เล่ม 16 ทะเลสตาร์มิสท์ – ตอนที่ 10 แกนมอร์ติน
ในเวลาที่กลุ่มของลินลี่ย์เข้าไปในอสูรโลหะและมุ่งหน้าแล่นตามทะเลสตาร์มิสท์ ไดมอนหัวหน้าสองของเกาะไนฟ์เบลดเดินทางด้วยตัวเองดำลึกลงไปที่ก้นทะเลสตาร์มิสท์และมาถึงหุบเขาที่ไร้ชื่อแห่งหนึ่ง
“ฮึ่ม.. ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าพี่ใหญ่ข้าตาย
ขณะที่ข้าเองก็ไม่รู้ว่าใต้เท้าแม่ทัพอยู่ที่ใดกันแน่ เจ้าจะยอมแบ่งส่วนแบ่งนี้ได้ยังไง!”
ขณะจ้องเข้าไปในหุบเขา ไดมอนรู้สึกเกลียดในใจ
และจากนั้นไดมอนเปลี่ยนเป็นเงาผ่านเข้าไปในหุบเขาไร้ชื่อได้อย่างง่ายดาย ภายในหุบเขา
มีต้นไม้และสิ่งมีชีวิตประหลาดอยู่ด้านล่างซึ่งมีสีสดใส
บางครั้งก็มีอสูรเวททะเลสองสามตัวโผล่ออกมาที่ก้นสมุทร แต่ไดมอนไม่ได้สนใจพวกมันแม้แต่น้อย
ครู่ต่อมา..
ไดมอนมาถึงประตูสิ่งก่อสร้างใต้ทะเล
ตั้งอยู่ลึกเข้าไปภายในหุบเขา มียามสองคนเฝ้าสองข้างประตู
“หยุด!” หนึ่งในยามเฝ้าประตูตะคอกใส่ทันที
ไดมอนหัวเราะอย่างใจเย็น
“อะไรกัน พวกเจ้าจำข้าไม่ได้หรือ?”
ขณะพูดไดมอนเคลื่อนเข้าไปใกล้ ตอนนี้ยามที่เฝ้าประตูจึงหัวเราะออก หนึ่งในนั้นพูด “เป็นหัวหน้าสองแห่งเกาะไนฟ์เบลดนี่เอง” แม้ว่าพวกเขาจะพูดด้วยอาการอย่างนั้นก็ตาม
แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ให้ความสำคัญไดมอนมากนัก
แม้ว่าพลังของพวกเขาจะไม่ยิ่งใหญ่
แต่เจ้านายของพวกเขามีพลังเหลือเฟือ
“ช่วยไปรายงานเจ้านายของพวกเจ้า ข้าต้องการพบเขา นี่เป็นเรื่องสำคัญ!” ไดมอนพูดจริงจัง
ทหารเฝ้าประตูทั้งสองคนมองหน้ากันเอง
“ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องสำคัญจริงๆ
เจ้าสามารถเข้าไปรายงานได้”
ทหารยามอีกคนกล่าว
“เจ้ารออยู่ที่นี่ก่อน
ข้าจะเข้าไปรายงานเรื่องนี้กับนายท่านของเรา” ขณะที่เขาพูด
เขาเข้าไปในอาคาร
หลังจากผ่านไปนาน
ทหารยามผู้นั้นเดินออกมา
“ท่านไดมอน, นายของข้าขอเชิญท่าน
โปรดตามข้ามา!”
ไดมอนเดินกร่างเข้าไป
“ก็แค่เป็นเพราะท่านแข็งแกร่งกว่าข้านะ!”
สิ่งก่อสร้างที่นี่มีขนาดใหญ่โต และตกแต่งหรูหราอย่างดี ขณะต่อมาไดมอนมาถึงภายในหอโถงใหญ่ ทั่วทั้งหอโถงใหญ่รายล้อมไปด้วยประติมากรรม
และภาพจิตรกรรมทุกอย่างซึ่งดูเหมือนจะบอกเรื่องราวเก่าแก่ได้ ในใจไดมอนเองก็รู้ “ฮึ่ม.. เหล่านี้คือเรื่องราวโอ้อวดตัวเองทั้งสิ้น
แกนมอร์ติน
แล้วยังไงถ้าเขาผ่านสงครามขุมนรกมาได้
ถึงได้หยิ่งขนาดนั้น!”
แม้ว่าเขาจะพูดเรื่องนี้ในใจ แต่เป็นเพราะไดมอนอิจฉา
“ไดมอน!
พี่ใหญ่ของเจ้าอยู่ไหน?”
เสียงเยือกเย็นดังขึ้นข้างหน้าเขา
บนบัลลังก์ข้างหน้าหอโถงใหญ่
นั่งไว้ด้วยบุรุษผมเขียวหน้าผากปกคลุมด้วยเกล็ดปลา เขาอยู่ในชุดเขียวลายทอง ตาของบุรุษผมเขียวเป็นประกายสีเขียว
ริมฝีปากของเขาสีม่วง
ตัวของเขาเองเปล่งกลิ่นอายชั่วร้าย
“เขาตายแล้ว!” ไดมอนพูดด้วยความเสียใจ
“แอ็กเก็ตตายแล้ว?”
บุรุษผมเขียวตกใจลุกขึ้นยืนทันที
จากนั้นรีบถาม “นั่นเป็นไปได้ยังไง?
พี่ใหญ่ของเจ้าเป็นอสูรหกดาวที่ฝึกมาทางกฎธาตุน้ำ พลังป้องกันของเขาสูงที่สุดในกลุ่มของเรา ใครจะสามารถทำลายพลังป้องกันของเขาได้?”
“เป็นคนผมดำชื่อว่าโรมิโอ บอร์นเซน!” แค่เพียงพูดชื่อนี้ก็ทำให้ไดมอนรู้สึกกลัว
วันนั้นร่างของบุรุษผมดำเปลี่ยนไปเป็นสายฟ้าในท้องฟ้าทำให้มองดูคล้ายกับพายุหมอกทะเล และจากนั้นใช้ดาบฟันเพียงครั้งเดียว
เขาฆ่าพี่ใหญ่ของไดมอนได้
“โรมิโอ บอร์นเซน?”
บุรุษผมเขียวที่นั่งบนบัลลังก์ขมวดคิ้ว
“เป็นไปได้ยังไง
ข้าไม่เคยได้ยินชื่อผู้นี้? เขาฝึกมาทางสายธาตุใด?”
“เขาฝึกในกฎสายฟ้า”
ไดมอนกล่าว
“คนผู้นี้มายังเกาะไนฟ์เบลดของเรา
จากนั้นกลายร่างเป็นสายฟ้านับไม่ถ้วนและสร้างพลังที่คล้ายกับพายุหมอกทะเล
เกิดพลังวังวนสายฟ้าขนาดใหญ่เหนือเกาะไนฟ์เบลดของเรา มันน่ากลัวเหลือเกิน!”
“มียอดฝีมือแบบนั้นจริงๆ”
บุรุษผมเขียวขมวดคิ้ว
“ดูเหมือนข้าต้องรายงานเรื่องนี้ให้กับท่านแม่ทัพเสียแล้ว!”
และจากนั้นบุรุษผมเขียวมองดูไดมอนอีกครั้ง “ไดมอน! เป็นไปได้หรือที่เจ้ามาบอกข้าแค่เรื่องนี้?” บุรุษผมเขียวตัดสินเรื่องราวในใจได้ทันที เขาไม่สามารถเป็นศัตรูกับโรมิโอ
บอร์นเซนผู้นี้ได้ คนที่มีความสามารถฆ่าแอ็กเก็ตในท่าเดียวได้
น่ากลัวเกินไป
“ท่านแกนมอร์ติน!”
หน้าของไดมอนมีรอยยิ้มปรากฏ “ข้าเอาข่าวดีมาแจ้งท่าน”
“พูดไป” แกนมอร์ตินกล่าว
“แม้ว่าข้าไม่เคยพบกับท่านแม่ทัพ แต่ข้าได้ยินจากพี่ใหญ่ข้าพูดว่าท่านแม่ทัพกำลังรวบรวมอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่มีทักษะธรรมชาติที่ทรงพลัง
หรือคนที่มีวิญญาณกลายพันธุ์”
ไดมอนยิ้มขณะกล่าว
“ถูกแล้ว มีเรื่องเช่นนั้น” แกนมอร์ตินพูดอย่างสงบ
“ครั้งนี้แม้ว่าเกาะไนฟ์เบลดจะถูกโจมตี ขณะที่ข้าหนีอยู่ในทะเลสตาร์มิสท์
ข้าได้พบกับคนที่มีพรสวรรค์วิญญาณกลายพันธุ์ได้จริงๆ!” ไดมอนรีบกล่าว “เขาคืออัจฉริยะวิญญาณกลายพันธุ์แน่นอน เข้าเห็นเขาผสานพลังเทพสายธาตุมืดและพลังเทพสายแสงสว่าง!”
“อะไรนะ!”
แกนมอร์ตินตกใจลุกขึ้นยืน
วิญญาณกลายพันธุ์หาได้ยากจริงๆ
นอกจากนี้อัจฉริยะอย่างนั้นจะเป็นคนน่ากลัวในอนาคต!
ตัวอย่างเช่นยอดฝีมือคนหนึ่งที่มีวิญญาณกลายพันธุ์
เมื่อถึงระดับเทพชั้นสูง
แค่ความจริงที่ว่าเขาหลอมรวมพลังเทพที่แตกต่างกันสองอย่างได้
ก็ทำให้พลังโจมตีของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า! เมื่อคนผู้หนึ่งใช้พลังเทพที่หลอมรวมกันนั้นได้
แม้ว่าจะใช้เคล็ดลึกลับเพียงอย่างเดียว แต่พลังจะเป็นสิบเท่าของเทพธรรมดา!
และนอกจากนี้..
เฉพาะเพียงพวกวิญญาณกลายพันธุ์สามารถหลอมรวมเคล็ดลึกลับสองเคล็ดที่ต่างสายธาตุกันได้
ตัวอย่างเช่นแลร์มองต์ผู้ที่ต่อมาผสานเคล็ดความรู้ลึกลับธาตุไฟและวิถีมรณะเข้าด้วยกันได้
เมื่อเคล็ดลึกลับซึ่งต่างสายธาตุกันหลอมรวมกันได้ พลังจะเพิ่มทวีคูณยิ่งกว่าเมื่อตอนหลอมรวมเคล็ดลึกลับในสายธาตุเดียวกัน
ตัวอย่างเช่นถ้าเคล็ดชีพจรโลกของลินลี่ย์สามารถหลอมรวมได้กับเคล็ดพลังมิติโจมตีของสายธาตุลม
อย่างนั้นพลังก็จะเทียบได้กับการหลอมรวมสามเคล็ดในธาตุเดียวกัน!
ถ้าเขาหลอมรวมพลังเทพได้เมื่อใช้โจมตี
พลังจะเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าอีกครั้ง
วิญญาณกลายพันธุ์ต้องหลอมรวมเคล็ดลึกลับต่างสายธาตุเข้าด้วยกัน
พลังของเขาที่เพิ่มขึ้นจะเทียบได้กับพลังของอสูรเจ็ดดาว
อย่างไรก็ตามเทพชั้นสูงธรรมดาจะต้องหลอมรวมสี่เคล็ดลึกลับจึงจะถึงระดับอสูรเจ็ดดาวได้!
“เขาอยู่ที่ไหน?” แกนมอร์ตินรีบถาม
ไดมอนพูดอย่างจนใจ
“ข้าไม่มีความสามารถนำเขามาที่นี่”
หน้าของแกนมอร์ตินเปลี่ยนไปทันที และเขาแค่นเสียง
“แม้แต่เจ้าที่เป็นอสูรห้าดาวยังไม่สามารถนำเขามาได้อีกหรือ
ดูเหมือนว่าเจ้าคนวิญญาณกลายพันธุ์ผู้นี้จะถึงระดับเทพชั้นสูงไปแล้ว ข้าคาดว่าเขาคงหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้เช่นกัน...
อะไร... เจ้าต้องการให้ข้าไปตายหรือ?”
แกนมอร์ตินรู้ขีดจำกัดของตัวเองดี เนื่องจากเขาเป็นอสูรระดับหกดาว
แม้ว่าเขาจะเชี่ยวชาญในพลังโจมตี แต่กับนักสู้วิญญาณกลายพันธุ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิญญาณกลายพันธุ์ที่มีระดับพลังสูงกว่าเขา เขาไม่มั่นใจ
พวกวิญญาณกลายพันธุ์มีพลังมากมายมหาศาล
พลังเทพสองสายธาตุที่แตกต่าง
เมื่อหลอมรวมกันจะทำให้พลังแม้จะเป็นเคล็ดลึกลับธรรมดาเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า!
ถ้าพวกเขาสามารถหลอมรวมเคล็ดลึกลับต่างกันได้สามเคล็ด
พลังจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า! ถ้าพวกเขาสามารถหลอมรวมได้สี่เคล็ด...
พลังก็ยังจะทับทวีขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม ยิ่งนักสู้ฝึกในพลังเทพมากรูปแบบ
มีโอกาสต่ำที่เขาจะกลายเป็นวิญญาณกลายพันธุ์
ตัวอย่างเช่น คนผู้หนึ่งใช้พลังเทพได้สามสายธาตุ แม้ว่าเขาต้องการให้เกิดวิญญาณกลายพันธุ์ แต่มีความเสี่ยงที่จะตายในระหว่างดำเนินการเกือบ
100% ในประวัติศาสตร์ทั้งหมดของแดนนรก
มีคนที่เป็นพวกวิญญาณกลายพันธุ์อยู่น้อยมาก
แทบจะทั้งหมดประสบความสำเร็จในการหลอมรวมพลังเทพสองสายธาตุกลายเป็นวิญญาณกลายพันธุ์ ตัวอย่างเช่น
เมื่อวิญญาณของโอลิเวอร์กลายพันธุ์
เขาอยู่ในสภาวะเป็นตายเท่ากันนานหลายเดือน
ในช่วงประวัติศาสตร์นับไม่ถ้วนของแดนนรก มีเพียงคนเดียวที่หลอมรวมพลังเทพสามสายธาตุได้
สำหรับคนที่มีพลังเทพสี่สายธาตุต่างกันก็ยังพยายามหลอมรวมอยู่
แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานนับปีไม่ถ้วนก็ยังไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ปรากฏขึ้นในพิภพจักรวาลทั้งสิ้น
พูดโดยทั่วไปก็คือเมื่อมีคนพูดถึงพวกวิญญาณกลายพันธุ์ ปกติพวกเขาจะพูดถึงคนที่หลอมรวมพลังเทพสองสายธาตุที่ต่างกัน
ตัวอย่างเช่นลินลี่ย์มีพลังเทพธาตุดินและลม
แม้ว่าเขาจะดำเนินการหลอมรวมวิญญาณกลายพันธุ์ เขามีโอกาสตายเกือบ 100% ที่สำคัญตลอดหลายปีนับไม่ถ้วนในแดนนรก
อัจฉริยะแบบนี้ปรากฏเพียงครั้งเดียว
“ไดมอน,
ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะมีคนควบคุมพวกวิญญาณกลายพันธุ์ที่ทรงพลัง” แกนมอร์ตินหัวเราะเย็นชา
“ไม่เลย
นักสู้วิญญาณกลายพันธุ์นั้นเป็นแค่เทพแท้”
ไดมอนรีบกล่าว
“เป็นแค่เทพแท้?” แกนมอร์ตินดีใจ
เป้าหมายอ่อนแอกว่า ก็ย่อมควบคุมได้ง่าย
“หือ?” แกนมอร์ตินขมวดคิ้วทันที “แค่เทพแท้
แล้วทำไมเจ้านำเขามาไม่ได้?”
ไดมอนอธิบาย “ท่านแกนมอร์ติน
นักสู้วิญญาณกลายพันธุ์ผู้นั้นเป็นเพียงเทพแท้
แต่...ตอนนี้เขาอยู่ในกลุ่มเดียวกับยอดฝีมือสองคน”
“ยอดฝีมือ
พลังของพวกเขาเป็นยังไง?” แกนมอร์ตินถรีบถาม
“หนึ่งในนั้นฝึกมาทางสายธาตุมืด ตามที่ข้าคำนวณ เขาน่าจะมีพลังอสูรห้าดาว บางทีอาจใกล้เป็นอสูรหกดาว! เท่าที่ข้าดู
เขาเชี่ยวชาญด้านความเร็วและรัศมีพลางตัว” ไดมอนพูดเย้ยหยัน
แกนมอร์ตินหัวเราะอย่างใจเย็น เขาไม่ใส่ใจพวกอสูรหกดาวธรรมดา
“และคนอื่นเล่า?” แกนมอร์ตินถามรุกเร้า
ไดมอนมีท่าทางค่อนข้างอึดอัดใจ “ความจริงข้าไม่พบเห็นอีกฝ่ายหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เขาคงจะซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มพวกเขา
ในแง่พลัง... ข้าไม่สามารถบ่งบอกได้”
“เอ๋?” แกนมอร์ตินขมวดคิ้ว “อธิบายรายละเอียดไป สถานการณ์เป็นยังไงกันแน่”
ไดมอนอธิบายรายละเอียดทันที หลังจากได้ยินคำอธิบายของไดมอน แกนมอร์ตินพยักหน้าเล็กน้อย “พลังโจมตีของเทพแท้หลายร้อยแค่ทำให้คุกศิลาดำสั่นสะเทือนเท่านั้นหรือ ดูเหมือนว่าพลังป้องกันของมันจะไม่เท่าใด และยังครอบคลุมในพื้นที่เล็กน้อย...
ตามการคำนวณของข้า เป็นไปได้ว่าคนผู้นี้เป็นอสูรหกดาว!”
แกนมอร์ตินคำนวณออกมาได้อย่างนี้
ฝ่ายตรงข้ามคงไม่คุกคามได้เท่าใดนัก
“ข้าสามารถทำลายปราสาทศิลาดำได้ในกระบี่เดียว” แกนมอร์ตินหัวเราะอย่างใจเย็น
ไดมอนแนะนำ
“ใต้เท้า, ไปแจ้งกับท่านแม่ทัพก่อนจะไม่ดีกว่าหรือ...
ทำอย่างนั้นจะได้ไม่มีโอกาสล้มเหลว”
“แค่อสูรหกดาวคนเดียวน่ะหรือ?
เป็นไปได้ยังไงที่ท่านแม่ทัพจะลงมาพัวพันเรื่องอย่างนี้ด้วยตัวเอง?” แกนมอร์ตินหัวเราะอย่างเยือกเย็น “เรื่องแบบนี้
ข้าคนเดียวก็รับมือได้ง่ายอยู่แล้ว”
แกนมอร์ตินมีความมั่นใจมาก
เขาฝึกมาในกฎธาตุลม และเขาเชี่ยวชาญอยู่สองเรื่องคือ โจมตีและหนี!”
แม้แต่อสูรเจ็ดดาว เขาก็ยังมั่นใจว่ามีความสามารถหนีได้
สำหรับการต่อสู้อย่างนี้
เตรียมพร้อมรับมือกับความพ่ายแพ้ดีกว่าเตรียมการเพื่อชัยชนะ เพราะตอนนั้นจะไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง
“เจ้ารู้ไหมว่ากลุ่มคนพวกนี้อยู่ที่ใด?” แกนมอร์ตินมองดูเขา
ไดมอนยิ้ม
“ใต้เท้าไม่ต้องเป็นห่วง
ข้าเตรียมการไว้นานแล้ว
นอกจากนี้ยังไม่ถึงครึ่งเดือน ต่อให้มีบางอย่างเกิดขึ้น
ก็ยังจะตามหาพวกเขาได้ง่ายดาย
ที่สำคัญนี่คือถิ่นของเรา”
“ดีมาก” แกนมอร์ตินพยักหน้าพอใจ “ไม่ต้องห่วง เมื่อข้าได้นักสู้วิญญาณกลายพันธุ์ผู้นั้นมาและนำตัวไปให้ท่านแม่ทัพ
ข้าจะรายงานความดีความชอบของเจ้าต่อท่านแม่ทัพแน่นอน”
“ขอบคุณใต้เท้า” ไดมอนรีบกล่าว
แต่ในใจของเขา ไดมอนยังคงโกรธ ถ้าเขารู้วิธีพบตัวแม่ทัพ
เขาจะรายงานเรื่องทั้งหมดนี้กับแกนมอร์ตินหรือ?
ถ้าเขามีพลังพอจับโอลิเวอร์
เขาคงไม่จำเป็นต้องให้แกนมอร์ตินมาร่วมแบ่งปันความดีความชอบแน่
คลื่นทะเลม้วนตัวเป็นระลอก
ลินลี่ย์และบีบีนั่งอยู่ด้วยกันที่ท้ายเรือ
“พี่ใหญ่! ทำไมท่านมักเอาแต่จ้องมองทะเลเล่า?” บีบีถามด้วยความสงสัย
ลินลี่ย์หัวเราะเบาๆ เขากางสนามพลังเทพเพื่อป้องกันเสียงเล็ดลอดจากนั้นอธิบาย “บีบี, เร็วๆ
นี้ข้ารู้สึกเหมือนกับว่ามีปัญหาบางอย่างกับคุกศิลาดำของข้า ข้ารู้ว่าคำตอบอยู่ที่ทะเลกว้างไกล...
น้ำทะเลมีความเคลื่อนไหวแฝงไว้ด้วยความเปลี่ยนแปลงสุดจะหยั่งคาด คุกศิลาดำของข้าแข็งเกินไป แม้ว่าจะสามารถบิดเบี้ยวและก่อรูปใหม่ แต่นั่นเป็นการขยายพลังเทพ นอกจากนี้ยังไม่ส่งผลต่อพลังงานภายนอกได้”
บีบีได้แต่ฟัง
เขาได้แต่จ้องมองลินลี่ย์อย่างช่วยไม่ได้
“ทำไมเจ้าเอาแต่จ้องข้าเล่า?” ลินลี่ย์หัวเราะขณะที่เขามองบีบี
“พี่ใหญ่,
ท่านบอกว่าท่านหลอมรวมเคล็ดลึกลับสามเคล็ดอยู่ไม่ใช่หรือ?” บีบีรีบกล่าว
ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเมื่อลินลี่ย์เอาแต่จ้องทะเล เขายิ้มเหมือนรู้แจ้งทันทีและหลอมรวมเคล็ดแก่นธาตุดิน
ชีพจรโลกและสนามพลังโน้มถ่วงได้อย่างสมบูรณ์แบบ
พลังคุกศิลาดำของเขาเพิ่มมากขึ้นทันที
ตอนนี้ต่อให้เจอกับอสูรหกดาวลินลี่ย์ก็มั่นใจว่าเอาชนะได้
“แล้วจะเกิดอะไรถ้าข้ามี?”
ลินลี่ย์ถอนหายใจ
“คุกศิลาดำยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร
ความจริงถ้าข้าสามารถหลอมรวมเคล็ดพลังชีวิตของกฎธาตุดินเข้ากับอีกสามเคล็ดอื่นก็จะทำให้คุกศิลาดำของข้ามีพลังที่สมดุลอย่างสมบูรณ์แบบ
แต่เมื่อถึงเวลานั้นคุกศิลาดำก็จะฟื้นและก่อตัวขึ้นใหม่ได้ไม่รู้จบ แม้แต่อสูรเจ็ดดาวก็ยากจะทำลายได้”
“เพียงแต่หลอมรวมเคล็ดลึกลับสี่อย่างก็ยากมากอยู่แล้ว นอกจากนี้
เคล็ดพลังชีวิตน่าจะเป็นเคล็ดลึกลับที่มีรูปแบบเฉพาะไม่เหมือนใครในกฎธาตุดิน”
ดินที่กว้างใหญ่ไม่สิ้นสุด ให้กำเนิดสรรพชีวิตมากมาย
ดังนั้นธาตุดินจึงมีคุณสมบัติพลังชีวิต
ลินลี่ย์รู้รายละเอียดพิเศษเกี่ยวกับสัจธรรมพลังชีวิตเพียงไม่กี่อย่าง
เพียงแต่...ลินลี่ย์แค่ทำความเข้าใจในพื้นฐานเบื้องต้นเท่านั้น
“พี่ใหญ่, อย่าโลภเกินไป”
บีบีป้องปากพูด
“ท่านหลอมรวมได้ถึงสามเคล็ดแล้ว”
ลินลี่ย์หัวเราะ
ความจริงนี่ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับความโลภ
ลินลี่ย์เพียงแต่ไขว่คว้าหาความสมบูรณ์ในการพัฒนาตนเอง
“หือ?” ตอนนี้ลินลี่ย์รู้สึกตกใจทันที “มาจากข้างล่าง!”
“ปัง!” อสูรโลหะซึ่งกำลังแล่นด้วยความเร็วสูงระเบิดอีกครั้งหนึ่ง และทำให้ทุกคนตอนนี้ลอยอยู่ในอากาศ
สีหน้าของพวกเขามึนงง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เบสบุรุษเคราดก เขาคำรามด้วยความโกรธ
“แม่มันเอ๊ย!
นี่มันอสูรโลหะของข้านะเฮ้ย!”
ลินลี่ย์จ้องมองผิวทะเลอย่างระมัดระวัง
“ซูมมม..!” “ซูมมม..!”
มีสองร่างทลายผิวทะเลออกมาลอยตัวอยู่ในกลางอากาศ หนึ่งในนั้นเป็นบุรุษผมเขียวมีท่าทางน่ากลัวสวมชุดยาวสีเขียวขลิบทองและมีเกล็ดปลาคลุมเต็มหน้าผาก คนที่อยู่ข้างเขาเป็นคนที่กลุ่มลินลี่ย์คุ้นหน้า เขาคือหัวหน้าที่สองแห่งเกาะไนฟ์เบลด..ไดมอน

9 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุน ครับ
มินิบอสมาดรอบของ
มาไห้ปล้นเองเลย
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ เอาเคล็ดความรู้แจ้งมาเดริเวอรี่อีกแล้ว
ลินลี่หรือลีออนนี่ขึ้นอะำรเป็นพัง
ขอบคุณมากครับ
แสดงความคิดเห็น