วันพุธที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 910 เทพอัคคีชี่เทียนเหอ


ตอนที่  910  เทพอัคคีชี่เทียนเหอ
แสงศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนคลุมไปทั้งตัวเสวี่ยอู๋เสีย

เสวี่ยอู๋เสียอยู่ในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่นคิดว่าแสงเทพศัพท์สิทธิ์คงแฝงไปด้วยข้อมูลความรู้ระดับเทพ ส่งผลให้เกิดความเจ็บปวดจนนางมิอาจว่อกแว่กได้เลย
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถูกพลังเทพที่ไม่สามารถต่อต้านได้ดันจนห่างออกไปถึงหนึ่งกิโลเมตรไม่สามารถเข้าใกล้เสวี่ยอู๋เสียได้  นอกจากนี้สิ่งที่นางกังวลที่สุดไม่ใช่การหลอมรวมกับประกายเทพของสาวหิมะเสวี่ยอู๋เสีย  แต่เป็นเป็นเย่ว์หยาง
พื้นดินสั่นสะเทือนประหนึ่งเกิดแผ่นดินไหว
ภูเขาน้ำแข็งถล่มพังทลายราบคาบ
ภูเขาน้ำแข็งที่แต่เดิมแตกสลายเอียงและทรุดถล่มลงมา และราวกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นกำลังจัดการกลิ้งภูเขามหึมาตรงมาทางเย่ว์หยางอย่างรวดเร็ว ภูเขาสูงระดับหมื่นเมตรกับพลังจัดการที่แปลกประหลาด ทำให้ภูเขาน้ำแข็งโบราณเล็งเป้าหมายมาทางเขา ถ้าเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด เกรงว่าคงได้ถูกทับกระดูกแตกหักแน่นอน
เย่ว์หยางมิใช่นักสู้ปราณก่อกำเนิดธรรมดา  เขาเป็นนักสู้ปราณราชันย์ และมีปณิธานปราณราชันย์ที่เหนือกว่าใครๆ
เขาตวัดฟันดาบจันทร์เสี้ยวระเบิดพลังในอากาศ กระบวนท่าที่หนึ่ง - ผ่าปฐพี
ปราณดาบผ่ามิติท้องฟ้าและฟันภูเขาน้ำแข็งขาดเป็นสองท่อน
ทั้งสองครึ่งเท่ากันพอดี แม่นยำยิ่งกว่าใช้ไม้บรรทัดวัด ภูเขาน้ำแข็งพอแยกเป็นสองส่วนพลังก็ลดน้อยลง ตรงกลางเกิดช่องว่างขนาดใหญ่กว้างร้อยเมตร กลิ้งผ่านเย่ว์หยาง เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทั้งสามคนไปอย่างง่ายดาย
ยอดภูเขาน้ำแข็งทิ่มลึกลงไปในพื้น และแรงระเบิดกวาดขยายไปทั่วพื้น พื้นหิมะน้ำแข็งกระเพื่อมสั่นสะเทือนเหมือนกับทะเล พลังลมกวาดไปทั่วบริเวณอย่างรุนแรง เศษน้ำแข็งนับล้านๆ ชิ้นสาดพุ่งราวกับพายุหิมะอย่างน่ากลัว พื้นน้ำแข็งสั่นกระเพื่อมกวาดไปไกลเป็นสิบกิโลเมตรจึงค่อยอ่อนกำลัง องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถือดาบอยู่ตรงกลางรอยแยกน้ำแข็งและอยู่ได้อย่างปลอดภัยเพราะสนามพลังสร้างโลกของเย่ว์หยางปกป้องไว้ แม้ว่าจะได้ยังเสียงระเบิดดังจนหูอื้อ แต่นางไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใดเหมือนกับยืนฟังอยู่ในที่ห่างไกล
เมื่อเห็นสถานการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่เพียงแต่ประหลาดใจกับพลังที่น่ากลัวของศัตรูเท่านั้น แต่นางยังยินดีกับการสลายพลังได้ของเย่ว์หยาง
มีแต่เขาที่รับมือได้อย่างง่ายดาย
ถ้าเปลี่ยนเป็นนางเอง นางคงเอาตัวรอดไม่ได้ เกรงว่าจะทำให้นางต้องพบกับความอับอาย
ในท้องฟ้ายังคงมีเศษน้ำแข็งที่คมตกร่วงลงไปที่เสวี่ยอู๋เสียซึ่งลอยอยู่ในอากาศโดยไม่รู้ตัว
นางมีพลังเทพป้องกัน พลังโจมตีใดๆ ทำอันตรายนางไม่ได้ในตอนนี้ แต่นั่นเป็นเพียงการยั่วยุ
เย่ว์หยางยิ้มเยาะเย้ยมุมปาก เขาไม่ต้องใช้ดาบจันทร์เสี้ยวแค่ชี้อย่างก็เดียวก็ระเบิดชิ้นส่วนน้ำแข็งคมที่โจมตีใส่เสวี่ยอู๋เสียจนกลายเป็นผุยผง
การยั่วยุแบบเด็กๆ นี้ไม่ใช่เป็นการโจมตีของศัตรู
ไม่ใช่การหลอกล่อ
อย่างมากก็เป็นการล่วงเกินเล็กน้อยเพื่อเป็นการถ่วงเวลา... เย่ว์หยางรู้ว่านี่หมายความว่าอะไร เขารู้ว่าศัตรูกำลังดิ้นรนอยู่ในผนึก พยายามทำลายผนึกเพื่อให้เป็นอิสระ  แต่เย่ว์หยางไม่โจมตี ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น  องค์เชี่ยนเชี่ยนก็ไม่โจมตี  นางถือดาบเทพจักรพรรดิอวี้อยู่ที่ด้านหลังเย่ว์หยางคอยระวังหลังของเขาอย่างสงบ เพื่อให้เขาสู้อย่างวางใจ
 “เจ้าคิดหรือว่าถ่วงเวลาได้นิดหน่อย จะทำให้นังมดแมลงน้อยดูดซับประกายเทพได้หรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า? อ่อนเดียงสาเกินไปแล้ว!  ในช่วงสองสามเดือน ด้วยพลังอย่างนาง  ก็ยังผสานหลอมรวมกับประกายได้ไม่สำเร็จ!  เสียงเหมือนเทพเจ้านั้น ทรงอำนาจไม่มีใดเทียบ
 “ข้าก็อยากจะบอกว่า ไม่ว่าเจ้าจะเป็นชี่เทียนเหอหรืออะไรก็แล้วแต่  เจ้ามันก็ดีแต่พูดไร้สาระ”  เย่ว์หยางตอบกลับ
 “ไม่ว่าเจ้าจะพูดยังไงก็ตาม เราจะไม่โจมตีโต้ตอบ  เจ้าต้องการใช้พลังของเราเพื่อทำลายผนึก”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนโต้เถียง
 “ฮ่าฮ่าฮ่า , เจ้าทำให้ข้าขำจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่แล้ว ข้ายังอยู่ในผนึก แต่นี่เป็นเพราะพลังเทพของข้ากล้าแข็งเกินไป  ยังไม่มีทางดึงออกมาได้ ข้าจึงยังออกไปทันทีไม่ได้ สำหรับมดแมลงอย่างพวกเจ้า ข้าแค่ใช้นิ้วก็ฆ่าพวกเจ้าได้ไม่ยาก ไม่ต่างอะไรกับการบี้มดแมลง!  ชี่เทียนเหอหัวเราะลั่น
 “ข้าน่ะหรือ? อย่างนั้นก็ลองดู!  เย่ว์หยางยักไหล่
เขาไม่เพียงแต่ไม่ให้ความสนใจชี่เทียนเหอเท่านั้น แต่ยังเก็บยอดเขาน้ำแข็งเข้าไปในโลกคัมภีร์
หากยังคงอยู่บนภูเขาน้ำแข็ง ก็ย่อมได้รับการปกป้องจากกฎสวรรค์  อย่างนั้นเย่ว์หยางคงไม่สามารถเก็บภูเขาน้ำแข็งเข้ามาไว้ในโลกคัมภีร์แล้วค่อยใช้พลังของมิติหลุมดำดูดกลืนเข้าไป
ตอนนี้มีความแตกต่างก็คือยอดภูเขาน้ำแข็งหักพังร่วงลงพื้นและไม่มีกฎสวรรค์คอยจำกัดเอาไว้  แม้ว่าเย่ว์หยางจะต้องเก็บพลังงานเอาไว้เพื่อจัดการกับศัตรูที่ทำลายผนึกออกมาแล้ว เขาไม่อาจดึงผนึกหลุมดำออกมาโดยใช้กฎสวรรค์น้อย  แต่ใช้วิธีทำลายยอดน้ำแข็งและเก็บเข้าโลกคัมภีร์  แต่นี่นับว่าไม่ทำให้เขาสิ้นเปลืองพลังงาน
การกระทำของเย่ว์หยางนี้ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะโกรธหรือไม่
สิ่งที่เกิดก็คือความเงียบ
หลังจากสะสมพลังไว้พอสมควรภูเขาน้ำแข็งสีทองปรากฏอีกครั้ง พร้อมกับเสียงดังปัง พายุก้อนน้ำแข็งนับหมื่นก้อนร่วงลงมาราวกับสายฝน
 “มังกรฟ้า”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่ต้องการให้เย่ว์หยางถูกกำจัด นางพุ่งออกมารับมือก่อน
ภาพของมังกรฟ้าปรากฏอยู่ที่ศีรษะนาง
ปราณกระบี่รูปเหมือนมังกร
อากาศหมุนอย่างลึกลับแตกต่างจากสายฟ้าของมังกรฟ้าครั้งก่อนที่ใช้ตรึงศัตรู นี่เป็นอุบายที่ชาญฉลาดมากกว่า ประกายรัศมีที่เกิดจากปราณกระบี่เหมือนกับมังกรฟ้าในท้องฟ้าค่อยๆ เลื่อนลงมาทีละฟุต และฟาดใส่น้ำแข็ง ผิวน้ำแข็งไม่ได้รับความเสียหาย
การทำเช่นนี้ได้ เมื่อนักสู้ระดับต่ำกว่าปราณฟ้าเห็นเข้าคงจะรู้สึกหวาดกลัว แม้แต่นักรบที่สูงกว่าระดับปราณฟ้าเห็นเข้าก็คงตะลึง
อย่างน้อยในระดับพลังปราณฟ้า เชื่อได้ว่านักรบปราณฟ้าระดับห้า หรือระดับราชาไม่สามารถทำเช่นนี้ได้  มันง่ายต่อการฟาดฟันก้อนน้ำแข็งจนแตกเป็นสองส่วน
แต่เหมือนกับว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่ต้องการจะทำลายก้อนน้ำแข็งนั้น แค่ทำให้มันหมุนปั่น
นั่นเป็นเรื่องที่ยากมาก!
ที่ยิ่งกว่านั้นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนใช้ปราณกระบี่และสายฟ้าซึ่งทำได้ยากเหลือเชื่อ
 “เฮอะ! ฝีมือธรรมดายังจะกล้าโอ้อวดอีกหรือ!” ซี่เทียนเหอที่ถูกผนึกอยู่ในภูเขาน้ำแข็งกล่าวเหยียดหยาม แม้แต่เขาก็ต้องยอมรับว่า คงเป็นไปไม่ได้ที่ตัวเขาเองจะทำได้ระดับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน  อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาได้ผ่านช่วงเวลานั้นไปแล้ว เขาเหนือกว่านั้นเป็นพันเท่าเมื่อมองย้อนกลับไป เขายิ่งรู้สึกว่าตนเองยิ่งใหญ่  เขาไม่ต้องการให้ความสนใจว่าพวกมดแมลงจะทำอะไรและแข็งแกร่งขนาดไหน  อย่างไรก็ตามพวกเขาเป็นแค่เพียงมนุษย์!
ผนึกในภูเขาน้ำแข็งยังไม่ยอมให้เขาหลุดออกมา แต่เขาแยกร่างสีทองออกมา
ร่างยักษ์สีทองสูงร้อยเมตรแทรกตัวออกมาจากภูเขาน้ำแข็งอย่างยากลำบาก เพราะเขากลัวว่าจะไปรบกวนพลังของผนึก  ขณะที่เขาแทรกตัวออกมาอย่างระมัดระวัง เขาพยายามออกมาตามทางแยกที่เย่ว์หยางได้ผ่าไว้ก่อนนั้น
เย่ว์หยางไม่ได้ห้ามเขา แค่แค่นเสียงออกมา  “หนูทองตัวใหญ่!
เมื่อเขาพูดเช่นนั้น องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่กำลังถือดาบเทพและมีสีหน้าเคร่งเครียดอดหัวเราะไม่ได้
หากไม่ดูรูปร่างดูแต่แค่ลักษณะช่องถ้ำของภูเขาน้ำแข็งอย่างระมัดระวัง  นั่นจะดูคล้ายกับหนูที่อยู่ในรู พลังยังห่างไกลจากเทพเจ้ามากมายนัก  แน่นอนว่าเมื่อร่างสีทองออกมาจากภูเขาน้ำแข็งได้ทั้งหมด ศักดิ์ศรีความเย่อหยิ่งภูมิใจของเขาจะได้รับคืนกลับมา รัศมีบนศีรษะของเขาเฉิดฉันเหมือนดวงอาทิตย์ยากที่ใครจะมองได้
บางทีก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงเย้ยหยันของเย่ว์หยาง เงาหน้าสีทองถลึงตามองเขาด้วยความโกรธ
เขาผลักมือออกมาข้างหน้า
ฝ่ามือสีทองเปล่งประกายเรืองรอง
นิ้วยักษ์ทั้งห้ามีสีทองค่อยๆ รวบเข้าหากัน... ล้อมกั้นเย่ว์หยางและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไว้ในระยะร้อยเมตร ทันใดนั้นพลังห้าสายที่น่ากลัวไหลเข้ามารวมกันอย่างรวดเร็ว  น้ำแข็งโดยรอบพูนขึ้นเหมือนถูกตักด้วยพลั่วขึ้นมาโดยตรงแล้วบีบอัดเข้ามาอย่างรวดเร็วโดยมีเย่ว์หยางเป็นจุดศูนย์กลาง  ก้อนน้ำแข็งบนพื้นถูกลากไปด้วย และพุ่งเข้ามาบีบอัดเย่ว์หยาง กลายเป็นก้อนน้ำแข็งปั้นขนาดใหญ่ มีร่างเย่ว์หยางและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนถูกอัดอยู่ภายใน
 “ทำลาย!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนควงดาบเทพด้วยสองมือและใช้ปราณดาบฟันนิ้วทั้งห้าที่เกิดจากน้ำแข็ง
บึ้ม บึ้ม บึ้ม!
นิ้วน้ำแข็งถูกตัดออกทั้งหมด ทำให้พลาดโอกาสในการฆ่าเย่ว์หยาง
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยังใช้ท่าดาบไม่เสร็จสิ้น นางหมุนตัวครึ่งรอบและเสียบดาบเทพลงบนพื้นมือน้ำแข็ง  ดาบขยายขนาดอย่างรวดเร็ว พื้นใต้เท้านางเกิดแรงระเบิด
พลังบีบที่พื้นเหมือนกับฟองสบู่ที่ถูกเข็มแหลมแทงใส่
แตกออกในทันที
พลังนั้นสลายไปจนมองไม่เห็น... แม้ว่านิ้วมือสีทองจะบีบรวบรัดเข้ามา แต่พลังร่างเงาของชี่เทียนเหอก็ทำอะไรไม่ได้  แม้พลังดาบตอบโต้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจะทำลายชี่เทียนเหอไม่ได้  แต่ก็ยังฟันนิ้วทั้งห้าของเขาได้!  นี่คือพลังพยัคฆ์ขาวศักดิ์สิทธิ์ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน เป็นพลังสังหารที่ไร้ลักษณ์เงียบเชียบ
 “ถ้าเจ้าคิดว่าสามารถทำลายพลังนั่นได้  ข้ายินดีจะบอกให้ก็ได้ว่า เจ้าเข้าใจผิดมหันต์”  ประกายเงาสีทองกลับฉายรัศมีสว่างดุจดวงอาทิตย์
เพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ใกล้เคียงกับพลังกุ่ยหยินไฟยิงออกมาจากรัศมีแสงสีทองทั้งหมด
มันแตกต่างจากพื้นฐานของกุ่ยหยินไฟ
พลังไฟเทพที่ไม่รู้จักนี้ปะทุระเบิดพลังเผาผลาญออกมาอยู่ตลอดเวลา ไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงเลย ประกอบกับมีสายฟ้าสีทองดังสนั่นอยู่ตลอดเวลา เย่ว์หยางเห็นเพลิงเทพนี้แล้ว เขาแอบเปรียบเทียบกับกุ่ยหยินไฟ และมันดูไม่น่าทึ่งเท่าใดนัก  ดูเหมือนว่าเขาจะทำความเข้าใจเรื่องคาใจอะไรบางอย่างได้ทันที ทำให้สีหน้าของเขามีแววโล่งอก
ไม่ใช่เพียงแต่เขาเท่านั้น  แม้แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็ลอบพยักหน้าให้ และดูเหมือนว่านางก็มีความเข้าใจเช่นกัน
แสงสีทองกลายเป็นยักษ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์ พื้นน้ำแข็งถูกไฟขับไล่ออกไป จนกระทั่งพื้นที่ในรัศมีสีทองไม่มีอะไรอยู่ภายในนั้น
ฝ่ามือยักษ์ที่ถูกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทำร้ายก่อนนั้น ใช้ไฟศักดิ์สิทธิ์เยียวยารักษาแล้ว และในฝ่ามือของเขา ไม่เพียงแต่ไฟศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น
แต่ยังมีพลังระเบิดเหมือนภูเขาไฟอีกด้วย
 “ความจริงพลังศักดิ์สิทธิ์ของข้าชี่เทียนเหอไม่ใช่พลังน้ำแข็งแม้แต่น้อย  แต่กลับเป็นพลังไฟ ภายใต้พลังเพลิงเทพของข้าชี่เทียนเหอ ไม่มีอะไรในโลกที่จะต้านทานได้  ปณิธานของข้าคือต้องแผดเผาโลกนี้ให้หมด!  พวกมดแมลงที่น่าสมเพชจะต้องถูกข้าชี่เทียนเหอลงโทษ ฮ่าฮ่าฮ่า เมื่ออยู่ต่อหน้าเทพเจ้า  การดิ้นรนต่อสู้ของพวกเจ้าไม่มีความหมาย  มีแต่จะหาความทรมานใส่ตัว  พวกเจ้าไม่ต้องพูดอีกแล้ว!  ทันทีที่มือสีทองชูขึ้น พลังเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวก็พวยพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า
 “......”  เย่ว์หยางพูดไม่ออก  แม้ว่าเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้ไฟ ทั้งยังมีเพลิงอมฤตที่สามารถแผดเผาทุกอย่างในโลกนี้ได้  แต่เขาไม่ถือสาที่จะให้ศัตรูหยิ่งผยองไปชั่วคราวก่อน  พวกหัวหน้าใหญ่มักจะตายด้วยความเย่อหยิ่งผยองไม่ใช่หรือ?

7 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณหลายๆ..ขอให้มีความสุขมากๆกับปีไหม่..อิอิ

Unknown กล่าวว่า...

....สติดีอยู่รึเปล่าว่ะ? โม้เรื่องเพลิงกับคนที่ถือครองเพลิงอมฤตเนี่ยนะ เฮียตบมันให้หัวทิ่มกองมูลสัตว์เลย!!!

ulomzx กล่าวว่า...

มานมาเพิ่มพลังไฟให้กับเย่ว์หยางอีกแล้ว

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

แอบอ่าน กล่าวว่า...

ได้พลังเพื่มทั้งผัวทั้งเมียเลยสบาย

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆครับ

แสดงความคิดเห็น