วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 950 แรงบันดาลใจสุดยอด


ตอนที่  950  แรงบันดาลใจสุดยอด
เย่ว์หยางเห็นสาวงามมาก็มาก
 
บางคนอ่อนโยนเหมือนสายน้ำ บางคนแก่นแก้วน่ารัก บางคนร้อนแรงน่าหลงใหล บางคนเจ้าเสน่ห์ บางคนเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง
ในโลกนี้แทบจะไม่มีสตรีที่สวยซ้ำกัน ทุกนางมีบุคลิกเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง
แน่นอนว่านอกจากความแตกต่างกันแล้ว  หญิงงามแต่ละนางก็มีความคล้ายคลึงกันหลายอย่าง
ตัวอย่างเช่นรูปลักษณ์และอิริยาบถที่อ่อนช้อยงดงาม
อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางไม่เคยเห็นหญิงงามอย่างประหลาดเหมือนอย่างเทวีเสรีภาพเลย
สตรีผู้นั้นถูกขังอยู่ในรถที่มีนักสู้ปราณฟ้ากำลังนำมานั้นไม่ใช่สตรีที่งดงามที่สุดที่เย่ว์หยางเคยเห็น ในทางตรงกันข้ามรูปร่างหน้าตาของนางไม่ได้งดงามอย่างที่เย่ว์หยางจินตนาการ  อย่างไรก็ตามเทวีเสรีภาพนี้เย่ว์หยางมีความรู้สึกว่านางงดงามจิตใจดีที่สุดเท่าที่เย่ว์หยางเคยเห็นมา  แม้ว่านางคือเทวีเสรีภาพ แต่ว่านางไม่ได้อยู่ในรูปลักษณ์เหมือนกับราชินีหรือเทวีแต่อย่างใด นางเหมือนกับสตรียากไร้สวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งพอปิดบังร่างกาย  แต่ว่าเสื้อผ้าที่นางสวมไม่สามารถปกปิดรอยเปื้อนกายได้ทุกส่วน
นางเหมือนกับคนธรรมดาหิวโหยที่นอนรอความตายอยู่ริมถนน
อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ไม่สามารถปิดบังความงามของนางได้
เย่ว์หยางอดตกใจเมื่อเห็นนางมิได้
แม้ว่าจะอยู่ในรถคุมขัง แต่นางยังยิ้มเหมือนกับว่านั่นไม่ใช่รถนักโทษ แต่เป็นปราสาทของนางเอง
รอยยิ้มนั้น
ไม่ใช่รอยยิ้มแข็งกระด้าง
แต่เป็นความกรุณาและความอดกลั้นที่ออกมาจากใจของนาง
รอยยิ้มแบบนั้นแฝงไปด้วยกลิ่นอายละมุนเหมือนกับที่มีเฉพาะในมารดา เหมือนกับพระจันทร์ทอแสง
รอยยิ้มของนางเหมือนเปล่งออกมาจากหัวใจ ราวกับน้ำผุดใสสะอาดในป่า สามารถชำระตะกอนใจของมนุษย์หายไปได้อย่างรวดเร็ว เมื่อนางพยักหน้าเล็กน้อยให้กับประชาชนผู้หิวโหยที่เทิดทูนนางในสองข้างทาง นางพยักหน้าเล็กน้อยและยิ้มผ่อนคลาย  ทันใดนั้นเย่ว์หยางรู้สึกว่านี่เป็นพลังที่แข็งแกร่ง  เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่นักรบปราณฟ้าธรรมดาจะส่งพลังเช่นนี้ออกมาได้  นี่ต้องเป็นระดับพลังปราณราชันย์มีเจตจำนงและศรัทธาอันทรงพลัง”
 “อย่าร้องไห้เลยทุกคน  ความหิวโหยและความเจ็บปวดจะต้องหายไปอย่างน่นอน จงอย่ายอมแพ้ พวกเจ้าต้องมีความหวังอยู่เสมอ!
 “ข้าไม่เป็นไร  พวกเจ้าไม่ต้องกังวล
 “ขอให้ทุกคนมีความสุขเถิด!
เทวีพูดโดยไม่มีความรู้สึกอะไร
ไม่มีความรู้สึกตื่นเต้นหรือประหม่า
เป็นแค่ภาษาสุภาพจริงใจ เป็นน้ำเสียงเช่นเดียวกับที่ใช้บอกเตือนสมาชิกในครอบครัว  อย่างไรก็ตามแม้ว่าเย่ว์หยางจะเข้าถึงระดับพลังนักสู้ชั้นสูง  หลังจากได้ยินเสียงนี้แล้วเขาไม่รู้สึกว่านางพูดผิด   ดูเหมือนว่าจิตใจของเขาไม่มีความรู้สึกต่อต้านกับความคิดที่ไร้สาระเช่นนี้
เปลี่ยนเป็นบุคคลอื่น เย่ว์หยางได้ยินคำปลอบใจอย่างนั้น เขาคงเยาะเย้ยเหยียดหยามแน่นอน
ท่านไม่ได้ทำอะไร ยังจะมีความหวังจริงๆ อีกหรือ?
ในเมื่อร่างท่านล้มลงและกำลังจะตาย ท่านยังจะรอความหวังได้อีกหรือ?
อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยินตามคำพูดของเทวีเสรีภาพ เย่ว์หยางพบว่าตนเองไม่มีความคิดหักล้าง
เหตุผลของเทวีเสรีภาพนี้ดูเหมือนจะถูก... สิ่งที่ทำให้คนเรานิ่งเฉยไม่อาจต้านทานได้ หรือนั่นคือประสงค์ของเทพเจ้า! แม้แต่ปณิธานที่เหนือเทพก็ทำให้เย่ว์หยางรู้สึกได้ถึงสำนึกเทพที่แท้จริงซึ่งมิอาจต่อต้านได้
เย่ว์หยางพบโดยบังเอิญว่าตาของเทวีเสรีภาพเจิดจ้ามาก แต่เหมือนกับไม่ได้เพ่งมองสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ
ความจริงแล้ว นางเป็นสตรีตาบอด!
เทวีเสรีภาพผู้มิอาจเห็นโลกได้  แต่นางกลับเข้าใจโลกได้ทั้งโลก
เมื่อเย่ว์หยางปล่อยให้นางแค่ชำเลืองมอง เย่ว์หยางเหมือนกับเกิดภาพลวงตาว่านางมองลึกลงไปในใจเขา
เมื่อนางยิ้มดูเหมือนนางมีความอ่อนโยนมั่นคงไม่เหมือนใคร ดวงตาที่สดใสของนางเหมือนกับมิได้เพ่งอยู่กับอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ  ความอ่อนโยนบนใบหน้าแทบจะทำให้หัวใจเย่ว์หยางสั่นไหว
การปรากฏตัวของเทวีเสรีภาพ แม้แต่นักสู้ปราณฟ้าที่ได้พบเห็นนางก็ยังอดรู้สึกถ่อมตนและละอายใจมิได้
นั่นไม่ใช่เพราะนางแข็งแกร่งน่ากลัว
แต่เป็นเพราะความอ่อนโยนเมตตาที่นางมีต่อสรรพชีวิต
แม้ว่าสตรีอย่างนางจะถูกขังอยู่ในรถนักโทษ แม้ว่านางจะสวมชุดขาดกะรุ่งกะริ่ง  แม้นางจะถูกทรมาน แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคขัดขวางความเคารพที่ชาวโลกมีต่อนางได้เลย
มือทั้งสองของเทวีเสรีภาพราวกับหยกที่ไร้ตำหนิ อย่างไรก็ตาม นางไม่มีขาทั้งสอง  ไม่มีอวัยวะส่วนใต้เอวลงไป
สำหรับร่างกายท่อนล่างของนาง เย่ว์หยางเคยได้ยินมาก่อนนี้ว่าเพื่อกำจัดโรคร้ายและคำสาปแช่งของประชาชนผู้หิวโหย นางยอมเสียสละร่างกายส่วนนั้นของตนเอง
แม้แต่ร่างกายก็ยังมีเลือดเนื้อไม่สมบูรณ์
พลังงานครึ่งหนึ่งและเลือดเนื้อครึ่งหนึ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะพลังเทพที่ไม่รู้จักคอยประคับประคองชีวิตนางไว้อย่างต่อเนื่อง เทวีเสรีภาพคงตายไปนานแล้ว และพลังเทพนี้เย่ว์หยางสกัดออกมาจากสองพี่น้องกระทิงเถื่อน กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือชีวิตของสองพี่น้องกระทิงเถื่อนได้รับการช่วยเหลือจากเทวีเสรีภาพ  ไม่ใช่จากเทพ
เทวีเสรีภาพใช้พลังนักสู้ปราณฟ้าได้อย่างไร? นางใช้พลังเทพได้อย่างไร?
เย่ว์หยางสับสน
 “หรือว่าหลายคนต้องคำสาป? ข้าเข้าใจ”  หลังจากได้ฟังคำของเทวีเสรีภาพ นางพยักหน้าให้ สายตานางกวาดไปรอบๆ และมองคนรอบตัวนาง  นี่เป็นนิสัยพิเศษประจำตัวนาง  เย่ว์หยางตัดสินใจได้ทันทีว่าเทวีเสรีภาพไม่ได้ตาบอดตั้งแต่กำเนิด แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง  บางทีอาจเพื่อเป็นการช่วยชีวิตผู้คน จำต้องเสียสละการมองเห็นตลอดไป  ขณะนั้นเทวีพูดถึงเงื่อนไข  “ตราบเท่าที่ผู้อยู่อาศัยในเมืองลู่หลิวได้กินอิ่มท้อง  อย่างนั้นข้ายินดีจะปลดปล่อยคำสาปนี้เพื่อทุกคน  อย่างไรก็ตาม ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องกำหนดไว้ที่เกาะกลางจื่อฟง หรือว่าบางทีคำสาปอาจเป็นคำสาปที่เต็มไปด้วยความแค้นพยาบาทซึ่งต้องการรายละเอียดมากเป็นพิเศษ”
 “ไม่สำคัญ! โปรดไปที่เกาะกลางกับเรา  เราและคนอื่นๆ ไม่เป็นไรแน่ มีแต่อาคันตุกะจากแดนสวรรค์บนที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเรากลับโดนคำสาป เป็นความผิดของเราจื่อฟงเอง”  ราชาจื่อฟงแนะนำเย่ว์หยาง คุณชายไตตันและมารสัมฤทธิ์และพวกให้เทวีเสรีภาพรู้จัก
ในที่สุดราชาจื่อฟงก็ให้การรับรอง  “ไม่ว่าคำสาปจะได้รับการถอนได้สำเร็จหรือไม่ ผู้หิวโหยในเมืองลู่หลิวจะได้รับการบรรเทาเยียวยา”
เทวีเสรีภาพยิ้มด้วยสีหน้าแจ่มใส
เป็นรอยยิ้มจากใจของนาง
นางประสานมือคารวะอย่างจริงใจ  “ดีจริงๆ ราชาจื่อฟง ท่านจะได้รับผลบุญสนองตอบแน่นอนจากความดีในวันนี้”
เย่ว์หยางเงียบ เขาได้เห็นหญิงงามมาทั้งชีวิต คนรักของเขาไม่ต้องพูดถึง  แม้แต่คนนอก ก็มีบุคลิกหลากหลายรูปแบบ  เย่ว์หยางเห็นเหมือนสนมชื่อเฟย ถ้าเพื่อจักรพรรดิชื่อตี้แม้เขาจะไม่ดียังไงก็ตามนางก็พร้อมตายตามเขาโดยไม่คิดมากความ มีความรักของหลายคนที่เกิดขึ้นเพราะแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัว หรือแม้แต่สตรีที่บ้าไล่ตามอำนาจอย่างจักรพรรดินีฟ้าที่เอาชะตาตระกูลเผ่าพันธุ์มาเป็นเดิมพัน... แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เทวีเสรีภาพจะให้อภัยทุกอย่าง เขาไม่เคยเห็นคนอย่างนางมาก่อนในโลก
เทวีเสรีภาพนี้ทำให้เย่ว์หยางอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ ในสายตาของเขาสตรีนี้โง่เง่าสมองตายแล้ว
แต่เมื่อเขาเห็นนางด้วยตาตนเอง
ในใจของเขาอดว้าวุ่นไม่ได้
แรงบันดาลใจอะไรทำให้นางยืนหยัดได้จนถึงบัดนี้?
ก็รู้อยู่ว่าราชาจื่อฟง ชิงหลาง คนพวกนี้เจ้าเล่ห์ พวกเขาเตรียมเผานางเองทั้งเป็น ทั้งยังขังนางล่ามโซ่ตีตรวนไม่ยอมปล่อย ทำไมต้องสัญญาว่าจะคลี่คลายคำสาปให้กับพวกเขา?
ถ้าเทวีเสรีภาพนี้เป็นสตรีของเขา  เขาคงจับนางถอดกางเกงและตีก้นนางอย่างแน่นอน
นี่มันโง่เกินไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นร่างที่ถูกทรมานของเทวีเสรีภาพและรอยยิ้มของนางแล้ว เย่ว์หยางไม่กล้าว่านางโง่เง่า
ในโลกนี้มักจะมีคนที่เสียสละเพื่อความรักของพวกเขา ทั้งที่ไม่ได้คุณค่ารางวัลตอบแทนแม้แต่น้อย แต่กลับยอมทนทุกข์ยอมเสียสละ อย่างเช่นแม่สี่เป็นต้นสักกี่คน
แม่สี่ไม่เหมือนกับเทวีเสรีภาพเสียทีเดียว  นางไม่เหมือนใครนางมีแต่ความอ่อนโยนใจดีและรักคนที่นางดูแล
อย่างไรก็ตามในบางมุมมอง แม่สี่กับเทวีเสรีภาพก็เหมือนกัน
นางทุ่มเทให้เย่ว์หยาง เย่ว์ปิงและหนูน้อยเย่ว์ซวงยิ่งกว่าเทวีเสรีภาพที่มีต่อคนทั่วไป  อาจกล่าวได้ว่าแม่สี่เป็นศูนย์รวมความรักที่ยิ่งใหญ่ที่มีต่อเย่ว์หยาง ดังนั้นเย่ว์หยางจะรู้สึกมีความสุข  เขาไม่สามารถทำอย่างนี้ได้  แต่เย่ว์หยางไม่ต้องการปฏิเสธความพยายามเช่นนี้ เพราะว่าถ้าเขาต้องปฏิเสธก็หมายความว่าเขาปฏิเสธแม่สี่
เมื่อเทวีเสรีภาพขึ้นเรือเหาะและตัดสินใจไปเกาะกลางแห่งบึงหยุดลมพร้อมกับราชาจื่อฟงเพื่อพบกับศัตรู เพื่อให้ผู้อดอยากยากไร้ในเมืองได้กินอาหารฟรีเป็นครั้งแรก
พวกเขาทุกคนรู้
อาหารเหล่านี้แลกมาด้วยชีวิตของเทวีเสรีภาพ พวกเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากอธิษฐานทั้งน้ำตา
เย่ว์หยางเห็นทุกอย่างในสายตาของเขา และเก็บความสงสัยใหญ่ที่สุดไว้ในใจและเดินเข้าไปในเรือเหาะ  เมื่อราชาจื่อฟงและคนอื่นคุยกับมารสัมฤทธิ์ฟ้าถึงวิธีป้องกันศัตรูจากการล้อมโจมตี  เย่ว์หยางเข้าไปหาเทวีเสรีภาพและถาม “ถ้าราชาจื่อฟงไม่รักษาเกียรติและสัญญา ท่านจะทำยังไง?  เขามีอำนาจ ไม่จำเป็นต้องรักษาสัญญก็ได้ ต่อให้เขาผิดสัญญาท่านก็ไม่มีอำนาจไปหยุดเขา”
เทวีเสรีภาพมองมาทางเย่ว์หยางทั้งที่ไม่เห็นอะไร รอยยิ้มนางเหมือนกับสายลม “เจ้าคือคุณชายไตตันจากแดนสวรรค์บนใช่ไหม?  แม้ว่าหน้าของเจ้าจะรั้นและถือดีแต่หัวใจและตาภายในของข้าสามารถมองเห็นได้ว่าเจ้าเป็นเพียงคนเดียวในหลายๆ คนที่มีจิตวิญญาณเป็นสีทองสว่างเจิดจ้า ที่นี่ยกเว้นเจ้าไม่มีใครถามคำถามนี้  หรือจะพูดอีกอย่างหนึ่ง ยกเว้นเจ้าแล้วไม่มีใครที่รู้สึกเห็นอกเห็นใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักรบที่ทรงพลัง   เว้นแต่พวกเขาสูญเสียพลังไปพวกเขาถึงจะจำได้  ความจริงความเห็นอกเห็นใจคือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!
 “เป็นไปได้ยังไง ข้าไม่เห็นด้วยกับท่าน!  เย่ว์หยางไม่เคยรู้สึกว่าคนที่มีความเห็นอกเห็นใจจะเป็นคนที่ทรงพลังมากที่สุด และไม่รู้สึกว่าความสงสารจะเป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุด
 “เจ้าคิดว่าเจ้ามีพลังสุดยอด ถ้าเจ้ามองกลับไปยังโลก เจ้าเป็นคนที่น่าสมเพชเหมือนมดหรือเปล่า?  มองดูพวกเขา พวกเขาวุ่นวาย หยาบคายร้ายกาจและเจ็บปวดกับชีวิต เพื่อผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ  แม้ว่าเขาจะเสื่อมเสียชื่อเสียง แม้ว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้  แม้ว่าจะโชคร้ายถูกฆ่าก็ตาม  แต่ข้าไม่รู้ว่านั่นเป็นแค่ความอ่อนน้อม ข้าคิดว่าข้าแข็งแกร่ง เจ้าคิดว่าคนแบบนั้นน่าสมเพชหรือไม่?  ตั้งแต่เย่ว์หยางถาม เทวียิ้มให้เขา
 “นั่นไม่ได้หมายความว่าคนที่มีความเห็นอกเห็นใจจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด ข้อพิสูจน์ของเย่ว์หยางนั้นไร้คู่แข่ง และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกปฏิเสธยากเล็กน้อย
 “คนที่มีความเห็นอกเห็นใจที่แท้จริงไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำเช่นข้า  ข้าแค่อยากจะทำให้ดี  เพียงแต่ข้ายังไม่ตระหนักถึงความเห็นใจที่แท้จริง  ความเห็นใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ใช่เพียงแต่ช่วยให้ผู้เคราะห์ร้ายตกยากได้อาหาร ข้ามาที่นี่ก็เพื่อแค่เป็นตัวอย่างแสดงให้เห็นแต่เพียงว่า ขอเพียงผู้ทรงอำนาจที่สุดจึงจะมองเห็นสถานะที่ต่ำต้อยอย่างแท้จริง พวกเขามองลงมายังโลกด้วยสิ่งที่เรียกว่าความกรุณา  เหล่ามหาเทพผู้ทรงอำนาจเหล่านั้นอยู่บนฟากฟ้ามองเห็นพวกเรายุ่งเหยิงเหมือนมด มองดูเราตั้งแต่เกิด เติบโต ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ ชื่อเสียงและโชคชะตาที่ดี  มองดูพวกเราเจ็บจากการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจ ป่วยและตายไปในที่สุด.... ด้วยการมองดูสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ข้าจึงมองเห็นความจริงของโลกและชีวิตที่ต่ำต้อย เพียงแค่นี้ข้าจึงเข้าใจได้ว่าชีวิตนั้นน่าสมเพชอย่างแท้จริงถึงเพียงนี้!
ทันทีที่เทวีเสรีภาพพูดจบ เย่ว์หยางตกตะลึง
เขารู้สึกเหมือนว่าเขาตื่นรู้ เป็นความรู้สึกที่เขาไม่สัมผัสเห็นมาก่อน เป็นความรู้ที่ผุดขึ้นมาจากใจส่วนลึกที่สุด
ก่อนหน้านั้น เขามักจะคิดอยู่เสมอว่าเทพเจ้าคืออะไร มนุษย์คืออะไร อะไรเป็นขีดจำกัดของพลัง และเป้าหมายในการก้าวหน้าสูงสุดของเขาคืออะไร หลังได้ฟังคำพูดสองสามคำในวันนี้ เขาจึงได้พบทิศทางที่ดีที่สุดจากตรงนั้นเอง
คนที่ทรงพลังอำนาจมากที่สุดเท่านั้นขอเพียงยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก สามารถเห็นความเป็นจริงของโลกได้ เขาจึงจะตระหนักได้ถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนแม้ในจุดที่เล็กที่สุดของโลก....ด้วยใจที่ไม่ธรรมดา
มองดูชีวิตนับไม่ถ้วน!
หากใครไม่เข้าใจสิ่งนี้ อย่างนั้นก็หมายความว่าผู้นั้นยังแข็งแกร่งไม่พอ  ถ้าผู้ใดเข้าใจได้ อย่างนั้นก็จะสามารถทะลุขีดจำกัดได้ไม่ใช่หรือ?  เขาเข้าใจแล้ว  ในที่สุดเขาก็เข้าใจ  มองอย่างผิวเผิน เย่ว์หยางไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร  แต่ในใจของเขามีการเปลี่ยนแปลงสะท้านโลก

9 ความคิดเห็น:

ำรำร กล่าวว่า...

-*-

ไก่ มหัสจรรษ์ กล่าวว่า...

บอกเลยว่าโคตรค้าง

zen zen กล่าวว่า...

มาอีกแล้วจะเพิ่มระดับพลังเนี้ยไอ่สาม

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ulomzx กล่าวว่า...

มีแนวทางที่จะบรรลุขั้นสูงอีกแล้ว

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

พี่เย่ว เอามาเลี้ยงเถอะ อย่าปล่อยให้ตายเลย

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น