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น