วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Panlong เล่ม 16 ทะเลสตาร์มิสท์ – ตอนที่ 18 ประกาศิตมิลัวร์โลหิต


เล่ม 16 ทะเลสตาร์มิสท์ – ตอนที่ 18 ประกาศิตมิลัวร์โลหิต
บุรุษหนุ่มผมแดงได้ยินเช่นนี้ก็อดหรี่ตาแคบมิได้  แววตาของเขาเย็นชาขึ้น
ชายชราผมขาวแค่นเสียงเสียงด้วยความโกรธเช่นกัน  “เจ้าควรรู้ดีรู้ชั่วสำหรับตนเองเป็นที่สุด  นี่ก็แค่เสื้อผ้าเท่านั้นไม่ใช่หรือ?  ระวังให้ดี อย่าต้องมาเสียชีวิตเพราะเสื้อผ้าเลย!  แต่บีบีไม่ให้ความสนใจการคุกคามของชายชราผมขาว

 “เจ้าขู่ข้าหรือ?”  บีบีถลึงตาของที่เขาพูดด้วยความโกรธ
แต่ลินลี่ย์ตระหนักถึงบางอย่างมากขึ้น
ลินลี่ย์ตรวจสอบบุรุษหนุ่มผมแดงอย่างระมัดระวัง  จากนั้นก็เป็นชายชราผมขาว  เขาตรึกตรอง  “คนทั้งหมดที่มายังปราสาทเสรีชั้นสี่เพื่อจับจ่ายทรัพย์มากมาย  ในแดนนรกคนเกือบทั้งหมดที่มีเงินจะมีพลังอำนาจมากมายเช่นกัน  สำหรับชายชราผมขาวกล้าแสดงความเหิมเกริมในที่อย่างนี้ก็หมายความว่าเขาควรจะมีผู้ทรงพอำนาจหนุนอยู่เบื้องหลัง”
แม้ว่าลินลี่ย์จะไม่กลัวก็ตามแต่ในสถานที่แปลกถิ่นอย่างนี้เขาไม่ต้องการสร้างศัตรูเช่นกัน
 “บีบี, เดเลีย ไปกันเถอะ”  ลินลี่ย์ฉุดดึงบีบีที่กำลังโกรธ ขณะที่เขาเริ่มเดินออกไปนอกร้าน  ลินลี่ย์ไม่ต้องการเสียเวลากับคนเหล่านี้ต่อไป
 “ควั่บ!  สี่คนที่อยู่ด้านหลังบุรุษหนุ่มผมแดงขวางทางลินลี่ย์ทันที ทั้งสี่คนเป็นเทพชั้นสูงทุกคน!
 “เจ้าต้องการจากไปหรือ?”  บุรุษหนุ่มผมแดงหัวเราะเย็นชา  สีหน้าของเขาหยิ่งผยองมาก  “ไม่มีอะไรที่ข้าต้องการแล้วไม่ได้!  วันนี้ข้ากำลังอารมณ์ดีและไม่ต้องการทะเลาะด้วย เจ้าส่งมอบชุดนั้นมาให้ข้าดีกว่า  ไม่อย่างนั้น!
ลินลี่ย์อดมีความรู้สึกโกรธขึ้นมาไม่ได้
 “ตอนนี้ราคาสองเท่าผ่านไปแล้ว  อย่างไรก็ตามเรายังจะจ่ายให้เจ้าในราคาเดียวกัน จะได้ไม่ต้องมาพูดกันว่าตระกูลแบล็คชอว์ของเราเอาเปรียบผู้คน!  ชายชราผมขาวแค่นเสียงเยาะเย้ยเช่นกัน  คำพูดเหล่านี้ทำให้เจ้าของร้านเสื้อผ้าถึงกับสีหน้าเปลี่ยน
ตระกูลแบล็คชอว์?
ลินลี่ย์แปลกใจ  แต่โชคไม่ดี นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาเยือนเกาะมิลัวร์ และเขาไม่เคยได้ยินชื่อตระกูลแบล็คชอว์นี้มาก่อน
 “พวกท่านให้เสื้อผ้าพวกเขาไปเป็นดีที่สุด”  เจ้าของร้านเสื้อผ้าเตือน
 “ลินลี่ย์! ตระกูลแบล็คชอว์นี้ดูเหมือนจะน่ากลัวมาก ให้เสื้อผ้าพวกเขาไปเถอะ”  เดเลียใช้สำนึกเทพคุยกับลินลี่ย์เช่นกัน  ลินลี่ย์ชำเลืองมองเดเลียที่อยู่ใกล้ๆ  เขารู้ว่าในใจเดเลียไม่ต้องการเสียชุดนี้ไป
เพียงแต่เดเลียไม่ต้องการล่วงเกินผู้คนเพื่อลินลี่ย์
 “ไม่เป็นไร” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น
และจากนั้นลินลี่ย์หันไปมองคนพวกนั้นและขึ้นเสียงเย็นชา  “อะไรกัน, พวกเจ้าต้องการเริ่มหาเรื่องทะเลาะในปราสาทเสรีนี่หรือ?”
คนพวกนั้นตะลึงทันที
นี่คือปราสาทเสรี กฎและระเบียบปฏิบัติที่นี่ห้ามต่อสู้กัน  ใครมีส่วนร่วมในการต่อสู้จะต้องถูกทหารประจำเกาะสังหารอย่างไม่ปราณี
ขณะนี้เองทหารรักษาการณ์ในโถงใหญ่ชั้นที่สี่สังเกตเห็นเหตุการณ์เช่นกัน และทหารกลุ่มเล็กสิบคนเดินเข้ามาทันที   หัวหน้าหมู่เป็นบุรุษร่างใหญ่หัวโล้น  “เกิดอะไรขึ้น?  พวกเจ้าต้องการมีเรื่องที่นี่หรือ?  จะหาที่ตายหรือ?”
 “ใช่แล้ว พวกเขากำลังหาเรื่อง”  บีบีพูดด้วยความโมโห  “ทุกคน!  เราซื้อเสื้อผ้าจากร้านนี้  แต่คนพวกนี้ต้องการบีบบังคับให้เราขายให้พวกเขา พอเราไม่ขาย พวกเขาก็เลยขวางทางพวกเรา”
ลินลี่ย์มองเรื่องที่เกิดขึ้นนี้อย่างใจเย็น
เนื่องจากปราสาทเสรีมีกฎของตัวปราสาทเอง  อย่างนั้นกฎเหล่านี้จะไม่ยอมให้ใครทำลายได้ ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ตาม ไม่อย่างนั้นใครจะสนใจกฎนี้กันเล่า?
 “หัวหน้า คนเหล่านี้ค่อนข้างถือดี”  ทหารคนอื่นร้องเตือนทันที
 “เจ้าต้องการบังคับคนอื่นให้ขายเสื้อผ้าพวกเขาให้เจ้าหรือ?”  บุรุษร่างใหญ่หัวโล้นถลึงตากว้างราวกับตาวัว ท่าทางเขาโกรธ  “ช่างบังอาจจริงๆ!  พวกเจ้ากล้าก่อเรื่องในปราสาทเสรี!  ไม่สำคัญว่าเจ้าเป็นใคร  แต่ไม่มีใครในที่นี้ ในปราสาทเสรีจะมีสิทธิ์ก่อเรื่องได้!
บีบีเริ่มหัวเราะเบาๆ
บุรุษหนุ่มผมแดงผู้หยิ่งยโสขมวดคิ้ว และชำเลืองมองหัวหน้าทหารด้วยสายตาเย็นชา เขาพลิกมือแสดงตราเครื่องหมายสีแดงที่มีลวดลายแปลกประหลาด  ลวดลายบนตราเครื่องหมายนั้นคล้ายกับลวดลายบนเกราะของทหารประจำเกาะ
 “ตรามิลัวร์โลหิต!  นักรบศีรษะโล้นตะกุกตะกัก และหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที
 “ใต้เท้า!  ทหารประจำเกาะทั้งสิบคนรวมทั้งหัวหน้าหมู่หัวโล้นคำนับขณะกล่าวด้วยความเคารพทันที
ลินลี่ย์ เดเลียและบีบีตกใจเช่นกัน
 “และความจริงนั่นคือตราเครื่องหมายมิลัวร์โลหิตระดับสูง!  เจ้าของร้านค้าตะลึงเช่นกัน  โดยรวมแล้วมีตรามิลัวร์อยู่สองแบบซึ่งแสดงถึงอำนาจที่สูงล้ำในเกาะ  ตรามิลัวร์เขียว  ขณะที่อีกแบบหนึ่งเป็นตรามิลัวร์เลือด  ตรามิลัวร์เลือดเป็นตัวแทนของอำนาจที่ยิ่งใหญ่
ในขณะเดียวกัน ยังพบเห็นได้ยาก
 “ตรามิลัวร์เลือดหรือ?”  ลินลี่ย์ไม่เข้าใจว่าสิ่งนี้เป็นสมบัติอะไร แต่ตัดสินจากสีหน้าท่าทางของทหารประจำเกาะทั้งสิบคน ลินลี่ย์เข้าใจคุณค่าของตราเครื่องหมายนี้
ทหารประจำเกาะคนอื่นบนชั้นสี่ยังคงเห็นเหตุการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นที่นี่ นักรบจำนวนมากรีบเข้ามารุมล้อมทันที แม้แต่ผู้จัดการที่ชั้นสี่ก็รีบเข้ามาหา  ทหารประจำเกาะเป็นร้อยรุมล้อมเต็มพื้นที่ทันที
 “คุณชายไซเคิล  นี่มันเรื่องอะไรกัน?  ท่านต้องการซื้อเสื้อผ้าให้ภรรยาของท่านหรือ?”  ผู้จัดการทั่วไปเป็นบุรุษหล่อเหลา เมื่อเห็นคุณชายเขาเข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเองทันที
บุรุษหนุ่มผมแดงท่าทางเย็นชาชื่อไซเคิลหัวเราะและพยักหน้าอย่างใจเย็น
 “พี่ใหญ่!  สถานการณ์ดูแย่จริง”  บีบีคุยผ่านสำนึกเทพ
ลินลี่ย์จะไม่รู้เรื่องนี้ได้ยังไง?
 “ลินลี่ย์, ก็แค่ให้เสื้อผ้าพวกเขาไป”  เดเลียส่งสำนึกเทพกระตุ้นเตือนเขา  ลินลี่ย์คิดอยู่ครู่หนึ่ง เดเลียชอบชุดเสื้อผ้านี้อย่างมากแน่นอน และเขาควรจะรักษาเอาไว้เพื่อนาง  แต่เห็นได้ชัดว่าฝ่ายตรงข้ามมาจากเบื้องหลังที่ทรงพลังอำนาจ
ลินลี่ย์ตัดสินใจว่าเขาอาจต้องกล้ำกลืนความโกรธในตอนนี้
 “ขอโทษนะ เดเลีย!  ลินลี่ย์มองดูเดเลียที่หัวเราะพลางส่ายศีรษะ
เมื่อเห็นเช่นนี้ ชายชราผมหงอกหัวเราะ ขณะที่บุรุษหนุ่มผมแดงแค่นเสียงเยาะเย้ยเช่นกัน
 “เฮอะ, ตอนนี้สายไปแล้ว!  ชายชราผมหงอกแค่นเสียงพูดอย่างอารมณ์ไม่ดี  “เราไม่ต้องการจ่ายให้เจ้าแม้แต่แดงเดียว  เจ้าจะให้หรือไม่?”  ชายชราผมหงอกโกรธอยู่เต็มอก  ในฐานะที่เป็นสมาชิกของตระกูลแบล็คชอว์ จะให้เขากล้ำกลืนอารมณ์ตนเองได้อย่างไร?
 “อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้ามอบให้เราในตอนนี้   เราจะยอมไว้ชีวิตเจ้าก็ได้”  ชายชราผมหงอกพูดเหยียดหยาม
 “แม่มันเอ๊ย...ฝันไปเถอะ”  บีบีโกรธจนไม่รู้จะพูดยังไง
ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะ  เป็นหัวเราะที่เกิดจากความโกรธ!
เขาเองยินดีกล้ำกลืนความโกรธและยอมยุติสถานการณ์นี้  แต่คนพวกนี้ยังถือว่าเขาเป็นเป้าหมายอ่อนแอ สามารถรังแกได้ง่าย
 “นี่เกิดอะไรขึ้นกับปราสาทเสรีกันแน่?  เมื่อมีการจับจ่ายซื้อของที่นี่ เรายังถูกคุกคามกดดัน และบังคับให้เราต้องมอบสิ่งของโดยไม่ได้รับการชดเชย  ปราสาทเสรีแห่งนี้ไม่มีอิสระเสรีแม้แต่น้อย!  ดูเหมือนชื่อเสียงของเกาะมิลัวร์แห่งนี้คงเป็นของปลอม  ทหารประจำเกาะเหล่านี้ไม่ต่างอะไรกับไม้ประดับ!  เสียงของลินลี่ย์กึกก้องไปทั้งชั้นสี่
ทันใดนั้นลูกค้าอื่นๆ มองตรงมาทางพวกเขากันหมด
สีหน้าของทหารประจำเกาะทุกคนดูบิดเบี้ยวเหยเกทันที  หน้าของคุณชายไซเคิลแห่งตระกูลแบล็คชอว์ยิ่งดูน่ากลัวเช่นกัน  กฎของเกาะมิลัวร์ได้รับสืบทอดมาแต่ครั้งโบราณกาล  ในปราสาทเสรี  ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ต่อสู้ ไม่สำคัญว่าพวกเขาเป็นใคร
ใครฝ่าฝืนกฎนี้จะต้องถูกสังหาร
ถ้ากฎถูกทำลาย  ในอนาคตใครจะกล้ามาทำธุรกิจที่นี่?
 “คุณชายไซเคิล  เรื่องนี้รับมือไม่ง่าย”  บุรุษหนุ่มผมทองที่เป็นผู้จัดการทั่วไปคุยผ่ายสำนึกเทพ  คุณชายไซเคิลผู้หยิ่งยโสก็รู้ว่าอะไรสำคัญ อะไรไม่สำคัญ เขาเหลือบมองกลุ่มของลินลี่ย์ และพูดอย่างใจเย็น  “ไปกันเถอะ!” ขณะที่พูด เขานำคนจากไป
บุรุษหนุ่มผมทองผู้จัดการทั่วไปมองดูลินลี่ย์ จากนั้นใช้สำนึกเทพพูดกับเขา  “เด็กน้อย! ระวังตัวไว้ให้ดี!  เจ้าล่วงเกินไซเคิลในเกาะมิลัวร์ก็หมายความว่าเจ้ายังปลอดภัยอยู่ในปราสาทเสรีเท่านั้น  แต่ทันทีที่เจ้าออกจากปราสาท...” และเพียงแค่นั้นบุรุษผมทองก็จากไป
ทหารประจำเกาะเหล่านั้นค่อยจากไปจนหมดเช่นกัน
 “คนพวกนั้นหาเรื่องเกินไปจริงๆ”  บีบีไม่อาจระงับอารมณ์ได้
 “ลินลี่ย์,  ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง”  เดเลียพูดเบาๆ
ลินลี่ย์บีบมือเดเลียแน่นและส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ความผิดของเจ้า  ในแดนนรกบางครั้ง ถ้าเราต้องทน เราก็จะทน  แต่ถ้าบางคนหาเรื่องเกินไป อย่างนั้นเราอาจต้องสู้กับพวกเขาบ้าง”  ลินลี่ย์หัวเราะเย็นชาภายใน  อย่างแย่ก็ทุ่มกำลังสู้กัน!
เขาสามารถใช้หยดพลังมหาเทพและเข่นฆ่าขนานใหญ่  มีอะไรต้องกลัว?
 “ไปกันเถอะ”  ลินลี่ย์กล่าว
ลินลี่ย์รู้ดีว่าเกาะมิลัวร์นั้น ตระกูลแบล็คชอว์ต้องมีกองกำลังที่ทรงพลังอำนาจแน่  อาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในห้าตระกูลที่ควบคุมปกครองเกาะมิลัวร์!  ลินลี่ย์ตัดสินใจว่าหลังจากซื้อของในปราสาทเสรีจบเขาจะเดินทางออกจากเกาะมิลัวร์!
 “เดิมทีข้าตั้งใจจะอยู่ดูการแข่งขันของโรมิโอนั้นต่ออีกเก้าวัน”  ลินลี่ย์ส่ายศีรษะและถอนหายใจ
กลุ่มของลินลี่ย์จงใจถ่วงเวลาชั่วขณะบนชั้นสามของปราสาทเสรี  แล้วค่อยมาถึงจุดนัดพบที่ตกลงไว้แต่เดิม  ตอนนี้คนครึ่งหนึ่งมารวมตัวกันที่นี่อีกครั้ง  กลุ่มของลินลี่ย์รอไม่ถึงชั่วโมง แอ็ชก็กลับมาสมทบ
 “ขอโทษ, ขอโทษที มีของหลายอย่างที่ปราสาทเสรีนี้ซึ่งปกติจะไม่มีขายที่ปราสาททรายดำหรือปราสาทเรดบุด  ดังนั้นข้าจึงต้องใช้เวลาเล็กน้อย”  แอ็ชรีบกล่าว
กลุ่มของลินลี่ย์รู้กันทุกคนว่าแอ็ชเป็นพ่อค้า  ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาต้องเวลานานมากไปบ้าง
 “ทุกคน, พวกท่านล่วงหน้าไปก่อนก็ได้”  ลินลี่ย์กล่าว
 “หือ?”  เบส, แอ็ชและอสูรคนอื่นมองดูลินลี่ย์ทันที
 “ในปราสาทเสรีแห่งนี้ เราล่วงเกินสมาชิกตระกูลแบล็คชอว์  ตอนนี้มีคนกำลังติดตามเรา  เพื่อความปลอดภัยของพวกท่าน  พวกท่านต้องออกไปก่อน  อีกอย่าง..พวกท่านสามารถไปที่ร้านอหารที่เรากินในครั้งก่อนได้ และเราจะกลับไปสมทบที่นั่นทั้งหมด  ถ้าเราไม่มาภายในหนึ่งวัน  พวกท่านสามารถไปก่อนได้เลย”  ลินลี่ย์พูดตรงๆ
เบสและพวกที่เหลือตกใจกันหมด  ในที่สุดทุกคนเลือกจากไปอย่างชาญฉลาด
อย่างไรก็ตาม เดเลีย บีบีและโอลิเวอร์รั้งอยู่กับลินลี่ย์
หลังจากรอคอยเป็นเวลานานให้คนอื่นจากไป  กลุ่มของลินลี่ย์ก็มุ่งหน้าตรงไปที่ทางออกของปราสาทเสรี  อย่างไรก็ตามที่ด้านหลังของกลุ่มลินลี่ย์ยังมีชายชราผมหงอกจ้องมองตามหลังกลุ่มของลินลี่ย์  “เจ้าล่วงเกินคุณชายของตระกูลแบล็คชอว์ของข้า แล้วยังต้องการมีชีวิตรอดจากไปอีกหรือ?”
ชายชราผมขาวก้าวตามออกไปทันที
 “เราออกมาแล้ว  ทุกคน, ระวังตัวด้วย”  ลินลี่ย์ก้าวออกจากปราสาทเสรี  แต่แล้วสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที
ที่สองข้างทางถนนใหญ่ มีคนมากกว่าสิบคนเข้ามาใกล้พวกเขาทันที  พวกเขาแบ่งเป็นสองแถวล้อมกลุ่มของลินลี่ย์ทันทีขณะเดียวกันก็กันลูกค้าคนอื่นของปราสาทเสรีออกไปด้วย
 “ฮ่าฮ่า, พวกเจ้ายังต้องการจะจากไปหรือ?”  บุรุษผมขาวเดินออกมาจากด้านนอก
ทันทีที่เขาออกมาจากปราสาทชั้นที่สี่  เขาจัดการให้ทหารสองคนของคุณชายนำเทพชั้นสูงไปดักรอที่ทางเข้า  ไม่ว่ายังไงก็ตามพวกเขาจะไม่ยอมให้กลุ่มของลินลี่ย์หนีไป เป็นเวลานานแล้วที่คุณชายไม่เคยต้องกล้ำกลืนความโกรธอย่างนี้
 “พี่ใหญ่, พวกเขาซุ่มคนรอทำร้ายเราจริงๆ”  บีบีกระซิบ
ลินลี่ย์ชำเลืองมองดูเทพชั้นสูงสองแถวทั้งสิบสองคน  เทพชั้นสูงเหล่านี้อยู่ห่างจากลินลี่ย์สิบเมตร  แต่สำหรับเทพชั้นสูง ระยะห่างสิบเมตรนับว่าไม่มีอะไรเลย  การต่อสู้สามารถเริ่มขึ้นได้ทุกเมื่อ
ขณะเดียวกัน จำนวนคนมากมายบนถนนรีบล้อมดูทันที  และพวกเขาทุกคนเริ่มพูดคุยถึงสถานการณ์
 “เทพชั้นสูงมากมายนัก รุมล้อมคนแค่ไม่กี่คนเองหรือ?”
 “คนแก่หัวขาวนั่นเป็นพ่อบ้านของตระกูลแบล็คชอว์  ข้าจำเขาได้ คนพวกนั้นชะตาขาดแล้ว  พวกเขาล่วงเกินตระกูลแบล็คชอว์”
เสียงพูดคุยดังขึ้น  แต่ลินลี่ย์ยังมีสีหน้าสงบ
 “เดินหน้าต่อไป”  ลินลี่ย์พูดผ่านสำนึกเทพ
กลุ่มลินลี่ย์สี่คนเดินตรงไปข้างหน้าทันที  โดยไม่มองเทพชั้นสูงทั้งสิบสองคนที่อยู่สองด้าน
 “เจ้ายังต้องการจะจากไปอีกหรือ!  เสียงตะโกนดังลั่น  ทันใดนั้นหนึ่งในเทพชั้นสูงบินเข้าหาลินลี่ย์  เห็นได้ชัดว่าเขารู้แล้วว่าลินลี่ย์เป็นแค่เทพแท้  ลำพังเขาคนเดียวก็เพียงพอจะจัดการเขาได้
 “ไสหัวไปให้พ้น!  ลินลี่ย์ให้ความสำคัญเทพชั้นสูงระดับทั่วไปเพียงเล็กน้อย
พลังเทพธาตุดินของเขาแผ่ออกและในทันใดนั้นพลังนั้นผลักร่างของเทพชั้นสูงนั้นออกไป  เทพชั้นสูงกำลังจะต่อยลินลี่ย์ด้วยอาวุธเทพที่เขาชักออกมา  แต่ก่อนที่เขาจะทันได้แตะตัวลินลี่ย์ เขากระดอนกลับออกมาด้วยพลังแรงผลักที่น่าทึ่ง  ขณะที่ลินลี่ย์เองยังคงเดินต่อไปข้างหน้า
 “เป็นไปได้ยังไง?”  เทพชั้นสูงจ้องมองตาค้าง
ชายชราผมหงอกสีหน้าเปลี่ยน  เขาตะโกนลั่น  “โจมตี!
ทันใดนั้นเทพชั้นสูงทั้งสิบสองคนกระโจนเข้าหากลุ่มของลินลี่ย์พร้อมกัน  แต่ขณะนั้นเองลินลี่ย์เป็นจุดศูนย์กลางแผ่รัศมีสีเหลืองออกไปเป็นวงรัศมีสิบเมตรทันที และกักเทพชั้นสูงทั้งสิบสองคนที่เข้ามาไว้ในนั้น
สนามพลังคุกศิลาดำ!
เทพชั้นสูงทั้งสิบสองคน เนื่องจากพลังโน้มถ่วงที่มากอย่างน่าประหลาดถูกดูดลงพื้นโดยตรง
 “เป็นแบบนั้นไปได้ยังไง?”  ทั้งสิบสองคนไม่มีโอกาสตั้งตัวเมื่อมีลมเสียงประหลาดเข้ามาในสำนึกของพวกเขา  นั่นเป็นเหมือนเสียงลมประหลาดที่ลินลี่ย์และคนอื่นเคยได้ยินในเทือกเขาอะเมทิสต์  วิญญาณของพวกเขาได้รับผลกระทบ  และทั้งสิบสองคนนั้นตกอยู่ในอาการมึนชา
 “ควั่บ!
ประกายกระบี่สีม่วงวาบขึ้นตัดคอของคนทั้งสิบสองคนราวกับกิลโยตินยักษ์
 “ปัง!  “ปัง!
ศีรษะของทั้งสิบสองคนระเบิด  และประกายเทพของพวกเขาร่วงหล่นอยู่บนพื้น
ทุกคนที่กำลังมองฉากภาพข้างหน้าประตูใหญ่ของปราสาทเสรีตกตะลึงกันหมด  ถนนที่เต็มไปด้วยความครึกครื้นก่อนหน้านี้พลันเงียบสงัดทันที คนที่รู้สึกประหลาดใจที่สุดก็คือชายชราผมขาวที่กำลังจ้องมองภาพข้างหน้าด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
เทพชั้นสูงสิบสองคนถูกสังหารในกระบี่เดียว?
 “เทพชั้นสูงธรรมดาเหล่านี้เข้ามาในสนามพลังคุกศิลาดำของข้า  วิญญาณของพวกเขาจะถูกสะกดให้ตะลึง พวกเขามีแต่ยืนนิ่งกับที่รอให้ข้าประหารชีวิต”  ลินลี่ย์ไม่ให้ความสำคัญกับคนเหล่านี้  เทพชั้นสูงนี้ตกอยู่ในอาการตะลึงเหมือนกับท่อนไม้ที่ไม่สามารถต่อสู้ตอบโต้ได้เลย
การฆ่าพวกเขาเป็นเรื่องที่ง่ายอยู่แล้ว!
 “ลินลี่ย์”  เดเลียมองดูลินลี่ย์ด้วยแววตาที่ตื่นเต้น  สตรีทุกคนชอบนักเมื่อเห็นชายคนรักของพวกนางแข็งแกร่งทรงพลัง
 “ไปกันเถอะ”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น
กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนยังคงเดินหน้าต่อไป  ขณะที่ในถนนใหญ่ กลุ่มคนมุงดูก่อนหน้านี้เปิดทางให้กลุ่มของลินลี่ย์ได้จากไป  ทุกคนที่เพิ่งได้เห็นดาบของลินลี่ย์ตอนนี้จ้องมองลินลี่ย์อย่างตะลึงระคนชื่นชม
ในแดนนรกผู้แข็งแกร่งย่อมได้รับการเทิดทูน!
 “เขาฆ่าเทพชั้นสูงทั้งสิบสองคนในกระบี่เดียว  ท่านผู้นี้ทรงพลังยิ่งนัก  เดิมทีข้าคิดว่าเขาเป็นแค่อสูรระดับเทพแท้เสียอีก”
 “เจ้าจะรู้อะไร?  ท่านผู้นี้ซ่อนพลังที่แท้จริงเอาไว้  เท่าที่ข้าดู  ท่านผู้นี้อย่างน้อยต้องเป็นอสูรหกดาว”
คนที่มองดูฉากภาพนี้พากันพูดคุยสนทนากันถึงเหตุการณ์นี้
 “น่ากลัวมาก!
ตอนนี้คุณชายไซเคิลบุรุษหนุ่มผมแดงผู้หยิ่งยโสพร้อมกับบุรุษผมทองปรากฏตัวที่ทางเข้าทั้งคู่  ความจริงนี่เป็นแผนการของไซเคิลแต่แรกเริ่ม  เขาต้องแอบมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นธรรมดา  ขณะนี้เองเขาตกตะลึงมองดูลินลี่ย์เดินหายลับตาไป
 “คุณชาย”  ชายชราผมขาวรีบกล่าว
แต่ไซเคิลเพียงแต่ขมวดคิ้วขณะที่เขามองดูบุรุษหนุ่มผมทอง  “คนผู้นี้ฆ่าเทพชั้นสูงสิบสองคนด้วยกระบี่เดียวอย่างง่ายดาย  ข้าคิดว่าเขาเป็นแค่เทพแท้คนหนึ่ง  อย่างนั้นเขาก็เป็นเทพชั้นสูงที่ซ่อนพลังที่แท้จริงไว้!  เจ้าบอกได้ไหมว่าพลังที่แท้จริงของเขาขนาดไหน?”
ไซเคิลรู้ดีว่าบุรุษหนุ่มผมทองทรงพลังขนาดไหน  ในฐานะผู้บัญชาการคุมกองกำลังพันนาย บุรุษหนุ่มผมทองมีพลังระดับอสูรหกดาว
ถ้าแม้แต่บุรุษหนุ่มผมทองไม่สามารถบอกได้ว่าคนผู้นี้ทรงพลังขนาดไหน  อย่างนั้นคนผู้นี้ก็น่ากลัวมากจริงๆ
 “ข้า...มองเขาไม่ออก!  บุรุษหนุ่มผมทองจ้องมองลินลี่ย์มาตลอดในช่วงเวลานี้  “คนผู้นี้ซ่อนพลังเอาไว้ แต่ข้ามองไม่ออกแม้แต่น้อย  และจากกระบี่โจมตีที่เขาเพิ่งใช้...ความจริง.. พลังกระบี่โจมตีไม่น่ากลัวขนาดนั้น  สิ่งที่น่ากลัวก็คือเทพชั้นสูงทั้งสิบสองคนดูเหมือนจะกลายเป็นซึมเซาโง่เขลา  ปล่อยให้กระบี่ฟาดฟันโดยไม่มีการต้านทาน!
 “ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าหลังจากที่สนามต่อสู้แล้ว ดูเหมือนยังจะมีนักสู้ระดับอสูรเจ็ดดาวโรมิโอปรากฏตัวขึ้น  แต่ยังมีนักสู้ระดับอสูรเจ็ดดาวอีกคนหนึ่งปรากฏตัวที่นี่อีกด้วย”  บุรุษหนุ่มผมทองมีสีหน้าเคร่งเครียด

11 ความคิดเห็น:

ชัชวาลย์ บุญฉาย กล่าวว่า...

ขอคุณครับ

Nut กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Flame กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ จะติดตามต่อไปคับ

ดุร้าย กล่าวว่า...

เมื่อไรจะได้โชว์พลังเต็มที่

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

WingF กล่าวว่า...

มาวัดกันไหมใครใหญ่กว่ากัน ลินลี่บอกไปตระกูลอะไร บีบีบอกไปหลานใคร หึหึ

Dearwy กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

minibull กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

มีงาน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับท่ามีเรื่องรับรองทีพวกมาช่วยอีกเพียบ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

แสดงความคิดเห็น