ตอนที่ 962
อ่า..ข้าคือสุภาพบุรุษผู้มีเกียรติ
ประตูทางเดินมิติเปิดออก
และมองเห็นทางยาวดูแปลกประหลาด
จอมหักหลังที่ปลอมตัวเป็นหวีเฉามีสีหน้าไม่พอใจมองดูราชาชิงหลางและนักสู้ปราณฟ้า
นัยน์ตาของเขาดุร้าย ปากยื่น “พวกเจ้าทุกคนเข้ามาข้างในให้หมด เจ้าโง่นี่เกียจคร้าน
แต่จะฆ่าคนสักสองสามคนก็ยังง่ายอยู่ ถ้าพวกเจ้าไม่ขอจื่อฟงให้มอบสะเก็ดศิลาดวงดาว
ก็จะไม่มีใครออกไปจากที่นี่ได้!”
“ในทำนองเดียวกัน ถ้าราชาจื่อฟงยินดีมอบสะเก็ดศิลาดวงดาวให้เรา
พวกเจ้าไม่เพียงแต่สามารถจากไปได้เท่านั้น
แต่เราจะช่วยถอนคำสาปให้พวกเจ้า”
ซือเหรินที่เป็นจักรพรรดิฟู่โฉวตัวปลอมพยายามโน้มน้าว
ราชาชิงหลางและคนอื่นยังคงเงียบ
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาล้วนแล้วแต่ไร้เหตุผลทั้งนั้น
แต่พวกเขาจะทำอะไรได้เล่า? คำพูดของพวกเขาไร้สาระหรือ? คนพวกนี้สามารถกระตุ้นพวกนี้ให้ฉีกพวกเขาได้
โอกาสโชคดีแค่หนึ่งในพัน
ราชาชิงหลางและคนอื่นไม่ยินดีจะหันหน้าหนี
แต่หันไปมองเย่ว์หยางและพบว่าเย่ว์หยางไม่ใส่ใจและช่วยไม่ได้
เย่ว์หยางเดินนำกลุ่มต่อไป และมีซือเหรินเดินตามเข้ามาข้างใน
และเมื่อเดินลึกเข้าไปในทางเดินมิติ จอมหักหลังจับราชาจื่อฟงและหญิงงามจูกวงที่บาดเจ็บหนักเดินขึ้นหน้า
คนที่เดินปิดท้ายก็คือชายชราเครายาวที่แข็งแกร่งที่สุด...
ราชาสองหน้าอยู่ข้างนอกทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขายังคงยืนนิ่งกับที่
เหมือนกับว่ากำลังรออาคันตุกะ!
ทางเดินผ่านมิตินี้
เย่ว์หยางรู้สึกว่าแตกต่างไปจากสะพานมิติธรรมดา
อย่างไรก็ตาม
ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่ามีอะไรผิดปกติ
มีแต่เพียงความสงสัยอยู่ในใจ
หลังจากเดินเข้าไป
ข้างหน้าเป็นโลกที่มีพื้นที่เปิดโล่งเกินกว่าที่เย่ว์หยางคาดไว้
ที่นี่คือโลกศิลา ไม่มีท้องฟ้าและแผ่นดิน
มีแต่โดมโค้งสูงหลายกิโลเมตร นอกจากนี้ยังเป็นองค์ประกอบที่ทำจากหิน
หินที่นี่ไม่ใช่หินที่อยู่บนพื้นดินธรรมดา แต่เป็นหินที่มีพลังพิเศษ นี่คือหินพลังงานโปร่งใสมีรูปร่างต่างๆ บางที่ก็ก่อตัวในลักษณะทึบแสง
ของเหลวเหมือนน้ำทำให้เกิดหินงอกหินย้อยแปลกประหลาด บ้างก็เป็นรูปดอกไม้ต้นไม้ศิลา
เย่ว์หยางพบว่าพื้นที่ในโลกหินนี้ใหญ่โตกว้างขวางมาก
ใหญ่กว่าเมืองใหญ่ในหอทงเทียนเสียอีก
เขาหยิบหินที่อยู่ใต้เท้าขึ้นมาก้อนหนึ่ง
เขาพบว่าพลังงานภายในก้อนหินเต็มเปี่ยมเทียบได้กับอัญมณีคุณภาพสูง
แต่สำหรับที่นี่หินเหล่านี้ธรรมดามากเหมือนดวงดาวที่เต็มไปด้วยหินผลึก
ดอกไม้หินที่สว่างสดใสเหมือนกับดอกไม้ในโลกภายนอก ต้นไม้หินเป็นหินสีเขียวอ่อนภายนอก
รูปร่างคล้ายหินงอกแพรวพราว บางส่วนของต้นไม้เหล่านี้มองดูคล้ายดาบ บางส่วนคล้ายมีด บางส่วนคล้ายขวาน
บางส่วนคล้ายปืนผาหน้าไม้ ยังคงมีบางส่วนที่มองดูคล้ายสัตว์เล็กเช่นหนู
กระต่าย สุนัข เหมือนจนขนาดที่ว่าเข้าไปใกล้แล้วเกรงว่าพวกมันจะกระโดดออกมาจากพื้น
สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดก็คือน้ำที่นี่ก็ยังคงเป็นหิน
เป็นหินเหลว
เย่ว์หยางช้อนน้ำขึ้นมาจากลำห้วยและพบว่ามันมีน้ำหนักมาก หนักมากกว่าหินทั่วไป
แต่มันกลายเป็นของเหลวไหลวผ่านร่องมือหยดลงบนพื้น
นอกจากนี้ผลึกศิลาที่เต็มมือนั้นส่องประกายแวววาว
ต้องนับศิลาที่เป็นของเหลวนี้มีพลังงานที่สุด
พลังงานในน้ำศิลาที่นี่ยังห่างไกลอุทกแม่พระธรณีหมื่นปี อย่างไรก็ตามถ้ากระแสน้ำศิลาที่นี่รวมเข้าด้วยกันและทำการควบแน่น
เย่ว์หยางเชื่อว่าพลังงานที่ได้รับจะไม่ด้อยไปกว่าอุทกแม่พระธรณีหมื่นปีที่เย่ว์หยางได้รับ
ราชาชิงหลางเห็นเย่ว์หยางช้อนน้ำศิลาที่นี่ขึ้นมา
เขาถอนหายใจเล็กน้อย “น่าเสียดาย....”
ความหมายโดยนัยก็คือน่าเสียดายที่เขาไม่สามารถกลั่นพลังงานจากที่นี่ได้
เพราะทุกอย่างในโลกศิลานี้เป็นหินหมด น้ำที่นี่ก็ยังเป็นหินเหลว
ต่อให้มีพลังปราณฟ้าสูงสุดก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะดูดซับพลังงานโดยตรง
แน่นอนว่าไม่ว่านักสู้ปราณฟ้าคนไหนก็ได้แต่ทำตาปริบๆ มองดูพลังงานที่นี่
ไม่มีทางใช้ประโยชน์จากพลังงานนี้ได้
เว้นแต่ร่างกายมีคุณสมบัติธาตุดินอย่างสมบูรณ์
ก็จะไม่มีใครดูดซับพลังงานจากที่นี่ได้
เย่ว์หยางไม่พูดอะไร
เพลิงอมฤตของเขาจะกลั่นออกมาได้ไหม? นั่นเป็นเรื่องเล็ก
นอกจากนี้ยังมีภูตฟ้าปั่นป่วน
ร่างของนางเป็นธาตุบริสุทธิ์ที่ดูดซับพลังงานได้ซึ่งเป็นทักษะสำคัญของนาง ถ้านางอยู่ที่นี่
หากนางยังดูดกินพลังงานที่นี่ไม่เสร็จนางคงไม่ยอมจากไปแน่ และยังมีสาวน้อยตั๊กแตนมัจจุราชที่กำลังเติบโต
นางก็ต้องการดูดกินพลังงาน
แน่นอนว่าคนที่สามารถดูดกินพลังได้มากที่สุดไม่ใช่นางทั้งสองนี้
แต่เป็นอาหมันผู้มีหัวใจธรณีสาร
อาหมันต้องมาสู้ที่นี่
นางจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่คงกระพันไร้เทียมทาน!
เย่ว์หยางรู้สึกว่าเขาต้องนำอาหมันมาที่นี่เมื่อนางว่าง
เพื่อช่วยให้นางมีพลังเพิ่มทะยานอีกครั้ง
นางจะได้รับการกระตุ้นพลังจากพลังงานของโลกนี้
“ไม่ต้องมองเลย,
ที่นี่ไม่มีอะไรเป็นของสวะอย่างเจ้า
พลังงานของโลกศิลาเป็นพลังกฎสวรรค์
เป็นพื้นที่ซึ่งมีพลังกฎสวรรค์ควบคุมอย่างเข้มงวด อย่าว่าแต่ดูดซับพลังงานเลย
แค่หินสักก้อนพวกเจ้าก็ไม่มีทางเอาไปได้” จอมหักหลังยืนอยู่บนศิลาพลังงานสูงมือหิ้วราชาจื่อฟงข้างหนึ่ง
และอีกข้างหนึ่งหิ้วหญิงงามจูกวงแค่นเสียงใส่ราชาชิงหลาง
“.......”
ตอนนี้ราชาชิงหลางเข้าใจแล้วทำไมซือเหริน จอมโฉด โนม เจ้าอ้วน
คนเครายาวและคนอื่นๆ ถึงไม่สนใจผลึกพลังงานที่นี่
เพราะมีกฎสวรรค์ควบคุมอย่างเข้มงวด
ขบวนของจอมหักหลังยังคงเดินลึกเข้าไปข้างหน้า
คาดว่าพวกเขาเดินลึกเข้าไปในป่าหินถึงสิบกิโลเมตร
เย่ว์หยางพบว่าพวกเขามาหยุดอยู่ในใจกลางป่าหินพอดี
ในใจกลางพื้นที่เกือบทั้งหมดมีผนังหินใสเหมือนแก้วผลึกโปร่งแสงเก็บกักพลังงานไม่มีที่สิ้นสุดและเปล่งรัศมีนวลตาออกมาตลอดเวลา บนผนังหิน มีอักขระรูนโบราณที่ลึกลับมาก
แม้แต่ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในอักขระรูนอย่างเย่ว์หยางก็ยังดูออกได้ยากมาก รอบๆ
อักขระรูนโบราณ มีจุดต่างๆ อยู่สิบสองตำแหน่ง แปดตำแหน่งวางไว้ศิลาไว้แล้ว
ยังคงว่างอีกสี่ตำแหน่ง
เย่ว์หยางเข้าใจได้คร่าวๆ
ทันทีว่าสิ่งที่เรียกว่าสะเก็ดศิลาดวงดาวก็คือหินผลึกพลังงานเพื่อเปิดใช้งานในมิติที่ลึกยิ่งกว่า
“ราชาจื่อฟง
ถ้าเจ้าฉลาดก็เอาสะเก็ดศิลาดวงดาวออกมาเดี๋ยวนี้
รับรองได้ว่าข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าตาย”
ราชาจื่อฟงถูกโยนลงที่หน้าพื้นที่ศิลาดวงดาว
“ข้าไม่มีสะเก็ดศิลาดวงดาวจริงๆ...” ราชาจื่อฟงฝืนยิ้ม
“ไม่เป็นไร, แดนดาวศิลายังสามารถเปิดได้
ตราบเท่าที่ใช้เลือดนักสู้มาบูชายัญ ฆ่าสตรีที่รักของเจ้าเป็นคนแรกก่อน
ดูว่าเผื่อเจ้าจะคิดอะไรออก
ถ้าเจ้าคิดว่าข้าใจดีมีความเป็นมิตรแล้วจะเกิดความเห็นอกเห็นใจสงสารเจ้า เจ้าคิดผิดเสียแล้ว เพื่อให้ได้ร่างเทพหรือคัมภีร์เทพในตำนาน
อย่าว่าแต่สวะคนนอกอย่างเจ้าเลย
ต่อให้เป็นพ่อข้า ลูกข้า ข้าก็ฆ่าได้โดยไม่ลังเล!” มือของจอมหักหลังคว้าอยู่ที่คอของจูกวงเหมือนกับคีมเหล็กที่หนีบคอไก่ที่อาจหักได้ทุกเมื่อ
“ฝ่าบาทช่วยข้าด้วย!”
หญิงงามจูกวงแตกตื่นหวาดกลัวจริงๆ ช่วงเวลานี้เป็นวิกฤติสำคัญที่สุด
เห็นได้ชัดว่าถ้าไม่ได้สะเก็ดศิลาดวงจริงๆ นางคงตายแน่ๆ
“นางผู้เป็นที่รักของข้า! อย่ากลัว
ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าเดียวดายในเส้นทางปรภพ” ราชาจื่อฟงเงื้อมือเตรียมฆ่าตัวตาย
อีกด้านหนึ่งเย่ว์หยางผู้ไร้น้ำใจ
เขารู้สึกว่าไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องรู้สึกรู้สาอะไรกับความเป็นความตายกับฉากภาพชีวิตข้างหน้านี้
ฉากภาพข้างหน้านี้อาจซาบซึ้งตรึงใจ
แต่เขามีความรู้สึกว่าดูแล้วเลี่ยน
ก่อนที่เขาจะเข้ามายังโลกนี้
เขาเคยอ่านนิยายของป้าฉงเหยา (นักประพันธ์นิยายดรามาจีน)มามากและรู้สึกหงุดหงิดรำคาญกับฉากภาพนี้ทั้งหมด
ไม่ทราบว่าเขาวิ่งไปที่หินหยกศิลาแดนดาวตั้งแต่เมื่อไหร่
เขาทาบหน้ามองผ่านผนังหินหยกใสและอุทานด้วยความตื่นเต้น “โอว..มีร่างเทพอยู่ข้างในจริงๆ ด้วย แต่น่าเสียดายมีอยู่เพียงครึ่งเดียวศีรษะและร่างบางส่วนหายไป เฮ้..ดูเหมือนจะเป็นเทพธิดา โอว..มีเสื้อผ้าปกปิดส่วนสำคัญของร่างกาย
บัดซบเอ๊ย ข้ามองเห็นไม่ชัดเลย!”
ราชาชิงหลางคิด
คุณชายผู้นี้ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยแม้แต่น้อยหรือ?
ตอนนี้เป็นเวลาเข่นฆ่าสังหาร
นี่เขายังมีเวลาไปมองหาส่วนสำคัญของสตรีอีกหรือนี่?
เทวีเสรีภาพและได้ยินแล้วนางมีสีหน้าอับอาย นางอดตำหนิเย่ว์หยางไม่ได้ “จะพูดจาถึงเทพธิดา
ต้องมีความคิดที่ให้เกียรติกันด้วย”
เย่ว์หยางหัวเราะอย่างโง่งม “มีเทพธิดาอยู่ข้างในจริงๆ หรือ? ข้าไม่เห็นจะมีเลย! อา...
ข้าเคารพให้เกียรติเทพธิดาอยู่แล้ว
ข้าไม่เคยมีความคิดที่เลวร้ายอะไร
ความจริงข้าเป็นสุภาพบุรุษ!”
คำพูดของเขาแทบทำให้จอมหักหลังกับพวกอยากทรุดลงกับพื้น
เด็กน้อยเจ้ายังปฏิเสธอย่างดื้อด้านอีกหรือ?
ถ้าบอกว่าเจ้าเป็นสุภาพบุรุษ โลกนี้ยังจะมีผู้ร้ายอยู่อีกหรือ?
“ก็อย่างที่เจ้าเห็น
นี่คือศิลาแดนดาวซึ่งนำเข้าไปสู่พื้นที่มิติดวงดาว
และตอนนี้เรารวบรวมสะเก็ดศิลาดวงดาวได้เพิ่มอีกสามชิ้น
ยังขาดสะเก็ดศิลาดวงดาวชิ้นสุดท้ายซึ่งอยู่ในมือของราชาจื่อฟง ถ้าพวกเจ้าโน้มน้าวให้เขายอมสละสะเก็ดศิลาดวงดาวออกมาได้
ก็สามารถเปิดประตูดวงดาวได้ และร่างเทพที่อยู่ภายใน เราคิดว่าต้องการเลือดเทพสักเล็กน้อย
ถ้าไม่อย่างนั้นเจ้าก็ต้องสละเลือดเพื่อเป็นพลังงาน...
ตอนนี้ข้าจะให้เวลาคิดหนึ่งนาที
และจะนับถอยหลังเดี๋ยวนี้.. เจ้าทำหน้าแบบนั้นทำไม? ต้องการจะขัดขวางความต้องการของข้าหรือ?” จอมหักหลังพูดอย่างสบายใจ แต่ไม่มีใครฟังเขาเลย ทำให้เขาอดโมโหไม่ได้
“หยุดพล่ามได้แล้ว ดูนั่น”
ซือเหรินหยุดดื่มอย่างใจเย็น
จอมหักหลังหันหน้ากลับไปมอง
เขาแทบจะปล่อยจูกวงหลุดมือ
ภายใต้สายตาจับจ้องของทุกคน
มิทราบว่าเย่ว์หยางเข้าไปอยู่ในพื้นที่ศิลาแดนดาวตั้งแต่เมื่อไหร่
มองเห็นเจ้าเด็กนี่ยืนอยู่ใกล้ร่างเทพยืนมองดูเหมือนกำลังจะแกะกระโปรงเทพธิดา...
นี่เกิดอะไรขึ้น?
คุณชายไตตันเข้าไปในพื้นที่มิติศิลาแดนดาวได้โดยที่ไม่เปิดได้ยังไง?
เขาใช้ของวิเศษหรือทักษะแฝงเร้นแบบไหนถึงผ่านเข้าไปในพื้นที่ศิลาแดนดาวได้อย่างไร
ทั้งที่นักสู้ผู้แข็งแกร่งจากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ยังต้องขมวดคิ้ว?
จอมหักหลังอยากจะทุบเจ้าเด็กนั่นและฆ่าตัวตายนัก แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางทำอะไรได้ คุณชายไตตันเข้าไปข้างในแล้ว
แต่กลุ่มคนข้างนอกได้แต่มองดูเขา...
โชคดีที่เจ้าเด็กนี่ดูเหมือนจะให้ความสนใจกระโปรงเทพธิดามากกว่าที่จะเก็บร่างเทพ
จะทำยังไงดี?
จอมหักหลังมองดูซือเหรินผู้สงบเย็นที่สุด
เขาต้องหาหนทาง
แต่ซือเหรินก็ยังมีอาการปวดหัว
คุณชายไตตันมีแผนการที่หยั่งคาดไม่ถึงจริงๆ ทุกคนพากันเข้ามาได้ และมีประตูกั้นพื้นที่มิติแดนดาว
แต่ไม่อาจแข็งขืนเข้าไปได้
เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี!
12 ความคิดเห็น:
เร็วๆๆๆแกะกระโปรงเทพธิดาเร็ว...ข้าอยากรู้ว่ามีสภาพอยา่งไร
เทพธิดามีดุน เปล่า 555+
ไอ้หยางแกะกระโปรง😂😂
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
เทพธิดา กับเทพี คนเดียวกันรึเปล่าหนอ
555+
ปกติผู้เขียนจะลงประมาณกี่โมงครับ
ปล.ขอบคุณที่แปลให้อ่านอย่างต่อเนื่อง
พี่เย่วโคตรแมนเลย 555
ขอบคุณครับ
ใจจ้า
ขอบคุณมากครับ
เข้...พี่หยางตู
แสดงความคิดเห็น