ตอนที่ 942
ที่นี่เหมือนกับครอบครัว
จงกวนและคนอื่นอิจฉาจนน้ำลายหก
แต่เลือดมังกรโบราณไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะทนรับได้
พวกเขาชอบยาเม็ดพลังยุทธ
ไม่มีผลกระทบพิเศษ
เลือดมังกรโบราณแม้ว่าจะดี แต่กระทิงเถื่อนสองพี่น้องหลอมรวมแล้วจะทำให้กล้ามเนื้อเพิ่มเป็นสองเท่า
โชคดีที่สองพี่น้องกระทิงเถื่อนต่อให้อยู่ในสภาพน่าเกลียด
แต่พวกเขาไม่สนใจว่าอาการที่แสดงออกมาจะเป็นยังไง ตราบเท่าที่มีพลังเพิ่มขึ้น ทุกอย่างนับว่าไม่เป็นไร
แน่นอนว่าถึงแม้ยาเม็ดพลังยุทธจะเป็นของดี
แต่นี่ไม่ใช่กะหล่ำปลีที่ปลูกตามสวน
คุณชายสามตระกูลเย่ว์เป็นผู้ปรุงขึ้น และเขาใช้เป็นรางวัล พูดง่ายๆ
ก็คือต้องพยายามอย่างเต็มที่ในการทำงาน
คนเกียจคร้านไม่มีทางทำให้คุณชายสามพยักหน้าด้วยความพอใจได้
ตรงกันข้ามนั่นมักเป็นจุดเริ่มต้นของการถูกทำโทษ
“กลุ่มพลังเทพนี้ดึงออกมาจากสองพี่น้องกระทิงเถื่อนหรือ?” เย่ว์หยางกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์
จุ้ยมาวอี้ประหลาดใจเล็กน้อย พี่น้องกระทิงเถื่อนมีพลังเทพอยู่ในร่างกายได้อย่างไร?”
“เทวีเสรีภาพ”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฉลาด คาดเดาครั้งเดียวก็ถูกต้อง
“อาจเป็นไปได้ว่าก่อนนั้นสองพี่น้องกระทิงเถื่อนได้รับบาดเจ็บสาหัสและกำลังจะตาย ดังนั้นเทวีเสรีภาพจึงใช้พลังนี้ช่วยรักษาชีวิตของพวกเขาไว้”
เย่ว์หวี่ผู้มีทักษะแฝงเร้นทางรักษารู้สึกว่าพลังเทพที่ไม่รู้จักนี้ความจริงเป็นพลังที่ใช้ในการรักษา วัตถุประสงค์ไม่ได้ใช้เพื่อต่อสู้ แต่ใช้ฟื้นฟูพลังชีวิต
สิ่งที่ทำให้นางมั่นใจอย่างที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือในพลังเทพที่ถูกรวบรวมอยู่ในมือของเย่ว์หยาง
ไม่มีสำนึกพลังเทพอื่นเหลืออยู่
และมีแต่พลังเทพที่มีสรรพคุณทางรักษาเยียวยาเท่านั้นที่ก่อตัวขึ้น”
“ถูกแล้ว นี่เป็นพลังเยียวยารักษาแน่นอน”
เย่ว์หยางพยักหน้า”
“พลังเทพนี้ถ้ามีประโยชน์ต่อสองพี่น้องกระทิงเถื่อนจริงๆ
เจ้าจะดึงออกมาทำไม?”
จุ้ยมาวอี้ถามด้วยความสงสัย
“นี่คือพลังเทพที่มีคุณสมบัติอ่อนโยนและมีข้อจำกัดซึ่งไม่เหมาะกับสองพี่น้องกระทิงเถื่อน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องกระทิงเถื่อนที่มีพลังเทพอยู่ในตัวมากสุด พลังนี่กลายเป็นเหมือนแม่เลี้ยงไปโดยไม่รู้ตัว คนผู้ให้พลังเทพแก่พวกเขาอาจพยายามจะช่วยชีวิตพวกเขา
รู้ว่านี่ไม่ใช่วิธีที่ดี แต่คงไม่มีวิธีที่ดีไปกว่านี้ อาจเป็นไปได้ว่าเขาไม่รู้ความจริง
และใช้พลังเทพนี้ช่วยสองพี่น้องไปโดยไม่รู้ตัว
ไม่ว่ายังไงก็ตามการมีอยู่ของพลังเทพนี้ไม่เพียงแต่เป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าของพลังเท่านั้น
แต่ยังส่งผลต่อบุคลิกและอุปนิสัยของพวกเขาอย่างแท้จริง
ข้าช่วยดึงพลังเทพนี่ออกมาถือเป็นการช่วยสงเคราะห์พวกเขาอย่างใหญ่หลวงแล้ว นอกจากนี้ข้าไม่ได้เอาพลังเทพของพวกเขามาเปล่าๆ
ข้าใช้เลือดมังกรโบราณแลกเปลี่ยนได้มาไม่ใช่หรือ?”
เย่ว์หยางหัวเราะเหมือนตัวร้าย
เลือดมังกรโบราณแลกกับพลังเทพน่ะหรือ?
พูดอย่างนั้นออกมาได้
หน้าหนาสมกับเป็นคุณชายสามตระกูลเย่ว์จริงๆ
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
เย่ว์หวี่และจุ้ยมาวอี้ชินกับนิสัยของเขานานแล้ว
พวกนางคร้านเกินกว่าจะถ่มน้ำลาย ถ้าเย่ว์หยางไม่ทำเช่นนี้
นั่นคงน่าสงสัยมากกว่า!
อย่างไรก็ตามพลังเทพที่เย่ว์หยางเอากลับมาจะใช้ทำอะไรได้?
พลังงานประหลาดแบบนี้สามารถเปลี่ยนบุรุษให้เป็นเหมือนแม่บุญธรรม เขาจะไม่ใช้แน่นอน
ไม่อย่างนั้นเขาคงโชคร้ายมากกว่า
เย่ว์หยางมองดูสายตาที่แฝงไปด้วยความสงสัยของสามสาว
เขาตะโกนทันที “พวกเจ้าคิดอะไร? ข้าเป็นคนดีนะ!”
เด็กหนุ่มจากโลกอื่นกล่าวว่าเมื่อเขายังเป็นเด็ก
เขามักช่วยพาคนแก่ข้ามถนน
แม้ว่าแม่บุญธรรมเขาไม่ต้องการข้ามถนน แต่เพื่อต้องการทำความดี เขาพยายามทำดีกับนางมากที่สุด ในที่สุดนางก็บอกครูอนุบาลของเขา ทำให้เขาได้รับคำชมถึงหนึ่งสัปดาห์
เขาตั้งใจศึกษาเติบโตเรียนรู้อยู่ทุกวัน
เป็นไปได้ยังไงที่เขาจะเอาพลังเทพมาใช้ทำร้ายผู้คน?
ไม่มีทาง!
พลังเทพนี้เป็นของดี แต่สำหรับเขา ถือว่าไม่พอใช้
“พวกเจ้าต้องการจะให้ใคร? ข้าไม่ต้องการเอาไว้ใช้เองแน่นอน!” แม้ว่าพลังเทพนี้จะถูกชำระโดยเพลิงอมฤต
แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกว่านี่เป็นพลังที่สกัดมาจากสองพี่น้องกระทิงเถื่อน
นางรู้สึกไม่สบายใจ และมองพลังนี้เหมือนอสรพิษ
“แม่เสือสาว เจ้ายังไม่รู้จักของดี”
แม้ว่าเย่ว์หยางจะวิเคราะห์ให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟัง แต่นางไม่มีรสนิยมทางนั้น แม้ว่าพลังเทพนี้จะเป็นของดี
แต่เขาไม่มีทางให้สตรีของเขาเอง
สตรีของเขามีพลังดีที่สุดของตัวเองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพลังคนอื่น นอกจากนี้พลังเทพนี้ไม่เหมาะกับใครเลย
“เจ้าจะเอาไว้ให้อสูรของเจ้าใช้หรือเปล่า?” เย่ว์หวี่รู้ใจของเย่ว์หยางดีและพูดออกมาทันที
“ถูกแล้ว มันคืออาวุธเทพร่างอสูร ข้าได้กุ่ยหยินไฟและเพลิงแดงเทพมาด้วย
และรวมทั้งบ่อเลือด
ข้าต้องการยกระดับดาบเทาเถี้ย ไม่อย่างนั้นมันจะได้รับการยกระดับช้าไปเล็กน้อย
ความจริงไม่เพียงแต่ดาบเทาเถี้ยเท่านั้นที่เลื่อนระดับพลัง
แต่ยังมีอสูรพิทักษ์ที่เป็นบริวารของอสูรที่เขาทำสัญญาอีกที อสูรที่เลื่อนระดับพลังได้ไม่เร็ว ตอนนี้เรามีเลือดเทพและร่างเทพของชี่เทียนเหอ
เลือดเทพและบ่อเลือดที่ชี่เทียนเหอสร้างไว้ ไม่มีเหตุผลใดที่เราจะสร้างของวิเศษไม่ได้และปล่อยโอกาสที่ยิ่งใหญ่ให้เสียเปล่า”
เย่ว์หยางพูดกับตัวเองเกี่ยวกับแผนเลื่อนระดับนี้มานานแล้ว
เพียงแต่เงื่อนไขยังไม่พร้อมเพียงพอ
จนกระทั่งบัดนี้
“ความจริงมีอสูรมากหลายที่ไม่สามารถฝึกฝนยกระดับได้เหมือนเสี่ยวเหวินหลี
ตั่วตั่ว อาหง อาหมัน เจี้ยงอิงและสองสาวมังกรพี่น้องอาเหยาอาหยู
ถ้าพวกเขาอยู่แค่เพียงหอทงเทียน ก็นับว่ามีพลังเพียงพอ แต่สำหรับในแดนสวรรค์มีแต่ศัตรูแข็งแกร่ง ถ้าอสูรไม่ได้รับการเลื่อนพลังด้วย
นั่นจะมีปัญหาตามหลัง”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเห็นด้วยเช่นกัน
เพื่อให้ทุกคนก้าวหน้าได้รวดเร็ว ไม่มีเวลาไปฝึกกันที่บันไดสวรรค์
เจ้าต้องเข้าไปสำรวจแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ และเอาของวิเศษออกมา” จุ้ยมาวอี้ถอนหายใจ
“แดนล่มสลายแห่งทวยเทพไม่ต้องไปคิดถึงเลย” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคิดว่ายังห่างไกลเกินไป
ต้องใช้ของวิเศษที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เกิดความก้าวหน้าเสียก่อน
ทุกคนบอกว่าเย่ว์หยางมีสมบัติวิเศษมากมาย
เลือดเทพก็ยังมีอีกขวดใหญ่
อย่างไรก็ตาม
ในความเป็นจริง การแบ่งปันยังไม่เพียงพอ
เพื่อไม่ให้เป็นการถ่วงความก้าวหน้าของอสูรอย่าง
ตั่วตั่ว อาหง อาหมัน อิคคาและเจี้ยงอิง พวกนางจะอาศัยความสามารถของตนเองฝึกฝนและก้าวหน้าได้
และการให้สมบัติวิเศษเพิ่มเติมจะทำให้พวกที่สติปัญญายังไม่เติบโตเต็มที่ฝึกฝนได้ช้า
อย่างเช่นตั๊กแตนมัจจุราช, ภูตฟ้าปั่นป่วน, ดาบอสูรเทาเถี้ย, แมงป่องดาว,
อสูรน้อยทงเทียนและฮุยไท่หลาง อสูรของเสวี่ยอู๋เสีย, องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน,
โล่วฮัว, อี้หนาน, เย่ว์หยาง, เย่ว์ซวง, นางเซียนหงฟ้า และสหายอื่นอย่างเย่คง
เจ้าอ้วนไห่, เสวี่ยทันหลาง องค์ชายเทียนหลัวและพี่น้องตระกูลหลี่ การเลื่อนระดับพลังของพวกเขายังต้องอาศัยเย่ว์หยาง
แม้แต่อสูรที่ต้องทำสัญญา
ก็ไม่อาจมีพัฒนาการได้ดีโดยไม่มีเย่ว์หยาง
เขาต้องคอยเอาใจใส่ถึงพวกมัน
ของวิเศษนั้นก็เท่ากับไม่มีอะไรเลย
ถ้าไม่ได้เย่ว์หยางออกหน้าปล้นชิงอย่างเมามัน
ไม่ได้เขาคอยเก็บกวาดสมบัติ ไม่ได้ความหน้าด้านใจถึงของเขา จะได้สมบัติวิเศษมาจากที่ไหน? ทุกวันนี้ทุกคนจะอยู่ในระดับไหน? ไม่มีใครอยากเป็นตัวเลวร้าย
แต่ถ้าเขาไม่ยอมเป็นตัวเลวร้าย ก็จะหาทางออกไม่ได้
ในที่สุดก็มีแต่เพียงเย่ว์หยางที่ยิ่งใหญ่อยู่คนเดียว และทำเพื่อตนเอง
เป็นความเจ็บปวดจนปัญญาเย่ว์หวี่และสาวๆ
เข้าใจดี
อาจกล่าวได้ว่าเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
ดังนั้นไม่ว่าเย่ว์หยางจะทำอะไร
พวกนางจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยทั่วไปจะไม่มีการคัดค้าน
บ่อยครั้งที่พวกนางยังหวังว่าเย่ว์หยางจะปล่อยวางความคิดทั่วไปและใช้สมบัติวิเศษยกระดับตนเองให้เต็มที่ก่อน
ที่สำคัญเขาคือเสาหลักที่สำคัญที่สุดของหอทงเทียน และเป็นตัวแทนของทุกอย่างโดยตรง ยิ่งเขามีความแข็งแกร่งมากขึ้น
ก็ยิ่งยกสถานะหอทงเทียนให้สูงขึ้น
และทุกคนจะสามารถตามรอยเขาสู่ระดับพลังที่สูงขึ้น....”
“ดาบอสูรเทาเถี้ยยกระดับสูงขึ้นจะเปลี่ยนเป็นอะไร?
เพลิงฟ้า หรือเพลิงแดง?”
จุ้ยมาวอี้ถามคำถามเช่นนี้เพราะเย่ว์หยางมีเพลิงวิเศษในครอบครองอยู่มากมาย
นอกจากเพลิงอันดับหนึ่งของโลก
เพลิงอมฤต
ระหว่างที่เย่ว์หยางมีการฝึกฝนก้าวหน้า
เขาได้เก็บรวบรวมพลังเพลิงไว้หลากหลายชนิด อาทิ เพลิงบัวแดงฟ้าซึ่งของจักรพรรดิชื่อตี้และสนมชื่อเฟยและทำความเข้าใจตั้งแต่นั้นมา
นอกจากนี้ยังมีไฟบางชนิดที่มีความพิเศษมากอย่างเช่นเพลิงน้ำเงิน เพลิงชนิดนี้เย่ว์หยางได้มาหลังจากอยู่ในสนามประลองดึกดำบรรพ์และไล่ล่าตามศัตรูเข้าแดนสวรรค์ครั้งแรกและสู้กับผู้อาวุโสจากตำหนักไฟ
นอกจากนี้ยังมีเพลิงแดงฟ้าที่ใกล้เคียงกับเพลิงเทพ
เขาได้รับมาไม่นานจากการต่อสู้กับชี่เทียนเหอ
เย่ว์หยางดูดซับดูดกลืนและหลอมรวมด้วยพลังกฎสวรรค์น้อย, อักขระรูนโบราณ, พลังเทพวิบัติและสร้างเป็นเพลิงศักดิ์สิทธิ์แดงสวรรค์ที่เหนือกว่า
เพลิงศักดิ์สิทธิ์แดงสวรรค์ใกล้เคียงจะเป็นเพลิงระดับเทพแท้ๆ
แต่ที่สำคัญ
เย่ว์หยางยังไม่ใช่สุดยอดนักสู้ปราณราชันย์
เพลิงแดงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์นี้ก็คงตั้งชื่อได้แค่นี้
เป็นเพลิงเตรียมระดับเทพแข็งแกร่งมากกว่าเพลิงบัวแดง,
และเพลิงน้ำเงินแดงเล็กน้อย
แต่เย่ว์หยางพบว่าบทบาทที่สำคัญที่สุดของเพลิงเหล่านี้คือใช้ยกระดับอสูรได้ดีกว่า
ไม่ใช่ว่าจะใช้ได้ผลดีในการต่อสู้เท่านั้น
ในบรรดาพลังงานไฟเหล่านี้
สิ่งที่ยุ่งยากที่สุดสำหรับเย่ว์หยางก็คือกุ้ยหยินไฟ
นี่คือเปลวไฟที่คงที่ สงบที่สุด
เป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายสมดุล
ทันทีที่มีพลังงานผันผวน มันจะระเบิดพลังงานทำลายล้างออกมาเป็นสิบล้านเท่า
เคยใช้กุ่ยหยินไฟเพื่อยกระดับดาบอสูรเทาเถี้ย
แต่เย่ว์หยางยังรู้สึกปวดหัว
ดังนั้นจุ้ยมาวอี้ถามเย่ว์หยางว่าเขาต้องการใช้เพลิงบัวแดงหรือเพลิงแดงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อช่วยให้ดาบอสูรเทาเถี้ยยกระดับ
“กลุ่มพลังศักดิ์สิทธิ์นี้ นอกจากมีแก่นผลึกไฟของจ้าวอัคคี,
เพลิงแดงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์และพลังงานปั่นป่วน” เย่ว์หยางรู้สึกละอายใจมาก
ที่เขาไม่ได้ใช้ความพยายามมากพอในการยกระดับอสูรของเขา อสูรอย่างดาบอสูรเทาเถี้ย
ฮุยไท่หลางและอสูรน้อยทงเทียนมีพรสวรรค์ไม่มีขีดจำกัด ไม่ต้องพูดถึงอาหมัน
ตั่วตั่วและเสี่ยวเหวินหลี”
นอกจากนี้ถ้ามีเวลาเขาจะต้องยกระดับอสูรน้อยขับวารีขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
“เจ้าอสูรน้อยนี้จะวิวัฒนาการเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้” เย่ว์หยางเสนอแนะ
แน่นอนว่าก่อนนั้นนางเสนอให้ยกระดับหนูน้อยแพนด้าหนิวหนิว
แต่เย่ว์หยางรู้สึกว่าหนิวหนิวควรจะได้รับการวางรากฐานที่ดีและไม่ควรจะก้าวหน้าเร็วเกินไป ทางที่ดีให้เธอค่อยๆ เรียนรู้เหมือนกับเด็ก
อย่าเอาเข้าร่วมการต่อสู้ต่างๆ เร็วเกินไป
เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเติบโตตามธรรมชาติ
ในความคิดของเย่ว์หยาง หนิวหนิวก็คล้ายกับหนูน้อยเย่ว์ซวง ถ้าพวกเขาจะต้องออกไปต่อสู้
ควรจะเป็นหน้าที่รับผิดชอบของผู้เป็นพี่ชาย
“แล้วเจ้าหนอนขี้เกียจฮุยไท่หลางเล่า
น่าจะทำให้มันก้าวหน้าระดับใหม่ได้”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจะหงุดหงิดทุกครั้งที่พูดถึงฮุยไท่หลาง
“ข้าเห็นว่าเจ้าหนูนั่นขยันจริงๆ เมื่อเจ้านายผ่านเข้าประตูมาได้ มันจะรีบไถลตัวเข้ามาเลียแข้งเลียขาเจ้านายมัน...
หนิวหนิวไม่ถึงกับเป็นเช่นนั้น!”
จุ้ยมาวอี้รู้สึกอิจฉา
“การอบรมสั่งสอนของเชี่ยนเชี่ยนเข้มงวดมาก” เย่ว์หวี่หยอกเขา
อสูรน้อยขับวารีปกติจะซุกซนมาก
แต่เมื่อมันเห็นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน มันจะกลัวแทบไม่กล้าหายใจ
“เอาล่ะ ไม่เป็นไร
หลังจากนี้ข้าจะยกระดับให้ดาบอสูรเทาเถี้ยก่อน”
เย่ว์หยางใช้เข็มทิศสามพิภพกลับไปยังหอทงเทียนทวีปมังกรทะยาน
เพราะเขาเก็บดาบอสูรเทาเถี้ยไว้ที่นั่น
ฮุยไท่หลางรับผิดชอบในการควบคุมเจ้าอ้วนไห่กับพวกพ้องในการฝึกฝน พอมันรู้สึกถึงเย่ว์หยาง มันรีบตามมาสมทบทันที
ไม่ใช่เพียงแค่มันเท่านั้น
แมงป่องดาว
และอสูรน้อยทงเทียนก็ตามมาสมทบด้วยเช่นกัน
เย่ว์หยางต้องการยกระดับดาบอสูรเทาเถี้ย
พวกมันย่อมไม่มีความเห็น พวกมันต้องเร่งทำคะแนนแข่งกัน
แม้จะเป็นความดีเพียงเล็กน้อย
มิฉะนั้นพวกมันคงได้แต่ใช้สายตาน่าสงสารมองดูเย่ว์หยางจนกว่าเขาจะใจอ่อน
ครอบครัวฟุ่มเฟือย!
อสูรที่เอาแต่กินโดยไม่ทำงาน
แต่ยังเสนอหน้าให้ทุกคนได้เห็น เย่ว์หยางสบถด่าพวกมัน
ฮุยไท่หลางกับพวกอสูรได้แต่ก้มหน้าเกาเนื้อเกาตัวแก้เก้อทำนองว่าพวกมันจะแก้ไขตัวเองแน่นอน
เลือดเทพหยดสุดท้ายที่ใช้งานนี้ถูกใช้ออกไปกับดาบอสูรเทาเถี้ยอย่างตั้งใจ ความจริงดาบอสูรถูกใช้งานมากที่สุดในกลุ่มพวกนี้
โดยเฉพาะงานสกปรก เนื่องจากดาบอสูรเทาเถี้ยกลายสภาพมาจากดาบไปเป็นอาวุธร่างอสูร
ฮุยไท่หลางถือว่ามันเป็นน้องชาย
เพราะความสัมพันธ์ทางสติปัญญาของมันยังตามหลังแมงป่องดาว
แต่มันใช้งานได้ดีกว่า ยังไม่ต้องไปเทียบกับอสูรน้อยทงเทียน เจ้าอสูรในตำนาน
เทาเถี้ยไม่เคยบ่น
ไม่เคยอุทธรณ์ว่ามันเหนื่อยล้า
เย่ว์หยางอยากให้อสูรอื่นเรียนรู้เอาอย่างดาบอสูรเทาเถี้ย
มันจึงได้รับโอกาสเลื่อนระดับเป็นธรรมดา
ดาบอสูรเทาเถี้ยยิ้มอยู่เงียบๆ
ใครว่าความซื่อสัตย์ไม่ใช่เรื่องดี?
ฮุยไท่หลาง อสูรน้อยทงเทียนมองดูผลึกเพลิงพิโรธน้ำลายหก
เย่ว์หยางผนึกติดเพลิงแดงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์
และพลังปั่นป่วนผสานไว้ที่หน้าผากเทาเถี้ย โดยใช้แก่นผลึกไฟเป็นหลัก
เย่ว์หยางใช้เพลิงอมฤตชำระดาบอสูรเทาเถี้ย
อาวุธเทพร่างอสูรทำให้มันได้ชีวิตใหม่และเลื่อนระดับพลังอย่างสมบูรณ์ พอเย่ว์หยางเหยียดมือออกอสูรเทาเถี้ยกลายร่างเป็นดาบเทาเถี้ย
มีศักดิ์ฐานะเกินกว่าดาบเทพธรรมดา
แค่เพียงตวัดดาบเบาๆ
ท้องฟ้าและมิติเกิดรอยแยกทันที
เมื่อเย่ว์หยางปล่อยมันออกมา ดาบเทาเถี้ยแปลงร่างเป็นอสูรเทาเถี้ย
ดาบเทพร่างอสูรที่สมบูรณ์ วิวัฒนาการร่างของมันแปลกประหลาด
และมันเชิดหัวกู่ร้องคำรามราวสายฟ้าฟาด
แม้แต่ฮุยไท่หลางที่ดูดซับเลือดเทพอยู่ด้านนอกยังรู้สึกได้ถึงพลังกดดันที่หนักหน่วง
มันลืมตาอย่างรวดเร็ว ตาเป็นประกาย
หลังจากเลื่อนระดับให้ดาบเทาเถี้ย
เย่ว์หยางให้รางวัลเหล่าอสูรอย่างจ้าวฉลามเสือทอง พญางูโลหิต นางพญาผึ้งเพลิง ฯลฯ
เป็นรางวัลที่พวกมันทำงานหนักมาตลอด
เขาไม่ได้ให้แค่เลือดเนื้อธรรมดา
แต่เป็นเนื้อของชี่เทียนเหอ ตัดเนื้อจากร่างเทพ ฮุยไท่หลางน้ำลายหก
และแมงป่องดาวฟ้ากระตือรือร้นอยากได้ แต่ไม่มีส่วนแบ่งให้มัน
มีเพียงอสูรน้อยทงเทียนที่สะบัดก้นนอนต่อและกัดกินเศษแก่นผลึกต่อ
พลังงานอัญมณีหรือเลือดเทพ เห็นได้ชัดว่าไม่เพียงพอ
ถ้าเย่ว์หยางควักอัญมณีสุริยันต์ออกมา
มันจะเกิดอาการน้ำลายไหลเหมือนกับสุนัขพันธุ์ปั๊กทันที
“เจ้าก็อยากจะกินด้วยหรือ?” เย่ว์หยางถามพลางหัวเราะ
“โฮ่ง” ฮุยไท่หลางผงกศีรษะเหมือนไก่จิกข้าว และแมงป่องดาวฟ้าผงกหัวและกระดิกหางเหมือนกับเป็นสุนัขเลี้ยงประจำบ้าน
“แล้วทำไมพวกเจ้าไม่ออกไปทำงานให้ข้า?
ข้าไม่ใช่ถังใส่ข้าว!”
เย่ว์หยางโมโหทันที เวลาโมโห
เขาโมโหเหมือนกับภูเขาไฟระเบิดทำให้ฮุยไท่หลางและแมงป่องดาวฟ้ากอดกันกลัวจนตัวสั่น โชคดีที่เย่ว์หวี่อยู่ที่นี่ช่วยชีวิตพวกมันไว้ มิฉะนั้นพวกมันคงต้องปล่อยให้เย่ว์หยางด่าว่าพวกมันจะกว่าเขาจะพอใจ
จากนั้นเขาเห็นฮุยไท่หลางและแมงป่องดาวฟ้าพยายามจะทำงานอย่างหนัก พวกมันเอาถังขยะและไม้กวาดทำความสะอาดทั้งข้างในและข้างนอก
การทำความสะอาดครั้งสุดท้ายพวกมันดูดซับพลังจากภูเขาน้ำแข็ง
และกำจัดภูเขาน้ำแข็งหายไป
ไม่เพียงแต่พวกมันเท่านั้น
แม้แต่อสูรน้อยทงเทียนอสูรที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนชอบมากที่สุด
ก็ยังไม่กล้านอนหลับอย่างเกียจคร้าน แต่มันจะเข้าครัวช่วยหั่นเนื้อหั่นผัก
ยิ่งช่วยก็ยิ่งวุ่นวาย
แต่มองเห็นภาพเช่นนี้แล้วสาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์อดหัวเราะไม่ได้
เย่ว์หวี่มองเห็นภาพนี้แล้วอดยิ้มไม่ได้ “ดีจริงๆ ดูแล้วค่อยเหมือนครอบครัวบ้าง!”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมองดูเย่ว์หวี่และหัวเราะ
นางพูดเสริม “ใช่แล้ว หลายคนวุ่นวายจริงๆ ค่อยดูเหมือนกับเป็นบ้านขึ้นมาบ้าง...”
……
7 ความคิดเห็น:
ห้าๆใช้สัตว์อสูร ทำงานบ้าน อ่านตั้งนานนึกว่าใช้สู้ปกป้องเมือง บ้าเอ้ยหลงสับสนตั้งนาน
ฮุยไท่หลาง(หมายืน2ขา)กวาดบ้าน 555 นึกภาพออกเลย
ใจจ้า
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
เหล่าอสูรของเย่ว์หยางใกล้กลายรา่งเป็นมนุษย์หรือเปล่านี่
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น