วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 962 อ่า..ข้าคือสุภาพบุรุษผู้มีเกียรติ


ตอนที่  962  อ่า..ข้าคือสุภาพบุรุษผู้มีเกียรติ
ประตูทางเดินมิติเปิดออก และมองเห็นทางยาวดูแปลกประหลาด
 
จอมหักหลังที่ปลอมตัวเป็นหวีเฉามีสีหน้าไม่พอใจมองดูราชาชิงหลางและนักสู้ปราณฟ้า นัยน์ตาของเขาดุร้าย ปากยื่น “พวกเจ้าทุกคนเข้ามาข้างในให้หมด  เจ้าโง่นี่เกียจคร้าน แต่จะฆ่าคนสักสองสามคนก็ยังง่ายอยู่  ถ้าพวกเจ้าไม่ขอจื่อฟงให้มอบสะเก็ดศิลาดวงดาว ก็จะไม่มีใครออกไปจากที่นี่ได้!
 “ในทำนองเดียวกัน ถ้าราชาจื่อฟงยินดีมอบสะเก็ดศิลาดวงดาวให้เรา พวกเจ้าไม่เพียงแต่สามารถจากไปได้เท่านั้น  แต่เราจะช่วยถอนคำสาปให้พวกเจ้า”  ซือเหรินที่เป็นจักรพรรดิฟู่โฉวตัวปลอมพยายามโน้มน้าว
ราชาชิงหลางและคนอื่นยังคงเงียบ
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาล้วนแล้วแต่ไร้เหตุผลทั้งนั้น
แต่พวกเขาจะทำอะไรได้เล่า?  คำพูดของพวกเขาไร้สาระหรือ?  คนพวกนี้สามารถกระตุ้นพวกนี้ให้ฉีกพวกเขาได้
โอกาสโชคดีแค่หนึ่งในพัน ราชาชิงหลางและคนอื่นไม่ยินดีจะหันหน้าหนี  แต่หันไปมองเย่ว์หยางและพบว่าเย่ว์หยางไม่ใส่ใจและช่วยไม่ได้ เย่ว์หยางเดินนำกลุ่มต่อไป และมีซือเหรินเดินตามเข้ามาข้างใน และเมื่อเดินลึกเข้าไปในทางเดินมิติ  จอมหักหลังจับราชาจื่อฟงและหญิงงามจูกวงที่บาดเจ็บหนักเดินขึ้นหน้า คนที่เดินปิดท้ายก็คือชายชราเครายาวที่แข็งแกร่งที่สุด... ราชาสองหน้าอยู่ข้างนอกทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น   เขายังคงยืนนิ่งกับที่ เหมือนกับว่ากำลังรออาคันตุกะ!
ทางเดินผ่านมิตินี้ เย่ว์หยางรู้สึกว่าแตกต่างไปจากสะพานมิติธรรมดา
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่ามีอะไรผิดปกติ
มีแต่เพียงความสงสัยอยู่ในใจ
หลังจากเดินเข้าไป ข้างหน้าเป็นโลกที่มีพื้นที่เปิดโล่งเกินกว่าที่เย่ว์หยางคาดไว้
ที่นี่คือโลกศิลา  ไม่มีท้องฟ้าและแผ่นดิน มีแต่โดมโค้งสูงหลายกิโลเมตร นอกจากนี้ยังเป็นองค์ประกอบที่ทำจากหิน
หินที่นี่ไม่ใช่หินที่อยู่บนพื้นดินธรรมดา  แต่เป็นหินที่มีพลังพิเศษ  นี่คือหินพลังงานโปร่งใสมีรูปร่างต่างๆ  บางที่ก็ก่อตัวในลักษณะทึบแสง ของเหลวเหมือนน้ำทำให้เกิดหินงอกหินย้อยแปลกประหลาด บ้างก็เป็นรูปดอกไม้ต้นไม้ศิลา
เย่ว์หยางพบว่าพื้นที่ในโลกหินนี้ใหญ่โตกว้างขวางมาก ใหญ่กว่าเมืองใหญ่ในหอทงเทียนเสียอีก
เขาหยิบหินที่อยู่ใต้เท้าขึ้นมาก้อนหนึ่ง
เขาพบว่าพลังงานภายในก้อนหินเต็มเปี่ยมเทียบได้กับอัญมณีคุณภาพสูง
แต่สำหรับที่นี่หินเหล่านี้ธรรมดามากเหมือนดวงดาวที่เต็มไปด้วยหินผลึก
ดอกไม้หินที่สว่างสดใสเหมือนกับดอกไม้ในโลกภายนอก  ต้นไม้หินเป็นหินสีเขียวอ่อนภายนอก รูปร่างคล้ายหินงอกแพรวพราว บางส่วนของต้นไม้เหล่านี้มองดูคล้ายดาบ  บางส่วนคล้ายมีด บางส่วนคล้ายขวาน บางส่วนคล้ายปืนผาหน้าไม้ ยังคงมีบางส่วนที่มองดูคล้ายสัตว์เล็กเช่นหนู กระต่าย สุนัข เหมือนจนขนาดที่ว่าเข้าไปใกล้แล้วเกรงว่าพวกมันจะกระโดดออกมาจากพื้น
สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดก็คือน้ำที่นี่ก็ยังคงเป็นหิน
เป็นหินเหลว
เย่ว์หยางช้อนน้ำขึ้นมาจากลำห้วยและพบว่ามันมีน้ำหนักมาก  หนักมากกว่าหินทั่วไป แต่มันกลายเป็นของเหลวไหลวผ่านร่องมือหยดลงบนพื้น
นอกจากนี้ผลึกศิลาที่เต็มมือนั้นส่องประกายแวววาว ต้องนับศิลาที่เป็นของเหลวนี้มีพลังงานที่สุด
พลังงานในน้ำศิลาที่นี่ยังห่างไกลอุทกแม่พระธรณีหมื่นปี  อย่างไรก็ตามถ้ากระแสน้ำศิลาที่นี่รวมเข้าด้วยกันและทำการควบแน่น เย่ว์หยางเชื่อว่าพลังงานที่ได้รับจะไม่ด้อยไปกว่าอุทกแม่พระธรณีหมื่นปีที่เย่ว์หยางได้รับ
ราชาชิงหลางเห็นเย่ว์หยางช้อนน้ำศิลาที่นี่ขึ้นมา เขาถอนหายใจเล็กน้อย  “น่าเสียดาย....”
ความหมายโดยนัยก็คือน่าเสียดายที่เขาไม่สามารถกลั่นพลังงานจากที่นี่ได้
เพราะทุกอย่างในโลกศิลานี้เป็นหินหมด  น้ำที่นี่ก็ยังเป็นหินเหลว ต่อให้มีพลังปราณฟ้าสูงสุดก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะดูดซับพลังงานโดยตรง  แน่นอนว่าไม่ว่านักสู้ปราณฟ้าคนไหนก็ได้แต่ทำตาปริบๆ มองดูพลังงานที่นี่ ไม่มีทางใช้ประโยชน์จากพลังงานนี้ได้  เว้นแต่ร่างกายมีคุณสมบัติธาตุดินอย่างสมบูรณ์ ก็จะไม่มีใครดูดซับพลังงานจากที่นี่ได้
เย่ว์หยางไม่พูดอะไร
เพลิงอมฤตของเขาจะกลั่นออกมาได้ไหม?  นั่นเป็นเรื่องเล็ก
นอกจากนี้ยังมีภูตฟ้าปั่นป่วน ร่างของนางเป็นธาตุบริสุทธิ์ที่ดูดซับพลังงานได้ซึ่งเป็นทักษะสำคัญของนาง  ถ้านางอยู่ที่นี่ หากนางยังดูดกินพลังงานที่นี่ไม่เสร็จนางคงไม่ยอมจากไปแน่  และยังมีสาวน้อยตั๊กแตนมัจจุราชที่กำลังเติบโต นางก็ต้องการดูดกินพลังงาน
แน่นอนว่าคนที่สามารถดูดกินพลังได้มากที่สุดไม่ใช่นางทั้งสองนี้ แต่เป็นอาหมันผู้มีหัวใจธรณีสาร
อาหมันต้องมาสู้ที่นี่
นางจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่คงกระพันไร้เทียมทาน!
เย่ว์หยางรู้สึกว่าเขาต้องนำอาหมันมาที่นี่เมื่อนางว่าง เพื่อช่วยให้นางมีพลังเพิ่มทะยานอีกครั้ง นางจะได้รับการกระตุ้นพลังจากพลังงานของโลกนี้
 “ไม่ต้องมองเลย, ที่นี่ไม่มีอะไรเป็นของสวะอย่างเจ้า  พลังงานของโลกศิลาเป็นพลังกฎสวรรค์ เป็นพื้นที่ซึ่งมีพลังกฎสวรรค์ควบคุมอย่างเข้มงวด อย่าว่าแต่ดูดซับพลังงานเลย แค่หินสักก้อนพวกเจ้าก็ไม่มีทางเอาไปได้” จอมหักหลังยืนอยู่บนศิลาพลังงานสูงมือหิ้วราชาจื่อฟงข้างหนึ่ง และอีกข้างหนึ่งหิ้วหญิงงามจูกวงแค่นเสียงใส่ราชาชิงหลาง
 “.......”  ตอนนี้ราชาชิงหลางเข้าใจแล้วทำไมซือเหริน จอมโฉด โนม เจ้าอ้วน คนเครายาวและคนอื่นๆ ถึงไม่สนใจผลึกพลังงานที่นี่  เพราะมีกฎสวรรค์ควบคุมอย่างเข้มงวด
ขบวนของจอมหักหลังยังคงเดินลึกเข้าไปข้างหน้า
คาดว่าพวกเขาเดินลึกเข้าไปในป่าหินถึงสิบกิโลเมตร เย่ว์หยางพบว่าพวกเขามาหยุดอยู่ในใจกลางป่าหินพอดี
ในใจกลางพื้นที่เกือบทั้งหมดมีผนังหินใสเหมือนแก้วผลึกโปร่งแสงเก็บกักพลังงานไม่มีที่สิ้นสุดและเปล่งรัศมีนวลตาออกมาตลอดเวลา  บนผนังหิน มีอักขระรูนโบราณที่ลึกลับมาก แม้แต่ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในอักขระรูนอย่างเย่ว์หยางก็ยังดูออกได้ยากมาก รอบๆ อักขระรูนโบราณ มีจุดต่างๆ อยู่สิบสองตำแหน่ง แปดตำแหน่งวางไว้ศิลาไว้แล้ว ยังคงว่างอีกสี่ตำแหน่ง  เย่ว์หยางเข้าใจได้คร่าวๆ ทันทีว่าสิ่งที่เรียกว่าสะเก็ดศิลาดวงดาวก็คือหินผลึกพลังงานเพื่อเปิดใช้งานในมิติที่ลึกยิ่งกว่า
 “ราชาจื่อฟง ถ้าเจ้าฉลาดก็เอาสะเก็ดศิลาดวงดาวออกมาเดี๋ยวนี้  รับรองได้ว่าข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าตาย” ราชาจื่อฟงถูกโยนลงที่หน้าพื้นที่ศิลาดวงดาว
 “ข้าไม่มีสะเก็ดศิลาดวงดาวจริงๆ...”  ราชาจื่อฟงฝืนยิ้ม
 “ไม่เป็นไร, แดนดาวศิลายังสามารถเปิดได้ ตราบเท่าที่ใช้เลือดนักสู้มาบูชายัญ ฆ่าสตรีที่รักของเจ้าเป็นคนแรกก่อน ดูว่าเผื่อเจ้าจะคิดอะไรออก  ถ้าเจ้าคิดว่าข้าใจดีมีความเป็นมิตรแล้วจะเกิดความเห็นอกเห็นใจสงสารเจ้า  เจ้าคิดผิดเสียแล้ว  เพื่อให้ได้ร่างเทพหรือคัมภีร์เทพในตำนาน อย่าว่าแต่สวะคนนอกอย่างเจ้าเลย  ต่อให้เป็นพ่อข้า ลูกข้า ข้าก็ฆ่าได้โดยไม่ลังเล!  มือของจอมหักหลังคว้าอยู่ที่คอของจูกวงเหมือนกับคีมเหล็กที่หนีบคอไก่ที่อาจหักได้ทุกเมื่อ
 “ฝ่าบาทช่วยข้าด้วย!  หญิงงามจูกวงแตกตื่นหวาดกลัวจริงๆ ช่วงเวลานี้เป็นวิกฤติสำคัญที่สุด เห็นได้ชัดว่าถ้าไม่ได้สะเก็ดศิลาดวงจริงๆ นางคงตายแน่ๆ
 “นางผู้เป็นที่รักของข้า!  อย่ากลัว ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าเดียวดายในเส้นทางปรภพ” ราชาจื่อฟงเงื้อมือเตรียมฆ่าตัวตาย
อีกด้านหนึ่งเย่ว์หยางผู้ไร้น้ำใจ เขารู้สึกว่าไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องรู้สึกรู้สาอะไรกับความเป็นความตายกับฉากภาพชีวิตข้างหน้านี้
ฉากภาพข้างหน้านี้อาจซาบซึ้งตรึงใจ แต่เขามีความรู้สึกว่าดูแล้วเลี่ยน
ก่อนที่เขาจะเข้ามายังโลกนี้ เขาเคยอ่านนิยายของป้าฉงเหยา (นักประพันธ์นิยายดรามาจีน)มามากและรู้สึกหงุดหงิดรำคาญกับฉากภาพนี้ทั้งหมด
ไม่ทราบว่าเขาวิ่งไปที่หินหยกศิลาแดนดาวตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาทาบหน้ามองผ่านผนังหินหยกใสและอุทานด้วยความตื่นเต้น  “โอว..มีร่างเทพอยู่ข้างในจริงๆ ด้วย  แต่น่าเสียดายมีอยู่เพียงครึ่งเดียวศีรษะและร่างบางส่วนหายไป  เฮ้..ดูเหมือนจะเป็นเทพธิดา โอว..มีเสื้อผ้าปกปิดส่วนสำคัญของร่างกาย บัดซบเอ๊ย ข้ามองเห็นไม่ชัดเลย!
ราชาชิงหลางคิด คุณชายผู้นี้ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยแม้แต่น้อยหรือ?
ตอนนี้เป็นเวลาเข่นฆ่าสังหาร นี่เขายังมีเวลาไปมองหาส่วนสำคัญของสตรีอีกหรือนี่?
เทวีเสรีภาพและได้ยินแล้วนางมีสีหน้าอับอาย  นางอดตำหนิเย่ว์หยางไม่ได้ “จะพูดจาถึงเทพธิดา ต้องมีความคิดที่ให้เกียรติกันด้วย”
เย่ว์หยางหัวเราะอย่างโง่งม  “มีเทพธิดาอยู่ข้างในจริงๆ หรือ?  ข้าไม่เห็นจะมีเลย!  อา... ข้าเคารพให้เกียรติเทพธิดาอยู่แล้ว  ข้าไม่เคยมีความคิดที่เลวร้ายอะไร  ความจริงข้าเป็นสุภาพบุรุษ!
คำพูดของเขาแทบทำให้จอมหักหลังกับพวกอยากทรุดลงกับพื้น
เด็กน้อยเจ้ายังปฏิเสธอย่างดื้อด้านอีกหรือ?
ถ้าบอกว่าเจ้าเป็นสุภาพบุรุษ  โลกนี้ยังจะมีผู้ร้ายอยู่อีกหรือ?
 “ก็อย่างที่เจ้าเห็น นี่คือศิลาแดนดาวซึ่งนำเข้าไปสู่พื้นที่มิติดวงดาว  และตอนนี้เรารวบรวมสะเก็ดศิลาดวงดาวได้เพิ่มอีกสามชิ้น ยังขาดสะเก็ดศิลาดวงดาวชิ้นสุดท้ายซึ่งอยู่ในมือของราชาจื่อฟง  ถ้าพวกเจ้าโน้มน้าวให้เขายอมสละสะเก็ดศิลาดวงดาวออกมาได้ ก็สามารถเปิดประตูดวงดาวได้ และร่างเทพที่อยู่ภายใน เราคิดว่าต้องการเลือดเทพสักเล็กน้อย ถ้าไม่อย่างนั้นเจ้าก็ต้องสละเลือดเพื่อเป็นพลังงาน... ตอนนี้ข้าจะให้เวลาคิดหนึ่งนาที  และจะนับถอยหลังเดี๋ยวนี้.. เจ้าทำหน้าแบบนั้นทำไม?  ต้องการจะขัดขวางความต้องการของข้าหรือ?”  จอมหักหลังพูดอย่างสบายใจ  แต่ไม่มีใครฟังเขาเลย  ทำให้เขาอดโมโหไม่ได้
 “หยุดพล่ามได้แล้ว ดูนั่น” ซือเหรินหยุดดื่มอย่างใจเย็น
จอมหักหลังหันหน้ากลับไปมอง เขาแทบจะปล่อยจูกวงหลุดมือ
ภายใต้สายตาจับจ้องของทุกคน มิทราบว่าเย่ว์หยางเข้าไปอยู่ในพื้นที่ศิลาแดนดาวตั้งแต่เมื่อไหร่ มองเห็นเจ้าเด็กนี่ยืนอยู่ใกล้ร่างเทพยืนมองดูเหมือนกำลังจะแกะกระโปรงเทพธิดา... นี่เกิดอะไรขึ้น?
คุณชายไตตันเข้าไปในพื้นที่มิติศิลาแดนดาวได้โดยที่ไม่เปิดได้ยังไง?
เขาใช้ของวิเศษหรือทักษะแฝงเร้นแบบไหนถึงผ่านเข้าไปในพื้นที่ศิลาแดนดาวได้อย่างไร ทั้งที่นักสู้ผู้แข็งแกร่งจากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ยังต้องขมวดคิ้ว?
จอมหักหลังอยากจะทุบเจ้าเด็กนั่นและฆ่าตัวตายนัก  แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางทำอะไรได้  คุณชายไตตันเข้าไปข้างในแล้ว แต่กลุ่มคนข้างนอกได้แต่มองดูเขา... โชคดีที่เจ้าเด็กนี่ดูเหมือนจะให้ความสนใจกระโปรงเทพธิดามากกว่าที่จะเก็บร่างเทพ
จะทำยังไงดี?
จอมหักหลังมองดูซือเหรินผู้สงบเย็นที่สุด เขาต้องหาหนทาง  แต่ซือเหรินก็ยังมีอาการปวดหัว  คุณชายไตตันมีแผนการที่หยั่งคาดไม่ถึงจริงๆ  ทุกคนพากันเข้ามาได้ และมีประตูกั้นพื้นที่มิติแดนดาว แต่ไม่อาจแข็งขืนเข้าไปได้  เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี!

12 ความคิดเห็น:

ulomzx กล่าวว่า...

เร็วๆๆๆแกะกระโปรงเทพธิดาเร็ว...ข้าอยากรู้ว่ามีสภาพอยา่งไร

SatunG_NonG กล่าวว่า...

เทพธิดามีดุน เปล่า 555+

zen zen กล่าวว่า...

ไอ้หยางแกะกระโปรง😂😂

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

WingF กล่าวว่า...

เทพธิดา กับเทพี คนเดียวกันรึเปล่าหนอ

themeaw กล่าวว่า...

555+

Kingtest5 กล่าวว่า...

ปกติผู้เขียนจะลงประมาณกี่โมงครับ

ปล.ขอบคุณที่แปลให้อ่านอย่างต่อเนื่อง

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

พี่เย่วโคตรแมนเลย 555

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

เข้...พี่หยางตู

แสดงความคิดเห็น