เล่ม
16 ทะเลสตาร์มิสท์ – ตอนที่ 16 ใบหน้าที่คุ้นเคย
สนามต่อสู้ถูกแบ่งออกเป็นสามระดับ สนามต่อสู้ของเทพชั้นสูง สนามต่อสู้ของเทพแท้ สนามต่อสู้ของเทียมเทพ มีสนามต่อสู้ของเทพชั้นสูงเพียงแห่งเดียว เทพแท้สามแห่ง และเทียมเทพก็สามแห่งเช่นกัน
“พี่ใหญ่, เราจะชมดูที่ไหนก่อน?” บีบีรีบถาม
“การต่อสู้ของเทพชั้นสูงน่าจะตื่นเต้นมากที่สุด เราจะไปดูที่นั่นอยู่แล้ว” ลินลี่ย์หัวเราะ ส่วนคนอื่นๆ
ค่อนข้างจะให้ความสนใจเวทีต่อสู้ของเทพชั้นสูง
และทุกคนเดินตามกันไปในเส้นทางที่ไปยังสนามต่อสู้ของเทพชั้นสูง
ชั่วเวลาต่อมากลุ่มของลินลี่ย์ก็มาถึงสนามต่อสู้ที่กว้างใหญ่
สนามต่อสู้ของเทพชั้นสูง
ใจกลางสนามประลองเป็นสนามกลม
มีพื้นที่ว่างเปล่าขยายออกไปเส้นผ่าศูนย์กลางห้ากิโลเมตร
“สนามต่อสู้ของเทพชั้นสูงใหญ่โตจริงๆ
สนามต่อสู้ของเทพอีกสองระดับยังไม่ใหญ่ใกล้เคียงด้วยซ้ำ” เบสกล่าว
กลุ่มของลินลี่ย์เดินตรงไปตามทางพอพบเจอที่ว่างจึงนั่งลง
นักสู้ระดับเทพสามารถเห็นได้จากระยะไกลมาก
ดังนั้นทุกคนสามารถเห็นภาพการต่อสู้ของสองคนตรงกลางสนามต่อสู้ได้ชัดในระยะหลายกิโลเมตร
ตอนนี้ในอากาศ
มีร่างของสองคนลอยตัวอยู่ขณะจ้องมองกันและกัน
คนหนึ่งเป็นคนกำยำล่ำสันมีเขาข้างเดียว
อีกคนหนึ่งเป็นสตรีผมแดงมีเสน่ห์แต่น่ากลัว
สิ่งที่ดึงดูดความสนใจลินลี่ย์ไม่ใช่คนทั้งสองที่กำลังเตรียมตัวต่อสู้ แต่เป็นที่ขอบเวทีในกลางพื้นที่
ข้างแท่นคนชมดูมีนักรบเกราะแดงเดินตามกันมาทีละคน!
ที่ขอบแท่นชมดูรูปวงกลม
ทุกระยะสองสามเมตรจะมีทหารของเกาะประจำพื้นที่อยู่
“มีทหารประจำเกาะที่นี่เกินกว่าพันคนจริงๆ!”
ลินลี่ย์ตรวจสอบพวกเขาอย่างระมัดระวัง
คนพวกนี้เป็นตัวแทนของเทพชั้นสูงพันคน
นอกจากนี้ คนพวกนี้ยังสามารถยืนอยู่ได้ที่ริมเวที ต้องเข้าใจก่อนว่าพื้นที่อื่น
ก็มีการเดินลาดตะเวณอย่างนั้นเหมือนกัน มีทหารค่อนข้างมากเช่นกัน
จำนวนของทหารประจำเกาะที่สนามต่อสู้ในตอนนี้มากจนน่าประหลาดใจ
“ว้าว, มีทหารประจำเกาะค่อนข้างมากทีเดียว” บีบีถอนหายใจทึ่ง
แอ็ชหัวเราะ “นี่เป็นสนามต่อสู้เทพชั้นสูง
พวกเขาอยู่ที่นี่เพื่อป้องกันคลื่นระเบิดจากการต่อสู้ไม่ให้ทำอันตรายคนดู ดังนั้นพวกเขาจึงจัดทหารประจำเกาะมาประจำไว้มากมาย
จำนวนของทหารประจำเกาะที่สนามต่อสู้ของเทพแท้ยังน้อยกว่ามาก
ขณะที่เวทีต่อสู้ของเทียมเทพไม่มีทหารประจำเกาะเลย”
“ความเสียหายจากแรงระเบิดจากการสู้ของเทียมเทพจะมากแค่ไหนกันเชียว?” เบสหัวเราะเช่นกัน
ขณะที่กลุ่มของลินลี่ย์กำลังคุยกันพวกเขามองดูการต่อสู้ที่กลางเวทีไปด้วย
ร่างทั้งสองกลายเป็นภาพเลือนรางสู้กันด้วยความรวดเร็วดุจสายฟ้า ในกลางอากาศมีประกายแสงมากมาย ขณะที่กลุ่มของลินลี่ย์ยังคงดูอย่างระมัดระวัง
“ครืนนน...”
สาวงามผมแดงผู้ร้ายกาจควงไม้เท้าสีแดงหวดใส่บุรุษที่มีเขารวดเร็วราวกับสายฟ้า “อ๊า...”
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นและบุรุษเขาเดียวถูกกระแทกกระเด็น จากนั้นร่างของเขาสั่นและระเบิดดังบึ้ม
“คลารินดา ชนะรอบที่สอง!” เสียงหนึ่งดังขึ้น
สตรีงามผมแดงบินลงมาตรงเข้าไปที่ทางเดินด้านล่างเวที
“อ่อนแอเกินไป!” เมื่อเห็นการต่อสู้นี้แล้ว ลินลี่ย์ได้แต่ส่ายศีรษะ
“แค่ใช้เคล็ดความรู้ลึกลับระเบิดซึ่งเป็นกฎธาตุไฟเพียงเล็กน้อย
นางก็สามารถเอาชนะได้สองรอบแล้ว คุณภาพของนักสู้ในสนามต่อสู้ต่ำจริงๆ” ลินลี่ย์เห็นยอดฝีมือที่ทรงพลังมามาก
ไม่ว่าจะเป็นบลูไฟร์
เบรุต แลร์มองต์ รอยัลวิง เอลควิน ฟูโซ่...
แม้แกนมอร์ตินที่เขาเอาชนะได้ก็ยังเหนือกว่าคนพวกนี้มากมายนัก
เบสที่นั่งอยู่ใกล้กับลินลี่ย์พูดเบาๆ
“ลินลี่ย์, เทพชั้นสูงทุกคนที่ต้องการเข้าร่วมสู้ในสนามต่อสู้
แน่นอนว่าจะต้องมีคุณภาพแตกต่างกันไป
อย่างไรก็ตามยอดฝีมือที่แท้จริงก็ปรากฏให้เห็นอยู่บ้างซึ่งเป็นเหตุให้การต่อสู้ธรรมดาเจ้าจึงถูกมองว่าไม่น่าสนใจ”
“ปรากฏเป็นครั้งคราว?” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะและถอนหายใจ
เหตุผลที่เขามาดูยอดฝีมือสู้กัน ตามแผนของพวกเขา
พวกเขาจะอยู่ที่เกาะมิลัวร์เพียงวันเดียวหรือสองวัน หลังจากซื้อของที่ปราสาทเสรีแล้ว พวกเขาจะจากไป
เขาไม่มีเวลารออยู่ที่นี่เพื่อให้ยอดฝีมือปรากฏตัว
“โชคไม่ดี”
ลินลี่ย์ถอนหายใจ
“ยอดฝีมือที่สนามต่อสู้นี้ค่อนข้างธรรมดาจริงๆ”
เบสพูดเบาๆ “สนามต่อสู้ของเทพชั้นสูงมีกฎอยู่ ถ้านักสู้สามารถชนะได้สิบคนรวด อย่างนั้นจะได้ส่วนลดราคาของทั้งหมดที่ปราสาทเสรี
10% ถ้าได้ชัยชนะถึงห้าสิบครั้ง
ทุกอย่างในปราสาทเสรีจะลดราคาให้ 20%
แต่ถ้าท่านชนะได้ร้อยรอบ ของทั้งหมดในปราสาทเสรีจะลดราคาให้ครึ่งหนึ่ง
และนอกจากนี้จะได้รับรางวัลถึงหมื่นล้านศิลาดำ!
ขณะเดียวกันเขาจะมีคุณสมบัติได้เข้าพื้นที่ลับของเกาะตะวันตกเพื่อเข้าไปดูเป็นพิเศษ!”
ลดราคาครึ่งหนึ่งและได้รางวัลหมื่นล้านศิลาดำ? ลินลี่ย์ไม่สนใจเรื่องนี้เท่าใดนั้น แต่...
“ไปดูพื้นที่ลับเกาะตะวันตกเป็นพิเศษน่ะหรือ? หมายความว่ายังไง?” ลินลี่ย์ค่อนข้างงง
ส่วนของเกาะตะวันออกเป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับทุกคน แต่ส่วนตะวันตกของเกาะเป็นที่ต้องห้ามสำหรับคนภายนอก อย่างไรก็ตาม
ลินลี่ย์ไม่เคยได้ยินถึงพื้นที่ลับในเกาะด้านตะวันตกมาก่อน
“เกาะมิลัวร์ถูกควบคุมและดำเนินงานโดยห้าตระกูลใหญ่
ศิษย์ของห้าตะกูลเหล่านี้ก็เป็นทหารประจำเกาะด้วยเช่นกัน ทุกชีวิตบนเกาะด้านตะวันออก อย่างไรก็ตามทางด้านตะวันตกของเกาะมีพื้นที่ลับสำคัญซ่อนอยู่ บางคนก็เข้าร่วมตามคำเชิญจากห้าตระกูลใหญ่หรือคนที่ชนะการต่อสู้ร้อยรอบก็จะมีคุณสมบัติเข้าไปเยี่ยมเยือนได้” เบสถอนหายใจ
ลินลี่ย์อดสงสัยไม่ได้
ห้าตระกูลใหญ่ร่วมกันดูแลเกาะมิลัวร์ จากนั้น
พื้นที่ลับทางด้านตะวันตกของเกาะมีความลับอะไร?
“เบส, เจ้าไม่เคยไปดูเลยหรือ?” ลินลี่ย์มองดูเขา
“ข้าก็อยากไปดูเหมือนกัน” เบสสั่นศีรษะและหัวเราะ “เพียงแต่, ข้าให้ความสำคัญกับชีวิตค่อนข้างสูง
เอาชนะแค่สิบรอบสำหรับข้าไม่ใช่เรื่องยากเกินไป
แต่ร้อยรอบเล่า?
ที่สำคัญนักสู้ทุกคนไม่ได้อ่อนแอ
ถ้าหากมียอดฝือที่แท้จริงปรากฏขึ้นมา
ข้ามิจบสิ้นหรอกหรือ?”
“เป็นไปได้ไหมที่ไม่มีคนโชคดีมากพอจะเจอกับคนฝีมืออ่อนระหว่างการต่อสู้ร้อยรอบ?” ลินลี่ย์ถาม
“เป็นไปไม่ได้” เบสส่ายศีรษะ “ต่อให้ท่านโชคดีและพบเจอแต่เทพชั้นสูงฝีมืออ่อนในช่วงต่อสู้
99 รอบก่อนนั้นโดยท่านเอาชนะได้ก็ตาม
แต่ในรอบที่ร้อย ห้าตระกูลจะจัดส่งยอดฝีมือของตนเองออกมาท้าทาย! ทุกคนที่เอาชนะในการต่อสู้ร้อยศึกจะต้องเป็นยอดฝีมือที่แท้จริง และอย่างน้อยก็ต้องมีพลังระดับเดียวกับข้า”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
ค่อยสมเหตุผล
ห้าตระกูลจะไม่โยนเงินหมื่นล้านศิลาดำให้คนที่โชคดีแต่อ่อนแอแน่
“รางวัลอย่างเดียวก็มากถึงหมื่นศิลาดำ ห้าตระกูลความจริงก็ร่ำรวยและฟุ่มเฟือยมาก” ลินลี่ย์บอกตัวเอง
“ลินลี่ย์, ถ้าเจ้าลองด้วยตัวเอง
ชัยชนะร้อยศึกคงตกเป็นของเจ้าอย่างง่ายดาย”
เบสพูดหลอกล่อ “บอกตรงๆ
เลยว่าคนระดับอสูรหกดาวสามารถเอาชนะร้อยศึกได้
อสูรห้าดาวผู้โชคดีก็ยังมีสะดุด
ที่สำคัญ กล่าวโดยทั่วไปแล้ว เจ้าอาจไม่พบกับอสูรเจ็ดดาวเข้าร่วมในการต่อสู้แม้แต่ครั้งเดียวในรอบหมื่นปี”
ลินลี่ย์หัวเราะ นั่นเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว
อสูรเจ็ดดาวจะให้ความสนใจเงินหมื่นล้านได้ยังไง? แต่แน่นอน ขณะที่เวลาผ่านไปเกินหมื่นปี
บางทีอสูรเจ็ดดาวอาจปรากฏตัวเข้าร่วมประลองก็ได้
“พี่ใหญ่ รีบดู!” บีบีพูดขัดกลางครัน
“เอ๊ะ?”
ลินลี่ย์มองดูบีบีอย่างสงสัย
ไม่ใช่แค่บีบี แม้แต่เดเลียและคนอื่นก็อุทานออกมาด้วย “ลินลี่ย์! รีบดู คนที่ปรากฏอยู่ในกลางอากาศ นั่นเป็นคนที่เราพบเจอตอนนั้น!”
หลังจากเห็นการต่อสู้ครั้งแรก ลินลี่ย์ไม่ให้ความสนใจสนามต่อสู้อีกต่อไป
แต่ในขณะนั้นลินลี่ย์หันไปมองทันที และตกใจกับสิ่งที่เขาเห็น
ในพื้นที่กว้างว่างเปล่า
มีร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่ง!
“หืม?” ลินลี่ย์มีสีหน้าทึ่งทันที
“ใครจะคาดกันเล่าว่าเหตุการณ์ที่หมื่นปีจะปรากฏครั้งหนึ่ง
ตอนนี้ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาแล้ว
ยอดฝีมือที่ทรงพลังขนาดนั้นเข้าร่วมต่อสู้ด้วยจริงๆ”
เวทีต่อสู้ที่ว่างเปล่ามีบุรุษเย็นชาอยู่ในชุดยาวดำและสะพายดาบศึกบนหลังยืนอยู่กับที่ ผมยาวดำของเขาพลิ้วสะบัดตามสายลม เขายืนนิ่งเหมือนธารน้ำแข็งที่มีมานานนับปีไม่ถ้วน
เย็นชา เข้าถึงไม่ได้
ในดวงตาของเขามีประกายไฟฟ้าเต้นระริก
“เขานั่นเอง”
เบสกระแอมก่อนพูดด้วยความทึ่ง
“ถ้าเขาเข้าร่วมสู้
เท่ากับว่าเขารับประกันชัยชนะร้อยศึกไว้แน่นอนแล้วไม่ใช่หรือ?”
บีบีที่อยู่ใกล้ๆ
สงสัย “เอ่? ข้าจำได้ว่าเขาเดินทางได้เร็วกว่าเรา
ตามเหตุผลแล้วเขาควรจะมาถึงเกาะมิลัวร์ก่อนเรานานแล้วไม่ใช่หรือ
เขาไม่ควรจะอยู่ที่นี่พร้อมกับเราในเวลาเดียวกัน”
บุรุษผมดำที่เดินทางด้วยตนเองมีความรวดเร็วแน่นอน
แต่ลินลี่ย์นึกย้อนทบทวนคำสนทนาของคนอื่นในร้านอาหารก่อนนี้
จากเมืองบลูเมเปิลถึงเกาะมิลัวร์
โจรกลุ่มใหญ่ถูกทำลายเรียบ
“บางทีเป็นเพราะเขาทำลายกลุ่มกองทัพโจรมากมายตลอดเส้นทาง หรือบางทีเขากำลังฝึกในระหว่างทางก็ได้” ลินลี่ย์พูดกับตนเอง
ลินลี่ย์เริ่มมองดูเวทีต่อสู้อย่างระมัดระวัง ที่สำคัญ
คนที่กำลังจะสู้เป็นบุรุษผมดำที่ทรงพลัง
“เจ้าอ่อนแอเกินไป ไสหัวไปซะ!” เสียงเยือกเย็นดังก้องในอากาศเหนือสนามนักสู้ คนพูดคือบุรุษผมดำ คู่ต่อสู้ของเขาอยู่ในชุดขาวยาว บุรุษหนุ่มรูปงามผมสีม่วงควงคทาที่เปล่งประกายแสงสีขาว
พื้นที่ชมดูโกลาหลทันที
เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่พวกเขาไม่ได้เห็นคนหยิ่งยโสที่สั่งให้คู่ต่อสู้ข้างหน้าหนีไปก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น
บุรุษหนุ่มผมม่วงได้ยินคำพูดนี้อดโกรธไม่ได้ “เจ้ารู้แต่เพียงต่อสู้เท่านั้นหรือ!”
บุรุษผมดำอดจ้องมองเขาไม่ได้
“เปรี๊ยะ!”
ทันใดนั้นสายฟ้าสองสายยิงออกมาจากดวงตาของบุรุษผมดำ เร็วจนบุรุษหนุ่มผมม่วงไม่สามารถหลบได้แม้แต่น้อย พลังโจมตีพุ่งใส่ร่างของบุรุษผมม่วง
เขาสั่นเล็กน้อยจากนั้นทรุดตัวลงไม่ลุกขึ้นมาอีกเลย
ผู้ชมนับแสนตะลึงกันไปหมดในขณะนั้น
พื้นที่ผู้ชมนิ่งเงียบ
“เมื่ออ่อนแอก็ไม่ควรออกมา ถ้าเจ้ายังขืนทำ ก็เท่ากับแส่หาเรื่องตาย คู่แข่งคนต่อไปจะแข็งแกร่งมากขึ้น
ข้ามาที่นี่เพื่อต่อสู้!” บุรุษผมดำพูดอย่างเยือกเย็น
สู้รบอย่างต่อเนื่อง!
นี่เป็นการแสดงออกถึงความหยิ่งยโส เพราะถ้ามีคนเข้าร่วมต่อสู้อย่างต่อเนื่อง
เขาจะไม่มีโอกาสเลือกคู่ต่อสู้
ไม่ว่าคู่ต่อสู้คนต่อไปจะเป็นใครก็ตาม
เขาจะต้องสู้! แม้ว่าคู่ต่อสู้คนต่อไปจะเป็นเทพอสูรก็ตาม เขาก็ยังจะต้องสู้
แต่ว่าแน่นอน
ไม่มีทางที่เทพอสูรจะเข้าร่วมต่อสู้
ดังนั้นตราบใดที่การต่อสู้ยังไม่ร้อนแรงสุดขีด
กล่าวโดยทั่วไปก็คือมีแต่ยอดฝีมือแท้จริงจึงกล้าสู้อย่างต่อเนื่อง
“โรมิโอ, ชนะหนึ่ง!” เสียงดังขึ้นจากภายในเวที “ทุกท่าน! บัดนี้
ท่านโรมิโอเลือกในการสู้ต่อเนื่องกัน
เทพชั้นสูงคนใด ไม่ว่าเป็นใครจะได้รับอนุญาตให้เข้าต่อสู้ ใครสนใจก็ให้ลงมาสมัครได้ที่ข้างล่าง บัดนี้ได้เวลาต่อสู้รอบที่สอง!”
ลินลี่ย์จ้องมองตาไม่กระพริบ
เขาจ้องมองตรงๆ
จากรอบแรกจนถึงรอบที่สิบ!
สำหรับการต่อสู้รอบที่สิบเอ็ด...
ไม่ใช่ว่าลินลี่ย์ไม่ต้องการดูต่อ
แต่เป็นเพราะไม่มีโอกาสได้ดูต่อไป
ทั้งนี้เป็นเพราะทุกคนที่ต้องการสู้ในเวทีนี้สามารถสู้ได้วันละสิบรอบเท่านั้น
ต่อให้นักสู้ต้องการสู้ในร้อยศึกแต่ก็ต้องขยายออกไปเกินกว่าสิบวัน โรมิโอสู้ต่อเนื่องสิบศึก
ได้รับชนะง่ายดายในการสู้แต่ละครั้ง
พลังของเขายิ่งใหญ่จนผู้ชมทุกคนพบว่ายากจะผ่อนลมหายใจได้ขณะที่พวกมองดู
“ทรงพลังมาก”
หัวใจของลินลี่ย์สั่นสะท้าน
“คนผู้นี้เชี่ยวชาญทั้งในการโจมตีพลังธาตุหยาบและโจมตีวิญญาณ นอกจากนี้ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ เขาไม่เคยชักดาบออกมาด้วยซ้ำ”
“โรมิโอ”
ลินลี่ย์จดจำชื่อนี้ไว้
พวกเขาไปดูการต่อสู้ที่เวทีต่อสู้ของเทพแท้และเวทีเทียมเทพสองสามศึก
บีบียังเข้าร่วมในเวทีเทพแท้และต่อสู้รวดเดียวสิบรอบ เนื่องจากพลังของบีบี
เขาแค่ใช้พลังออกไปเล็กน้อย ก็เอาชนะการต่อสู้สิบรอบรวดเดียวได้อย่างง่ายดาย!
หลังจากออกมาจากสนามต่อสู้
กลุ่มของลินลี่ย์มุ่งหน้าไปยังปราสาทเสรี
“บีบี! เจ้าเบื่อนักหรือ? ถึงได้ลงไปแข่งกับพวกเขา” ลินลี่ย์หัวเราะ
“ชนะตั้งสิบรอบ พี่ใหญ่ก็รู้ อย่างน้อยข้าก็ได้เหรียญพิเศษนี้มา ข้าจะได้ส่วนลด 10%
ขณะซื้อสินค้า” บีบีพูดอย่างดีใจ
ลินลี่ย์พูดไม่ออก
จับจ่ายซื้อสินค้าจะต้องใช้เงินมากมายเพียงไหน? 10% เท่ากับไม่มีอะไร
เนื่องจากสมบัติที่ลินลี่ย์และบีบีมีอยู่ในตอนนี้ ส่วนลด 10% ไม่มีความหมายอะไร
“ปราสาทเสรีเป็นอาคารที่สวยงามจริงๆ” ลินลี่ย์มองดูระยะไกล กำแพงสีเขียวแก่และปราสาทเก่าแก่ยอดสีแดง ทางเข้าปราสาทดูเหมือนจะมีผู้หลั่งไหลเข้าไปมิได้ขาด
“นี่นี่มีสินค้าขายอยู่มากมาย
บางส่วนเป็นของทะเลสตาร์มิสท์ บางส่วนมาจากทวีปต่างๆ
มีของหลายอย่างที่ปราสาทดำและปราสาทเรดบุดไม่มีขาย” แอ็ชถอนหายใจทึ่ง
กลุ่มของลินลี่ย์เดินผ่านประตูใหญ่เข้าไปทันที
ด้านข้างประตูทางเข้าปราสาทเสรี
มีบุรุษผมดำคนหนึ่งอยู่ในชุดยาวหลวมนอนอยู่บนสนามหญ้าอย่างเกียจคร้านในมือถือเหล้าอยู่ขวดหนึ่ง ถ้าลินลี่ย์เห็นเขา ก็คงจำเขาได้ทันที
นี่เป็นสหายเก่าผู้มาจากทวีปยูลานเหมือนพวกเขา
ซีซาร์!
ตอนนี้ซีซาร์ดูเหมือนคนไร้จิตวิญญาณ
“ครั้งสุดท้ายหรือ? ฮ่าฮ่า ครั้งสุดท้าย?” ซีซาร์เงยหน้าหัวเราะลั่น หลั่งน้ำตา
คนมากมายบนถนนมองดูเขา แต่ไม่มีใครเข้าไปยุ่งรบกวนเขาแม้แต่คนเดียว
“เอ๊ะ?”
ลินลี่ย์อยู่ที่ประตูทางเข้าหันไปมองไกลๆ ทันที
เขาจ้องมองอย่างระมัดระวัง แต่รอบๆ
เขามีแต่คลื่นฝูงชน “หรือว่าข้าได้ยินผิด?” ลินลี่ย์ตอนนี้คิดว่าเขาได้ยินเสียงของซีซาร์
แต่มีคนมากมายที่มีเสียงคลับคล้ายกัน และแม้ว่าลินลี่ย์จะมองดูอย่างระมัดระวัง แต่เขาไม่เห็นซีซาร์
“คงหูแว่วไปเอง” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะและถอนหายใจ
“พี่ใหญ่ ไปกันต่อเถอะ มองหาอะไรอยู่เหรอ?” บีบีกล่าว และเดเลียมองดูลินลี่ย์เช่นกัน
“เข้าไปเถอะ”
ลินลี่ย์หัวเราะ เขาเข้าไปในปราสาทเสรีพร้อมกับเดเลีย
แต่สิ่งที่ลินลี่ย์ไม่รู้ก็คือซีซาร์กำลังนอนอยู่บนพื้นหญ้าข้างถนน ถ้าซีซาร์ยืนขึ้น บางทีลินลี่ย์อาจมองเห็นเขา แต่เขากำลังนอน ลินลี่ย์จะเห็นเขาได้ยังไง?

10 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
มาช้าดีกว่าไม่มา
ขอบคุนคับ
จอบคุนครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
เปลี่ยนเวลาลงแล้วหรอคับ
จะได้เจออยู่แว้ววววว
ขอบคุณมากครับ
แสดงความคิดเห็น