ตอนที่ 911
แผนนี้ไม่เหมาะกับเจ้า
“จงร้องเข้าไป จงสั่นเข้าไป เจ้าพวกมดแมลงเอ๋ย!”
เงาร่างทองเงื้อมือทั้งสองขึ้นและกดลงกระแทกพื้นอย่างหนักหน่วง
เปลวไฟนับพันสายลุกพรึ่บจากใต้น้ำแข็ง
เปลวไฟสองสายที่ใหญ่ที่สุดสองสายปรากฏที่เท้าของเย่ว์หยางและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
เย่ว์หยางตอบสนองอย่างรวดเร็ว เมื่อเปลวเพลิงปะทุขึ้นจากฝ่าเท้าของเขา
เขาพลิกตัวตวัดเท้าเตะอย่างง่ายดายหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการระเบิดได้ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแตกต่างออกไป
นางไวกว่าเย่ว์หยาง ไม่ทราบว่าด้านหลังของนางมีปีกของหงส์เพลิงตั้งแต่เมื่อใด ขณะที่เปลวเพลิงระเบิดแล้วก็หายไป
นางมาปรากฏด้านหลังเงาทอง
ดาบเทพจักรพรรดิอวี้หวดฟันเข้าทันที
พลังดาบมีอานุภาพฉีกฟ้าทลายดิน
อย่างไรก็ตามพลังดาบนี้สามารถฆ่านักสู้ปราณฟ้าได้อย่างง่ายดาย แต่เงาสีทองใช้นิ้วเดียวก็ต้านรับได้
เมื่อเห็นร่างแยกของชี่เทียนเหอใช้นิ้วต้านรับไว้ได้
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทุ่มเทพลังใช้ดาบเตรียมต้านรับการโจมตีตอบโต้
“บังอาจล่วงเกินเทพเจ้า เจ้าต้องรับอาญาสวรรค์!”
ชี่เทียนเหอถลึงตามองด้วยความโกรธและโจมตีตอบโต้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
หน้าขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเปลี่ยนไปทันที
ร่างของนางเหมือนถูกพลังที่มองไม่เห็นโจมตีกระเด็นพุ่งออกไปราวกับดาวตกและกระแทกกับผนังของภูเขาน้ำแข็ง
นางสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด
โชคดีที่ดาบเทพจักรพรรดิอวี้ต้านรับพลังส่วนใหญ่ไว้ได้ มิฉะนั้นนางอาจจะบาดเจ็บสาหัสจนหมดสติได้ทันที
พลังน่ากลัวมาก
อย่างไรก็ตามชี่เทียนเหอยังคงมีสีหน้าปกติและแค่นเสียงเย้ยหยัน “มดแมลงตัวน้อย!”
เผียะ
พอพูดจบประโยค
ชี่เทียนเหอถูกตบหน้าทันที
แม้ว่าพลังตบหน้านี้ไม่ได้ใช้แรงที่หนักหน่วง
แต่ก็เพียงพอทำให้เขาอับอาย
โดยเฉพาะด้วยศักดิ์ศรีของชี่เทียนเหอที่ชอบอวดอ้างตัวว่าเป็นเทพเจ้ารู้สึกขายหน้าอย่างไม่มีใดเปรียบ
ถึงแม้จะเป็นร่างมายาของเขา แต่ถูกมนุษย์ตบหน้าได้นับเป็นเรื่องน่าอายขายหน้า
ชี่เทียนเหอค่อยๆ หันหน้ากลับมา และพบว่าเย่ว์หยางกำลังยิ้มหยันเขา
ที่ทำให้ชี่เทียนเหอรู้สึโกรธที่สุดก็คือเย่ว์หยางไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งนั้น “หน้าใหญ่อย่างนี้ ตบได้สะใจดีจริงๆ!”
“ตาย!”
ชี่เทียนเหอโกรธจนถึงขีดสุด
เขาระเบิดไฟศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง
เปลวเพลิงพุ่งขึ้นไปบนฟ้าฝ่ามือของร่างมายาทองตบเข้าด้วยกันเหมือนกับตบยุง
เขาต้องการใช้ฝ่ามือยิงพลังเผาผลาญเย่ว์หยางทั้งเป็น ภาพเงาเย่ว์หยางหายไปพุ่งเหมือนดาวตกไปอยู่กับพื้น
ร่างเงามายาสีทองสูงร้อยเมตร แม้จะทรงพลัง
แต่เมื่อเทียบกับเขาดูเหมือนจะเป็นการโง่เล็กน้อย
เขาไม่สามารถยิงพลังใส่เย่ว์หยาง ชี่เทียนเหอย่ำเท้าเหยียบพื้นซ้ำทันที
แรงระเบิดทำให้ชั้นน้ำแข็งในระยะหมื่นเมตรสั่นสะเทือนและละลาย
เย่ว์หยางอยู่ในอากาศเหมือนกับจะตะลึง
เงามายายักษ์ใช้ไฟเผาผลาญและกดอัดพลังลงอย่างหนักหน่วง
“บึ้ม!”
เย่ว์หยางปล่อยให้มือยักษ์ที่มีไฟเผาผลาญโจมตีตนเองลึกลงไปอย่างน้อยร้อยเมตร
พื้นน้ำแข็งละลาย
ชั้นน้ำแข็งปรากฏลายนิ้วมือขนาดใหญ่ลึกรุนแรงขนาดเผาโลกจนดำได้
ชี่เทียนเหอควบคุมร่างมายาพลังงานและย่ำเท้าอัดพลังไฟศักดิ์สิทธิ์ให้ทะลุทะลวงลงไปข้างล่าง
รอจนเขายกเท้าขึ้น
พลังเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่กดอัดจนถึงขีดสุดทำให้พื้นดินในบริเวณใกล้เคียงรับแรงอัดไม่ไหวกลายเป็นเปลวไฟระเบิดพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า ลาวาติดไฟนับไม่ถ้วน และร่างเงาที่มองเห็นแต่นัยน์ตาเหาะขึ้นไปในอากาศทันที
“มนุษย์ที่บังอาจทำให้เทพเจ้าพิโรธ
จะต้องตายภายใต้อาญาสวรรค์”
ชี่เทียนเหอควบคุมเงาร่างมายาสีทองด้วยมือข้างเดียว
แม็กม่าที่พุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าและพลังเทพควบรวมกันทันที
กลายเป็นกลุ่ม
เมื่อถึงระดับที่ทนในสภาพนั้นไม่ได้ จึงระเบิดกลายเป็นฝนเพลิงพร่างพรมลงบนพื้น
ชี่เทียนเหอรู้สึกได้ว่าเขาได้ทำลายสังหารสิ่งมีชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ความโกรธในใจของเขาลดลงเล็กน้อย แต่เขายังต้องการทรมานต่อไปนานๆ
แต่อีกฝ่ายหนึ่งอ่อนแอเกินไป
ที่สำคัญนั่นเป็นแค่มนุษย์น้อยธรรมดา!
รอจนเขาค่อยๆ
ถ่ายเทพลังไปที่ร่างมายาสีทอง ต่อไปเขาจะฆ่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
เขาตกตะลึงเมื่อพบว่าเจ้ามดแมลงที่ควรจะถูกฆ่าตายไปแล้วยังคงมีชีวิตอยู่...
ไม่เพียงแต่มีชีวิตเท่านั้น แต่เขายังคงย่างปิ้งปีกไก่กินหน้าตาเฉย
เย่ว์หยางใช้ส้อมจิ้มปีกไก่ขณะกำลังย่างที่ขอบเปลวไฟได้ยินเสียงดังฉ่า “ปีกไก่ย่าง...หอมน่ากินเป็นบ้า!” พูดอย่างนี้เหมือนกับต่อยหน้าเขาโดยตรง ชี่เทียนเหอมองดูเขาโกรธจนแทบกระอักเลือด
“ให้ข้าชิมบ้าง”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเข้ามสมทบ
ตอนนี้นางเริ่มรู้จักวิธีร่วมมือกับเขา
“ทนรอหน่อย
ยังมีสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ที่ยังไม่ระเบิดออกมา!”
เย่ว์หยางพูดไม่ทันจบมือมายาของยักษ์ทองพุ่งเข้ามาทันที
ชี่เทียนเหอไล่จับเย่ว์หยางกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
ทั้งตวาดด่าและทำลายพื้นที่รอบๆ
แต่ก็ทำอะไรพวกเขาไม่ได้
เหมือนกับว่าเขาพบว่าฝ่ายตรงข้ามก็มีพลังแข็งแกร่ง
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกับเย่ว์หยางไม่ได้ต่อสู้จริงจัง แค่ผลัดเปลี่ยนสลับกันเข้าต่อสู้ ผลที่ออกมาไม่เลว
ชี่เทียนหอไม่โกรธเท่าใดแล้ว แต่ทั้งสองทำเป็นไม่สนใจปิ้งปีกไก่อยู่ที่กลางพื้น
อย่างไรก็ตามเวลาผ่านไปไม่นาน
เงามายาสีทองก็หยุดเคลื่อนไหวทันที
เย่ว์หยางและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมองหน้ากับและก้าวไปด้านข้างอย่างเงียบงัน
ตอนแรกเย่ว์ใช้ดาบจันทร์เสี้ยวเขี่ยเงามายาสีทองและพบว่ามันไม่เคลื่อนไหว
เขาดีใจและทำสัญญาณมือบอกใบ้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนให้ใช้ดาบเทพฟันใส่ได้โดยไม่ต้องเกรงใจเขา
“ข้าจะฟันเอง ฟัน ฟันเข้าไป” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟันใส่ไม่เลือกที่ น่าเสียดายแม้จะมีดาบเทพอยู่ในมือ
แต่ร่างมายาของฉีเทียนเหอทรงพลังมากเกินกว่าจะเกิดอาการบาดเจ็บจากการฟัน
ก็แค่ทำให้เกิดรอยไหม้ที่ตัวด้านนอกเท่านั้น
เย่ว์หยางเห็นแล้วอดหงุดหงิดไม่ได้ “โอว
โง่จริงๆ ฟันใส่ตรงๆ แบบนี้ เจ้าทำอะไร?
ขายหน้าจริงๆ! ให้ฟันนิ้ว หรือไม่ก็เท้า!”
เมื่อได้ยินคำวิจารณ์ของเย่ว์หยาง
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเถียงด้วยความขัดเคืองใจ “ข้ารู้ว่าจะทำยังไง
ก็หนังหน้าเขาหนามาก”
ด้วยการสนับสนุนจากพลังสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์
ดาบเทพจักรพรรดิอวี้และดาบจันทร์เสี้ยว ต้องใช้ความสามารถกว่าจะตัดนิ้วของเงาปีศาจสีทอง
เย่ว์หยางไม่คำนึงถึงไฟที่กำลังไหม้
เขาเก็บขึ้นมาดูด้วยความดีใจ
เพียงหนึ่งวินาทีหลังจากเขาถือนิ้วขึ้นมาดู
พลังของร่างเงามายาทองทั้งหมดก็แยกกระจายหายกลายเป็นจุดแสงทองนับไม่ถ้วนลอยกลับไปหาร่างของชี่เทียนเหอ ภูเขาน้ำแข็งพังทลายไปส่วนหนึ่ง ก็ยิ่งพังทลายมากขึ้น ภูเขาน้ำแข็งสั่นสะเทือนทั้งหมดจนถึงยอดราวกับถึงวันสิ้นโลก
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนใช้ดาบวิเศษฟันยอดน้ำแข็งที่ร่วงลงมาหาพวกเขา
เย่ว์หยางยืนอยู่บนพื้นใช้โลกคัมภีร์รับและเก็บหิมะน้ำแข็งไว้ข้างใน
ถ้าชี่เทียนเหอให้ความสนใจ
เขาจะพบว่าเย่ว์หยางจะไม่ลืมเก็บก้อนน้ำแข็งที่ร่วงหล่นลงมาเข้าไปไว้ในโลกคัมภีร์ทุกครั้ง
“พวกเจ้าทั้งคู่เป็นมดแมลงที่น่าเกลียด
ความตายกำลังมาเยือนพวกเจ้าแล้ว!”
เสียงตวาดคำรามดังจนแก้วหูอื้อดังออกมาจากในภูเขาน้ำแข็ง ชิ้นน้ำแข็งแตกน้ำพันชิ้นสั่นสะเทือนและปลิวขึ้นไปในอากาศกลายเป็นกระสุนพุ่งเข้าใส่เย่ว์หยางและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน ภูเขาน้ำแข็งพอระเบิดก็มีช่องว่างขนาดใหญ่
และมีมนุษย์ตัวสว่างเหมือนดวงอาทิตย์กำลังดิ้นรนเหมือนกับพยายามจะดิ้นรนให้หลุดจากผนึกของภูเขาน้ำแข็ง
ไม่ทราบว่าผนึกนั้นทำมาจากอักขระรูนชนิดใด
มันอยู่ลึกลงไปในก้นบึ้งน้ำแข็ง ส่องประกายรัศมีสว่างพอๆ กับชี่เทียนเหอ
พลังของชี่เทียนเหอที่ได้รับจากร่างอวตารสีทองทำให้ร่างหลักพลังเพิ่มทันที
เพลิงศักดิ์สิทธิ์ทรงพลังมากกว่าเดิมถึงสิบเท่า
ร่างในผนึกนั้นดิ้นรนอย่างรุนแรงจนแขนเป็นอิสระ แน่นอนว่าแค่หักแขนข้างหนึ่ง
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า พวกเจ้ามันโง่เขลาเสียจริงๆ! หากเจ้ากล้าพอจะขึ้นมาผนึกข้าซ้ำอีก
อย่างนั้นข้าคงไม่สามารถหลุดออกจากผนึกได้ไปอีกเป็นหมื่นๆ ปี อย่างไรก็ตาม
พวกเจ้าไม่เพียงแต่ทำลายภูเขาน้ำแข็งและหลังจากรับประกายเทพผู้พิทักษ์ของโหย่วหลาน
แม้แต่ตอนนี้ที่ข้าจู่โจมเพื่อถ่วงเวลา พวกเจ้าก็ทำตัวเป็นเต่าหดหัว กลัวการมาแตะต้องข้า
ฮ่าฮ่าฮ่า โง่จริงๆ สักวันข้าชี่เทียนเหอจะได้รับการปลดปล่อย ดีเลยเพื่อไม่ให้ข่าวความโง่เขลาและน่าอับอายของพวกเจ้าต้องกระจายออกไป ข้าตัดสินใจมอบความตายให้พวกเจ้า”
ชี่เทียนเหอที่มือหักไปข้างหนึ่งแค่นเสียงอย่างเยือกเย็น เหมือนกับว่าสิ่งที่เขาพูดไปด้วยความยโสลำพองนั้นไม่มีอะไร ตอนนี้เขากำลังย่ามใจกับชัยชนะ!
“หยุดพล่ามเหลวไหลเสียที เจ้าต้องการถ่วงเวลาไม่ให้เราลงมือ ทำไมเราต้องคิดว่าเจ้าฉลาดที่ปล่อยให้คนอื่นมีชีวิต?
ความจริงลิงอุรังอุตังที่เพิ่งหาวิธีเรียนรู้ขนกล่องมาต่อๆ
กันจนเก็บกล้วยมากินได้ พวกมันก็หัวเราะภูมิใจเหมือนเจ้านี่แหละ!
พวกลิงซิมแปนซีก็เรียนรู้วิธีเดินยืดตัวพอทำได้ มันก็หัวเราะอย่างนี้แหละ
สำหรับพวกที่ไม่มีพัฒนาการ นี่เป็นเรื่องยากเกินไป!” เย่ว์หยางสอนฝ่ายตรงข้ามอย่างจริงจัง
“คิกๆ..”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกลั้นหัวเราะไม่อยู่
เย่ว์หยางขณะสั่งสอนให้บทเรียน เขาไม่เคยสับสนเป็นรองใคร
เขากอดเสวี่ยอู๋เสียที่อาบไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์และจวนจะหมดสติลง
จากนั้นส่งให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนส่งสัญญาณให้พวกนางถอยไปอีกเล็กน้อย
เพื่อให้เขาได้ใช้ฝีมือ
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนได้แต่บอกให้เขาระวังตัว
เย่ว์หยางแค่ใช้ฝ่ามือลมดันพวกพวกนางห่างออกไปอีกหนึ่งกิโลเมตร
ขณะที่นางถอยห่างออกไปพร้อมกับเสวี่ยอู๋เสีย
เย่ว์หยางก็วิ่งเข้าไปปะทะกับชี่เทียนเหอ
และฉวยโอกาสใช้ดาบจันทร์เสี้ยวด้วยอานุภาพปานฟ้าถล่มดินทลาย
ในขณะเดียวกันชี่เทียนเหอยืดแขนยาวเหยียด
เหมือนกับเป็นอาวุธวิเศษ
พุ่งตรงมาที่หัวใจของเย่ว์หยาง...
ฉัวะ...
ที่หน้าอกเย่ว์หยางมีรอยแผลห้าสายเลือดพุ่งกระฉูด
และเขาเกือบถูกชี่เทียนเหอฆ่าเสียแล้ว
เขาวิ่งเข้าหาอย่างดุดัน ชี่เทียนเหอตอนแรกใช้แขนเหมือนกับผานฉาน
(นักรบจากเผ่าเก้าแสง) ขดเหมือนโล่งูป้องกันอยู่ข้างหน้า
ส่วนนิ้วทั้งห้ายืดยาวไล่ตามเย่ว์หยาง บางครั้งก็หมุนเป็นวงในท้องฟ้าเหมือนกางตาข่ายไม่ให้เย่ว์หยางหลบได้
แต่พลังดาบของเย่ว์หยางหายไปไม่เหลือร่องรอย
เหมือนกับว่าเย่ว์หยางไม่เคยอยู่ตรงนั้น
เขาเข้าไปในผนึกได้
เหมือนกับว่าเขาไม่ได้โจมตีชี่เทียนเหอ
แต่เข้ามาหาความตายเสียมากกว่า
เจ้าเด็กนี่ต้องการทำอะไร?
ชี่เทียนเหอยังคงนิ่ง บอกตามตรงว่าเขาไม่กลัวการต่อสู้
แต่แม้ว่าแขนของเขาจะมีอิสระอยู่เพียงข้างเดียว
แต่เจ้าเด็กนี่ไม่มีทางจะเอาชนะเขาได้
แม้ว่าจะโจมตีอย่างดุร้ายมากขึ้น
อย่างนั้นมีแต่จะทำให้ผนึกหลุดเร็วขึ้น
ยิ่งตั้งใจทำเช่นนั้น เขาก็ยิ่งพอใจ
แต่เจ้าเด็กนี่ไม่ยอมต่อสู้แม้แต่น้อย
แต่กลับมุดเข้าไปในผนึกแทน เขาต้องการทำอะไรกันแน่!-!
5 ความคิดเห็น:
นั่นสินะ เย่ว์หยางจะทำอะไร
ปล่อยหลุมดำออกมาดูดเลย เอาไปไห้เจ้
ขุดรัง
มุดเข้าไปในผนึกแล้วเผาเทพทิ้งด้วยไฟอัมฤทธิ์
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น