วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 701 ยกระดับสาวน้อยไตตัน


ตอนที่  701  ยกระดับสาวน้อยไตตัน
ปราสาทสายรุ้ง
เด็กสาวยักษ์แทบจะไม่เคยฝึกปรือฝีมือเลย  เวลาส่วนใหญ่นางจะนอนหลับกรนสนั่นหวั่นไหวทั้งวัน  ในขณะที่นางลุกขึ้นและยืดเส้นยืดสายเป็นครั้งคราว  ถ้าจะให้นางฝึกฝนหนักทุกวัน  อย่างนั้นก็คงจะไม่มีที่ให้นางทำเช่นนี้ เพราะแม้แต่ภูเขาคงจะพังทลายราพณาสูรเป็นแน่  นอกจากนี้ถ้าว่ากันตรงๆ แล้วแม้ว่านางเป็นยักษ์ที่มีส่วนสูงถึงสองร้อยเมตรก็จริง  ทว่านางยังเป็นเด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม  ความคิดและบุคลิกนิสัยของนางเป็นผู้ใหญ่กว่าหนูน้อยซวงเอ๋อเพียงเล็กน้อย    นางเป็นผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้ตามธรรมชาติเท่านั้น

ในการต่อสู้ร่วมกับเย่ว์หยาง  นางมักจะอยู่ในชั้นนักสู้ปราณฟ้าระดับสามไม่เคยเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
แต่ในความเป็นจริงก็มีการเลื่อนระดับสองสามครั้งแล้ว
ไม่ใช่เป็นการเลื่อนของพลังของนางแต่เป็นที่เกราะไตตันที่เข้ากับร่างของนางได้ดีขึ้น หรือไม่ก็ความเข้าใจในทักษะการต่อสู้ของนางทำได้ดีขึ้น
ความก้าวหน้าของนางเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เย่ว์หยางเห็นว่านางยังห่างจากชั้นปราณฟ้าระดับสี่เล็กน้อยจึงตัดสินใจช่วยให้นางเลื่อนระดับเร็วขึ้น  เพื่อให้พลังการสู้รบอีกครึ่งเดือนข้างหน้าเพิ่มทะยาน
การช่วยเด็กสาวยักษ์ให้ก้าวหน้าไม่ใช่เรื่องง่าย  ใช้เวลาถ่ายเทโคจรพลังปราณก่อกำเนิดในร่างนางประมาณหนึ่งสัปดาห์
ร่างของไตตันโบราณใหญ่โตมากเกินไป  ไม่ใช่เพียงแค่นั้นเด็กสาวยักษ์ยังสืบสายเลือดราชวงศ์ไตตันโบราณ  ร่างของนางจึงมีขนาดใหญ่กว่าธรรมดา  อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางยังมีวิธี  เขาเรียกสาวกิเลนปิงหยินออกมาจากการอาบเพลิงอมฤตให้นางใช้เวทบางอย่างที่เย่ว์หยางเรียกชื่อไม่ถูกเพื่อย่อร่างเด็กสาวยักษ์ลงสิบเท่ากลายเป็นยักษ์สูงยี่สิบเมตร
 “ลำบากจริงๆ กว่าข้าจะหลับได้แต่ละที  แต่ข้าก็ยังโดนปลุกมาช่วยทำงานให้เจ้า  ข้าดวงไม่ดีเลยจริงๆ!  สาวกิเลนอ้าปากหาวอย่างน่ารักขณะที่นางย่อร่างเด็กสาวยักษ์เพื่อให้เย่ว์หยางเริ่มงานต่อ
 “เจ้าทำให้ข้าตัวใหญ่ขึ้นได้ไหม?  ขอสักหนึ่งกิโลเมตรได้ไหม?”  เด็กสาวยักษ์กระพริบตาปริบๆ ถาม
 “ตามทฤษฎีข้าทำได้”  สาวกิเลนระบุว่ามีความเป็นไปได้
 “ดีจริง, ไว้ข้าหาภูเขาเจอสักลูก เจ้าค่อยทำให้ข้าโตกว่าภูเขาก็แล้วกัน”  เมื่อได้ยินเช่นนี้ เด็กสาวยักษ์มีความสุขมาก
 “หือ? ทำไมล่ะ?”  สาวกิเลนและเย่ว์หยางสงสัย
 “แม่บอกว่าถ้าข้าสูงกว่าภูเขา  จึงจะถือว่าข้าโตเป็นผู้ใหญ่จริงๆ ต่อให้ข้ายังไม่โต ข้าก็ต้องการรู้จริงๆ ว่าข้าจะดูเหมือนอะไรเมื่อตอนที่ข้าสูงกว่าภูเขาในอนาคต”  ถ้าเผ่าพันธุ์คนแคระได้ยินคำพูดของนางคงได้ร้องไห้น้ำตาท่วมทั้งเผ่าเป็นแน่  เมื่อเย่ว์หยางและสาวกิเลนได้ยินเช่นนี้ต่างพูดไม่ออก  สูงสองร้อยเมตรยังไม่พออีกหรือนี่?  เป็นไปได้ไหมว่าราชวงศ์ไตตันโบราณจะสูงถึงหนึ่งกิโลเมตร?
เย่ว์หยางสิ้นเปลืองพลังปราณก่อกำเนิดไปกับการเปิดเส้นชีพจรให้เด็กสาวยักษ์
นอกจากนั้นยังเชื่อมเส้นชีพจรให้ทั้งหมด
ตามเงื่อนไขธรรมดา เส้นชีพจรเกลียวแบบใหม่จะถูกสร้างขึ้น
ในร่างของไตตันโบราณ มีเส้นชีพจรพิเศษไหลเวียนซ่อนอยู่อย่างเลือนราง แต่ไม่มีการเชื่อมถึงกัน ไม่มีรูปลักษณ์แท้จริง  เย่ว์หยางสร้างขึ้นในร่างของเด็กสาวยักษ์อย่างกล้าหาญและแม่แบบที่ทำอย่างนี้ได้ก็คือโคเงาอาหมัน และร่างของอีกฝ่ายหนึ่งนั้นเย่ว์หยางช่วยให้เปลี่ยนแปลงได้ครั้งแล้วครั้งเล่าได้  อย่างไรก็ตามเด็กสาวยักษ์มีความแข็งแกร่งมากพอ  ดังนั้นไม่ว่าเขาทำอะไรก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับนาง
ความจริงเป็นเรื่องง่ายกับการช่วยให้ไตตันโบราณเปิดเส้นชีพจร ยังง่ายกว่ามนุษย์เสียอีก
เพียงแต่ส่วนที่ยากก็คือเขาสิ้นเปลืองพลังปราณก่อกำเนิดไปมาก  เย่ว์หยางต้องดื่มน้ำทิพย์ถึงสิบครั้งเพื่อทำโครงการยักษ์ (จริงๆ) ครั้งนี้ให้สำเร็จ
 “วันนี้เราจะหยุดไว้เท่านี้ก่อน  ต่อไปเราจะโคจรย้อนกลับ!  เย่ว์หยางรู้สึกเหนื่อยจริงๆ ไม่อย่างนั้นเขาจะลองพยายามดูว่าจะมีผลอย่างไรถ้าโคจรพลังย้อนกลับเชื่อมกับร่างของไตตันโบราณ  หลังจากถ่ายเทพลังปราณก่อกำเนิดผ่านเส้นชีพจรของนางแล้ว เย่ว์หยางจะใช้เพลิงอมฤตชำระปรับเปลี่ยนร่างนาง  สาวกิเลนปิงหยินใช้วิชาย่อร่างอมตะของนางช่วยแล้วก็ยังทำให้เหน็ดเหนื่อยมากมาย ทันทีที่นางเห็นว่าเย่ว์หยางสามารถหยุดได้  นางรีบเผ่นไปพักโดยเร็ว
 “พี่ใหญ่เหนื่อยมากหรือเปล่า?”  แม้ว่าเด็กสาวยักษ์จะดีใจที่ตัวนางมีความก้าวหน้า  แต่นางก็ต้องกล่าวคำขอโทษ  “พี่ใหญ่! ทำไมท่านไม่พักสักหน่อยเล่า ถ้าไม่สำคัญนักก็พักสักสองสามวันก็ได้!
 “ไม่เป็นไร” เย่ว์หยางรู้ว่านี่เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้น
เขาเรียกหงส์เพลิงอมฤตออกมาและส่งเข้าไปในร่างของเด็กสาวยักษ์
จากภายนอกเข้าไปภายใน และจากภายในออกมาด้านนอก
การชำระร่างซ้ำแล้วซ้ำเล่านี้ทำให้เด็กสาวยักษ์ได้รับการชำระเอ็นไขกระดูกเส้นชีพจร ทำให้นางตกอยู่ในอาการเจ็บปวดก่อนที่จะมีความรู้สึกเกิดใหม่อีกครั้ง
เมื่อลี่เยี่ยนเห็นเด็กสาวยักษ์กัดฟันเจ็บปวดนางอดรู้สึกประทับใจไม่ได้  ทั้งนี้เป็นเพราะก่อนหน้านี้ เย่ว์หยางก็ใช้เพลิงอมฤตชำระร่างให้นาง  นอกจากนี้ความรู้สึกในการชำระร่างคราวนั้นยังด้อยกว่าเมื่อหงส์เพลิงอมฤตเคลื่อนไหวต่อเนื่องผ่านร่างกายแผดเผาจากภายในและภายนอก... สำหรับเด็กสาวยักษ์สามารถทนได้ แต่ลี่เยี่ยนไม่กล้าพูดว่านางจะสามารถทนได้  แม้ว่านางจะตกทอดสายเลือดมังกรโบราณแต่นางไม่อาจเทียบได้กับสายเลือดเชื้อพระวงศ์ไตตันโบราณได้
ในที่สุดเด็กสาวยักษ์อดงอตัวไม่ได้
แต่นางต้องอดทน นางไม่ต้องการล้มลงกับพื้น
นางจิกมือกับพื้น
และมุ่งมั่น
หงส์เพลิงอมฤตทะยานขึ้นไปในท้องฟ้าและจากนั้นบินโฉบลง มันทะลุเข้าไปในร่างของนางและสร้างลำแสงเพลิงอมฤตลุกโชติช่วงในท้องฟ้า
เด็กสาวยักษ์ที่ถูกอาบไปด้วยเพลิงอมฤตลุกขึ้นยืนและคำรามใส่ท้องฟ้า  หลังจากนั้นเป็นเวลานาน ตลอดทั้งร่างของนางเปล่งแสงสีทองราวกับเทพจุติมายังโลกมนุษย์ ถ้าไม่ใช่เพราะเย่ว์หยางควบคุมเวลาและพลังจิตไว้  ปราสาทสายรุ้งคงพังทลายเป็นเสี่ยงทันทีเมื่อนางยกระดับ
 “น่าอัศจรรย์จริง” หลังจากออกมาจากสมรภูมิโบราณ พวกสาวองครักษ์ที่ใช้ชีวิตอยู่กับเด็กสาวยักษ์ทุกคนยืนสังเกตอยู่ด้านหลังเย่ว์หยาง  หญิงงามเผ่ามนุษย์สุนัขปรบมือร่าเริง
 “เจ้าอยากจะลองดูบ้างไหม?”  เย่ว์หยางจงใจหยอกล้อนาง
 “ไม่ดีกว่า, เรามีระบบรักษาร่างกายอยู่แล้ว  ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องกลายเป็นผู้ทรงพลัง”  หญิงสาวเผ่ามนุษย์สุนัขกระดิกหางเบาๆ และยื่นมือน้อยๆ มาทางเย่ว์หยาง  “ท่านจะไม่ให้สมบัติรางวัลกับข้าบ้างหรือ?”
 “ถ้าเจ้าไม่พูด ข้าก็ลืมไปแล้ว”  เย่ว์หยางโยนแว่นชนิดข้างเดียวให้นาง
 “นี่มันสมบัติอะไร?” หญิงสาวเผ่าสุนัขถามอย่างมีความสุข
 “นี่เป็นสมบัติที่ทรงพลังอำนาจมาก ชื่อเต็มก็คือแว่นตาสุนัขไร้ใจ และถ้าเจ้าสวมใส่ มันจะปกป้องตาของเจ้าจากทุกสิ่งทุกอย่าง  นี่เป็นสมบัติที่ทรงพลานุภาพมาก เจ้าจะไม่สามารถหาได้จากที่ไหน ระวังด้วยเล่า!  เจ้าเป็นคนเดียวในโลกที่ได้สมบัติที่ไม่เหมือนใครนี้”  เย่ว์หยางตอบเป็นจริงเป็นจัง
 “....” กลุ่มนักรบองครักษ์สาวที่เพิ่งหลุดพ้นจากคำสาป ไม่เคยกลับไปยังสมรภูมิโบราณอีกเลย เมื่อได้ฟังเช่นนี้ก็แทบจะลมจับ
 “นี่มันของดีจริงๆ เหรอ?”  สาวงามเผ่ามนุษย์สุนัขรู้สึกว่าเป็นของที่ไม่มีประโยชน์  แต่นางไม่อาจตัดใจโยนทิ้งได้  สมบัติที่ไม่เหมือนใครคือสิ่งที่นางตัดใจปฏิเสธไม่ได้
 “แน่นอน นี่เป็นสมบัติร้อยเปอร์เซนต์!  เย่ว์หยางเรียนรู้เคล็ดลับในการสร้างหุ่นรบสามารถสร้างของที่น่าเบื่ออย่างนั้นได้
 “โอว...”  เมื่อเห็นการกระทำของเย่ว์หยางที่ชอบหลอกล่อเด็ก ลี่เยี่ยนยกมือทำท่าปาดเหงื่อโดยไม่รู้จะพูดยังไง
อาการอย่างนี้ได้รับอิทธิพลมาจากเย่ว์หยาง
ถ้าเป็นในอดีตที่ผ่านมา นางคงไม่มีทางทำตัวเองอย่างนั้น
เพียงคนเดียวที่เคารพเชื่อฟังเย่ว์หยางจับใจก็คือแพนด้าน้อยหนิวหนิว
เด็กสาวยักษ์ผู้เลื่อนระดับเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสี่ได้สำเร็จรอให้เพลิงอมฤตเปลี่ยนเป็นหงส์เพลิงและกลับเข้าไปในร่างของเย่ว์หยางก่อนจะหัวเราะร่าอย่างมีความสุข
หลังจากมีความสุขชั่วขณะแล้ว นางก้มลงและขอเย่ว์หยางออกไปสู้ “พี่ใหญ่!  ตั้งแต่ท่านบอกว่าจะออกไปทุบตีเจ้าบัดซบนั่น  ข้าจะไปโค่นเอาชนะเขาเอง  ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าพลังของข้าแทบจะระเบิดอยู่ในร่างข้าแล้ว  ข้าไม่กลัวศัตรูหน้าไหนต่อไปอีกแล้ว  ฮ่าฮ่า วิธีการของพี่ใหญ่ยอดเยี่ยมที่สุด  ตอนนี้หาศัตรูมาให้ข้าสู้เร็วๆ  ยิ่งแข็งแกร่งก็ยิ่งดี!”
เย่ว์หยางเหงื่อไหงพรั่งพรู
โชคดีที่ลี่เยี่ยนร่วมมือกับเย่ว์หยางช่วยกันแก้ไขปัญหาที่ยากลำบากนี้
เพื่อป้องกันไม่ให้ปราสาทสายรุ้งถูกทำลายจากการต่อสู้ของพวกนาง  เย่ว์หยางจะพาพวกนางไปที่เมืองลมดำ แดนสวรรค์ใต้
การสู้รบครั้งนี้จะทำให้เกิดหายนะใหญ่กับเมืองลมดำ แดนสวรรค์ใต้
แม้แต่มารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกร และคนอื่นก็ยังตะลึงเมื่อทราบข่าว  แค่ไตตันโบราณปราณฟ้าระดับสี่ และสาวยักษ์ลี่เยี่ยนปราณฟ้าระดับห้าเมื่อพวกนางสู้กันจะรุนแรงขนาดไหน?  คำว่าโลกแตกคงจะใช้อธิบายได้ไม่พอ  หลังจากพวกนางระเบิดพลังรุนแรง  การปะทะของพวกนางแต่ละครั้ง  สร้างแรงระเบิดรุนแรงน่ากลัวอย่างคาดไม่ถึง  ก่อนหน้านี้ที่สุสานรอบนอกแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ ยังไม่ได้ใช้พลังจริงจังอะไรนัก  ในพื้นที่ว่างแดนสวรรค์ใต้  ทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น พื้นที่หลายสิบกิโลเมตรถูกกวาดพังทลาย
แรงระเบิดเหมือนกับพายุหมุนรุนแรงกวาดเอาต้นไม้ในระยะสามสิบกิโลเมตรหายไปหมด
ภายในพื้นที่ใจกลางสิบกิโลเมตรไม่ว่าจะเป็นภูเขา เนินเขา โขดหิน ต้นไม้ทุกอย่างแหลกกระจายเป็นชิ้น
หลังจากการปะทะกันเกิดเป็นหลุมคล้ายหลุมอุกกาบาต  แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นรุนแรงสร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคนทำให้ดินและฝุ่นฟุ้งกระจายขึ้นคลุมไปทั้งท้องฟ้า
เจ้าเมืองลมดำ ไป๋ซ่งและปีศาจเฒ่าเว่ยที่กำลังประชุมลับในเมืองลมดำมีสีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเมื่อพวกเขารู้สึกได้ถึงการต่อสู้นี้  พวกเขาสันนิษฐานว่ายอดฝีมือจากสำนักทงเทียน สำนักมังกรทะยานและวังมารมาถึงแล้วและกำลังทำสงครามกับนักสู้ปราณฟ้าที่ไม่รู้จัก  การปะทะกันโดยตรงอย่างนี้ ไม่ใช่เรื่องที่นักสู้ปราณฟ้าธรรมดาจะทำได้
แม้แต่ปีศาจเฒ่าเว่ยที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับห้าก็ยังไม่มั่นใจ
เขาไม่ใช่นักสู้ปราณฟ้าแบบนั้น  ถ้าเขาถูกพลังแบบนั้นโจมตี เขาคงพ่ายแพ้ไปนานแล้ว
การต่อสู้ดำเนินไปต่อเนื่องสามชั่วโมงโดยไม่มีการพัก....  เจ้าเมืองลมดำ ไป๋ซ่ง ปีศาจเฒ่าเว่ยและคนอื่นต่างกระวนกระวาย  แน่นอน, พวกเขาไม่รู้ว่าการต่อสู้ระหว่างลี่เยี่ยนกับเด็กสาวยักษ์จบลงแล้ว เพียงแต่สลับให้อาหมันลงสู้แทน
ถ้าไม่มีเงายักษ์ช่วยลี่เยี่ยนคงไม่สามารถปะทะโดยตรงกับเด็กสาวยักษ์ได้
อาหมันมีพลังของไตตันและหัวใจธรณีสาร  นางคือเทพธิดาศึกผู้ไม่รู้จักเหนื่อย  ในฐานะคู่ซ้อมของเด็กสาวไตตัน อาหมันมีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด
ดังนั้นการสู้รบที่ทำให้เจ้าเมืองลมดำและคนอื่นตื่นตัวอย่างต่อเนื่องตลอดหนึ่งวันหนึ่งคืน  เมื่อการต่อสู้อย่างเป็นทางการจบลงเด็กสาวยักษ์ก็หมดแรงพอดี
พอรอให้เย่ว์หยางและคนอื่นๆ จากไป
เจ้าเมืองลมดำ ไป๋ซ่งและปีศาจเฒ่าเว่ยมาสังเกตดูสนามต่อสู้ทันที
ทันทีที่พวกเขาเห็นเช่นนี้ สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไป  แม้ว่าพวกเขาจะเตรียมตัวเตรียมใจอยู่ก่อนแล้ว  แต่พวกเขาไม่เคยคิดว่าพลังในการต่อสู้ครั้งนี้จะสยดสยองอย่างนี้  เจ้าเมืองลมดำคิดว่าถ้าเจ้าแคว้นมรกตออกหน้า หลายๆ อย่างคงจะดีขึ้น  แต่ตอนนี้พอเขาเห็นสภาพหักพังหลังจากต่อสู้ หัวใจของเขาพลันเย็นเฉียบ
 “เอื๊อก!” หน้าของปีศาจเฒ่าเว่ยซีดเซียวขณะเขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
เพราะเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าตัวเองเล็กกระจ้อยร่อยและอ่อนแอ

14 ความคิดเห็น:

natthapol.nondang@gmail.com กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

mr_ake_oou กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

สุดยอดเลยพี่

ແກ້ວແມືວງປຮາສາທ กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

กลัวละซิ 555

Mosss7yup กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆครับ

สายลมโชย กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

แสดงความคิดเห็น