วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 921 มุ่งสู่เมืองแม่น้ำขาว ความลับซ่อนเร้น?


ตอนที่  921  มุ่งสู่เมืองแม่น้ำขาว ความลับซ่อนเร้น?
ภูมิภาคสวนสวรรค์
 
จากภูมิภาครกร้างที่แปดเข้าสู่ภูมิภาคสวนสวรรค์ผ่านไปตามประตูเทเลพอร์ต ใช้เวลาครึ่งวัน
อย่างไรก็ตามจากภูมิภาคสวนสวรรค์ไปเมืองแม่น้ำขาวไม่มีประตูเทเลพอร์ตเข้าโดยตรง กล่าวกันว่าเป็นเพราะสภาวะสงคราม  พื้นที่ปกครองในภูมิภาคสวนสวรรค์มีเขตปกครองเป็นพันเขตและมีเมืองน้อยใหญ่เป็นหมื่นเมืองและทำสงครามกันเป็นส่วนใหญ่ทำให้เย่ว์หยางนึกไม่ถึงว่า ความสับสนนี้มีมาเกือบสามพันปีก็ยังไม่ลดลง
นักรบตายไปนับไม่ถ้วน แต่สงครามก็ยังไม่หยุด  ความจริงเป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดสงคราม
เว้นแต่คนในภูมิภาคสวนสวรรค์จะตายกันหมด
ยิ่งคนตายมาก ความเกลียดชังก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมาก
ยิ่งหลากหลายเชื้อชาติเข้าร่วมในความวุ่นวายนี้ ผลประโยชน์ความขัดแย้งจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ในภูมิภาคสวนสวรรค์ ไม่มีประเทศและกองทัพที่ชอบธรรม ไม่มีนักรบผู้มีใจเป็นธรรม ทุกคนเป็นเหยื่อของสงคราม... มีทหารรับจ้างนับไม่ถ้วน
กองกำลังนักรบแดนสวรรค์ที่มีอิทธิพลได้รับคำเชิญให้มาช่วยรบที่นี่
หากพวกเขาเอาโครงกระดูกมากองรวมกัน คาดว่าคงมีกองกระดูกพอกพูนเป็นแนวเทือกเขายาวเหยียดหลายร้อยกิโลเมตร
แต่เพื่อให้ได้รับประโยชน์ในทันทีหรือเทคนิควิทยายุทธในสนามรบ  ทุกๆ วันยังคงมีนักรบนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้ามายังภูมิภาคสวนสวรรค์แห่งนี้!
 “ขอต้อนรับพ่อค้าผู้มั่งคั่งและกล้าหาญ”  ในวันนี้ทั่วทั้งแดนสวรรค์ไม่มีพ่อค้าที่ไหนจะได้รับความนิยมมากไปกว่าที่ภูมิภาคสวนสวรรค์  เพราะเมื่อพวกเขากล้ามาภูมิภาคสวนสวรรค์ก็นับได้ว่าเป็นพ่อข้าที่กล้าผจญภัยมากที่สุดในโลก   แม้ว่าสามจักรพรรดิแดนดินของภูมิภาคที่ต่อสู้กันอย่างเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย  แต่ขณะที่สงครามยังดำเนินต่อไป พวกเขาออกคำสั่งโดยไม่ต้องปรึกษากันว่า ห้ามมิให้ผู้ใดปล้นฆ่าพ่อค้านักธุรกิจโดยไม่มีเหตุผล  ผู้ใดที่อยู่ในระดับต่ำกว่าราชาลงไปฝ่าฝืน จะต้องถูกตัดศีรษะ สินค้า ชีวิตและตัวพ่อค้าถือว่าถูกปกป้องโดยภูมิภาคสวนสวนสวรรค์  ไม่อนุญาตให้ยึดหรือกักกันสินค้าโดยไม่มีเหตุผล...  พ่อค้าพลเรือนที่ถูกจับในสงคราม จะต้องมีชีวิตต่อไป
กองทัพต้องการเสบียงมากกว่า
และผู้นำทั้งสามฝ่ายมีความสามารถแข่งขันเพื่อช่วงชิงภูมิภาคปกครองและสถานปนาตนเป็นจักรพรรดิเพียงหนึ่งเดียวในภูมิภาคสวนสวรรค์  แดนสวรรค์ภายในภูมิภาคเดียว ถ้ามีจักรพรรดิครองภูมิภาคที่แข็งแกร่งทรงพลังเกิดขึ้นนั่นถือเป็นเรื่องที่ดี  ถ้ามีจักรพรรดิครองภูมิภาคเกิดขึ้นสองคน นั่นเป็นเรื่องแย่ ถ้าสามจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ประจำภูมิภาคเกิดขึ้นพร้อมกัน  นั่นเป็นฝันร้ายที่สิ้นหวัง!
ก่อนจะมายังภูมิภาคสวนสวรรค์ เย่ว์หยางเข้าใจสถานการณ์ของภูมิภาคนี้บ้าง  และเช่นเดียวกับหลายๆ คน  เขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าและเข้าสู่ดินแดนยุ่งเหยิงอย่างเป็นทางการ ด้วยสถานะหน้าฉากเป็นนักธุรกิจ เขาสามารถไปที่ใดก็ได้  แน่นอนว่าเป็นเมืองไป๋เหอ
แน่นอนว่าในเมื่อเป็นพ่อค้า สินค้าจึงเป็นของสำคัญ
โดยเฉพาะคนอย่างเย่ว์หยางพอมาถึงภูมิภาคสวนสวรรค์เป็นครั้งแรก มีสินค้าไม่มากนักที่ใช้เป็นใบเบิกทางได้  ทหารชายแดนจะไม่ยอมให้บุคคลต้องสงสัยเข้ามาอย่างแน่นอน  การลอบเข้าไปเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ เย่ว์หยางไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนตัวที่นี่เหมือนกับหนู การเข้ามาอย่างเปิดเผยและใช้สินค้าสร้างรายได้ย่อมดีกว่าไม่ใช่หรือ?  ภูมิภาคสวนสวรรค์มีแร่ไฟฟ้าชั้นสูงและนั้นเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่เย่ว์หยางต้องการใช้ผลิตกำไลอสูร
เย่ว์หยางและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน เย่ว์หวี่และจุ้ยมาวอี้โดยสารเรือเหาะเลิศหรูมุ่งไปข้างหน้า
นอกจากนี้เรือเหาะเลิศหรูลำนี้ไม่ได้บรรทุกสินค้า ที่ตามมาข้างหลังเป็นกองเรือที่บรรทุกสินค้าร่วมห้าสิบลำจากเมืองอู๋เย่แดนสวรรค์ใต้  เปากู่กลายเป็นหัวหน้ากลุ่มพ่อค้า... ในแง่การรักษาความปลอดภัยกลุ่มโจรวัวป่าเดิมกลับเข้ามาเมืองอู๋เย่ แต่คราวนี้พวกเขาสมัครเป็นบริวารของเฟยหวงและฮัวปัน
นอกจากนี้ยังมีสามสหายที่ยอมแพ้ไปก่อนนั้นอย่างจงกวน ไป๋หม่าและเฮยถู ต่างได้รับความไว้วางใจจากเย่ว์หยาง
ขณะที่ผู้ที่เพิ่งยอมแพ้อย่างหย่งฮุยและเยี่ยเซียว  เย่ว์หยางยังไม่วางใจเขาเต็มร้อย เขาตัดสินใจปล่อยให้พวกเขาสงบอารมณ์เสียก่อน
แม้ว่าความแข็งแกร่งของหัวหน้าจงกวน หัวหน้าหน่วยผู้คุ้มกันจะเป็นปราณฟ้าระดับสาม  ความแข็งแกร่งขนาดนี้นับว่าไม่เลวถ้ามีการสู้ยืดเยื้อในภูมิภาคสวนสวรรค์นี้  เย่ว์หยางมีกลุ่มผู้คุ้มกันระดับปราณฟ้าจำนวนหนึ่ง  และมีกองกำลังเรือเหาะ  ต่อให้ไม่ใช่นักธุรกิจ เป็นการลักลอบเข้ามา ก็คงไม่มีใครกล้าจับ
นักสู้ปราณฟ้าห้าคนทำหน้าที่คุ้มกันหรือ?
พลังระดับนี้ในกลุ่มพ่อค้าในภูมิภาคสวนสวรรค์ แม้จะไม่ถึงระดับสิบบุคคลแรก  ก็คงเป็นยี่สิบคนแรก ยากจะมีคนสงสัยได้!
 “เรือเสบียงห้าสิบลำ? สิบลำบรรทุกเหล้า? มากเกินไป ไม่, เราไม่สามารถรับได้  อย่าว่าแต่หอการค้าหนึ่งเลย  ต่อให้พ่อค้าทั่วเมืองจินหยาง ก็ไม่สามารถรับไว้ได้  เจ้าอาจไม่รู้ว่าอาหารที่นี่ขายกันราคาเท่าใด... ข้ากล้าพูดได้เลยว่าในภูมิภาคสวนสวรรค์ผู้คนอดตายมากกว่าที่ถูกฆ่าตายในสงครามถึงสิบเท่า!  ท่านเปากู่! เชิญนั่งลงก่อน ไม่, เราไม่กล้าปิดบังอะไรสำหรับกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่พิเศษอย่างท่าน  อย่างไรก็ตาม เราจำเป็นต้องเรียกรวมคน  โปรดให้เวลาเราด้วย  ข้ากล้าพูดได้ว่าไม่เพียงแต่พ่อค้าของเราทั้งหมดในเมืองจิ่นหยางเท่านั้น แต่ยังมีนักรบและพลเรือนที่กำลังหิวโหยจะต้องชื่นชมความใจกว้างของท่าน  การที่ท่านมาอย่างถูกเวลา นั่นเป็นเรื่องยิ่งใหญ่  ข้ากล้าพูดได้ว่า ถ้าท่านไม่มา อีกหนึ่งเดือนจะมีคนอดตายถึงหนึ่งในห้า  ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย  ท่านเปากู่..โปรดนั่งก่อน  ข้าจะแจ้งให้ท่านเจ้าเมืองทราบเดี๋ยวนี้  ไม่ต้องกังวล, แม้จะไม่มีองครักษ์พิทักษ์ฟ้าห้าคนเฝ้า ก็จะไม่มีใครกล้าแตะต้องสินค้าของท่านแม้แต่ปลายนิ้ว”  เมื่อกองเรือสินค้ามาถึงเมืองจินหยาง  พ่อค้าข้าวที่ใหญ่ที่สุดในท้องถิ่นได้กลิ่นไวที่สุด  พวกเขาเป็นพวกแรกที่ออกมาต้อนรับ  คนผู้นี้เมื่อได้ยินว่ามีเรือสินค้ามาถึงห้าสิบลำ ทั้งหมดที่บรรทุกมาเป็นอาหารธัญพืช ต่างโลดเต้นดีใจแทบจะเรียกเปาเป็นบิดาก็ว่าได้
 “สิ่งที่เราบรรทุกมาในเรือห้าสิบลำนี้เป็นแค่เพียงการทดสอบเล็กๆ น้อยๆ  เรากำลังพิจารณาหาโอกาสลงทุนในภูมิภาคสวนสวรรค์” เปากู่มองดูเหมือนเถ้าแก่ผู้กระตือรือร้น
ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นพ่อค้าเร่รายย่อยผู้ถูกรังแกและน่าสงสารอีกต่อไป
หลังจากได้รู้จักกับเย่ว์หยาง ชะตาชีวิตของเขาพลิกกลับ 180 องศา
ผู้ที่มีชะตาเหมือนเปากู่ไม่ใช่คนเดียวแน่นอน
ยังมีเจ้ากบอ้วนจั๊ดด์!
แม้ว่าเปากู่จะเป็นหัวหน้ากองคาราวานสินค้า แต่เนื่องจากคุณสมบัติ เปากู่ยังต้องเรียกเจ้ากบอ้วนว่าประธานหอการค้าด้วยความเคารพ  ทุกคนรู้กันแล้วว่าเย่ว์หยางมอบหมายหอการค้าไตตันให้เจ้ากบจั๊ดด์จัดการก่อนเดินทางเข้าแดนสวรรค์  และเจ้ากบจั๊ดด์ก็ตอบสนองความคาดหวังของเย่ว์หยางได้เป็นอย่างดี เขาจัดการหอการค้าไตตันได้ดี  และเย่ว์หยางพอใจมาก  การจัดการที่โดดเด่นเช่นนี้จึงทำให้เจ้ากบจั๊ดด์โดดเด่นในหอทงเทียนและแม้แต่ในวันนี้ก็มีชื่อเสียงไปถึงแดนสวรรค์ด้วย ก่อนอื่นเขาให้เจ้ากบจั๊ดด์หลอมรวมกับเลือดมังกร ... ถ้าไม่ใช่เพราะกายภาพของเจ้ากบจั๊ดด์สวะเกินไป ไม่สามารถอดทนต่อการเปลี่ยนเลือดที่กล้าแข็งได้  เย่ว์หยางคงจะให้เลือดมังกรบินเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา
เนื่องจากยังขาดความคุ้นเคยในแดนสวรรค์  เจ้ากบอ้วนยินดีแบ่งปันอำนาจและให้โอกาสเปากู่เป็นหัวหน้ากลุ่ม
เขาทำหน้าที่ประสานงานทำงานเกี่ยวกับธุรกิจที่สอดคล้องกัน
ด้วยวิธีนี้ เจ้ากบอ้วนยิ่งได้รับการยอมรับจากเย่ว์หยาง และได้รับการนับถือจากเปากู่!
 “ท่านเปากู่!  ข้ากล้าพูดได้เลยว่าที่นี่คุ้มค่าต่อการลงทุนอย่างแน่นอน มีอาหารท่านสามารถมีทุกสิ่งได้รวมทั้งชีวิตมนุษย์!  ที่นี่ไม่มีอะไรที่แลกอาหารไม่ได้”  พ่อค้าข้าวโอโบตบอกให้คำรับรองเปากู่
 “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ อย่างนั้นข้าจะพูดตรงๆก็แล้วกัน”  เป่ากู่เปิดเผยเงื่อนไขของเขาเอง “เราต้องการแร่ดอกไฟฟ้า”
 “แร่ดอกไฟฟ้าเป็นผลผลิตทางทหาร...”  โอโบเมื่อได้ยินเช่นนี้หน้าของเขาแดงขึ้นมาทันที
 “ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเถอะ”  เปากู่ไม่เสียเวลาพูดเรื่องไร้สาระ
 “รอเดี๋ยว, ท่านเปากู่ โปรดอย่าเพิ่งโกรธกัน โปรดฟังเราอธิบายก่อน แร่ชนิดนี้ไม่ใช่ว่าไม่มี  แต่จะซื้อขายแบบครบวงจรโดยราชา ตั้งแต่หลอมและสร้างเป็นอาวุธ จักรพรรดิแห่งภูมิภาคเข้มงวดการซื้อขายส่งออกมาก ถ้ามีการซื้อขายในที่สาธารณะจะต้องถูกประหาร”  พ่อค้าข้าวโอโบมีสีหน้าสุดฝืน
 “เราไม่จำเป็นต้องซื้อขายเปิดเผย  โอโบผู้ฉลาด เจ้าคิดหาวิธีการเรื่องนี้ได้ไหม?  ตราบใดที่เจ้าเก็บอาวุธในสนามรบได้แล้วเอามาทิ้งให้เรา  เราก็สามารถบริจาคอาหารให้เจ้าได้รวมทั้งเหล้าดีเช่นกัน  คิดให้ดี โอโบ  บางครั้งเมื่อเจ้าต้องการมิตรภาพง่ายๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิตรภาพที่ส่งมาถึงหน้าประตูบ้าน  อย่างไรก็ตามเมื่อมิตรภาพจากไป แม้เจ้าอยากจะเสียใจ  แต่ก็กอบกู้อะไรไม่ได้แล้ว”  ฝีปากเปากู่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดีที่เมืองอู๋เย่ (เมืองลมดำเก่า)  สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขามีอาหารอยู่ในมือ  แม้โอโบมีร้อยปากก็ยากจะพูดอย่างเขาได้!
 “น่ารำคาญจริงๆ  นี่คือการต้อนรับขับสู้หรือ?”  เจ้ากบอ้วนจั๊ดด์คอยเติมเชื้อไฟอยู่ด้านข้าง
 “รอเดี๋ยว รอเดี๋ยว นายท่านทั้งสอง  อย่าเพิ่งโกรธ ข้อเสนอของท่านดีมาก  แต่เราต้องการคนตัดสินใจ  ข้าคิดว่าท่านเจ้าเมืองคงจะเห็นด้วยกับข้อเสนอที่ดีอย่างนี้ ข้าจะไปพบเขาทันที โปรดให้โอกาสนี้กับเราเถิด”  โอโบพ่อค้าข้าวต้องยอมจำนน  เขาสามารถอดตายในยุ้งฉางของเขาได้  เขาเพิ่งพบกองเรือที่บรรทุกเต็มไปด้วยอาหาร  ต่อให้เขาถูกฆ่า  เขาจะไม่ยอมปล่อยให้กองเรือข้างหน้าหลุดมือไปได้
แร่ดอกสายฟ้าไม่สามารถค้าขายแลกเปลี่ยนได้อะไรกัน?
ใช่แล้ว
เราไม่ได้ขายแลกเปลี่ยน  แค่ให้เปล่าๆ ไม่ได้ขาย!
ยิ่งกว่านั้นกลุ่มธุรกิจเช่นนี้ เขาเชื่อได้ว่าเบื้องบนย่อมรู้  เขาเพียงแต่ลืมตาข้างหนึ่งปิดตาข้างหนึ่งเป็นพอ
เมื่อเปากู่และจั๊ดด์ร่วมมือกันขู่พ่อค้าข้าวโอโบ  เย่ว์หยางเดินสำรวจเส้นทาง  กลุ่มธุรกิจเป็นเพียงการโยนก้อนหินถามทาง เป้าหมายที่แท้จริงของเขาก็คือไปเมืองไป๋เหอ
ปัญหาก็คือเมืองไป๋เหอนี้แทบจะอยู่ใจกลางภูมิภาคสวนสวรรค์  และมีการสู้รบยืดเยื้อตลอดเส้นทาง
บุรุษผมงู คุณชายแห่งสี่ตระกูลใหญ่ทำไมถึงต้องการนัดพบเขาที่นั่น? มีความลับอะไรในเมืองไป๋เหอ?  มีสมบัติเทพอยู่หรือ? หรือว่าเป็นที่ตั้งของขุมทรัพย์หายากสมบัติโบราณที่บุรุษผมงูกังวลอยู่ที่นั่น  คนผู้นี้เพิ่งหลบหนีออกมาจากวิหารปีศาจดินได้ก็กระตือรือร้นล่าสมบัติหรือ?
 “เจ้าสังเกตบ้างไหม ในเมืองไป๋เหอ ไม่สิ ที่นี่เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่  เต็มไปด้วยแม่น้ำ หนอง คลอง บึง!  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพูดถึงจุดสังเกต
 “เมืองที่นี่ถ้าวาดรูปออกเป็นอย่างนี้ ดูเหมือนจะสร้างด้วยรูปแบบที่แปลกประหลาด”  เย่ว์หวี่พูดข้อสังเกตที่นางค้นพบในช่วงสองสามวันนี้
 “อ่า.. ข้ารู้สึกอายจริงๆ  ข้าไม่พบอะไรเลย...”  จุ้ยมาวอี้เห็นเย่ว์หยางมองมาที่ตนเอง นางรีบตอบ
 “ให้ข้าคิดดูก่อน!  เย่ว์หยางคิดว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์หวี่เห็นจุดสังเกตบางจุดทั้งคู่   แต่พวกนางยังจับเค้าไม่ออกทั้งหมด  มีความลับแบบไหนซ่อนอยู่ในเมืองไป๋เหอ?  นี่เป็นเมืองที่ง่ายเหมือนแดนสวรรค์ทั่วไปหรือไม่?
เปากู่และจั๊ดด์เพิ่งจะขึ้นเรือเหาะสำราญมาสมทบและเห็นว่าเย่ว์หยางกำลังคิดถึงเรื่องแผนที่ พวกเขาหันหลังกลับและจากไปอย่างเงียบๆ
เทียบกับสิ่งที่เขาต้องทำ หอการค้าแทบไม่มีค่าอะไรเลย
ยังคงไม่ต้องรบกวนเขาดีกว่า  แล้วพวกเขาจะส่งเจ้าเมืองและพ่อค้าข้าวโอโบไปด้วยตนเอง!-!

6 ความคิดเห็น:

ulomzx กล่าวว่า...

เย่ว์หยางได้สองพ่อค้าสมองใสเปากู่และจั๊ดด์รอรับผลผลิตได้เลย

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

zen zen กล่าวว่า...

เมื่อไหร่ตะเจอนางพยาผีเสื้ออีก

krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น