วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 916 เริ่มต้นอมตะ สุดท้ายถูกทำลายจนได้


ตอนที่  916  เริ่มต้นอมตะ สุดท้ายถูกทำลายจนได้
เย่ว์หยางระดมโจมตีตอบโต้ชี่เทียนเหอเป็นพายุบุแคม
ตอนเริ่มแรกยังไม่เร็ว
 
แต่ความเร็วค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น และในที่สุดกำปั้นของเขาก็แน่นขนัดเหมือนกับสายฝน และมีแรงอัดกระแทกผลักดันอย่างต่อเนื่อง ชี่เทียนเหอจำไม่ได้ว่าเขาโดนไปกี่หมัด
ถ้าเขาไม่มีร่างเทพ  ชี่เทียนเหอรู้สึกว่า แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นเป็นสองเท่า เขาคิดว่าคงจะทนรับไม่ได้  วงจักรนิรันดรกระพริบถี่ขึ้นไปตามเวลาโดยไม่รู้ตัว และทันทีที่วงจักรหายไปทั้งหมด ชี่เทียนเหอไม่สามารถหลบได้ แต่เขาฝืนใช้ฝ่ามือรับพลังหมัดที่ระดมโจมตีเป็นห่าฝนและจับหมัดของเย่ว์หยางไว้ได้  “เจ้าเล่นพอหรือยัง?”
เขาคว้าจับหมัดของเย่ว์หยางไว้ด้วยมือทั้งสอง และร่างของเขาเร่งพลังเทพไม่มีขอบเขตจำกัดเพิ่มขึ้น
เขาดึงเย่ว์หยางขึ้นจากพื้น
จากนั้นทุ่มลงมาที่พื้นอย่างรุนแรง
พื้นที่มิติแตก ชี่เทียนเหอสะบัดศีรษะอย่างแรง พลังที่ไร้ต่อต้านอัดกระแทกเย่ว์หยางจมเข้าไปอยู่ในมิติว่างไร้ขอบเขต  เขายื่นมือคว้าตัวเย่ว์หยางและแค่นเสียงเย้ยหยันเขา  “ไม่ว่าเจ้าจะต่อยข้าสักกี่ครั้งก็ตาม   เจ้าจะไม่มีทางทำอันตรายข้าได้ เพราะข้ามีร่างเทพ  ร่างเทพจะไม่มีวันตาย!  ถ้าเจ้าต้องการจะเอาชนะข้าด้วยทักษะแปลกประหลาดอย่างมดแมลง  อย่างนั้นข้าบอกเจ้าได้เลยว่าจะไม่มีทางสำเร็จ  ไม่มีทาง!  ข้าเป็นใคร?  ข้าก็คือเทพ  แต่เจ้ามันเป็นมนุษย์ที่น่าสมเพชไม่มีอะไร  นี่คือความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา  เจ้าไม่มีวันข้ามพ้นได้!
 “ต่อให้เจ้าเป็นเทพ  ข้าก็ฆ่าเจ้าได้”  ประกายดวงตาของเย่ว์หยางเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน
 “ฝันไปเถอะ!  ชี่เทียนเหอเห็นรังสีอำมหิตของเขา และความมั่นใจที่มากพอ  ทำให้เขาอดรู้สึกอึดอัดไม่ได้  รังสีฆ่าฟันของเจ้าเด็กนี่หนักหน่วงสาหัสจริงๆ!
ขุนพลเทพธิดาวายุที่อยู่ในสภาวะชะงักงัน กลับเข้ามาโจมตีทันที
หมัดคู่ระเบิดอยู่ข้างหูซ้ายขวาของชี่เทียนเหอสามครั้ง
ครั้งนี้พลังของนางเพิ่มขึ้นมากกว่าสองครั้งก่อนถึงสิบเท่า.... ชี่เทียนเหอสั่นเล็กน้อย  เขาประทับใจเป็นครั้งแรกที่อสูรพิทักษ์นี้ช่างรู้จักซ่อนเร้นพลัง  ถ้านางใช้พลังระดับนี้เป็นพื้นฐานครั้งแรกเป็นไปไม่ได้ที่จะต่อยโจมตีเขาถูก  ด้วยพลังระดับนี้ของนางนับว่าไม่เลว
ชี่เทียนเหอรู้สึกปวดศีรษะแทบแตก และโกรธมากที่เขาถูกหลอก
ฝ่ายตรงข้ามได้รับพลังระดับขุนพลเทพ แต่คิดว่าจะต่อยเขาให้กระเด็นได้ นั่นประมาทเกินไปแล้ว
เพลิงแดงสวรรค์ระเบิดคลุมตัวชี่เทียนเหอเหมือนกับภูเขาไฟระเบิดด้วยความโกรธของชี่เทียนเหอ ร่างอวตารทองแทรกออกมาทางศีรษะของเขาปล่อยพลังหมัดตอบโต้ดันขุนพลเทพธิดาวายุถอยออกไปหลายสิบเมตร
สถานการณ์อันตรายปรากฏอีกครั้ง
ชี่เทียนเหอพบว่าตนเองและร่างอวตารของเขาหยุดนิ่ง คล้ายกับถูกพลังของวงจักรนิรันดร แต่มีพลังกดดันมากกว่าด้วยพลังปณิธานบางอย่างที่มิอาจต้านทานได้ แสงเทพที่เขาไม่รู้จักฉายรัศมีที่ไม่มีใดเทียบ ชี่เทียนเหอและร่างอวตารรู้สึกได้ถึงพลังเผาไหม้ที่รุนแรงพร้อมกัน  นี่ไม่ใช่อันตรายอย่างเดียว แต่เป็นการตัดสินทางจิตวิญญาณ
มือน้อยราวกับกล้วยไม้ขาวค่อยๆ เหยียดจากท่าถือบอลแสงสว่าง
พร้อมกับรวบมือเป็นท่าหมัด
ในที่สุดก็กระทบเข้าที่หน้าผากของชี่เทียนเหอ
นั่นเป็นพลังอ่อนหยุ่นแผ่วเบาที่ตบยุงก็ยังไม่ตาย
แต่ชี่เทียนเหอผู้รู้สึกถึงทะเลวิญญาณในหัวของเขา ได้รับผลกระทบของพลังที่น่ากลัวไม่ด้อยไปกว่าพลังของขุนพลเทพธิดาวายุ   อาการบาดเจ็บจากพลังโจมตีของขุนพลเทพธิดาวายุยังไม่ทันฟื้นฟู เขาถูกโจมตีอย่างรุนแรง ด้วยสัญชาตญาณป้องกันดวงวิญญาณ พลังศักดิ์สิทธิ์ป้องกันความสัมพันธ์กับโลกภายนอกทันที
เมื่อชี่เทียนเหอไม่ได้รับบาดเจ็บอีกต่อไป วิญญาณของเขาจึงได้รับการปลดเปลื้อง
กระดูกหน้าผากของชี่เทียนเหอเป็นรอยร้าว
นอกจากนี้ ร่างอวตารพลังงานที่แต่เดิมเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณของชี่เทียนเหอ ถูกขุนพลเทพธิดาวายุจับได้และลากออกมาจากตัวของเขา  เย่ว์หยางลงใช้เพลิงอมฤตที่ฝ่ามือเผาชำระร่างอวตารนั้น  การทำเช่นนี้ไม่ต่างกับเผามนุษย์ทั้งเป็น  แต่เขากำลังชำระร่างอวตารที่เป็นพลังวิญญาณของชี่เทียนเหอ
 “โอว ไม่!
เมื่อชี่เทียนเหอใช้พลังเทพขับไล่พลังของศัตรูที่รุกรานเข้าในหัวเขาได้  เขาพบว่าร่างอวตารพลังวิญญาณของเขากลายเป็นกลุ่มพลังบริสุทธิ์ที่ไร้เจ้าของไปแล้ว  เขาถึงกับร้องโหยหวน
ขณะนั้นเองเขาพบว่าพลังลับที่ใช้ออกมานั้นไม่เพียงแต่แค่พลังของขุนพลเทพธิดาวายุเท่านั้น  แต่ยังมีพลังของปีศาจอสรพิษน้อยที่ดูเล็ก และอ่อนแอ
ปีศาจอสรพิษน้อยนี้มีพลังดั้งเดิมที่ไม่ด้อยไปกว่าขุนพลเทพธิดาวายุ และยังมีทักษะแฝงเร้นและจังหวะโจมตีที่เหนือกว่า!  ดูเหมือนว่าปีศาจอสรพิษน้อยนี้เคยผ่านการรบมาเป็นล้านศึก และเป็นสงครามอาบเลือดเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายนับไม่ถ้วน ไม่เหมือนกับหน้าตาที่ดูเยาว์วัยและอ่อนแอ
ชี่เทียนเหอตกตะลึงไม่ใช่แต่เพียงพลังที่ซ่อนเร้นของฝ่ายตรงข้าม แต่ยังเป็นพลังของฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย
เขาอยากเป็นลม  เขารู้สึกว่าปีศาจอสรพิษน้อยยังมีพลังปณิธานแข็งแกร่งมากกว่าเขาผู้เป็นเทพ... แม้ว่านางจะเป็นอสูรเทพ มีปณิธานของอสูรเทพ เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะเขาได้ แต่..พระเจ้า..ทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้?
เมื่อสูญเสียร่างอวตารพลังงานไป ก็ยากจะกอบกู้กลับคืนมา
ภายใต้เพลิงอมฤต ไม่มีพลังงานฝ่ายตรงข้ามที่คงอยู่ได้ มีแต่จะสูญสลายพังทลาย  ภายใต้เพลิงอมฤต เป็นไปไม่ได้ที่จะกู้พลังกลับคืนมา
วิธีเดียวที่มีในตอนนี้ก็คือทำลายมนุษย์ผู้น่ารังเกียจที่อยู่ต่อหน้าเขา  ถ้าเขาฆ่าเจ้ามนุษย์ผู้นี้ได้ ปีศาจอสรพิษน้อยอสูรพิทักษ์จะตายด้วยเช่นกัน สำหรับสาวอสูรวายุด้านหลัง เขายังจะไล่ล่าเจ้านายนางได้  ศัตรูที่มีพลังอย่างนี้ไม่สมควรปล่อยให้รอดไปได้!
เขาต้องใช้ไม้ตายต้องห้าม มิฉะนั้นจะไม่มีโอกาสชนะในการต่อสู้นี้
ชี่เทียนเหอพบว่าเขาไม่สามารถฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้  เว้นแต่จะใช้ท่าต้องห้ามที่ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บไปด้วย
 “เจ้าเป็นเทพเจ้าหรือ คนสติวิปลาสกันแน่?”  เย่ว์หยางมีความตั้งใจจะฆ่าให้ได้แน่นอน เขาเรียกคัมภีร์อัญเชิญออก และดูดซับพลังร่างอวตารที่ถูกกลั่นโดยอสูรโลก  ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติเขาจะไม่ทำอย่างนี้  แต่ตอนนี้เย่ว์หยางไม่มีเวลาจัดการ ต้องทำให้ศัตรูอ่อนแอลงเป็นวัตถุประสงค์แรก, เย่ว์หยางจึงให้รางวัลอสูรโลก  จากนั้นจึงให้เงาปีศาจยักษ์แก่เสี่ยวเหวินหลีและขุนเทพธิดาวายุคนละห้าร่างเงา นั่นเป็นสาเหตุให้พลังของพวกนางเพิ่มทะลุขีดจำกัด
 “ฮ่าห์..”  เสี่ยวเหวินหลีใช้ดาบคู่พร้อมกับทักษะแฝงเร้นพันธนาการกับชี่เทียนเหอพร้อมกัน
 “บุก!  ขุนพลเทพธิดาวายุได้รับประโยชน์จากเสี่ยวเหวินหลีใช้เวลาสองวินาทีผนึกกำลังร่วมกัน ในขณะที่ชี่เทียนเหอกำลังจะสลัดหลุดจากพันธนาการ หมัดคู่ที่ผสานกับเงาปีศาจยักษ์สองคู่อัดกระแทกที่หูของชี่เทียนเหอทั้งสองข้าง
บึ้ม!
ครั้งนี้ชี่เทียนเหอไม่อาจทนได้อีกต่อไป
หูซ้ายขวาของเขาถูกกระแทกแก้วหูระเบิด พลังทะลุทะลวงไปถึงสมองและภายในนั้นยังมีแรงระเบิดกระเพื่อมที่น่ากลัว เลือดฉีดพุ่งออกมาจากช่องหู ชี่เทียนเหอร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
ชี่เทียนเหอครวญครางเป็นครั้งแรก  เสียงเหมือนกับทหารและทหารม้านับหมื่นตวาดตะโกนจนหูอื้อ
ร่างกายของเขาเสียสมดุลเพราะบาดเจ็บสาหัส  เขาล้มลงกับพื้นทันที  เย่ว์หยางชูผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ด้วยมือทั้งสอง จากนั้นฟาดกระแทกไปที่แผลเดิมตรงหน้าผากที่เสี่ยวเหวินหลีโจมตีไว้ก่อน เกิดแผลรุนแรงอีกแผล พลังของผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ปะทุออกมาเป็นแรงกดดันโลก มีพลังเหนือกว่าพลังโจมตีของขุนพลเทพธิดาวายุถึงสี่เท่า ทั้งยังกระแทกใส่หน้าผากของชี่เทียนเหอโดยตรง นี่ยังเป็นพลังที่เย่ว์หยางยังไม่ได้รับการยอมรับตั้งแต่ได้มา  ถ้าเย่ว์หยางผสานพลังได้เต็มที่  ชี่เทียนเหอคงถูกจัดการแน่! 
ชี่เทียนเหอได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งผลกระทบต่อเขาอย่างหนัก
เขาใช้มือกดพื้น และใช้กระบวนท่าต้องห้ามโจมตีอกของเย่ว์หยาง
อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางห้าวกว่าเขาถึงสิบเท่ากลับวิ่งเข้าอ้อมแขนของชี่เทียนเหอพร้อมกับพลังกฎสวรรค์และถ่ายเทพลังเทพวิบัติไว้ในมือเขา และกระแทกที่อกของชี่เทียนเหอที่กำลังตวาดใส่เย่ว์หยาง
ชี่เทียนเหอโถมร่างเข้าหาคมดาบและยังต้องการต่อต้านพลังเทพ
เย่ว์หยางคลั่งเหมือนคนเสียสติ และหน้าของเขา  เพราะเขาใช้พลังมากเกินไปทำให้สีหน้าของเขาดูดุร้าย
เขาใช้มือทั้งสองจับดาบศึกร่างแปลงอสูรน้อยทงเทียน เท้าของเขาย่ำอกของชี่เทียนเหอ  และปล่อยพลังเทพวิบัติที่เขาได้ชำระแล้วจากในหุบเขาราคะ จากนั้นปล่อยพลังผ่านปราณกระบี่กุยจ้าง
ฉัวะ
ดาบศึกทงเทียนแทงทะลุอกของชี่เทียนเหอทะลุหลัง
ชี่เทียนเหอไม่สามารถป้องกันไม้ตายนี้ได้  เขาตกตะลึง ยังมีอาวุธที่สามารถทำร้ายร่างเทพได้หรือ?  อาวุธเทพร่างอสูร? ไม่, อาวุธเทพร่างมนุษย์? ชี่เทียนเหอไม่สามารถหาคำตอบได้  เขารู้สึกว่าสถานการณ์ของตนเองตกอยู่ในอันตราย  ถ้าเขาไม่สามารถสู้ตอบโต้ได้นั่นจะเป็นอันตรายแน่นอน  ศัตรูอาจใช้อาวุธเทพตัดศีรษะของเขาได้..
และเขาจะสูญเสียเลือดเทพ!
ประกายตาของชี่เทียนเหอมีแววหวาดกลัว เขารีบหนีจากเย่ว์หยางผู้บ้าคลั่ง
ขณะที่โดดขึ้นไปในอากาศ เขาใช้มือขวาล้วงเข้าไปในบาดแผลที่อกดึงเอาเลือดเทพสีทอง ปากก็บ่นพึมพำเหมือนกับจะยอมเสียสละเลือดเทพ
ทันใดนั้นร่างของเขามีรัศมีสว่างไสวปรากฏทุกอณูเนื้อและผิวหนังล้วนแต่มีแสงรัศมีฉายออก  ชี่เทียนเหออาบแสงเทพและร่างขยายขนาดอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่าคือขยายขึ้นทีละ 10, 20, 30 เมตร เขากลายเป็นยักษ์สีแดง
ขณะเดียวกันแสงสีแดงฉายเรืองรองอยู่รอบตัวเขา
เขาล้อมรอบด้วยพลังจิตวิญญาณ
นี่เป็นวิชาต้องห้ามที่ร้ายกาจที่สุดในชีวิตของชี่เทียนเหอ  ด้วยการเสียสละเลือดเทพจะช่วยให้เขาฆ่าศัตรูได้เป็นร้อย เป็นพัน “พลังแม่น้ำเลือด”
ถ้าไม่ใช่เพราะถึงช่วงวิกฤติของชีวิตอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ชี่เทียนเหอจะไม่มีทางใช้วิชาต้องห้ามนี้  เพราะทันทีที่ใช้ออกไป  เขาจะไม่มีทางกลับมาอยู่ในสภาพสุดยอดได้อีกหลายพันปี และจะอยู่ในสภาวะอ่อนแอไปอีกเป็นเวลานาน
 “ตายซะเถอะ  มาดูกันว่าไม้ตายก้นหีบของใครจะร้ายกาจกว่ากัน!  เย่ว์หยางได้แต่แปลงสภาพวงจักรนิรันดรให้กลายเป็นวงจักรล้างโลก
วงจักรล้างโลกภายใต้ปณิธานปราณราชันย์และอักขระรูนอมตะมีพลังเพิ่มขึ้นพุ่งทะยาน
พลิกจากด้านล่างขึ้นข้างบน
และตัดร่างของชี่เทียนเหอในอากาศ..   ขณะที่ชี่เทียนเหอฟื้นฟูช้าๆ  พลังแม่น้ำเลือดก็พุ่งเข้าหาเย่ว์หยางและระเบิดเหนือศีรษะของเย่ว์หยาง
ไม้ตายทั้งสองต่างปะทะกันและกัน ทั้งระเบิดขึ้นพร้อมกัน !-!

10 ความคิดเห็น:

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

ulomzx กล่าวว่า...

ใครจะอยู่...ใครจะไป...ตอนหน้ารู้กัน

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ มันส์

Unknown กล่าวว่า...

เฮียหยาง บทจะงกก็งกจนลืม.... เอ็งมีเลือดเทพอยู่ 1 หยดไม่ใช่หรือไง เอามาใช้มั้งเถอะ บทเเรก ๆ กล่าวความล้ำค่ามากมาย

นัดบ้า กล่าวว่า...

น้องนกคู่ยังไม่ยอมโผล่ ก็รู้ผลแล้ว

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

blendzil กล่าวว่า...

เลือดเทพไหนอยู่อีก ไปอยู่ในตัวอิคคาแล้วไง

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆครับ

บักซาดซัว กล่าวว่า...

ผลอุทกแม่ธรณียังไม่ยอมย่อยเลย งก

chay กล่าวว่า...

อีกหยดตกจากขาลิงยักษ์ไหม

แสดงความคิดเห็น