ตอนที่ 926 ตบหน้าขั้นสูง
ผู้ที่เร็วที่สุดไม่ใช่บุรุษวัยกลางคนที่เย่ว์หยางเอาเท้าพาดไหล่อยู่
แต่เป็นบุรุษประหลาดที่มีเสียงเหมือนนกแสก รูปร่างเหมือนค้างคาว
เขาเหยียดมือ
มีสายลมหมุนรอบตัวเขาแผ่วเบา ใบไม้ที่หมุนอยู่รอบๆ
ตัวของเขาคล้ายกับสัตว์ร้ายเร่งความเร็วพุ่งเข้าหาเย่ว์หยางทันที
อย่างไรก็ตามฝีมือที่ไม่เคยพลาดเป้าล้มเหลวทันที เหมือนกับหุ่นเชิดที่ถูกกรรไกรตัดสายเชื่อมต่อและสูญเสียการควบคุม
บินมาได้ครึ่งทางก็หมดแรงตกลง
บุรุษผู้มีฉายาหัตถ์วิถีควบคุมความเป็นตายของคนอื่นตกตะลึงมีสีหน้าเหมือนกับถูกต่อยหนึ่งหมัด
ขณะเดียวกันเขามีสีหน้าโกรธอับอายรู้สึกเหมือนโดนดูถูกอย่างแรง
เขาจ้องมองเย่ว์หยาง
บุรุษวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ทองผู้อ้างว่าเป็นเจ้าเมืองมีแววตาที่โกรธ เขาปล่อยหมัดใส่เย่ว์หยางทันที
“ยินต้อนรับเจ้าสู่เกมสนุกของข้า!
ข้าให้สัญญาได้เลยว่าเจ้าจะมีความเพลิดเพลินอย่างแน่นอน!”
หากเย่ว์หยางปล่อยให้เขาโจมตีได้ นั่นคงไม่ใช่คุณชายสามตระกูลเย่ว์ที่แม้แต่จักรพรรดินีฟ้าและชี่เทียนเหอก็ยังพ่ายแพ้ ถ้าเขาเอาจริง เขาสามารถฆ่าศัตรูได้ทันที แต่เย่ว์หยางกลับไม่ทำ เพราะเขาต้องการสร้างความตกใจให้กับศัตรูผู้ชอบเล่นเกมกับชีวิตผู้คน
ถ้าเย่ว์หยางจัดความสามารถในชีวิตทั้งหมด คาดกันว่าทักษะเกี้ยวหญิงคงไม่ถูกจัดไว้ในอันดับแรก
แต่ยังมีความสามารถพิเศษที่จัดไว้เป็นอันดับสอง
คาดได้ว่าไม่มีใครเหนือกว่าเขา
นั่นคือกลั่นแกล้งผู้คน
เพราะเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจอย่างพระโพธิสัตว์ ทั้งหนังหน้าก็หนา
ฉลาดเป็นกรด มีความคิดพิเศษไม่เหมือนใคร
แน่นอนว่าเย่ว์หยางแตกต่างออกไป เขาเลือกจัดการศัตรูได้ราบรื่นมากกว่าใคร
เมื่อผ่านการต่อสู้มาอย่างต่อเนื่องและสำรวจตัวเองอย่างต่อเนื่อง
เจ้าเด็กจากมิติอื่นค่อยๆ สร้างบุคลิกลักษณะจำเพาะของตน..
และรูปแบบของเย่ว์หยางก็คือ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
บุคคลผู้ยิ่งใหญ่หลายคนสามารถทำได้
ตบหน้าข้างซ้ายและจากนั้นยื่นหน้าข้างขวาให้อีกฝ่ายตบหลายที ทั้งพร่ำบ่นเรื่องคุณธรรมต่อศัตรู หลายคนที่ไม่เก่งแต่ใจกว้างและมีน้ำใจ
แม้สุนัขกัดก็ไม่กัดตอบ อย่างมากก็เดินอ้อมหลีกไปและไม่ใช้วิธีเยี่ยงสุนัขแน่นอน!
ความจริงเย่ว์หยางก็เข้าใจเรื่องเหล่านี้เช่นกัน
แต่เขารู้ว่าเขาไม่ควรทำ
ตามรูปแบบของเย่ว์หยางในการกระทำต่างๆ หากมีคนตบหน้าซ้ายของเขา อย่างนั้นเขาจะตบอีกฝ่ายหนึ่งคืนอีกสิบครั้ง
ถ้าไม่อย่างนั้นก็ทุบผู้นั้นจนร่วง
แต่บางครั้งเขาก็ไม่เห็นด้วย
ถ้าสุนัขกัด
เย่ว์หยางไม่มีทางกัดสุนัขตอบสิบครั้งแน่ แต่จะทุบหัวสุนัขโดยตรง
ที่สำคัญคนกับสุนัขในใจของเย่ว์หยาง
ยังมีข้อจำกัดแตกต่างกันบางอย่าง
เมื่อครู่นี้บุรุษวัยกลางคนชอบการละเล่น
พอเขามาพบกับเย่ว์หยางนับว่าเป็นโชคของเขา
เพราะเย่ว์หยางตัดสินใจเล่นกับเขา
เล่นเกมใช่ไหม?
ใครจะไม่เล่นเล่า?
“อันที่จริงข้าไม่ชอบวิธีกินหัวใจร้อนๆ เลย สมองหวานก็งั้นๆ แต่ถ้าเจ้าไปโรม
ต้องลองทำเหมือนอย่างที่พวกโรมันทำ
เจ้ามั่นใจได้เลยว่าจะได้กินสิ่งนี้
ต่อไปข้าจะประกาศกับพวกพ้องมิตรสหาย
หากพวกเขาต้องการลอง ข้าจะแนะนำให้กับญาติสนิทมิตรสหายพวกเขา เจ้าก็เหมือนกัน จะได้รับการต้อนรับอย่างนี้”
เย่ว์หยางหลบฉากจากพลังหมัดกระแทกที่หนักหน่วง
จากนั้นถอยกลับไปที่บัลลังก์ทองและนั่งลง
บุรุษวัยกลางคนต่อยผิดก็ยิ่งคำรามด้วยความโกรธ
เขากระโจนขึ้นไปบนอากาศและระเบิดพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในร่าง
แรงระเบิดสั่นสะเทือนไปทั้งไพรสุนัขป่าแดงพลังรุนแรงปานภูผาถล่ม
ผู้ลี้ภัยที่อยู่บนพื้นแทบหายใจไม่ออก
ถ้าไม่เพราะอยู่เป็นกลุ่มกอดกันแน่นต้านทานไว้ ด้วยพลังคนๆ เดียวเกรงว่าคงถูกพลังที่น่ากลัวกดบดทับบี้แบนเป็นแน่ บุรุษวัยกลางคนต้องการทำลายสถานที่ทั้งหมด
ร่างของเขาลอยขึ้นไปในอากาศหลายร้อยเมตรและระดมหมัดต่อยลงมาข้างล่างอย่างหนักหน่วง คนที่ปล่อยพลังหมัดยังลอยอยู่ในอากาศ แต่ผู้ลี้ภัยทุกคนถูกแรงกดจนกระอักโลหิต
ถ้าไม่ใช่เพราะองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกอดเด็กหญิงและทารกไว้ วิ่งไปหากลุ่มผู้ลี้ภัย
และเพิ่มระดับพลังของสนามพลัง
วิญญาณของกลุ่มผู้ลี้ภัยและทหารรับจ้างคงหลุดลอยจากร่าง พวกเขาตกใจกลัวคลื่นระเบิดจากพลังหมัดจะบดขยี้พวกเขาจนเลือดเนื้อสาดกระจาย
บัลลังก์ทองอยู่ในศูนย์กลางของพลังหมัดโจมตี
ถูกแรงกดลงไปที่พื้น
ทาสสิบเจ็ดคนที่หามวอบัลลังก์ทองกระดูกแหลกหักทุกคน ในท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนดังลั่น
ทุกคนเลือดออกจากทวารทั้งเจ็ดร่างระเบิดตายไปในที่สุด
เป็นสาวใช้สตรีที่มีปฏิกิริยารวดเร็วหลบหนีจากศูนย์กลางพลังโจมตี
และร่างนางเหมือนผลไม้แดงตกร่วงไปในโคลน
เมื่อเห็นว่าหมัดกำลังโจมตีใส่ร่างของเขา
เย่ว์หยางยังคงนั่งอยู่บนพนักบัลลังก์ทองอย่างสบายใจ
ราวกับว่าเขาไม่เห็นว่าใครกำลังโจมตี
เสี่ยวเหวินหลีปรากฏตัวข้างหน้า
นัยน์ตางดงามของเธอจ้องตอบ
เมื่อพลังหมัดอยู่ห่างหนึ่งเมตรจะโจมตีถูกศีรษะเย่ว์หยาง
ตลอดทั้งร่างของบุรุษวัยกลางคนพลันหยุดนิ่งกลางอากาศ
บุรุษประหลาดผู้มีเสียงเหมือนนกแสกร่างเหมือนค้างคาวเห็นภาพนี้ตะลึงงันไม่อยากเชื่อสายตา
เขารู้ดีถึงความแข็งแกร่งของสหายของเขา แม้ว่าเขาจะมี ‘หัตถ์วิถี’ แต่เมื่อเทียบกันแล้ว
เขาไม่ได้เปรียบ.... อย่างไรก็ตาม อย่างไรก็ตามสหายที่ทรงพลังเช่นนี้
ปล่อยพลังหมัดเต็มกำลัง ยังถูกอีกฝ่ายหนึ่งใช้สายตาตรึงเขาไว้ได้หรือ? ทักษะแฝงเร้นนี้น่ากลัวเกินไปหรือเปล่า? หรือว่าปีศาจอสรพิษน้อยนี้... แย่แล้ว
นี่คืออสูรเทพ นี่ไม่ใช่ปีศาจอสรพิษธรรมดา!
เขาพบว่าอีกฝ่ายหนึ่งมีอสูรเทพ และรู้สึกกลัวจนอยากจะหลบหนีทันที
ล้อเล่นแน่ๆ
สู้กับอสูรเทพ มีกี่ชีวิตก็ไม่พอ!
บุรุษผู้มีเสียงเหมือนนกแสกร่างเหมือนค้างคาวหันหลังและเตรียมเร่งความเร็วหนีเข้าไพรหมาป่าแดง
อย่างไรก็ตามข้างหลังของเขา ไม่รู้ว่ามีปีศาจอสรพิษน้ำแข็งถือดาบคู่มายืนจ้องเขาตั้งแต่เมื่อไหร่...
บุรุษประหลาดร่างเหมือนค้างคาวเลี้ยวไปอีกด้านหนึ่งพยายามจะหลบหนี แต่เมื่อเขาหันกลับไป
เขาพบว่าที่ด้านข้างเขามีนาคาสายฟ้า เขาหันมองไปรอบๆ พบว่าตนเองถูกล้อม
ในอีกสองด้านมีนางเงือกวายุผู้งดงาม และเมดูซ่าศิลา
สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังนี้ไม่รู้ว่าพวกนางมาถึงตั้งแต่เมื่อใด
ไวมากจนหัตถ์วิถีอย่างเขาผู้ควบคุมสมรภูมิไม่ทันเห็น
อย่าเพิ่งหนี ไม่งั้นตาย!
บุรุษประหลาดร่างคล้ายค้างคาวรู้ได้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ถ้าสิ่งมีชีวิตทั้งสี่ผนึกกำลังกัน ถ้าโชคดีไม่ตาย
ก็คงบาดเจ็บร่วงลงกับพื้น
หนี, เขาต้องหนีให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้...
บุรุษประหลาดร่างคล้ายค้างคาวใช้พลังทั้งหมด
เขาเหาะขึ้นไปในท้องฟ้าพยายามฝ่าลงล้อมหนีไปให้ได้ เพื่อให้หนีรอดเขายอมเสียทุกอย่าง
แม้กระทั่งสหาย ปล่อยให้สหายรักตาย
ไม่ใช่ว่าเขาโกรธนักสู้
แต่เขาไม่ได้รับผลอะไรจากการนี้
เปรี้ยง!
ที่เหนือท้องฟ้า
สายฟ้าขนาดเท่าถังใหญ่ฟาดลงที่ศีรษะของบุรุษประหลาดโดยตรง
บุรุษประหลาดตัวไหม้เกรียมร่วงลงกระแทกพื้น
สายฟ้ามีพลังน่ากลัวระเบิดใส่ศีรษะของเขา
พลังสายฟ้ากร้าวแกร่งทำให้เขาร่างไหม้เกรียมร่างชักกระตุก
“อา.......” บุรุษประหลาดร่างเหมือนค้างคาวบิดมือแทบไม่ทัน
มีสายลมพัดผ่านร่างของเขาเงียบๆ
ดูเหมือนว่ามีเชือกที่มองไม่เห็นถูกโยนเข้าไปในป่าไกล
จากนั้นร่างของบุรุษประหลาดก็ฟื้นขึ้นและถูกดึงไปในที่ไกล
เฟี้ยววว
ธนูดอกหนึ่งปักเข้าที่มือของบุรุษประหลาด
นั่นเป็นผลงานของเมดูซาศิลา
มือนั้นกลายเป็นสีเทาและแข็งทันที
ขณะเดียวกันลามไปถึงศอก
ในทางกลับกัน
หัตถ์วิถีที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นร่องรอยมาก่อนก็ถูกเปิดเผย...
พลังของคำสาปเป็นหินไม่เพียงแต่ส่งผลต่อมือของบุรุษประหลาดเท่านั้น แต่ยังคงสาปให้ความสามารถของเขากลายเป็นหินไปด้วย
เส้นบางๆ ห้าเส้นสายปรากฏในมือของบุรุษประหลาด
และขยายไปถึงป่าที่อยู่ห่างออกไป
สิ่งเหล่านี้แต่เดิมจะมองไม่เห็น
ตอนนี้ภายใต้ทักษะฝีมือของเมดูซาศิลามันกลายเป็นสายใยหิน!
ขณะที่บุรุษวัยกลางคนที่โจมตีเย่ว์หยาง ยังคงลอยนิ่งอยู่ในกลางอากาศ
ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้!
ชี่เทียนเหอกับร่างเทพของเขาถูกเสี่ยวเหวินหลีตรึงได้หนึ่งวินาที
สำหรับอสูรเทพใช้ทักษะพันธนาการก็เอาชนะบุรุษวัยกลางนี้ที่เป็นเจ้าเมืองนี้ได้
ถ้าเธอต้องการก็สามารถตรึงเขาไว้ได้ถึงสองหรือสามชั่วโมง.. เย่ว์หยางไม่สนใจเงยหน้ามอง
แต่หงุดหงิดเล็กน้อย บุรุษประหลาดบังอาจหลบหนี “เจ้าทำให้ข้าผิดหวังนัก ทำแบบนี้ได้ยังไง? ถ้าเจ้าอยากหนี ทำไมจะต้องแอบหนีด้วย?”
ทุกคนที่ได้ยินถึงกับตัวสั่น
จำเป็นต้องหลบหนีต่อหน้าด้วยหรือ ใครๆ ก็ต้องแอบหนีแบบนี้กันทั้งนั้นไม่ใช่หรือ?
บุรุษประหลาดร่างคล้ายค้างคาวสิ้นหวัง เวลานี้เขารู้สึกว่าชีวิตเหลือน้อยนิด เป็นไปได้หรือว่าอีกฝ่ายหนึ่งต้องการปล่อยตัวเขาเอง?
หน้าของเย่ว์หยางจริงจังมากขึ้นทุกที
และเขายกนิ้วกรีดกราย
“ความจริงแล้วการพยายามหลบหนีนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ แต่ตรงกันข้ามข้าขอแนะนำให้หนี! เมื่อครู่นี้เป็นแค่เกม! ฟงจี, อย่าลืมนับแบบมาตรฐาน
ระวังอย่านับขาด ถ้าเจ้าหนีพ้นสายตาข้าได้ภายในการนับถึงร้อย
อย่างนั้นเจ้าจะเป็นอิสระ!”
ขณะที่ฟงจีนับ เขาดีดนิ้วตาม
บุรุษวัยกลางคนที่ร่างลอยค้างเติ่งอยู่กลางอากาศพอเสียงริ้งงงดัง
ก็ร่วงร่างกระแทกกับพื้น
คลื่นแรงกระแทกทำให้ป่ารอบด้านแทบพัง
อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่มีใครตกใจพลังน่ากลัวที่เกิดจากบุรุษวัยกลางคน
และทุกคนเริ่มเข้าใจว่าปีศาจทั้งสอง บุรุษประหลาดและบุรุษวัยกลางคนกำลังเผชิญกับอะไร...
นี่เป็นรางวัลและการลงโทษที่น่ากลัวยิ่งกว่าของนักสู้ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน!
และเป็นการละเล่นที่นำเสนอโดยศัตรู
แต่ก็เป็นการหยามหยันชื่อเสียงอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง
“นายท่านจะให้ข้านับยังไง? ข้านับได้หรือ?” ฟงจีตื่นเต้นและอึดอัดเล็กน้อย เขาควรจะทำยังไง ถ้าเขาต้องทำเอง
“ถ้าทำไม่ได้ ข้าจะไล่เจ้าออก!” เย่ว์หยางไม่เคยห้ามคนของเขาไม่ให้ปฏิเสธ
“ไม่,
ข้าจะนับได้จริงๆ หรือ? ข้าจะนับได้จริงๆ
หรือ?”
เขามองดูองค์เชียนเชียนอีกครั้ง
เขามีความฉลาดพอจะพบว่าท่านหญิงมีสิทธิ์พูด นายใหญ่ไตตันโปรดปรานนางราวกับภรรยาของผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ธรรมดา
“เรื่องมากจริงๆ!” แม้ว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมักจะทะเลาะกับเย่ว์หยางเป็นการส่วนตัวบ่อยๆ แต่ไม่ค่อยมีใครสงสัยในตัวเขา
“หนีไป,
ไม่มีชีวิตก็หนีไม่ได้
ถ้าเจ้าไม่ต้องการ
อย่างนั้นฟันและหนังของเจ้าจะกลายเป็นของสะสมของข้า ตอนนี้เริ่มวิ่งได้แล้ว! คุณชายผู้เมตตาการุณย์ให้โอกาสนี้แก่เจ้า! ข้าลืมบอกพวกเจ้าไป
ข้าเห็นด้วยอย่างยิ่งกับสิ่งที่พวกเจ้าเพิ่งพูด เจ้าหนอนน่าสมเพช
ความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราคุณชายก็คือการได้เห็นคนอ่อนแอมีชีวิตอยู่แทบเท้าข้า
นั่นจะทำให้ข้ามีความรู้สึกเติมเต็มความสำเร็จ... เจ้าจะไม่มีวันเข้าใจ
นี่คือความรู้สึกที่ได้สัมผัสความสำเร็จของนักสู้คนหนึ่งที่ไม่เหมือนใคร
นักสู้คือคนที่สามารถควบคุมชะตาชีวิตของผู้อื่นได้ดังใจนึกไงเล่า!”
เย่ว์หยางทบทวนคำพูดที่บุรุษวัยกลางคนเคยพูดไว้ด้วยความหยิ่งผยอง
การหักหน้าเช่นนี้ แย่ยิ่งกว่าตาย!
ปัญหาก็คือบุรุษวัยกลางคนและบุรุษประหลาดทั้งสองคนไม่มีโอกาสโต้แย้ง
ก็เหมือนความห่างชั้นของผู้ลี้ภัยกับพวกเขา
ความห่างชั้นของทั้งสองฝ่ายแม้จะเป็นนักสู้ปราณฟ้าแต่พวกเขามิอาจต้านทานเย่ว์หยางได้ ไม่ว่าเย่ว์หยางต้องการอะไร พวกเขาได้แต่น้อมรอ
“โครม...” บุรุษประหลาดคุกเข่าลงกับพื้นอย่างไร้พลัง
และบุรุษวัยกลางคนหน้าซีดสั่นสะท้าน
ตอนนี้พวกเขาเริ่มรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังของคนลี้ภัยผู้หิวโหย
และเริ่มเข้าใจถึงความกลัวของมดแมลงที่ถูกฆ่ามาก่อนนั้น
เขาได้รู้ว่าชะตากรรมที่น่าสมเพชนั้นเป็นอย่างไร ถ้าหากเขาย้อนกลับไปได้
พวกเขาจะไม่ไล่ล่าผู้ลี้ภัยผู้หิวโหยที่หลบหนี
และจะไม่ฆ่าหนอนน้อยผู้น่าสงสารผู้คุกเข่าอยู่ใต้เท้าด้วยความสำราญต่อไป ถ้าเขาย้อนกลับไปได้
พวกเขาจะเสียใจทุกอย่างที่ทำก่อนหน้านี้
แต่ตอนนี้โลกไม่หวนกลับอีกแล้ว!
“อั้ก!!!” ยิ่งเขาคิดถึงคนที่เขาฆ่าในอดีต ให้เลาะฟันคน
ควักหัวใจและสมองที่เคยทำให้บุรุษวัยกลางคนมีความสุข เขากลัวจนกระอักโลหิต
“ข้านับแล้วนะ นับจริงๆ นะ หนึ่ง สอง สาม....”
ฟงจีกลัวว่าเย่ว์หยางเจ้านายใหม่จะโกรธ เขารีบนับอย่างรวดเร็ว
ล้อเล่นหรือเปล่า เขาเพิ่งจะได้รับเป็นลูกจ้างชั่วคราว
ถ้าเขาไม่ให้ความร่วมมือ จะมีอาหารดีๆ กินได้อย่างไร
แล้วสองคนที่เคยมีชื่อเสียงนี้ก่อเรื่องเลวร้ายสาหัสมากเกินไป
เมื่อร้ายมาก็ร้ายตอบ
สองคนนี้เจอคนร้ายกาจกว่าอย่างนายใหญ่ไตตันนั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับ คาดว่าพวกเขาทำเรื่องเลวร้ายมามาก
ผู้คนสาปแช่งมากเกินไป เวลานี้ถึงเวลาชดใช้การกระทำ
บุรุษประหลาดที่กำลังตัวสั่น
ยกมือขึ้นทันทีเตรียมเชือดคอตนเอง
เขาต้องการฆ่าตัวตาย
มีใบไม้สองสามใบพุ่งวาบเหมือนใบมีดทันที
แต่ช่วงเวลาที่ใบไม้กำลังจะปาดที่คอ
เย่ว์หยางใช้พลังดรรชนียิงใส่ใบไม้จนเผาไหม้กลายเป็นควันหายไปไม่เหลือร่องรอย
ผิวของบุรุษประหลาดไม่มีรอยแผล ยังดีเหมือนเคย
เขาต้องการตาย
แต่การตัดสินใจนั้นไม่อยู่ในมือของเขาอีกต่อไป
“ข้าไม่อนุญาต เจ้านึกว่าจะฆ่าตัวตายได้หรือ?
เจ้านึกว่าชื่อของ ‘นายใหญ่ไตตัน’ มันไร้สาระหรือ?
มือของข้าไตตันไม่เพียงแต่กำชีวิตศัตรู แต่ก็กำหนดความตายของศัตรูได้เช่นกัน!” เย่ว์หยางพูดเลียนแบบบุรุษประหลาดอีกครั้ง
แน่นอนว่าด้วยพลังระดับเขาย่อมทำได้
ความจริงนี่เป็นเพียงการเริ่มต้น
เย่ว์หยางสามารถทำให้ศัตรูคลั่งใจจนกระอักโลหิตได้ และไม่สนใจว่าศัตรูจะเป็นยังไง!
8 ความคิดเห็น:
ใจจ้า
ขอบคุณครับ
ความแสบของเย่ว์หยาง
เจ็บปวด 555
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ เจอสนองคืนกลับไปบ้าง
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
แสดงความคิดเห็น